Share

บทที่ 2

Author: จี้เวยเวย
ซ่งรัวเจินถามไล่เรียงกระแทกลงไป กระแทกเสียจนสีหน้าหลินจือเยว่เผือดซีด หวุดหวิดจะเป็นลมหมดสติไปแล้ว

เหตุใดนางกล้าพูดเรื่องเหล่านี้ออกมาต่อหน้าคนมากมายเพียงนี้!

“เรื่องนี้ก็ไม่ซื่อสัตย์จริงใจจริงนั่นล่ะ ได้ยินมาว่าหลินโหวและฉินซวงซวงมีใจปฏิพัทธ์ต่อกันมาตั้งแต่แรกแล้ว สองปีก่อนฉินซวงซวงไม่ยอมแต่งกับเขา นี่เขาถึงตกลงหมั้นหมายกับสกุลซ่ง ใครเคยคิดเล่าว่าทำความดีความชอบกลับมา ฉินซวงซวงกลับยอมแต่งกับเขาแล้ว ดังนั้นจึงคิดทำเช่นนี้ จุ๊ ๆ ...”

“แม่นางสกุลซ่งไม่กลายเป็นตัวโง่งมไปแล้วหรือ?”

ความทุ่มเทตลอดสองปีสูญเปล่าไปแล้ว เย็บชุดเจ้าสาวให้ผู้อื่นสวม ได้รับความทุกข์อย่างแสนสาหัสแต่ยังต้องกลั้นก้อนสะอื้น นี่ใครยังสามารถทนได้กันเล่า?

“พี่หญิง อย่าโมโหไปเลย”

ฉินซวงซวงก้าวเท้าฉับไวขึ้นมา มิอาจข่มความแปลกใจภายในใจเอาไว้ได้

เห็นได้ชัดว่าซ่งรั่วเจินเป็นพลับอ่อนให้คนบดขยี้ แต่งเข้าบ้านพร้อมกันก็เป็นนางและจือเยว่ร่วมกันวางแผน แม้นางไม่ยอมแต่ก็ต้องกล้ำกลืนฝืนรับปาก ไม่โวยวายใหญ่โตอันใด

ใครคาดคิดนางถึงขั้นเปิดผ้าคลุมหน้าลงจากเกี้ยวเจ้าสาว โวยวายอยู่ที่หน้าประตูเช่นนี้?

“ล้วนเป็นความผิดของซวงซวง ท่านอย่าโมโหเลย แม้เป็นภรรยาศักดิ์เทียมกัน ท่านและท่านโหวมีสัญญาหมั้นหมายก่อน ข้าก็ต้องล้วนเชื่อฟังพี่หญิงในทุกด้าน ทั้งหมดล้วนเคารพพี่หญิง”

“ข้ารักท่านโหวด้วยใจจริง ครานั้นเพราะครอบครัวไม่เห็นด้วย จึงไม่สามารถอยู่ร่วมกับท่านโหวได้...”

ฉินซวงซวงพูดไปก็ตาแดงระเรื่อ คล้ายโศกเศร้าเหลือหลาย ร้องไห้สะอึกสะอื้นซับหางตา “หากพี่หญิงไม่เห็นด้วย ข้ายินดีเป็นอนุ ขอท่านอย่าขุ่นเคืองท่านโหวเลย”

“ซวงซวง ข้าจะให้เจ้าเป็นอนุได้อย่างไรกัน?”

หลินจือเยว่เห็นฉินซวงซวงทุกข์ใจถึงเพียงนี้ ภายในก้นบึ้งของสายตาเปี่ยมความปวดใจ “ครานั้นหากมิใช่ครอบครัวเจ้าไม่เห็นด้วย พวกเราก็แต่งงานกันตั้งแต่แรกแล้ว!”

ซ่งรั่วเจินมองฉากรักหวานซึ้งตรงหน้า ปรบมืออย่างสุดระงับ “แสดงได้ยอดเยี่ยมยิ่งนัก!”

“เจ้าทำอันใด?” หลินจือเยว่ถามอย่างรำคาญ

ซ่งรั่วเจินยกมุมปากน้อยๆ “สองปีก่อนท่านเป็นฝ่ายสู่ขอข้า มิใช่ข้าต้องแต่งกับท่านให้ได้ เดิมทีครอบครัวข้าก็ไม่เห็นด้วย เป็นท่านที่คุกเข่าหน้าจวนสกุลซ่งของข้าถึงสองวัน”

“เห็นแก่ความจริงใจของท่าน ฮูหยินผู้เฒ่าพูดรับปากว่าจะดูแลข้าอย่างดิบดี ท่านพ่อท่านแม่ข้าจึงตอบตกลง เหตุใดบัดนี้ทำคล้ายข้ามาตียวนยาวทำลายความรักผู้อื่นกันเล่า?”

“ในเมื่อพวกเจ้ารักกันหวานซึ้งเพียงนี้ ข้าเองก็ไม่ขอเป็นคนชั่วทำลายงานแต่งแล้ว”

“ข้าทำให้พวกเจ้าสมปรารถนาแล้ว งานแต่งนี้ก็ขอให้จบลงเพียงเท่านี้ พี่หญิงน้องหญิงอะไร ดูแล้วอายุเจ้ามากยิ่งกว่าข้าอีกนะ ไฉนเลยจะให้เจ้าเรียกข้าว่าพี่หญิงได้?”

“เจ้าไม่ต้องร้องไห้พูดพร่ำยอมถอยยอมหลีกทางอีก ข้ายกตำแหน่งฮูหยินจวนนี้ให้เจ้าแล้ว”

ซ่งรั่วเจินยิ้มดูเบาทีหนึ่ง นางไม่คิดมอบสินเดิมให้ชายหลายใจหรอกนะ

ในเมื่อทั้งสองคนมีใจปฏิพัทธ์ต่อกัน เหตุใดต้องทำร้ายเจ้าของร่างเดิมด้วยเล่า?

ฉินซวงซวงเองก็ตกตะลึงเพราะการเปลี่ยนแปลงนี้ มิใช่ว่าซ่งรั่วเจินต้องฝืนตอบตกลง ชนิดที่ว่าให้นางเป็นอนุก็ยอมหรอกหรือ?

นางถึงขั้นถอนหมั้น?

นางจะกล้าถอนหมั้นได้อย่างไร!

“พี่หญิง ปีนี้ท่านก็ยี่สิบแล้ว ผ่านช่วงวัยแต่งงานมาแล้ว หากถอนหมั้น น่าจะออกเรือนไม่ได้แล้วกระมัง?”

“เรื่องของข้ายังไม่ต้องให้เจ้าใส่ใจ ยิ่งไปกว่านั้นเจ้าอายุมากกว่าข้า เจ้ายังสามารถแต่งออกเรือนได้ ข้ามีอันใดให้กังวลกัน?”

ซ่งรั่วเจินเพ่งพิศฉินซวงซวงขึ้นลงแวบหนึ่ง ภายในสายตาหญิงผู้นี้ล้วนแต่คืออุบาย เพียงมองผ่านใบหน้าแวบเดียวก็เห็นแค่ผลประโยชน์ เจ้าเล่ห์เพทุบาย ไร้น้ำใจไร้คุณธรรม เหมาะสมกับหลินจือเยว่ยิ่งนัก

ทั้งสองคนอยู่ร่วมกัน โชตชะตาของจวนโหวที่ดีขึ้นมาอย่างยากลำบากตลอดสองปีนี้จะต้องถูกทำลายอย่างรวดเร็วเป็นแน่

แน่นอน มีนางอยู่ อย่าหวังว่าโชคชะตาของจวนโหวจะดีเลย!

“ซ่งรั่วเจิน เจ้าต้องคิดให้ดี หากวันนี้เจ้าถอนหมั้นแล้ว ก็อย่าได้คิดว่าจะมีโอกาสเข้าจวนโหวอีก!”

สีหน้าหลินจือเยว่แข็งทื่อดุจเหล็ก เขาไม่เชื่อว่าซ่งรั่วเจินจะมีความกล้านี้ ถอนหมั้นในวันแต่งงาน เล่าลือออกไปชื่อเสียงนางก็จบสิ้นแล้ว!

“ใครเสียดายกัน?”

“ดี คำนี้เป็นเจ้าพูดเอง เจ้าอย่าเสียใจภายหลัง!”

“พวกเราก็ถอนหมั้นกันแล้ว อย่าได้ข้องเกี่ยวกันอีก!”

“ช้าก่อน” ซ่งรั่วเจินเปิดปากแล้ว

ภายในสายตาหลินจือเยว่สะท้อนความลำพองใจวูบหนึ่ง ก็รู้ว่าซ่งรั่วเจินมิอาจหักใจจากเขา!

“บัดนี้เจ้านึกเสียใจภายหลังแล้ว...”

ยังไม่ทันพูดจบก็ถูกซ่งรั่วเจินเอ่ยขัดขึ้น “งานแต่งก็ยกเลิกแล้ว แต่จวนโหวกินของข้าใช้ของข้า เครื่องยศสตรีที่ท่านสู่ขอแม่นางฉิน เกี้ยวเจ้าสาว และอีกหลายอย่างล้วนใช้เงินของข้ากระมัง?”

“จวนโหวเตรียมงานมงคล ตกแต่งจัดงานเลี้ยง ล้วนเป็นจวนสกุลซ่งออกค่าใช้จ่ายทั้งสิ้น ก่อนนี้ท่านกับข้าแต่งงานกัน ข้าย่อมไม่ถือสา บัดนี้ยกเลิกงานแต่งแล้ว ยังคิดใช้เงินของข้าแต่งหญิงอื่นเข้าจวน เกรงว่าจะไม่เหมาะสมกระมัง?”

ถ้อยคำนี้พูดออกไป สายตาทุกคนในงานที่ทอดมองทางหลินจือเยว่ล้วนเปลี่ยนไปแล้ว

“แม้หลินโหวทำความดีความชอบ แต่ยามฝ่าบาทพระราชทานรางวัลเขากลับปฏิเสธรับเงินทองทั้งหมดเพื่อแสดงความภักดี ข้ายังคิดว่าเขาซื่อสัตย์จงรักภักดีเสียอีก ที่แท้ก็ใช้เงินของสกุลซ่งมาโดยตลอดกระนั้นหรือ?”

ตลอดสองปีมานี้จวนหลินโหวอาศัยเงินสกุลซ่งมาโดยตลอด เดิมทีคิดว่าหลินจือเยว่ได้รับยศถาบรรดาศักดิ์พรั่งพร้อมสมบัติพัสถานกลับมาจะคืนเงินเป็นร้อยเท่า ไม่คาดคิดเลยว่าจะใช้เงินของสกุลซ่ง ทั้งยังพูดจาองอาจผ่าเผยเช่นนี้?

สีหน้าหลินจือเยว่แข็งทื่อ เขาไหนเลยจะคาดคิดว่าคนสุภาพนุ่มนวลอย่างซ่งรั่วเจินจะฉีกหน้าเขาต่อหน้าทุกคนเช่นนี้ คิดคำนวณหนี้เก่าต่อหน้าธารกำนัล นี่เห็นได้ชัดว่าไม่ไว้หน้าเขาเลยแม้แต่น้อย!

เหตุใดจึงอำมหิตถึงเพียงนี้?

“ก่อนนี้เป็นเจ้าต้องการช่วยข้า ข้าปฏิเสธหลายครั้งก็ไม่เป็นผล บัดนี้เจ้าถึงขั้นคิดบัญชีกับข้า?”

“เจ้าวางใจเถิด ข้าจะต้องคืนเงินให้เจ้าไม่ขาดไปแม้ตำลึงเดียว!”

“หวังว่าท่านโหวจะพูดจริงทำจริง” ซ่งรั่วเจินปรบมือ กระซิบข้างหูเฉินเซียง “ไปตามพี่สามของข้ามา ให้เขาพาคนมามากหน่อย”

“เจ้าค่ะ คุณหนู”

“ฟังให้ดี บัดนี้จงเข้าไปยกของของข้าในจวนโหวออกมา วันนี้ท่านโหวอยู่จวนพอดี จงคำนวณบัญชีให้ชัดเจน!”

สายตาซ่งรั่วเจินเบือนมองขบวนต้อนรับเจ้าสาวของฉินซวงซวง “เงินค่าจ้างของพวกเจ้าก็เป็นข้าจ่ายกระมัง? ในเมื่อเป็นคนของข้า บัดนี้ก็ไปยกของ ไม่ไปก็อย่าหวังจะได้ค่าจ้างจากข้า”

สีหน้าฉินซวงซวงเปลี่ยนไปแล้ว หากแม้แต่พวกเขาก็ไปทั้งหมดแล้ว เช่นนั้นศักดิ์ศรีตนเองจะยังมีอยู่อีกหรือ?

“จือเยว่ นี่จะทำอย่างไรดี?”

“ซ่งรั่วเจิน เจ้าจะต้องก่อความวุ่นวายที่งานแต่งในวันนี้ให้ได้เลยกระนั้นหรือ?”

ดวงหน้างดงามพริ้มเพราของซ่งรั่วเจินเผยแววฉงน “ท่านโหวพูดผิดไปแล้ว นี่จะเรียกว่าก่อความวุ่นวายได้อย่างไร? ข้าเพียงต้องการรีบคิดบัญชีให้ชัดเจนโดยเร็วก็เท่านั้น”

“เชื่อว่าแม่นางฉินต้องมอบสินเดิมให้ท่านโหวเป็นแน่ ก็ไม่หวังให้ทุกหนแห่งในจวนโหวล้วนมีของของข้าหรอกกระมัง? ทุกคืนพวกท่านนอนบนเตียงที่ข้าซื้อ ห่มผ้าที่ข้าซื้อ เหมาะสมแล้วหรือ?”

ถ้อยคำนี้พูดออกมา ยังไม่ต้องพูดถึงฉินซวงซวง แม้แต่หลินจือเยว่เองก็กระวนกระวายแล้ว

“ใช่แล้ว กำไลมรกตที่แม่นางฉินสวมเป็นสินเดิมที่ท่านแม่ข้ามอบให้ข้า ก็สมควรคืนให้ข้าใช่หรือไม่?”

ฉินซวงซวงชะงักงัน ก่อนจะพูด “กำไลนี้เป็นท่านโหวมอบให้ข้า จะเป็นสินเดิมของเจ้าได้อย่างไร?”

“โอ้? เช่นนั้นมิสู้เจ้าถามท่านโหว ซื้อกำไลนี้มาจากที่ใดราคาเท่าใด มีใบเสร็จหรือไม่? สินเดิมที่ท่านแม่มอบให้ข้า ข้างบนยังแกะสลักชื่อของข้าเอาไว้ด้วย”

หลินจือเยว่หน้าเปลี่ยนสีในทันทีทันใด เขาพบกำไลนี้ในคลังเก็บของ คิดได้ว่าซวงซวงชอบกำไลหยกมากที่สุด มิหนำซ้ำชิ้นนี้ยังคุณภาพยอดเยี่ยม จึงนำไปมอบให้นาง เดิมทีคิดว่าเป็นของซ่งรั่วเจินก็ไม่เป็นไร ถือเป็นของขวัญแรกพบที่นางมอบให้ซวงซวงก็ใช้ได้แล้ว

ไม่คาดคิด...ข้างบนถึงขั้นสลักชื่อของนางไว้แล้ว?
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Comments (2)
goodnovel comment avatar
Pavinee
เรื่องน่าติดตาม
goodnovel comment avatar
Suthida Pornjamroen
สนใจอ่านต่อ
VIEW ALL COMMENTS

Latest chapter

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 1238

    สวี่เหราพยักหน้า “ดีๆ ๆ ลำบากพวกเจ้าแล้ว”ตอนซ่งรั่วเจินและกู้ฮวนเอ๋อร์มาถึงเรือนของกู้เจาย่วน ได้เห็นนางกำลังลอบนั่งร้องไห้อยู่ภายในห้อง“ญาติผู้พี่ ฮวนเอ๋อร์ พวกเจ้ามาได้อย่างไร?”กู้เจาย่วนรีบซับน้ำตาที่หางตา เพียงแต่ท่าทางขอบตาแดงนั้นน่าสงสารมาก ทำจนคนปวดใจ“เจาย่วน พวกเรามีความสัมพันธ์อันดีตั้งแต่เด็ก เกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้น เหตุใดเจ้าไม่รีบบอกข้า?”กู้ฮวนเอ๋อร์รีบสืบเท้าขึ้นมาอย่างว่องไว เดินมานั่งข้างกู้เจาย่วน“ข้ารู้เจ้าและอวิ๋นอ๋องกำลังจะแต่งงานกัน งานยุ่งอยู่ตลอด นี่จึงไม่ได้ไปรบกวนเจ้า”กู้เจาย่วนยกมุมปากคลี่ยิ้ม “ท่านพ่อและท่านแม่ล้วนไม่ยอมให้ข้าและฉวีเซินคบหากัน ข้าพูดไปก็ไร้ประโยชน์”“ฉวีเซิน? คนในดวงใจเจ้าหรือ?”กู้เจาย่วนพยักหน้า มองซ่งรั่วเจินทางด้านข้าง รู้สึกเก้อกระดากอยู่บ้าง “ญาติผู้พี่เห็นเรื่องน่าขันแล้ว”“แต่ไหนแต่ไรมาเรื่องความรู้สึกทำนองนี้ไม่สามารถบังคับได้ หัวใจสั่นไหวก็ใช่ว่าตนเองจะสามารถควบคุมได้ ข้าเข้าใจ”ซ่งรั่วเจินยิ้มน้อยๆ “นึกถึงปีนั้นข้าถอนหมั้นจนผู้คนต่างรู้กันอย่างถ้วนทั่ว นี่ก็ถูกทุกคนเห็นเป็นเรื่องตลกไม่ใช่หรือ? กระนั้นก็ไม่เป็นไรเสียห

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 1237

    ดรุณีน้อยมักหลงใหลในความรัก ซ่งรั่วเจินเข้าใจเรื่องนี้ดี“คุณชายท่านนั้นที่เจาย่วนชอบ เจ้าเคยพบหรือไม่?” ซ่งรั่วเจินถามกู้ฮวนเอ๋อร์ส่ายหน้า “ไม่เจ้าค่ะ ทีแรกเจาย่วนไม่บอกใคร หากไม่ใช่เพราะท่านป้าแนะนำคู่ครองให้ นางก็ไม่ยอมรับปาก สุดท้ายถึงพูดออกมา”“วันนี้ท่านป้าให้ข้าเกลี้ยกล่อมเจาย่วน ท่านเองก็รู้ว่าเมื่อหลายวันก่อนอวิ๋นอ๋องป่วย ต้องการคนดูแล ข้าจึงไปอยู่ที่จวนอวิ๋นอ๋องทุกวัน ล้วนไม่ได้ใส่ใจ”“ข้าคิดว่าอีกเดี๋ยวค่อยไปถามเจาย่วน นางยังยอมพูดกับข้าเจ้าค่ะ”พูดไป กู้ฮวนเอ๋อร์เอ่ยปากกับซ่งรั่วเจิน “ญาติผู้พี่ อีกเดี๋ยวหากไม่รีบไป ไม่สู้พวกเราไปคุยกับเจาย่วนด้วยกัน”ซ่งรั่วเจินพยักหน้า “ได้”หลังทุกคนได้รู้เรื่องของกู้เจาย่วน บรรยากาศก็เปลี่ยนไปหลายส่วน คาดว่าสำหรับบ้านใหญ่นี่เป็นปัญหาอย่างหนึ่งหากกู้เจาย่วนคิดไม่ตก ต้องการแต่งงานกับบัณฑิตยากจนท่านนั้น นั่นก็มีเพียงสองผลลัพธ์ประการแรกให้นางแต่งออกไป แต่ด้วยอุปนิสัยของป้าสะใภ้ใหญ่ จะต้องไม่ยอมให้เจาย่วนแต่งไปมีชีวิตลำเค็ญเป็นแน่เช่นนี้แล้ว นั่นก็มีเพียงประการที่สอง บังคับเจาย่วนแต่งกับผู้อื่นเพียงแต่ทำเช่นนี้ สองแม่ลูกจะเกิ

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 1236

    “ท่านแม่ ข้าบอกแล้ว ข้ามีคนในใจแล้ว ชาตินี้นอกจากเขาไม่มีวันแต่งงาน ท่านอย่าบังคับข้าอีกเลย!”เพียงเอ่ยถ้อยคำนี้ออกไป พวกกู้หรูเยียนก็เผยสีหน้าแปลกใจ ที่แท้กู้เจาย่วนก็มีคนในดวงใจแล้ว?“เจ้าเด็กคนนี้ เจ้าพูดเหลวไหลอันใด?” สีหน้าป้าสะใภ้ใหญ่เปลี่ยนไป ตวาดเสียงเฉียบกู้เจาย่วนตาแดง “อย่างไรเสียข้าก็ไม่แต่ง ข้ารู้ท่านไม่ชอบเขา คิดว่าเขาไม่เหมาะสมกับข้า”“ความคิดของท่านและข้าไม่เหมือนกัน ข้าชื่นชมพรสวรรค์ของเขา เขาก็แค่ไม่มีหน้ามีตา แต่ในภายภาคหน้าไม่ช้าก็เร็วเขาย่อมประสบความสำเร็จ”“ท่านแม่ เหตุใดท่านไม่ให้โอกาสพวกเราสักครั้งเล่า?”ป้าสะใภ้โมโห นางคิดไม่ถึงเลยว่าลูกสาวที่เชื่อฟังว่าง่ายจะต่อต้านนาง!“เจ้ามีชาติกำเนิดที่ดีเช่นนี้ แต่งงานกับคนที่เหมาะสม ย่อมไม่ต้องกังวลอาหารและอาภรณ์ เป็นนายหญิงของบ้านไม่ดีหรือ?”“หลายปีมานี้ข้าสอนดีดพิณเดินหมากอักษรวาดภาพและบทกวีบทเพลงให้เจ้า ไม่ใช่เพื่อให้เจ้าไปซักผ้าทำกับข้าวให้ผู้อื่น!”เจาย่วนเป็นลูกสาวคนสุดท้องของนาง เทียบกับลูกชายลูกสาวคนอื่น นางเอ็นดูมากที่สุดบัดนี้มีเพียงนางยังไม่แต่งงาน นางย่อมอยากเลือกสามีที่ดีให้นาง ไม่ขอให้แต่งงานเข้

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 1235

    จวนราชครูตอนรถม้าจอดหน้าประตูใหญ่ ฉู่จวินถิงและซ่งรั่วเจินลงจากรถม้าพร้อมกัน ก็ได้เห็นรถม้าของสกุลซ่งบังเอิญมาถึงพอดีซ่งหลินเห็นฉู่จวินถิง พูดยิ้มๆ “กระหม่อมได้ยินว่าช่วงนี้งานยุ่งอยู่ที่ศาลต้าหลี่ ยังคิดว่าวันนี้ท่านอาจไม่มีเวลาว่าง ได้แต่รู้สึกเสียดาย คิดไม่ถึงว่าท่านจะมาแล้ว”“ท่านอ๋องรู้ว่าวันนี้เป็นท่านตาเชิญจึงตั้งใจรีบกลับมาเป็นพิเศษเจ้าค่ะ” ซ่งรั่วเจินอธิบายยิ้มๆภายในสายตาซ่งหลินเปี่ยมความชื่นชม ฉู่อ๋องให้ความสำคัญต่อพวกเขามากจากนั้นขบวนคนเดินเข้าจวนอย่างครึกครื้น ราชครูกู้และคนอื่นๆ ล้วนรออยู่นานแล้ว“ท่านลุงใหญ่ ท่านลุงรอง”“ญาติผู้พี่ใหญ่ ญาติผู้พี่รอง ญาติผู้น้องสาม...”เพราะวันนี้มีคนมารวมตัวกันมาก ครึกครื้นมากทีเดียววันนี้กู้ฮวนเอ๋อร์ตั้งใจแต่งตัวเป็นพิเศษ คนน่ารักงดงามอย่างมาก“บัดนี้กำหนดวันแต่งงานของฮวนเอ๋อร์และอวิ๋นอ๋องแล้ว ก็คือวันที่หกเดือนหน้า”วันนี้ตั้งใจเชิญทุกคนมารวมตัวกันก็เพื่อเฉลิมฉลองงานแต่งของฮวนเอ๋อร์ ถึงตอนนั้นน่ากลัวว่าจวนโหวจะต้องเตรียมการดีๆ”กู้ชิงซิวลุกขึ้นพูดยิ้มๆ “ข้าขอคารวะทุกท่านก่อนหนึ่งจอก”ทุกคนต่างพากันยกจอกเหล้า ใบหน้าประด

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 1234

    ซ่งรั่วเจินเลิกคิ้วดุจกิ่งหลิวขึ้น “เช่นนั้นซ่งปี้อวิ๋นกลับสกุลซ่งก่อนหรือ?”“พระชายา นี่ถึงเป็นเรื่องแปลกที่สุด ตอนนี้ลู่หวยอันไม่มีอนาคตแล้ว ซ่งปี้อวิ๋นถึงขั้นไม่กลับไป ยังอยู่กับพวกเขาตลอด ตกลงคิดอันใดอยู่กันแน่?”เฉินเซียงคิดแล้วก็ไม่เข้าใจ หรือซ่งปี้อวิ๋นชอบลู่หวยอันถึงเพียงนั้น ต่อให้ไม่มีอันใด ก็จะอยู่ร่วมทุกข์ร่วมสุขกับเขาหรือ?“ไม่รู้” ซ่งรั่วเจินส่ายหน้า “ความคิดของทุกคนล้วนแตกต่างกัน หากเปลี่ยนเป็นพวกเรา คงไม่ย่ำเข้ากองเพลิงตั้งแต่แรก”“ในเมื่อซ่งปี้วิ๋นชอบอยู่กับเขาถึงเพียงนี้ เช่นนั้นก็ให้อยู่ร่วมกันตลอดชีวิตเถอะ ป้องกันไม่ให้ภายภาคหน้าไปสร้างความเดือดร้อนให้ผู้อื่น”“บ่าวเห็นว่าพวกเขาสองคนล้วนเป็นตัวหายนะ เช่นนี้ก็ดีแล้ว ป้องกันไม่ให้คนอื่นเหนื่อยใจเพราะพวกเขา”ไป๋จื่อหัวเราะ เห็นวันนี้ชิงเถิงกลับมาแล้วจึงเอ่ยถามยิ้มๆ “ชิงเถิง พ่อแม่เจ้ายอมรับคุณชายท่านนั้นได้หรือไม่? ใช่หรือไม่ว่าพวกเราจะได้ดื่มสุรามงคล?”ชิงเถิงอารมณ์ดีอย่างเห็นได้ชัด นางทำความเคารพซ่งรั่วเจินก่อน นี่ถึงพูด“เมื่อวานพวกเราพาจ้าวจื่ออี้กลับไปถึงได้รู้ว่าที่แท้ปีนั้นเขาไม่เพียงช่วยเหลือชิงชิง แม้แ

  • ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย ชีวิตนี้ข้าลิขิตเอง   บทที่ 1233

    บนรถม้าซ่งรั่วเจินเห็นฉู่จวินถิงยิ้มให้ตนเองอยู่ตลอด สงสัยอย่างอดไม่ได้ “ท่านอ๋อง ท่านยิ้มอันใดกัน?”“ยิ้มที่ข้าแต่งฮูหยินที่ดีมากมาคนหนึ่ง นี่คือวาสนาที่คนอื่นต่างพากันอิจฉา ย่อมต้องยิ้ม”ได้ยินดังนั้น มุมปากซ่งรั่วเจินกระตุกขึ้นอย่างไม่รู้ตัว จู่ๆ ฉู่จวินถิงก็ขยับเข้าใกล้ จุมพิตนางทีหนึ่งดวงตาดุจจันทราคู่นั้นทอประกายระยับ ฉู่จวินถิงยื่นมือออกไปโอบนางไว้ในอ้อมกอด ถอนหายใจพูดว่า “มีภรรยาเช่นนี้ได้ สามียังจะปรารถนาสิ่งใดอีกเล่า?”ซ่งรั่วเจินอิงแอบอกกว้างอบอุ่นของเขา รู้สึกเพียงอารมณ์ดีมาก จู่ๆ นางก็เข้าใจแล้วว่าความสุขเป็นเช่นไรในวันธรรมดาและเรียบง่าย มีคนให้รัก มีคนรักตอบ สัมผัสได้ถึงความสุขที่เกิดขึ้นในก้นบึ้งของหัวใจ“ท่านตาเรียกพวกเราไปกินมื้อเย็นที่จวนวันพรุ่งนี้ งานแต่งของอวิ๋นอ๋องและฮวนเอ๋อร์เองก็จัดเตรียมเรียบร้อยแล้ว ดังนั้นพรุ่งนี้จึงตามพวกเราไปรวมตัวกันเพคะ”ซ่งรั่วเจินนึกถึงสิ่งที่มารดากำชับมาในวันนี้ ท่านตาตั้งใจเชิญพวกเขาไปพบเป็นพิเศษ ดีที่สุดคือทุกคนสามารถมาได้“หากท่านสามารถไปได้ นั่นก็ดีมากนัก หากไปไม่ได้ก็ไม่เป็นไร หม่อมฉันจะแจ้งพวกเขา ทุกคนล้วนสามารถเข้าใจ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status