Share

บทที่ 11

Author: ฮวาฮวาตีลังกาแปล
กู้หว่านเยว่ไม่ได้ช่วยซูจื่อชิงและซูจิ่นเอ๋อเย็บถุงหอม

บนเส้นทางการเนรเทศ ไม่มีคุณชายและคุณหนูผู้สูงส่ง ทุกคนต้องลงมือทำทุกอย่างด้วยตัวเอง

ซูจื่อชิงรับถุงหอม จากนั้นไปขอคำแนะนำจากนางหยาง

ซูจิ่นเอ๋อลังเลครู่หนึ่ง แต่ก็ไม่ได้ด่าทออย่างรุนแรงอีกต่อไป หยิบเข็มและด้ายขึ้นมาลองเย็บดู

ทว่าดวงตาของนางกลับมองไปที่กู้หว่านเยว่เป็นครั้งคราว ไม่รู้ว่ากำลังคิดอะไรอยู่

เมื่อเห็นว่าขบวนยังพักอยู่ กู้หว่านเยว่หยิบผ้าขึ้นมาแล้วเดินไปที่ริมลำธาร จากนั้นก้มหน้าลงแล้วแอบหยิบยาสีฟันและแปรงสีฟันออกมาจากมิติเพื่อล้างหน้าแปรงฟัน

ไม่แปรงฟันปากเปื้อนไปหมด นางทนไม่ได้

ในที่ไม่ไกลนัก หลี่ซือซือก็กำลังวักน้ำจากลำธารมาล้างหน้าเช่นกัน หางตาเหลือบไปเห็นกู้หว่านเยว่ล้างหน้าเสร็จแล้ว และกำลังจ้องมองผิวน้ำอย่างตั้งใจ ใจของนางก็เต้นแรงขึ้นมา

อาศัยจังหวะที่ไม่มีใครอยู่รอบๆ ย่องเข้าไปใกล้กู้หว่านเยว่จากด้านหลัง จากนั้นยื่นมือออกไปผลักอย่างรุนแรง

“ว้าย!”

เสียงกรีดร้องดังขึ้น

กู้หว่านเยว่ที่มองเห็นการเคลื่อนไหวของนางจากเงาสะท้อนในน้ำตั้งแต่แรกแล้วจึงหลบไปด้านข้าง ไม่ลังเลที่จะถีบหลี่ซือซือที่กำลังเซไปเซมาลงไปในน้ำ

“ช่วยด้วย!”

หลี่ซือซือกลายเป็นลูกนกตกน้ำในทันที ตะเกียกตะกายอยู่ในลำธารอย่างน่าเวทนา

เมื่อคนในตระกูลซูได้ยินเสียงก็รีบมามุงดู ซูเช่อไม่พูดพร่ำทำเพลง กระโดดลงไปดึงหลี่ซือซือขึ้นมา

เสื้อผ้าของหลี่ซือซือเปียกไปหมด ชื้นแฉะแนบไปกับลำตัว เผยให้เห็นรูปร่างที่โค้งเว้าได้สัดส่วน ชายหนุ่มรอบข้างต่างจ้องมองตาไม่กะพริบ

ซูเช่อรีบถอดเสื้อคลุมออกมาคลุมตัวนางเอาไว้ หลี่ซือซือรู้สึกเสียใจและผลักเขาออก แล้วโผเข้าสู่อ้อมกอดของซูหวู่อวิ๋นที่เข้ามาช้า

“ซือซือ เจ้าตกลงไปในลำธารได้อย่างไร?”

น้ำในลำธารยามเช้าเย็นเฉียบ หลี่ซือซือหนาวจนฟันสั่นกระทบ นางจ้องมองกู้หว่านเยว่ด้วยความเกลียดชัง

“เป็นนาง นางจงใจถีบข้าลงไป”

นางจะไม่มีทางบอกว่านางเป็นคนคิดจะผลักกู้หว่านเยว่ลงไปก่อน เพราะถึงอย่างไรก็ไม่มีใครเห็น

ไม่มีใครรู้จักลูกสาวดีไปกว่าแม่ แค่สบตากันแวบเดียว ซูหวู่อวิ๋นก็เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้นแล้ว

นางดึงหลี่ซือซือมาไว้ด้านหลัง แล้วมองไปที่กู้หว่านเยว่ด้วยสายตาเป็นประกาย “กู้หว่านเยว่ เหตุใดเจ้าถึงใจร้ายขนาดนี้ ซือซือไปมีความแค้นอะไรกับเจ้า เจ้าถึงต้องทำร้ายนางเช่นนี้?”

กู้หว่านเยว่แบมือ “หลี่ซือซือผลักข้าก่อน ข้าไม่ถีบนางแล้วจะไปถีบใคร?”

“เจ้า...” ซูหวู่อวิ๋นหันไปร้องไห้กับซูจิ่งสิง พลางเอ่ยขึ้น “จิ่งสิง เมียเจ้าใจร้ายนัก เจ้าต้องให้ความยุติธรรมกับซือซือนะ”

หลี่ซือซือหันไปร้องไห้ออดอ้อนซูจิ่งสิงอย่างอ่อนแอ “พี่จิ่ง อย่าไปโกรธพี่สะใภ้เลย นางคงอิจฉาที่เราเป็นเพื่อนเล่นกันมาตั้งแต่เด็ก...”

กู้หว่านเยว่มองซูจิ่งสิงด้วยสายตาเรียบเฉย หากเขากล้าพูดดีๆ กับหลี่ซือซือแม้เพียงประโยคเดียว หึ ๆ... นางจะหย่ากับเขาเดี๋ยวนี้

ขณะที่นางมองซูจิ่งสิงอยู่นั้น ซูจิ่งสิงก็มองนางเช่นกัน

โดยสัญชาตญาณ ซูจิ่งสิงไม่เชื่อว่ากู้หว่านเยว่จะเป็นคนใจแคบที่แอบทำร้ายผู้อื่นลับหลัง

แม้ว่าน้องสาวจะร้องไห้ราวกับดอกสาลี่ต้องหยาดฝน* แต่เขาก็ยังคงขมวดคิ้วแล้วเอ่ยขึ้น

“ข้าเชื่อหว่านเยว่ อีกอย่าง ข้าไม่มีเพื่อนที่เล่นกันมาตั้งแต่เด็ก”

เป๊าะ หัวใจของหลี่ซือซือแตกสลาย นางรู้สึกเหมือนเป็นตัวตลก

“พี่จิ่ง เหตุใดท่านถึงไม่เชื่อข้า เป็นกู้หว่านเยว่นั่นแหละที่จงใจถีบข้าลงไป ท่านดูสิที่ก้นข้ายังมีรอยรองเท้าของนางอยู่เลย...”

“พี่ใหญ่”

ซูจิ่นเอ๋อถือเข็มกับด้ายอยู่ข้าง ๆ มองอยู่นาน ในตอนนี้รวบรวมความกล้าและลุกขึ้นยืน

“ข้ารู้ว่าเกิดอะไรขึ้น”

สายตาของทุกคนจับจ้องไปที่นางอย่างพร้อมเพรียงกัน

หลี่ซือซือขยิบตาส่งสัญญาณให้นางอย่างเอาเป็นเอาตาย

ซูจิ่นเอ๋อสูดหายใจเข้าลึก ๆ หลบสายตาของนาง “ข้าเห็นพี่ซือซือพยายามผลักพี่สะใภ้ลงไป แต่พี่สะใภ้รู้ทัน พี่สะใภ้จึงถีบพี่ซือซือลงไป”

อืม เรียบเรียงได้ชัดเจนมาก

ทุกคนต่างเข้าใจในทันที ที่แท้หลี่ซือซือก็เป็นคนหาเรื่องก่อน

ถ้าเป็นอย่างนั้น ตามนิสัยของกู้หว่านเยว่ การถีบนางลงไปก็สมควรแล้ว

“ซูจิ่นเอ๋อ เหตุใดเจ้าถึงเข้าข้างนางตัวซวยนั่น...”

หลี่ซือซือสีหน้าซีดเผือด จ้องมองนางอย่างเคียดแค้น

ไม่นานนัก ซูจิ่นเอ๋อก็ถูกกู้หว่านเยว่ซื้อตัวไปแล้ว

เมื่อเห็นคนรอบข้างต่างชี้มาที่นาง หลี่ซือซือที่ถูกเปิดโปงต่อหน้าคนมากมายก็ทนไม่ไหว พาดเสื้อคลุมไว้บนไหล่แล้วรีบวิ่งหนีไป

“ขอบคุณมาก!”

คิดไม่ถึงเลยว่าซูจิ่นเอ๋อจะช่วยพูดแก้ต่างให้นาง กู้หว่านเยว่มองนางด้วยสายตาประหลาดใจ

ซูจิ่นเอ๋อยิ้มอย่างเขินอาย ก่อนหน้านี้นางโง่เขลาเกินไป แยกแยะดีชั่วไม่ออก แต่ต่อไปนี้นางจะค่อย ๆ เปลี่ยนแปลงตัวเองให้ดีขึ้น!

เมื่อครอบครัวร่วมมือร่วมใจกัน ก็ไม่มีใครรังแกพวกเขาได้!

ในเวลานี้ กู้หว่านเยว่เอ่ยขึ้น

“พวกเจ้ารีบมาเก็บกิ่งไม้แห้งและวัชพืชริมลำธารนี่เร็ว เดี๋ยวเราจะก่อกองไฟ”

“ก่อกองไฟทำไมกัน?” อากาศก็ไม่ได้หนาว ทุกคนต่างมองนางด้วยความสงสัย

“เจ้าพูดว่าจะทำอะไร?”

กู้หว่านเยว่ก้มลง จับปลาตะเพียนตัวใหญ่ขึ้นมาจากลำธารหนึ่งตัว ที่แท้เมื่อครู่นางมองผิวน้ำอยู่ตลอด เพราะเห็นปลาที่อยู่ในน้ำ

“ปลา!”

ซูจื่อชิงและซูจิ่นเอ๋อต่างก็มามุงดู นางหยางก็ตบมือด้วยความดีใจ

พี่สะใภ้จับปลาเป็นด้วย เก่งมากเลย!

กู้หว่านเยว่หยิบมีดเล็กที่พกติดตัวออกมา จากนั้นผ่าท้องควักไส้ปลา ขอดเกล็ดและเหงือกปลาออกจนสะอาด แล้ว โยนลงในหม้อเหล็กที่ตั้งไฟไว้เพื่อต้มน้ำแกงปลา

ฝีมือทำอาหารของนางไม่ค่อยดีนัก แถมยังไม่มีน้ำมัน เกลือ ซีอิ๊ว น้ำส้มสายชู นางจึงค้นหาในมิติจนเจอเครื่องปรุงสำเร็จรูปสำหรับตุ๋นปลา แล้วแอบใส่ลงไปเงียบ ๆ

ไม่นานนัก กลิ่นหอมของน้ำแกงปลาก็ลอยออกมาจากในหม้อชวนให้น้ำลายสอ

กู้หว่านเยว่หยิบชามออกมาหลายใบ และตักน้ำแกงปลาให้ทุกคนคนละหนึ่งชาม

เมื่อถึงตาซูจิ่นเอ๋อ นางก็ลังเลครู่หนึ่ง ไม่กล้าเข้าไป

“ทำไม ยังต้องให้ข้าเชิญเจ้ามาซดอีกหรือ?”

กู้หว่านเยว่แกว่งชามไปมา

ซูจิ่นเอ๋อตกตะลึงเล็กน้อย เผยรอยยิ้มประหลาดใจ จากนั้นก้าวไปข้างหน้ารับชามมาด้วยความดีใจ

“เดี๋ยวพอกินเสร็จแล้ว ล้างชามเองด้วยนะ”

“อืม” ซูจิ่นเอ๋อพยักหน้าอย่างแรง

น้ำแกงที่ตุ๋นจากปลาตัวเดียว แบ่งให้คนในครอบครัวห้าคนก็ยังไม่พอ กู้หว่านเยว่จึงไม่ได้ชวนนักการมาร่วมซดด้วย

แต่กลิ่นหอมลอยไปถึงบ้านของตระกูลซู นางหลิวจึงเริ่มพูดจาประชดประชันอีกครั้ง

“บางคนน่ะ สนใจแค่ตัวเองกินดีอยู่ดี จนลืมผู้ใหญ่ไปหมดแล้ว ช่างไร้ความกตัญญูจริงๆ ไม่กลัวฟ้าผ่าลงโทษบ้างเลยหรือ”

นางหยางไม่เข้าใจสิ่งที่นางพูด ซูจื่อชิงและซูจิ่นเอ๋อก็ไม่สนใจนาง

กู้หว่านเยว่กลับยิ้มเยาะ “ถ้าฟ้าจะผ่าลงโทษ คนแรกที่จะโดนก็คือเจ้า”

นางหลิวไม่ได้อะไรจากกู้หว่านเยว่ จึงไปยุยงซูอวี่ ซูอวี่ถูกพ่อของเขาทรมานมาทั้งคืน ตอนนี้กำลังหิวโซ

เมื่อได้กลิ่นน้ำแกงปลาตะเพียนแสนอร่อย ก็น้ำลายไหล ดึงชายเสื้อของฮูหยินผู้เฒ่า

“ท่านย่า ข้าก็อยากซดน้ำแกงปลาเหมือนกัน ท่านรีบให้กู้หว่านเยว่เอาน้ำแกงปลามาให้ข้าซดหน่อย”

ฮูหยินผู้เฒ่าเลียริมฝีปาก ไม่ใช่แค่ซูอวี่คนเดียวที่อยากกิน

หญิงชราอย่างนางก็ไม่ได้ทานอะไรเลยตั้งแต่เช้าตรู่ พอได้กลิ่นหอมของน้ำแกงปลาก็อยากกินมาก

“หว่านเยว่ น้ำแกงปลาตั้งเยอะก็แบ่งให้พวกเราหน่อยเถอะ ถึงอย่างไรก็เป็นครอบครัวเดียวกัน”

กู้หว่านเยว่ไม่ใจอ่อนเลยสักนิด “ใครเป็นครอบครัวเดียวกับพวกเจ้า น้ำแกงปลาพวกเรากินเองก็ยังไม่พอ ถ้าอยากกินก็ไปจับปลากันเองสิ”

“จะ จะ เจ้า...” ฮูหยินผู้เฒ่าโกรธจนนิ้วสั่น

คนในตระกูลซูไม่ยอมแพ้ จึงวิ่งไปจับปลาที่ลำธารจริง ๆ

กู้หว่านเยว่เป็นผู้หญิงยังจับปลาได้ แล้วพวกเขาจะจับไม่ได้เชียวหรือ?

น่าขัน!

ในความเป็นจริงคือจับปลาก็ต้องมีเทคนิค คนในตระกูลซูใช้ชีวิตสุขสบาย ไม่เคยเห็นปลาเป็น ๆ ด้วยซ้ำ แล้วจะรู้วิธีจับปลาได้อย่างไร?

พวกเขาใช้เวลาอยู่ริมลำธารนานมาก จนเกือบจะตกไปในลำธาร ทำให้ตัวเองเปียกโชกไปหมด แต่ก็ยังจับปลาไม่ได้แม้แต่ตัวเดียว

เมื่อเห็นกู้หว่านเยว่กินอิ่มหนำสำราญ ฮัมเพลงมาล้างหม้อ พวกเขาโกรธจนตาแดงก่ำ

“กู้หว่านเยว่ นางสารเลวหลอกพวกเรา ในลำธารมีปลาที่ไหนกัน?”

*ดอกสาลี่ต้องหยาดฝน เปรียบเทียบใบหน้าที่เปื้อนน้ำตาของหญิงสาวกับดอกสาลี่ที่เมื่อร้องไห้ก็ยังดูงดงาม
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Comments (3)
goodnovel comment avatar
Jaruayporn Kliengkhaw
อ่านแล้วสนุกมากคะ
goodnovel comment avatar
Dumpjea
กรรมตามสนองแหละ อยากตัดตัวซวย/คนพิการ พอเค้าได้ดี ก็ไม่ได้รับด้วย สมแล้ว
goodnovel comment avatar
วรรณดี ศาลาทอง
สนุกมากจริงๆค่ะ
VIEW ALL COMMENTS

Latest chapter

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1916

    ถึงแม้ข้างกายข้าจะไม่ขาดคน แต่ในเมื่อองค์หญิงน้อยเป็นผู้แนะนำ เช่นนั้นก็รับไว้ ให้เขาอยู่ทำงานกับข้าก็แล้วกันถูซื่อดีใจจนเนื้อเต้น “ขอบคุณท่านแม่ทัพ ขอบคุณองค์หญิงน้อย”ฮั่วหยุนกล่าว “เจ้าตามข้ามา”ถูซื่อพยักหน้า รีบเดินตามหลังอีกฝ่าย และจากไปพร้อมกันเมื่อเห็นฮั่วหยุนพาชาวบ้านเหล่านั้นจากไป กู้หว่านเยว่ก็มองไปยังซูจิ่งสิง “ท่านพี่ ตอนนี้พวกเราจะไปที่ไหนกัน?”“ข้ามีค่ายทหารอยู่ใกล้ ๆ พวกเราไปพักผ่อนที่นั่นกันก่อน”ซูจิ่งสิงกล่าวพลางหันไปสั่งการผู้ใต้บังคับบัญชาที่อยู่เบื้องหลัง ให้นำคบเพลิงมาจุดไฟเผาอุโมงค์เหมือง“ไปกัน”เมื่อเห็นเปลวไฟลุกโชนอยู่ด้านหลัง ซูจิ่งสิงก็ยื่นมือให้กู้หว่านเยว่ โอบนางขึ้นบนหลังม้าแล้วทะยานจากไปอย่างรวดเร็ว“นี่ พวกท่านรอข้าด้วยสิ” หนานโย่วตะโกนไล่หลัง รีบปีนขึ้นม้าอย่างทุลักทุเล จากนั้นตามพวกเขาไปทั้งสองคนขี่ม้าเร็วสีเงินขาวตัวเดียวกัน กู้หว่านเยว่ไม่เคยรู้สึกผ่อนคลายทั้งกายและใจเช่นนี้มาก่อน นางเอนกายพิงอกของซูจิ่งสิงอย่างเกียจคร้าน หรี่ตามองไปข้างหน้า สัมผัสถึงเสียงหัวใจที่เต้นอยู่ด้านหลังนางหันกลับมายิ้มอย่างสดใส ประกอบกับชายหนุ่มผู้เย็นชาและ

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1915

    อย่างไรเสีย เขามายังที่ราบแห่งความโกลาหลก็เพื่อกู้หว่านเยว่ ย่อมไม่ทำร้ายสหายของนางอย่างแน่นอน“เก็บอาวุธทั้งหมดขึ้นมา”ซูจิ่งสิงออกคำสั่ง ทหารที่อยู่เบื้องหลังก็รีบเก็บธนูในมือ และถอยกลับไปอย่างพร้อมเพรียงกันหนานโย่วกลืนน้ำลาย รีบมายืนอยู่ข้างกายกู้หว่านเยว่เมื่อเห็นสายตาที่ไม่เป็นมิตรของซูจิ่งสิง เขาก็หัวเราะฮ่า ๆ พลางเอ่ยขึ้น “ยอดเยี่ยม ยอดเยี่ยม สมกับที่เป็นหัวหน้าของกองทัพซินเยว่ สิบปากว่าไม่เท่าตาเห็นจริง ๆ ”ซูจิ่งสิงละสายตากลับ “องค์ชายรองเกรงใจเกินไปแล้ว”เขามองไปยังกู้หว่านเยว่ “น้องหญิง เรื่องวุ่นวายใหญ่โตเพียงนี้ ตลาดมืดจะต้องเคลื่อนไหวอย่างแน่นอนที่นี่ไม่ควรอยู่นาน พวกเรารีบไปจากที่นี่กันก่อนเถิด”กู้หว่านเยว่พยักหน้า “หนานโย่ว ท่านจะกลับไปก่อนพร้อมกับแม่ทัพฮั่ว หรือว่าจะไปกับข้า?”จุดประสงค์หลักของพวกเขาในครั้งนี้คือการช่วยชาวบ้านที่ถูกหลอกมา ตอนนี้ชาวบ้านได้รับการช่วยเหลือแล้ว ภารกิจก็ลุล่วง ถึงเวลากลับไปรายงานแล้วฮั่วหยุนวิ่งเข้ามาอย่างรวดเร็ว “องค์ชายรอง ขุมกำลังทางใต้นั้นเป็นแหล่งรวมคนสารพัดประเภท ไม่ใช่สถานที่ที่ควรจะอยู่นาน พวกเรารีบกลับกันเถิดพ่ะย่ะค่

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1914

    อาจเป็นเพราะว่า พวกเขาทั้งสองคนเหมาะสมกันมากเกินไปทุกคนต่างรู้จักกาลเทศะ ไม่มีใครก้าวเข้าไปรบกวนกู้หว่านเยว่และซูจิ่งสิงโอบกอดกันต่อหน้าผู้คนเนิ่นนานเป็นเวลาหนึ่งถ้วยชา พวกเขาต่างดื่มด่ำกับความรู้สึกที่ได้เป็นของกันและกันอย่างสมบูรณ์จนกระทั่งสติสัมปชัญญะกลับคืนมา ทั้งสองจึงคลายอ้อมกอดออกจากกัน แต่ก็ยังคงไม่ปล่อยมือ ทั้งสองยังคงจ้องมองอีกฝ่าย เพื่อค้นหาความเปลี่ยนแปลงของกันและกันในช่วงเวลาที่ไม่ได้พบเจอ“น้องหญิง เจ้าผอมลงแล้ว”ซูจิ่งสิงยื่นมือออกไป ปัดปอยผมข้างหูให้กู้หว่านเยว่อย่างอ่อนโยน สัมผัสได้ชัดเจนว่านางดูผอมลงไปไม่น้อย“ท่านพี่”กู้หว่านเยว่ยิ้มอย่างเขินอาย น้ำเสียงออดอ้อน “ท่านก็เปลี่ยนไปบ้างเช่นกัน”ดูสุขุมและเป็นผู้ใหญ่มากขึ้นกว่าแต่ก่อน ทั้งยังแผ่กลิ่นอายของการต่อสู้ที่โชกเลือดออกมาเล็กน้อยเมื่อคิดว่าเขามาถึงที่ราบแห่งความโกลาหลโดยไม่มีที่พึ่งพิง แต่กลับอาศัยเพียงตนเองจนกลายเป็นหัวหน้าของกองทัพซินเยว่ได้ในเวลาอันสั้น ในช่วงเวลานั้นคงต้องประสบความยากลำบากมาไม่น้อยกู้หว่านเยว่ยิ่งรู้สึกเจ็บปวดใจ น้ำเสียงก็อ่อนโยนลงไปอีกสองส่วน“แต่ก็ยังคงเป็นสามีของข้า”แม้ว่

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1913

    กู้หว่านเยว่ในยามนี้ ลืมไปแล้วว่าตนเองกำลังอยู่ในอุโมงค์เหมืองทางทิศใต้ นางลืมไปแล้วว่ารอบกายอาจมีอันตรายซ่อนอยู่ ในวินาทีที่ได้เห็นชายผู้นั้น ดวงตาของนางก็ไม่สามารถมองเห็นสิ่งอื่นใดได้อีก ราวกับว่าทั่วทั้งฟ้าดิน เหลือเพียงเขาคนเดียวเท่านั้นในนัยน์ตาสีดำของนางฉายแววสงสัย ตกตะลึง ยินดี และสุดท้ายก็ถูกความรู้สึกอุ่นใจเข้ามาทำให้ทุกอย่างสงบลง“ซูจิ่งสิง ใช่ท่านหรือไม่?”นางขยับริมฝีปากแดงระเรื่อ เอ่ยชื่อที่ซ่อนลึกอยู่ในใจ และไม่กล้าแตะต้องมาโดยตลอดออกมาดวงตาทั้งสองจ้องมองชายที่อยู่ตรงหน้าอย่างแน่วแน่ น้ำเสียงแผ่วเบา ราวกับกลัวว่าทุกสิ่งตรงหน้าเป็นเพียงภาพลวงตา และถ้านางส่งเสียงดังขึ้นอีกนิด ภาพลวงตานี้ก็จะแตกสลายไปแม้ว่าหลายวันที่ผ่านมา นางจะคิดอยู่ตลอดว่า หัวหน้าของกองทัพซินเยว่จะเป็นเขาหรือไม่แต่เหตุผลกลับคอยย้ำเตือนว่า มันจะเป็นไปได้อย่างไร?เขายังคงยุ่งอยู่กับการดูแลราษฎรในต้าฉีและปกครองบ้านเมือง จะมาหานางได้อย่างไร จะข้ามผ่านป่าซิงโตวมาได้อย่างไร?อาจเป็นเพราะรับรู้ได้ถึงความตกตะลึงของกู้หว่านเยว่ ชายที่อยู่ตรงหน้าจึงไม่ได้รีบร้อน แต่กลับยกมือขึ้น ปลายนิ้วเรียวยาววางลงบน

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1912

    “ระบบ ช่วยข้าตรวจนับสมบัติที แล้วนำของที่ดูออกว่าเป็นของโจรชัด ๆ ไปลงในแพลตฟอร์มซื้อขาย”กู้หว่านเยว่สั่งการ คนของหนานโย่วน่าจะมาถึงแล้ว“ขอรับ” น้ำเสียงของระบบพลันเปลี่ยนไปเล็กน้อยอย่างน่าประหลาดทหารม้าของกองทัพซินเยว่แข็งแกร่งอย่างหาที่เปรียบมิได้ เพียงครู่เดียว ก็สามารถกำจัดหน่วยลาดตระเวนที่ปากถ้ำได้ทั้งหมด ขณะนี้ ชาวบ้านที่อยู่ข้างในก็เพิ่งหาทางออกเจอและวิ่งออกมา เมื่อเห็นศพนอนเกลื่อนกลาดอยู่นอกถ้ำ ต่างก็ตกตะลึงกันไปหมด “คนตายแล้ว คนตายแล้ว!”“รีบหนีเร็ว!”ทุกคนต่างพยายามวิ่งออกไปข้างนอกหนานโย่วหายใจติดขัด เขามองไปยังคนของกองทัพซินเยว่ ที่สำคัญคือเขาไม่รู้ว่าคนเหล่านี้มาที่นี่เพื่ออะไร หากพวกเขามาเพื่อสังหารชาวบ้าน ก็คงไม่ดีแน่ยังดีที่ชายผู้เป็นหัวหน้าโบกมือ คนของกองทัพซินเยว่ก็ถอยออกไปอย่างพร้อมเพรียง เปิดทางให้ชาวบ้านเหล่านี้“กลับไปยังมาตุภูมิของพวกเจ้าเถิด ต่อไปอย่าได้ถูกหลอกอีก”ชายผู้นั้นเอ่ยปาก น้ำเสียงทุ้มลึกน่าฟังเป็นพิเศษเหล่าชาวบ้านเพิ่งจะตระหนักได้ว่า แท้จริงแล้วชายผู้นี้มาเพื่อช่วยพวกเขา ต่างก็รีบคุกเข่าลงกับพื้นทันที“ขอบคุณท่านแม่ทัพที่ช่วยชีวิตพวกเร

  • ชายาแพทย์พลิกชะตา   บทที่ 1911

    วันนี้เกิดอะไรขึ้นกันแน่ ทีแรกเหล่าสหายที่อยู่นอกอุโมงค์เหมืองก็หมดสติไปครึ่งหนึ่งโดยไร้สาเหตุ จากนั้นก็มีกองทัพหนึ่งกองทัพมาอีก หรือว่าพวกเขาไปล่วงเกินใครเข้าโดยไม่ตั้งใจ?หัวหน้าหน่วยลาดตระเวนคิดไปในทิศทางเดียวกับหนานโย่วอย่างรวดเร็ว เขาคาดเดาว่าที่เป็นเช่นนี้อาจเป็นเพราะพวกเขาลักพาตัวคนที่ไม่ควรลักพาตัวหรือไม่ จึงทำให้เกิดเรื่องราวใหญ่โตเช่นนี้“เฮ้ย!”หัวหน้าหน่วยลาดตระเวนโบกมือทั้งสองข้าง พยายามจะเจรจา“อย่าเพิ่งวู่วาม มีอะไรก็พูดคุยกันดี ๆ พวกท่านต้องการอะไรก็บอกมาดูก่อนหากพวกเราพอจะทำให้ได้ ก็จะพยายามอย่างเต็มที่”เขาคิดว่า หากพลาดพลั้งจับคนของอีกฝ่ายมาผิด ก็แค่ปล่อยตัวไป ไม่จำเป็นต้องล่วงเกินกองทัพทั้งกองทัพ เพื่อคนเพียงคนเดียวหากเป็นที่รังเก่าของพวกเขาอย่างตลาดมืด แน่นอนว่าย่อมไม่กลัวกองทัพเพียงกองทัพเดียวทว่าวันนี้ในอุโมงค์เหมืองของพวกเขาเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้นมากเกินไป เขาจึงกังวลว่าอีกฝ่ายจะมีไม้ตายอยู่อีกสู้จับมือเป็นมิตรอาจจะดีกว่า ไม่แน่ว่าอาจได้สหายเพิ่มขึ้นมาอีกคนชายที่อยู่บนหลังม้าสีเงินขาวพลันยกมือซ้ายขึ้นเล็กน้อย ทหารม้าที่อยู่ด้านหลังก็หยุดลงอย่าง

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status