Share

Chapter 3 : คนแปลกหน้า

last update Last Updated: 2025-03-01 14:44:10

การที่ต้องมาปรากฎตัวในงานแต่งงานของอดีตแฟนเก่าเพราะเจ้าบ่าวอุตส่าห์ส่งการ์ดเชิญมาเย้ยจบลงด้วยการปั้นหน้าไม่รู้สึกอะไรและปลีกตัวออกมาในช่วงท้าย ๆ ของงานด้วยความคิดที่สับสน กว่าจะรู้ตัวอีกทีหญิงสาวก็มาหยุดบนดาดฟ้าของโรงแรมที่ทางโรงแรมจัดเป็นบาร์ลอยฟ้าเสียแล้ว

มันเจ็บจี๊ดขึ้นมาเมื่อคิดขึ้นมาว่าที่นี่คือสถานที่ที่เขาคนนั้นขอเธอแต่งงานแต่หญิงสาวก็ไม่ได้คิดจะกลับลงไป ไหน ๆ ก็มาแล้ว ดื่มให้ลืม ๆ ไปสักหน่อยจะเป็นไรไป

ท่ามกลางบรรยากาศเงียบสงบของบาร์เรียบหรูบนชั้นดาดฟ้าที่ลูกค้าส่วนใหญ่ต่างจับจองที่นั่งสั่งเครื่องดื่มมาดื่มกันเงียบ ๆ รับลมและชมบรรยากาศท้องฟ้ายามค่ำคืน โดยไม่ให้ความสนใจโต๊ะอื่น ๆ มากนัก ศศรินทร์ก้าวเข้าไปนั่งที่เคาน์เตอร์บาร์ด้วยโดยไม่สนสายตาที่บาร์เทนเดอร์มองมาด้วยความสงสัยรวมถึงสายตาของใครหลายคนที่มองจ้องมา

“ออน เดอะ ร็อค” 

“อะ ออน เดอะ ร็อค เหรอครับ” บาร์เทนเดอร์หนุ่มทวนคำสั่ง ใบหน้าของเขาบ่งบอกว่าไม่มั่นใจนักว่าเขาเข้าใจสิ่งใดผิดไปหรือไม่ หญิงสาวหน้าตาสะสวยอย่างนี้จะดื่มเพียว ๆ เลยหรือ เธอเหมาะกับค็อกเทลสีสันหวาน ๆ ซะมากกว่า...จะดื่มแบบออน เดอะ ร็อค จริง ๆ น่ะหรือ

“ผมว่าเป็นค็อกเทลน่าจะเหมาะกว่านะครับ อย่างเช่น บลู กามิกาเซ่ หวานชื่นใจกว่าแบบออน เดอะ ร็อคเยอะเลย” 

“เอาสิ อะไรก็ได้” หญิงสาวตอบกลับก่อนจะนั่งนิ่งโดยไม่ปริปากพูดอะไรอีก ชายหนุ่มที่เป็นบาร์เทนเดอร์ลอบสังเกตอีกครู่ก่อนจะเริ่มชงเครื่องดื่มให้กับหญิงสาว

เธอคนนี้จะบอกว่าคุ้นหน้า ก็ค่อนข้างจะคุ้น แต่จะบอกว่าเป็นลูกค้าประจำของบาร์ลอยฟ้าแห่งนี้ก็พูดไม่ได้ ถ้าความจำของเขาไม่ผิดพลาดไป เธอคือคนที่ถูกแฟนหนุ่มซึ่งเป็นลูกพี่ลูกน้องของเจ้าของโรงแรมนี้ขอแต่งงานบนนี้เมื่อปีก่อนไม่ใช่หรือ

ข่าวว่าวันนี้เป็นวันที่ลูกพี่ลูกน้องของบอสคนนั้นเข้าพิธีแต่งงานไม่ใช่หรือ ทำไมคนที่ควรจะเป็นเจ้าสาวจึงได้ขึ้นมานั่งอยู่บนบาร์ลอยฟ้าแทนที่จะอยู่ที่ห้องจัดเลี้ยงด้านล่างซึ่งเป็นสถานที่จัดงานล่ะ?

หรือว่าเขาจำผิดไป

“บลู กามิกาเซ่ ได้แล้วครับ” แม้จะเกิดความรู้สึกสงสัยแต่ทักษะและความเคยชินก็ทำให้ชายหนุ่มทำหน้าที่บาร์เทนเดอร์ออกมาได้ดีดั่งเช่นเวลาปกติ เครื่องดื่มสีฟ้าดูน่าลิ้มลองถูกเสิร์ฟตรงหน้าหญิงสาวก่อนที่เขาจะละความสนใจไปเก็บของที่ลูกค้าอีกคนที่มานั่งที่หน้าเคาน์เตอร์แทนที่จะไปนั่งรับลมตามที่นั่งที่ยังว่างทิ้งไว้ก่อนจะลุกจากไป

บาร์บนดาดฟ้าแห่งนี้ขึ้นชื่อเรื่องความเงียบสงบ และให้บรรยากาศผ่อนคลายอารมณ์ ศศิรินทร์มองเครื่องดื่มที่ค่อนข้างจะเข้ากันได้กับชุดที่เธอใส่ด้วยนัยน์ตาแฝงความรู้สึกเจ็บปวดก่อนจะคว้าแก้วขึ้นมาดื่มรวดเดียวจนหมดแก้ววาดหวังว่าความเย็นจากเครื่องดื่มจะดับความร้อนภายในใจลงได้บ้าง

ก็หวังว่าจะเป็นอย่างนั้น...

“ออน เดอะ ร็อค”

น้ำเสียงหนักแน่นแฝงเสน่ห์ที่ผสมผสานความอ่อนโยนและดุดันเข้าด้วยกันดังขึ้นไม่ใกล้ไม่ไกลดึงความสนใจของศศิรินทร์ที่จมอยู่กับความคิดสับสนให้กลับมายังสถานการณ์ปัจจุบัน  หญิงสาวเหลือบสายตาไปมองคนมาใหม่ที่กำลังนั่งลงในที่นั่งข้าง ๆ ซึ่งคนที่นั่งอยู่ก่อนหน้านี้ลุกไปไม่นานก่อนจะถอนสายตากลับมาจ้องที่แก้วของตนอีกครั้ง ลูกค้าจะมาใหม่จะมานั่งแทนที่คนเดิมไม่ใช่เรื่องแปลก

แต่แปลก...

ทั้งที่ไม่รู้จัก เธอกลับรู้สึกว่าได้ถึงแสงแดดอบอุ่นที่พัดพาเอาความเศร้าหมองมืดมนรอบ ๆ ตัวเธอให้เบาบางลงอย่างประหลาด 

ราวกับใครคนนึงในความทรงจำอันเลือนลางที่เพียงแค่นั่งเฉย ๆ ก็ทำให้เธอรู้สึกผ่อนคลายขึ้นได้ น่าแปลก ความรู้สึกแบบนี้เธอแทบจะจดจำไม่ได้แล้ว ทำไมถึงมีคนทำให้รู้สึกขึ้นมาได้นะ

 “พี่ที่นัดกับพี่ต่อไว้ใช่มั้ยครับ” บาร์เทนเดอร์​หนุ่มสอบถามคนมาใหม่แต่ก็ยังเลื่อนเครื่องดื่มที่เพิ่งชงเสร็จให้กับศศิรินทร์ที่เลื่อนแก้วส่งมาบ่งบอกว่าต้องการเพิ่มอีกแก้ว

ร้อยตำรวจเอกรังสิมันตุ์  กัญจนานนท์หรือผู้กองซัน​ อดีตนายตำรวจสายบู๊ที่ถูกย้ายมาฝ่ายสืบสวนสอบสวนหนุ่มมาดนิ่งเหลือบมองแก้วน้ำสีหวานที่ถูกเลื่อนไปให้หญิงสาวพลันมองตามจนแก้วถูกยกขึ้นจรดริมฝีปากแต่ก็ต้องสะบัดหน้าเบา ๆ  เขาดันเผลอจ้องมองริมฝีปากอวบอิ่มของคนแปลกหน้าไม่สมกับเป็นสุภาพบุรุษไปซะได้

เป็นอะไรไปนะ...

ชายหนุ่มคิดกับตัวเองอย่างไม่เข้าใจก่อนจะหันกลับไปตอบกลับคำถามของบาร์เทนเดอร์หนุ่ม​ เพราะไม่อยากจะหันไปสนใจคนแปลกหน้ามากเกินไป...เดี๋ยว​จะโดนเข้าใจว่าเป็นโรคจิตเอาได้

“ใช่แล้วน้อง  พอดียุ่ง ๆ เลยมาช้าไปหน่อย ต่อมันกลับแล้วเหรอ”

“กลับแล้วครับ​ แต่สั่งไว้นะว่าให้เก็บค่าเหล้ากับพี่” บาร์เทนเดอร์ หนุ่มที่ดูจะเป็นกันเองกับลูกค้าทุกคนตอบพร้อมกับเลื่อนเครื่องดื่มที่เพิ่งชงหมาด​ ๆ​ ให้ชายหนุ่ม

“ออน เดอะ ร็อคที่สั่งครับพี่”

“ขอบใจมาก”

ชายหนุ่มพึมพำขอบคุณพร้อมกับลอบมองแผ่นกระดาษที่อยู่ใต้ที่รองแก้วพลางกระตุกยิ้ม การที่บาร์เทนเดอร์พูดคุยกับลูกค้าไม่ใช่เรื่องแปลก แต่วันนี้มันไม่ปกติ​ ระหว่างเขากับบาร์เทนเดอร์คนนี้มันคือการฝากข่าวสารจากคนที่นั่งก่อนหน้ามาถึงเขา

คนที่นั่งอยู่ก่อนหน้านี้คือสายข่าวที่หาโอกาสเจอได้ยากยิ่ง แต่วันนี้ที่เป็นวันแต่งงานของลูกน้องในทีมโอกาสที่ว่ายากก็ลอยมาอยู่ตรงหน้า ทุกอย่างมันควรจะราบรื่นแต่ดูจะไม่ง่ายอย่างที่คิด เพราะข้าง ๆ กันมีหญิงสาวแปลกหน้านั่งอยู่โดยไม่มีทีท่าจะหันไปทางอื่นน่ะสิ

แก้วที่เพิ่งเลื่อนไปให้สาวแปลกหน้าถูกเลื่อนกลับมาให้บาร์เทนเดอร์หนุ่มอีกครั้งโดยไม่มีการพูดจา รังสิมันตุ์เผลอมองอีกครั้งทั้งเพราะต้องการหาจังหวะหยิบกระดาษทั้งเพราะคนข้าง​ ๆ​ เหมือนมีอะไรดึงดูดให้เขาต้องสนใจ

ทักสักหน่อยดีมั้ยนะ

“ดูเข้ากับสีชุดคุณดีนะครับ รสชาติมันดีหรือเปล่า” ไวเท่าความคิดเขาก็เปิดฉากทักถามไปแล้วอย่างชวนคุยทั้งที่ไม่ใช่คนชอบพบปะพูดคุยกับใครทันทีที่เห็นสีของเครื่องดื่มที่ติดก้นแก้วของหญิงสาวอยู่

ศศิรินทร์เหลือบมองดวงตาคมกริบที่มองมาพร้อมกับคำถามก่อนจะเมินหน้าหนี​ ไม่สนใจทั้งคนถามและคำถาม

ผู้ชายแปลกหน้าชวนคุยทั้งที่ไม่จำเป็นต้องรู้จักกันไม่พ้นอยากสานสัมพันธ์​ แต่เธอไม่ใช่ผู้หญิงรักสนุก​ และไม่คิดจะสานต่อกับใครเพียงเพราะความเจ็บปวดและเสียใจ​ มันเหมือนเธอกำลังประชดคนที่เธอเคยลั่นวาจาว่าไม่เสียดาย...เธอจะไม่ทำเรื่องไร้สาระแบบนั้นแน่

ไม่มีวัน....

“ได้แล้วครับพี่” บาร์เทนเดอร์หนุ่มเอ่ยแทรกขึ้นพร้อมกับเลื่อนแก้วให้หญิงสาวก่อนจะหันมายักไหล่ให้ลูกค้าคนพิเศษ ผู้หญิงเขาไม่เล่นด้วย ไอ้เขาก็ช่วยไม่ได้นะ

เจอผู้หญิงปฏิเสธอย่างไม่รักษาไมตรีทำเอารังสิมันตุ์หน้าชาไม่น้อยแต่ก็ได้โอกาสหยิบกระดาษที่มีข่าวสารสำคัญที่ถูกฝากไว้​มาเก็บใส่กระเป๋าเช่นกัน​ เมื่อสิ่งที่ต้องทำเสร็จสิ้นชายหนุ่มก็ยกเครื่องดื่มขึ้นมาดื่มเงียบ​ ๆ​ พร้อมกับเบือนหน้าไปอีกทางราวกับเชิดกลับคนที่กล้าเมินเขาเพื่อไม่ให้ผิดสังเกต

ไม่ตอบก็ไม่ช่างสิ คิดว่าจะง้อหรือไงกัน...

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • คืนรัก ลิขิตหัวใจ   บทส่งท้าย

    งานเลี้ยงรุ่นจัดขึ้นที่ร้านอาหารของหนึ่งในเพื่อนร่วมรุ่นในอีกสามวันต่อมา ไม่มีอะไรที่ทำให้ศศิรินทร์หนักใจได้เท่ากับธีมของงานปีที่ค่อนข้างจะแตกต่างออกไปจากทุกปีธีมชุดนักเรียนเนี่ยนะ?“ซอโซ่ แต่งตัวเสร็จหรือยัง เราเข้าไปนะ” เสียงของรังสิมันตุ์ที่อยู่ด้านนอกเรียกให้คนกำลังแต่งตัวได้สติอีกครั้ง หญิงสาวรีบร้องห้ามทันทีแต่ก็ไม่ทันจึงทำได้เพียงยกมือปิดหน้าด้วยความอับอาย“หยุดนะ อย่า...”“น่ารักออก”“แต่มัน...” ไม่มั่นใจเลยสักนิด เธออายุเลขสามแล้วนะ มาใส่ชุดเหมือนเด็กสิบเจ็ดสิบแปดแบบนี้นี่มัน...เขินชะมัดเลย“ไม่ต้องเขินหรอก เราก็ใส่ เห็นมั้ย”“เธอใส่แล้วดูดี แต่เราใส่แล้วมัน...”“สวย...สวยจนทำให้นึกถึงครั

  • คืนรัก ลิขิตหัวใจ   Chapter70 : คนในใจ

    เพราะทุกอย่างราบรื่นเกินไปศศิรินทร์จึงรู้สึกแปลก ๆ ทว่ามันก็เป็นเรื่องที่แปลกจริง ๆ จะไม่มีเรื่องมันเป็นไปไม่ได้หรอกและศศิรินทร์ก็รู้ทันทีว่าไม่ง่ายก็ตอนที่พลอยขวัญเดินเข้ามาหาในตอนที่เธออยู่เพียงลำพัง เด็กสาวยังคงมีท่าทีเชิด ๆ อยากกับนางร้ายในละครก่อนจะเอ่ยออกมา “คิดว่าทุกอย่างราบรื่นแล้วเหรอ”“คิดผิดแล้ว เพราะจริง ๆ แล้วน่ะพี่ไม่ได้หัวใจพี่ซันหรอก”“หมายความว่ายังไง”“จะบอกให้เอาบุญก็แล้วกัน พี่ซันน่ะมีคนที่รักปักใจมาตั้งแต่มัธยมแล้ว พี่อะแค่ตัวแทนเท่านั้นล่ะ” พลอยขวัญพูดแล้วก็ยกยิ้มอย่างเป็นต่อ “ไม่เชื่อก็ลองเปิดดูในลิ้นชักโต๊ะพี่ซันซิ ในนั้นน่ะมีความในใจพี่ซันส่งถึงรักปักใจของเขาอยู่ เข้าใจไว้ซะว่าพี่ก็แค่ตัวแทน ไม่ใช่คนในใจ”พูดแค่นั้นพลอยขวัญก็จากไป ศศิรินทร์พยายามไม่คิดอะไรแต่สุดท้ายก็เก็บเ

  • คืนรัก ลิขิตหัวใจ   Chapter 69 : แม่หมู

    บ้านของรังสิมันตุ์อยู่กับอย่างเรียบง่าย พ่อของเขายังไม่เกษียณจึงยังไปทำงานพร้อมกับน้องสาวฝาแฝดของเขาอยู่ ส่วนแม่นอกจากจะไปงานต่าง ๆ ตามที่ถูกเชิญแล้วก็ยังเป็นชาวนาสวนผสม ก่อนจะไปตลาดเพื่อซื้อวัตถุดิบสำหรับทำอาหารแม่แสงดาวก็พาเธอแวะไปดูข้าวในนาของท่านที่กำลังอยู่ในช่วงตั้งท้อง“แต่กี้แม่โตกับแม่แล่นเล่นกันอยู่แถวนี่ล่ะ ยามหน้านากะดำนานำกัน ยามเกี่ยวข้าวกะเกี่ยวซ้อยกัน(เมื่อก่อนแม่เรากับแม่วิ่งเล่นกันอยู่แถวนี้แหละ ถึงฤดูทำนาก็ดำนาด้วยกัน ถึงเวลาเกี่ยวก็เกี่ยวช่วยกัน)” การพูดคุยกับแม่ของคนรักหญิงสาวคิดว่าคงจะไม่พ้นเรื่องวัยเด็กของเขา ทว่าเรื่องเล่าครั้งแรกของคุณนายแสงดาวไม่ใช่เรื่องของรังสิมันตุ์เหมือนที่ศศิรินทร์คิดแต่เป็นเรื่องของแม่ ๆ ที่ท่านดูจะคิดถึงเป็นอย่างมาก“ตอนน้อย ๆ แม่โตติดแม่คัก ไปไสกะไปนำกัน บางมื้อกะพากันไปป่วนผู้ใหญ่จนถืกไล่ตีนำกัน(ตอนเล็ก ๆ แม่เราติดแม่มาก ไปไหนก็ไปด้วยกัน บางวันก็พากันไปป่วนผู้ใหญ่จนถูกไล

  • คืนรัก ลิขิตหัวใจ   Chapter68 : กลับบ้าน

    “ฉันว่าแล้วว่าสุดท้ายแกก็ต้องใจอ่อน” เสียงเจือยแจ้วของภาสกรที่ดังอยู่ไม่ได้มีท่าทีอ่อนอกอ่อนใจ หรือขัดใจกับการตัดสินใจของคนเป็นเพื่อน กลับกันภาสกรกลับยิ้มภูมิใจกับความเป็นศศิรินทร์ที่ใจดีกับคนที่ควรใจดี ถ้าศศิรินทร์ให้อภัยและช่วยเหลือคนอย่างคณิตา อันนั้นเขาคงเคือง แต่กับสุนิสา หลังจากได้ฟังถึงเหตุและผลที่ทำให้เธอคนนั้นทำเรื่องต่าง ๆ ไปแล้วก็เห็นใจอยู่เหมือนกัน คนที่ผิดโดยไม่ได้ตั้งใจก็ควรได้โอกาส ถูกมั้ยล่ะแต่คนที่หลอกใช้และยุยงนั่นสิที่ไม่สมควรให้อภัย“แต่กับนังตัวยุแยง แกห้ามใจอ่อนเชียวนะโซ่ ฟ้องมันให้หนักเลย” ไม่วายโยงไปถึงคณิตาที่มีส่วนยุแยงสุนิสา กับสุนิสาเพื่อนจะให้อภัยเขาไม่ว่า แต่กับนทีที่คิดจะเลื่อนขาเก้าอี้รวมไปถึงคนอย่างคณิตา...ปล่อยไว้ไม่ได้“คราวนี้ฉันไม่อยู่เฉย ๆ แน่นอน ฉันจะฟ้องนทีให้ถึงที่สุด ส่วนคณิตา...ในเมื่อสาวเจ้ายุแยง เป่าหูคนอยู่ลับหลัง ฉันก็จะค่อย ๆ ตัดท่อน้

  • คืนรัก ลิขิตหัวใจ   Chapter67 : อุบัติเหตุใหญ่

    ตาคู่คมจดจ้องมองเรือนกายเล็กที่หลับไหลไร้สติมีสายระระโยงระยางรอบกายอยู่บนเตียงด้วยความเจ็บปวดพลางกุมมือเล็กเอาไว้ด้วยดวงตาแดงก่ำ“ตื่นขึ้นมาได้มั้ยโซ่ เราคิดถึงเธอเหลือเกิน”“อึก” เสียงสะอื้นจากกฤติกาและพิชญาดาไม่ได้เข้าหูของรังสิมันตุ์แม้แต่น้อย เขาแนบหน้าลงกับนิ้วเรียวสวยที่ไร้ความเคลื่อนไหวปากก็พึมพำเรียกชื่อหญิงสาวไม่ยอมหยุดจนคนที่ลอบสังเกตการอยู่อดสงสารไม่ได้ ก็น่าสงสารอยู่หรอกนะที่หญิงคนรักมีสภาพเจ้าหญิงนิทราแบบนี้ แต่ก็สมควรแล้ว...ตาย ๆไปซะเลยก็ดีท่ามกลางความโศกเศร้ากระแสข่าวใหญ่ บิ๊กบอสแห่งเดอะชายน์ เอนเตอเทนเมนต์ประสบอุบัติเหตุใหญ่จนอยู่ในอาการโคม่าก็แพร่ว่อนโลกโซเชียล ข่าวลือแพร่สะพัดไปทั้งทางดีและไม่ดี มีทั้งข่าวว่าอาการไม่ได้หนักอย่างที่เป็นข่าวและข่าวว่าบิ๊กบอสของชายน์ได้จากไปแล้วข่าวที่ออกมาทำให้ทั้งบริษัทปั่นป

  • คืนรัก ลิขิตหัวใจ   Chapter66 : ไร้เรี่ยวแรง

    ความสัมพันธ์ที่เหมือนจะเร็วเกินไปเหมือนจะค่อย ๆ เป็นรูปเป็นร่างขึ้นหลังจากที่ได้ใช้เวลาอยู่ด้วยกันจริงจัง พอนึกย้อนกลับและถามตัวเองว่าคิดผิดหรือเปล่าที่เลือกรังสิมันตุ์มาเป็นคู่ชีวิตที่จะจับมือกันไปตลอด ในตอนนี้ไม่มีความลังเลอีกแล้วและคำตอบของเธอก็คือ...เธอคิดไม่ผิดเลยที่เลือกเขาเผลอแป๊บเดียวก็เดินด้วยกันมาได้กว่าสองเดือนแล้ว แต่การเดินทางด้วยกันตลอดระยะเวลาสองเดือนกลับไม่เคยมีการทะเลาะหรือความคิดเห็นไม่ตรงกันร้ายแรงเกิดขึ้น รังสิมันตุ์ในเวลาทำงานเขานิ่งสุขุม และค่อนข้างจะดุสมกับที่เป็นพี่รองของทีมซึ่งมีภาวะผู้นำรองลงมาจากคนเป็นพี่ใหญ่ ส่วนเวลาอยู่ด้วยกันเขากลับทำตัวเป็นเหมือนเด็กชายที่อยู่ในโอวาทบ้าง เกเรบ้าง แต่ก็ไม่เคยขัดใจจริงจังเวลามีเรื่องอะไรเขามักจะให้เธอเป็นคนตัดสินใจและออกความเห็นบ้าง แต่ก็ไม่เคยขัดใจหรือมีท่าทีต่อต้านเลยแม้แต่น้อย ออกจะยอมให้เธอหลายส่วนทำเอาเพื่อนร่วมงานเขาแทบจะหาว่าพี่รองกลัวเมียไ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status