เราไม่เคยคิดว่าจะมีซาวด์แทร็กหนึ่งชุดที่ฉุดความรู้สึกเราให้จมดิ่งได้ขนาดนี้ แต่พอได้ฟังเพลงจาก '
ปลูกรัก พัก ใจ ใต้ต้นมะกอกขาว' ก็เหมือนเจอเพื่อนเก่าที่เข้าใจทุกช่วงหัวใจ เพลงที่คนมักพูดถึงกันมากที่สุดในวงเล็บสนทนาของเรามีไม่กี่ชิ้น แต่ละชิ้นก็ทำหน้าที่ต่างกันจนบ่อยครั้งเราเลือกเปิดวนซ้ำในมื้อเย็นหรือเวลานอน
เพลงเปิดของซีรีส์นั้นติดหูแบบค่อยๆ เรียกให้คล้อยตามจังหวะมากกว่าจะตะโกนเรียกความสนใจ มันเป็นเมโลดี้ที่ผสมทั้งความอ่อนไหวและพลังเล็กๆ ทำให้ฉากแรกของแต่ละตอนมีเสน่ห์อย่างต่อเนื่อง เหมาะกับคนที่ชอบเพลงที่จำได้ทันทีหลังจากได้ยินแค่ท่อนสั้นๆ ส่วนเพลงบัลลาดหลักที่ใช้ในฉากสารภาพรักใต้ต้นมะกอกขาวก็เป็นเหตุผลที่หลายคนกลั้นน้ำตาไม่อยู่ ท่อนฮุกที่ร้องขึ้นมาในช่วงภาพช้าๆ ของสองคนก็กลายเป็นมุมโปรดของคนฟังที่ชอบเสียงร้องที่แฝงความเปราะบางและสำนึกร่วม
อีกเพลงหนึ่งซึ่งชอบในกลุ่มเพื่อนสายดนตรีคือเวอร์ชั่นอะคูสติกที่เล่นด้วยกีตาร์โปร่งในฉากคืนเงียบหลังการทะเลาะ เพลงนี้ไม่ต้องมีคำร้องเยอะก็สื่อความหมายด้วยเสียงสั่นของสายกีตาร์และการหยุดชะงักของจังหวะ มันเหมาะกับคนที่ฟังแล้วนั่งคิดตาม ส่วนดนตรีประกอบเชิงออเคสตราหรือธีมตัวละครที่เล่นช่วงฉากแฟลชแบ็กก็ทำหน้าที่เยียวยาและเชื่อมต่อความต่อเนื่องของเรื่อง เราชอบเก็บธีมสั้นๆ เหล่านั้นไว้ในเพลย์ลิสต์เวลาอยากนอนคิดทบทวน
สุดท้ายบอกได้เลยว่าความนิยมของเพลงเหล่านี้ไม่ได้มาเพราะความดังเพียงอย่างเดียว แต่มาจากการใช้เพลงที่ลงตัวกับอารมณ์ในฉาก จนคนดูจดจำทั้งเพลงและความหมายของฉากไปพร้อมกัน ถาไฟน้อยๆ ที่เพลงจุดขึ้นตอนที่ชอบ มันทำให้เรากลับไปฟังแล้วเห็นภาพซ้ำได้อีกหลายครั้ง เป็นเพลย์ลิสต์ที่ไว้เปิดเมื่ออยากจมอยู่กับความอบอุ่นปะปนเศร้าแบบเงียบๆ