เวหาปล่อยข้อมือบางให้เป็นอิสระพร้อมกับหยิบหมวกกันน็อคขึ้นมาสวมเข้าที่ศีรษะของตัวเขาเองแล้วขึ้นไปคร่อมบนรถมอเตอร์ไซค์บิ๊กไบค์คันใหญ่สีดำของตัวเอง
“เราเป็นเพื่อนกัน ขึ้นมาสิเดี๋ยวไปส่งที่บ้าน” ชายหนุ่มเอ่ยชวนหญิงสาวให้ขึ้นไปนั่งบนรถคู่ใจทำเอาเชอรีนรีบปฏิเสธเสียงแข็งมือไม้โบกสะบัดพัลวันเพราะเธอไม่เคยนั่งรถมอเตอร์ไซค์คันใหญ่แบบนี้มาก่อนอีกทั้งเธอก็ไม่ได้สนิทถึงขั้นที่ไปไหนมาไหนด้วยกันได้
“ไม่เป็นไรเรากลับเองได้” เชอรีนยิ้มแห้งอย่างไม่รู้จะพูดปฏิเสธเช่นไรเธอไม่สะดวกที่จะนั่งซ้อนท้ายมอเตอร์ไซค์คันใหญ่แบบนี้อีกทั้งชุดกระโปรงนักเรียนที่เธอสวมใส่นั่นก็เป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่ทำให้เธอไม่กล้าที่จะนั่งรถไปกับเขา
ร่างบางหลุบตามองลงไปยังกระโปรงนักเรียนของตัวเองแล้วจึงหันมองไปทางอื่นคิดๆๆว่าพูดปฏิเสธอย่างไรดี เวหาที่มองดูการกระทำของเธออยู่จึงได้เปิดกระจกหมวกกันน็อคขึ้น
“ใส่กางเกงซับในหรือเปล่า” คำพูดของเขาทำเอาเชอรีนตะลึงดวงตากลมโตเบิกกว้างขึ้นไม่คิดว่าเขาจะพูดอะไรแบบนี้ออกมา เชอรีนพยักหน้าด้วยท่าทางเลิ่กลั่กยกมือขึ้นเกาหัวอย่างเหนียมอาย
“ห๊ะ! ก็ใส่”
“งั้นก็ขึ้นมาเถอะน่า ถือว่าตอบแทนที่เธอช่วยฉัน” ชายหนุ่มยื่นมือเพื่อรอรับมือเล็กของหญิงสาวแต่เชอรีนยังคงปฏิเสธพูดอ้างนั่นนี่ไปเรื่อย
“เราไม่ได้ช่วยอะไรนายเลย” ชายหนุ่มเริ่มเหนื่อยใจไปกับท่าทางของหญิงสาวตรงหน้าที่มัวแต่กลัวเขาจนไม่ยอมขึ้นมานั่งบนรถมอเตอร์ไซค์ของเขาสักทีและท้ายที่สุดเวหาจึงยกเรื่องที่เธอและเขาเป็นเพื่อนกันนำหัวข้อสนทนานี้ขึ้นมาเชื้อเชิญเธอให้ขึ้นมานั่งบนรถมอไซค์ของเขา
“แล้วไม่อยากรู้เหรอว่าพวกเราเป็นเพื่อนกันยังไงเดี๋ยวเล่าให้ฟังตอนขับไปส่งเธอ”
“งั้นก็ได้แต่ว่าเราขึ้นรถนายไม่เป็น มันสูงมากเราจะขึ้นยังไง” เมื่อโดนบอกให้ขึ้นไปนั่งบนรถมอเตอร์ไซค์ไม่หยุดสุดท้ายเชอรีนก็จำต้องยอมพยักหน้าตกลง เธอติดปัญหาสำคัญซึ่งนั่นก็คือวิธีการขึ้นรถคันใหญ่ๆแบบนี้เนี่ยมันต้องขึ้นยังไงกันนะ หนุ่มนักเรียนมัธยมปลายไม่รีรอรีบบอกวิธีการขึ้นรถมอเตอร์ไซค์คันนี้ในแบบฉบับของเขา
“จับไหล่ฉันแล้วเหยียบที่ ที่เหยียบนั่นออกแรงยกตัวขึ้นนั่งและทรงตัวดีๆ ลองดูไม่ยากอีกหน่อยเผื่อเธอติดใจแล้วจะอยากนั่งมอไซค์ฉันอีก” เสียงทุ้มพูดบอกพลางยื่นมือให้เชอรีนได้จับเพื่อยึดหลัก
“ชิ ไม่มีทาง!”
เชอรีนลองทำตามวิธีที่เวหาบอกจนสุดท้ายเธอก็ขึ้นมานั่งอยู่บนมอเตอร์ไซค์ของเขาได้จนสำเร็จ หญิงสาวรู้สึกหวาดกลัวเพราะตัวรถมันค่อนข้างสูงและดูน่ากลัว เธอกลัวว่าเธออาจจะหล่นในตอนที่รถเคลื่อนตัวออกไปด้วยความเร็ว
“กอดเอวฉันแล้วเธอจะไม่ตก” เวหาที่เหมือนจะรับรู้ความรู้สึกของเชอรีนก็พูดขึ้นพร้อมทั้งเริ่มสตาร์ทรถมอเตอร์ไซค์จนเสียงดังกระหึ่มกึกก้อง
“ทำไมต้องกอดด้วย ไม่!!” เชอรีนรีบยกมือขึ้นกอดอกเรื่องอะไรที่เธอต้องโอบกอดผู้ชายคนนี้ด้วย เธอเป็นผู้หญิงนะจะให้ไปกอดผู้ชายแบบนี้ได้ยังไงไม่มีทาง
“ก็แล้วแต่นะ ตกไปอย่าหาว่าไม่เตือน!!” เขาถือว่าเตือนเธอแล้วนะ เวหาเริ่มออกแรงบิด สองล้อเริ่มหมุนเคลื่อนที่ออกตัวด้วยความเร็วทำเอาร่างบางที่นั่งอยู่ข้างหลังแทบจะหงายไปข้างหลังโดยทันที
“กรี๊ด~ เดี๋ยวรอแปบ” เชอรีนส่งเสียงกรีดร้องพร้อมทั้งเขย่าท่อนแขนแกร่งไปมาเพื่อเป็นการขอร้องให้เขาหยุดจอดรถเดี๋ยวนี้ เวหาหยุดตามที่เธอขอมือเล็กเริ่มโอบกอดเอวของเขาเอาไว้พร้อมๆกับแผ่นหลังที่รู้สึกได้ถึงสัมผัสนุ่มนิ่มแถมยังหอมละมุน
เมื่อเธอกอดเขาแล้วเวหาจึงเริ่มบิดแล้วขับออกไปด้วยความเร็วในระดับหนึ่งเชอรีนที่ไม่เคยนั่งมอไซค์แบบนี้มาก่อนก็เกิดอาการกลัวเธอซบใบหน้าเข้าหาแผ่นหลังเสื้อนักเรียนของชายหนุ่มจนแนบชิด
ซ่า~
จู่ๆก็เกิดเม็ดฝนร่วงหล่นลงมาทำเอาสองร่างที่กอดกันแน่นเปียกปอนไปด้วยความชุ่มฉ่ำและด้วยความที่เกรงว่าหญิงสาวจะเปียกจนไม่สบายจึงทำให้เขาหันหน้าบอกเธอเพียงนิดก่อนที่จะขับรถมุ่งหน้าไปยังคอนโดที่อยู่ไม่ไกลของตัวเอง
“ฝนตกแวะไปหลบฝนที่ห้องฉันก่อนแล้วกัน”
“เดี๋ยว! นายจอดรถเลยนะ เราลงตรงนี้ได้ นี่จอดรถสิ” ร่างบางที่ได้ยินแบบนั้นก็ชะงักผละออกจากแผ่นหลังหนา เธอตะโกนบอกให้เขาช่วยจอดรถตรงฝั่งข้างทางแต่เวหาที่ไม่คิดที่จะจอดอยู่แล้วก็เลือกที่จะไม่สนใจเธอ เขามุ่งหน้าขับตรงไปยังคอนโดของตัวเองอย่างคนที่เอาแต่ใจ
คอนโดเวหา
ลานจอดรถชั้นใต้ดิน
“เข้าไปหลบฝนห้องฉันก่อน” ทันทีที่ทั้งคู่ได้ลงจากรถมอเตอร์ไซค์แล้วเวหาก็เอ่ยชวนคนตัวเล็กให้ขึ้นไปยังห้องของเขา เชอรีนรีบส่ายหน้าใบหน้าบึ้งตึงยังคงโกรธเคืองที่เขาไม่ยอมจอดรถให้เธอได้ลงในก่อนหน้านี้
“ไม่! เราไม่ได้รู้จักกัน แล้วจะพามาที่นี่ทำไม นี่!”
เวหาเลือกที่จะจับแขนเรียวเล็กของคนตรงหน้ากึ่งลากกึ่งจูงพาเธอเข้าไปในลิฟท์ด้วยความยากลำบากเพราะเชอรีนไม่ยอมให้ความร่วมมือเลยสักนิด ลิฟท์ได้ขึ้นมาถึงยังชั้นที่ 18 ซึ่งเป็นชั้นที่อยู่ของเขาแล้ว
ชายหนุ่มดันร่างบางออกจากลิฟท์แล้วพาเธอเดินไปตามทางเดินจนมาหยุดอยู่หน้าห้องของตัวเองนั่นก็คือห้อง 1808
“ฉันไม่ทำอะไรเธอหรอกน่า อย่างเธอไม่ใช่สเปค!” เวหาหันไปพูดบอกเธอว่าไม่ใช่สเปคแต่ความจริงแล้วมันช่างสวนทาง เชอรีนตรงสเปคแถมยังถูกใจเขาเป็นอย่างมาก ประตูห้องถูกเปิดออกหลังจากที่เวหาใส่รหัสปลดล็อคเป็นที่เรียบร้อย
ไม่รอช้าเขาดันแผ่นหลังของหญิงสาวให้เดินเข้าไปในห้องจนเมื่อทั้งสองได้ผ่านพ้นประตูด้วยกันทั้งคู่แล้ว เวหาก็รีบกดปิดประตูทันที
ปัง!!
“ฮึ่ย~ รู้แล้วน่า แล้วพาคนไม่รู้จักเข้าห้องแบบนี้ได้ยังไง” เชอรีนหันหน้ามาทำท่าจะเอาเรื่องแต่พอเห็นว่าเวหากำลังปลดเปลื้องเสื้อผ้าชุดนักเรียนของตัวเองอยู่เธอจึงรีบหันมองไปทางอื่นใบหน้าสวยเห่อร้อนขึ้นฉับพลันผู้ชายคนนี้ทำไมถึงได้ทำอะไรไม่ระวังบ้างเลยไม่ได้อยู่ลำพังในห้องนี้สักหน่อย
“ก็บอกอยู่ว่าเป็นเพื่อนกับเธอ” เวหาที่เห็นว่าเชอรีนมีท่าทางเขินอายในตัวของเขาจึงคลี่ยิ้มออกมาพร้อมทั้งพูดบอกเธอด้วยน้ำเสียงราบเรียบอีกครั้ง เขาย้ำบอกเธอถึงความสัมพันธ์ที่เป็นเพื่อนของพวกเขา
“แต่เราจำนายไม่ได้” เชอรีนที่มองเวหายังไงก็จำไม่ได้สักทีจึงทำหน้าบึ้งตึงออกมา ทำไงได้อะก็คนมันจำไม่ได้นี่นา เวหาที่ถอดเสื้อนักเรียนออกจากร่างกายขาวเนียนของเขาไปแล้วก็เดินขยับเข้ามาใกล้ร่างเล็กมากขึ้นเรื่อยๆ
“ลองนึกดีๆ”
“แล้วจะเขยิบเข้ามาทำไม ถอยออกไปหน่อยก็ได้”
2 ปีผ่านไปเฮ้อ~เสียงถอนหายใจดังขึ้น“ขีดเดียวอีกแล้วขอโทษนะ” เชอรีนเดินถือที่ตรวจครรภ์ออกมาจากห้องน้ำ ใบหน้าของเธอห่อเหี่ยวดูไม่สดชื่นไม่มีชีวิตชีวาเอาเสียเลย เธอยื่นที่ตรวจนั้นให้สามีหนุ่มได้มองเห็นอย่างใกล้ๆ เวหาที่เห็นก็ยิ้มขึ้นเพื่อปลอบใจภรรยาสาว ไม่มาตอนนี้ก็ใช่ว่าต่อไปจะไม่มานี่เนอะ พวกเราก็ทำได้เพียงแค่รอต่อไปก็เท่านั้น“ไม่เป็นไร ไว้พวกเราค่อยๆทำกันไปเรื่อยๆ เดี๋ยวลูกก็มาเอง”“แต่นี่มันจะครบ 2ปีที่เราแต่งงานกันแล้วนะเว!” เธอมองเขาด้วยสายตาตัดพ้อเพราะตั้งแต่ที่แต่งงานกันมาทั้งเธอและเขาก็พยายามกันมาโดยตลอด เวหาที่เห็นแบบนั้นก็รีบโอบกอดภรรยาสุดที่รัก เขาไม่อยากให้เธอต้องมานั่งเครียดด้วยเรื่องนี้เลย ค่อยๆเป็นค่อยๆไปก็ได้ พวกเราก็ยังอายุไม่ได้เยอะอะไรยังไม่ถึงสามสิบกันด้วยซ้ำ“ใจเย็นๆเดี๋ยวก็มาเองนั่นแหละ ยังไงก็ต้องมา เราก็ไปตรวจกันแล้วนี่ต่างคนก็ต่างไม่ได้มีใครที่เป็นหมัน”“เราคงมีลูกยาก ปล่อยมา2ปีแล้วก็ยังไม่มาเลย” เชอรีนพยักหน้า พวกเราไปตรวจมาแล้วก็จริงแต่ทำไมลูกถึงยังไม่มาสักทีหรือเธออาจมีลูกยากใช่มั้ย มีอะไรที่ผิดพลาดหรือเปล่า ความเศร้าทำให้เธอเครียดสามีอย่างเวหาจึงผละร่างก
1 อาทิตย์ต่อมาณ งานแต่งงานของนายพชรดนัย & นางสาวชนัญชิดา“ยินดีกับพวกแกด้วยนะ นี่เวหาดูแลเพื่อนฉันให้ดีๆด้วย” เพียวเดินเข้าไปจับมือเล็กของเชอรีนที่กำลังยืนยิ้มอยู่ข้างกายเวหาโดยที่มาร์ชก็ยิ้มอย่างเห็นด้วย เขายินดีกับทั้งเวหาและเชอรีนเป็นอย่างมาก เชอรีนที่ได้ยินเพื่อนรักร่วมแสดงความยินดีก็รีบตอบกลับไปตามประสาเพื่อนสนิทที่ชอบหยอกเย้ากัน“แล้วเมื่อไหร่มาร์ชจะขอเพียวแต่งงานสักที เรารอไปงานอยู่นะ” เพียวทำเพียงแค่ยิ้มเจื่อนเพราะก็ไม่รู้เหมือนกันว่าแฟนหนุ่มจะขอเธอแต่งงานเมื่อไหร่ มาร์ชมองไปยังแฟนสาวที่กำลังยิ้มแห้งมองดูก็รู้ได้ทันทีว่าเธอคิดอะไรอยู่ ไม่รีรอให้เธอได้คิดอะไรไปเรื่อยมือหนารีบเอื้อมไปกอบกุมมือเล็กของเธอเอาไว้ทันที“เร็วๆนี้แหละ”“จริงเหรอ” เพียวเงยหน้าขึ้นมองใบหน้าหล่อนั้นด้วยใจที่เต้นแรงพร้อมกับยิ้มกว้างขึ้นด้วยความดีใจ จากหัวใจที่ห่อเหี่ยวกลับมากระชุ่มกระชวยมีชีวิตชีวาอีกครั้ง พวกเขาสบสายตาส่งยิ้มให้แก่กันทำเอาวิเวียนที่ยืนอยู่กับออสตินเบ้หน้าด้วยความหมั่นไส้เบาๆแต่ก็แอบอมยิ้มอย่างมีความสุขที่เพื่อนทั้งสองรักกันอย่างหวานซึ้ง“ชิ สองคนนี้นี่ไปหวานกันไกลๆเลย วันนี้เชอรีนของพวกเ
-ห้องนอนเวหา เชอรีน-“แล้ววันงานคือวันไหนเหรอ” ทันทีที่เดินเข้ามาในห้องแล้ว เชอรีนรีบถามไปยังแฟนหนุ่มทันทีเพราะเธอไม่รู้เลยว่าเขาได้จัดเตรียมงานไปถึงขั้นไหนแล้ว เวหารีบเดินเข้ามาโอบกอดเชอรีนจากทางด้านหลัง“อาทิตย์หน้า” ทันทีที่ได้ยินว่าอาทิตย์หน้าใบหน้าสวยก็อ้าปากค้างเพราะมันเหลือเวลาอีกเพียงแค่ไม่กี่วันเท่านั้นแล้วแบบนี้เธอกับครอบครัวจะเตรียมตัวกันทันหรือ“แล้วจะทันเหรอ”“ทันแน่นอน งานถูกจัดเตรียมไปเกือบร้อยเปอร์เซ็นต์แล้ว จะเหลือก็แค่กลับไปลองชุดแต่งงานถ่ายรูปพรีเวดดิ้งแล้วก็แจกการ์ดเท่านั้น งั้นเวโพสต์ลงโซเชียลไว้ก่อนเลยแล้วกัน ญาติพี่น้องและเพื่อนฝูงของพวกเราจะได้เตรียมหาซื้อเสื้อผ้าไว้ได้ทัน”“อืม ขอบคุณมากนะที่ทำเพื่อเราขนาดนี้” เชอรีนพยักหน้าอย่างคนที่เห็นด้วยเป็นอย่างยิ่ง ในตอนนี้เธอรู้สึกอยากขอบคุณผู้ชายคนนี้มากถึงมากที่สุดที่ยังคงรักและรอคอยเธอเสมอมาแม้ว่าเธอนั้นจะทำตัวไม่น่ารักเอาซะเลย“ก็เมียทั้งคน เชอ..” เวหายิ้มด้วยความเต็มใจอีกทั้งก็จงใจเรียกชื่อแฟนสาวเมื่อนึกขึ้นได้ว่า...“อะไรเหรอ”“ใส่ชุดนั้นให้ดูหน่อยได้มั้ย” เขาชี้มือไปยังกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ของคนทั้งคู่ เชอรีนที่ย
“รู้นะว่าคิดอะไรอยู่” คนที่โดนกระทำย่นคอหลบหนีสัมผัสที่กำลังได้รับอย่างเขินอายพร้อมทั้งกล่าวดักคอแฟนหนุ่มด้วยคำพูดที่รู้ทัน เวหาหัวเราะในลำคอกระซิบตอบกลับพร้อมพรมจูบไปตามลำคออย่างตั้งใจ“รู้ว่าอะไร รู้จริงหรือเปล่า” มือหนาเคลื่อนไปกอบกุมหน้าอกอวบอิ่มคัพดีตรงหน้า บีบขยำพร้อมกันสองข้างอย่างถ้วนทั่ว เชอรีนที่รู้สึกเหน็ดเหนื่อยจากการเดินทางอยู่จึงดึงมือซุกซนของเขาให้ออกห่างจากหน้าอกของตัวเองแล้วหันหลังจ้องมองเขาด้วยสายตาอ้อนๆ“ไว้คืนนี้แล้วกัน ตอนนี้เราเหนื่อยอยากนอนพักมากเลย เวไม่เหนื่อยหรือไงขับรถมาตั้งนาน แล้วเรื่องแบบนั้นก็ต้องใช้แรงนะ” เธอพูดโน้มน้าวจิตใจแฟนหนุ่มจนเขาพยักหน้าคล้อยตามพร้อมกับสวนหัวเราะออกมาอย่างชอบใจที่แฟนสาวของเขาเป็นฝ่ายที่นัดเย็xในคืนนี้“หึ~ พูดแล้วนะ”เชอรีนจูงมือเวหาไปยังเตียงนอนที่มีขนาดใหญ่ คนทั้งคู่ขึ้นไปนั่งบนนั้นพร้อมกับค่อยๆล้มตัวลงนอน ผ้าห่มผืนใหญ่ถูกหยิบขึ้นมาใช้ปกคลุมร่างกาย อุณหภูมิของแอร์ในห้องกำลังพอดีไม่หนาวหรือไม่ร้อนจนเกินไปทั้งสองนอนกอดก่ายซึ่งกันและกันแล้วเพียงไม่นานพวกเขาก็หลับใหลไปในที่สุด...19.00น.ทันทีที่ตื่นขึ้นทั้งเวหาและเชอรีนต่างก็เปล
อึก!!เชอรีนกลืนของเหลวสีขุ่นลงสู่ลำคอพร้อมทั้งยกมือเช็ดคาบน้ำที่เปรอะเปื้อนออกจากมุมปากของตัวเอง เธอผละริมฝีปากออกจากความใหญ่โตตรงหน้า มือเล็กแตะลงบนหน้าขาของเขาอย่างตั้งใจ ในเมื่อเสร็จกิจเรียบร้อยแล้วก็สมควรแก่เวลาที่จะต้องรีบไปอาบน้ำกันได้แล้ว“ปล่อยได้แล้วจะรีบไปอาบน้ำ เดี๋ยวไม่ทันเวลา”เวหาที่ได้ยินแบบนั้นก็ปล่อยเธอให้เป็นอิสระ เชอรีนรีบลุกขึ้นนั่งหลังตรงเพียงแค่มองหน้าเขาภาพเหตุการณ์เมื่อครู่ก็ผุดเข้ามาในหัว เธอส่ายหน้าไปมาแล้วรีบลุกขึ้นยืน“เราไปอาบน้ำก่อนนะ”“งั้นขอเวอาบด้วยคนนะจะได้เร็วขึ้นไง” เวหาลุกยืนตามแฟนสาวเขาอุ้มเธอในท่าเจ้าสาวโดยที่เธอนั้นทำได้แค่เพียงพยักหน้าเบาๆ เวหาเดินลงจากเตียงแล้วเดินดุ่มๆไปยังห้องน้ำทันที 30 นาทีต่อมาบนรถ“พวกเราจะไปกันที่ไหนเหรอ” ในขณะที่กำลังขับรถอยู่นั้นเสียงทุ้มก็เอ่ยถามไปยังแฟนสาวของตัวเองที่กำลังมองไปยังหน้าจอโทรศัพท์มือถือของเธออยู่ เชอรีนเงยหน้าหันมาให้ความสนใจไปกับคนข้างกาย เธอยิ้มอย่างสดใสยกชูหน้าจอมือถือให้เขาได้เห็นรูปภาพของบ้านพักพูลวิลล่าหลังใหญ่ที่พวกเรากำลังจะไป“เราลืมบอกเวไปเลย พวกเราจะไประยองกันนี่ไงรูปบ้าน หลังใหญ่ดีว่ามั้
-1 อาทิตย์หลังจากงานรับปริญญาเสร็จสิ้น-เสียงมือถือปลุกเตือนดังขึ้นร่างบางหยัดกายลุกขึ้นนั่งปลุกแฟนหนุ่มที่ยังคงนอนหลับใหลอย่างไม่มีสติ มือเล็กยกขึ้นสะกิดไปยังแผ่นหลังของเขาอย่างเบามือ “ตื่นได้แล้วเว วันนี้พวกเรามีนัดไปเที่ยวกับที่บ้านนะ ลืมไปแล้วเหรอ ทำไมยังไม่ตื่นอีกเนี่ย” เธอสะลึมสะลือส่งเสียงโวกเวกโวยวายออกมาเมื่อพยายามปลุกเท่าไหร่เขาก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะตื่นขึ้นมาซะที สงสัยอาจเป็นเพราะเมื่อคืนเขาดื่มเหล้าเข้าไปด้วยแน่เลยจึงทำให้เรียกยากแบบนี้คือแบบนี้นะคะทุกคน เมื่อคืนพวกเราไปดื่มฉลองเรียนจบที่ผับของสายฟ้ากันมาค่ะ ไปกันครบทุกคนเลยนะทั้งกลุ่มของเชอรีนและกลุ่มของเวหาเขา... “เมื่อคืนก็ดื่มไปนิดเดียวเองนี่แล้วทำไมถึงได้นอนตื่นยากแบบนี้” เธอบ่นไปตามประสาก่อนที่จะหยัดกายลุกขึ้นยืนเพื่อที่จะเข้าไปอาบน้ำแล้วค่อยกลับมาเรียกเขาอีกรอบ “เฮ้อ~ ช่างเหอะไปอาบน้ำดีกว่า อะ!” เชอรีนลุกขึ้นยืนซึ่งเป็นจังหวะเดียวกันกลับที่เวหาลืมตาตื่นขึ้นพร้อมกับดึงข้อมือของแฟนสาวให้ร่วงหล่นล้มไปทับร่างกายของเขาเข้าอย่างจังว๊าย!!เชอรีนร้องอุทานเสียงหลงเมื่ออยู่ดีๆร่างกายของเธอก็ถูกดึงล้มลงไปทับอยู่บนตัวของเขาแ