...เมืองซีโจว แคว้นต้าหยวน...
เมืองซีโจวนั้นเป็นเมืองขนาดใหญ่อยู่ห่างไกลจากเมืองหลวงของแคว้นหลายพันลี้ แต่ทว่ากลับคึกคักไปด้วยผู้คนมากมายเพราะเป็นเมืองหน้าด่านเป็นศูนย์รวมของการค้า มีพื้นที่อุมสมบูรณ์ ทิศหนึ่งนั้นติดแม่น้ำกว้างใหญ่ที่ไม่มีวันแห้งเหือดเป็นสายน้ำที่หล่อเลี้ยงชีวิตผู้คน และยังโอบล้อมไปด้วยภูเขาและป่าไม้ที่ยังคงอุดมสมบูรณ์ สิ่งปลูกสร้างต่างๆ เจริญรุ่งเรืองไม่แพ้กับเมืองหลวง
เมืองซีโจวนั้นยังประกอบไปด้วยอีกหลายอำเภอที่มีนายอำเภอมาจากตระกูลใหญ่ หนึ่งในนั้นคืออำเภอซีซา
อำเภอซีซา มีตระกูลเฉินปกครองมาหลายชั่วอายุคน
จวนตระกูลเฉิน ในค่ำคืนนี้นั้นดูครึกครื้นเป็นอย่างยิ่ง เพราะวันนี้นั้นเป็นวันเฉลิมฉลองครบรอบหกสิบปีของฮูหยินผู้เฒ่าตระกูลเฉิน มารดาของท่านนายอำเภอ เฉินสวีคัง ซึ่งในปีนี้นั้นถูกจัดขึ้นอย่างใหญ่โต แขกเหรื่อที่มาร่วมอวยพรล้วนมาจากตระกูลใหญ่
ในขณะที่ทุกคนภายในงานนั้นกำลังชื่นชมการแสดงการร่ายรำของนางรำอันดับหนึ่ง ร่วมดื่มกินกันอย่างครื้นเครงนั้น แต่ภายในเรือนหลังหนึ่งกลับปรากฏร่างงดงามของสตรีนอนเปลือยกายบิดเร่าอยู่บนเตียงกว้างราวกับกำลังทรมาน
นางคือ เฉินหลี่เจิน คุณหนูใหญ่ของตระกูลเฉิน ที่เกิดจากฮูหยินเอกสตรีผู้เป็นที่รักของท่านนายอำเภอเฉินผู้ที่ได้สิ้นบุญไปตั้งแต่เมื่อห้าปีก่อน จึงทำให้เฉินหลี่เจินได้รับความรักและเอ็นดูจากผู้เป็นบิดาเป็นอย่างมาก นั่นจึงเป็นสาเหตุให้สตรีนางนี้มีนิสัยเอาแต่ใจเป็นสตรีนิสัยร้ายกาจ นางจึงเป็นที่เกลียดชังของคนในจวน และเป็นหลานสาวที่ฮูหยินผู้เฒ่าเฉินชิงชังเพราะมารดาของนางเป็นเพียงหญิงชาวบ้านยากจนที่บุตรชายไปคว้ามาเท่านั้น
ท่านนายอำเภอเฉินนั้นมีภรรยาสี่นาง เมื่อสิ้นฮูหยินเอกผู้เป็นฮูหยินรองจึงได้ดำรงตำแหน่งฮูหยินเอกแทนมารดาของเฉินหลี่เจิน นางมีนามว่า มู่ตาน นางเป็นบุตรีคนรองของตระกูลซู ตระกูลของขุนนางถึงจะไม่ได้มีตำแหน่งใหญ่โตแต่ก็มีเส้นสายอยู่ไม่น้อย นางเป็นสะใภ้คนโปรดของฮูหยินผู้เฒ่าเฉิน ทั้งคู่มีบุตรชายหญิงด้วยกันสองคน คือคุณหนูรอง เฉินอวี่จู และ คุณชายใหญ่ เฉินอวี่หาน ยังมีอนุสาม อี้เหริน อนุสี่ อี้ฟาง ทั้งสองมาจากตระกูลหลิน เป็นตระกูลพ่อค้าที่ร่ำรวย อนุทั้งสองนางนั้นล้วนมีบุตรีคนละนาง คือคุณหนูสาม เฉินอี้ซิน และคุณหนูสี่ เฉินอี้หลาน
และทั้งหมดคือศัตรูของเฉินหลี่เจินที่ต่อสู้ชิงดีชิงเด่นกันมานานหลายปี
วันนี้เป็นงานฉลองของท่านย่าและยังเป็นวันที่บุตรสาวตระกูลเฉินที่ถึงวัยออกเรือนจะได้คัดเลือกคู่ครองของตัวเอง เฉินหลี่เจินนางหมายมั่นว่านางจะต้องโดดเด่นที่สุดในงานวันนี้ ว่าที่สามีของนางจะต้องเป็นบุรุษที่ดีที่สุด อาภรณ์และเครื่องประดับที่ถูกคัดสรรมาจึงล้วนดีเยี่ยม แต่ขณะที่นางกำลังอาบน้ำชำระกายกลับรู้สึกวิงเวียนศีรษะอย่างรุนแรง หลูปี้ บ่าวรับใช้คนสนิทของนางจึงเสนอให้นางนั้นนอนพักผ่อนเสียก่อน เพราะกว่างานจะเริ่มนั้นอีกหลายชั่วยาม ซึ่งนางก็เห็นดีด้วยเพราะหากจะให้ฝืนทนคงจักไม่ไหว แต่ก็ไม่วายเอ่ยย้ำกับบ่าวคนสนิทให้ปลุกนางเมื่อถึงเวลา
แต่เมื่อนางรู้สึกตัวขึ้นมาอีกทีก็เลยเวลาไปหลายชั่วยามแล้ว นั่นทำให้นางรู้สึกโกรธเป็นอย่างมาก สายตาหวานคมที่ทอประกายเกรี้ยวกราดมองหาตัวผู้เป็นบ่าวของตน เมื่อไม่เห็นอีกฝ่ายใบหน้างดงามกลับยิ่งบิดเบี้ยว แต่ยังมิทันที่นางจะทันได้ลุกออกจากเตียง เพื่อสั่งสอนนังบ่าวไม่รู้ความ ร่างกายของนางกลับไร้เรี่ยวแรง นางเห็นว่ามีกลุ่มควันที่มีกลิ่นหอมประหลาดถูกปล่อยเข้ามาในห้องของนาง จนเกิดความรู้สึกร้อนรุ่มไปทั่วกาย โดยเฉพาะจุดกลางร่างที่รู้สึกร้อนวูบวาบ
มีคนเล่นสกปรกกับนาง
และการที่คนพวกนั้นจะเล่นงานนางได้ถึงขนาดนี้ย่อมต้องมีคนในที่รู้เห็น ซึ่งจะเป็นใครไปไม่ได้ หลูปี้ นังบ่าวทรยศ
รู้ตัวในตอนนี้ก็สายไปเสียแล้ว เมื่อเบื้องหน้าของนางกลับปรากฏเงาร่างของบุรุษรูปร่างสูงใหญ่ กำลังก้าวเข้ามาหานางที่นอนบิดเร่าอยู่บนเตียงอย่างช้าๆ แม้ใจของนางจะต่อต้าน แต่ร่างกายกลับโหยหาจนรู้สึกเจ็บปวดทรมาน สายตาของนางนั้นพร่าเลือน มิอาจรู้ได้ว่าชายที่กำลังเข้ามาใกล้นางนั้นคือผู้ใด รู้เพียงใบหน้านั้นช่างน่ากลัว มันปกคลุมไปด้วยหนวดเครายาวเฟื้อยและดวงตาคมดุนั้นแดงก่ำจนน่ากลัว นางรู้สึกหวาดกลัวอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ทั้งหวาดกลัวและขยะแขยง ปลายเล็บแหลมคมจิกลงบนฝ่ามือบอบบางจนบาดลึกผิวเนื้อ เลือดสีแดงไหลซึม แต่นางกลับไม่รู้สึกเจ็บแม้แต่น้อย มีเพียงความแค้นที่อัดแน่นอยู่ในอก เงาร่างใหญ่ของชายชั่วผู้นั้นคืบคลานเข้ามาใกล้จนร่างบอบบางของนางนั้นสั่นสะท้าน เฉินหลี่เจินจ้องมองร่างกายกำยำที่เข้ามาคร่อมทับตัวนางนัยน์ตาของนางแดงก่ำด้วยความคับแค้นที่ไม่อาจทำสิ่งใดได้
ฟันขาวราวกับไข่มุกเรียงตัวสวยเป็นระเบียบกัดลงบนเรียวปากอวบอิ่มจนสัมผัสถึงรสฝาดของเลือด เมื่อกลางกายสาวที่หวงแหนมาตลอดสิบหกหนาวถูกล่วงล้ำอย่างไร้ความปรานี แม้จะเจ็บปวดแทบขาดใจแต่กลับไม่มีเสียงร้องหลุดจากริมฝีปากอวบอิ่มแม้แต่น้อย
ความอัปยศในครั้งนี้ นางจะเอาคืนอย่างสาสม เฉินหลี่เจินนางหลับตาลงไม่อาจมองภาพน่าอดสูนั้นได้ สัมผัสรุนแรงจากมือหยาบกร้านคู่นั้นกำลังบีบเคล้นเนื้อตัวจนรู้สึกเจ็บ
กว่าช่วงเวลาอันเลวทรามจะจบลงนางรู้สึกเจ็บปวดทั้งกายและใจจนแทบจะกระอักเลือดออกมา ทั้งเกลียดชังและขยะแขยงชายชั่วผู้นี้ราวกับจะฆ่าให้ตาย แต่นางกลับไม่มีเรี่ยวแรงแม้แต่จะขยับ ได้แต่นอนแน่นิ่งปล่อยให้น้ำตาแห่งความชิงชังและเจ็บแค้นหลั่งไหลออกมาเงียบๆ
เสียงเปิดปิดประตูดังขึ้นอย่างแผ่วเบา ก่อนร่างสูงของบุรุษเจ้าของใบหน้าหล่อเหลาที่ตอนนี้มีหนวดเคราบางเบาส่งให้เขายิ่งดูหล่อคมมีเสน่ห์น่าหลงใหลซานตงก้าวเดินเข้ามาอย่างแผ่วเบาแล้วหยุดอยู่ตรงด้านหน้าเตียงนอนหลังใหญ่ที่มีร่างอวบอิ่มของภรรยาที่กำลังนอนตะแคงด้านข้างขดกายอย่างน่าเอ็นดู ตอนนี้อายุครรภ์ของนางย่างเข้าเดือนที่เจ็ดแล้วอีกเพียงไม่นานบุตรของเขาก็จะออกมาลืมตาดูโลกเขาจ้องมองใบหน้างดงามของภรรยาที่หลับตาพริ้ม ริมฝีปากอวบอิ่มเผยอขึ้นเล็กน้อยดูมีความสุขราวกับตอนนี้นางกำลังหลับฝันดี แม้นางจะกำลังตั้งครรภ์แต่ก็ยังงดงามเย้ายวนอย่างที่สุด จนคนแอบมองใจกระตุกสั่นไหว เขาอยากจะทักทายเจ้าก้อนแป้งอีกแล้วมือหนาจึงค่อยๆ ปลดอาภรณ์ออกจากเรือนกายแข็งแกร่งที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามจนเหลือเพียงกางเกงตัวในบางเบา เคลื่อนกายหนาเข้าไปนอนซ้อนแผ่นหลังเล็กแผ่วเบาหลี่เจินที่รับรู้ถึงสัมผัสแผ่วเบาของมือใหญ่ที่ลูบไล้ไปตามเนื้อตัวของนาง ศีรษะที่ปกคลุมไปด้วยเส้นผมดกดำเงางามกับกลิ่นหอมอันคุ้นเคยกำลังซุกไซ้ดอมดมไปทั่วซอกคอและลาดไหล่ขาวนวลที่ไม่รู้ว่าเปล่าเปลือยไปตั้งแต่เมื่อไหร่"ท่านพี่ อ่า"มือเล็กที่ตั้งใจจะยกขึ้นดันศ
แล้วในที่สุดวันมงคลของคุณหนูฉีหลานเฟิ่งและท่านแม่ทัพต้วนฝูชิงก็มาถึง เจ้าสาวในวันนี้นั้นงดงามเป็นอย่างมาก จนผู้ที่มีส่วนในความสำเร็จครั้งนี้นั้นยิ้มแก้มปริ หลี่เจินรู้สึกยินดีกับเด็กสาวผู้นั้นเป็นอย่างมากที่นางจะได้ใช้ชีวิตอย่างมีความสุขเสียที เรื่องราวของคุณหนูฉีหลานเฟิ่งและคนรัก ดูเหมือนว่าจะลงเอยกันได้ด้วยดี ดูได้จากสีหน้าของเจ้าบ่าวที่อิ่มเอิบแต่งแต้มไปด้วยรอยยิ้มแห่งความสุข แต่ได้ยินมาว่ากว่าจะปรับความเข้าใจกันได้แม่ทัพต้วนฝูชิงผู้ยิ่งใหญ่แทบจะหลั่งน้ำตากันเลยทีเดียว ต่อจากนี้ไปนางได้แต่อวยพรให้ชีวิตคู่ของทั้งสองมีแต่ความสุข ครองรักกันไปจนแก่เฒ่าวันเวลาผันผ่าน ผู้คนต่างใช้ชีวิตดำเนินไปตามวิถีทางของตัวเอง มีเรื่องราวผ่านมามากมาย รวมไปถึงข่าวคราวจากชายแดนที่ร่ำลือกันอย่างหนาหู ผู้คนที่แวะเวียนเข้ามาใช้บริการในหอเหม่ยฮวาต่างก็กล่าวถึงเรื่องนี้ ข่าวที่ได้รับฟังมานั้นทำให้หลี่เจินตกตะลึงอยู่ไม่น้อย ว่ากันว่าในค่ายทหารรักษาชายแดนมีหญิงงามผู้เป็นนางคณิกาที่ลือเลื่องถึงความร้อนแรง สามารถสร้างความเกษมสำราญให้บรรดาเหล่าทหารกลัดมันจนเลี่ยงชื่อไปทั้งค่าย ใช้เวลาเพียงไม่นานก็ปีนป่ายเป็นนางคณ
เช้าวันรุ่งขึ้นผู้คนต่างโจษจันเกี่ยวกับเรื่องราวในตระกูลเฉินที่ในตอนนี้จวนนายอำเภอถูกปิดเงียบ ไร้เงาของคนภายในจวนไม่เว้นแม้แต่บ่าวไพร่ เฉินอวี่จูถูกสามีหย่าขาดในข้อหาคบชู้สู่ชาย สร้างความอับอายให้แก่ตระกูลเป็นอย่างมาก เดิมทีโทษของนางคือห้าม้าแยกร่าง แต่ด้วยความเมตตาของท่านเจ้าเมืองและเห็นแก่หน้าบิดาของลูกสะใภ้ จึงเพียงเนรเทศนางออกจากเมืองซีโจวไปยังชายแดนทุรกันดาร หลังจากเฉินอวี่จูถูกเนรเทศออกไป ต่อมาก็มีข่าวการแต่งเข้าไปเป็นอนุภรรยาจวนตระกูลฮวนของเฉินอี้ซินผู้เป็นน้องสาวต่างมารดาของเฉินอวี่จู และนั่นก็เป็นที่กล่าวถึงของผู้คนอีกครั้งจนไม่มีผู้ใดที่ไม่รู้เกี่ยวกับถึงเรื่องนี้แม้แต่แม่ทัพตระกูลต้วน ต้วนฝูชิง บุรุษที่ผู้คนต่างรับรู้ว่าเขาคือคนรักของเฉินอี้ซิน ที่มีข่าวคราวรักสามเส้าออกมาให้ได้ยินอยู่บ่อยครั้ง คนผู้นั้นคงโศกเศร้าอยู่เป็นแน่แต่เปล่าเลย ตอนนี้ผู้ที่ทุกคนต่างคิดว่าเขาคงกำลังเศร้าโศกเสียใจที่สตรีคนรักกลายเป็นภรรยาของผู้อื่นกลับกำลังนั่งดื่มด่ำกับสุรารสเลิศบนชั้นสามของโรงเตี๊ยมอันดับหนึ่งอย่างสบายอกสบายใจ ข่าวนี้ช่างเป็นข่าวที่น่ายินดีที่สุดในรอบปี เขารู้สึกโล่งใจและยินดีเป็น
จบสิ้นกันเสียทีหลี่เจินมองบ่าวไพร่ที่ลากเอาคนทั้งสองไปคุมขังเอาไว้ก่อนตามคำสั่งของเจ้าของจวนเพื่อรอคำตัดสินในวันรุ่งขึ้น กลิ่นอายและคราบความใคร่ที่ทั้งสองทิ้งเอาไว้ทำให้หลี่เจินรู้สึกพะอืดพะอมใบหน้าของนางประเดี๋ยวซีดขาวประเดี๋ยวแดงก่ำ จนต้องรีบหันกายเร่งฝีเท้าตามทุกคนออกไประหว่างที่ทุกคนกำลังพากันออกไปยังห้องโถงกลางเพื่อหารือเรื่องการตัดสินโทษของเฉินอวี่จูที่ได้กระทำการทุกอย่าง หยางซานตงที่เห็นว่าใบหน้างามของภรรยานั้นแดงก่ำจึงคิดขึ้นได้ว่านางนั้นก็อาจจะโดนพิษยาปลุกกำหนัดด้วยเช่นกัน จึงโน้มใบหน้าลงมากระซิบชิดใบหูเล็ก"เจินเอ๋อ ให้พี่ขับพิษกำหนัดให้ก่อนดีหรือไม่ ยังพอจะมีเวลานะ"คำของผู้เป็นสามีทำให้หลี่เจินตัวแข็ง มองอีกฝ่ายอย่างไม่อยากจะเชื่อ สายตาพราวระยับที่สื่อความนัยนั้นทำให้นางสะบัดร้อนสะบัดหนาว สถานการณ์เช่นนี้เขายังมีอารมณ์คิดเรื่องอย่างว่า"นี่ท่าน...ข้ามิได้ถูกพิษกำหนัดเสียหน่อย"หลี่เจินฟาดฝ่ามือลงบนบ่าแกร่งของบุรุษบ้าตัณหาเต็มแรง ก่อนจะเร่งฝีเท้าเดินตามทุกคนไปยังห้องโถงไม่อาจที่จะทนมองหน้าอีกฝ่ายที่หื่นไม่ดูเวล่ำเวลาหยางซานตงยิ้มให้กับท่าทางเขินอายของภรรยาตัวน้อย ก่อนคิ้
หลี่เจินเดินตามหญิงรับใช้นางนั้นมาจนถึงห้องห้องหนึ่ง เมื่อส่งนางถึงที่หมายหญิงรับใช้ผู้นั้นก็ปลีกตัวออกไปในทันที นางยืนชั่งใจอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะผลักบานประตูเข้าไป หลังประตูบานนั้นสตรีที่นางต้องการเจอตัวกำลังนั่งด้วยท่าทางเกียจคร้านละเลียดจิบสุราในมือด้วยใบหน้ามีความสุขยิ่ง สายตาที่ใช้จ้องมองนางวาววับดูไม่น่าไว้ใจแม้แต่น้อย"เจ้าต้องการอะไร มีสิ่งใดก็พูดมา"หลี่เจินเอ่ยถามอีกฝ่าย สายตานั้นจ้องมองสตรีจิตวิปลาสตรงหน้าอย่างระมัดระวัง"ใจร้อนเหมือนเดิมเลยนะเจ้าคะ พี่สาว"เสียงอ่อนหวานของเฉินอวี่จูนั้นฟังดูช่างเยือกเย็น ริมฝีปากที่แต้มชาดสีสดนั้นแสยะยิ้มที่ทำให้คนมองนึกถึงฆาตกรโรคจิต สตรีนางนี้เกินเยียวยาแล้วจริงๆ"เจ้ามิต้องกล่าวให้มากความ ถุงหอมใบนี้ไปอยู่กับเจ้าได้เช่นไร"หลี่เจินกดข่มความหวาดผวาที่ชวนให้หนาวเยือกเอ่ยถามอีกฝ่ายราวกับกำลังควบคุมโทสะ ท่าทางของนางทำให้สตรีตรงหน้าหัวเราะขึ้นมาราวกับกำลังเจอเรื่องตลกขบขัน"เอ...ข้าเอาถุงหอมใบนี้มาได้เช่นไรนะ เจ้าอยากรู้จริงๆ น่ะหรือ พี่สาว"เฉินอวี่จูเอ่ยกับสตรีหน้าโง่ตรงหน้าด้วยรอยยิ้มยั่วเย้า นางรู้สึกสมเพชเวทนาอีกฝ่ายยิ่งนัก เพียงนางให้บ่า
แล้วงานเลี้ยงฉลองครบรอบวันเกิดของท่านนายอำเภอเฉินก็มาถึง ผู้คนในอาภรณ์งดงามหรูหราต่างหลั่งไหลเข้ามาร่วมอวยพรให้กับเจ้าของงานเลี้ยงผู้เป็นใหญ่ในอำเภอซีซาแห่งนี้ ผู้ที่มาร่วมงานต่างเป็นคนใหญ่คนโตและมีหน้ามีตาในสังคมชั้นสูงทั้งสิ้น และในครั้งนี้ดูท่าว่าจะจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่กว่าในทุกปี คาดว่าคงมีสิ่งพิเศษเป็นแน่เฉินอวี่จูในอาภรณ์งดงามหรูหรา ใบหน้าหวานนั้นถูกแต่งแต้มจนงามล้ำต่างได้รับคำชื่นชมและความสนใจจากผู้คนที่มาร่วมงาน นางหยัดยิ้มกว้างเคียงคู่มากับบุรุษรูปร่างสูงโปร่งใบหน้าหล่อเหลาคล้ายดังบัณฑิตผู้ทรงภูมิที่เหล่าสตรียังไม่ออกเรือนต่างชม้ายชายตามอง แม้ข้างกายของเขานั้นจะมีฮูหยินเช่นนางเคียงกายอนิจจาสายตาชื่นชมระคนอิจฉาเหล่านั้นหาได้ทำให้นางรู้สึกพอใจไม่ อันว่ามนุษย์นั้นมิรู้จักพอย่อมจะเป็นคำกล่าวที่มิได้เกินจริงแม้แต่น้อย รัก โลภ โกรธ หลง หากมันจะมีอย่างพอดีก็คงมิมีอันใดผิด แต่หากทะเยอทะยาน อยากได้ อยากมีมากจนเกินไปก็สามารถสร้างหายนะให้แก่ชีวิต แต่ดูเหมือนจิตใจของนางจะมืดบอดเกินกว่าจะมองเห็นเสียแล้ว ภายในจิตใจยังครุ่นคิดถึงแต่ชายอื่น ผู้ซึ่งมีฐานะเป็นสามีของพี่สาวต่างมารดา สายตาหวานน