หนึ่งเดือนต่อมา...
และตอนนี้เป็นช่วงใกล้ฝึกงานแล้ว เพนเฮาส์ไม่ยอมให้เขาได้เจอกับน้องสาวของตัวเองเลย แต่ยังดีที่ยอมให้คุยโทรศัพท์ได้บ้าง แต่ก็ต้องคุยกันในเวลาที่หมอนั่นอยู่ด้วยเท่านั้น ดูเหมือนว่าสุดที่รักของเขาจะถูกยึดโทรศัพท์ เวลามาเรียนหนังสือพี่ชายตัวดีก็ตามมาเฝ้า สุดยอดพี่เมียจริง ๆ
"ไงไอ้ไทเกอร์ ช่วงนี้มึงจะขยันไปหน่อยไหมฮะ"
เอาจริงเขาก็ไม่ได้ปฏิเสธนะเพราะรู้สึกว่าขยันกว่าที่ผ่านมาจริง ๆ ตอนนี้แค่ไม่อยากคิดมากเรื่องของเพนตี้ ก็เลยต้องหาอะไรทำเพื่อไม่ให้ตัวเองคิดฟุ้งซ่าน การทำงานหนักจะได้เยียวยาจิตใจของตัวเองบ้าง
"กูกำลังเร่งโปรเจคจบอยู่ เวลาไปฝึกงานจะได้ไม่ต้องมากังวลเรื่องนี้"
"แล้วมึงฝึกงานที่ไหน บริษัทของตัวเองเหรอ"
ปอร์เช่เอ่ยถามพร้อมกับขยับตัวนั่งลงเคียงข้างเพื่อน
"บ้านกูทำทัวร์ป่ะ คงฝึกได้ล่ะมั้งไม่น่าถามเลยนะ กูก็ต้องไปฝึกโรงงานอุตสาหกรรมของลุง อยู่ใกล้กันนั่นแหละ"
เขาถึงกับถอนหายใจออกมาเพราะว่าเพื่อนถามคำถามที่ไม่คิด ปอร์เช่ถึงกับยิ้มแห้งออกมา
"อ่า... กูเข้าใจ อย่างนั้นคืนนี้เจอกันร้านเหล้าหน่อยไหมเพื่อน ๆ อยากเจอว่ะ"
ตอนแรกเขาก็ว่าจะปฏิเสธเพราะไม่อยากไปเที่ยว เห็นสายตาเว้าวอนของเพื่อนก็เลยคิดว่าอาจจะแวะไปสักแป๊บหนึ่ง ห่างหายจากการเที่ยวร้านเหล้ามานานเหมือนกัน ตั้งแต่รับคำท้าจากอดีตเพื่อนรักจึงได้กำเนิดไทเกอร์คนใหม่
"อือ แวะไปแป๊บหนึ่งก็ได้ เจอกัน"
และเวลาช่วงค่ำก็มาถึง เขาเดินเข้ามายังสถานที่อันคุ้นเคย จากนั้นก็ตรงไปยัง VIP zone เดิม เมื่อก่อนมาบ่อยมากแต่ตอนนี้ไม่มีกะจิตกะใจอยากมานั่งเลย หัวใจในตอนนี้คิดคำนึงหาแต่ผู้หญิงที่เขารักมากที่สุด
"ไทเกอร์ทางนี้"
เขาเดินเหม่อไปหน่อยก็เลยสะดุ้งเมื่อถูกเพื่อนตะโกนเรียก และเมื่อเงยหน้าขึ้นหันไปมองสบตาเพื่อนก็เจอคอปเตอร์กำลังโบกไม้โบกมือให้อยู่
"เดินเหม่อลอยมาเชียวนะ กูถามจริงมึงไหวไหมเนี่ย"
คอปเตอร์เอ่ยถามเพื่อนด้วยความเป็นห่วง แต่ทว่ารอยยิ้มของเขาทำให้เพื่อนพอสบายใจขึ้นมาหน่อย
"กูโอเคโว้ยไม่ได้เป็นอะไรหรอก ตราบใดที่ยังไม่ได้ลงเอยกับเพนตี้ กูจะไม่ยอมเป็นอะไรแน่นอน"
คอปเตอร์เห็นแบบนั้นก็ยื่นมือมาตบบ่าเพื่อนอย่างให้กำลังใจ
"สู้นะมึง กูดีใจมากเลยนะที่มึงรักใครรักจริงสักที ขอให้ไอ้เพนเฮาส์มันใจอ่อนเร็ว ๆ สักทีนะ"
"ขอบใจมากเว้ยเพื่อน"
"เออมาคุยเรื่องไปเที่ยวทะเลดีกว่า ตกลงว่าไปเกาะของไอ้แบรี่นะ"
คอปเตอร์เสนอไอเดียขึ้นมา คนอื่นก็พอเห็นด้วยเพราะว่าที่เกาะนั้นสวยมากเลยแหละ อภิมหาโคตรรวยจะเป็นของใครได้อีกนอกจากคุณแบรี่
"ตามนั้นแหละกูได้หมด"
"มึงไปกับใครไอ้โดมิโน"
"จองห้องเดียวแต่กูไม่นอนคนเดียวแน่ ๆ"
โดมิโนตอบคำถามคอปเตอร์ ซึ่งเขาเองก็ยังไม่ตอบหรอกนะว่าจะไปกับใคร
"แล้วมึงล่ะไทเกอร์"
คอปเตอร์หันไปถามเพื่อนรัก เพื่อนเขาทำหน้าครุ่นคิดเล็กน้อยก่อนจะเอ่ยออกมา
"กูจะไปกับเพนตี้"
และเมื่อเขาพูดแบบนั้นเพื่อนคนอื่นก็ทำน่าตกใจสุดขีด โดนพี่ชายกักขังแบบนั้นจะไปด้วยได้ยังไง
"อย่าบอกนะเว้ยว่ามึงจะไปฉุดเพนตี้มา"
แบรี่จ้องมองใบหน้าเพื่อนก่อนจะเอ่ยถามด้วยความตกใจ
"จะบ้าหรือไงก็ชวนไปดี ๆ สิวะ"
"เหอะ! ไอ้เพนเฮาส์มันคงยอมให้น้องมันไปกับมึงอ่ะ ควาย!"
เขายิ้มมุมปากออกมาก่อนจะหัวเราะในลำคอ หันไปจ้องมองใบหน้าของปอร์เช่ ซึ่งดูเหมือนว่าเพื่อนรักจะรู้ว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่ ถึงกับกลืนน้ำลายลงคอดังอึกก่อนจะยิ้มแห้งส่งมาทันที
"มึงมองกูแบบนี้หมายความว่ายังไง"
"แฟนมึงช่วยกูได้ ไอ้ปอร์เช่"
"เฮ้อ! กูอีกแล้ว"
หลังจากกลับมาจากผับอีกวันในตอนเช้าเขาก็โทรศัพท์ไปหาปอร์เช่อีกครั้งเพื่อขอคุยกับหม้อแกง เรื่องแบบนี้มันช้าไม่ได้เลยนะ เขาต้องรีบจัดการให้เร็วที่สุด
ตู้ดดดด
"ปอร์เช่กูขอคุยกับหม้อแกงหน่อย"
และเมื่อเพื่อนรักกดรับสายเขาก็ขอคุยกับเมียมันทันที ตื่นเต้นทั้งคืนจนนอนไม่หลับ อยากเจอเพนตี้มาก ๆ ขอได้กอดได้หอมแค่นี้ก็เพียงพอแล้ว
(แว่นมาคุยกับไอ้ไทเกอร์หน่อย)
(คุยทำไม)
ในน้ำเสียงนั้นดูเหมือนไม่อยากจะคุยด้วยสักเท่าไหร่ สงสัยน่าจะโกรธพวกเขาอยู่ละมั้ง ก็แหงแหละไม่น่าไปทำเลวกับผู้หญิงคนหนึ่งแบบนั้นเลย นึกย้อนกลับไปก็โกรธตัวเองเหมือนกันนะ
(เรื่องเพนตี้จ้าเมียจ๋า ช่วยมันเถอะนะ ตอนนี้เมียมันทิ้งแล้ว)
เขาอยากจะตะโกนเข้าไปในโทรศัพท์ว่า 'ไอ้สัสเมียกูไม่ได้ทิ้งเว้ย' แต่ก็ต้องอดทนเอาไว้ก่อน เพราะเดี๋ยวจะเสียเรื่อง เอาจริงเขาไม่ได้โดนทิ้งนะ แค่โดนพี่เมียขัดขวางทุกอย่างเฉย ๆ ว่าแต่เมื่อไหร่จะได้คุยโทรศัพท์เนี่ย
(ว่าไงไทเกอร์)
"แฮะ! หม้อแกงจ๋าเกอร์ขอโทษนะ"
เขาทำน้ำเสียงออดอ้อนใส่เมียเพื่อน เพราะว่าอยากได้รับความเห็นใจจากเธอ แต่ในตอนเขาคุยโทรศัพท์ทั้งอีกฝั่งน่าจะเปิดลำโพงอยู่ จึงได้ยินเสียงของเพื่อนรักตะโกนด่าตามมาไล่หลัง
(จ๋าพ่องมึงสิไอ้สัส เมียกู)
"เรื่องที่ผ่านมาเกอร์ขอโทษนะหม้อแกง"
(อือ ช่างมันเถอะ ฉันเข้าใจพวกนายมันเป็นแก๊งปากหมาพูดอะไรไม่คิดอยู่แล้ว)
"เกอร์ขอโทษครับ"
ตอนนี้แทบอยากจะร้องไห้แล้วก็คลานเข่าเข้าไปกราบงาม ๆ เพื่อให้เธอยกโทษให้ ความผิดในตอนนั้นรุนแรงเหมือนกัน เล่นกับความรู้สึกผู้หญิงคนหนึ่งมันไม่ใช่เรื่องตลกเลย
(มีอะไรว่ามาไม่ต้องพูดเยอะ)
"หม้อแกงชวนเพนตี้ไปเที่ยวทะเลด้วยหน่อยนะ"
(ทำไมไม่ชวนเอง)
"ก็พี่ของเพนไม่ยอมแน่ ๆ ตอนนี้แทบจะไม่ได้เจอกันอยู่แล้ว ไอ้เพนเฮ้าส์มันพาเพนตี้ไปอยู่ที่อื่น"
(สมน้ำหน้าพวกผู้ชายมักมากในกาม ผู้ชายเจ้าชู้มันก็ต้องโดนแบบนี้แหละ สะใจจริง ๆ)
ไม่รู้ว่าเธออัดอั้นอะไรหรือเปล่าถึงได้ระบายออกมาไม่ได้แคร์ว่าคนฟังจะรู้สึกยังไง แต่ดูเหมือนว่าจะมีอีกคนที่ร้อนตัวเหมือนกันนะ
(ด่าไอ้เกอร์ก็ด่าไปสิ หันมามองหน้าเช่ทำไม)
(ก็นายมันเลวไงปอร์เช่ พวกนายมันเลวเหมือนกันหมดแหละ)
"หยุดก่อนเถอะอย่าเพิ่งทะเลาะกัน คนกำลังเครียดอยู่นะ"
(เออ ช่วยก็ช่วย แต่ไม่รับปากหรอกนะว่าเพนตี้จะไปได้หรือเปล่า แค่นี้แหละขอจัดการไอ้เช่ก่อน)
(โอ๊ยที่รัก เค้าผิดอะไร เค้าผิดอาร๊ายยยยย!)
"เฮ้อ จะได้เรื่องไหมวะเนี่ย"
และในที่สุดงานมงคลก็มาถึง เป็นงานแต่งงานระหว่างไทเกอร์และเพนตี้ ส่วนคู่ของหนูนิดและเพนเฮาส์จะแต่งงานทันทีหลังจากที่ฝ่ายหญิงเรียนจบ ครอบครัวสุขสันต์ไม่มีอะไรที่ต้องกังวลอีกในตอนนี้เจ้าบ่าวกำลังนั่งรอเจ้าสาวอยู่ในห้องที่ทางออแกไนซ์จัดไว้ให้ และฤกษ์มงคลเวลา 9:09 น. จะมีพิธีสวมแหวนแต่งงานระหว่างทั้งคู่ ซึ่งตอนนี้เจ้าสาวก็เดินเข้ามากับเพื่อนอีกคนซึ่งก็คือหม้อแกง"สวยมาก!""เจ้าสาวสวยมาก!"ทุกคนร้องว้าวออกมาด้วยความตื่นเต้น เจ้าสาวดูมีน้ำมีนวลสวยงามที่สุด ภายในงานนี้ไม่มีใครที่โดดเด่นไปกว่าเธออีกแล้ว ช่างกล้องรัวชัตเตอร์กันอย่างเพลิดเพลิน หม้อแกงพาเพื่อนสนิทไปนั่งตรงที่ทางออแกไนซ์จัดเตรียมไว้ ก่อนจะเดินออกมาหาชายคนรักที่ยืนอยู่ไม่ห่าง"เพนสวยจังเลยค่ะ"และเมื่อหญิงสาวมานั่งลงตรงหน้า ชายหนุ่มก็เอ่ยชมไม่หยุด ตัวเธอเองก็รู้สึกเขินไม่น้อย ตลอดทางที่เดินเข้ามามีแต่เสียงซุบซิบพูดคุยกันว่าเธอดูสวยเหมือนเจ้าหญิง"ไทเกอร์ก็หล่อเหมือนกันนะ""แน่นอนอยู่แล้ว นี่ใครไทเกอร์เลยนะ"ทั้งสองคนจ้องมองสบตากันก่อนจะยิ้มออกมาอย่างมีความสุข บรรยากาศตลบอบอวนไปด้วยความอบอุ่น เจ้าบ่าวสวมแหวนเพชร 15 กะรัตให้คนรักบนน
เวลาผ่านไปประมาณ 15 นาที พยาบาลก็ถือชาร์จอะลูมิเนียมเดินเข้ามาหาคุณหมอพร้อมจะยื่นมาให้เขาตรงหน้า"ผลการตรวจออกมาเรียบร้อยแล้วค่ะ""เป็นยังไงบ้างครับหมอ"ไทเกอร์ลุ้นเป็นอย่างมาก เขากำมือคนรักของตัวเองไว้แน่น รอดูว่าผลการตรวจจะเป็นไปอย่างที่คาดหวังหรือเปล่า เอาจริงตื่นเต้นมากเลยนะ เขาอยากมีลูกกับเพนตี้ใจจะขาด ครอบครัวอบอุ่นสมบูรณ์ดีที่สุดในชีวิตเลย"ผลการตรวจออกมาแล้วนะครับ คุณเพนตี้กำลังตั้งครรภ์ ขอแสดงความยินดีด้วยนะครับ"และเมื่อผลการตรวจออกมาเป็นที่น่าพึงพอใจ ไทเกอร์และคุณแม่ก็ลุกขึ้นกระโดดโลดเต้นก่อนจะสวมกอดกันด้วยความดีใจเป็นอย่างมาก ส่วนคนที่ท้องก็จ้องมองไปยังทั้งสองคนก่อนจะส่ายหน้ายิ้ม ๆ"เย้! เมียผมท้องแล้วครับแม่ เพนตี้ท้องแล้วโว้ยยยย"หญิงสาวหัวเราะขำ ๆ กับท่าทีของชายคนรัก เล่นใหญ่ทั้งแม่และลูกเลย สงสัยจะอยากมีหลานมากจริง ๆ"ถ้าอย่างนั้นเรารีบเดินทางไปที่เชียงรายเถอะ ไปสู่ขอหนูเพนตี้กัน ถ้าเกิดว่าทางนั้นรู้ว่ากำลังท้องต้องตื่นเต้นมากแน่เลย""รีบไปกันเถอะครับแม่ ขอบคุณคุณหมอมากเลยนะครับเอาไว้เดี๋ยวผมจะพาภรรยามาฝากครรภ์ที่นี่""ยินดีมากเลยครับ เดี๋ยวหมอให้ยาบำรุงไปก่อน ถ้าพร้อม
ในตอนนี้เพนเฮาส์ได้กลับมาจากโรงพยาบาลเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เดินทางไปเจอกับครอบครัวของหนูนิด และแอบบอกว่าเป็นเพื่อนรักของไทเกอร์ จึงทำให้ครอบครัวของหนูนิดไว้ใจ เพราะเป็นเพื่อนรักของหลานชาย แถมเขายังโทรมายืนยันว่าเพนเฮาส์เป็นคนดี เรื่องราวจึงจบลงอย่างง่ายดายส่วนไทเกอร์เขาเปลี่ยนวันหยุดมาให้ตรงกับวันหยุดของเพนตี้ และวันนี้เขาพาคนรักมากินบุฟเฟ่ต์ทะเลพรีเมี่ยมตามที่สัญญาเอาไว้ ว่าแต่บุฟเฟ่ต์บ้าอะไรก็ไม่รู้ราคาหัวละตั้ง 4,990 บาท กินแล้วมันลอยได้หรือยังไง"เมียจ๋ากินเยอะ ๆ เลยนะ"เขานั่งแกะกุ้งล็อบสเตอร์ให้กับเพนตี้ เอาอกเอาใจสารพัด และตอนนี้เธอกินไปแล้วสองตัว ขนาดตัวโคตรใหญ่ยังงงเลยว่ากินไปได้ยังไง"ทำไมเกอร์ไม่กินล่ะ""เห็นที่รักกินก็อิ่มแล้วช่วงนี้ดูอุดมสมบูรณ์นะเรา มีน้ำมีนวลขึ้นเยอะเลย"หญิงสาววางกุ้งล็อบสเตอร์ลงก่อนจะจ้องมองไปยังชายหนุ่มด้วยใบหน้าหงุดหงิด"เกอร์กำลังบอกว่าเพนอ้วนเหรอ"หญิงสาวเท้าสะเอวจ้องหน้าคนรักอย่างเอาเรื่อง กล้าดียังไงมาบอกว่าเธอดูอุดมสมบูรณ์ ทั้งที่ความหมายคือการบอกว่าเธออ้วน ไทเกอร์ได้ยินแบบนั้นก็รีบปฏิเสธพัลวัน"ไม่ใช่ หมายถึงว่าเมียจ๋าสวยขึ้นไงจ๊ะ อึ๋มขึ้นด้วย
ทางด้านของเพนเฮาส์เขาเพิ่งจะได้สติ ค่อย ๆ ลืมตาขึ้นอย่างเชื่องช้า เมื่อเห็นใบหน้าของคนรักอยู่ตรงหน้าก็ตกใจรีบขยับตัวลุกขึ้นจนตัวเองเจ็บตัวรีบกุมขมับเพราะรู้สึกปวดหัว หนูนิดเห็นแบบนั้นก็ตกใจ รีบขยับตัวลุกขึ้นประคองชายหนุ่มเอาไว้ก่อนจะเอ็ดเขาเสียงไม่ดังมากนัก"อย่าเพิ่งลุกสิคะเดี๋ยวก็เจ็บตัวหรอก""หนูนิดให้อภัยพี่แล้วใช่ไหม แล้วตอนนี้พี่อยู่ที่ไหน"เขากุมขมับตัวเองเอาไว้ หันไปมองโดยรอบด้วยความมึนงง ก่อนหน้านี้จำได้ว่าตัวเองอยู่ที่คอนโด ดื่มเหล้าเมาทั้งวันทั้งคืน ตอนนั้นกำลังจะเดินไปเข้าห้องน้ำ แต่ว่าหลังจากนั้นก็ภาพตัดไปเลย"อยู่ที่โรงพยาบาลค่ะ พี่ไทเกอร์บอกว่าพี่เพนเฮาส์จะได้ผ่าตัด แต่ดูจากสภาพในตอนนี้... อย่าบอกนะคะว่าพี่ทั้งสองคนโกหกหนูนิด"ตอนนี้เธอมั่นใจแล้วว่ากำลังโดนหลอกอยู่ เพราะสภาพของคุณที่จะเข้าห้องผ่าตัดไม่น่าจะเป็นแบบนี้ เธอเตรียมจะลุกขึ้นออกไปแต่ทว่าชายหนุ่มก็ดึงรั้งตัวเข้าหาก่อนจะโอบก่อนเอาไว้แน่น"อย่าทิ้งพี่ไปเลยนะ พี่อยู่ไม่ได้ถ้าไม่มีหนูนิด""แล้วทำไมพี่ถึงทิ้งหนูนิดได้ละคะ"หญิงสาวเอ่ยถามกลับไปซึ่งทำเอาชายหนุ่มอึ้งไปไม่น้อยเหมือนกัน ตัวเองยังทิ้งไปโดยไม่สนใจไยดี ทีแบ
ทั้งสองคนเห็นประตูถูกเปิดออกและมีคุณหมอเดินออกมาพร้อมกับพยาบาล ก็รีบขยับตัวลุกขึ้นก่อนจะวิ่งเข้าไปหาทันที"หมอคะ พี่ชายหนูเป็นยังไงบ้างคะ"เธอเอ่ยถามคุณหมอเสียงสั่น ไทเกอร์กุมมือคนรักเอาไว้ หันมามองสบตากันก่อนจะยิ้มออกมาให้กำลังใจกันและกัน"ตอนนี้ไม่เป็นอะไรมากแล้วครับ คนไข้พักผ่อนน้อยร่างกายอ่อนแรงมาก จนหกล้มหัวหัวแตกตอนนี้หมอทำแผลให้เรียบร้อยแล้วไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง"เธอได้ยินแบบนั้นก็ยิ้มออกมาอย่างดีใจก่อนจะยกมือไหว้ขอบคุณคุณหมอที่ช่วยเหลือพี่ชายของเธอ"ขอบคุณมากนะคะ ขอบคุณจริง ๆ ค่ะ"คุณหมอยิ้มให้กับทั้งสองคนก่อนจะเดินออกไปทันที เขาเหลือบสายตามองคนรักก่อนจะส่งยิ้มไปให้"ไม่ร้องแล้วนะ""อื้ม ขอบคุณนะคะที่ช่วยพาพี่เพนเฮาส์มาส่งโรงพยาบาล"เขาอมยิ้มกรุ้มกริ่มก่อนจากกุมมือพาเธอเดินออกไปจากหน้าห้องฉุกเฉิน เดี๋ยวอีกสักพักพยาบาลน่าจะพาเพนเฮาส์ขึ้นไปยังห้อง VIP"ก็พี่เขยนี่นาต้องช่วยอยู่แล้ว"หญิงสาวหันหลังกลับไปมองยังประตูห้องฉุกเฉิน ก่อนจะทำหน้าเศร้าหมองเพราะรู้สึกสงสารพี่ชาย"หนูนิดก็ใจแข็งจริง ๆ เลย ไม่รู้จะช่วยพี่เพนเฮาส์ยังไงแล้ว"ไทเกอร์กินมุมปากออกมาอย่างเจ้าเล่ห์ก่อนจะหยิบโทรศัพท์
ในเวลานี้เขาไม่รู้จะทำยังไงต่อก็เลยคิดว่าออกไปหาหญิงสาวในตอนนี้เลยจะดีกว่า อยู่กับแม่เดี๋ยวก็ได้ทะเลาะกันอีก เรื่องเก่าตั้งนานมาแล้วขุดมาพูดอยู่ได้ ทั้งแม่ทั้งเพื่อนเลย เฮ้อ"ถ้างั้นผมไปหาเพนนะครับ""เหมือนว่าหนูเพนตี้จะออกไปพื้นที่กับไกด์นะลูก"เขาที่กำลังจะเดินออกไปต้องหยุดชะงัก แล้วหันกลับมามองใบหน้าของคุณแม่ด้วยความสงสัย"ทำไมถึงให้เพนตี้ออกพื้นที่ครับ""ก็หนูเพนตี้ขอแม่ออกไปเองจะห้ามได้ยังไงล่ะ"คุณแม่พิงโซฟาก่อนจะหันมามองใบหน้าของลูกชายพร้อมกับยิ้มออกมา เขาเองก็ไม่รู้ว่าจะไปตามตัวที่ไหนก็เลยคิดว่าการอยู่กับแม่น่าจะเป็นทางที่ดีที่สุด"งั้นผมรอตรงนี้ก็ได้""ตามสบายจ้ะ"สามชั่วโมงต่อมา...เสียงเคาะประตูหน้าห้องทำงานของคุณแม่ดังขึ้น ทำให้ชายหนุ่มสะดุ้งตื่นขยี้ตาของตัวเองก่อนจะลืมตาขึ้นมองว่าใครกำลังเข้ามา อากาศมันเย็นไปหน่อยก็เลยเผลอหลับไป และเมื่อเขาเห็นประตูถูกเปิดออกก็ยิ้มออกมาทันทีเมื่อเห็นใบหน้าของคนรักกำลังเดินเข้ามา"น้าลีเรียกหนูเหรอคะ""จ๊ะ มีคนมาหาน่ะ"เขาเห็นคนรักก็รีบขยับตัวลุกขึ้นก่อนจะวิ่งไปสวมกอดเธอทันทีด้วยความคิดถึง"ทำไมไม่รับโทรศัพท์เกอร์ ทักไลน์ไปก็ไม่ตอบ คอนโดก็