Short
ความลับที่ถูกแช่แข็ง

ความลับที่ถูกแช่แข็ง

Oleh:  เสี่ยวเฉิงTamat
Bahasa: Thai
goodnovel4goodnovel
11Bab
692Dibaca
Baca
Tambahkan

Share:  

Lapor
Ringkasan
Katalog
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi

สามปีก่อน ฉันเป็นสมาชิกทีมสำรวจทางวิทยาศาสตร์ที่มีอนาคตไกลที่สุด แต่หลังจากที่เข้าไปในแอนตาร์กติกา ฉันกลับถูกคนรักของกู้จิ่นเซิน ผู้ชายที่เป็นคู่หมั้นของฉันฆ่าตาย เธอขโมยเสบียงและกรีดใบหน้าของฉันจนเละ ก่อนจะผลักฉันตกเรือ มันน่าเศร้าตรงที่ตอนฉันตาย ฉันกำลังท้องลูกคนที่สองของฉันและกู้จิ่นเซินอยู่ แต่เมื่อทีมกู้ชีพมาถึง เธอกลับกล่าวหาว่าฉันขโมยเสบียงของเธอและกระโดดน้ำหนีความผิดไป กู้จิ่นเซินเป็นคนเขียนรายงานด้วยตัวเอง และลบชื่อฉันออกจากทีมสำรวจ ตั้งแต่นั้นฉันก็กลายเป็นที่รังเกียจของทุกคนในทีม จนกระทั่งสามปีต่อมา ก็มีคนพบศพที่ถูกแช่แข็งเป็นเวลานานของฉัน

Lihat lebih banyak

Bab 1

บทที่ 1

ฉันลอยอยู่กลางอากาศ มองร่างที่อยู่บนเตียงชันสูตรอย่างตกใจ

นั่นมันไม่ใช่คนแล้ว เนื้อและผิวหนังทั่วทั้งร่างถูกเปิดออก อีกทั้งยังมีน้ำแข็งบาง ๆ ปกคลุมอยู่ด้านบน

แม้แต่ฉันก็ยังจำไม่ได้ว่านั่นคือตัวเอง

“พี่กู้ มาแล้วเหรอ?” ผู้ช่วยที่อยู่ข้าง ๆ เมื่อเห็นกู้จิ่นเซินเดินเข้ามาก็เอ่ยทักทาย

“ครั้งนี้ทีมสำรวจเจอศพที่แอนตาร์กติกา”

“ใบหน้าถูกกรีดจนเละ หลักฐานที่สามารถใช้ยืนยันตัวตนก็หายไป พวกเราสงสัยว่าเป็นการฆาตกรรมโดยเจตนา”

เมื่อได้ยินว่าศพนี้ถูกลากขึ้นมาจากแอนตาร์กติกา กู้จิ่นเซินก็ชะงักไปเล็กน้อย ก่อนจะสวมถุงมือปลอดเชื้อด้วยใบหน้าเรียบนิ่ง

ฉันลอยอยู่กลางอากาศ จ้องผู้ชายที่อยู่ตรงหน้าไม่วางตา

สามปี ฉันตายไปสามปีแล้ว

หลังจากที่ตายไป วิญญาณของฉันถูกขังอยู่ในแอนตาร์กติกา ต้องทนทุกข์ทรมานกับความหนาวเย็นทุกวัน

จนในที่สุดก็มีคนเจอฉัน และพาฉันกลับมา

แต่ฉันไม่คิดเลยว่า ครั้งนี้คนที่จะทำการชันสูตรศพของฉันกับมือคือกู้จิ่นเซิน

เมื่อเห็นใบหน้าที่ถูกกรีดจนเสียโฉมของฉัน แม้แต่กู้จิ่นเซิน แพทย์นิติเวชมากประสบการณ์ ยังอดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วโดยไม่รู้ตัว

กู้จิ่นเซินยังไม่ได้ลงมือผ่าในทันที แต่กลับหันไปถามผู้ช่วยก่อน “เสี่ยวเวยรู้เรื่องนี้หรือยัง?”

ผู้ช่วยส่ายหน้า “พี่เวยเวยอยู่เตรียมงานแต่งให้พวกพี่ เธอน่าจะยังไม่รู้“

กู้จิ่นเซินตอบกลับ ”งั้นก็อย่าให้คนในทีมสำรวจบอกเรื่องนี้กับเธอ”

“เธอขี้กลัว ฉันกลัวว่าเธอจะตกใจ” ระหว่างที่พูด ใบหน้าของกู้จิ่นเซินก็เจือไปด้วยความอ่อนโยน

ฉันมองกู้จิ่นเซินอย่างงุนงง

สามปีแล้ว เขากำลังจะแต่งงานกับไป๋เวยเวย

คู่หมั้นของฉันกำลังจะแต่งงานกับฆาตกรที่ฆ่าฉัน

ฉันลอยอยู่กลางอากาศและกำลังมองร่างที่ผุพังของตัวเอง

ต่อให้จะไม่รู้สึกถึงความเจ็บปวด แต่ทุกครั้งที่กู้จิ่นเซินพูด

“บริเวณใบหน้าถูกของมีคมกรีดทั้งหมดสี่สิบห้าแผล”

“บริเวณลำคอมีรอยบาดจากของมีคมและรอยรัด สันนิษฐานว่าถูกรัดคอก่อนจะถูกฆ่า”

ผู้ช่วยที่ยืนอยู่ข้าง ๆ ถึงกับอึ้งไป “ต้องแค้นกันมากขนาดไหน! ถึงได้ฆ่าเธออย่างโหดเหี้ยมแบบนี้!”

คำพูดของกู้จิ่นเซินเย็นชาเป็นอย่างมาก แต่การกระทำกลับดูคล่องแคล่วและเป็นขั้นตอน

ต่อไปเป็นส่วนท้องของฉัน ที่หน้าท้องมีรอยมีดกรีดลึก

“บริเวณท้องมีรอยมีดสิบสามรอย”

เหมือนกับว่าเขาเองก็ใจไม่แข็งพอ “เบื้องต้นสันนิษฐานว่า ทุกบาดแผลเกิดขึ้นก่อนที่จะเสียชีวิต”

“หน้าท้องนูนออกมาเล็กน้อย ด้านในมีตัวอ่อนที่พัฒนาแล้วประมาณสามเดือน”

นั่นคือ ลูกของเรา
Tampilkan Lebih Banyak
Bab Selanjutnya
Unduh

Bab terbaru

Bab Lainnya

Komen

Tidak ada komentar
11 Bab
บทที่ 1
ฉันลอยอยู่กลางอากาศ มองร่างที่อยู่บนเตียงชันสูตรอย่างตกใจ นั่นมันไม่ใช่คนแล้ว เนื้อและผิวหนังทั่วทั้งร่างถูกเปิดออก อีกทั้งยังมีน้ำแข็งบาง ๆ ปกคลุมอยู่ด้านบนแม้แต่ฉันก็ยังจำไม่ได้ว่านั่นคือตัวเอง“พี่กู้ มาแล้วเหรอ?” ผู้ช่วยที่อยู่ข้าง ๆ เมื่อเห็นกู้จิ่นเซินเดินเข้ามาก็เอ่ยทักทาย “ครั้งนี้ทีมสำรวจเจอศพที่แอนตาร์กติกา”“ใบหน้าถูกกรีดจนเละ หลักฐานที่สามารถใช้ยืนยันตัวตนก็หายไป พวกเราสงสัยว่าเป็นการฆาตกรรมโดยเจตนา”เมื่อได้ยินว่าศพนี้ถูกลากขึ้นมาจากแอนตาร์กติกา กู้จิ่นเซินก็ชะงักไปเล็กน้อย ก่อนจะสวมถุงมือปลอดเชื้อด้วยใบหน้าเรียบนิ่ง ฉันลอยอยู่กลางอากาศ จ้องผู้ชายที่อยู่ตรงหน้าไม่วางตา สามปี ฉันตายไปสามปีแล้ว หลังจากที่ตายไป วิญญาณของฉันถูกขังอยู่ในแอนตาร์กติกา ต้องทนทุกข์ทรมานกับความหนาวเย็นทุกวัน จนในที่สุดก็มีคนเจอฉัน และพาฉันกลับมา แต่ฉันไม่คิดเลยว่า ครั้งนี้คนที่จะทำการชันสูตรศพของฉันกับมือคือกู้จิ่นเซินเมื่อเห็นใบหน้าที่ถูกกรีดจนเสียโฉมของฉัน แม้แต่กู้จิ่นเซิน แพทย์นิติเวชมากประสบการณ์ ยังอดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วโดยไม่รู้ตัวกู้จิ่นเซินยังไม่ได้ลงมือผ่าในทันที แต่ก
Baca selengkapnya
บทที่ 2
ฉันไม่รู้ว่าตัวเองไปทำกรรมอะไรไว้ ถึงขั้นต้องเห็นภาพนี้หลังจากที่ตายไปแล้วถึงสามปีฉันลอยลงมามองดูตัวอ่อนเล็ก ๆ ในครรภ์ เป็นครั้งแรกที่ฉันได้เห็นเด็กคนนี้ตอนที่ฉันถูกไป๋เวยเวยฆ่า ฉันไม่ได้ร้องไห้ แม้ตอนที่มองกู้จิ่นเซินผ่าชันสูตรศพฉันด้วยมือของเขาเอง ฉันก็ไม่ได้ร้องไห้ แต่ตอนนี้ น้ำตาของฉันกลับไหลลงมาเหมือนกับสร้อยลูกปัดที่สายขาดเด็กคนนี้มีทั้งมือและเท้าแล้ว ถ้าสามปีก่อนฉันไม่ได้ถูกไป๋ไป๋เวยเวยฆ่า ตอนนี้เด็กคนนี้คงจะอายุสองขวบกว่าแล้วเขาคงจะกอดฉันและเรียกฉันว่าแม่ ฉันคงจะมอบทุกสิ่งที่ดีที่สุดมาประเคนใส่มือของเขา แต่ตอนนี้ ทุกอย่างกลับว่างเปล่า“ยังไม่สามารถระบุตัวผู้ตายได้แน่ชัด ให้พวกเขาไปตรวจสอบและเทียบดีเอ็นเอก่อน”น่าเสียดายจริง ๆ เลยนะ กู้จิ่นเซิน ถ้าคุณใส่ใจมากกว่านี้อีกสักหน่อย คุณก็จะเห็นรอยแผลเป็นจากการช่วยชีวิตคุณในวันนั้นอยู่บนหน้าท้องได้แต่พวกเราก็พลาดกันอีกครั้งผู้ช่วยรับของที่ต้องการนำไปตรวจสอบ พลางเหลือบมองบันทึก ก่อนจะถามต่อ“พี่กู้ ผู้หญิงคนนี้ตายนานเท่าไหร่แล้ว พี่ยังไม่ได้บอกเลย”มือของกู้จิ่นเซินที่กำลังเก็บอุปกรณ์ชะงักไปครู่หนึ่ง เขาไม่
Baca selengkapnya
บทที่ 3
วิญญาณของฉันถูกบังคับให้ตามกู้จิ่นเซินกลับบ้าน ที่ที่เคยเป็นบ้านของฉัน แต่ตอนนี้กลับไม่มีร่องรอยใด ๆ ของฉันหลงเหลืออยู่เลย ทุกอย่างถูกแทนด้วยของที่ไป๋เวยเวยและกู้จิ่นเซินใช้ร่วมกัน“กลับมาแล้วเหรอคะ?” เมื่อไป๋เวยเวยเห็นว่ากู้จิ่นเซินกลับมาแล้ว จึงเดินเข้ามากอดเอวของเขาทันที กู้จิ่นเซินกอดเธอเอาไว้ในอ้อมแขนอย่างอ่อนโยน ก่อนจะฝังหน้าลงกับซอกคอของเธอพร้อมหลับตาลง ช่างรักกันหวานชื่นจริง ๆ การกระทำที่ดูสนิทสนมและเป็นธรรมชาติแบบนี้ กู้จิ่นเซินไม่เคยทำกับฉันเลยสักครั้ง“ยังเจ็บมืออยู่ไหม?” กู้จิ่นเซินถาม ไป๋เวยเวยส่ายหน้ายิ้ม ๆ “ไม่เจ็บแล้ว!”กู้จิ่นเซินมองเธอด้วยความเป็นห่วง “คุณแอบกินยาแก้ปวดอีกแล้วใช่ไหม? “ “ตอนนั้นเจียงหวยเยว่ใช้มีดแทงคุณตั้งหลายครั้ง! อาการเหล่านั้นยังหลงเหลือมาจนถึงตอนนี้อยู่เลย”ฉันลอยอยู่กลางอากาศ ฉันอยากจะโต้แย้งว่าไม่ใช่ฉัน ฉันไม่ได้เป็นคนทำ! ทำไมแค่คำพูดใส่ร้ายที่ออกจากปากของไป๋เวยเวย เขาถึงได้ตัดสินฉันทันทีเลยล่ะ? กู้จิ่นเซิน คุณไม่เคยเชื่อฉันเลยสักครั้งก่อนที่ฉันจะคบกับกู้จิ่นเซิน ฉันไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าไป๋เวยเวยเป็นคนรักของเขา หลังจากเ
Baca selengkapnya
บทที่ 4
ช่วงนี้ฉันถูกบังคับให้ผูกติดอยู่กับกู้จิ่นเซินและไป๋เวยเวย เท่าที่ฉันสังเกตดู พวกเขากำลังพูดคุยกันเรื่องรายละเอียดงานแต่งงาน การลองชุดเจ้าสาวและการแต่งหน้า นี่เป็นครั้งแรกที่ทำให้ฉันรู้ว่ากู้จิ่นเซินสามารถทำได้ขนาดนี้เพื่องานแต่งงานตอนที่ฉันกับเขาจะแต่งงานกัน ฉันเคยอยากปรึกษาเรื่องรายละเอียดงานแต่งกับเขาหลายครั้ง แต่สิ่งที่ได้รับกลับเป็นคำตอบสั้น ๆ ของเขา “คุณไม่รู้หรือว่าผมยุ่งแค่ไหน?” “ก็แค่งานแต่ง ต้องให้ผมมานั่งปวดหัวกับมันด้วยเหรอ?” จริง ๆ แล้วเขาไม่ได้ไม่มีเวลา แต่นี่เป็นความแตกต่างระหว่างรักและไม่รักต่างหากตอนแรก เวลาที่ฉันมองพวกเขา ฉันยังคงเจ็บจนแทบหายใจไม่ออก แต่สุดท้ายฉันก็ชินชาไปแล้วจนกระทั่งวันแต่งงานของพวกเขามาถึง กู้จิ่นเซินสวมชุดสูทที่สั่งตัดอย่างพอดีตัว ส่วนไป๋เวยเวยสวมชุดเจ้าสาวที่กู้จิ่นเซินสั่งตัดให้โดยเฉพาะ พวกเขาสมบูรณ์แบบราวกับเจ้าหญิงและเจ้าชายในนิทาน ไม่เหมือนฉันเมื่อสามปีก่อน ที่แม้แต่ชุดเจ้าสาวยังต้องเช่าในราคาแค่หมื่นกว่าบาทพวกเขายืนต้อนรับแขกที่มาร่วมงานหน้าประตู คนรอบข้างต่างมอบคำอวยพรที่จริงใจให้พวกเขา สมาชิกทีมสำรวจที่ฉันเคยร่วมเ
Baca selengkapnya
บทที่ 5
เมื่อทุกคนแยกย้ายกันออกไป คนที่ปรากฏออกมาคนสุดท้ายคืออู๋คุน อาจารย์ที่ฉันเคารพมากที่สุด“พ่อบุญธรรม! มาแล้วเหรอคะ?” เมื่อเห็นอู๋คุน ดวงตาของไป๋เวยเวยก็เป็นประกายขึ้นมาทันทีอาจารย์อู๋คุนยื่นซองแดงหนาให้เธอ “ยัยหนู สุขสันต์วันแต่งงานนะ!”ยัยหนู? เมื่อก่อนอาจารย์ก็เคยเรียกฉันแบบนี้เหมือนกัน“กู้จิ่นเซิน ดูแลเวยเวยของพวกเราดี ๆ ล่ะ!” อาจารย์อู๋คุนยิ้ม ก่อนจะตบไหล่กู้จิ่นเซินเบาๆ“ที่ต้าจ้วงพูดไม่ผิดเลย ดีแล้วล่ะที่เจียงหวยเยว่หนีไป ไม่อย่างนั้นเธอคงจะเป็นตัวปัญหา ที่เกือบจะทำให้พวกเธอคลาดกันไป!”“บางทีอาจารย์ก็อยากให้เธอตายอยู่ที่แอนตาร์กติกานั่นแหละ ชาตินี้จะได้ไม่ต้องโผล่มาให้เราเห็นอีก!”ฉันที่ลอยอยู่กลางอากาศ กำลังฟังคำพูดที่น่าขบขันของพวกเขา จะหัวเราะก็หัวเราะไม่ออก จะร้องไห้ก็ร้องไม่ออกครั้งหนึ่ง ฉันเคยเป็นดาวรุ่งพุ่งแรงของทีมสำรวจทางวิทยาศาสตร์ในสายตาของทุกคน แต่ตอนนี้ คนที่เคยบอกว่ารักฉันกลับไม่มีใครเชื่อในตัวฉันแม้แต่คนเดียวกู้จิ่นเซินมองอาจารย์อู๋ “อาจารย์อู๋ ไม่ต้องคิดแล้วครับ เจียงหวยเยว่ได้รับโทษแล้ว”“อาจารย์ลืมไปแล้วเหรอ? ตอนนั้นผมส่งรายงานเพิกถอนตำแหน่งและย
Baca selengkapnya
บทที่ 6
ฉันมองกู้จิ่นเซินที่กำลังถือโทรศัพท์และเอนตัวลงเล็กน้อย มือถือหลุดออกจากมือเขาและร่วงลงพื้นอย่างแรง ดวงตาของเขาเลื่อนลอย และจ้องมองไปข้างหน้าอย่างไร้จุดหมาย“จิ่นเซิน เป็นอะไรไป ใครโทรมาเหรอ?” ไป๋เวยเวยที่ยืนอยู่ข้าง ๆ ถามด้วยความเป็นห่วง กู้จิ่นเซินเหมือนจะพูดอะไรบางอย่าง แต่สุดท้ายก็ไม่ได้พูดมันออกมา “ไม่มีอะไร เพื่อนร่วมงานโทรมาน่ะ”อาจารย์อู๋คุนหัวเราะและผลักเขาเบา ๆ “กู้จิ่นเซิน วันนี้เป็นวันดีของนายนะ ทำไมถึงยังคิดเรื่องงานอยู่ได้?”“รีบเข้าไปเถอะ พิธีจะเริ่มแล้ว!” ไป๋เวยเวยเริ่มรู้สึกถึงบางอย่างที่ผิดปกติ เธอจึงพยายามดึงกู้จิ่นเซินให้เข้าไปข้างใน แต่ฉันกลับเห็นว่าร่างกายของกู้จิ่นเซิน ราวกับถูกห่อหุ้มด้วยเงามืดที่ไม่สามารถสลัดออกได้ปกคลุมอยู่ เขาจ้องไปที่ไป๋เวยเวยอย่างพินิจพิเคราะห์ ราวกับต้องการมองให้ทะลุถึงตัวตนที่แท้จริงของเธอฉันรู้ถึงความรู้สึกที่สะท้อนออกมาจากสายตาของเขาดี เพราะหลายครั้งต่อหลายครั้ง ตอนที่ไป๋เวยเวยใส่ร้ายฉัน เขาก็ใช้สายตาแบบนี้มองฉันสายตาที่เต็มไปด้วยการพิจารณา สงสัย และไม่เชื่อใจ“เป็นอะไรไป? จิ่นเซิน” น้ำเสียงของไป๋เวยเวยเริ่มตื่นตระหน
Baca selengkapnya
บทที่ 7
ฉันกลับมายังเตียงชันสูตรที่คุ้นเคยอีกครั้งรวมไปถึงกู้จิ่นเซิน“ทำไมถึงเป็นเธอ ทำไมถึงเป็นเธอล่ะ?”มือของกู้จิ่นเซินสั่นเทาอย่างรุนแรง เขาพยายามหลายครั้งกว่าจะเปิดถุงที่บรรจุร่างฉันได้ เมื่อเปิดออกก็มีลมเย็นโชยออกมา กู้จิ่นเซินไม่สนใจอะไรทั้งนั้น เขาก้มหน้าเข้ามาใกล้เพื่อดูใบหน้าของฉันอย่างชัดเจน แต่หน้าฉันเต็มไปด้วยบาดแผลเหวอะหวะน่ากลัว ทำให้เขาแทบจะมองไม่ออกเขาเหมือนกับนึกอะไรบางอย่างออก จึงรีบเบนสายตาลงมองที่หน้าท้องของฉัน บาดแผลน่ากลัวมากมายกระจัดกระจายอยู่ทั่วบริเวณหน้าท้อง กู้จิ่นเซินมองรอยแผลแต่ละจุด จนสุดท้ายมาหยุดอยู่ที่แผลเล็ก ๆ ที่ไม่สะดุดตามันเป็นแผลที่มีขนาดราว 5 เซนติเมตร อีกทั้งยังมีรอยเย็บหลงเหลืออยู่มันคือบาดแผลที่ฉันได้รับมา เพราะเข้าไปช่วยกู้จิ่นเซินเมื่อสี่ปีก่อนตอนที่ฉันคบกับเขา เมื่อสี่ปีก่อน กู้จิ่นเซินได้รับตรวจสอบคดีหนึ่งฆาตกรเป็นคนร้ายที่โหดเหี้ยมและอันตรายมาก ก่อนจะถูกจับกุม เขาพยายามที่จะฆ่ากู้จิ่นเซินเพื่อให้ตายไปด้วยกัน ตอนที่ฆาตกรจะเอามีดแทงกู้จิ่นเซิน ฉันเข้าไปขวางร่างของเขาโดยไม่ลังเลแม้แต่น้อย แล้วก็วันนั้นเอง ที่ฉันได้สูญเสี
Baca selengkapnya
บทที่ 8
กู้จิ่นเซินมองร่างของฉันอยู่นาน และในตอนที่ฉันกำลังจะคิดว่าเขาคงมองอยู่อย่างนั้นต่อไป จู่ ๆ เขาก็ลุกขึ้น ดึงซิปขึ้นปิด และนำฉันกลับไปวางไว้ที่เดิม เขาหยิบกุญแจและกลับบ้านทันทีแต่ทันทีที่เขาเปิดประตูบ้าน สิ่งที่ต้อนรับเขาก็คือหมัดหนัก ๆ ที่พุ่งเข้ามา “กู้จิ่นเซิน พี่ยังเป็นคนอยู่หรือเปล่า ทำไมถึงทิ้งพี่เวยเวยไว้คนเดียวกลางงานแต่งแบบนั้น?”“พี่รู้ไหมว่าตอนนั้นมีคนหัวเราะเยาะเธอมากแค่ไหน?” คนที่ต่อยกู้จิ่นเซินคือต้าจ้วง ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความไม่พอใจที่มีต่อกู้จิ่นเซินแต่กู้จิ่นเซินราวกับไม่ได้ยินสิ่งที่อีกฝ่ายพูด เขาเดินเข้าบ้านไปเงียบ ๆ “กู้จิ่นเซิน ถึงนายไม่อยากจะแต่งงานกับลูกบุญธรรมของฉัน แต่นายก็ไม่ควรจะทำแบบนี้!” อาจารย์อู๋คุนตบโต๊ะเสียงดังลั่นฉันดูเหตุการณ์ทั้งหมดด้วยความรู้สึกเฉยชา ทุกคนกำลังปกป้องไป๋เวยเวยที่เสียใจอยู่กู้จิ่นเซินนั่งลงตรงข้ามไป๋เวยเวย โดยไม่มีคำขอโทษสักคำ“ไม่เป็นไรหรอกค่ะพ่อบุญธรรม กู้จิ่นเซินมีงานด่วน ฉันเข้าใจ!” ไป๋เวยเวยยิ้ม พร้อมทั้งทำท่าทีเป็นคนใจกว้างเข้าอกเข้าใจผู้อื่น“เวยเวย แผลของคุณยังเจ็บอยู่ไหม?”จู่ ๆ กู้จิ่นเซินก็เอ่ยถ
Baca selengkapnya
บทที่ 9
เมื่อเขาพูดจบ ทุกคนต่างก็นิ่งอึ้งไป ไม่มีใครพูดอะไรออกมา“พาใคร…กลับมา?” ไป๋เวยเวยถามฉันมองไป๋เวยเวย เธอตื่นตระหนกจนมือสั่นเทา เธอขบริมฝีปากแน่นกู้จิ่นเซินมีสายตาอ่านได้ยาก เขาถามซ้ำขึ้นอีกครั้ง “ในภารกิจครั้งนี้ พวกเขานำศพใครบางคนกลับมาด้วย”“คนนั้นก็คือเจียงหวยเยว่”“คุณบอกว่าเจียงหวยเยว่หนีไป แต่ทำไมศพของเธอกลับอยู่ที่แอนตาร์กติกา?”ไป๋เวยเวยพยายามหาข้อแก้ตัว “อาจจะเป็นเพราะตอนเธอหนีไป…”“เธอหนีไปแล้วมีเหตุไม่คาดฝันเกิดขึ้นจนเธอถึงแก่ชีวิต?” กู้จิ่นเซินหัวเราะเบา ๆ “แล้วทำไมตอนตาย เธอถึงมีบาดแผลทั่วทั้งตัว?”“ใบหน้า ลำคอ และท้องเต็มไปด้วยรอยมีด”“สิ่งที่สามารถยืนยันตัวตนของเธอได้ถูกเก็บไปจนหมด…”เมื่อพูดมาถึงตรงนี้ เสียงของกู้จิ่นเซินก็เริ่มสั่น“เวยเวย คุณจะให้ผมเชื่อคุณได้ยังไง?”“กู้จิ่นเซิน นายพูดจริงเหรอ?” อาจารย์อู๋คุนลุกขึ้น และถามด้วยความไม่อยากจะเชื่อท่ามกลางสายตาของทุกคนที่มองมา กู้จิ่นเซินพยักหน้าอย่างเจ็บปวด“เสี่ยวเยว่คือคนที่พวกนายพากลับมาในครั้งนี้…”อาจารย์อู๋คุนทรุดตัวนั่งลงกับพื้น “หรือว่า…หรือว่าหลายปีที่ผ่านมา พวกเราเข้าใจเสี่ยวเยว่ผิดมาตลอด?”
Baca selengkapnya
บทที่ 10
กู้จิ่นเซินไล่ทุกคนออกไปและขังตัวเองไว้ในห้องเก็บของคนเดียว ห้องเก็บของเต็มไปด้วยฝุ่น กู้จิ่นเซินดึงกล่องใบหนึ่งออกมาจากมุมที่ลึกที่สุด ของที่อยู่ในกล่องมีไม่มากนัก ล้วนเป็นสิ่งของที่ฉันเคยให้กู้จิ่นเซิน สิ่งที่วางอยู่บนสุดคือกำไลหยก มันเป็นกำไลที่แม่ของกู้จิ่นเซินสวมให้ฉันด้วยมือตัวเองก่อนที่ท่านจะจากไป“เสี่ยวเยว่ ฉันจะต้องไปแล้วนะ จากนี้เธอกับเสี่ยวเซินต้องดูแลกันให้ดีนะ!”ตอนนั้นฉันตอบว่ายังไงนะ? ฉันตอบเธอว่า “คุณป้าสบายใจได้เลยค่ะ! ฉันจะอยู่กับกู้จิ่นเซินไปอีกนานแน่นอน คุณป้าไม่ต้องห่วง!”แต่สุดท้ายฉันก็ไม่สามารถเดินไปกับกู้จิ่นเซินจนสุดทางได้ ไม่มีคำแก้ตัวใด ๆ ให้แม่ของเขากู้จิ่นเซินจ้องกำไลหยกอันนั้น สีหน้าของเขาแสดงอาการปวดร้าว มือที่สั่นเทาพยายามเอื้อมไปหยิบกำไลขึ้นมา แต่ยิ่งยื่นมือออกไป มือของเขาก็ยิ่งสั่นมากขึ้น ทำให้กำไลหลุดมือและตกลงไปบนพื้นจนแตกออกเป็นเสี่ยง ๆ รอยแตกบนกำไลก็เหมือนรอยแผลบนร่างกายของฉัน“เสี่ยวเยว่…” กู้จิ่นเซินคุกเข่าลงกับพื้น ร้องไห้อย่างหนักเหมือนกับว่าเขาได้เก็บความรู้สึกนี้มานาน ฉันนั่งอยู่ข้าง ๆ เขา มองดูเขาร้องไห้เพราะฉันด้วย
Baca selengkapnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status