Home / รักโบราณ / ตื๊อรักวาณิช / เหตุการณ์ปล้นสะดม ณ เขาเศียรมังกร 1

Share

เหตุการณ์ปล้นสะดม ณ เขาเศียรมังกร 1

Author: lianlian
last update Last Updated: 2025-05-24 07:14:34

มณฑลชิงไห่ อยู่ทางทิศตะวันตกของมณฑลกานซูอันเป็นที่ตั้งของมหานครฉางอัน จุดเริ่มต้นอันยิ่งใหญ่แห่งเส้นทางสายไหมภูมิประเทศงดงาม อุดมสมบูรณ์ทั้งแม่น้ำ ภูเขา เป็นที่ตั้งของด่านซีหนิงที่เปิดออกสู่ดินแดนต่างชาติอย่างซินเจียง

ที่ใดมีการค้า ที่นั่นย่อมมีโจร

บริเวณภูเขาเศียรมังกร นอกด่านซีหนิงไปไม่ไกลคือที่ลงหลักปักฐานของเหล่าโจรผู้คอยปล้นสะดมขบวนสินค้าที่ผ่านไปมา

ภูเขาอันดุร้ายดังพญามังกร สูบเลือดเนื้อพ่อค้าจนสิ้นเนื้อประดาตัว...สูบกระทั่งชีวิตและลมหายใจ

วันนี้ก็ดูท่าว่าจะมีพ่อค้าผู้โชคร้ายรายใหม่จำต้องมาสังเวยชีวิตที่นี่อีกหน

"นายท่านขอรับ รีบหนีไปเร็วเข้า ทางนี้พวกข้าจะสกัดเอาไว้เอง!" เสียงชายหนุ่มที่กำลังสู้รบติดพันกับคนร้ายดังขึ้นพลางหันไปทางชายหนุ่มผู้เป็นนายเหนือหัวที่เพิ่งตวัดกระบี่ฟาดฟันร่างสูงใหญ่ของโจรป่าจนลงไปกองกับพื้น

"เจ้าคิดว่าข้าไร้ฝีมือเพียงนั้นเชียวรึ เฉี่ยวเหมย" ร่างสูงบนหลังม้ากวัดแกว่งกระบี่เข้าบี่เข้าใส่โจรร้ายที่รุมกลุ้มเข้ามาทางเขาอย่างไม่ลดละ

"นายท่าน ใครจะกล้าดูถูกท่าน เพียงแต่เจ้าพวกนี้มีมาก...น่าตายนัก!..." เฮยเฉี่ยวเหมยคนสนิทของเขาสะบัดดาบใหญ่แทงชายชุดดำที่พุ่งมาทางด้านหลัง "...มาจากไหนกันเยอะแยะ!"

"ห้ามพูดคำหยาบ"

"นายท่าน! ท่านรู้กาลเทศะบ้างได้หรือไม่!?"

บุรุษชุดขาวเพียงกระตุกยิ้มเยือกเย็น สายตาคมเข้มดุจัดคู่นั้นยังคงมุ่งเป้าไปที่เหล่าโจรชั่วผู้กระหายทรัพย์สินเงินทองของเขา

...อยากได้ของของข้าอย่างนั้นรึ?

...เช่นนั้นคงจะได้เห็นกันว่าใครกันต้องเป็นฝ่ายหลั่งเลือดสังเวยให้หุบเขาเศียรมังกรนี้

ชายหนุ่มกระโจนร่างลงจากหลังม้า เสือกกระบี่แทงผ่านช่องว่างของเกราะอ่อนที่โจรป่านั้นสวมใส่จนลงโลหิตพุ่งออกจากสีข้างเป็นสาย จากนั้นจึงหันไปสั่งลูกน้องอีกคนที่ใช้เท้าถีบร่างผอมบางของศัตรูกระเด็นออกไป

"เฉี่ยวเหมย เจ้าพาคนของเราจำนวนหนึ่งนำสัมภาระตีฝ่าวงล้อมศัตรูมุ่งไปยังฉางอัน"

"ขอรับ!" เขารับคำแข็งขัน ก่อนจะหันไปตะโกนบอกอีกฝ่าย "ชื่อข้าไม่ได้อ่านแบบนั้นนะขอรับ นายท่าน!"

ชื่อของเขามาจากตัว เฉี่ยวที่แปลว่าต่อสู้ กับ เหมย ที่แปลว่า หลักแหลม ต่างหาก ไม่ได้แปลว่าผลเฉี่ยวเหมย (สตรอเบอรี่)!

"เฉี่ยวเหมย เจ้ากลายเป็นตาแก่ขี้บ่นอีกแล้ว"

"ท่านจงใจจะให้ข้ากระอักเลือดตายก่อนใช่ไหม?!...โว้ย มารดามันเถอะ!" เฉี่ยวเหมยแค้นใจที่ถูกผู้เป็นนายกระทำย่ำยี ได้แต่ระบายโทสะออกมาด้วยการฟาดฟันกับเหล่าผู้ร้าย ทางหนึ่งคุยสั่งการหลู่ฟาง ลูกน้องมือขวาของเขาที่ไว้ใจได้ให้พาคนที่ยังรอดพร้อมสัมภาระมุ่งหน้าไปฉางอันก่อน

"โดนแบบนี้ทุกวัน เจ้ายังไม่ชินอีกเหรอ?" ผู้เป็นนายยังหันไปตอบด้วยสีหน้าเรียบเฉย ก่อนซัดฝ่ามือเข้าจุดสำคัญของโจรร้าย

"ท่านพูดทุกวัน ไม่เบื่อหรือไร?" ลูกน้องก็ช่างยอกย้อนนัก "แล้วนี่ใช่เวลาพูดเล่นหรือนายท่าน?! ถ้าท่านว่างมากก็จัดการพวกโจรให้หมดเร็วๆ สิ!"

"ถึงเจ้าไม่บอกข้าก็จะทำอยู่แล้ว" ชายหนุ่มว่า "แล้วที่ข้าสั่งให้เจ้าแบ่งคนตีฝ่าวงล้อมนำสัมภาระกลับไปเมืองหลวงน่ะ ทำหรือยัง?"

"ข้าสั่งให้หลู่ฟางพาคนไปแล้ว ส่วนข้าจะอยู่คุ้มกันท่านเอง" เฉี่ยวเหมยหรี่ตาลงอย่างพยายามใช้ความคิด ทั้งที่มือยังตวัดฟาดฟันออกไป เขาขยับถอยหลังเล็กน้อยเพื่อเข้ามาอยู่ใกล้นายท่านของตน "นายท่าน ข้าว่างานนี้คนของเราเล่นตุกติกแล้ว"

"ตาไวเหมือนกันนี่"

"ลูกตามีไว้ดู ไม่ได้มีไว้ฟังเสียงนา" ลูกน้องบ่นอีก "แปลว่าท่านรู้อยู่แล้ว"

"อืม คนอย่างข้า ไป๋จิ้งเหอ มีหรือจะดูไม่ออก"

เฉี่ยวเหมยเบ้ปาก แต่ใจนั้นยอมรับความสามารถของผู้เป็นนายอย่างศิโรราบจริงๆ

"ขบวนผู้คุ้มกันที่เราจ้างมานั้นตายเยอะกว่าทางเราเสียอีก นั่นแปลว่าคนที่ไปจ้างพวกมันมานั้นเล่นไม่ซื่อ คิดแบ่งเงินค่าจ้างเก็บไว้เอง"

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ตื๊อรักวาณิช   จงอางหวงไข่ 5

    ส่วนตงเทียนก็หันไปคุยหยอกล้อกับสาวน้อยในแปลต่อ "ซือเซียน เจ้ารู้หรือไม่ อาจารย์ปู่ของตงเกอเคยบอกว่า คนเราได้มาพบพานกันก็เพราะมีวาสนาต่อกัน ตงเกอว่า ที่เราได้พบกันก็คงเพราะมีวาสนาต่อกันเช่นที่อาจารย์ปู่บอกแน่ๆ"อ้อแอ้...อ้อแอ้...เสี่ยวเซียนตัวน้อยร้องตอบตงเกอเกอ..."อ้อ...เราอาจจะมีด้ายแดงผูกกับนิ้วแบบที่ศิษย์พี่เจี๋ยบอกก็ได้"หมิงเสวี่ยอดอมยิ้มกับภาพที่เห็นไม่ได้ ใจหนึ่งก็น่ารักน่าเอ็นดู แต่ใจหนึ่งก็อดหวาดหวั่นมิได้ว่าว่าที่พ่อตาของเขาช่างน่ากลัวเหลือเกิน...เอาน่า...เรื่องในอนาคต อย่าเพิ่งคิดมากไปดีกว่า อีกอย่าง ตงเอ๋อร์ก็ยังเด็กนัก ยังคงไม่รู้ความเท่าใด เอาไว้โตกว่านี้ อาจจะเปลี่ยนใจก็เป็นได้ตงเทียนยังคงหยอกล้อกับซือเซียน จนกระทั่ง...เจ้าของบ้านผู้หวงบุตรสาวยิ่งกว่าจงอางหวงไข่เดินเข้ามา"ตงเทียน...""ขอรับ!""ได้เวลาออกเดินทางแล้ว""ข้าคิดว่ายังเหลืออีกครึ่งชั่วยามนะขอรับ" ตงเทียนเงยหน้าขึ้นเถียง อีกตั้งครึ่งชั่วยาม เขาคุยกับซือเซียนได้อีกหลายเรื่องเลยนะ ทั้งเรื่องนกยวนยาง หนุ่มเลี้ยงวัวกับสาวทอผ้า แล้วก็อะไรต่อมิอะไรตั้งมาก"ได้เวลาซือเซียนกินนมแล้ว" ไป๋จิ้งเหอก้าวเข้ามาใกล้อีกเพื

  • ตื๊อรักวาณิช   จงอางหวงไข่ 4

    "อันที่จริงบาดแผลข้าก็เกือบหายขาดแล้ว เพียงกินยาตามเวลาต่อไปก็จะหายดีเอง" ผู้เฒ่าเอ่ย "ที่รั้งอยู่นานก็เพราะเป็นห่วงฮูหยินของเจ้ากับแม่นางจิงที่ตั้งครรภ์ทั้งคู่แต่ไร้คนคุ้มกัน เวลานี้เจ้ากับเฉี่ยวเหมยก็กลับมาแล้ว สมควรที่ข้าจะกลับสำนักเสียที""ศิษย์ขอบคุณอาจารย์ บุญคุณในครั้งนี้ศิษย์จะไม่มีวันลืม" ไป๋จิ้งเหอคุกเข่าให้ผู้เป็นอาจารย์อา"ฮูหยินของเจ้าก็มีบุญคุณต่อข้า เช่นนี้แล้วก็แล้วกันไปเถอะ" ผู้เฒ่าซานยื่นมือไปรั้งให้จิ้งเหอลุกขึ้น "ดูแลภรรยากับลูกๆของเจ้าให้ดี พวกเขานับเป็นสมบัติล้ำค่าที่เจ้าไม่อาจหาจากที่ใดได้" ผู้เฒ่าซานวางมือบนไหล่กว้าง "รักษาเนื้อรักษาตัวให้ดีๆ หวังว่าพวกเราจะได้พบกันอีก""ขอรับ" ไป๋จิ้งเหอยิ้มบาง แต่ในใจนั้นรวดร้าว เพราะรู้ดีว่าเขาไม่อาจรักษาหนึ่งในสมบัติล้ำค่านั้นได้เสวี่ยเอ๋อร์...ข้ามิอาจฉุดรั้งเจ้า...และเจ้าก็ไร้ซึ่งใจจะอยู่กับข้า...สองวันถัดมา อาจารย์และศิษย์หลานก็พร้อมจะออกเดินทางกลับ แต่ตงเทียนกลับวิ่งไปหาซือเซียนน้อยตั้งแต่รุ่งสาง แม้จะทำได้แค่นั่งมองสาวน้อยที่กำลังหลับอยู่ก็ตามเขากำลังรอ...รอว่าเมื่อนางตื่นขึ้น เขาจะเอ่ยคำลากับนาง"ซือเซียน ไว้เจ้าโตข

  • ตื๊อรักวาณิช   จงอางหวงไข่ 3

    "อ๊ะ ศิษย์พี่" ตงเทียนสะดุ้งเล็กน้อยเมื่อเห็นไป๋จิ้งเหอเข้ามา "มีธุระอันใดหรือเปล่าขอรับ?""เจ้ากำลังจุมพิตบุตรสาวข้ารึ?..." ไป๋จิ้งเหอเพ่งสายตามองไปยังมือของตงเทียนที่มีมือซือเซียนโอบจับอยู่แน่นด้วยความขุ่นเคือง"ขอรับ" เขาตอบซื่อๆ "ข้าเพิ่งรู้ว่าเด็กทารกตัวหอมขนาดนี้" ทั้งนุ่มนิ่ม ทั้งหอม มิน่าใครได้สัมผัสเด็กทารกถึงหลงรัก"อ่อ เช่นนั้นรึ?" เขาสืบเท้าเข้ามาใกล้ "จริงสิ ได้ยินว่าอาจารย์เรียกหาเจ้าอยู่น่ะ"หมิงเสวี่ยที่ยืนอยู่ข้างๆ หุบยิ้มแทบไม่ทัน เจ้าจิ้งจอกนี่โกหกมดเท็จชัดๆ!!"ท่านอาจารย์เพิ่งนอนพักไปนี่ขอรับ" เด็กน้อยเลิกคิ้ว "ท่านตื่นเร็วยิ่ง ทั้งๆ ที่ยาที่ท่านหมอให้ จะทำให้ท่านอาจารย์หลับไปถึงหนึ่งชั่วยาม""อาจจะมีธุระด่วนกระมัง เจ้ารีบไปเถอะ" เขาเอ่ยทั้งยื่นแขนไป "ส่งนางให้ข้าอุ้มแทนก็แล้วกัน""ไม่เป็นไรมิได้ขอรับ ข้าอุ้มเป็นแล้ว เดี๋ยวจะพานางไปที่เปลเอง" ตงเทียนยิ้มตอบ เขาชักชอบสัมผัสนุ่มนิ่มของซือเซียนเสียแล้วสิ"เจ้ายังอุ้มไม่คล่องนัก ส่งมาเถอะ" เสียงเขายะเยือกขึ้นทุกที"ท่านเองก็เพิ่งเป็นพ่อคนได้ไม่กี่วัน ก็อุ้มไม่คล่องเช่นกัน" ทำไมเขาทำท่าเหมือนถูกแย่งคนรักแบบนี้นะหมิงเสว

  • ตื๊อรักวาณิช   จงอางหวงไข่ 2

    "หลับแล้ว" เด็กสาวกระซิบ แล้วส่งซือเสียนให้กับจื่อหนี่ "เอาล่ะ เซียนเซียนน้อยของแม่ มานี่นะ"นางฟ้าน้อยของนางราวกับรู้ว่าจะได้กินนมมารดา นางโบกมือและอ้าปากรอจนตัวสั่น "เป็นสาวเป็นนาง ระวังกิริยาบ้างสิ นางฟ้าของแม่"นางดุไปเช่นนั้น แต่พอพิจารณาปากคอคิ้วคางของลูกสาวนางเหมือนมารดาราวพิมพ์เดียวกัน...แล้วจะให้เรียบร้อยได้อย่างไร"ขอให้เจ้าเติบโตอย่างดี..." หมิงเสวี่ยพูดเสียงเบาราวกระซิบ "...งดงามและมีความสุขดังที่บิดาตั้งชื่อให้ ส่วนท่านแม่ของเจ้าดีแต่ทำเขาเสียใจ เจ้าอย่าได้ดำเนินรอยตามแม่นะ เข้าใจหรือไม่?"ร่างเล็กส่งเสียงอ้อแอ้คล้ายรับคำ เมื่อใบหน้าเล็กผละจากอกแม่ นางก็ก้มลงจูบแก้มนวลอย่างอาลัยอาวรณ์...แม่รักเจ้าทั้งสองเหลือเกิน...หมิงเสวี่ยร้องเพลงกล่อมเบาๆ และอุ้มนางหมายจะเดินไปริมหน้าต่าง หางตาก็พลันเห็นแขกตัวน้อยที่ยืนด้อมๆ มองๆ อยู่ข้างประตู"อ้าว ตงเอ๋อร์ มาดูน้องหรือ?" หมิงเสวี่ยร้องทัก"...จะรบกวนพวกเขาหรือไม่?" ใบหน้าเล็กแดงเรื่อเล็กน้อยอย่างประหม่า"ไม่หรอก เข้ามาก่อนสิ"ตงเทียนเดินเข้ามาอย่างเก้ๆ กังๆ เขาไม่เคยเห็นทารกน้อยแรกคลอดมาก่อน จึงมองซือเสียนในแปลอย่างสนใจและอยากรู้ย

  • ตื๊อรักวาณิช   จงอางหวงไข่ 1

    หลังจากทานอาหารเสร็จ ระหว่างที่จื่อหนี่กำลังอธิบายวิธีการดูแลเด็กแฝด ก็มีสาวใช้มารายงานว่าเจ้าตัวน้อยทั้งสองร้องโยเยอีกครา"เพิ่งจะกินนมหลับไปมิใช่หรือ?" หมิงเสวี่ยถาม แต่ก็รีบรุดออกไปทันที"คงจะถ่ายเบาหรือไม่ก็หนัก" จื่อหนี่บอกขณะช่วยประคองหมิงเสวี่ย "เด็กทารกก็แบบนี้เจ้าค่ะ ขับถ่ายแต่ละครั้งยังไม่เป็นเวลา""อ้อ..." หญิงสาวพยักหน้ารับรู้ ก่อนรีบรุดไปยังห้องเด็กที่ต้นเสียงยังร้องโยเยอยู่"ที่แท้ก็ซือเซียนคนสวยนี่เอง" หมิงเสวี่ยมองเด็กน้อยที่ถูกวางบนเตียงและกำลังแก้ปมผ้าอ้อม "กินเยอะก็ฉี่เยอะน่ะสิ"ราวกับนางรู้ว่ามารดาไม่ชอบเด็กงอแง ซือเซียนน้อยก็ค่อยๆ หยุดร้องไห้ เพียงแต่ส่งเสียงอ้อแอ้ออกมาเท่านั้น ผู้เป็นแม่ยิ้มหวาน ยิ่งเทใจรักลูกคนนี้มากขึ้นไปอีก นางช่วยแม่นมเช็ดทำความสะอาดแล้วจึงมองวิธีการผูกผ้าอ้อมอย่างถูกวิธี"คราวหน้าขอข้าเปลี่ยนผ้าอ้อมให้นางบ้างนะ" หมิงเสวี่ยลูบศีรษะน้อยที่มีผมนุ่มลื่นมือ"ได้เจ้าค่ะ" แม่นมพยักหน้า ก่อนหันเห็นจื่อหนี่อุ้มซือเสียนมาทางหมิงเสวี่ยสาวน้อยของนางตื่นแล้ว มือน้อยๆ โบกทักมารดาไปมาราวกับจะอ้อนขอให้หมิงเสวี่ยอุ้มนางหน่อย"คุณชายก็ฉี่เหมือนกันเจ้าค่ะ""ซ

  • ตื๊อรักวาณิช   ผูกพัน 3

    เขาชะงักเมื่อเห็นหมิงเสวี่ยเข้ามาในห้อง "เสวี่ยเอ๋อร์ ทำไมถึงมาอยู่ที่นี่"จื่อหนี่กลับเป็นฝ่ายเดินไปหาเขา "นายท่าน ออกไปสักครู่ก่อนนะเจ้าคะ" นางว่าพลางทำมือคล้ายขอเด็กน้อยไปอุ้มไว้เอง ดวงตาใสนั้นกระพริบปริบๆ ใส่เขาระรัวคล้ายจะบอกความนัยบางอย่าง"เข้าใจแล้ว" เขาส่งซือเซียนให้กับจื่อหนี่ จากนั้นจึงเดินออกไปจากห้อง"คนนี้คือคุณหนูซือเซียนเจ้าค่ะ" จื่อหนี่ยิ้มบอก ก่อนจัดท่าทางให้หมิงเสวี่ยอุ้มให้ถูกต้องหนูน้อยได้กลิ่นนมก็แทบไม่รอให้หมิงเสวี่ยเปิดหน้าอก มือเล็กจิ๋วตะกายเสื้อจนหมิงเสวี่ยหลุดหัวเราะออกมา "หิวมากเลยเหรอสาวน้อย ดูทำเข้าสิ" หมิงเสวี่ยยิ้มกว้างออกมาพลางเปิดเสื้อออกซือเซียนน้อยที่ตอนนี้มองเห็นเพียงภาพขาวดำ นางเห็นลานนมอยู่ตรงหน้าก็พยายามไล่งับยอดอกมารดา"โอ๊ย!"จื่อหนี่รีบเข้ามาดู "ไม่ได้นะ อย่าให้ดูดแบบนี้นะ" นางว่าพลางเอานิ้วก้อยสอดเข้ามุมปาก บังคับให้สาวน้อยคายยอดอกออกมา"ทำไมหรือจื่อหนี่?""ไม่อย่างนั้นจะเจ็บมากเจ้าค่ะ"หมิงเสวี่ยฟังแล้วสะดุ้ง "แล้วต้องทำอย่างไรเล่า""ต้องทำแบบนี้..." จื่อหนี่ใช้ฝ่ามือประคองศีรษะน้อยของคุณหนูซือเซียนที่อดกินนมกำลังร้องไห้จ้า แล้วอยู่ๆ นางก็ก

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status