บทที่ 2.1 หล่อเกินไป
จารวีตื่นเช้ามาเช็กอีเมลแล้วพบว่าได้รับจดหมายเตือนให้รีบไปจ่ายค่าเทอมที่ค้างอยู่โดยเร็วที่สุด เธอได้แต่ถอนหายใจ หมดหนทางหาเงินถึงขนาดยอมทำงานไซด์ไลน์ แต่ก็ไม่ง่ายอย่างที่คิด
สาวิตรียังไม่กลับบ้าน เธอบอกว่านัดกับลูกค้าคนหนึ่งเอาไว้ที่โรงแรมอาจจะกลับมาทีเดียวในตอนเช้า ทำให้หล่อนต้องนอนคนเดียวทั้งคืน ถ้าไม่ติดว่าเพื่อนรักเองก็มีภาระทางบ้านต้องคอยดูแล อีกฝ่ายคงให้เธอยืมเงินได้แล้ว
ครืด ๆ
มีสายเรียกเข้าจากสาวิตรี คิดถึงปุ๊บก็โทรมาปั๊บ
หญิงสาวรีบกดรับสาย ปกติแล้วเธอจะไม่โทรมาในเวลาเช้าตรู่แบบนี้ ทำให้รู้ว่าอาจจะมีเรื่องการรับงานไซด์ไลน์ของจารวีเมื่อคืนนี้ก็เป็นได้
“ฮัลโหล ว่ายังไงยัยสา”
[มีลูกค้าแล้ว เขากดเลือกแกเข้ามาเมื่อคืน ฉันดูโปรไฟล์ทุกอย่าง รับรองว่าตรงตามที่แกอยากได้ จะรับมั้ย]
หญิงสาวกลืนน้ำลายลงคอ เธอลังเลจนวินาทีสุดท้าย อุตส่าห์มีลูกค้าแบบที่ต้องการหลงเข้ามาทั้งที ถ้าปล่อยให้หลุดไปก็ไม่รู้ว่าจะหาเงินมาจากไหนในเวลาอันสั้นแบบนี้
[เขาให้เงินแกสิบเท่า จากราคาที่ลงเอาไว้เลยนะ ตกลงจะเอาหรือไม่เอา ถ้าไม่เอาฉันจะเอาเองแล้ว]
“ตกลง เอาก็ได้ แต่แกรีบกลับมาเทรนด์ฉันก่อนนะ ฉันไม่รู้ว่าต้องทำอะไรก่อน”
ปลายสายหัวเราะในความใสซื่อบริสุทธิ์ของเพื่อนรักก่อนจะรับปากแล้ววางสายไป
โชคดีที่หุ่นของทั้งสองคนใกล้กัน จารวีจึงยืมชุดของเพื่อนรักมาใส่สำหรับรับงานลูกค้าในคืนนี้ ไม่ต้องเปลืองเงินซื้อชุดใหม่ สาวิตรีขนชุดทั้งหมดออกมาเพื่อให้หล่อนได้เลือก
“เลือกมาเลยว่าจะใส่ชุดไหน งานแรกทั้งที แกต้องเซ็กซี่จัดเต็มให้โลกลืมไปเลยรู้หรือเปล่า”
“แล้วไอ้คำว่าเซ็กซี่...มันต้องทำยังไงเหรอ”
เธอหรี่ตามองสาวิตรีด้วยต้องการให้อีกฝ่ายแสดงให้เห็น ปกติหล่อนแทบไม่ใส่ขาสั้นด้วยซ้ำ คำว่าเซ็กซี่จึงพับเก็บเข้าลิ้นชักไปได้เลย
“แกก็ต้องทำตาปรือ ๆ เหมือนคนใกล้จะหลับ แต่ไม่ต้องหลับจริง ๆ นะเว้ย แล้วก็จือปากหน่อย ๆ จากนั้นก็มองค่ะ ช้อนตามองไปเลย ออดอ้อนผ่านทางแววตา อารมณ์ประมาณว่า…มาเขมือบฉันสิคะ”
“ขะ…เขมือบเลยเหรอ”
คนถามเริ่มหวั่นใจ งานที่ดูเหมือนจะเป็นงานง่าย ๆ แล้วได้เงิน เอาเข้าจริงกลับยากกว่าที่คิด
“ไหนลองทำซิ ปรือตานิด ๆ เอ๊ะ ก็บอกว่านิดเดียวไง แกจะหลับตาหาอะไรมิทราบ”
“ก็มันคุมไม่อยู่ ปรือยังไง เหมือนเวลาพริกเข้าตาหรือเปล่า”
สาวิตรีถึงกับเท้าสะเอวพร้อมถอนหายใจ ฝึกให้ลิงเซ็กซี่ยังง่ายกว่าฝึกจารวีเลยมั้ง
“ข้ามขั้นตอนตาปรือไปก่อน จือปากแทน เอาริมฝีปากล่างออกมานิดหนึ่ง แล้วเผยอปากบนให้เห็นฟันหน้านิด ๆ ไหนแกลองทำ”
หญิงสาวทำตามที่เพื่อนบอกทุกขั้นตอนไม่มีบิดพลิ้ว และแน่นอนว่าภาพที่ออกมาทำเอาสาวิตรีถึงกลับยกมือกุมขมับ
มันจะไปรอดไหมละเนี่ย..
“นี่แกจือปาก หรือแกไปกินพริกมายกสวนแล้วเผ็ดจนปากหุบไม่ลงกันแน่ ลองดูใหม่ ฉันปล่อยแกไปพบลูกค้าสภาพนี้ไม่ได้หรอกนะ”
“ใช้ไม่ได้เลยเหรอ”
เจ้าของเสียงหวานถอนหายใจยาว ทุกอย่างมันดูยากสำหรับเธอไปหมดเลย การเป็นสาวไซด์ไลน์มีเรื่องให้ลำบากเยอะเหมือนกัน
“ไม่ได้สักนิดเลยจ้ะเพื่อนรัก แต่ก็ช่างเถอะ การแต่งตัวให้ผ่านก็พอ ยังไงเสียฉันก็ลงรายละเอียดไว้แล้ว ว่าแกยังไม่มีประสบการณ์ ลูกค้าคงเข้าใจไม่อย่างนั้นคงไม่เลือกแกมาหรอก”
“เป็นลูกค้าที่แปลกดีนะ ฉันนึกว่าคนที่มาใช้บริการจะต้องการผู้หญิงที่เป็นงานเสียอีก”
เธอบอกด้วยความสงสัย ทำเอาอยากเห็นหน้าของคนที่ต้องการซื้อเธอไปบำเรอความสุขเสียจริง
“ไม่ทุกคนหรอก ลูกค้าบางคนก็ต้องการผู้หญิงที่ยังซิงมากกว่าผู้หญิงที่ช่ำชอง แกเลิกกังวลแล้วไปเลือกชุดมาใส่ได้แล้ว เอาแบบเด็ด ๆ ดันทั้งนมดันทั้งก้นไปเลย”
ถึงจะพูดอย่างนั้นแต่เธอก็ไม่ได้มีทั้งบนทั้งล่างมากพออย่างที่อีกฝ่ายคาดหวังเสียหน่อย
บทที่ 50.2 จบบริบูรณ์ NCมือใหญ่จับก้นสวยแบะออกกว้าง มองดูจุดเชื่อมต่อด้วยสายตาหื่นกระหาย ดอกไม้งามมีน้ำหวานไหลรินไม่ขาดสาย ใบหน้าสวยเหยเก มือเล็กจิกที่นั่งไว้แน่น มาเฟียหนุ่มกัดฟันกรอด ด้วยถ้ำเล็กของเธอรัดเขาแน่นจนแทบจะขาดครึ่ง เขาพยายามหมุนควง แทงขึ้นลงแยงซ้ายขวาช้า ๆจากจังหวะเนิบนาบให้คุ้นชินเริ่มเร็วขึ้นเมื่อช่องทางไม่ติดขัด สะโพกแกร่งงัดเสยขึ้นกระแทกจุดเสียวเธอระรัว“อ๊ะ...อ๊ะ...อ๊า”เธอร้องครางไม่เป็นภาษา ศีรษะเล็กส่ายไปมาอย่างระบายอารมณ์ แขนแกร่งจับขาเรียวข้างหนึ่งพาดไปอีกฝั่ง ทำให้ตอนนี้อยู่ในท่าช่วงบนเธอนอนหงาย ส่วนช่วงล่างแอ่นสะโพกรับแก่นกายที่กระแทกกระทั้นเข้ามาปากหนาจูบลงบนกลีบปากบาง ความกำหนัดพุ่งสูงเท่าไหร่ เอวสอบก็ตอกอัดถี่รัวเท่านั้น มือบางข่วนแผ่นหลังแกร่งจนเลือดซิบ เธอเจ็บเล็กน้อยแต่ความเสียวนั้นมีมากกว่า เขาผละตัวออกเปลี่ยนมาจับขาเรียวขึ้นพาดบ่าหนึ่งข้าง มืออีกข้างยึดเอวเล็กไว้มั่น ซอยเข้าออกระรัวใบหน้าหล่อเชิดขึ้นซู้ดปากระบายความเสียวที่ได้รับ ผนังบางรัดแน่นให้ความรู้สึกแตกต่างจากด้านหน้า แต่เขารู้สึกไม่เสียดายเลยที่ได้ลิ้มลองในวันนี้ เอวหนาดึงออกเพียงเล็กน้อยแล้
บทที่ 50.1 จบบริบูรณ์ NCเขากระซิบข้างหูบอกบางอย่างสื่อความหมาย ทำเอาจารวีขนลุกเกรียว ในใจเต้นระส่ำ ไม่คิดว่าเขาจะกล้าชวนเธอทำเรื่องอย่างว่าต่อหน้าฟ้าดินแบบนี้“ระ…เราไปทำกันที่ห้องดีมั้ยคะ”เธอชวนด้วยความอาย แต่อีกใจก็อดรู้สึกตื่นเต้นไม่ได้“คุณไม่ต้องห่วง นี่หาดส่วนตัวของผม บนเรือก็มีแค่เรา ไม่มีใครเห็นหรอกน่า”พูดจบปากหนาก็มอบจูบรักสุดเร่าร้อน ริมฝีปากบางเผยอรับอย่างเต็มใจ ทั้งสองแลกจูบกันนัวเนียอยู่บนเตียงอาบแดดข้างสระน้ำอย่างไม่มีใครยอมใครนิ้วแกร่งกระตุกเชือกบิกินีที่ห่อหุ้มก้อนเนื้อนุ่ม จนสองเต้างามเด่นหราอวดตาคม ปากอุ่นร้อนก้มครอบครองเม็ดทับทิมสีสวยอย่างที่ชอบทำ มือบางปลดกางเกงเขาออก ชายหนุ่มให้ความร่วมมืออย่างว่าง่าย จารวีจับแท่งอุ่นร้อนรูดขึ้นลงไปมา เธอรู้ดีกว่าเขาชอบแบบไหน และเธอก็อยากทำให้เขามีความสุข นิ้วเรียวกดถูปลายหัวเห็ดเบา ๆ พลางรูดท่อนลำขึ้นลงเป็นจังหวะ ปากหนาตะปบจูบดูดกินอกอวบแรงขึ้นตามแรงกระสัน เขาสลับไล่เลียทั้งสองข้างอย่างเท่าเทียมกันจมูกโด่งเลื่อนไซร้คอขาวพลางกระซิบหูเล็กเบา ๆ“วันนี้...ขอลองอะไรใหม่ ๆ หน่อยนะครับ”เขาพูดเสียงพร่าปนอ้อน ด้วยกลัวเธอไม่เต็มใจ
บทที่ 49.2 แต่งงานกันนะมือเล็กจับมือเขากลับ...“การสูญเสียทำให้ผมกลัวที่จะจริงจังกับใครสักคน กลัวการมีความรัก เพราะหากรักแล้วประวัติศาสตร์ซ้ำรอยขึ้นมาอีก ผมคงทนไม่ไหว พอรู้ว่าตัวเองกำลังตกหลุมรักเด็กสาวอย่างคุณเข้าแล้วจริง ๆ ผมเลยต้องตัดไฟตั้งแต่ต้นลม หักดิบตัวเองแล้วไปจากคุณอย่างคนขี้ขลาด แต่สุดท้ายแล้ว...ผมก็หนีหัวใจตัวเองไม่เคยพ้นเลย”“คุณหมายความว่าอย่างไรคะ”คิ้วสวยขมวดเข้าหากันอย่างแปลกใจ“คุณไม่เคยหายไปจากสายตาของผมเลย ผมมองคุณอยู่ตลอดตั้งแต่วันที่เราเลิกกัน ผมรู้ทุกความเคลื่อนไหวของคุณ รู้ทุกอย่างในชีวิตคุณ...”ชายหนุ่มนึกย้อนไปถึงช่วงเวลานั้น หากเขาเหนื่อยจากการทำงานก็มักจะมาดักรอเจอหญิงสาวหน้าที่ทำงานพิเศษของหล่อนเป็นประจำ คอยเดินตามหลังจารวีจนกว่าเธอจะกลับถึงบ้านอย่างปลอดภัยราวกับว่าการได้เห็นหน้าเธอคือการเพิ่มพลังของตนเอง“คุณพูดจริงเหรอคะ”“ครับ สุดท้ายผมก็รู้ว่าไม่มีทางปล่อยคุณไปได้ เลยเอาทุนไปเสนอกับทางอาจารย์ที่ปรึกษาของคุณ เพื่อดึงคุณกลับเข้ามาในชีวิตอีกครั้ง ทฤษฎีโลกกลมหรือเรื่องบังเอิญอะไรนั่นมันไม่มีอยู่จริงหรอกครับ ผมก็แค่...สร้างโลกขึ้นมาใหม่ สำหรับเราสองคนเท่าน
บทที่ 49.1 แต่งงานกันนะ“ถึงแล้วครับนายท่าน”รถจอดลงที่หน้าบ้านหลังหนึ่ง จารวีมองออกไปนอกรถก่อนจะขมวดคิ้วด้วยความแปลกใจ เมื่อบ้านหลังนี้ก็คือบ้านของเธอที่ถูกธนาคารยึดขายทอดตลาดไป“นี่มันอะไรกันคะ”“ลงไปดูสิครับ”เขาเปิดประตูรถแล้วพาเธอลงไปด้วยกัน คนของชายหนุ่มเอาซองเอกสารมาส่งให้ก่อนกลับขึ้นไปรอบนรถตามเดิมจารวีมองบ้านตรงหน้าด้วยความคิดถึง เธอเปิดประตูเข้าไปเดินดูตามจุดต่าง ๆ ความทรงจำที่เคยมีร่วมกับบิดามารดายังไม่หายไปไหน เสียงหัวเราะแห่งความสุขยังคงดังก้องอยู่ในจิตใจ แต่ถึงอย่างนั้นก็สร้างน้ำตาแห่งความตื้นตันให้กับหล่อนได้อยู่ดี“คุณพ่อ คุณแม่ หนูขอโทษนะคะที่รักษาบ้านของเราเอาไว้ไม่ได้”เธอทำได้เพียงยกมือขอโทษต่อบุพการี จารวีนั่งลงบนโซฟาภายในห้องรับแขก ทุกอย่างยังคงเหมือนเดิมไม่มีอะไรเปลี่ยน ที่เปลี่ยนก็คงจะเป็นบ้านหลังนี้ไม่ใช่ของเธออีกต่อไป“คุณคงรักบ้านหลังนี้มากเลยใช่มั้ย”“ใช่ค่ะ มันมีความทรงจำของคุณพ่อกับคุณแม่อยู่ที่นี่ด้วย ฉันผิดเองที่ตอนโดนคุณป้าแย่งเอาทุกอย่างไป แต่กลับไม่คิดสู้ ฉันไม่คิดว่าคุณป้าจะผลาญสมบัติทุกอย่างของคุณพ่อขนาดนั้น ไม่เว้นแม้แต่บ้านหลังนี้ ฮึก...ถ้ารู้..
บทที่ 48.2 จับผิดคนโกหกหมับ!“แฮ่ก...แฮ่ก...คุณเข้าใจผิดแล้วนะเด็กน้อย”หญิงสาวถูกกระชากออกไปจากอ้อมกอดของตะวันด้วยฝีมือของเควิน เขาดึงหล่อนเข้าหาตัวแล้วเอามืออีกข้างดันอกชายหนุ่มอีกคนเอาไว้“คนของผม ผมจัดการเอง ขอบคุณที่ช่วยดูแล”“ปล่อยนะคะ ฉันไม่มีอะไรจะพูดกับคุณ”จารวีพยายามดันตัวเขาให้ออกห่าง เธอไม่ต้องการได้ยินเสียงหรือเห็นหน้าของเควินในตอนนี้“แต่คุณต้องคุย เพราะคุณกำลังเข้าใจ...”เพี๊ยะ!พูดยังไม่ทันจบ มือเล็กก็ตบเข้าที่แก้มของชายหนุ่มอย่างจัง น้ำตาไหลเป็นสายมองหน้าเขาด้วยความเจ็บปวดถึงขีดสุด สาวิตรีที่เพิ่งวิ่งตามมาถึงพร้อมกับตันหยงและผู้ชายอีกคนถึงกับยกมือทาบอกด้วยความตกใจ จะอ้าปากห้ามก็ไม่ทันเสียแล้ว เธอผลักเขาออกเตรียมจะวิ่งหนีอีกแต่ถูกดึงเอาไว้“ฉันบอกให้ปล่อยไงคะ อยากถูกตบอีกเหรอ”“เอาสิครับ ตบเลย ถ้าตบแล้วจะทำให้คุณยอมฟังผมอธิบายบ้าง”เควินยื่นหน้าอีกข้างให้จารวีตบ เธอง้างมือขึ้นเพื่อจะตบเขาจริงๆ แต่สาวิตรีวิ่งเข้ามารั้งแขนไว้เสียก่อน“ยู๊ดหยุด หยุดก่อนเลยเพื่อนรัก แกจะตบคุณเควินไม่ได้นะ”“ทำไมจะตบไม่ได้ แกบอกเองไม่ใช่เหรอ ว่าเขาต้องโดนลงโทษเสียบ้าง”จารวีหันไปมองเพื่อน
บทที่ 48.1 จับผิดคนโกหก“เราต้องทำถึงขนาดนี้จริง ๆ เหรอ”จารวีมองหน้าสาวิตรีและตะวันด้วยความลังเล ขณะที่ทั้งสามคนกำลังแอบสะกดรอยตามเควินอยู่ในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง หลังจากที่วันนี้เขาขอยกเลิกนัดเธอเพราะมีนัดอื่นเข้ามาแทน“ต้องทำแบบนี้แหละ ไม่อย่างนั้นจะได้รู้ความจริงเหรอ ในเมื่อแกไม่ยอมถาม ก็ต้องจับให้ได้คาหนังคาเขาเท่านั้น”“แต่ถ้ามันเป็นอย่างที่พวกเราคิด...ฉันควรทำไงดีล่ะ”เธอมองตามหลังเควินไปด้วยสายตากังวล เธอยังรวบรวมความกล้าถามเขาเรื่องของตันหยงไม่ได้“จะต้องทำอะไรอีกล่ะ ก็ด่าให้ห้างฯ แตกไปเลยสิ เอาให้อายทั้งคุณเควินและผู้หญิงคนนั้นนั่นแหละ ตามไปเร็ว!”สาวิตรีคว้าแขนเพื่อนแล้วจ้ำอ้าวเดินตามหลังเควินต่อไป คนที่เป็นเดือดเป็นร้อนยิ่งกว่าเจ้าตัวก็คือเพื่อนรักคนนี้นี่แหละทั้งสามเดินตามเควินมาจนถึงร้านเพชรร้านใหญ่ ทันทีที่เดินเข้ามา ก็มีร่างเล็กของตันหยงวิ่งเข้ามาหาพร้อมกระโดดกอดคนตัวสูงเอาไว้“พี่คะ มาแล้วหรือคะ”“รอนานหรือเปล่า”มือใหญ่วางลงบนหัวของอีกฝ่ายแล้วยีเบา ๆ ภาพที่เห็นทำเอาจารวีน้ำตาร่วงเผาะลงบนพื้น เธอไม่กล้าจะเข้าไปถามอย่างที่ตั้งใจไว้เพราะกลัวจะได้ยินคำตอบ“เฮ้ยเดี๋ยว