ความคิดแรกที่วิ่งเข้ามาเมื่ออ่าน '
กด แห่ง กรรม' คือเรื่องนี้เหมือนการเอาพื้นที่ระหว่างเรื่องเล่าพื้นบ้านกับข่าวหน้าหนึ่งมาผสมกันจนได้กลิ่นอายที่คมและเจ็บปวด ฉันมองเห็นร่องรอยแรงบันดาลใจจากหลักคำสอนทางพุทธศาสนาเรื่องกรรมชัดเจน — ไม่ใช่แค่คำว่า 'ชดใช้' แต่เป็นการตั้งคำถามว่าการตัดสินใจเล็กๆ ในชีวิตประจำวันจะส่งผลสะท้อนอย่างไรต่อผู้อื่น ผลงานยังมีความรู้สึกเหมือนนิยายสืบสวนสังคม เพราะบรรยากาศและวิธีเล่าเรื่องดึงให้ผู้อ่านอยากไข
ปริศนาเบื้องหลังตัวละครมากกว่ารอคำตอบสำเร็จรูป
พอขยับมาดูมิติภาพและท่วงทำนองการเล่า ฉันเห็นอิทธิพลจากสื่อภาพยนตร์และหนังสือการ์ตูนที่เน้นความดิบและมุมมองทางสังคม เช่นการใช้ฉากเมืองและรายละเอียดเล็กๆ เพื่อสะท้อนชนชั้นและแรงกดดันทางเศรษฐกิจ เหล่านี้ทำให้งานมีความเป็นสื่อร่วมสมัย ที่สำคัญคือเสียงเล่าที่เหมือน
ผู้เขียนเติบโตมากับเรื่องเล่าในชุมชนซึ่งผสมกับการอ่านงานสืบสวนหรือ
ปรัชญาชีวิตบางเล่ม ผมหมายถึงว่าองค์ประกอบทั้งหมดรวมกันเป็นตัวตนของงาน ไม่ว่าจะเป็นการหยิบ 'ความยุติธรรม' มาเป็นแกนกลางหรือการตั้งคำถามเชิงศีลธรรม ผลลัพธ์คือเรื่องราวที่ทำให้ฉันนั่งคิดถึงการกระทำเล็กๆ ในชีวิตประจำวันนานหลังจากวางหนังสือลง