สัตยาบัน คือ

ข้ามภพมาเป็นภรรยาอัปลักษณ์แสนร้ายกาจ
ข้ามภพมาเป็นภรรยาอัปลักษณ์แสนร้ายกาจ
เมื่อรวมรวมทุกอย่างเรียบร้อยก็ถึงเวลาสำรวจตัวเอง เธอตื่นขึ้นมาในร่างที่แตกต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง ร่างกายอ้วนฉุ ผิวพรรณหยาบกร้าน และใบหน้าที่เต็มไปด้วยจุดด่างดำ นี่คือร่างของ ซูหว่านหว่าน สตรีอัปลักษณ์และร้ายกาจแห่งหมู่บ้านชาวประมงในยุคจีนโบราณ! "นี่ไอ้คนแซ่หลี่ ข้าอยากตกลงกับเจ้าหน่อย บ้านเจ้ามีผู้ใหญ่มากมายแต่กลับให้ลูกข้าอายุแค่สีขวบไปรับจ้างหาเลี้ยง ข้าว่าเราหย่ากันเถอะ ลูกข้าจะเอาไปด้วย" "เจ้าไม่มีญาติที่ไหน เอาลุกไปลำบากกับเจ้าหรือ" "ถ้ามีญาติประสาแดกและเห็นแก่ตัวแบบบ้านหลี่เจ้า ข้ายอมโดดเดี่ยวดีกว่า" ซูหว่านหว่านเดินลงเขาไม่สนใจเขาอีก หลี่จื่อหานยืนงง เป็นนางที่วางยาเขาเพื่อได้แต่งงาน อยู่ๆบอกจะหย่าก็หย่าและยังจะเอาลูกไปเลี้ยงเอง นี่ท่านย่าทุบนางจนสติผิดเพี้ยนไปแล้วหรือ
10
95 Bab
ชายาอัปลักษณ์ของท่านอ๋องรูปงาม
ชายาอัปลักษณ์ของท่านอ๋องรูปงาม
นางถือกำเนิดมาพร้อมกับโชคร้ายมารดาตาย ตั้งแต่นางลืมตาดูโลก ใครก็ช่างที่เห็นใบหน้างดงามของนางจะต้องมีอันเป็นไป
10
131 Bab
คลั่งรักคุณหมอมาเฟีย
คลั่งรักคุณหมอมาเฟีย
เมื่อเธอดันเผลอไปมีเซ็กซ์กับคุณหมอหนุ่มหน้าตาหล่อเหลาโดยหารู้ไม่ว่า…นั่นน่ะ คือ หมอประจำตระกูลของครอบครัว “ทำไมไม่เก่งเหมือนคืนนั้นที่ขย่มฉันหน่อยล่ะ” “คะ…คืนนั้นฉันไม่ได้ตั้งใจ” “แต่คืนนี้…ฉันตั้งใจ”
10
111 Bab
หวนคืนอีกครา ไม่ขอเป็นพระชายาที่โง่เขลา Ver.02
หวนคืนอีกครา ไม่ขอเป็นพระชายาที่โง่เขลา Ver.02
หนึ่งชีวิต หนึ่งหัวใจที่สูญเสียไปให้กับคนที่ไร้หัวใจ ชาตินี้ข้าไม่ขอร่วมทางเดินกับเขาอีก... แต่ทำไมมันไม่ง่ายเช่นนั้น เหตุใดเรื่องราวจึงได้แตกต่างไปจากเดิมเช่นนี้ แล้วข้าจะหนีหัวใจตัวเองพ้นได้เช่นไร
10
62 Bab
ทาสสาวพราวพิลาส
ทาสสาวพราวพิลาส
“มานี่สิ มาให้ข้ากอดเจ้าหน่อย” เมื่อเห็นหลินซวงเอ๋อร์ตัวสั่นเทาอยู่ตรงหน้า เยี่ยเป่ยเฉิงก็ระงับความบ้าคลั่งในนัยน์ตาเอาไว้ เป็นที่รู้กันโดยทั่วไปว่า ท่านอ๋องเทพแห่งสงครามของต้าซ่งนั้นรักสันโดษ ไม่ฝักใฝ่อิสตรี แต่โปรดปรานหญิงรับใช้คนหนึ่ง ทะนุถนอมราวกับว่าเป็นสมบัติล้ำค่า หลินซวงเอ๋อร์เกิดมาในตระกูลที่ยากจน พอเกิดมาก็มีชีวิตที่ต่ำต้อย นางรู้ว่าตนไม่ควรหลงระเริงในความรักที่นายท่านมีให้ แต่นายท่านผู้นี้ สนับสนุนนาง ยอมลดเกียรติศักดิ์ศรีเมื่ออยู่ต่อหน้านาง อีกทั้งยังรักใคร่นางแต่เพียงผู้เดียว หลินซวงเอ๋อร์ตกตกที่นั่งลำบาก เพราะทั้งหัวใจนัยน์ตามีเพียงแต่เขาเท่านั้น แต่ต่อมา นายท่านได้พาสตรีผู้หนึ่งกลับมา สตรีผู้นั้นผิวงามสะอาด แถมยังมีศาสตร์ทางการแพทย์ที่เป็นเลิศ ชายที่นางรักสุดหัวใจกลับดุด่านาง ลงโทษนางเพราะสตรีผู้นั้น แถมยังต้องการจะส่งนางกลับบ้านเกิดเมืองนอนเพราะสตรีผู้นั้นอีกด้วย... หลังจากที่มีอุบัติเหตุเกิดขึ้น นางได้หายสาบสูญไป ทำให้นายท่านที่เดิมทีจะสมรสใหม่กลับคลุ้มคลั่งจนควบคุมตนเองไม่ได้ เมื่อพานพบกันอีกครา นางยืนอยู่บนแท่นสูง มีสถานะที่สูงศักดิ์ มองเขาด้วยสายตาที่เย็นชา ในนัยน์ตาไม่มีความรักอีกต่อไป อตีตนายท่านผู้สูงศักดิ์เย็นชาผลักนางเข้ากับกำแพง ถามนางด้วยนัยน์ตาแดงก่ำ: "หลินซวงเอ๋อร์! เหตุใดเจ้าต้องทิ้งข้าด้วย? เหตุใดเจ้าถึงไม่รักข้าแล้ว?" หญิงรับใช้กระต่ายขาวน้อยผู้อ่อนโยนน่ารัก VS ท่านอ๋องหมาป่าดำจอมเผด็จการ~ 1V1รักแรกทั้งคู่
9
655 Bab
กรงขังรักคุณหมอ Hot Nerd
กรงขังรักคุณหมอ Hot Nerd
เขาตั้งใจกักขังเธอเอาไว้.. ด้วยคำว่าบุญคุณ ที่ตอบแทนทั้งชีวิต.. ก็ไม่มีวันหมด "น่านฟ้า" หรือ "หมอน่าน" หมอหนุ่มรูปหล่อ ที่ตอนกลางวันเป็นหมอและผู้บริหารโรงพยาบาลมาดขรึม จริงจัง เข้มงวดและเย็นชา แต่พอตกกลางคืน เขาคือเจ้าของผับนักล่า สมฉายา "คุณหมอ Hot Nerd" เขาเกือบจะขับรถชน "มะลิ" เด็กสาวที่วิ่งหนีตายมาจากการถูกจับไปขายที่ชายแดน โดยฝีมือแม่เลี้ยงผีพนันของเธอ เด็กกำพร้าผู้น่าสงสารทำให้หมอหนุ่มไม่อาจนิ่งเฉยได้ จึงรับอุปการะส่งเสียให้ได้เรียนและดูแลเธออย่างดีในฐานะผู้ปกครอง ซึ่งเด็กดีอย่างเธอ ทั้งรักทั้งเทิดทูนเขาจนยอมทำได้ทุกอย่างเพื่อตอบแทนบุญคุณ ในขณะที่ ยิ่งโต เด็กในปกครองของเขาก็ยิ่งสวย จนได้เป็นดาราชื่อดัง มีคู่จิ้นที่พยายามจะเป็นคูู่จริง หมอหนุ่มผู้มีพระคุณจึงเกิดอาการหึงหวงเด็กในปกครองอย่างไม่รู้ตัว เลยเรียกร้องขอการตอบแทนบุญคุณเป็นร่างกายของเธอ ภายใต้ข้อตกลงว่าทุกอย่างจะยุติลงเมื่อเขาแต่งงาน แต่คุณหมอ Hot Nerd ดันเทผู้หญิงทุกคนทิ้งทันทีที่ได้ชิมเด็กในปกครองแสนหวาน แล้วอย่างนี้..เธอจะหลุดพ้นจากกรงขังรักของเขาไปได้อย่างไร
10
222 Bab

คำว่า สัตยาบัน คือ สื่อความหมายเชิงสัญลักษณ์ในวรรณกรรมอย่างไร?

4 Jawaban2025-10-12 23:50:21

สัตยาบันเป็นคำที่ฉายภาพความหนักแน่นของคำพูดที่ผูกพันทั้งผู้ให้และผู้รับ แม้คำเดียวจะดูเรียบง่าย แต่ในวรรณกรรมมันกลายเป็นสัญลักษณ์ของความผูกมัดระหว่างบุคคลกับชะตากรรม สายสัมพันธ์ทางศีลธรรม และการยืนยันตัวตนต่อหน้าชุมชนและจักรวาล

ในฉากหนึ่งของ 'รามเกียรติ์' สัญญาของพระราชาหรือฮีโร่ไม่ได้เป็นเพียงสัญญาทางมนุษย์ แต่ถูกยกระดับให้กลายเป็นบทบัญญัติของธรรมะ เมื่อนักเล่าเรื่องใช้สัตยาบันเป็นจุดศูนย์กลาง มันจะกำหนดกรอบสำหรับบทบาทของตัวละคร สร้างความตึงเครียดเมื่อการกระทำขัดแย้งกับคำมั่น และให้ผลสะท้อนทั้งในระดับส่วนตัวและสังคมสำหรับการรักษาหรือการละเมิดคำมั่นนั้น ฉันมักรู้สึกว่าการใช้สัตยาบันในงานคลาสสิกทำให้เรื่องราวมีน้ำหนักทางจริยธรรมมากขึ้น เพราะมันทำให้ผู้อ่านต้องตั้งคำถามว่าพลังของคำพูดนั้นมีค่ามากกว่าชีวิตหรือเปล่า

คำว่า สัตยาบัน คือ ปรากฏในนิยายหรือซีรีส์ไทยเรื่องใดบ้าง?

4 Jawaban2025-10-07 17:34:30

คำว่า 'สัตยาบัน' สำหรับผมเป็นคำที่พาเข้าบรรยากาศของนิทานชาดกและเรื่องราวทางพระพุทธศาสนาอย่างทันที

ในตอนที่อ่าน 'นิทานชาดก' ผมมักเจอคำนี้ในบริบทของปณิธานหรือคำสาบานที่พระหรือกษัตริย์ให้ไว้กับตนเองหรือประชาราษฎร์ ไม่ว่าจะเป็นคำสุภาพที่ใช้ประกาศความตั้งใจจะปกป้องธรรมะหรือคำกล่าวในพิธีกรรมที่ยืนยันความซื่อสัตย์ต่อหน้าพระพุทธเจ้า คำว่า 'สัตยาบัน' ในชาดกมักมีน้ำหนักทางศีลธรรมและความเที่ยงตรงของตัวละครมากกว่าคำสาบานทั่วไป

ฉากที่ผมชอบคือเมื่อนักบุญหรือตัวเอกตั้งสัตยาบันเพื่อช่วยเหลือผู้อื่น เห็นถึงความผูกพันระหว่างการกระทำกับผลของกรรม แล้วรู้สึกว่าคำเดียวนี้ยกระดับบทพูดให้สำคัญขึ้น เป็นคำที่ทำให้ฉากพิธีกรรมและบทปาฐกถาดูศักดิ์สิทธิ์ขึ้นอย่างแท้จริง

เอกสาร สัตยาบัน คือ เอกสารประเภทใดในกฎหมายไทย?

4 Jawaban2025-10-08 05:24:31

ในฐานะคนที่เคยสนใจเรื่องกฎหมายระหว่างประเทศ ผมมองว่า 'เอกสารสัตยาบัน' เป็นเอกสารทางการที่รัฐใช้แสดงความยอมรับผูกพันตามสนธิสัญญาหรือข้อตกลงระหว่างประเทศ กล่าวคือมันคือ 'instrument of ratification' หรือเอกสารยืนยันการให้สัตยาบันที่รัฐออกขึ้นหลังผ่านขั้นตอนภายในประเทศแล้ว

เอกสารชนิดนี้มีลักษณะเป็นหนังสือรับรองที่ลงนามโดยผู้มีอำนาจของรัฐ อาจมีตราประทับหรือการรับรองอย่างเป็นทางการ แล้วส่งให้แก่ผู้เก็บรักษา (depository) เช่น เลขาธิการองค์การสหประชาชาติ เพื่อให้ถือเป็นหลักฐานทางกฎหมายของความยินยอมผูกพัน ระยะเวลาที่สนธิสัญญามีผลผูกพันต่อรัฐนั้นมักขึ้นกับข้อกำหนดในตัวสนธิสัญญาเอง เช่น กำหนดจำนวนวันที่ต้องรอหลังการยื่นสัตยาบัน

สิ่งที่ผมมักเน้นคือต้องแยกความต่างระหว่างเอกสารภายในประเทศกับสัตยาบัน: การให้สัตยาบันเป็นการแสดงเจตจำนงในระดับระหว่างประเทศ ไม่ได้แทนที่กระบวนการออกกฎหมายภายใน หากสนธิสัญญาต้องมีผลผูกพันทางกฎหมายภายในประเทศ รัฐอาจต้องผ่านรัฐสภาหรือออกกฎหมายภายในก่อนแล้วจึงยื่นสัตยาบันได้

คำว่า สัตยาบัน คือ ปรากฏเป็นฉากสำคัญในภาพยนตร์เรื่องใด?

4 Jawaban2025-10-14 08:56:56

ตั้งแต่ครั้งแรกที่ดูฉากนี้ ฉาก 'สัตยาบัน' ในภาพยนตร์เรื่อง 'Harry Potter and the Half-Blood Prince' ติดตราตรึงใจมากกว่าฉากเวทมนตร์ทั่วไป เพราะมันไม่ใช่แค่คำพูด แต่เป็นการผนึกชะตากรรมเข้ากับตัวละครคนหนึ่ง

ฉากที่เซเวอร์รัส สเนป ถูกผูกมัดด้วยคำสาบานตรึงใจระหว่างนาซิสซา มัลฟอยและเบลลาทริกซ์ ถูกถ่ายทอดด้วยบรรยากาศเคร่งขรึมและการแสดงที่ละเอียดอ่อน เสียงของพิธี การจรดไม้กายสิทธิ์และหยดเลือดที่กลายเป็นพันธะ ทำให้ฉากนี้กลายเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของทั้งเรื่อง ไม่เพียงแค่ผลักดันเหตุการณ์ แต่ยังบ่งบอกความซับซ้อนของแรงจูงใจตัวละคร

การดูฉากนี้ทำให้มองเห็นเส้นบาง ๆ ระหว่างความจงรักภักดีกับการทรยศ และการเลือกที่ไม่อาจหวนกลับได้ ฉากแบบนี้ทำหน้าที่เป็นหมุดหมายในเรื่องราวที่ใหญ่ขึ้น และยังคงทำให้ฉันคิดถึงรายละเอียดเล็ก ๆ ในการแสดงของแอลัน ริคแมนอยู่เสมอ

คำว่า สัตยาบัน คือ ถูกใช้ในพิธีทางศาสนาพุทธอย่างไร?

5 Jawaban2025-10-12 21:29:39

เสียงสวดมนต์ในวัดที่คุ้นเคยชวนให้หยุดคิดถึงความหมายของคำว่า 'สัตยาบัน' ในพิธีทางพระพุทธศาสนาอย่างเงียบๆ และฉันมักพูดถึงเรื่องนี้กับคนใกล้ตัวบ่อยๆ

คำสั้นๆ อย่าง 'สัตยาบัน' ในเชิงปฏิบัติหมายถึงการให้สัตย์หรือการตั้งปณิธานอย่างเป็นทางการต่อพระรัตนตรัย นั่นคือการประกาศความตั้งใจว่าจะปฏิบัติธรรม รักษาศีล หรือยึดมั่นในข้อปฏิบัติบางอย่างต่อหน้าพยานทั้งหลาย เหตุการณ์ที่มักได้ยินคำนี้บ่อยที่สุดคือการบวช การรับศีล และพิธีอุโบสถ โดยจะมีการกล่าวคำให้สัตย์เป็นขั้นตอนสำคัญ เพื่อให้คำพูดนั้นกลายเป็นพันธะทางใจและสังคม

การแสดงออกของสัตยาบันไม่ได้จำกัดอยู่แค่คำพูดเพียงอย่างเดียว บางครั้งมีการถือของเครื่องหมาย เช่น เทียนหรือผ้าสี แล้วพระกับญาติโยมจะร่วมเป็นพยาน ทำให้การให้สัตย์นั้นมีความหนักแน่นมากขึ้น ในมุมของฉัน มันคือการเปลี่ยนวาทกรรมจากความคิดภายในสู่คำสาธารณะ ซึ่งช่วยสร้างแรงจูงใจให้คนยึดมั่นจริงจังมากขึ้น และนั่นทำให้พิธีดูมีความหมายลึกซึ้งยิ่งขึ้นกว่าคำสาบานธรรมดา

คำว่า สัตยาบัน คือ มีที่มาจากภาษาบาลีหรือสันสกฤตหรือไม่?

4 Jawaban2025-10-14 10:36:33

คำว่า 'สัตยาบัน' ฟังแล้วให้ความรู้สึกแบบคำพิธีที่มีน้ำหนักและมีรากฐานเก่าแก่ในภาษาอินโด-อารยันมากกว่าจะเป็นคำคิดขึ้นใหม่ในไทย

เมื่อฉันมองที่รากศัพท์แบบตรงไปตรงมา จะเห็นได้ว่าองค์ประกอบของคำนี้สอดคล้องกับคำสันสกฤตอย่างชัดเจน: ส่วนแรกใกล้เคียงกับ 'satya' ที่แปลว่า ความจริง หรือสัตย์ ส่วนท้ายมีความเป็นไปได้ว่าจะมาจาก 'bandha' ที่หมายถึง การผูกหรือผูกมัด เมื่อนำมารวมกันความหมายโดยรวมจึงออกมาในแนว 'การผูกด้วยความสัตย์' หรือคำสาบานที่ผูกมัดตัวผู้ให้ยึดถือความจริง

อีกมุมหนึ่งภาษาไทยมักรับรากศัพท์ทั้งจากสันสกฤตและบาลีสลับกันไป ดังนั้นรูปแบบบาลีเช่น 'sacca' (ความจริง) และคำที่หมายถึงการผูกมัดในบาลี ก็ให้ความหมายใกล้เคียงกันได้ ฉันจึงมองว่าคำนี้มีรากฐานจากสันสกฤตเป็นหลัก แต่ก็มีความสัมพันธ์กับรูปบาลีในเชิงการรับคำเข้ามาใช้ในภาษาไทย โดยเฉพาะในบริบทพิธีการหรือทางศาสนา ทำให้คำนี้ถูกใช้อย่างเป็นทางการและหนักแน่นกว่าคำสาบานคร่าวๆ ทั่วไป

คำว่า สัตยาบัน คือ ตัวอย่างประโยคที่ใช้ในภาษาไทยมีอะไรบ้าง?

4 Jawaban2025-10-12 00:17:57

มาลองลงตัวอย่างประโยคที่ใช้คำว่า 'สัตยาบัน' กันดูแบบเนิบๆ และมีมุมมองส่วนตัวสอดแทรกเล็กน้อย

คำนี้ให้ความรู้สึกเป็นทางการและหนักแน่น เหมาะกับการสาบานหรือคำปฏิญาณที่มีความหมายลึกซึ้ง เช่น "ผู้พิพากษาทรงยืนขึ้นแล้วแถลงสัตยาบันว่าจะตัดสินคดีด้วยความยุติธรรม" หรือ "คู่รักทั้งสองแลกสัตยาบันในพิธีเล็กๆ ท่ามกลางครอบครัว" ถึงตรงนี้ฉันมักคิดว่าการใช้คำว่า 'สัตยาบัน' จะทำให้บรรยากาศจริงจังและเวทีกลายเป็นพิธีการทันที

ตัวอย่างเชิงราชการก็ได้ผลกินใจ เช่น "ข้าพเจ้าขอสาบานด้วยสัตยาบันว่าจะปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์และรับผิดชอบ" หรือจะใช้ในเชิงวรรณกรรมก็เข้าท่า เช่น "ชายผู้นั้นยกมือสาบานด้วยสัตยาบันว่าเขาจะกลับมารับเธอไม่ว่าชะตาจะเป็นอย่างไร" การใส่คำนี้ลงไปช่วยยกระดับความหมายและทำให้ผู้อ่านรับรู้ถึงความหนักแน่นของคำพูด จบด้วยความรู้สึกว่าคำเดียวก็เปลี่ยนโทนบทพูดทั้งบทได้

คำว่า สัตยาบัน คือ ต่างจากการสาบานในเชิงกฎหมายอย่างไร?

4 Jawaban2025-10-14 04:41:24

การเปรียบเทียบสัตยาบันกับการสาบานทางกฎหมายเป็นเรื่องที่ผมมองว่าน่าสนุกจะไล่เรียงความหมาย เพราะทั้งคู่ใช้คำพูดเป็นสัญลักษณ์ของความผูกพัน แต่โทนและผลลัพธ์ต่างกันชัดเจน

สัตยาบันโดยทั่วไปมีรากฐานทางศีลธรรมและพิธีกรรม มักเกิดในบริบททางศาสนา ชุมชน หรือความเชื่อส่วนตัว แล้วมีน้ำหนักทางใจและจิตวิญญาณ เช่น การให้คำมั่นต่อพระพุทธเจ้าในพิธีอุปสมบทหรือการตั้งปณิธานในวัด ความผิดพลาดของสัตยาบันอาจถูกมองว่าเป็นกรรมหรือความละอายใจทางสังคม มากกว่าจะโดนโทษทางกฎหมาย ในหลายกรณีสัตยาบันมีความยืดหยุ่นในการถอนคำ เช่น การเปิดเผยความตั้งใจและขออภัยต่อชุมชน

การสาบานเชิงกฎหมายมีรูปแบบชัดและถูกออกแบบมาเพื่อผลทางกฎหมาย เช่น การสาบานเบิกความในศาลหรือการจะแต่งตั้งข้าราชการ เมื่อมีการละเมิดมักมีผลเป็นคดีอาญา เช่น ความผิดฐานเบิกความเท็จหรือการผิดคำสาบานในเอกสารราชการ การพิสูจน์และบทลงโทษต้องอาศัยกระบวนการกฎหมาย ซึ่งแตกต่างจากบทลงโทษทางจิตใจหรือสังคมของสัตยาบันอย่างสิ้นเชิง

ผมคิดว่าจุดต่างสำคัญอีกอย่างคือเจตนาและผู้มีอำนาจกำกับ สัตยาบันมักเน้นที่เจตนาและการเป็นหนึ่งเดียวกับค่านิยมทางจิตวิญญาณ ขณะที่คำสาบานทางกฎหมายเน้นการคุ้มครองสาธารณะและกระบวนการตรวจสอบ ถ้าต้องสรุปเป็นภาพรวม สัตยาบันคือคำมั่นเชิงศีลธรรมที่ผูกกับจิตใจและพิธีกรรม ส่วนการสาบานทางกฎหมายคือคำมั่นที่ผูกกับระบบกฎหมายและบทลงโทษทางกฎหมาย ทั้งสองมีความจริงจัง แต่ต่างประเภทของแรงจูงใจและผลตามมา

คำว่า สัตยาบัน คือ ความหมายทางภาษาศาสตร์ว่าอย่างไร?

4 Jawaban2025-10-07 07:14:28

เราเคยสงสัยตอนอ่านเอกสารเก่าที่มีถ้อยคำเป็นทางการแล้วเจอคำว่า 'สัตยาบัน' แล้วรู้สึกว่ามันหนักแน่นกว่าแค่คำว่า 'สัญญา' มาก

คำว่า 'สัตยาบัน' ทางภาษาศาสตร์ประกอบด้วยรากศัพท์ที่มีความเชื่อมโยงกับภาษาบาลี-สันสกฤต ซึ่งสื่อถึงความหมายเกี่ยวกับความจริงและการผูกมัด เมื่อมองในมิติรูปคำ มักถูกใช้เป็นคำนามที่แปลว่า 'คำปฏิญาณ' หรือ 'คำสาบาน' และบางบริบทใช้เป็นกริยาเช่น 'ให้สัตยาบัน' เพื่อแสดงการให้คำมั่นอย่างเป็นทางการ

น้ำเสียงของคำนี้จะเป็นทางการและมีความศักดิ์สิทธิ์กว่า 'สัญญา' ธรรมดา เพราะมีนัยของการอิงความจริงหรือการยึดมั่นตามธรรมเนียม ตัวอย่างเช่นในบริบททางกฎหมายหรือพิธีกรรมทางศาสนา ผู้พูดอาจใช้คำนี้เมื่ออยากเน้นว่าการผูกมัดนั้นไม่ใช่แค่คำพูด แต่มีความหมายเชิงจริยธรรมและสังคม ซึ่งทำให้คำนี้เหมาะกับงานเขียนเชิงพิธีการหรือเอกสารที่ต้องการความน่าเชื่อถือมากขึ้น

Pertanyaan Populer
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status