แสงเทียนกระพริบเป็นจังหวะแล้วผนังห้องก็รับเสียงหัวเราะซ้ำๆ เหมือนเครื่องดนตรีประหลาดที่คุมจังหวะ
งานเลี้ยงไว้ให้เดินหน้าอย่างมั่นใจ
สิ่งหนึ่งที่ฉันชอบทำคือเริ่มจากการตั้งค่าความขัดแย้งเล็กๆ ก่อนจะปะทะเป็นซีนใหญ่ เหมือนฉากโต๊ะอาหารใน 'Howl's Moving Castle' ที่มีทั้งมนต์และอารมณ์ขันปนๆ กัน การเล่าไม่จำเป็นต้องบรรยายทุกสิ่งให้ครบถ้วน ให้ผู้อ่านได้สัมผัสจากการกระทำ อาการเล็กน้อย หรือแก้วน้ำที่ถูกยกขึ้นโดยไม่ตั้งใจ ฉากพวกนี้มักทำให้บรรยากาศดูมีมิติและคงความลึกลับได้
การใช้ประสาทสัมผัสแค่สองสามอย่างแต่ชัดเจนย่อมทรงพลังกว่าใส่รายละเอียดจนล้น ให้เลือกกลิ่นที่เป็นสัญลักษณ์ เสียงที่ซ้ำแล้วจำได้ และสีแสงที่เปลี่ยนอารมณ์ เช่น กลิ่นซุปที่อุ่นๆ ผสมกลิ่นเครื่องเทศ เสียงส้นรองเท้าบนพื้นไม้ ฉันมักใส่บทสนทนาแบบไม่เต็มคำให้ตัวละครแสดงคาแรกเตอร์ โดยเว้นช่องให้ผู้อ่านเติมเต็มความหมายเอง
สุดท้ายจังหวะการเปิดเผยข้อมูลสำคัญควรค่อยๆ เล่น ไม่ต้องเร่งหมดทุกอย่างในจานแรก ปล่อยให้บรรยากาศพาไป แล้วปล่อยให้ความตึงเครียดคลี่คลายตามธรรมชาติ วิธีนี้จะทำให้งานเลี้ยงในนิยายไม่ใช่แค่ฉากกินดื่ม แต่กลายเป็นพื้นที่ที่ตัวละครแสดงตัวตนและความสัมพันธ์อย่างชัดเจน