Share

บทที่ 13

Author: จี้เวยเวย
ซ่งรั่วเจินกินอาหารมื้อกลางวันเสร็จก็ไปที่จวนตระกูลหลิ่ว

มองเห็นผู้คนมากมายเข้าออกประตูจวนตระกูลหลิ่วมาแต่ไกล คนไปมาหาสู่มีจำนวนไม่น้อย เมื่อเข้าไปใกล้ก็ได้ยินเสียงชมเชยเซ็งแซ่

“ไต้ซือเทียนสุ่ยมีวิชาแก่กล้าจริงๆ เจ้าจำหลานชายของตระกูลจ้าวที่หมู่นี้เอาแต่ร้องไห้ไม่หยุดได้หรือไม่ หาหมอมากมายล้วนไม่เห็นผล เห็นๆ อยู่ว่าสุขภาพย่ำแย่ลงทุกทีจนแทบจะไม่ไหวแล้ว พอไต้ซือเทียนสุ่ยลงมือเท่านั้นก็หายดีเป็นปลิดทิ้ง!”

“นั่นน่ะสิ หลานชายข้าพักนี้ค้าขายไม่ราบรื่น เกือบทำกิจการของตระกูลล้มละลายไปเสียแล้ว ตั้งแต่ไต้ซือเทียนสุ่ยอัญเชิญเทพเจ้าแห่งโชคลาภมาให้ ทุกวันนี้การค้าเจริญรุ่งเรือง ดีวันดีคืน!”

“ตระกูลหลิ่วเองก็ไม่รู้ว่าต้องจ่ายค่าตอบแทนไปมากมายเท่าไหร่จึงสามารถเชิญไต้ซือเทียนสุ่ยมาได้ วันหน้าจะต้องได้ดิบได้ดีแน่”

ได้ยินคำพูดแฝงความอิจฉาเหล่านั้น คิ้วใบหลิวของซ่งรั่วเจินก็เลิกขึ้นเล็กน้อย นางจะไปหยั่งเชิงไต้ซือเทียนสุ่ยผู้นี้ดูสักหน่อยว่ามีความสามารถจริงหรือไม่!

เมื่อนางเข้าไปในจวนตระกูลหลิ่ว เห็นข้ารับใช้ในจวนกำลังจัดฮวงจุ้ยตามคำแนะนำของไต้ซือเทียนสุ่ย ก็แค่นหัวเราะในใจ

ฮวงจุ้ยในจวนตระกูลหลิ่วเดิมทีก็ดีอยู่แล้ว แต่เมื่อปรับเปลี่ยนเช่นนี้กลับกลายเป็นว่าเละเทะไปหมด ตกลงแล้วคนผู้นี้ไม่เข้าใจหลักฮวงจุ้ยเลยหรือว่ามีความแค้นกับตระกูลหลิ่วกันแน่?

“รั่วเจิน เจ้าเพิ่งถอนหมั้นไปไม่ใช่หรือ? เหตุใดจึงมาที่นี่ได้?” หลิ่วอี้หมิง คุณชายใหญ่ตระกูลหลิ่วถามอย่างประหลาดใจ “ข้าได้ยินเรื่องที่จวนหลินโหวแล้ว เจ้า...”

“ญาติผู้พี่ ท่านอาจไม่รู้เรื่องนี้ ถึงซ่งรั่วเจินจะเป็นฝ่ายถอนหมั้น แต่ยังมีแก่ใจไปส่งสาวใช้ของตัวเองออกเรือน วันนี้มีเวลามาจวนตระกูลหลิ่วจะน่าแปลกตรงไหนกัน?”

“ยามนี้นางต้องอับอายขายหน้า อารมณ์ไม่ดีก็เริ่มไปลงกับคนใกล้ตัว ผู้หญิงจิตใจชั่วร้ายเช่นนี้ ท่านระวังไว้บ้างจะดีกว่า ถึงคราวเดือดร้อนเพราะนาง อย่ามาหาว่าข้าไม่เตือนท่านก็แล้วกัน!”

ซ่งรั่วเจินตวัดสายตาไปมองซุนฮั่นเฟยที่พูดจาเยาะเย้ยถากถาง สมกับที่เป็นพี่ชายของซุนเยียนเอ๋อร์ สองพี่น้องศีลเสมอกัน แค่มองหน้าเขาก็นึกอยากตบบ้องหูสักที

“เพียะ!”

ซ่งรั่วเจินไม่ได้แค่คิด แต่นางทำเช่นนั้นจริงๆ

“เจ้ากล้าตบข้า?”

ซุนฮั่นเฟยเบิกตากว้างอย่างไม่อยากเชื่อ ซ่งรั่วเจินเป็นกุลสตรีมาแต่ไหนแต่ไร ไม่เคยลงมือทำร้ายคนอื่นมาก่อน เมื่อก่อนเขาพูดจาล้ำเส้นยิ่งกว่านี้ แต่ละครั้งล้วนทำให้ซ่งรั่วเจินโกรธจัด แต่ก็ทำเพียงอดทนอดกลั้นทั้งขอบตาแดงเรื่อเท่านั้น วันนี้คิดไม่ถึงว่าจะกล้าตบเขา!

“ญาติผู้พี่ ข้าเห็นว่าสติของท่านไม่ค่อยแจ่มใสนัก จึงตบเรียกสติให้ท่านเจ้าค่ะ!”

“ยามนี้หลินโหวรังแกข้าก่อน ข้าถอนหมั้นก็เป็นเรื่องสมควรแล้ว เรื่องพื้นๆ แค่นี้ท่านยังไม่เข้าใจก็มาวิพากษ์วิจารณ์อยู่ตรงนี้ ทำให้ข้าเสื่อมเสียชื่อเสียง แบบนี้ไม่สมควรถูกตบหรือเจ้าคะ?”

“ข้าเป็นบุตรสาวตระกูลซ่ง พ่อข้าคือผิงหยางโหว ท่านประกาศปาวๆ ว่าข้ามีจิตใจชั่วร้ายโดยไม่มีหลักฐาน แล้วจะปล่อยให้ท่านมากล่าวหาส่งเดชเช่นนี้ได้อย่างไร?”

สายตาซ่งรั่วเจินเย็นเยียบ ตระกูลซุนเป็นแค่ขุนนางขั้นห้าตัวเล็กๆ ถ้าพูดถึงลำดับชั้นแล้วยังห่างไกลจากตระกูลซ่งของตน แต่เพราะปกติท่านแม่ไม่ถือสาหาความ ที่ผ่านมาเวลาพบหน้าแม้แต่พวกพี่น้องของตนก็ยอมอดทนอดกลั้นต่อพวกเขามามาก

แต่ตอนนี้นางไม่มีนิสัยของเจ้าของร่างเดิมอีก แล่นมาพูดจาถากถางต่อหน้านางแบบนี้ นางย่อมไม่ปล่อยเขาไปง่ายๆ แน่!

“ข้าไปใส่ร้ายเจ้าตอนไหน? เพ่ยหลานแค่พูดผิดไปนิดเดียว เจ้าก็ให้นางแต่งไปเป็นอนุของพ่อบ้านหลิ่ว แบบนี้ไม่เรียกว่าชั่วร้ายจะให้เรียกอะไร?”

“สาวใช้ข้างกายคุณหนูบ้านใด สุดท้ายแล้วไม่ได้มีที่พักพิงดีๆ บ้าง? เจ้ากลับส่งนางไปเป็นอนุ ส่งคนไปตอนกลางดึกวันนั้น แม้แต่ตำแหน่งออกหน้าออกตาได้ก็ยังไม่มี แบบนี้ยังไม่เรียกว่าชั่วร้าย?”

ซุนฮั่นเฟยโมโหจนควบคุมตัวเองไม่อยู่ วันนี้เขาตั้งใจพาสหายมาพบไต้ซือเทียนสุ่ย คิดไม่ถึงว่าจะไปได้ยินบทสนทนาระหว่างมารดาของตนเองกับพ่อบ้านหลิ่วเข้า ทั้งเห็นว่าซ่งรั่วเจินก็มาที่นี่ด้วยจึงอดจะพูดจาเหน็บแนมไม่ได้ แต่คิดไม่ถึงว่าซ่งรั่วเจินจะเปลี่ยนนิสัยแล้ว ยกมือขึ้นได้ก็ตบเขาทันที

“ญาติผู้พี่ ข้ารู้ว่าท่านไม่มีสมองมาแต่ไหนแต่ไร เพ่ยหลานทรยศข้าก่อน รับเงินจากคนอื่น นางเป็นสาวใช้ที่ท่านน้าของข้า ซึ่งก็คือท่านแม่ของท่านส่งมาให้ข้าอย่างไรเล่า!”

“ข้าไม่ทำให้เป็นเรื่องใหญ่เพราะอยากรักษาหน้าตาให้ท่านน้า แต่ท่านกลับมาตำหนิข้าเพราะเรื่องนี้? ปกติข้าอดทนอดกลั้นต่อท่านมามากแล้ว แต่ท่านยังคิดจะใส่ร้ายข้า เช่นนั้นข้าก็คงต้องพูดให้ชัดเจนแล้ว!”

สหายหลายคนนั้นของซุนฮั่นเฟยย่อมรู้จักซ่งรั่วเจิน คุณหนูอันดับต้นๆ ของเมืองหลวง สองปีนี้คอยดูแลจวนหลินโหว ทำให้จวนหลินโหวที่ตอนแรกทรุดโทรมนับวันก็ยิ่งรุ่งเรือง เมื่อก่อนใครเห็นแล้วไม่เอ่ยชมเชยสักสองสามประโยคบ้าง?

เรื่องเมื่อวานลือกันไปทั่วเมืองหลวง ผู้คนพูดถึงเรื่องนี้แตกต่างกันไป บ้างคิดว่าหลินโหวเป็นผู้ชายหลายใจ บ้างคิดว่าซ่งรั่วเจินจิตใจคับแคบเกินไป

เรื่องใหญ่อย่างการแต่งงานไม่ใช่เรื่องล้อเล่น เกี้ยวเจ้าสาวมาถึงหน้าประตูใหญ่แล้วพูดว่าไม่แต่งก็จะไม่แต่ง ยังได้ยินซุนฮั่นเฟยพูดแล้วพูดอีกว่านางจิตใจชั่วร้าย ทุกคนบังเกิดความประทับใจที่ไม่ดีไปโดยไม่รู้ตัว คิดไม่ถึงว่าเบื้องหลังยังมีเรื่องแบบนี้อยู่ด้วย?

“จะเป็นไปได้อย่างไร?”

ซุนฮั่นเฟยเห็นสายตาทุกคนที่มองตนเองเปลี่ยนไป สีหน้าพลันเปลี่ยน แต่เพ่ยหลานถูกคนซื้อตัว นี่จะเป็นไปได้อย่างไร?

“เรื่องนี้จะว่าไปแล้วข้าก็อยากถามญาติผู้พี่เหมือนกัน เพ่ยหลานสนิทกับท่านมากไม่ใช่หรือเจ้าคะ? ท่านถึงได้มาทวงความเป็นธรรมให้สาวใช้คนหนึ่งเช่นนี้”

“คนที่ซื้อตัวนางไปคือฉินซวงซวง ข้าได้ยินมาว่าท่านสนิทสนมกับพี่ชายคนรองของฉิงซวงซวงมาก ท่านคงไม่ได้มีส่วนรู้เห็นในเรื่องนี้หรอกใช่ไหมเจ้าคะ? ไม่อย่างนั้น ฉินซวงซวงจะซื้อตัวสาวใช้ของข้าได้อย่างไร?”

ใบหน้าพริ้มเพราของซ่งรั่วเจินฉายแววกังขา “เรื่องที่หลินโหวต้องการแต่งแม่นางฉิน ข้าถูกปิดบังมาโดยตลอด แต่คิดว่าตระกูลฉินคงทราบเรื่องมาแต่แรก ช่วงนี้ญาติผู้พี่ไปเยี่ยมเยือนจวนตระกูลฉินบ่อยๆ ไม่รู้ว่ามีเหตุผลอะไร คงไม่ได้ช่วยคนอื่นมารังแกญาติผู้น้องอย่างข้าหรอกนะเจ้าคะ?”

สาวน้อยกล่าวพลางถอยหลังไปหนึ่งก้าว ใบหน้าเผยความเจ็บปวด

ชั่วขณะนั้น อย่าว่าแต่หลิ่วอี้หมิง แม้แต่สหายของซุนฮั่นเฟยล้วนรู้สึกไม่เป็นธรรมแทนซ่งรั่วเจิน

ซ่งรั่วเจินอาจไม่รู้ แต่สหายอย่างพวกเขากลับรู้ดี ซุนฮั่นเฟยเคยบอกพวกเขาเรื่องที่หลินโหวต้องการตบแต่งฉินซวงซวง เมื่อก่อนพวกเขาไม่คิดว่ามีอันใดไม่เหมาะ แต่มารังแกญาติผู้น้องของตนเพื่อคนนอกเช่นนี้ไม่เกินไปหน่อยหรือ?

หลายปีมานี้ตระกูลซ่งดูแลตระกูลซุนอย่างดี คนที่คุ้นเคยกันล้วนรู้ดี ช่วยน้องสาวของสหายซื้อตัวสาวใช้ข้างกายญาติผู้น้อง เรื่องแบบนี้ทำลงไปได้อย่างไร?

“ซุนฮั่นเฟย เจ้าออกจะทำเกินไปหน่อยกระมัง แม่นางซ่งได้รับความไม่เป็นธรรมถึงเพียงนี้ ดีชั่วอย่างไรเจ้าก็เป็นญาติผู้พี่ มาทำเช่นนี้กับนางได้อย่างไร?”

“พวกเจ้า...”

ซุนฮั่นเฟยเผยอปาก มองซ่งรั่วเจินที่ก้มหน้าด้วยท่าทางเจ็บช้ำใจก็ถึงกับพูดอะไรไม่ออก

ซ่งรั่วเจินลอบยิ้มเย็นในใจ หลายปีมานี้นิสัยเจ้าของร่างเดิมหยั่งรากลึกในจิตใจคนหมู่มาก นับว่าอำนวยความสะดวกให้นางพอดี

“แม่นางซ่ง เจ้าพูดจาเหลวไหล ใส่ร้ายญาติผู้พี่ ประพฤติชั่วด้วยวาจา ทั้งยังจิตใจคับแคบ ทำให้เดินทางผิดได้ง่าย อาตมาขอเกลี้ยกล่อมให้เจ้าสั่งสมบุญกุศลผ่านวาจา มิฉะนั้นจะไม่ได้พบจุดจบที่ดี”

เวลานั้นเอง ชายวัยกลางคนที่แต่งกายอย่างผู้บำเพ็ญพรตคนหนึ่งเดินออกมาช้าๆ สายตาจับจ้องซ่งรั่วเจิน สีหน้าฉายแววหยิ่งยโส

“ไต้ซือเทียนสุ่ย!”

ซุนฮั่นเฟยราวกับเห็นดาวช่วยชีวิตก็ไม่ปาน เอ่ยอย่างย่ามใจว่า “ไต้ซือเทียนสุ่ย รีบมาเป็นพยานให้ข้าเถิด นางจงใจใส่ร้ายข้า!”

ซ่งรั่วเจินมองชายตรงหน้าอย่างประเมิน ขนคิ้วเบาบาง ตาลอย หน้าตอบ โหงวเฮ้งอัปมงคลแบบคนถ่อยได้ดี คนเช่นนี้น่ะหรือที่เป็นไต้ซือ?
Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 1238

    สวี่เหราพยักหน้า “ดีๆ ๆ ลำบากพวกเจ้าแล้ว”ตอนซ่งรั่วเจินและกู้ฮวนเอ๋อร์มาถึงเรือนของกู้เจาย่วน ได้เห็นนางกำลังลอบนั่งร้องไห้อยู่ภายในห้อง“ญาติผู้พี่ ฮวนเอ๋อร์ พวกเจ้ามาได้อย่างไร?”กู้เจาย่วนรีบซับน้ำตาที่หางตา เพียงแต่ท่าทางขอบตาแดงนั้นน่าสงสารมาก ทำจนคนปวดใจ“เจาย่วน พวกเรามีความสัมพันธ์อันดีตั้งแต่เด็ก เกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้น เหตุใดเจ้าไม่รีบบอกข้า?”กู้ฮวนเอ๋อร์รีบสืบเท้าขึ้นมาอย่างว่องไว เดินมานั่งข้างกู้เจาย่วน“ข้ารู้เจ้าและอวิ๋นอ๋องกำลังจะแต่งงานกัน งานยุ่งอยู่ตลอด นี่จึงไม่ได้ไปรบกวนเจ้า”กู้เจาย่วนยกมุมปากคลี่ยิ้ม “ท่านพ่อและท่านแม่ล้วนไม่ยอมให้ข้าและฉวีเซินคบหากัน ข้าพูดไปก็ไร้ประโยชน์”“ฉวีเซิน? คนในดวงใจเจ้าหรือ?”กู้เจาย่วนพยักหน้า มองซ่งรั่วเจินทางด้านข้าง รู้สึกเก้อกระดากอยู่บ้าง “ญาติผู้พี่เห็นเรื่องน่าขันแล้ว”“แต่ไหนแต่ไรมาเรื่องความรู้สึกทำนองนี้ไม่สามารถบังคับได้ หัวใจสั่นไหวก็ใช่ว่าตนเองจะสามารถควบคุมได้ ข้าเข้าใจ”ซ่งรั่วเจินยิ้มน้อยๆ “นึกถึงปีนั้นข้าถอนหมั้นจนผู้คนต่างรู้กันอย่างถ้วนทั่ว นี่ก็ถูกทุกคนเห็นเป็นเรื่องตลกไม่ใช่หรือ? กระนั้นก็ไม่เป็นไรเสียห

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 1237

    ดรุณีน้อยมักหลงใหลในความรัก ซ่งรั่วเจินเข้าใจเรื่องนี้ดี“คุณชายท่านนั้นที่เจาย่วนชอบ เจ้าเคยพบหรือไม่?” ซ่งรั่วเจินถามกู้ฮวนเอ๋อร์ส่ายหน้า “ไม่เจ้าค่ะ ทีแรกเจาย่วนไม่บอกใคร หากไม่ใช่เพราะท่านป้าแนะนำคู่ครองให้ นางก็ไม่ยอมรับปาก สุดท้ายถึงพูดออกมา”“วันนี้ท่านป้าให้ข้าเกลี้ยกล่อมเจาย่วน ท่านเองก็รู้ว่าเมื่อหลายวันก่อนอวิ๋นอ๋องป่วย ต้องการคนดูแล ข้าจึงไปอยู่ที่จวนอวิ๋นอ๋องทุกวัน ล้วนไม่ได้ใส่ใจ”“ข้าคิดว่าอีกเดี๋ยวค่อยไปถามเจาย่วน นางยังยอมพูดกับข้าเจ้าค่ะ”พูดไป กู้ฮวนเอ๋อร์เอ่ยปากกับซ่งรั่วเจิน “ญาติผู้พี่ อีกเดี๋ยวหากไม่รีบไป ไม่สู้พวกเราไปคุยกับเจาย่วนด้วยกัน”ซ่งรั่วเจินพยักหน้า “ได้”หลังทุกคนได้รู้เรื่องของกู้เจาย่วน บรรยากาศก็เปลี่ยนไปหลายส่วน คาดว่าสำหรับบ้านใหญ่นี่เป็นปัญหาอย่างหนึ่งหากกู้เจาย่วนคิดไม่ตก ต้องการแต่งงานกับบัณฑิตยากจนท่านนั้น นั่นก็มีเพียงสองผลลัพธ์ประการแรกให้นางแต่งออกไป แต่ด้วยอุปนิสัยของป้าสะใภ้ใหญ่ จะต้องไม่ยอมให้เจาย่วนแต่งไปมีชีวิตลำเค็ญเป็นแน่เช่นนี้แล้ว นั่นก็มีเพียงประการที่สอง บังคับเจาย่วนแต่งกับผู้อื่นเพียงแต่ทำเช่นนี้ สองแม่ลูกจะเกิ

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 1236

    “ท่านแม่ ข้าบอกแล้ว ข้ามีคนในใจแล้ว ชาตินี้นอกจากเขาไม่มีวันแต่งงาน ท่านอย่าบังคับข้าอีกเลย!”เพียงเอ่ยถ้อยคำนี้ออกไป พวกกู้หรูเยียนก็เผยสีหน้าแปลกใจ ที่แท้กู้เจาย่วนก็มีคนในดวงใจแล้ว?“เจ้าเด็กคนนี้ เจ้าพูดเหลวไหลอันใด?” สีหน้าป้าสะใภ้ใหญ่เปลี่ยนไป ตวาดเสียงเฉียบกู้เจาย่วนตาแดง “อย่างไรเสียข้าก็ไม่แต่ง ข้ารู้ท่านไม่ชอบเขา คิดว่าเขาไม่เหมาะสมกับข้า”“ความคิดของท่านและข้าไม่เหมือนกัน ข้าชื่นชมพรสวรรค์ของเขา เขาก็แค่ไม่มีหน้ามีตา แต่ในภายภาคหน้าไม่ช้าก็เร็วเขาย่อมประสบความสำเร็จ”“ท่านแม่ เหตุใดท่านไม่ให้โอกาสพวกเราสักครั้งเล่า?”ป้าสะใภ้โมโห นางคิดไม่ถึงเลยว่าลูกสาวที่เชื่อฟังว่าง่ายจะต่อต้านนาง!“เจ้ามีชาติกำเนิดที่ดีเช่นนี้ แต่งงานกับคนที่เหมาะสม ย่อมไม่ต้องกังวลอาหารและอาภรณ์ เป็นนายหญิงของบ้านไม่ดีหรือ?”“หลายปีมานี้ข้าสอนดีดพิณเดินหมากอักษรวาดภาพและบทกวีบทเพลงให้เจ้า ไม่ใช่เพื่อให้เจ้าไปซักผ้าทำกับข้าวให้ผู้อื่น!”เจาย่วนเป็นลูกสาวคนสุดท้องของนาง เทียบกับลูกชายลูกสาวคนอื่น นางเอ็นดูมากที่สุดบัดนี้มีเพียงนางยังไม่แต่งงาน นางย่อมอยากเลือกสามีที่ดีให้นาง ไม่ขอให้แต่งงานเข้

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 1235

    จวนราชครูตอนรถม้าจอดหน้าประตูใหญ่ ฉู่จวินถิงและซ่งรั่วเจินลงจากรถม้าพร้อมกัน ก็ได้เห็นรถม้าของสกุลซ่งบังเอิญมาถึงพอดีซ่งหลินเห็นฉู่จวินถิง พูดยิ้มๆ “กระหม่อมได้ยินว่าช่วงนี้งานยุ่งอยู่ที่ศาลต้าหลี่ ยังคิดว่าวันนี้ท่านอาจไม่มีเวลาว่าง ได้แต่รู้สึกเสียดาย คิดไม่ถึงว่าท่านจะมาแล้ว”“ท่านอ๋องรู้ว่าวันนี้เป็นท่านตาเชิญจึงตั้งใจรีบกลับมาเป็นพิเศษเจ้าค่ะ” ซ่งรั่วเจินอธิบายยิ้มๆภายในสายตาซ่งหลินเปี่ยมความชื่นชม ฉู่อ๋องให้ความสำคัญต่อพวกเขามากจากนั้นขบวนคนเดินเข้าจวนอย่างครึกครื้น ราชครูกู้และคนอื่นๆ ล้วนรออยู่นานแล้ว“ท่านลุงใหญ่ ท่านลุงรอง”“ญาติผู้พี่ใหญ่ ญาติผู้พี่รอง ญาติผู้น้องสาม...”เพราะวันนี้มีคนมารวมตัวกันมาก ครึกครื้นมากทีเดียววันนี้กู้ฮวนเอ๋อร์ตั้งใจแต่งตัวเป็นพิเศษ คนน่ารักงดงามอย่างมาก“บัดนี้กำหนดวันแต่งงานของฮวนเอ๋อร์และอวิ๋นอ๋องแล้ว ก็คือวันที่หกเดือนหน้า”วันนี้ตั้งใจเชิญทุกคนมารวมตัวกันก็เพื่อเฉลิมฉลองงานแต่งของฮวนเอ๋อร์ ถึงตอนนั้นน่ากลัวว่าจวนโหวจะต้องเตรียมการดีๆ”กู้ชิงซิวลุกขึ้นพูดยิ้มๆ “ข้าขอคารวะทุกท่านก่อนหนึ่งจอก”ทุกคนต่างพากันยกจอกเหล้า ใบหน้าประด

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 1234

    ซ่งรั่วเจินเลิกคิ้วดุจกิ่งหลิวขึ้น “เช่นนั้นซ่งปี้อวิ๋นกลับสกุลซ่งก่อนหรือ?”“พระชายา นี่ถึงเป็นเรื่องแปลกที่สุด ตอนนี้ลู่หวยอันไม่มีอนาคตแล้ว ซ่งปี้อวิ๋นถึงขั้นไม่กลับไป ยังอยู่กับพวกเขาตลอด ตกลงคิดอันใดอยู่กันแน่?”เฉินเซียงคิดแล้วก็ไม่เข้าใจ หรือซ่งปี้อวิ๋นชอบลู่หวยอันถึงเพียงนั้น ต่อให้ไม่มีอันใด ก็จะอยู่ร่วมทุกข์ร่วมสุขกับเขาหรือ?“ไม่รู้” ซ่งรั่วเจินส่ายหน้า “ความคิดของทุกคนล้วนแตกต่างกัน หากเปลี่ยนเป็นพวกเรา คงไม่ย่ำเข้ากองเพลิงตั้งแต่แรก”“ในเมื่อซ่งปี้วิ๋นชอบอยู่กับเขาถึงเพียงนี้ เช่นนั้นก็ให้อยู่ร่วมกันตลอดชีวิตเถอะ ป้องกันไม่ให้ภายภาคหน้าไปสร้างความเดือดร้อนให้ผู้อื่น”“บ่าวเห็นว่าพวกเขาสองคนล้วนเป็นตัวหายนะ เช่นนี้ก็ดีแล้ว ป้องกันไม่ให้คนอื่นเหนื่อยใจเพราะพวกเขา”ไป๋จื่อหัวเราะ เห็นวันนี้ชิงเถิงกลับมาแล้วจึงเอ่ยถามยิ้มๆ “ชิงเถิง พ่อแม่เจ้ายอมรับคุณชายท่านนั้นได้หรือไม่? ใช่หรือไม่ว่าพวกเราจะได้ดื่มสุรามงคล?”ชิงเถิงอารมณ์ดีอย่างเห็นได้ชัด นางทำความเคารพซ่งรั่วเจินก่อน นี่ถึงพูด“เมื่อวานพวกเราพาจ้าวจื่ออี้กลับไปถึงได้รู้ว่าที่แท้ปีนั้นเขาไม่เพียงช่วยเหลือชิงชิง แม้แ

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 1233

    บนรถม้าซ่งรั่วเจินเห็นฉู่จวินถิงยิ้มให้ตนเองอยู่ตลอด สงสัยอย่างอดไม่ได้ “ท่านอ๋อง ท่านยิ้มอันใดกัน?”“ยิ้มที่ข้าแต่งฮูหยินที่ดีมากมาคนหนึ่ง นี่คือวาสนาที่คนอื่นต่างพากันอิจฉา ย่อมต้องยิ้ม”ได้ยินดังนั้น มุมปากซ่งรั่วเจินกระตุกขึ้นอย่างไม่รู้ตัว จู่ๆ ฉู่จวินถิงก็ขยับเข้าใกล้ จุมพิตนางทีหนึ่งดวงตาดุจจันทราคู่นั้นทอประกายระยับ ฉู่จวินถิงยื่นมือออกไปโอบนางไว้ในอ้อมกอด ถอนหายใจพูดว่า “มีภรรยาเช่นนี้ได้ สามียังจะปรารถนาสิ่งใดอีกเล่า?”ซ่งรั่วเจินอิงแอบอกกว้างอบอุ่นของเขา รู้สึกเพียงอารมณ์ดีมาก จู่ๆ นางก็เข้าใจแล้วว่าความสุขเป็นเช่นไรในวันธรรมดาและเรียบง่าย มีคนให้รัก มีคนรักตอบ สัมผัสได้ถึงความสุขที่เกิดขึ้นในก้นบึ้งของหัวใจ“ท่านตาเรียกพวกเราไปกินมื้อเย็นที่จวนวันพรุ่งนี้ งานแต่งของอวิ๋นอ๋องและฮวนเอ๋อร์เองก็จัดเตรียมเรียบร้อยแล้ว ดังนั้นพรุ่งนี้จึงตามพวกเราไปรวมตัวกันเพคะ”ซ่งรั่วเจินนึกถึงสิ่งที่มารดากำชับมาในวันนี้ ท่านตาตั้งใจเชิญพวกเขาไปพบเป็นพิเศษ ดีที่สุดคือทุกคนสามารถมาได้“หากท่านสามารถไปได้ นั่นก็ดีมากนัก หากไปไม่ได้ก็ไม่เป็นไร หม่อมฉันจะแจ้งพวกเขา ทุกคนล้วนสามารถเข้าใจ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status