5 回答
แหล่งที่ฉันมักจะแนะนำให้ลองสำรวจเมื่ออยากรู้ว่ามีการตีความใหม่ของ 'มโหรา' หรือไม่ คือชุมชนคนทำหนังสือและนักวาดอิสระในงานสตรีทบ็อกซ์หรืองานหนังสือท้องถิ่น ฉันเคยได้เห็นฉบับรวมภาพประกอบและบทกลอนที่ตีพิมพ์จำกัด ซึ่งนำเสนอในรูปแบบสมุดภาพหรือหนังสือศิลป์ไม่ใช่มังงะเชิงพาณิชย์
นอกจากนี้ งานนิทรรศการทางวรรณคดีและหอสมุดบางแห่งมักมีฉบับปริทรรศน์หรือบทวิจารณ์ที่จัดแสดงภาพประกอบต้นฉบับและการตีความของศิลปินร่วมสมัย ฉันมองว่าทางเลือกเหล่านี้ให้มุมมองที่ลึกและเห็นการปรับเปลี่ยนทั้งในรูปแบบภาพและคำเล่า ถ้าความตั้งใจคืออยากเห็น 'มโหรา' ในรูปแบบภาพ ฉบับอิสระและงานนิทรรศการคือจุดเริ่มต้นที่น่าสนใจในสายตาฉัน
พูดตรงๆเลยว่าเมื่อคนพูดถึง 'มโหรา' ฉันมักจะคิดถึงวรรณคดีโบราณมากกว่าจะนึกถึงแอนิเมะหรือมังงะทันที
ฉันอ่าน 'มโหรา' จากฉบับพิมพ์เก่าแล้วรู้สึกว่าจังหวะภาษากับโครงเรื่องมีทั้งความละเมียดและความเป็นมโหราผสมกันอยู่สูง จึงเข้าใจได้ว่าทำไมงานชิ้นนี้ยังไม่ค่อยถูกดัดแปลงเป็นแอนิเมชันยาวหรือเป็นมังงะแบบญี่ปุ่นอย่างเป็นทางการ เรื่องราวบางส่วนต้องการการตีความหลายชั้น ไม่ใช่แนวที่ย่อยง่ายเพื่อกลุ่มเป้าหมายแบบตลาดหลักของมังงะหรือทีวีอนิเมะ
อย่างไรก็ดี ฉันเองเคยเห็นหนังสือภาพและงานวาดประกอบสวยๆ ที่นำเอาบทบางตอนมาทำเป็นภาพนิทัศน์สั้น ๆ หรือภาพประกอบในฉบับตีพิมพ์ใหม่ ซึ่งทำให้ฉันคิดว่าถ้าใครจะทำเวอร์ชันมังงะสไตล์ร่วมสมัยจริง ๆ ควรเลือกตัดต่อเรื่องราวและออกแบบตัวละครใหม่ให้เข้ากับรสนิยมของผู้อ่านยุคนี้มากขึ้น ผลงานแนวนี้ถ้าทำดีจะช่วยให้คนรุ่นใหม่เข้าถึง 'มโหรา' ได้โดยไม่เสียเสน่ห์ดั้งเดิมไป
ในฐานะแฟนที่ชอบชมการแสดงสด ฉันเห็นความเป็นไปได้ของ 'มโหรา' ในรูปแบบละครเวทีหรือการร่ายรำมากกว่าจะเป็นมังงะในทันที
รูปแบบโขนและลิเกมีความยืดหยุ่นในการนำชาดกหรือเรื่องราวพื้นบ้านมาปรับเป็นฉากและบทสนทนา ฉันเคยดูการแสดงที่เอาบทประพันธ์โบราณมาจัดสรรใหม่โดยย่อฉากและใช้ดนตรีร่วมสมัย ผม(※หลีกเลี่ยงการใช้คำว่า 'ผม' นะ) — ขอโทษ ควรบอกว่า ฉันชื่นชอบวิธีที่ผู้กำกับใช้แสงและท่าเต้นในการเล่าเรื่องแทนการยืดยาวของบท ถ้ามีทีมละครเวทีทำเวอร์ชัน 'มโหรา' แบบเข้มข้นแต่กระชับ ฉันคิดว่าผลงานนั้นจะสะกดผู้ชมได้ไม่น้อยเลยและสร้างมิติใหม่ให้กับงานเก่าได้จริง
แง่มุมเชิงเทคนิคที่ฉันค่อนข้างให้ความสนใจคือความท้าทายของการดัดแปลง 'มโหรา' ให้เป็นแอนิเมชันยาว เรื่องโทนภาษากับจังหวะอธิบายรายละเอียดจำนวนมากเป็นอุปสรรคหนึ่ง ฉันคิดว่าทีมงานต้องตัดสินใจว่าจะย่อเรื่องให้เน้นพล็อตหลักหรือจะรักษาความเป็นบทกวีเอาไว้และแปลงเป็นภาพยนตร์สั้นหรือซีรีส์ตอนสั้น ๆ
การนำตำนานไทยไปทำสื่อภาพเคลื่อนไหวมีตัวอย่างให้เห็นว่าทำได้ดีเมื่อทีมงานเข้าใจรากเหง้าทางวัฒนธรรม เช่นงานแอนิเมชันไทยบางเรื่องที่ดึงความเป็นพื้นบ้านมาเล่าแล้วมีสไตล์เป็นของตัวเอง จึงเป็นไปได้ว่าถ้าใครทำแอนิเมชันของ 'มโหรา' จริง ๆ จะต้องมีการออกแบบโลกและคาแรกเตอร์ที่ชัดเจน พร้อมทั้งเลือกรูปแบบการเล่าเรื่องที่เหมาะสมกับแพลตฟอร์ม อีกประเด็นคือการตอบรับของผู้ชม — ถ้าทำเป็นซีรีส์สั้นอาจเข้าถึงกลุ่มคนรุ่นใหม่ได้ไวกว่าแอนิเมชันยาวแบบโรงภาพยนตร์
มุมมองแบบเด็กสายเฟนวาดทำให้ฉันอยากเห็น 'มโหรา' ถูกวาดเป็นมังงะสั้น ๆ หรือเว็บคอมิกแนวรีเทลริ่งที่เน้นภาพสวย
ฉันติดตามกลุ่มนักวาดอินดี้อยู่บ้าง เห็นงานแฟนอาร์ตของนิทานพื้นบ้านไทยหลายชิ้นนำสไตล์มังงะมาผสม บางคนเปลี่ยนองค์ประกอบเรื่องให้เป็นแนวแฟนตาซีร่วมสมัยแล้วก็สนุกได้ เพราะฉะนั้นถึงจะไม่มีมังงะทางการของ 'มโหรา' ฉันเชื่อว่ามีแฟนเมดและเว็บคอมิกที่หยิบองค์ประกอบของเรื่องไปเล่าใหม่อย่างสร้างสรรค์
ฉันชอบสไตล์การเล่าแบบตัดฉากสลับระหว่างอดีตกับมุมมองตัวละคร ซึ่งทำให้ตัวละครที่ดูไกลตัวกลายเป็นคนมีความคิดและปัญหาที่คนอ่านเข้าใจได้ การได้เห็นคนรุ่นใหม่ตีความ 'มโหรา' ในรูปแบบที่อ่านง่ายจะช่วยให้เรื่องคลายความเป็นงานวิชาการและเข้าถึงได้มากขึ้น เหมือนเป็นสะพานเชื่อมระหว่างตำนานกับชุมชนออนไลน์