공유

บทที่ 14

작가: จี้เวยเวย
ไต้ซือเทียนสุ่ยมองซ่งรั่วเจินนิ่งๆ “แม่นางซ่ง หลายวันก่อนอาตมาไปดูฮวงจุ้ยที่จวนตระกูลซ่ง หมู่นี้จวนตระกูลซ่งเกิดเรื่องติดต่อกัน ใช่ว่าจะไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเจ้าเลยเสียทีเดียว”

“อ้อ? ไหนท่านลองพูดให้ฟังที ว่าเกี่ยวข้องกับข้าอย่างไรบ้าง?”

ซ่งรั่วเจินยิ้มหยัน มองคนตรงหน้าด้วยความสงบเยือกเย็น นางอยากรู้นักว่าคนผู้นี้จะแต่งเรื่องอย่างไรออกมา!

“ข้าเคยดูเวลาตกฟากของเจ้ามาก่อน เจ้าชะตาอาภัพมีดวงพิฆาต หลินโหวเป็นดาวนำโชคในชีวิตเจ้า มีเพียงต้องออกเรือนให้เขาจึงจะสามารถคลี่คลายได้”

“เดิมทีหลินโหวไม่มีทางแต่งเจ้า หากไม่ใช่เพราะข้าใช้วิธีการบางอย่าง แม้แต่ภรรยาหลวงเจ้าก็คงไม่ได้เป็น วันนี้เจ้าอยากอยู่อย่างสงบก็มีแต่ต้องเดินทางนี้เท่านั้น มิเช่นนั้น ดวงพิฆาตของเจ้ายังจะทำให้คนอื่นเคราะห์ร้ายไปด้วย”

ได้ยินเช่นนั้น คนที่เดินตามไต้ซือเทียนสุ่ยออกมาล้วนเผยสีหน้าตื่นตกใจ

ดวงพิฆาต นี่เป็นชะตาชีวิตที่ทุกคนหวาดกลัวที่สุด เดิมนึกว่าหลินโหวทอดทิ้งซ่งรั่วเจินเป็นการปฏิบัติต่อนางอย่างไม่เป็นธรรม แต่ดูจากตอนนี้ หลินโหวเป็นดาวช่วยชีวิตนาง นางกลับไม่รู้ดีชั่ว!

“มิน่าเล่า หมู่นี้ตระกูลซ่งถึงได้เกิดเรื่องไม่หยุดหย่อน ที่แท้ก็เคราะห์ร้ายเพราะซ่งรั่วเจินหรือนี่?”

“ไต้ซือเทียนสุ่ยเคยทำนายดวงชะตาให้นาง นางรู้ดีว่าจะเดือดร้อนถึงคนในครอบครัวแต่ก็ยังถอนหมั้นต่อหน้าธารกำนัล นี่ไม่ใช่แค่ไม่รู้ความแล้ว แต่เรียกว่าจิตใจชั่วช้าอำมหิตมากกว่า!”

“นั่นน่ะสิ ข้าได้ยินมาว่าคืนวาน ฮูหยินผู้เฒ่าตระกูลหลินกับหลินโหวไปขอโทษแล้ว แต่กลับถูกไล่ออกมา ไม่รู้จริงๆ ว่านางยังไม่พอใจอะไรอีก?

“ผู้ชายมีสามภรรยาสี่อนุเป็นเรื่องปกติ ดีชั่วอย่างไรก็เป็นคุณหนูผู้ดี ความใจกว้างแค่นี้ก็ยังไม่มี ข้ากลับคิดว่าแม่นางฉินที่หลินโหวแต่งเป็นภรรยาวันนั้นดีกว่ามาก”

“ซ่งรั่วเจินน่ะหรือ ไม่คู่ควรเป็นฮูหยินของจวนโหวเลยสักนิด!”

“สามภรรยาสี่อนุเป็นเรื่องปกติ ท่านเต็มใจแต่งก็ไปแต่งเองสิ พ่อแม่ข้ายังไม่คัดค้าน ท่านมีสิทธิ์อะไรมาวิพากษวิจารณ์อยู่ตรงนี้?”

ซ่งรั่วเจินปรายตามองฝ่ายตรงข้ามอย่างเย็นชา แววตาลึกล้ำดุจบ่อลึกฉายประกายเย็นเยียบ ไอสังหารที่กดดันผู้คนแผ่ซ่านออกมาอย่างโจ่งแจ้ง

หญิงผู้นั้นรู้ว่าซ่งรั่วเจินมีนิสัยหัวอ่อนถึงได้กล้าเอ่ยปากอย่างเหิมเกริม จู่ๆ ถูกสายตาคู่นั้นจับจ้องก็รู้สึกหนาววาบในใจ เงียบเสียงไปโดยไม่รู้ตัว

“ไต้ซือเทียนสุ่ย ท่านพูดว่าข้ามีดวงพิฆาต แต่ดวงชะตาที่ข้าดูมาตั้งเด็กล้วนดีเลิศมาโดยตลอด”

“นอกจากนี้ หลายวันก่อน แม่ข้าเชิญท่านมาดูฮวงจุ้ยที่จวน ท่านรับเงินหนึ่งแสนตำลึงไปแล้ว บอกว่าแค่ต้องถมสระบัว อีกทั้งในร้อยปีนี้ห้ามไปแตะต้อง เช่นนี้จึงจะสามารถแก้ไขชะตาของตระกูลซ่งได้”

“แต่ท่านพูดเช่นนั้นได้ไม่ทันไร พี่รองของข้าก็ตาบอดสองข้าง งานวิวาห์ของข้าก็เกิดเรื่อง วันนี้ท่านเห็นว่าเรื่องราวไม่อาจคลี่คลายได้ก็หันมาพูดว่าข้ามีดวงพิฆาต ช่างพูดจากลอกกลับดีเสียจริง คำพูดแบบใดล้วนถูกท่านพูดออกมาจนหมดแล้ว!”

ซ่งรั่วเจินมองไต้ซือเทียนสุ่ยอย่างเย็นชา สายตาไปหยุดลงบนเงาดำกลุ่มหนึ่งด้านหลังเขา

ชั่วขณะที่คนผู้นี้ปรากฏตัว นางก็สังเกตเห็นแล้ว ต้องยอมรับว่าคนผู้นี้มีความสามารถ ถึงกับเลี้ยงผีน้อยเอาไว้ด้วยตนหนึ่ง

จะว่าไปก็น่าขัน นักพรตหรือภิกษุทั่วไปล้วนบำเพ็ญตนเพื่อละวางกิเลส โปรดสรรพสัตว์ คนตรงหน้ากลับประเสริฐนัก เลี้ยงผีน้อยตนหนึ่งไว้ข้างกาย อาศัยผีน้อยตนนี้จนได้ชื่อว่าเป็นไต้ซือ

แต่พลังของผีน้อยมีจำกัด ต่อให้สามารถมองทะลุสิ่งของบางอย่างได้ แต่ไม่มีความสามารถส่งวิญญาณไปสู่สุคติ

“อาตมาจัดการทุกอย่างไว้ดีแล้ว ถ้าแม่นางซ่งยอมออกเรือนไปแต่โดยดี ทุกอย่างก็จะคลี่คลายไปเอง แต่เจ้าไม่ยินยอม ส่งผลให้เกิดความเปลี่ยนแปลงในวันนี้ จะมาโทษอาตมาได้อย่างไร?”

ไต้ซือเทียนสุ่ยแค่นเสียง สีหน้าเย็นชาถึงที่สุด “อาตมาเห็นแก่หน้าฮูหยินตระกูลซุนจึงได้คิดจะช่วยเหลือเจ้า แต่ตอนนี้เจ้าไม่รับน้ำใจ อาตมาก็จะไม่ช่วยอีกแล้ว!”

“เจ้าได้ยินแล้วใช่ไหม? แม่ข้าทุ่มเทเพียงใดเพื่อช่วยเหลือเจ้า แต่เจ้านอกจากจะไม่รับน้ำใจแล้วยังมาล่วงเกินไต้ซือเทียนสุ่ยอีก เกรงว่าตระกูลซ่งคงต้องเคราะห์ร้ายหมดบ้านเพราะเจ้าคนเดียว!”

ซุนฮั่นเฟยสุดจะระงับความพลุ่งพล่าน มารดากับท่านป้าเป็นพี่น้องกันแท้ๆ แต่กลับไม่ได้ออกเรือนให้ตระกูลสูงศักดิ์เหมือนท่านป้า กอปรกับพี่น้องตระกูลซ่งล้วนมีชื่อเสียงอยู่ข้างนอก เหนือกว่าเขาไปเสียทุกอย่าง เวลาปกติถึงออกไปไหนด้วยกัน เขาก็เป็นได้แค่ตัวประกอบมาตลอด

ยามนี้ตระกูลซ่งเสื่อมถอย คนเหล่านั้นทยอยเกิดเรื่องไปทีละคน ไม่ต้องบอกเลยว่าในใจเขารู้สึกปลอดโปร่งมากแค่ไหน!

“อาศัยแค่คำโกหกพกลมของพวกสิบแปดมงกุฎอย่างท่าน ก็คิดจะมาตัดสินชะตาตระกูลซ่ง ท่านคู่ควรด้วยรึ?”

“ข้าจะทำนายให้ท่านก็แล้วกัน ท่านหว่างคิ้วหม่นหมอง ขนคิ้วบางเบา ใบหน้ามีสีแดงเรื่อ ผีน้อยข้างกายเลี้ยงไว้นานไปจะต้องแว้งกัดแน่นอน อย่างมากไม่เกินสามวัน จะต้องประสบกับเคราะห์ร้ายเลือดตกยางออก!”

ซ่งรั่วเจินแววตาเฉยเมย วิญญาณอาฆาตข้างหลังคนผู้นี้ขยายใหญ่ขึ้นทุกที เงาดำนั้นแทบจะกลืนกินเขาหมดแล้ว

เลี้ยงผีน้อย ตนเองก็ต้องมีความสามารถข่มมันได้ หากไม่มีความสามารถนั้น ไม่เพียงแต่จะต้องสูญเสียสิ่งที่ได้มาเพราะอาศัยผีน้อย เจ้าตัวยังต้องประสบกับการแว้งกัด คนผู้นี้เห็นได้ชัดว่ากำลังจะรับมือไม่ไหวแล้ว

สิ้นเสียงซ่งรั่วเจิน คนรอบข้างก็พูดถากถางขึ้นมา

“นางพูดเหลวไหลอะไร? ทำนายดวงชะตาให้ไต้ซือเทียนสุ่ยเนี่ยนะ?”

“เกรงว่าซ่งรั่วเจินคงสะเทือนใจเกินไปจนเริ่มพูดจาเหลวไหลเลื่อนเปื้อนแล้วกระมัง?”

ไต้ซือเทียนสุ่ยมีสีหน้าเย้ยหยัน “แม้แต่ฮวงจุ้ยง่ายๆ เจ้ายังดูไม่เป็น ถึงกับกล้าพูดว่าข้าจะมีเคราะห์โชกเลือด ช่างเหลวไหลไร้สาระสิ้นดี!”

“ญาติผู้น้อง ข้าว่าเจ้ายอมรับผิดแต่โดยดีเถอะ ไยต้องปากแข็ง? ก่อเรื่องต่อไปไม่เป็นผลดีต่อเจ้าหรอกนะ”

ซุนฮั่นเฟยแสร้งเกลี้ยกล่อมด้วยความปรารถนาดี ในใจกลับอดหัวเราะเยาะเย้ยไม่ได้ ญาติผู้น้องคงสมองเลอะเลือนไปแล้ว ถึงกับกล้าสงสัยไต้ซือเทียนสุ่ยทั้งยังสาปแช่งเขาอีกด้วย!

“ไต้ซือเทียนสุ่ย ลูกสาวข้าหายตัวไปหลายปี ได้โปรดช่วยทำนายให้ข้าด้วยเถิดเจ้าค่ะว่าชีวิตนี้ข้ายังมีโอกาสหาลูกสาวพบหรือไม่?”

ฮูหยินหน้าตางดงามนางหนึ่งที่อยู่ข้างๆ มองไต้ซือเทียนสุ่ยด้วยความร้อนใจ นางทุ่มเทไปมากกว่าจะได้พบไต้ซือเทียนสุ่ย เดิมนั้นตอนนี้ควรช่วยนางคลี่คลายปัญหาได้แล้ว คิดไม่ถึงว่าจะถูกขัดจังหวะเพราะการปรากฏตัวขึ้นของซ่งรั่วเจิน

นางไม่อาจปล่อยให้โอกาสนี้ผ่านไปโดยไม่ทำอะไรเลย จะต้องหาลูกสาวนางให้พบให้ได้

ซ่งรั่วเจินได้ยินแล้วก็หันไปมองผู้หญิงตรงหน้าคนนั้น นางแต่งกายเรียบร้อย สวมเครื่องประดับหรูหรา ทั้งยังดูคุ้นตาอย่างมาก เหมือนเคยเจอที่ไหนมาก่อน

“ลูกสาวหายสาบสูญไปเมื่อหลายปีก่อน คงไม่ใช่ฮูหยินของราชครูสวีหรอกนะ?”

ในสมองปรากฏภาพคนผู้หนึ่งอย่างรวดเร็ว ตอนนั้นเรื่องนี้โด่งดังไปทั่วเมืองหลวง ได้ยินว่าสวีฮูหยินพาลูกสาวไปเดินเล่นที่งานวัด แต่ลูกสาวกลับหายตัวไป ยังหาคนไม่พบจนถึงบัดนี้

ไต้ซือเทียนสุ่ยเหลือบมองสวีฮูหยินแวบหนึ่ง แล้วหันไปมองซ่งรั่วเจิน ฉับพลันก็คิดแผนการขึ้นได้

“ในเมื่อเจ้าพูดเองว่าตัวเองมีความสามารถในการทำนายทายทัก มิสู้พวกเรามาประลองกันว่าใครทำนายได้แม่นยำกว่ากัน? ดูว่าใครจะสามารถตามหาลูกสาวให้ฮูหยินท่านนี้ได้ก่อน!”

เมื่อวาจานั้นดังขึ้น ทุกคนล้วนกวาดสายตามามองซ่งรั่วเจิน รู้สึกเพียงว่านางหาเรื่องใส่ตัว นางที่เป็นคุณหนูที่อยู่แต่ในเรือน จะไปรู้เรื่องพวกนั้นได้อย่างไร?

ทว่ามุมปากของซ่งรั่วเจินกลับหยักขึ้นเป็นรอยยิ้มนึกสนุก “ตกลง!”

“ถ้าข้าชนะ ท่านจะต้องโขกศีรษะขอขมาข้า และสารภาพว่าใครเป็นคนบงการให้ท่านนำของสกปรกมาฝังไว้ในสระบัวบ้านข้า!”
이 책을 계속 무료로 읽어보세요.
QR 코드를 스캔하여 앱을 다운로드하세요

최신 챕터

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 1242

    “นอกจากนี้ ข้าเชื่อหรอกว่าเจาย่วนเป็นคนมีเหตุมีผล สาเหตุที่นางดึงดันเช่นนี้ก็เพราะนางไม่รู้ความจริง”“เมื่อครู่ข้าพูดกับฮวนเอ๋อร์แล้วว่าให้นางหาโอกาสให้พวกข้าไปเจอฉวีเซินสักครั้ง”“ถึงยามนั้นถ้าพวกเราไปแล้วย่อมจะเปิดโปงโฉมหน้าที่แท้จริงของเขาได้แน่นอน แต่เจ้าหมอนั่นคงไม่กล้ามาเจอพวกเรา คงจะปฏิเสธบ่ายเบี่ยงด้วยเหตุผลต่างๆ นานา เชื่อว่าถึงยามนั้นเจาย่วนคงจะดูออกว่าไม่ปกติ”“เจ้าพูดถูก” สวี่เหราพยักหน้าแล้วกล่าวมาอีกว่า “เช่นนั้นยันต์นี้ก็ต้องให้เจาย่วนพกไว้ด้วยใช่หรือไม่?”ซ่งรั่วเจินพยักหน้าน้อยๆ “หาโอกาสให้นางพกติดตัวเอาไว้นะเจ้าคะ”“ได้ ข้าจะทำตามที่เจ้าบอก!”เมื่อซ่งรั่วเจินออกมา ฉู่จวินถิงก็มารอนางอยู่ข้างนอกแล้ว“เกลี้ยกล่อมได้หรือไม่?”ฉู่จวินถิงทราบว่าซ่งรั่วเจินและกู้ฮวนเอ๋อร์จากมาก่อนเพราะไปเกลี้ยกล่อมกู้เจาย่วน แต่เขารู้สึกว่าด้วยท่าทางของกู้เจาย่วนในตอนนั้นแล้วเกรงว่าคงเกลี้ยกล่อมได้ยากซ่งรั่วเจินเลิกคิ้วงาม “ท่านคิดว่าอย่างไรเล่า?”“คงเกลี้ยกล่อมได้ไม่ง่ายนัก” ฉู่จวินถิงส่ายศีรษะ “แต่ข้าคิดว่าคนผู้นี้ไม่มีกระทั่งความกล้ามาพบหน้า หาใช่คู่ครองที่ดีไม่”ดวงตางามของซ

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 1241

    “อยู่ดีๆ เจาย่วนไปเจอผีได้อย่างไร? ถ้านางครองคู่กับคนผู้นี้จริงมิเท่ากับต้องตายหรอกรึ?”สวี่เหราร้อนใจเสียแล้ว ก่อนนี้อย่างมากก็เพียงกังวลว่าหากแต่งงานกับบัณฑิตยากจนไร้ความสามารถ เจาย่วนจะต้องลำบากในวันหน้าความจริงหากถึงขั้นนั้นจริง มีตระกูลกู้ของพวกตนอยู่ เพียงให้การดูแลสักหน่อย เจาย่วนก็สามารถมีชีวิตที่ไม่เลวได้เหมือนกัน แต่ถ้าเจอผี นั่นกลับพัวพันถึงชีวิตแล้ว!โชคดีที่วันนี้รั่วเจินมาที่นี่ หากมิได้มา ผลลัพธ์คงเลวร้ายสุดคาดคิด!ซ่งรั่วเจินพยักหน้าน้อยๆ “วันนี้ตอนที่ข้าเห็นเจาย่วนก็รู้สึกว่านางมีบางอย่างแปลกๆ บนร่างแฝงไว้ซึ่งไอมรณะ”“พวกท่านไม่จำเป็นต้องกังวลจนเกินไป ตอนนี้ค้นพบเร็ว ผลกระทบไม่ได้น่ากลัวปานนั้น”สวี่เหราค่อยถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก “ถ้าอย่างนั้นก็ดีจริงๆ!”ประสบเรื่องราวมามากขนาดนี้ นางรับทราบความสามารถของรั่วเจินเป็นอย่างดี ขอเพียงเป็นคำพูดของนาง นางไม่สงสัยเลยสักนิด“ต่อจากนี้พวกเราควรทำอย่างไรดี? ต้องฝังอะไรหรือไม่ หรือว่าเป็นเพราะฮวงจุ้ยของที่บ้านไม่ดี ต้องเปลี่ยนแปลงอะไรหรือเปล่า?”สวี่เหราอดร้อนใจไม่ได้ นางจำได้ว่าตอนนั้นตระกูลซ่งประสบปัญหาติดต่อกันเป็น

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 1240

    “เจ้าวางใจได้ ข้าไม่มีวันบอกท่านป้า!”กู้เจาย่วนครุ่นคิด พูดว่า “รอครั้งหน้าข้าถามเขาดู น่าจะได้”หลังพูดคุยจบ ซ่งรั่วเจินและกู้ฮวนเอ๋อร์ก็ออกจากเรือนพร้อมกันเห็นกู้เจาย่วนไม่ออกมา กู้ฮวนเอ๋อร์ถึงเอ่ยถามด้วยความสงสัย “ญาติผู้พี่ พวกเราไม่ใช่มาช่วยท่านป้าเกลี้ยกล่อมเจาย่วนหรอกหรือ? เหตุใดเมื่อครู่ท่านต้องสนับสนุนเจาย่วนด้วยเล่า?”ซ่งรั่วเจินหัวเราะเบาๆ “หากฉวีเซินคนนั้นมีความสามารถสอบติดขุนนางจริง เขาและเจาย่วนก็เป็นคู่ครองที่เหมาะสมใช่หรือไม่?”“ข้าว่าไม่ง่ายเพียงนั้น ทุกปีมีคนเข้าสอบมากน้อยเพียงใด? สอบติดมากน้อยเพียงใด?”“ไม่ใช่ทุกคนจะมีพรสวรรค์เหมือนญาติผู้พี่ หากฉวีเซินคนนั้นมีความสามารถเปี่ยมล้น ต่อให้มีชาติกำเนิดยากจน ก็ต้องมีคนสนับสนุน”กู้ฮวนเอ๋อร์ส่ายหน้า ตั้งแต่เด็กนางก็เติบโตในจวนราชครู ได้ยินมาบ้างจึงรู้ความยากของการสอบขุนนางบัณฑิตแทบจะทุกคนล้วนคิดว่าตนเองมีความสามารถ แน่ใจว่าไม่มีผู้อื่นเทียบตนเองได้ แต่พวกอ้างตนเองเช่นนี้ เหลือรอดจริงๆ มีน้อยมาก“เจาย่วนพูดว่าสอบขุนนางครั้งก่อนเขาไม่สบายจึงพลาดไป ข้าจำได้ว่าครั้งก่อนญาติผู้พี่ท่านเคยพูดว่าเวลาก็คือชะตาชีวิต”“เ

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 1239

    กู้ฮวนเอ๋อร์สนใจขึ้นมาอย่างอดไม่ได้ “นี่ช่างแปลกจริงๆ ยังไม่ต้องพูดถึงเจ้า ข้าได้ยินแล้วก็รู้สึกว่านี่คือวาสนาที่บังเอิญเหลือเกินจริงๆ”ซ่งรั่วเจินได้ฟังแล้วก็เข้าใจ นี่คือวาสนาสายใยพันลี้ที่ใดกัน เห็นได้ชัดว่าให้ผีเดียวดายมาหาเจ้าสาวผี!นางหันมองกู้ฮวนเอ๋อร์แวบหนึ่ง “ฮวนเอ๋อร์ เจ้าพูดเก่งถึงเพียงนี้ เหตุใดไม่ไปเล่าหนังสือ?”กู้ฮวนเอ๋อร์ดึงสติกลับมาได้ในทันใด ตนเองมาช่วยท่านป้าเกลี้ยกล่อมเจาย่วน เหตุใดตนเองถึงได้ตื่นเต้นไปกับเจาย่วนกันเล่า?นางคลี่ยิ้มเก้อกระดาก “เจาย่วน แม้พูดว่าวาสนานี้บังเอิญอย่างมาก แต่บางครั้งวาสนาก็ไม่ใช่เรื่องดีเสมอไป อาจจะเป็นเวรกรรมก็ได้!”ซ่งรั่วเจิน “...”หลังกู้เจาย่วนที่กำลังดีใจได้ยินคำพูดนี้ รอยยิ้มบนใบหน้าหายไป สีหน้ากลายเป็นเย็นชา“ข้ารู้พวกเจ้ามาพูดแทนท่านแม่ข้า เพียงแต่วาสนาของข้าและฉวีเซินเป็นสวรรค์กำหนด ไม่ว่าพวกเจ้าพูดอะไร ข้าล้วนไม่ฟัง”ซ่งรั่วเจินนี่ถึงเอ่ยปาก “เจาย่วน ข้าคิดว่าความยากจนไม่ใช่ตัวตัดสินความดี ต่อให้เป็นพวกเรา ก็แค่อาศัยมาเกิดในครอบครัวที่ดีเท่านั้น ไม่ได้ยอดเยี่ยมไปกว่าพวกเขา”“ญาติผู้พี่ ท่านเองก็คิดเช่นนี้หรือ?” กู้เจ

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 1238

    สวี่เหราพยักหน้า “ดีๆ ๆ ลำบากพวกเจ้าแล้ว”ตอนซ่งรั่วเจินและกู้ฮวนเอ๋อร์มาถึงเรือนของกู้เจาย่วน ได้เห็นนางกำลังลอบนั่งร้องไห้อยู่ภายในห้อง“ญาติผู้พี่ ฮวนเอ๋อร์ พวกเจ้ามาได้อย่างไร?”กู้เจาย่วนรีบซับน้ำตาที่หางตา เพียงแต่ท่าทางขอบตาแดงนั้นน่าสงสารมาก ทำจนคนปวดใจ“เจาย่วน พวกเรามีความสัมพันธ์อันดีตั้งแต่เด็ก เกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้น เหตุใดเจ้าไม่รีบบอกข้า?”กู้ฮวนเอ๋อร์รีบสืบเท้าขึ้นมาอย่างว่องไว เดินมานั่งข้างกู้เจาย่วน“ข้ารู้เจ้าและอวิ๋นอ๋องกำลังจะแต่งงานกัน งานยุ่งอยู่ตลอด นี่จึงไม่ได้ไปรบกวนเจ้า”กู้เจาย่วนยกมุมปากคลี่ยิ้ม “ท่านพ่อและท่านแม่ล้วนไม่ยอมให้ข้าและฉวีเซินคบหากัน ข้าพูดไปก็ไร้ประโยชน์”“ฉวีเซิน? คนในดวงใจเจ้าหรือ?”กู้เจาย่วนพยักหน้า มองซ่งรั่วเจินทางด้านข้าง รู้สึกเก้อกระดากอยู่บ้าง “ญาติผู้พี่เห็นเรื่องน่าขันแล้ว”“แต่ไหนแต่ไรมาเรื่องความรู้สึกทำนองนี้ไม่สามารถบังคับได้ หัวใจสั่นไหวก็ใช่ว่าตนเองจะสามารถควบคุมได้ ข้าเข้าใจ”ซ่งรั่วเจินยิ้มน้อยๆ “นึกถึงปีนั้นข้าถอนหมั้นจนผู้คนต่างรู้กันอย่างถ้วนทั่ว นี่ก็ถูกทุกคนเห็นเป็นเรื่องตลกไม่ใช่หรือ? กระนั้นก็ไม่เป็นไรเสียห

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 1237

    ดรุณีน้อยมักหลงใหลในความรัก ซ่งรั่วเจินเข้าใจเรื่องนี้ดี“คุณชายท่านนั้นที่เจาย่วนชอบ เจ้าเคยพบหรือไม่?” ซ่งรั่วเจินถามกู้ฮวนเอ๋อร์ส่ายหน้า “ไม่เจ้าค่ะ ทีแรกเจาย่วนไม่บอกใคร หากไม่ใช่เพราะท่านป้าแนะนำคู่ครองให้ นางก็ไม่ยอมรับปาก สุดท้ายถึงพูดออกมา”“วันนี้ท่านป้าให้ข้าเกลี้ยกล่อมเจาย่วน ท่านเองก็รู้ว่าเมื่อหลายวันก่อนอวิ๋นอ๋องป่วย ต้องการคนดูแล ข้าจึงไปอยู่ที่จวนอวิ๋นอ๋องทุกวัน ล้วนไม่ได้ใส่ใจ”“ข้าคิดว่าอีกเดี๋ยวค่อยไปถามเจาย่วน นางยังยอมพูดกับข้าเจ้าค่ะ”พูดไป กู้ฮวนเอ๋อร์เอ่ยปากกับซ่งรั่วเจิน “ญาติผู้พี่ อีกเดี๋ยวหากไม่รีบไป ไม่สู้พวกเราไปคุยกับเจาย่วนด้วยกัน”ซ่งรั่วเจินพยักหน้า “ได้”หลังทุกคนได้รู้เรื่องของกู้เจาย่วน บรรยากาศก็เปลี่ยนไปหลายส่วน คาดว่าสำหรับบ้านใหญ่นี่เป็นปัญหาอย่างหนึ่งหากกู้เจาย่วนคิดไม่ตก ต้องการแต่งงานกับบัณฑิตยากจนท่านนั้น นั่นก็มีเพียงสองผลลัพธ์ประการแรกให้นางแต่งออกไป แต่ด้วยอุปนิสัยของป้าสะใภ้ใหญ่ จะต้องไม่ยอมให้เจาย่วนแต่งไปมีชีวิตลำเค็ญเป็นแน่เช่นนี้แล้ว นั่นก็มีเพียงประการที่สอง บังคับเจาย่วนแต่งกับผู้อื่นเพียงแต่ทำเช่นนี้ สองแม่ลูกจะเกิ

더보기
좋은 소설을 무료로 찾아 읽어보세요
GoodNovel 앱에서 수많은 인기 소설을 무료로 즐기세요! 마음에 드는 책을 다운로드하고, 언제 어디서나 편하게 읽을 수 있습니다
앱에서 책을 무료로 읽어보세요
앱에서 읽으려면 QR 코드를 스캔하세요.
DMCA.com Protection Status