Share

บทที่ 12 วางแผนแยกบ้าน

Author: sanvittayam
last update Last Updated: 2024-12-22 15:42:45

บทที่ 12 วางแผนแยกบ้าน

หลังจากซื้อของเสร็จแล้วก็รีบกลับบ้าน โดยอาศัยเกวียนเทียมคันใหม่ที่จะผ่านหมู่บ้าน อาจเพราะขากลับไม่ใช่เวลาที่คนจะกลับกันจึงมีคนบนเกวียนเทียมน้อยมาก

ซิ่วอิงแอบฟังที่ลุง ๆ ป้า ๆ นินทาเรื่องต่าง ๆ เพื่อเก็บข้อมูลไปด้วย ไม่แน่อาจมีประโยชน์ต่อตัวเองในอนาคต หลังลงจากเกวียนมาก็รีบเดินลัดเลาะไปตามชายป่าเพื่อกลับบ้านสกุลเว่ย

กลับมาถึงบ้านโชคดีที่ไม่มีใครเห็น เพราะอย่างที่กล่าวเอาไว้คนบ้านรองนั้นชอบขลุกศึกษาหนังสืออยู่ในห้อง ส่วนย่าเว่ยก็ยังไม่กลับมาจากไปฝอยอยู่บ้านอื่น

เว่ยซิ่วอิงมองซ้ายมองขวาแล้วแอบเดินเข้าห้องเล็กของครอบครัวตัวเองไป ปิดประตูลงตามหลังแล้วจึงพรูลมหายใจออกจากปาก

“โชคดีที่ไม่มีใครเห็นนะ ดูเหมือนจะแอบออกไปบ่อย ๆ ไม่ได้ แต่ภายในหนึ่งอาทิตย์นี้ต้องหาทางออกจากบ้านสกุลเว่ยอีกให้ได้!”

ตอนนี้เว่ยจิงจิงอยู่ในร่างของเว่ยซิ่วอิงแล้ว และต้องใช้ชีวิตในฐานะเว่ยซิ่วอิงต่อไป นี่คือโอกาสมีชีวิตอีกครั้ง เธอไม่ยอมปล่อยมือไปง่าย ๆ และจะทำให้มันดียิ่งขึ้น

กลับเข้ามาในห้อง เธอเงี่ยหูฟังเสียงคนในบ้าน เมื่อแน่ใจว่าจะไม่มีใครมาหาเรื่องก็เอนหลังลงบนที่นอน

วูบ~

ทันใดนั้นทั้งร่างก็มาโผล่ในร้านเครื่องสำอางแล้ว

ซิ่วอิงมองไปรอบ ๆ เห็นว่าของที่ซื้อมากองอยู่บนพื้นพร้อมถุงใส่เงิน หญิงสาวเดินไปหยิบพวกนั้นมาวางบนโต๊ะ ลากเก้าอี้มานั่ง เปิดอาหารออกกิน

“อาหารของที่นี่ก็ใช้ได้ หรือเราเจอร้านอร่อย” นึกถึงร้านซาลาเปากับร้านบะหมี่ที่เจ้าของเอาอาหารมาขายในตลาดมืด ก็แอบจดจำใบหน้าของพวกเขาเอาไว้ในใจ

คนค้าขายในตลาดมืดเมื่อเปิดเสรีการค้าส่วนใหญ่มักจะลงทุนเปิดร้านค้าหรือบริษัทเป็นของตัวเอง รู้จักคนไว้เยอะ ๆ ก็ไม่เสียหายอะไร

ขณะที่เคี้ยวอาหารตุ้ย ๆ มือก็หยิบกระเป๋าผ้ามาเทเงินออกบนโต๊ะ เริ่มใช้นิ้วเรียวนับอย่างช้า ๆ

“ไหนดูซิ ขายของวันนี้ได้สี่ร้อยหยวน ซื้อข้าวของหมดไปร้อยหยวนเลยเหรอ” คงเพราะกว้านซื้อพวกเครื่องปรุง ข้าวสารอาหารแห้ง เนื้อสัตว์ ผักผลไม้จากในตลาดมืดมาจำนวนหนึ่ง เลยใช้เงินไปไม่น้อยทีเดียว จากตอนแรกกำหนดว่าจะใช้แค่ยี่สิบหยวนก็ไม่เพียงพอ แล้วยังใช้เงินมือเติบไปขนาดนั้นอีก

“นี่เท่ากับค่าใช้จ่ายในบ้านนี้สองสามเดือนเลยนะ” ค่าใช้จ่ายในบ้านส่วนใหญ่มาจากการซื้อเครื่องปรุงและเนื้อสัตว์เล็กน้อยเพื่อบำรุงคนในครอบครัว แม้จะไม่ค่อยมีตกถึงท้องครอบครัวซิ่วอิงบ้างก็ตาม

แต่ส่วนที่ใหญ่จริง ๆ กลับเป็นค่าใช้จ่ายในการเรียนของเด็ก ๆ ทั้งสามคนในบ้าน เว่ยหยางหลานชายคนโตของบ้าน อายุห่างจากเธอเพียงไม่กี่เดือน อายุสิบแปดแล้วแต่ยังเรียนไม่จบมัธยมปลายเลย

ถึงอย่างนั้นกลับถูกตามใจให้ไปเรียน เมื่อเรียนจบย่าก็ตั้งใจจะซื้อตำแหน่งพนักงานโรงงานในเมืองให้ ต้องใช้เงินอีกมาก ชีวิตแตกต่างจากซิ่วอิงอย่างสิ้นเชิง

เว่ยหนานเป็นเด็กสาวที่วางตัวเป็นผู้ดีเพราะตามเอาใจลูกสาวคนมีเงินในเมืองเลยได้อานิสงส์หลาย ๆ อย่าง ปากหวานก้นเปรี้ยวแต่ก็เข้ากับผู้อาวุโสได้ดี จึงเป็นหลานรักอีกคนที่ถูกตามใจและได้รับอนุญาตให้เรียนต่อ

เว่ยจุนหลานชายคนสุดท้องยิ่งเป็นที่รักและหวงแหน ใช้เงินไปกับการเรียนมากที่สุดเพราะเรียนเก่ง ถึงแม้ในความทรงจำจะไม่ค่อยได้ข้องเกี่ยวกันแต่ซิ่วอิงคิดว่าคนคนนี้เป็นคนที่เย็นชาและโหดร้ายที่สุดในบ้าน เพียงแต่ฉลาดมากเท่านั้นเอง

สรุปแล้วบ้านรองมีเพียงอารองที่ใช้แรงงานโดยทำงานในทุ่ง ถึงอย่างนั้นก็เป็นงานสบายกว่ามาก เพราะเมื่อสิบปีก่อนพ่อถูกแย่งตำแหน่งนั้นไป

นี่เป็นตำแหน่งที่อารองอาศัยความกตัญญูของพ่อเพื่อแย่งชิงไป แม้หัวหน้าหมู่บ้านและเลขานุการคอมมูนจะต้องการเลื่อนระดับให้พ่อ แต่ตำแหน่งนั้นเขาจะมอบให้ใครต่อก็เป็นสิทธิ์ของเขา ดังนั้นจึงทำอะไรไม่ได้อีกเมื่อเป็นแบบนี้

พ่อของซิ่วอิงช่างโง่เขลาเหลือเกิน เขาตกอยู่ภายใต้หลุมลึกที่ไม่สามารถเติมได้เต็ม โดนควบคุมด้วยคำว่าเป็นลูกชายคนโตต้องดูแลครอบครัว แล้วยังต้องกตัญญูต่อพ่อแม่

ซิ่วอิงต้องหาวิธีทำอะไรสักอย่าง บางทีหลังจากนี้เธออาจจะต้องคุยกับพ่อแม่ตรง ๆ

เธอเข้าใจได้ว่าทำไมเว่ยตงจึงไม่กล้าตัดสินใจทำอะไรให้เด็ดขาดเสียที ข้อแรกเขาเป็นลูกชายคนโต ตามกฎแล้วพ่อแม่จะอยู่กับลูกชายคนโตจนแก่เฒ่า ข้อสองเขาไม่มีลูกชายจึงไม่สามารถแยกบ้านได้ตามกฎ และหากต้องการแยกบ้านออกไปเองก็จะผิดกฎข้อแรกและโดนกล่าวหาเรื่องอกตัญญูได้ง่าย ๆ

ข้อที่สามคือ การแยกบ้านจะได้รับที่ดินจากหมู่บ้านตามจำนวนสมาชิกชายในครอบครัว ผู้หญิงเด็กและคนแก่จะไม่นับเว้นแต่จะบุกเบิกเอาเอง และในยุคนี้กฎหมายข้อนี้เป็นโมฆะไปชั่วคราว

ข้อสุดท้าย พ่อรู้ดีว่าด้วยความโหดเหี้ยมของย่า พวกเขาจะถูกไล่ออกจากบ้านตัวเปล่า ย่าไม่ยอมแบ่งทรัพย์สินอย่างเป็นธรรมแน่ ดังนั้นหากออกไปอยู่กันเองก็เท่ากับพาลูกเมียออกไปอดตาย

คนเราถ้ามีหนทางรอดอย่างไรก็ต้องอยากหลุดออกจากกรงขังอยู่แล้ว โดยเฉพาะกรงที่อัตคัดอย่างนี้ ใช่ว่าเว่ยตงไม่อยากทำอะไรเลย เขาเคยลองหลายครั้ง จนรู้ว่าพูดกับพ่อไปก็เปล่าประโยชน์ พ่อของเขาให้แม่จัดการแทบทุกเรื่อง

ยิ่งตอนนี้ปู่เริ่มล้มป่วยจนไปทำงานในทุ่งได้แค่เล็ก ๆ น้อย ๆ ก็ยิ่งทำให้อำนาจในบ้านตกไปอยู่ในมือของย่าเกือบทั้งหมด

หวังซื่อครอบงำตระกูลนี้มาหลายสิบปี จนปู่ไม่รู้ด้วยซ้ำว่ารายรับรายจ่ายของบ้านเป็นอย่างไร คงไม่รู้ว่าครอบครัวอาใช้เงินไปเท่าไร และบ้านใหญ่หาเงินเข้าบ้านได้เท่าไร

บางทีถ้าคิดในมุมที่ปู่เฉยเมยขนาดนั้น เผลอ ๆ ย่าอาจเป่าหูและพูดอะไรไม่ดีเกี่ยวกับพ่อต่อหน้าปู่ได้ นี่จึงเป็นเรื่องยากที่จะจัดการกับผู้อาวุโสในบ้าน

แต่ตอนนี้ปัญหาที่เว่ยตงกังวลจะไม่เกิดขึ้น แม้ออกจากบ้านนี้ไปตัวเปล่า เธอก็มั่นใจว่าจะพาพ่อแม่อยู่รอดไปจนแก่เฒ่าได้ รุ่งเรืองและร่ำรวยในฐานะแม่ค้าจากอนาคต!

ดังนั้นเว่ยตงผู้เป็นพ่อก็ควรเปลี่ยนความคิด และมีหนทางเดียวเท่านั้น คือการบอกความจริงออกไป

แต่จะบอกอย่างไรล่ะ…

ร่างบอบบางเก็บขยะรวมในถุง ก่อนที่จะทันได้ทำอะไร ถุงขยะนั้นก็สลายหายไปต่อหน้าต่อตา

“ดีเหมือนกันนะ ไม่ทิ้งขยะไว้เป็นมลพิษ” หรือบางทีขยะที่หายไปอาจถูกนำมาใช้ซ้ำเป็นบรรจุภัณฑ์พวกนั้นที่ระบบสร้างขึ้นก็ได้

แกรก!

เสียงความเคลื่อนไหวดังขึ้น ประตูเปิดออก ซิ่วอิงจึงลืมตาตื่นขึ้นมาบนเตียงนอนตัวเอง หันไปด้านข้างเห็นแม่มองมาด้วยความเป็นห่วง

“แม่ กลับมาทำอาหารเย็นเหรอคะ”

“แม่ทำเสร็จแล้ว อิงเอ๋อร์ลุกไหวไหมลูก ออกไปกินข้าวกัน”

“พ่อล่ะคะ” มองไปด้านหลังเห็นพ่อเดินเข้ามาพอดี

“กลับมาแล้วเหรอคะ” แม่เองก็รับรู้ได้ หันไปช่วยพ่อมานั่งลง หาน้ำมาให้ดื่ม นั่งสักพักพ่อก็พูดออกมา

“ซิ่วอิง เป็นยังไงบ้างลูก ดีขึ้นบ้างไหม”

“ดีขึ้นนิดหน่อยค่ะ”

มองใบหน้าที่ยังซืดเผือดของลูกสาว ใจของเว่ยตงยังหวาดกลัวไม่หาย ก่อนหน้านี้อาการแย่จนเกือบตาย โชคดีที่ผ่านพ้นมาได้ คนเป็นพ่อรู้สึกผิดจนทำอะไรไม่ถูก

“พ่อ แม่… ปิดประตูดี ๆ เถอะค่ะ อิงอิงมีเรื่องจะปรึกษา”

“อิงเอ๋อร์มีอะไรเหรอลูก” ผู้เป็นแม่เอ่ยถาม หลังปิดประตูหน้าต่างดีแล้ว ตรวจสอบแน่ใจว่าไม่มีคนมาแอบฟัง

แน่นอนว่าตอนนี้ไม่มีใครมาแอบฟังเพราะทั้งบ้านคงกำลังกินข้าวโดยไม่ได้สนใจเลยว่าบ้านใหญ่จะไปกินหรือไม่ อย่างไรก็นั่งกันคนละโต๊ะอยู่แล้ว

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ข้ามเวลามาเป็นแม่ค้าหลงยุค ยุค70   ตอนพิเศษ 4 ตลอดไป

    ตอนพิเศษ 4 ตลอดไปชีวิตของซิ่วอิงตอนนี้มีความสุขมาก ความจริงเธอก็มีความสุขตลอดมาอยู่แล้ว แต่เมื่อคิดว่ามีเด็กตัวเล็ก ๆ กำลังอาศัยอยู่ภายในร่างกายตัวเองและเจริญเติบโตขึ้นทุกวัน มันเป็นความสุขที่แตกต่างออกไปจริง ๆ“อีกสิบวันก็จะได้เจอหน้ากันแล้วนะลูก” หญิงสาวใช้มือลูบหน้าท้องที่ใหญ่ไม่ต่างจากลูกแตงโมของตนเอง นี่ก็ใกล้คลอดเต็มทีแล้ว ทำให้เมื่อสามีออกไปทำงาน หลันถังกับเหม่ยฟางผู้เป็นแม่ก็จะแบ่งเวลามาอยู่เป็นเพื่อนเสมอถึงตอนนี้หลันเซียงฮั่นจะย้ายมาประจำการอยู่ใกล้ ๆ แต่เขายังคงต้องเดินทางไปทำงานต่างเมืองเมื่อได้รับมอบหมายภารกิจ และคราวนี้ก็เช่นกันในตอนแรกเซียงฮั่นไม่คิดจากภรรยาไปจนกว่าเธอจะคลอดลูกและปลอดภัย เขากลัวว่าซิ่วอิงจะหวาดกลัวหากตนเองไม่ได้อยู่เคียงข้างตอนคลอดลูก จึงคิดปฏิเสธภารกิจในครั้งนี้และขอลาหยุดสักเดือนแต่เป็นซิ่วอิงที่คะยั้นคะยอให้ชายหนุ่มไปทำงานเพราะเหลือเวลาอีกสองอาทิตย์ก่อนถึงกำหนดคลอด อย่างไรเขาก็กลับมาทันอยู่แล้วเธอจึงนั่งอยู่ในสวนสวยเฝ้ามองหน้าประตูเป็นระยะด้วยใจคิดถึงสามีบ้างเป็นบางครั้ง แต่ส่วนใหญ่ก็มักจะนึกคิดทำผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ออกมาเล่นเสียมากกว่า ไม่ได้อยู่บ้า

  • ข้ามเวลามาเป็นแม่ค้าหลงยุค ยุค70   ตอนพิเศษ 3 ภรรยาท้องแล้ว

    ตอนพิเศษ 3 ภรรยาท้องแล้ว“อิงอิง ลุกมากินของอร่อยเถอะลูก วันนี้แม่ของอิงอิงเอาอาหารอร่อยมาฝากแม่ไว้ตั้งเยอะ”“อิงอิงยังเพลีย ๆ อยู่เลยค่ะ สงสัยเพราะช่วงนี้ทำงานหนักเกินไป ขอนอนอีกหน่อยนะคะแม่” ซิ่วอิงบอกกับแม่สามีเนื่องจากสองบ้านปรองดองกันดีมาก ซิ่วอิงใช้เงินเพื่อซื้อบ้านที่อยู่ตรงข้ามให้กับพ่อแม่ ขณะที่ตนเองเลือกจะมาอยู่บ้านแม่สามีเวลาที่คุณพ่อสามีและหลันเซียงฮั่นที่เป็นสามีไปทำงานต่างจังหวัดพร้อมกันโดยมีบ้านของตัวเองที่ใช้อยู่กับสามีต่างหากอีกหลังหนึ่ง และใช้อยู่เมื่อสามีกลับมาหาเท่านั้น แต่ปกติแล้วซิ่วอิงจะสลับไปมาระหว่างบ้านพ่อแม่ตัวเองและพ่อแม่สามีเสียมากกว่าตอนนี้เธอก็มาอยู่บ้านหลัน เพราะทั้งคุณพ่อและสามีล้วนออกไปทำงาน ส่วนเซียงฮั่นนั้นจะกลับมาในวันพรุ่งนี้“อิงอิงไม่ต้องทนนะ ไปหาหมอเลยดีกว่า บ้านเราขาดเงินทองซะที่ไหนกัน หรือแม่ซื้อโรงพยาบาลไว้ให้ก็ได้” หลันถังยังคงใจป้ำเหมือนเดิม เมื่อได้ลูกสะใภ้คนนี้มาชีวิตเธอก็มีความสุขขึ้น จนรู้สึกรักเอ็นดูซิ่วอิงเหมือนเป็นลูกของตัวเองไปอีกคน เผลอ ๆ รักมากกว่าลูกตัวเองเสียอีก“เอ่อ ไม่เป็นไรค่ะ อิงอิงไปหาหมอเฉย ๆ ดีกว่า” ซิ่วอิงยิ้มแหยให้

  • ข้ามเวลามาเป็นแม่ค้าหลงยุค ยุค70   ตอนพิเศษ 2 สามีที่ดี

    ตอนพิเศษ 2 สามีที่ดีแม้ว่าทุกอย่างจะดำเนินไปด้วยดี แต่อย่างไรในชีวิตก็ต้องมีบางสิ่งมากระทบกระทั่ง สุดท้ายแล้วซิ่วอิงและครอบครัวก็ยังเป็นมนุษย์ธรรมดาที่ใช้ชีวิตอยู่ในสังคมมนุษย์ช่วงนี้ซิ่วอิงรู้สึกไม่สบายใจเล็กน้อย หลังสามีกลับมาจากทำงานครั้งล่าสุด เธอได้กลิ่นน้ำหอมของผู้หญิงติดมาเพิ่งแต่งงานได้ไม่นาน เขาจะเบื่อเธอและหาเรื่องเข้าบ้านแล้วจริง ๆ อย่างนั้นเหรอ?มีหรือหลันเซียงฮั่นจะไม่รู้ว่าภรรยามีความกังวลอะไรบางอย่างในใจ เขาหันมองไปรอบตัวก่อนจะจับลูกน้องที่มีภรรยาแล้วมาสอบถาม“ภรรยาฉันเป็นอะไรไป” เซียงฮั่นเป็นผู้บัญชาการที่เก่งกาจ เขายังดูแลเอาใจใส่ภรรยาจนลูกน้องแอบเรียกลับหลังว่าสามีแห่งชาติ แต่เมื่อเกิดปัญหาขึ้นมาชายหนุ่มก็ยังเป็นเพียงคนที่เพิ่งเคยมีความรัก“คุณผู้หญิงมีท่าทางยังไงครับ”“ช่วงนี้ไม่ค่อยให้ฉันเข้าใกล้ เวลานอนก็หันหลังให้” เซียงฮั่นนึกถึงท่าทางของภรรยาแล้วก็ปวดใจ เขาไปทำอะไรให้เธอไม่พอใจหรือเปล่า แต่พอถามแล้วเธอก็บอกว่าเปล่าและฝืนยิ้ม เก็บเรื่องราวไว้ในใจคนเดียว คิดว่าเขามองไม่เห็นอย่างนั้นเหรอ“ถ้าอย่างนั้นนายท่านไปทำอะไรมาหรือเปล่าครับ” ทหารคนสนิทมองหน้าเจ้านายอายุน

  • ข้ามเวลามาเป็นแม่ค้าหลงยุค ยุค70   ตอนพิเศษ 1  ชีวิตที่ใฝ่หามานาน

    ตอนพิเศษ 1 ชีวิตที่ใฝ่หามานานตอนนี้ชีวิตใหม่ของเว่ยซิ่วอิงลงตัวอย่างมาก ได้ก่อตั้งธุรกิจในยุคแรกเริ่ม อนาคตมีแต่จะรุ่งเรืองขึ้นเรื่อย ๆ แม้ไม่ต้องพึ่งพามิติร้านเครื่องสำอางก็ตามนอกจากนี้ยังมีสามีคอยเอาอกเอาใจ แม่สามีแสนดีที่ไม่มีการกดขี่ลูกสะใภ้เลยสักนิด ครอบครัวของเธอก็คอยสนับสนุนอยู่เบื้องหลังเสมอซิ่วอิงคิดว่าแค่นี้เธอก็ประสบความสำเร็จมากแล้วในฐานะผู้หญิงคนหนึ่ง ลำพังเกิดมามีแม่สามีดีอย่างหลันถัง ก็คงมีคนสงสัยว่าเธอทำบุญกู้ชาติมาในชาติก่อนแน่ ๆ ถึงได้มีชีวิตที่ดีขนาดนี้แค่ถึงอย่างไรคนเก่งก็มีปัญหาของคนเก่ง เพราะสามีต้องไปทำงานต่างเมืองบ่อย ๆ เธอเลยใช้เวลาว่างส่วนใหญ่ไปกับงานในร้านกระทั่งสามีกลับมาอยู่ด้วยกันแล้ว เธอก็ยังวุ่นวายอยู่กับร้านค้าโชคดีที่เซียงฮั่นเข้าใจแล้วยังสนับสนุนภรรยาให้ทำตามใจปรารถนาได้เต็มที่ เมื่อเขาได้พักเพิ่มสักหนึ่งหรือสองวัน ก็มักจะพาซิ่วอิงไปที่ร้านเสมอเพื่อเอาอกเอาใจหากพาไปร้านอาหารแบบคนหนุ่มสาวก็แล้วไป เขากลับพาเธอเข้าร้านตัวเองเพื่อให้หญิงสาวหาเงินที่เธอชอบนักหนา และแน่นอนว่าซิ่วอิงชอบการแสดงความรักของสามีแบบนี้มากกว่า“มีอะไรหรือเปล่า” ขณะที่นั่งก

  • ข้ามเวลามาเป็นแม่ค้าหลงยุค ยุค70   บทส่งท้าย  คุณคือคนที่อยากอยู่ด้วยไปตลอดชีวิต

    บทส่งท้าย คุณคือคนที่อยากอยู่ด้วยไปตลอดชีวิตรถยนต์สีดำขับไปตามทางที่คุ้นเคยไม่นานก็มาถึงกำแพงบ้านหลัน ทหารเฝ้ายามเปิดประตูต้อนรับด้วยความยินดี เมื่อรถจอดเทียบขาเรียวก็ก้าวออกมา“อิงอิง มาแล้วเหรอจ๊ะ” ที่ยืนอยู่ตรงหน้าตอนนี้คือป้าหลัน พร้อมทั้งเหม่ยฟางผู้เป็นมารดาของตนเอง ซิ่วอิงไม่ได้รู้สึกผิดสังเกตอะไรเพียงยื่นมือไปหาพวกท่านอย่างเป็นธรรมชาติ“ป้าหลันสบายดีไหมคะ วันนี้แอบเข้าครัวกับแม่อีกแล้วหรือเปล่า” ซิ่วอิงสนอกสนใจดูมือของผู้ใหญ่ตรงหน้า ขณะที่ท่านจับจูงเธอเดินทะลุตัวบ้านไปยังสวนด้านหลัง“ป้าเข้าครัวไปก็รกครัวเปล่า ๆ ไม่เข้าไปรบกวนเหม่ยฟางหรอกนะ”“อิงอิงลูกเงยหน้าขึ้นก่อน” เสียงอ่อนโยนของผู้เป็นแม่ดังขึ้น เมื่อรู้ตัวซิ่วอิงก็มาอยู่ในสวนหลังบ้านของสกุลหลันแล้วหญิงสาวเงยหน้าขึ้นด้วยความสงสัย สิ่งแรกที่เห็นคือร่างสูงของชายหนุ่มที่เธอคิดถึงมาตลอดหลายเดือนที่ผ่านมาและติดต่อกันทางโทรศัพท์ไม่กี่นาทีต่อเดือนเท่านั้นตอนนี้เขายังสวมชุดทหารเต็มยศ ในมือมีช่อดอกไม้สีขาวบริสุทธิ์ ล้อมรอบไปด้วยแสงเทียนและซุ้มดอกไม้ที่ถูกตั้งใจตกแต่งเอาไว้อย่างดีจนทั่วทั้งสวน“พี่เซียงฮั่น” ซิ่วอิงยิ้มออกมาด้วย

  • ข้ามเวลามาเป็นแม่ค้าหลงยุค ยุค70   บทที่ 44 หาเรื่องใส่ตัว

    บทที่ 44 หาเรื่องใส่ตัว“แม่คะ เราไป…” ก่อนที่คุณหนูลู่จะพูดจบ มารดาของหล่อนก็เดินลิ่ว ๆ เข้าไปในวงสนทนาที่เว่ยซิ่วอิงอยู่ก่อนแล้ว เห็นอย่างนั้นก็ยิ่งทำให้คุณหนูลู่พึงพอใจที่ไม่ต้องทำอะไรเอง“นี่มันแม่ค้าขายเครื่องสำอางนี่นา มาตรฐานงานเลี้ยงของกองทัพตกต่ำลงถึงขนาดเชิญพ่อค้าแม่ค้าข้างถนนมาร่วมงานแล้วอย่างนั้นเหรอเนี่ย” คุณนายลู่ไม่พอใจเว่ยซิ่วอิงอยู่แล้วจากงานเลี้ยงน้ำชาที่บ้านของคุณนายหลัน ดังนั้นเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายกำลังไปได้ดีก็รู้สึกว่าต้องเข้ามาทำลายและลากคนคนนี้ลงมาให้ได้“สวัสดีค่ะ คุณนายลู่” เว่ยซิ่วอิงไม่ดิ้นเต้นไปตามอารมณ์ของคน เธอทักทายอีกฝ่ายด้วยความเคารพและมีมารยาทเพียงเท่านี้สายตาที่ทุกคนมองมาก็เปลี่ยนไปเล็กน้อย อย่างน้อย ๆ พวกเขาก็มองซิ่วอิงอย่างชื่นชม ขณะที่มองคุณนายลู่เหมือนนางร้ายเกรดต่ำคนหนึ่ง“โอ้ นี่ใครกัน ไม่ใช่คุณชายหลันเซียงฮั่นลูกรักของคุณนายหลันถังหรอกเหรอคะ”“สวัสดี คุณนายลู่” เซียงฮั่นจำต้องทักทายด้วยสีหน้าไม่ดีนัก เขารู้ว่าใครไม่ถูกกับมารดา และต้องหลีกหนีเสมอเมื่อเข้าสังคม แต่คราวนี้ดูเหมือนคนข้างกายจะไม่ยอมหลีกหนีง่าย ๆ ชายหนุ่มทำได้เพียงยืนปักหลักและเป็น

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status