หนังสือเล่มนี้พาฉันหลุดเข้าไปสู่โลกที่แปลกใหม่แต่คุ้นเคยในเวลาเดียวกัน
เริ่มจากชีวิตที่แคบและเรียบง่ายของเด็กชายคนนึงที่อาศัยในตู้ใต้บันไดกับครอบครัวที่ไม่อบอุ่น เส้นเรื่องพาเราผ่านจดหมายลึกลับที่ทอแสงความอยากรู้อยากเห็นจนกระทั่งยักษ์ใจดีอย่างแฮ็กกริดโผล่มาหยิบตัวเด็กคนนั้นไปบอกว่าเขาคือพ่อมด ในฐานะแฟนที่โตมากับหนังสือและหนัง ฉันชอบรายละเอียดการไปเยือนถนนเวทย์มนตร์—ธนาคารแกริงกอตต์และร้านไม้กวาด—ที่ทำให้โลกนี้มีเนื้อหนังเป็นรูปเป็นร่าง
เมื่อเข้ารร. ฮอกวอตส์ เราเห็นการปรับตัวของตัวเอกได้ชัดเจน ตั้งแต่การเลือกบ้านจนถึงมิตรภาพกับเพื่อนสองคนที่กลายเป็นหัวใจของเรื่อง ฉันชอบช่วงที่หนังสือเล่นกับความลึกลับของศิลาอาถรรพ์ มี
ปริศนา การเผชิญหน้าแบบไม่คาดคิด และมุมมองว่าความกล้าหาญอาจไม่ได้หมายถึงไม่มีความกลัว แต่มันคือการเดินหน้าต่อเมื่อรู้สึกกลัว ตอนจบที่ตัวร้ายถูกเปิดเผยและการเผชิญหน้าสั้นๆ นั้นให้ทั้งความตึงเครียดและการปลดปล่อยในคราวเดียว
อ่านจบแล้วความรู้สึกเหมือนถูกพาไปชมสวนสนุกที่สร้างด้วยคำและจินตนาการ—ทั้งหวาดเสียว ทั้งอบอุ่น—และยังทิ้งคำถามว่าความสัมพันธ์เล็กๆ อย่างมิตรภาพจะเปลี่ยนชะตาชีวิตคนได้อย่างไร