Share

บทที่ 14

Author: จี้เวยเวย
ไต้ซือเทียนสุ่ยมองซ่งรั่วเจินนิ่งๆ “แม่นางซ่ง หลายวันก่อนอาตมาไปดูฮวงจุ้ยที่จวนตระกูลซ่ง หมู่นี้จวนตระกูลซ่งเกิดเรื่องติดต่อกัน ใช่ว่าจะไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเจ้าเลยเสียทีเดียว”

“อ้อ? ไหนท่านลองพูดให้ฟังที ว่าเกี่ยวข้องกับข้าอย่างไรบ้าง?”

ซ่งรั่วเจินยิ้มหยัน มองคนตรงหน้าด้วยความสงบเยือกเย็น นางอยากรู้นักว่าคนผู้นี้จะแต่งเรื่องอย่างไรออกมา!

“ข้าเคยดูเวลาตกฟากของเจ้ามาก่อน เจ้าชะตาอาภัพมีดวงพิฆาต หลินโหวเป็นดาวนำโชคในชีวิตเจ้า มีเพียงต้องออกเรือนให้เขาจึงจะสามารถคลี่คลายได้”

“เดิมทีหลินโหวไม่มีทางแต่งเจ้า หากไม่ใช่เพราะข้าใช้วิธีการบางอย่าง แม้แต่ภรรยาหลวงเจ้าก็คงไม่ได้เป็น วันนี้เจ้าอยากอยู่อย่างสงบก็มีแต่ต้องเดินทางนี้เท่านั้น มิเช่นนั้น ดวงพิฆาตของเจ้ายังจะทำให้คนอื่นเคราะห์ร้ายไปด้วย”

ได้ยินเช่นนั้น คนที่เดินตามไต้ซือเทียนสุ่ยออกมาล้วนเผยสีหน้าตื่นตกใจ

ดวงพิฆาต นี่เป็นชะตาชีวิตที่ทุกคนหวาดกลัวที่สุด เดิมนึกว่าหลินโหวทอดทิ้งซ่งรั่วเจินเป็นการปฏิบัติต่อนางอย่างไม่เป็นธรรม แต่ดูจากตอนนี้ หลินโหวเป็นดาวช่วยชีวิตนาง นางกลับไม่รู้ดีชั่ว!

“มิน่าเล่า หมู่นี้ตระกูลซ่งถึงได้เกิดเรื่องไม่หยุดหย่อน ที่แท้ก็เคราะห์ร้ายเพราะซ่งรั่วเจินหรือนี่?”

“ไต้ซือเทียนสุ่ยเคยทำนายดวงชะตาให้นาง นางรู้ดีว่าจะเดือดร้อนถึงคนในครอบครัวแต่ก็ยังถอนหมั้นต่อหน้าธารกำนัล นี่ไม่ใช่แค่ไม่รู้ความแล้ว แต่เรียกว่าจิตใจชั่วช้าอำมหิตมากกว่า!”

“นั่นน่ะสิ ข้าได้ยินมาว่าคืนวาน ฮูหยินผู้เฒ่าตระกูลหลินกับหลินโหวไปขอโทษแล้ว แต่กลับถูกไล่ออกมา ไม่รู้จริงๆ ว่านางยังไม่พอใจอะไรอีก?

“ผู้ชายมีสามภรรยาสี่อนุเป็นเรื่องปกติ ดีชั่วอย่างไรก็เป็นคุณหนูผู้ดี ความใจกว้างแค่นี้ก็ยังไม่มี ข้ากลับคิดว่าแม่นางฉินที่หลินโหวแต่งเป็นภรรยาวันนั้นดีกว่ามาก”

“ซ่งรั่วเจินน่ะหรือ ไม่คู่ควรเป็นฮูหยินของจวนโหวเลยสักนิด!”

“สามภรรยาสี่อนุเป็นเรื่องปกติ ท่านเต็มใจแต่งก็ไปแต่งเองสิ พ่อแม่ข้ายังไม่คัดค้าน ท่านมีสิทธิ์อะไรมาวิพากษวิจารณ์อยู่ตรงนี้?”

ซ่งรั่วเจินปรายตามองฝ่ายตรงข้ามอย่างเย็นชา แววตาลึกล้ำดุจบ่อลึกฉายประกายเย็นเยียบ ไอสังหารที่กดดันผู้คนแผ่ซ่านออกมาอย่างโจ่งแจ้ง

หญิงผู้นั้นรู้ว่าซ่งรั่วเจินมีนิสัยหัวอ่อนถึงได้กล้าเอ่ยปากอย่างเหิมเกริม จู่ๆ ถูกสายตาคู่นั้นจับจ้องก็รู้สึกหนาววาบในใจ เงียบเสียงไปโดยไม่รู้ตัว

“ไต้ซือเทียนสุ่ย ท่านพูดว่าข้ามีดวงพิฆาต แต่ดวงชะตาที่ข้าดูมาตั้งเด็กล้วนดีเลิศมาโดยตลอด”

“นอกจากนี้ หลายวันก่อน แม่ข้าเชิญท่านมาดูฮวงจุ้ยที่จวน ท่านรับเงินหนึ่งแสนตำลึงไปแล้ว บอกว่าแค่ต้องถมสระบัว อีกทั้งในร้อยปีนี้ห้ามไปแตะต้อง เช่นนี้จึงจะสามารถแก้ไขชะตาของตระกูลซ่งได้”

“แต่ท่านพูดเช่นนั้นได้ไม่ทันไร พี่รองของข้าก็ตาบอดสองข้าง งานวิวาห์ของข้าก็เกิดเรื่อง วันนี้ท่านเห็นว่าเรื่องราวไม่อาจคลี่คลายได้ก็หันมาพูดว่าข้ามีดวงพิฆาต ช่างพูดจากลอกกลับดีเสียจริง คำพูดแบบใดล้วนถูกท่านพูดออกมาจนหมดแล้ว!”

ซ่งรั่วเจินมองไต้ซือเทียนสุ่ยอย่างเย็นชา สายตาไปหยุดลงบนเงาดำกลุ่มหนึ่งด้านหลังเขา

ชั่วขณะที่คนผู้นี้ปรากฏตัว นางก็สังเกตเห็นแล้ว ต้องยอมรับว่าคนผู้นี้มีความสามารถ ถึงกับเลี้ยงผีน้อยเอาไว้ด้วยตนหนึ่ง

จะว่าไปก็น่าขัน นักพรตหรือภิกษุทั่วไปล้วนบำเพ็ญตนเพื่อละวางกิเลส โปรดสรรพสัตว์ คนตรงหน้ากลับประเสริฐนัก เลี้ยงผีน้อยตนหนึ่งไว้ข้างกาย อาศัยผีน้อยตนนี้จนได้ชื่อว่าเป็นไต้ซือ

แต่พลังของผีน้อยมีจำกัด ต่อให้สามารถมองทะลุสิ่งของบางอย่างได้ แต่ไม่มีความสามารถส่งวิญญาณไปสู่สุคติ

“อาตมาจัดการทุกอย่างไว้ดีแล้ว ถ้าแม่นางซ่งยอมออกเรือนไปแต่โดยดี ทุกอย่างก็จะคลี่คลายไปเอง แต่เจ้าไม่ยินยอม ส่งผลให้เกิดความเปลี่ยนแปลงในวันนี้ จะมาโทษอาตมาได้อย่างไร?”

ไต้ซือเทียนสุ่ยแค่นเสียง สีหน้าเย็นชาถึงที่สุด “อาตมาเห็นแก่หน้าฮูหยินตระกูลซุนจึงได้คิดจะช่วยเหลือเจ้า แต่ตอนนี้เจ้าไม่รับน้ำใจ อาตมาก็จะไม่ช่วยอีกแล้ว!”

“เจ้าได้ยินแล้วใช่ไหม? แม่ข้าทุ่มเทเพียงใดเพื่อช่วยเหลือเจ้า แต่เจ้านอกจากจะไม่รับน้ำใจแล้วยังมาล่วงเกินไต้ซือเทียนสุ่ยอีก เกรงว่าตระกูลซ่งคงต้องเคราะห์ร้ายหมดบ้านเพราะเจ้าคนเดียว!”

ซุนฮั่นเฟยสุดจะระงับความพลุ่งพล่าน มารดากับท่านป้าเป็นพี่น้องกันแท้ๆ แต่กลับไม่ได้ออกเรือนให้ตระกูลสูงศักดิ์เหมือนท่านป้า กอปรกับพี่น้องตระกูลซ่งล้วนมีชื่อเสียงอยู่ข้างนอก เหนือกว่าเขาไปเสียทุกอย่าง เวลาปกติถึงออกไปไหนด้วยกัน เขาก็เป็นได้แค่ตัวประกอบมาตลอด

ยามนี้ตระกูลซ่งเสื่อมถอย คนเหล่านั้นทยอยเกิดเรื่องไปทีละคน ไม่ต้องบอกเลยว่าในใจเขารู้สึกปลอดโปร่งมากแค่ไหน!

“อาศัยแค่คำโกหกพกลมของพวกสิบแปดมงกุฎอย่างท่าน ก็คิดจะมาตัดสินชะตาตระกูลซ่ง ท่านคู่ควรด้วยรึ?”

“ข้าจะทำนายให้ท่านก็แล้วกัน ท่านหว่างคิ้วหม่นหมอง ขนคิ้วบางเบา ใบหน้ามีสีแดงเรื่อ ผีน้อยข้างกายเลี้ยงไว้นานไปจะต้องแว้งกัดแน่นอน อย่างมากไม่เกินสามวัน จะต้องประสบกับเคราะห์ร้ายเลือดตกยางออก!”

ซ่งรั่วเจินแววตาเฉยเมย วิญญาณอาฆาตข้างหลังคนผู้นี้ขยายใหญ่ขึ้นทุกที เงาดำนั้นแทบจะกลืนกินเขาหมดแล้ว

เลี้ยงผีน้อย ตนเองก็ต้องมีความสามารถข่มมันได้ หากไม่มีความสามารถนั้น ไม่เพียงแต่จะต้องสูญเสียสิ่งที่ได้มาเพราะอาศัยผีน้อย เจ้าตัวยังต้องประสบกับการแว้งกัด คนผู้นี้เห็นได้ชัดว่ากำลังจะรับมือไม่ไหวแล้ว

สิ้นเสียงซ่งรั่วเจิน คนรอบข้างก็พูดถากถางขึ้นมา

“นางพูดเหลวไหลอะไร? ทำนายดวงชะตาให้ไต้ซือเทียนสุ่ยเนี่ยนะ?”

“เกรงว่าซ่งรั่วเจินคงสะเทือนใจเกินไปจนเริ่มพูดจาเหลวไหลเลื่อนเปื้อนแล้วกระมัง?”

ไต้ซือเทียนสุ่ยมีสีหน้าเย้ยหยัน “แม้แต่ฮวงจุ้ยง่ายๆ เจ้ายังดูไม่เป็น ถึงกับกล้าพูดว่าข้าจะมีเคราะห์โชกเลือด ช่างเหลวไหลไร้สาระสิ้นดี!”

“ญาติผู้น้อง ข้าว่าเจ้ายอมรับผิดแต่โดยดีเถอะ ไยต้องปากแข็ง? ก่อเรื่องต่อไปไม่เป็นผลดีต่อเจ้าหรอกนะ”

ซุนฮั่นเฟยแสร้งเกลี้ยกล่อมด้วยความปรารถนาดี ในใจกลับอดหัวเราะเยาะเย้ยไม่ได้ ญาติผู้น้องคงสมองเลอะเลือนไปแล้ว ถึงกับกล้าสงสัยไต้ซือเทียนสุ่ยทั้งยังสาปแช่งเขาอีกด้วย!

“ไต้ซือเทียนสุ่ย ลูกสาวข้าหายตัวไปหลายปี ได้โปรดช่วยทำนายให้ข้าด้วยเถิดเจ้าค่ะว่าชีวิตนี้ข้ายังมีโอกาสหาลูกสาวพบหรือไม่?”

ฮูหยินหน้าตางดงามนางหนึ่งที่อยู่ข้างๆ มองไต้ซือเทียนสุ่ยด้วยความร้อนใจ นางทุ่มเทไปมากกว่าจะได้พบไต้ซือเทียนสุ่ย เดิมนั้นตอนนี้ควรช่วยนางคลี่คลายปัญหาได้แล้ว คิดไม่ถึงว่าจะถูกขัดจังหวะเพราะการปรากฏตัวขึ้นของซ่งรั่วเจิน

นางไม่อาจปล่อยให้โอกาสนี้ผ่านไปโดยไม่ทำอะไรเลย จะต้องหาลูกสาวนางให้พบให้ได้

ซ่งรั่วเจินได้ยินแล้วก็หันไปมองผู้หญิงตรงหน้าคนนั้น นางแต่งกายเรียบร้อย สวมเครื่องประดับหรูหรา ทั้งยังดูคุ้นตาอย่างมาก เหมือนเคยเจอที่ไหนมาก่อน

“ลูกสาวหายสาบสูญไปเมื่อหลายปีก่อน คงไม่ใช่ฮูหยินของราชครูสวีหรอกนะ?”

ในสมองปรากฏภาพคนผู้หนึ่งอย่างรวดเร็ว ตอนนั้นเรื่องนี้โด่งดังไปทั่วเมืองหลวง ได้ยินว่าสวีฮูหยินพาลูกสาวไปเดินเล่นที่งานวัด แต่ลูกสาวกลับหายตัวไป ยังหาคนไม่พบจนถึงบัดนี้

ไต้ซือเทียนสุ่ยเหลือบมองสวีฮูหยินแวบหนึ่ง แล้วหันไปมองซ่งรั่วเจิน ฉับพลันก็คิดแผนการขึ้นได้

“ในเมื่อเจ้าพูดเองว่าตัวเองมีความสามารถในการทำนายทายทัก มิสู้พวกเรามาประลองกันว่าใครทำนายได้แม่นยำกว่ากัน? ดูว่าใครจะสามารถตามหาลูกสาวให้ฮูหยินท่านนี้ได้ก่อน!”

เมื่อวาจานั้นดังขึ้น ทุกคนล้วนกวาดสายตามามองซ่งรั่วเจิน รู้สึกเพียงว่านางหาเรื่องใส่ตัว นางที่เป็นคุณหนูที่อยู่แต่ในเรือน จะไปรู้เรื่องพวกนั้นได้อย่างไร?

ทว่ามุมปากของซ่งรั่วเจินกลับหยักขึ้นเป็นรอยยิ้มนึกสนุก “ตกลง!”

“ถ้าข้าชนะ ท่านจะต้องโขกศีรษะขอขมาข้า และสารภาพว่าใครเป็นคนบงการให้ท่านนำของสกปรกมาฝังไว้ในสระบัวบ้านข้า!”
Continue to read this book for free
Scan code to download App

Related chapters

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 15

    สิ้นเสียงซ่งรั่วเจิน ทุกคนก็ขมวดคิ้ว รู้สึกว่านางช่างก้าวร้าวเสียจริง ส่วนว่าของสกปรกดังกล่าวคืออะไรกลับไม่รู้เลยแม้แต่น้อยแต่เมื่อไต้ซือเทียนสุ่ยได้ยินคำพูดนั้น ใบหน้าก็พลันเปลี่ยนสี นางรู้เรื่องนี้ได้อย่างไร?หรือนางจะเข้าใจฮวงจุ้ยจริงๆ? นั่นเป็นไปไม่ได้!ความคิดนั้นเพิ่งผุดขึ้นมา ไต้ซือเทียนสุ่ยก็ปัดทิ้งไปโดยไม่ลังเล ถ้ารู้จริงก็ควรค้นพบไปนานแล้ว จะเพิ่งมาคิดบัญชีเอาป่านนี้ได้อย่างไร?“เจ้าทำอะไรของเจ้า?”น้ำเสียงแฝงความไม่พอใจเสียงหนึ่งดังขึ้น หลังจากนั้นก็มีเสียงอ่อนหวานดังตามมาติดๆ“ท่านโหว ท่านอย่าโมโหไปเลยเจ้าค่ะ เรื่องนี้อาจมีอะไรเข้าใจผิดกันก็เป็นได้”ใบหน้าเล็กจิ้มลิ้มของฉินซวงซวงฉายแววบริสุทธิ์ใจ สายตาที่มองมาทางซ่งรั่วเจินยังสะท้อนความไม่สบายใจอยู่ในนั้น “คิดว่าแม่นางซ่งคงรู้สึกไม่ดีจึงได้มาก่อเรื่องเช่นนี้ ท่านโหวอย่าถือสานางเลยนะเจ้าคะ”“ซ่งรั่วเจิน เมื่อวานข้าขอโทษเจ้าไปแล้ว เป็นเจ้าที่ไม่อยากแต่งกับข้า ไฉนตอนนี้ยังมาให้ร้ายซวงซวงอีก?”ซ่งรั่วเจินกวาดสายตาไปมองก็สบเข้ากับแววตาคาดคั้นของหลินจือเยว่ “ข้าประลองกับไต้ซือเทียนสุ่ยเกี่ยวอันใดกับฉินซวงซวง? หลินโหว สม

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 16

    ไต้ซือเทียนสุ่ยรับคำสั่งจากฉินซวงซวง สายตาที่ทอดมองซ่งรั่วเจินเองก็เจือไอเย็น สตรีผู้นี้บังอาจมาทำลายช่องทางทำมาหากินของเขา เขาจะจัดการให้หนักเลยทีเดียว!ครู่ถัดมา เขามองผีน้อยที่ตนเลี้ยงอย่างลำพองใจ เขาต้องเสียแรงไปมากถึงจะเลี้ยงออกมาได้ ยังได้รับคำชี้แนะจากผู้มีวิชาจึงมีความสามารถเช่นนี้สายตาซ่งรั่วเจินเองก็ตกลงบนตัวผีน้อย ผีน้อยตัวนี้อายุราวหกถึงเจ็ดขวบเท่านั้น เพราะถูกเลี้ยงดูอย่างดี รูปร่างกลับไม่น่ากลัว เพียงแต่กลิ่นอายชั่วร้ายยิ่งแข็งแกร่งขึ้นเรื่อย ๆ เห็นได้ชัดว่าคือวิญญาณอาฆาตตนหนึ่งตายอย่างไม่เป็นธรรม จึงสั่งสมไอแค้นไว้มากในฐานะคนของสำนักวิชาเต๋า เผชิญหน้ากับวิญญาณอาฆาตเช่นนี้สมควรหาวิธีกำจัดความอาฆาตพยาบาท ช่วยเหลือเขาให้ไปเกิดใหม่ในเร็ววันไต้ซือเทียนสุ่ยผู้นี้ ใช้ประโยชน์จากความอาฆาตพยาบาทเล็กน้อยนี้ ทำให้กลายเป็นกลวิธีหาเงิน“ไต้ซือเทียนสุ่ย ชาตินี้ข้ายังมีหวังจะหาตัวลูกสาวของข้าพบอีกหรือไม่?” สวีฮูหยินเอ่ยถามอย่างร้อนใจไต้ซือเทียนสุ่ยแสร้งหยิบกระดองเต่าออกมา ใส่แผ่นเหล็กสองชิ้นเข้าไปภายใน ปากบ่นงึมงำสวดคาถาขึ้นมาสกุลสวีตามหาลูกสาวคนนี้มานานนับสิบกว่าปีแล้ว ก

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 17

    “องค์ชายสาม?”ชั่วขณะหลินจือเยว่มองเห็นฉู่จวินถิง สีหน้าก็เข้มขึ้น เขายังจำได้ดี เมื่อสองปีก่อนซวงซวงปฏิเสธเขาก็เพราะฉู่จวินถิง!“ข้าได้ยินว่ามีไต้ซือวิชาล้ำเลิศของลัทธิเต๋าท่านหนึ่งเดินทางมาเมืองหลวงจึงมาดูสักหน่อย มองรูปลักษณ์ดูแล้วยอดเยี่ยมกว่าที่คิดไว้มากนัก”ใบหน้าฉู่จวินถิงประดับยิ้ม ท่วงท่าที่แสดงออกมากลับไม่ธรรมดา เห็นได้ชัดว่าเขาเพียงยืนอยู่ที่นั่น พูดคุยอย่างสนุกสนานแต่กลับสง่างามเจิดจรัส ทำให้คนไม่กล้าล่วงเกินชั่วขณะที่ฉินซวงซวงมองเห็นฉู่จวินถิง ก็ยังมิอาจควบคุมความหลงใหลที่สะท้อนภายในสายตาได้แม้กลับชาติมาเกิดอีกครั้ง ยามได้พบฉู่จวินถิงก็ยังรู้สึกโหยหาอย่างมิอาจอดกลั้น บุรุษเช่นนี้ถึงจะเป็นคนที่นางต้องการอย่างแท้จริง สูงศักดิ์ หล่อเหลา ลึกลับ นางอยากรู้เหลือเกินว่าบุรุษเช่นนี้ จะเป็นอย่างไรหากวันหนึ่งเกิดหลงใหลยอมจำนนขึ้นมา?ทว่าน่าเสียดายชาติก่อนนางเสียเวลาไปมากเพียงนั้น เดินทางผิดมากเพียงนั้น สุดท้ายก็ไม่สามารถทำให้เขาชายตาแลได้ ตรงกันข้ามกลับกลายเป็นตัวตลกในสายตาของทุกคนซ่งรั่วเจินเองก็คิดไม่ถึงว่าจะได้พบฉู่จวินถิงที่นี่ มองเห็นโชคชะตาสีแดงจนเริ่มม่วงนั้นของเขา

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 18

    หลังไต้ซือเทียนสุ่ยได้ยินคำนี้หัวใจก็เต้นตึกตัก จ้าวเหวินเทากลับย้อนคิดอย่างไม่เข้าใจ “หลานชายข้าเริ่มร้องไห้ราวเมื่อเจ็ดวันก่อน ไม่ยอมกินอะไร แม้กินแล้วก็อาเจียนออกมาอย่างรวดเร็ว...”พูดไปๆ เขาคล้ายนึกบางอย่างออกอย่างฉับพลัน ดวงตากลมโตหันมองเทียนสุ่ย “ไต้ซือเทียนสุ่ยคล้ายมาถึงเมืองหลวงในตอนนี้!”“ก่อนหลานชายท่านร้องไห้ เคยมีคนส่งของอันใดให้หรือไม่?” ซ่งรั่วเจินถามอีกครั้ง“เมื่อนั้นมีคนส่งจี้หยกหนึ่งชิ้นให้หลานชายข้าจริงๆ จี้หยกนี้ปลุกเสกมาก่อนแล้ว เป็นสมบัติชิ้นหนึ่ง เดิมทีข้าไม่อยากรับไว้ แต่เห็นหลานชายคล้ายชอบจนไม่ยอมปล่อยมือจึงสวมคอของเขาไว้แล้วเริ่มตั้งแต่วันที่สอง เด็กก็ร้องไห้ไม่หวาดไม่ไหว จนกระทั่งเมื่อสองวันก่อนข้าพาหลานชายมาพบไต้ซือเทียนสุ่ย ไต้ซือเทียนสุ่ยมอบหยกอีกหนึ่งชิ้นให้อาการจึงดีขึ้น แต่หยกชิ้นนั้นก่อนหน้านี้ไม่รู้หายไปที่ใดแล้ว”ใต้เท้าจ้าวเล่าถึงตรงนี้ ตอบสนองเชื่องช้าอย่างไรก็รู้ได้ว่าเกิดเหตุอันใดขึ้นแล้วเดิมทีนี่ก็ไม่ใช่วิธีขับไล่สิ่งสกปรกที่เกาะตัวเด็ก แต่เป็นได้รับภัยโดยไร้สาเหตุ!จี้หยกชิ้นก่อนทำร้ายเด็ก ถัดมาผ่านกลวิธีของไต้ซือเทียนสุ่ย อันที่จริงขอ

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 19

    “ซวงซวงมิได้ตั้งใจ เหตุใดเจ้าต้องบีบคั้นคนอื่นถึงเพียงนี้?” หลินจือเยว่ปกป้องฉินซวงซวงไว้ทางด้านหลัง สีหน้าบึ้งตึง“ข้าบีบคั้นคน? คนมากมายที่นี่ถูกทำร้าย หลานชายของใต้เท้าจ้าวได้รับภัยโดยไร้สาเหตุ พี่รองข้าต้องตาบอดเพราะสวมสร้อยข้อมือเส้นนี้ บัดนี้หลินโหวพูดหนึ่งประโยคว่ามิได้ตั้งใจก็ถือว่าจบกันไปแล้วกระนั้นรึ? ท่านมีสิทธิ์อะไรพูดคำนี้กัน?”ใบหน้างดงามมีเสน่ห์ของฝ่ายหญิงเจืออารมณ์โกรธขึ้ง ดวงตาดำดุจหมึกคู่งามทอประกายวาวโรจน์ ท่าทีดุดันชัดเจน ถึงขั้นทำให้หลินโหวตะลึงงัน“ไต้ซือชั่วคนนี้หลอกพวกเราหลายคนเพียงนี้ หากมิใช่เพราะฉินซวงซวงเชิญมา พวกเราจะถูกหลอกได้อย่างไร?”“ตนเองตาไม่ดีก็ช่างเถอะ ยังพาหายนะเช่นนี้มาด้วย โชคร้ายที่พวกเราแต่ละคนหลงเชื่อ ทำร้ายพวกเราอย่างรันทดถึงเพียงนี้!”“หลินโหวเองก็มิใช่ว่าถูกหญิงคนนี้ใช้เล่ห์เหลี่ยมอันใดจับไว้แล้วหรือ หาไม่แล้วไฉนเลยจะลุ่มหลงนาง ไม่ยอมแต่งงานกับแม่นางซ่งที่ดีเพียงนี้ ต้องแต่งกับหญิงผู้นี้เท่านั้น?”ได้ยินเสียงตำหนิเกินควร ประโยคแรกว่ารุนแรงแล้วประโยคถัดมากลับรุนแรงยิ่งกว่า สีหน้าฉินซวงซวงเผือดซีด คิดดูแล้วก็ไม่เข้าใจ ทั้งที่ชาติก่อนไต้

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 20

    หลินจือเยว่คิดแล้วก็ไม่เข้าใจ เหตุใดฉู่อ๋องจึงให้ท้ายซ่งรั่วเจินฉู่อ๋องถึงวัยออกเรือนแล้ว แต่กลับยังไม่แต่งงาน คุณหนูในเมืองหลวงมากมายล้วนหลงใหล กลับไม่มีผู้ใดสามารถเข้าตาของเขาได้ เหตุใดบัดนี้กลับปกป้องซ่งรั่วเจิน?“เมื่อครู่เป็นข้าเข้าใจผิดไป ขออภัย”หลินจือเยว่พูดขอโทษอย่างฝืนๆ อึดอัดคับข้องใจเป็นที่สุด เขาเป็นขุนนางใหม่ในราชสำนัก เมื่อหลายวันก่อนทุกคนในราชสำนักล้วนชื่นชม ทุกคนที่ได้พบต่างเข้ามาผูกไมตรีกับเขา ทว่านับตั้งแต่เมื่อวานก็เริ่มขายหน้าอย่างต่อเนื่อง“หวังว่าท่านโหวจะจดจำไว้ อย่าเปิดปากขอโทษเพราะทำผิดบ่อยเกินไปนัก ข้าฟังแล้วเลี่ยนนัก” ซ่งรั่วเจินรับคำนิ่งๆ ไม่ไว้หน้าเลยแม้แต่น้อยสายตาฉู่จวินถิงกวาดมองบนตัวพวกซุนฮั่นเฟย “เมื่อครู่คนพูดจาส่งเดชคล้ายมิใช่เพียงหลินโหวคนเดียวกระมัง?”เห็นสถานการณ์แล้ว หลิ่วเฟยเยี่ยนที่กำลังวางแผนหลบหลีกเข้ากลุ่มคนพลันชะงักฝีเท้า ใบหน้าเผยรอยยิ้มประจบเอาใจ “รั่วเจิน ล้วนเป็นน้าไม่ดีเอง เข้าใจเจ้าผิดไปแล้ว น้าเองก็กังวลเจ้าพูดผิดไปจะสร้างปัญหาเอาได้ เจ้าไม่ถือสาน้าใช่หรือไม่?”“ญาติผู้น้อง พวกเราล้วนเป็นครอบครัวเดียวกัน” ซุนฮั่นเฟยพูดยิ้ม

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 21

    ซ่งรั่วเจินหัวเราะเยาะในใจ ตอนที่อ่านนิยายนางก็รู้สึกว่าตระกูลหลิ่วทั้งตระกูลไม่ใช่คนดี หลิ่วเฟยเยี่ยนกล้ากระทำการอย่างโจ่งแจ้งก็เพราะอาศัยการสนับสนุนจากตระกูลหลิ่วตอนแรกแม่ของนางก็เคยไม่พอใจ แต่ใครจะคิดว่าตระกูลนี้ลำเอียงมากนัก มักจะพูดตลอดว่าหลิ่วเฟยเยี่ยนเป็นน้องสาวแท้ ๆ ในฐานะพี่สาวควรดูแลน้องให้มาก ทั้ง ๆ ที่ผู้ที่ตกที่นั่งลำบากคือท่านแม่ของนาง ทว่าสุดท้ายกลับถูกตำหนิว่าจิตใจแคบหลายปีที่ผ่านมานี้ เรื่องเช่นนี้เกิดขึ้นบ่อยครั้งจนเป็นปกติ เมื่อปิดประตูพูดคุยกัน ก็จะทำให้เรื่องใหญ่กลายเป็นเรื่องเล็ก ไม่แน่ว่าอาจจะถูกใส่ร้ายซ้ำอีกด้วย“จะเป็นการดูถูกได้อย่างไร? เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับคนมากมายเช่นนี้ ท่านน้าก็บอกแล้วว่านางโดนใส่ความ แน่นอนว่าต้องให้ทุกคนได้รับรู้ความจริงเพื่อไม่ให้เกิดการเข้าใจผิด ข้าหวังดีต่อท่านน้าจริง ๆ นะเจ้าคะ!”ซ่งรั่วเจินมีสายตาใสบริสุทธิ์ ท่าทางจริงใจจนแม้แต่หลิ่วซวี่หยางก็ยังคล้อยตาม แต่ในใจเขารู้ดีว่าไม่มีการใส่ความอะไรทั้งนั้น“เจตนาดีของเจ้า ตารู้ดี เพียงแต่น้าของเจ้าเป็นสตรี หากมีข่าวลือออกไป...”“ข้าก็อยากฟังเหตุผลเหมือนกัน ก่อนหน้านี้ไม่รู้ว่าตระก

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 22

    ฉู่จวินถิงมองเห็นความหมายแฝงในสายตาของซ่งรั่วเจิน รอยยิ้มในดวงตาเขาลุ่มลึกขึ้น “แน่นอน”ช่วยแล้วก็ต้องช่วยให้ถึงที่สุด เขาก็อยากจะดูว่าเรื่องขับขันเรื่องนี้ ตระกูลหลิ่วและตระกูลฉินจะอธิบายอย่างไรเพ่ยหลานเดิมไม่เชื่อคำพูดของซ่งรั่วเจิน เพราะมีหลิ่วเฟยเยี่ยนและแม่นางฉินหนุนหลัง นางจึงไม่จำเป็นต้องกลัวซ่งรั่วเจินที่ดูอ่อนปวกเปียกแต่เมื่อเห็นท่านอ๋องพูด นางจึงตระหนักว่าเรื่องที่ตนจะถูกตีจนตายอาจเป็นเรื่องจริง ในใจให้หวาดกลัวอย่างถึงที่สุด“พูดมา ใครกันแน่ที่ซื้อตัวเจ้า?” ซ่งรั่วเจินถามอย่างเย็นชาเพ่ยหลานเห็นว่าหลิ่วเฟยเยี่ยนและฉินซวงซวงไม่สนใจนาง จึงกัดฟันพูดว่า “ไม่เกี่ยวกับฮูหยินและแม่นางฉิน ข้าไม่ได้ถูกพวกเขาซื้อตัว”เมื่อได้ยินคำพูดนี้ หลิ่วเฟยเยี่ยนและฉินซวงซวงต่างก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก ขอแค่นางไม่บอกว่าพวกเขาเป็นคนซื้อตัวก็พอทั้งสองคนมองซ่งรั่วเจินด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความได้ใจ คิดว่านางจะไม่มีทางออกแล้ว!“ดี งั้นก็ลากออกไปตีจนตายเสีย!” สีหน้าของซ่งรั่วเจินไม่เปลี่ยน ดูเหมือนจะไม่แปลกใจเลย “หวังหลู่ เจ้าไปคุมเอง ห้ามใครยุ่งเกี่ยว ตีให้ตายแล้วนำไปโยนทิ้งที่หลุมฝังศพรว

Latest chapter

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 990

    เพียงเอ่ยปาก โทสะทั้งหมดก็พรั่งพรูออกมาแล้วความเจ็บปวดและอึดอัดใจที่สั่งสมอยู่ภายในใจล้วนระเบิดออกมาในเวลานี้อวิ๋นเฉิงเจ๋อได้ยินอวิ๋นเนี่ยนชูพูดเช่นนี้เป็นครั้งแรก มองนางตวาดถามไล่เรียงตนเอง ภายในใจเปี่ยมความรู้สึกผิด“ขอโทษ ล้วนเป็นความผิดของข้า”เห็นสายตาเปี่ยมความรู้สึกผิดของฝ่ายชาย อวิ๋นเนี่ยนชูตาแดงขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว “เดิมทีทั้งหมดนี้ก็เป็นความผิดของท่านอยู่แล้ว! เหตุใดท่านไม่บอกข้าเร็วสักหน่อย ท่านรู้ว่าหลายปีมานี้ข้าฝืนได้ลำบากมากเพียงใดหรือไม่?”“ในเมื่อท่านไม่พูดมาโดยตลอด เหตุใดไม่เก็บเอาไว้ชั่วชีวิตเล่า?”น้ำตานางไหลลงมา ตลอดหลายปีมานี้ไม่ตอบรับความรู้สึกนาง นี่ทุกข์ใจมากเพียงใด?นางอยากบริภาษเขาแรงๆ อยากทุบตีเขา ชนิดที่ว่าอยากไม่สนใจเขาอีก ทำให้เขาเสียใจภายหลังไปชั่วชีวิตเพียงแต่ ยามได้เห็นของเหล่านั้นที่เขาซ่อนไว้ภายในห้อง รวมถึงภาพเหมือนของนางที่วาดไว้นับไม่ถ้วนยามค่ำคืน นางก็อยากร้องให้อย่างอดไม่ได้...“เป็นความผิดของข้าเอง ทั้งหมดล้วนเป็นความผิดของข้า เจ้าตีข้าด่าข้าโทษข้า ล้วนสมควรทั้งสิ้น”อวิ๋นเฉิงเจ๋อสืบเท้าขึ้นไปข้างหน้าหนึ่งก้าว ภายในสายตาเปี่ยมความเอ็

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 989

    “อะไรนะ?” อวิ๋นเนี่ยนชูชะงัก ภายในสายตาสะท้อนความตกตะลึงทั้งๆ ที่ตลอดมาล้วนเป็นนางตอแยญาติผู้พี่หากไม่ใช่เพราะหลายปีมานี้นางทำเช่นนี้มาโดยตลอด คาดว่าญาติผู้พี่ก็คงไม่ชอบนาง ทว่าได้ยินคำพูดของมารดาแล้ว เหตุใดญาติผู้พี่ถึงผลักทั้งหมดนี้ลงบนศีรษะของเขาเล่า?“เฉิงเจ๋อพูดว่าเขาพยายามสอบสร้างผลงานก็เพื่อจะได้คู่ควรกับเจ้า จะได้มีโอกาสสู่ขอเจ้า”“หากเปลี่ยนเป็นในอดีต ข้าจะต้องไม่เห็นด้วยที่พวกเจ้าคบหากัน บัดนี้ผ่านเรื่องมามากถึงเพียงนี้ ความคิดของแม่ก็เปลี่ยนไปไม่น้อย”“หากเจ้าชอบเฉิงเจ๋อจริง ข้าเองก็ไม่คัดค้าน แต่หากเจ้าไม่ชอบ...”สีหน้าจางเหวินสับสน ก่อนหน้านี้เคยเห็นท่าทางของเด็กทั้งสอง ไม่ว่ามองอย่างไรเนี่ยนชูก็ไม่คล้ายไม่ชอบเฉิงเจ๋อ“ข้าชอบญาติผู้พี่เจ้าค่ะ” อวิ๋นเนี่ยนชูตอบอย่างไม่ลังเล “ข้าชอบญาติผู้พี่มาโดยตลอด”มองเห็นท่าทางมุ่งมั่นของลูกสาว จางเหวินรู้สึกเอือมระอาระคนโชคดีอยู่บ้าง “ช่างแล้วๆ น้ากู้ของเจ้าพูดถูกแล้ว ลูกหลานมีความสุขของลูกหลาน พวกเจ้าคบหากันก็เป็นพวกเจ้าสร้างขึ้น”“แม้ว่าปีนั้นเฉิงเจ๋อทำไม่ถูก ไม่สมควรเกิดความคิดต่อเจ้า แต่ข้าล้วนเห็นความพยายามของเขาตลอดหลา

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 988

    ยิ่งไปกว่านั้น ขอเพียงเขาพยายาม เขาเชื่อว่าตนเองจะต้องมีอนาคตแน่ตระกูลตกต่ำ บิดามารดาจากไปก่อนวัยอันควร เดิมทีเขาก็เป็นเด็กกำพร้าคนหนึ่ง ไม่แน่ว่าอาจตายที่ข้างถนนตั้งนานแล้ว บัดนี้ไม่เพียงมีข้าวกิน มีเสื้อผ้าสวมใส่ ท่านน้ายังเชิญอาจารย์มาสอนหนังสือเขา เขาไม่มีวันอกตัญญูเขาคิด...รออีกหน่อย รอจนเขามีความสามารถ รอจนเขาฉายแววโดดเด่น บางทีอาจมีโอกาสขอท่านน้าแต่งงานกับเนี่ยนชูทว่า ขณะเขากำลังตรากตรำร่ำเรียนอยู่นั้น ในที่สุดก็ได้รับคำชมจากอาจารย์ ได้เข้าเรียนที่สำนักศึกษาหลวง อาจารย์ของสำนักศึกษาหลวงเองก็ชื่นชมว่าเขาจะต้องมีโอกาสสอบผ่านขุนนางแน่ ตอนเขาคิดว่าตนเองอาจจะสามารถตอบรับความรู้สึกของเนี่ยนชูได้ กลับได้ยินท่านน้าและแม่นมพูดสนทนากันที่แท้...เขาไม่ใช่ลูกแท้ๆ ของบิดามารดาลูกของมารดาตายไปตั้งนานแล้ว ส่วนเขาคือเด็กที่วันนั้นถูกทิ้งไว้หน้าประตูเรือนด้านหลังของมารดาเดิมทีมารดาก็ยากจะยอมรับความเจ็บปวดได้ อีกทั้งยังสงสารเขา หมอพูดว่าร่างกายนางเสียหาย ภายภาคหน้ายากจะมีลูกได้อีก นี่ถึงรับอุปการะเขา ประกาศต่อโลกภายนอกว่าเขาเป็นลูกของตนเขาเป็นแค่เด็กถูกทิ้งคนหนึ่ง เศษสวะที่ไม่ยอมหนาว

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 987

    ซ่งรั่วเจินพยักหน้า “ข้าเคยไม่สนับสนุนเจ้าตั้งแต่ยามใด? แต่ไหนแต่ไรมาข้าล้วนสนับสนุนการตัดสินใจของเจ้า”ก่อนหน้านี้นางทำนายมาก่อนแล้ว ภายในเรื่องนี้มีเงื่อนงำซ่อนอยู่มากมาย อวิ๋นเฉิงเจ๋ออ่อนแอเกินไปสำหรับเรื่องนี้ ไม่มีความรับผิดชอบมากเพียงพอเพียงแต่ หากไม่เคยผ่านความทุกข์ของผู้อื่น ก็ไม่สามารถตัดสินตามใจได้อวิ๋นเฉิงเจ๋อกลายเป็นเช่นนี้ ย่อมหนีไม่พ้นประสบการณ์ที่เขาเคยเจอมาในช่วงหลายปีมานี้เรื่องเดียวกัน บางคนมีความรับผิดชอบที่แข็งแกร่งมาก ไม่ได้รับผลกระทบใด แต่บางคนคิดอ่านอย่างละเอียด ยากจะสามารถรับได้ใต้หล้ากว้างใหญ่ รวมทุกสรรพสิ่งไว้แล้ว ทั้งหมดล้วนเกิดขึ้นเพราะตนเอง นางย่อมไม่วู่วามสอดมือเข้าไปอวิ๋นเนี่ยนชูยิ้มกว้าง “ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ไม่ว่าผลลัพธ์เป็นเช่นไรข้าก็ไม่ใส่ใจแล้ว หากไม่พูดเรื่องนี้ออกมา ข้าจะต้องเสียใจภายหลังแน่”“ตอนนี้ท่านป้าจ้างกำลังอยู่กับท่านแม่ข้า รอกลับไปแล้วค่อยหาโอกาสพูดเถอะ”ซ่งรั่วเจินจิกนิ้วทำนาย ภายในสายตาเผยแววประหลาดใจ เปลี่ยนคำพูด “ดูท่าแล้ว เจ้าไม่จำเป็นต้องพูดออกจากปากของตนแล้วล่ะ”อวิ๋นเนี่ยนชูสงสัย “หมายความว่าอะไร?”“ญาติผู้พี่เจ้าพูด

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 986

    ตอนนั้นสมองของนางขาวโพลน ชนิดที่ว่ายังเจือความขุ่นเคืองระคนเขินอายอีกด้วย คิดว่าญาติผู้พี่จำคนผิดไปจนกระทั่งได้ยินเขาพูดพึมพำชื่อของนางไม่หยุด ได้เห็นน้ำตาเจืออยู่ในสายตาของเขา ความรู้สึกของนางก็ซับซ้อนขึ้นมาจากนั้น นางประคองญาติผู้พี่เข้าห้อง ได้ยินเขาพูดพึมพำภายในความฝัน เรียกชื่อของนางเบาๆตอนจากมา นางชนเข้ากับหนังสือบนโต๊ะของเขาโดยไม่ทันระวัง ตอนหยิบของขึ้นมา จู่ๆ ก็ได้พบภาพวาดของตนถูกซ่อนไว้ด้านในบนภาพวาดนั้นเป็นนางสวมใส่ชุดที่ไปฟังเรื่องเล่านางเปิดลิ้นชักของโต๊ะเขียนหนังสือตัวนั้นออกดู พบว่าภายในล้วนเป็นภาพวาดของนางไม่เพียงแค่นางในตอนนี้ ยังมีนางในอดีต ทั้งหมดล้วนวาดเองกับมือของญาติผู้พี่คิดดูอย่างละเอียดแล้ว ตอนเด็กนางยังเคยไปที่ห้องของญาติผู้พี่ ต่อมาหลังความรักผลิบานในหัวใจก็ชอบไปหาญาติผู้พี่เพียงแต่จู่ๆ อยู่มาวันหนึ่ง ญาติผู้พี่บอกนางด้วยท่าทางเคร่งขรึมอย่างมาก นางเป็นหญิงสาวแล้ว ไม่สามารถเข้าห้องผู้ชายตามสะดวกได้ นางถึงเข้ามาน้อยครั้งทว่าชั่วขณะได้เห็นภาพวาดมากมายนี้ นางถึงเข้าใจอย่างชัดเจน เหตุใดญาติผู้พี่ไม่ให้นางเข้าห้องเพราะภายในห้องของเขามีของมากมายที

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 985  

    เมื่อเห็นกู้ฮวนเอ๋อร์ภาคภูมิใจเช่นนี้ ซ่งรั่วเจินและคนอื่น ๆ ก็อดมิได้ที่จะสงสัยใคร่รู้ ว่าของล้ำค่าที่ว่าคือสิ่งใดกันแน่?     “ผ่าม!”    กู้ฮวนเอ๋อร์เปิดกล่องผ้าไหมออกด้วยความตื่นเต้นยิ่ง แต่ทว่าหลังจากที่ทุกคนในงานเห็นของในกล่องผ้าไหมแล้ว ล้วนนิ่งงันไปทันที    เนื่องด้วยในกล่องนั้นมีเจ้าแม่กวนอิมประทานบุตรอยู่องค์หนึ่ง!    “แค่กๆ” ฉู่อวิ๋นกุยกระแอมครั้งหนึ่ง แต่ใบหน้ากลับกลั้นหัวเราะไว้ไม่อยู่ สตรีที่เขาชอบนั้น ช่างเป็นคนที่ชาญฉลาดนัก!    ซ่งรั่วเจินพลันมองไปทางฉู่จวินถิงโดยไม่รู้ตัว ใบหน้ากลับเห่อแดงขึ้นมา    แววตาของฉู่จวินถิงปรากฏแววขบขันวาบผ่าน ของขวัญชิ้นนี้ช่างมีความหมายยิ่งนัก    กู้ฮวนเอ๋อร์เห็นว่าหลังจากที่ตนหยิบของขวัญออกมาแล้ว ทุกคนต่างตกอยู่ในความเงียบ จึงอดไม่ได้ที่จะพูดขึ้น ”นี่มันสีหน้าอะไรของพวกเจ้ากัน? หรือว่าไม่ดีงั้นหรือ?“    “เจ้าแม่กวนอิมประทานบุตรองค์นี้ ข้าไปกราบขอมาโดยเฉพาะ ผ่านพิธีปลุกเสก ศักดิ์สิทธิ์ยิ่งนัก!”    ซ่งรั่วเจิน “...”    หลายครั้งนางเองก็นับถือกู้ฮวนเอ๋อร์จริง ๆ ทั้ง ๆ ที่อายุน้อยขนาดนี้ แต่ความคิดที่จะมอบของขวัญให้กลับเหมือนค

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 984  

    ณ เวลาเดียวกันนั้น อวิ๋นเนี่ยนชูก็ได้มาหาซ่งรั่วเจินเช่นกัน    “รั่วเจิน ยินดีกับเจ้าด้วยนะ ข้าเองก็เห็นเหตุการณ์ในงานเทศกาลโคมไฟแล้ว เดิมทีอยากจะไปแสดงความยินดีกับเจ้าอยู่หรอก แต่หลังจากนั้นเกิดเรื่องบางอย่างทำให้ล่าช้าไป จึงต้องมามอบของขวัญแสดงความยินดีในวันนี้”    อวิ๋นเนี่ยนชูยิ้มพลางยื่นของขวัญแสดงความยินดีไปให้ “นี่คือของสิ่งนี้ข้าเตรียมไว้แต่เนิ่น ๆ แล้ว ฉู่อ๋องเป็นคนดีจริง ๆ เมื่อพวกเจ้าได้แต่งงานกันแล้วจักต้องครองรักกันอย่างร่มเย็นเป็นสุข จนผู้คนรอบข้างพากันริษยาแน่นอน”    ซ่งรั่วเจินมองดูอวิ๋นเนี่ยนชูเปิดกล่องผ้าไหมออก ภายในบรรจุเครื่องประดับศีรษะของสตรีครบชุด เครื่องตกแต่งอื่น ๆ ไปจนถึงเครื่องประทินโฉม ดวงตาของนางเต็มไปด้วยความตกใจอย่างถึงที่สุด    “ของมากมายถึงเพียงนี้เชียวหรือ? ดูแล้วครบชุดเลย เจ้าให้จัดทำขึ้นมาโดยเฉพาะหรือ?”    “ใช่แล้ว!” อวิ๋นเนี่ยนชูพยักหน้าพลางยิ้ม “แต่ก่อนข้าครุ่นคิดอยู่ตลอดว่าควรจะมอบสิ่งใดให้เจ้าเป็นของขวัญดี แต่คิดไปคิดมาก็ยังไม่มีสิ่งที่เหมาะสมที่สุดได้เลย”    “หลังจากนั้น ข้าก็คิดว่า สิ่งที่สตรีมักจะใช้บ่อย ๆ ในชีวิตประจำวันก็มิพ้นเคร

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 983  

    เมื่อได้ฟังสิ่งที่จางเหวินพูด กู้หรูเยียนกับเยี่ยนชิงอวี้ต่างก็อดมิได้ที่จะตกตะลึง    ตั้งแต่เมื่อเริ่มรู้จักความรักครั้งแรกก็ชอบพอเฉิงเจ๋อ ถ้าอย่างนั้น ก็ชอบพอหลายปีจริง ๆ พวกเขากลับมิรู้มาโดยตลอด คิดดูแล้ว ในใจเด็กทั้งสองคงมีสิ่งที่เก็บกลั้นไว้อยู่    “จะว่าไป ก็ต้องโทษที่ก่อนหน้านี้ที่ข้ามิได้ใส่ใจให้ดีนัก เอาแต่ให้เฉิงเจ๋อคอยดูแลน้องสาวให้ดี”    “เนี่ยนชูชอบตามติดอยู่ข้างกายเฉิงเจ๋อมาตั้งแต่เล็ก ทุกครั้งที่เฉิงเจ๋อกลับจากสำนักศึกษา เป็นเวลาที่นางมักดีใจเป็นที่สุด ข้าก็นึกว่าเป็นเพียงความรักฉันพี่น้องมาโดยตลอด”    “มาตรองดูดี ๆ แล้ว ตอนนั้นข้าก็ควรพบความผิดแผกได้ หากเป็นเพียงพี่น้องธรรมดา เหตุใดเด็กทั้งสองจึงมิยอมแต่งงานจนถึงตอนนี้?”    จางเหวินยิ่งเอ่ยก็ยิ่งปวดใจ เมื่อนึกถึงคราวก่อนที่อนุอวิ๋นยังหมายจะยกอวิ๋นซีหว่านที่ยังไม่ได้แต่งงานให้แก่เฉิงเจ๋อ เกรงว่าตอนนั้น หัวใจของเด็กทั้งสองคงรวดร้าวมิใช่น้อย    ถึงขั้นที่ เมื่อเกิดเรื่องนี้ขึ้นในตอนนั้น นางยังเคยกล่าวกับเฉิงเจ๋อด้วยว่า เรื่องนี้ช่างน่าขันเสียจริง    นางมองเขาเป็นดั่งบุตรชายแท้ ๆ มาโดยตลอด อนาคตจะต้องเลือกคู่ค

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 982   

    “พวกเราล้วนเป็นครอบครัวเดียวกัน เจ้ายังจะเกรงใจข้าอีกหรือ? ที่ข้ามานี้ มิใช่เพียงเพื่อช่วยรั่วเจินเตรียมงานแต่งเท่านั้น อีกทั้งยังได้เห็นหน้าชิงอินด้วย ช่างเป็นเรื่องดีเสียจริง”    ขณะที่กู้หรูเยียนและเยี่ยนชิงอวี้กำลังสนทนาหยอกเย้ากันอยู่นั้น ก็พลันสังเกตเห็นว่าจางเหวินราวกับเหม่อลอยอยู่ไม่น้อย    “หรือว่ามีเรื่องอันใดเกิดขึ้นหรือ? เหตุใดเจ้าจึงมีท่าทีเหม่อลอยเช่นนี้?” กู้หรูเยียนเอ่ยถาม    จางเหวินจึงได้คืนสติ ในใจของนางล้วนมีแต่เรื่องของเนี่ยนชูกับเฉิงเจ๋อ จนเผลอใจลอยไปโดยไม่รู้ตัว    “ข้า...”    นางเหมือนจะเอื้อนเอ่ย แต่กลับชะงักไป    เยี่ยนชิงอวี้ขมวดคิ้ว “เจ้ามีเรื่องอะไรที่ไม่สามารถบอกพวกเราได้งั้นหรือ? บอกมาตามตรงเถิด”    “ที่อนุอวิ๋นพูดมามิผิดเลย ระหว่างเนี่ยนชูและเฉิงเจ๋อต่างก็มีใจให้กัน”    จางเหวินทอดถอนใจครั้งหนี่ง เมื่อนึกถึงภาพที่นางได้เห็นเมื่อวานยามกลับจวน เป็นครั้งแรกที่นางได้เห็นเฉิงเจ๋อในสภาพเช่นนั้น บทสนทนาของทั้งสอง นางก็พลอยได้ยินไปด้วย    นางจึงได้รู้ว่าที่แท้เนียนชู่ชอบพอเฉิงเจ๋อมาหลายปีเพียงนี้ ในฐานะมารดาเช่นนาง นางคิดว่าตนใส่ใจบุตรเป็นอย่าง

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status