ภาพปิดท้ายของเรื่อง '
hotarubi no mori e' เล่าโดยย่อผ่านภาพที่เรียบง่ายแต่บีบหัวใจสุดๆ, ผมอยากบอกว่ามันไม่ใช่แค่ฉากที่คนดูรู้สึกสะเทือนแล้วจบไป แต่มันเป็นการปิดบทความสัมพันธ์ที่เติบโตขึ้นอย่างเงียบๆ ทุกๆ ฤดูร้อนระหว่างโฮทะรุกับจิน ความลับสำคัญคือจินเป็นวิญญาณป่าและห้ามถูกสัมผัสโดยมนุษย์ การพบกันของทั้งคู่เริ่มจากความไร้เดียงสาและค่อยๆ เปลี่ยนเป็นมิตรภาพ แล้วกลายเป็นความผูกพันที่ลึกซึ้งเมื่อโฮทะรุโตขึ้นตามกาลเวลา ช่วงกลางเรื่องเต็มไปด้วยฉากเล็กๆ น้อยๆ ที่ทำให้เข้าใจว่าพวกเขารู้สึกต่อกันอย่างไร แม้จะมีข้อจำกัดที่ไม่มีทางหักล้างได้
ในซีนสุดท้ายที่สำคัญทั้งภาพและเสียงถูกใช้เพื่อเน้นอารมณ์กลางความเจ็บปวด, ผมเห็นฉากที่ความใกล้ชิดถึงจุดที่ไม่อาจต้านทานอีกต่อไปแล้ว โฮทะรุและจินยอมรับความรู้สึกของตัวเองและในที่สุดโฮทะรุก็โอบกอดจิน ทันใดนั้นผลของการสัมผัสก็เกิดขึ้น—จินเริ่มจางหายและสลายตัวไปเป็นแสง ไดอะล็อกไม่ต้องพูดมาก แต่วิธีจัดแสง เงา และการแสดงออกบนใบหน้าทำให้ความหมายล้นทะลัก ภาพการสลายตัวของจินไม่ใช่ความรุนแรงแต่เป็นการจากลาที่อบอุ่นเจ็บปวด เพราะมันคือผลลัพธ์ของความรักที่ไม่สมบูรณ์แบบ การตัดสินใจของทั้งคู่ในช่วงวินาทีนั้นทำให้ฉากจบมีน้ำหนักมากกว่าการได้คำตอบแบบเรียบง่าย
หลายปีให้หลังโฮทะรุกลับมาเยี่ยมป่าอีกครั้งในวัยผู้ใหญ่เพื่อพบกับความว่างเปล่า, ผมรู้สึกว่าช่วงท้ายทำหน้าที่เป็นคำตอบที่อ่อนโยนสำหรับคำถามว่า "แล้วต่อไปล่ะ?" โฮทะรุยังคงเก็บความทรงจำและสิ่งเล็กๆ น้อยๆ ที่เชื่อมโยงกับจินเอาไว้ แม้ไม่มีการอำลาแบบคำพูดยาวเหยียด แต่การเฝ้ารำลึกและความสงบใน
แววตาของเธอประกาศว่าเรื่องราวของพวกเขายังคงมีชีวิตอยู่ในความทรงจำ การปิดเรื่องแบบนี้ไม่ได้ทำให้คนดูรู้สึกว่างเปล่าอย่างเดียว แต่มันปล่อยให้ความหวังและความเหงาอยู่ร่วมกันอย่างสวยงาม สำหรับผมแล้วฉากสุดท้ายของ 'Hotarubi no Mori e' เป็นบทสรุปที่ทั้งเจ็บปวดและงดงามในเวลาเดียวกัน เพราะมันเตือนให้เห็นคุณค่าของช่วงเวลาที่มีร่วมกัน และว่าบางความสัมพันธ์แม้จบลงด้วยการพราก แต่ก็สามารถทิ้งความอบอุ่นไว้ในหัวใจคนที่ยังจดจำได้อยู่เสมอ