Share

6

Author: 橙花
last update Last Updated: 2025-05-23 07:00:02

โจวเมี่ยวเมี่ยวที่ไม่ได้ปรุงยาพิษมานานมากแล้วไม่รู้เรื่องในหุบเขาเลยว่าเกิดสิ่งใดขึ้น แต่ศิษย์สายตรงของนางที่ทราบเรื่องจากศิษย์รับใช้กลับขมวดคิ้วมุ่นอย่างยุ่งยากใจ หากสมุนไพรพิษถูกนำไปใช้มากเกินไป ความปลอดภัยภายในหุบเขาก็จะลดน้อยลงตามไปด้วย

“เจ้าคิดว่าเราควรบอกเรื่องนี้กับท่านอาจารย์หรือไม่?” ลี่ฮวาถามเพื่อน ๆ

“ข้าว่าเรารอดูเหตุการณ์อีกสักพักดีไหม?” จิงฟางกล่าว

“แล้วถ้ารอต่อไปจนสมุนไพรพิษในหุบเขาไม่สามารถเกิดทันเช่นนี้ ความปลอดภัยของคนในหุบเขาจะเป็นอย่างไรเล่า” เป่าจู้เอ่ยอย่างหนักใจ

“เฮ้อ เหตุใดจึงเกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้นได้กันนะ ทั้งที่พวกเราก็กำชับให้ใช้สมุนไพรแค่ที่จำเป็นสำหรับปรุงยาเท่านั้น” ชุนหยานกล่าว

“เกิดเป็นคนย่อมต้องมีความโลภ พวกเจ้าอย่าคิดว่าทุกคนจะคิดเหมือนพวกเราสิ เพื่อเงินแค่เล็กน้อยจากยาพิษ พวกเขาจึงได้ทำเช่นนี้” ซูฉินกล่าว

“หรือเราจะไล่พวกเขาลงจากเขาไปเลยดี?” หยูเฟินให้ความเห็นบ้าง

“นั่นคงยากที่จะทำ ในเมื่อพวกเรารับพวกเขามาด้วยตนเองแล้ว มีหรือคนเหล่านั้นจะยอมลงเขาไปโดยไม่ได้สิ่งใดกลับไปบ้างน่ะ” ลี่ฮวากล่าว

“มานึกเสียใจตอนนี้ก็คงจะสายเกินไปสินะ ในเมื่อเรื่องนี้พวกเราเป็นคนก่อ เราก็ต้องช่วยกันแก้ไขเอง จะให้อาจารย์ลำบากไม่ได้” ฉิวจู้ออกความเห็นบ้าง

“หากบอกพวกเขาดี ๆ ไม่ได้ ข้าจะฆ่าพวกเขาเสีย” ซูฉินกล่าวอย่างเย็นชา

ศิษย์ทั้ง 12 ต่างตกลงกันในที่สุดว่าจะเตือนพวกเขาด้วยวาจาก่อน หากว่าพวกเขาไม่ทำตามข้อกำหนดแล้วก็ทำได้แค่ฆ่าไก่ให้ลิงดูเท่านั้น พวกนางเชื่อว่าหากเห็นว่าพวกนางเอาจริง คนที่เหลือคงไม่กล้าฝ่าฝืนคำสั่งอีก

หลังจากพวกนางให้ศิษย์รับใช้ไปแจ้งคำสั่งแล้ว แต่กลับพบว่ายังมีคนฝ่าฝืนอยู่จริง ๆ พวกนางก็ไม่ลังเลที่จะฆ่าคนพวกนั้นและยึดยาพิษทั้งหมดกลับมา ทำให้คนที่เหลืออยู่ในสำนักต่างไม่กล้าฝ่าฝืนคำสั่งอีกต่อไป แต่ถึงแม้จะหยุดการเก็บสมุนไพรที่มากเกินไปได้ก็ตาม สมุนไพรในหุบเขาพิษที่เสียไปนั้นก็มีจำนวนมากเกินกว่าที่จะปกป้องทางขึ้นลงหุบเขาได้เหมือนเมื่อก่อนแล้ว

ภายนอกหุบเขาที่ผู้คนต่างระดมกำลังช่วยกันตามหาต้นตอคนขายยาพิษได้รับเบาะแสเรื่องนี้กันบ้างแล้ว หลังจากต้องใช้เวลามากกว่าครึ่งปีเพื่อตามหาเบาะแสพวกนี้ พวกเขาส่งคนแอบติดตามจนทราบว่าพ่อค้าคนกลางไปได้ยาพิษมาจากใคร พวกเขาจับคนขายมาสอบสวนอย่างหนัก มีหลายคนที่ยอมตายไม่ยอมบอกที่มาเพราะพวกเขายังสำนึกในบุญคุณของอาจารย์อยู่ แต่กลับมีศิษย์นอกบางคนที่ทนการทรมานไม่ไหวแล้วบอกที่อยู่ของหุบเขาพิษออกไป

เมื่อทราบที่อยู่ของหุบเขาพิษแล้ว เหล่าเจ้าสำนักและจอมยุทธ์จำนวนมากที่ลำบากหาที่มาของพิษต่างไปรวมตัวกันที่สำนักเส้าหลินเพื่อวางแผนทำลายหุบเขานี้เสียในเร็ววัน ไม่เช่นนั้นคงมีคนต้องตกตายเพราะพิษร้ายเหล่านี้ไม่เว้นแต่ละวันเป็นแน่ พวกเขารู้ดีว่าคนที่ถูกพิษบางคนก็สมควรตาย แต่การมีพิษร้ายมากมายกระจายไปทั่วแคว้นนั้นน่ากลัวยิ่งกว่า คนดี ๆ ถูกฆ่าด้วยพิษจากศัตรูไปก็มากเช่นกัน ดังนั้นการรวมตัวในครั้งนี้เพื่อกำจัดสำนักพิษจึงเกิดขึ้น

“ท่านเจ้าอาวาสคิดว่าเราควรเดินทางไปยังหุบเขาพิษเมื่อใดดีขอรับ” เจ้าสำนักกระบี่แห่งหนึ่งในแคว้นถามขึ้นเป็นคนแรก

“รอให้รวบรวมคนได้มากกว่านี้เสียก่อนดีหรือไม่? พวกเรายังไม่รู้เลยว่าที่นั่นจะมีคนมากน้อยเพียงใด อีกอย่างพิษพวกนี้ช่างร้ายกาจนัก หากมีคนถูกพิษเข้าคงไม่รอดกลับมากันเป็นแน่” เจ้าอาวาสกล่าว

“ที่ท่านพูดก็ถูกนะขอรับ แต่ข้าคิดว่าเราหายาแก้พิษกันก่อนดีหรือไม่? ข้าได้ยินว่ามีคนขายยาถอนพิษเหล่านี้อยู่ด้วยขอรับ หากเราได้มาก็ไม่ต้องกลัวแล้วว่าจะต้องตาย”

“เจ้าสำนักหยางพูดถูก เราคงต้องรวบรวมยาแก้พิษมาให้ได้มากที่สุดเสียก่อน เพื่อป้องกันไม่ให้มีใครล้มตายจากพิษเหล่านี้อีก” เจ้าสำนักเฟยเอ่ยขึ้น

“เช่นนั้นก็เอาตามที่พวกท่านว่า ให้ศิษย์ของแต่ละสำนักออกตามหาคนขายยาแก้พิษให้ได้มากที่สุดเสียก่อนเราค่อยออกเดินทาง” เจ้าอาวาสกล่าว

เหล่าเจ้าสำนักต่างรับคำเจ้าอาวาสโดยพร้อมเพรียงกันเสียงดัง พวกเขานำเงินที่มีอยู่มอบให้ศิษย์สำนักของตนกระจายตัวไปซื้อยาแก้พิษมาในทันที ส่วนพวกเขานั้นจะยังพักอยู่ที่วัดเส้าหลินเพื่อรอออกเดินทางไปยังหุบเขาพิษพร้อมกันในอีกไม่กี่วันข้างหน้าหลังจากได้ยาแก้พิษ

ด้านหุบเขาพิษพอได้ข่าวว่ามีคนกว้านซื้อยาแก้พิษไปจำนวนมากก็ต่างแปลกใจไม่น้อย เหล่าศิษย์สายตรงของโจวเมี่ยวเมี่ยวปรึกษาหารือกันก่อนจะเร่งผลิตยาแก้พิษออกไปขายในตลาดเพราะคิดว่าน่าจะมีคนในสำนักก่อเรื่อง พวกนางจึงอยากทำยาแก้พิษออกไปไถ่โทษ แต่กว่าที่พวกนางจะรู้ว่ายาแก้พิษเหล่านั้นถูกนำมาใช้เพื่อฆ่าศิษย์ของพวกนาง เหตุการณ์ต่าง ๆ ก็สายเกินกว่าจะแก้ไขเสียแล้ว

ศิษย์ในหุบเขาที่ได้รับคำสั่งให้เร่งผลิตยาแก้พิษต่างช่วยกันทำอย่างขะมักเขม้นเช่นกัน พวกเขาไม่รู้ว่าเหตุใดเหล่าอาจารย์จึงได้เร่งรีบให้ผลิตยาแก้พิษออกไปขายเช่นนี้ แต่ในเมื่อเป็นคำสั่งของอาจารย์ พวกเขาก็ไม่กล้าขัด

สำนักฝ่ายธรรมะที่รวมตัวกันอยู่ที่วัดเส้าหลินได้รับข่าวในอีกสามวันต่อมาว่ามีคนนำยาแก้พิษจำนวนมากออกมาขายก็เปลี่ยนวันเวลาเดินทางไปยังหุบเขาพิษอีกครั้ง พวกเขาจะรอจนกว่าจะกว้านซื้อยาแก้พิษมาได้ทั้งหมดเสียก่อนเพื่อความปลอดภัย ถึงแม้จะไม่รู้ว่ายาแก้พิษพวกนี้จะใช้ได้ผลมากน้อยเพียงใด แต่การป้องกันเอาไว้ก่อนก็เป็นเรื่องดี

กว่าที่พวกเขาจะเตรียมยาทั้งหมดเสร็จสิ้นสำหรับผู้ที่จะเข้าร่วมปราบปรามคนจากหุบเขาพิษก็ใช้เวลากว่าครึ่งเดือนเลยทีเดียว จำนวนคนที่อาสาไปรบในครั้งนี้มีมากกว่าหนึ่งพันคน ทุกคนต่างได้รับการแจกจ่ายยาแก้พิษหลากหลายชนิดเอาไว้ป้องกันตัวก่อนออกเดินทางจากวัดเส้าหลิน

คนของวัดเส้าหลินนั้นเดินทางไปเพียงแค่หนึ่งร้อยคนเท่านั้น พวกเขาต่างมีฝีมือเทียบเท่ากับเจ้าสำนักอื่น ๆ และรองเจ้าสำนักเท่านั้น วัดเส้าหลินจึงไม่จำเป็นจะต้องนำคนไปมากมายนัก ยิ่งกับเจ้าสำนักที่มีฝีมือนับว่าเก่งกาจที่สุดในยุทธภพ พวกเขามั่นใจว่าการไปปราบปรามคนจากหุบเขาพิษจะไม่มีสิ่งใดผิดพลาดอย่างแน่นอน

ศิษย์ทั้ง 12 ของโจวเมี่ยวเมี่ยวต่างดีใจที่ยาถอนพิษที่พวกนางสั่งศิษย์เร่งผลิตออกมาทำเงินได้จำนวนมาก พวกนางรายงานเรื่องนี้ต่อโจวเมี่ยวเมี่ยวและซื้อเสบียงอาหารมาไว้ที่หุบเขามากมายเพียงพอสำหรับหนึ่งปีเลยทีเดียว

“เหตุใดพวกเจ้าจึงได้ซื้อเสบียงมาไว้มากมายนักเล่า”

“พวกเราเห็นว่าการให้คนลงเขาบ่อย ๆ จะเกิดอันตรายได้เจ้าค่ะ จึงให้ศิษย์นอกไปซื้อมาเก็บเอาไว้ให้เพียงพอแทน” เยว่เอ๋อกล่าว

“ในเมื่อซื้อมาแล้วก็ช่างเถิด อย่าลืมทำห้องเก็บเอาไว้ให้ดีเล่า”

“เจ้าค่ะ ท่านอาจารย์”

ศิษย์อาจารย์ต่างพูดคุยกันต่ออีกพักใหญ่กว่าที่ทั้งหมดจะแยกย้ายกันไปฝึกฝนวิชาต่อตามที่โจวเมี่ยวเมี่ยวให้คำแนะนำ

หนึ่งสัปดาห์ต่อมา

กลุ่มของจอมยุทธ์ทั่วแคว้นพันกว่าคนมาถึงตีนหุบเขาพิษแล้ว พวกเขาพักผ่อนเพื่อให้ร่างกายสมบูรณ์ที่สุดก่อนหนึ่งวัน คนของหุบเขาพิษที่คิดจะลงเขาไปขายยาเห็นคนจำนวนมากอยู่ก็รีบขึ้นไปแจ้งข่าวบนเขาทันที

“ท่านอาจารย์ แย่แล้วขอรับ ที่ตีนเขามีคนกว่าพันคนพักอยู่ขอรับ ข้าไม่รู้ว่าพวกเขามาที่นี่ทำไม แต่ดูท่าทางแล้วไม่น่าจะมาดีขอรับ” ศิษย์คนหนึ่งรีบวิ่งไปรายงานซิ่วหลาน

“หืม? เหตุใดจึงมีคนมามากมายนักเล่า เจ้ารีบส่งคนไปแจ้งอาจารย์คนอื่น ๆ และส่งคนไปเฝ้าดูสถานการณ์ที่ตีนเขาก่อน ข้าจะรีบไปรายงานท่านเจ้าสำนัก”

“ขอรับท่านอาจารย์”

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ท่านอ๋องพิการกับนางมารมาใช้กรรม   47

    การเก็บเกี่ยวสมุนไพรในช่วงสองสามวันมานี้ทำให้ซินเมี่ยวได้รับโสมป่าอีกหลายต้นกลับไปด้วย ส่วนฎีกาของไท่จื่อนั้นถูกส่งไปได้สามวันแล้วเช่นกัน พระองค์คาดการณ์เวลาเป็นอย่างดีว่าม้าเร็วจะมาถึงขบวนของพระองค์ก่อนเดินทางไปถึงเมืองเสวียนได้ไม่ยาก ในฎีกานั้นพระองค์ยังขอให้ฝ่าบาทแต่งตั้งเจ้าเมืองคนใหม่และแม่ทัพคนใหม่มาประจำการที่ชายแดนด้วยครึ่งเดือนต่อมา ขบวนของไท่จื่อเหลือระยะทางไปยังเมืองเสวียนอีกเพียงห้าร้อยลี้เท่านั้น ขณะที่พักค้างแรมริมทางอยู่นั้นกลับมีม้าเร็วกลับมาที่ค่าย ส่งข่าวว่าขบวนเจ้าเมืองคนใหม่และแม่ทัพหยวนพร้อมกำลังทหารอีกห้าพันนายกำลังจะมาถึงในวันพรุ่งนี้แล้ว“เสด็จพ่อเหตุใดจึงนำกำลังทหารมามากนักเล่า” หยางชิงหลงตรัสถามทหารส่งข่าว“ฝ่าบาทกังวลว่าจะมีทหารเก่าที่ภักดีกับแม่ทัพคนเก่าก่อเรื่องพะย่ะค่ะ พระองค์จึงส่งทหารมาเพิ่มให้”“อืม เช่นนั้นเราจะตั้งค่ายรอพวกเขาที่นี่อีกสองวัน เจ้ากลับไปรายงานแม่ทัพหยวนก่อน

  • ท่านอ๋องพิการกับนางมารมาใช้กรรม   46

    กลางดึกคืนนั้น กลุ่มโจรมากกว่าห้าร้อยคนล้อมรอบพื้นที่ตั้งกระโจมเอาไว้อย่างแน่นหนา พวกเขาเฝ้ามองดูก่อนหน้านี้มาตลอดจนรู้ว่ายากที่จะเข้าไปจับกุมตัวผู้นำขบวนเอาไว้ได้ เนื่องจากกระโจมนั้นอยู่ตรงกลาง ยากต่อการจู่โจม พวกเขาจึงคิดที่จะปล้นเสบียงและเงินทองที่อยู่ชั้นนอกแทน“พวกเจ้าเตรียมจัดการทหารเฝ้าเวรพวกนั้นก่อน เราค่อยบุกเข้าไปทีละชั้น”“ท่านหัวหน้าแน่ใจหรือขอรับ ข้ากลัวว่าพวกมันจะมีแผนการดักซุ่มรอเราอยู่”“เพ้ย! เจ้าเชื่อข้าเถอะน่า ป่านนี้พวกมันที่เหนื่อยจากการเดินทางคงนอนหลับไม่รู้เรื่องรู้ราวกันไปนานแล้ว ขบวนใหญ่ขนาดนี้ข้าก็เพิ่งเคยพบเป็นครั้งแรก พวกมันไม่น่าจะระมัดระวังมากนักหรอก” หัวหน้าโจรกล่าวอย่างไม่กลัวแม้แต่น้อย อย่างไรเขาก็ดักปล้นพ่อค้ารวมทั้งยังรับคำสั่งฆ่าจากเจ้าเมืองเสวียนมาตลอดหลายปี ถึงแม้จะถูกจับได้ อย่างไรเจ้าเมืองเสวียนก็ไม่กล้าทำอะไรพวกเขาแน่“ไป!” หัวหน้าโจรสั่งลูกน้องเสียงดังไปทั่วบริเวณ

  • ท่านอ๋องพิการกับนางมารมาใช้กรรม   45

    ขบวนเดินทางของไท่จื่อไม่ได้เร่งรีบไปยังเมืองเสวียนมากนัก พระองค์ยังส่งทหารนำรายงานเกี่ยวกับเมืองจ้วงจีกลับไปยังเมืองหลวงเพื่อถวายฝ่าบาท ส่วนการเดินทางครั้งนี้มีการหยุดพักบ่อยขึ้นเพื่อไม่ให้กระทบกระเทือนท้องของซินเมี่ยวที่กำลังโตขึ้นทุกวันและเข้าสู่เดือนที่หกของการตั้งครรภ์“เสด็จพี่ไม่ต้องพักบ่อยขนาดนี้ก็ได้เพคะ เรายังต้องเดินทางไปอีกหลายเมืองเพื่อช่วยเหลือราษฎรนะเพคะ” ซินเมี่ยวอดจะบ่นพระสวามีไม่ได้“นั่นจะได้อย่างไร หมอหลวงก็บอกอยู่ว่าไม่ให้เดินทางต่อเนื่องมากนัก ไม่เช่นนั้นเจ้าที่ต้องอุดอู้อยู่แต่ในรถม้าจนขยับเขยื้อนลำบากจะไม่สบายเอาได้”“เสด็จพี่ลืมไปหรือเปล่าเพคะว่าน้องก็มีพลังปราณ เรื่องแค่นี้ไม่กระทบร่างกายของน้องหรอกเพคะ พวกเรารีบเดินทางจะดีกว่า พักแค่ก่อนค่ำเหมือนเคยก็ได้แล้ว”“เอาล่ะ ๆ เช่นนั้นก็ตามใจเจ้า แต่ถ้าเจ้าไม่สบายตัวต้องรีบบอกพี่เข้าใจหรือไม่”“หม่อมฉันเข

  • ท่านอ๋องพิการกับนางมารมาใช้กรรม   44

    ยามเว่ย ไท่จื่อก็สั่งให้ออกเดินทางโดยที่ได้รับการช่วยเหลือจากชาวบ้านทำล้อลากสำหรับกรงขังเสือเพื่อลากกลับไปยังเมืองจ้วงจี เสือทั้งหมดเมื่อฟื้นตื่นคราแรกต่างตกใจจนร้องขู่เสียงดัง ซินเมี่ยวที่ไม่ได้หวาดกลัวพวกมันจึงเดินเข้าไปใช้พลังปราณกดข่มพวกมันและคุยกับพวกมันดี ๆ เพื่อปลอบโยน จนไม่นานนักหลังจากนางส่งเนื้อย่างที่ชาวบ้านทำเอาไว้ให้พวกมันทั้งครอบครัวกินจนอิ่มหนำ เสือทั้งหมดที่อยู่ในกรงต่างก็เชื่องเชื่อลงไม่น้อย พวกมันพากันนอนหมอบปล่อยให้องครักษ์ขี่ม้าลากพวกมันติดตามไปอย่างเงียบ ๆองครักษ์สี่นายเมื่อกลับถึงเมืองจ้วงจี พวกเขาแยกทางกับรถม้าของไท่จื่อเพื่อนำเสือกลับไปยังค่ายทหารตามคำสั่ง พวกเขายังได้รับคำสั่งให้พาพ่อครัวหลวงกับช่างฝีมือที่ติดตามขบวนมาด้วยกลับไปยังจวนไท่จื่อภายในเมือง เพราะหยางชิงหลงอยากให้ช่างฝีมือไปสอนการผลิตสิ่งของจากไม้ไผ่ให้กับชาวบ้านในหมู่บ้าน ระหว่างที่ต้องรอผลการปรับปรุงดินว่าดินแบบใดเหมาะที่จะเพาะปลูกซุนเหยาที่ขับรถม้าให้ไท่จื่อและไท่จื่อเฟยกลับไปยังจวนก็รับคำสั่งไท่จื่อเฟยให้ออกไปซื้อของส

  • ท่านอ๋องพิการกับนางมารมาใช้กรรม   43

    ในป่าอีกด้านหนึ่งนั้นเต็มไปด้วยสัตว์ป่าจำนวนไม่น้อย ไท่จื่อเห็นว่ามีหมูป่ากับกวางป่าจำนวนมาก พระองค์จึงให้องครักษ์ล่าหมูป่าไปให้ผู้ใหญ่บ้านสักตัวสองตัว ส่วนซินเมี่ยวเองก็ใช้อาวุธลับล่ากวางป่าตัวหนึ่งเช่นกันหลังจากล่าสัตว์ได้มากถึงสามตัวแล้ว ทุกคนจึงลงจากเขาไปพร้อมกับสัตว์ทั้งสามตัวที่องครักษ์ช่วยกันหามลงจากภูเขาพร้อมรอยยิ้มเมื่อไปถึงบ้านผู้ใหญ่บ้าน องครักษ์มอบสัตว์ทั้งสามตัวให้กับเขาเพื่อแจกจ่ายชาวบ้านนำไปทำอาหารกินกัน ไท่จื่อและไท่จื่อเฟยนั่งดื่มชาสนทนาเรื่องที่พบบนภูเขาที่สงสัยกับผู้ใหญ่บ้านที่เรียกชาวบ้านมาจัดการสัตว์ทั้งสามตัว“เหตุใดจึงไม่มีชาวบ้านขึ้นเขาไปเก็บหน่อไม้มาทำอาหารหรือผู้ใหญ่บ้าน”“พวกเราไม่กล้าขึ้นไปถึงที่นั่นเพราะหวาดกลัวสัตว์ป่า เคยมีชาวบ้านขึ้นไปถึงแล้วบาดเจ็บกลับมาเพราะมีเสืออยู่บนภูเขาพะย่ะค่ะ”“อืม เช่นนั้นพรุ่งนี้เราจะขึ้นเขาไปจัดการเสือให้พวกเจ้า หลังจากนี้จะได้ขึ้นเขา

  • ท่านอ๋องพิการกับนางมารมาใช้กรรม   42

    ไท่จื่อเลือกเรือนสามประสานแห่งหนึ่งไม่ไกลจากจวนเจ้าเมือง ถึงราคาจะดูสูงไปสักหน่อยแต่ก็นับว่าเหมาะสมสำหรับตำแหน่งของพระองค์ในขณะนี้ ซินเมี่ยวเองก็พอใจเช่นกัน นางคิดว่ากว่าจะจัดการเรื่องที่เมืองนี้เสร็จน่าจะใช้เวลาเกือบหนึ่งเดือน การมีจวนเป็นของตนเองนับว่าสะดวกมากกว่าจริง ๆซินเมี่ยวจ่ายเงินค่าจวนไป 1,200 ตำลึง โดยไม่ได้คิดมากอันใด ในเมื่อจวนนี้ใกล้กับจวนเจ้าเมือง เรื่องการรักษาความปลอดภัยจึงไม่ต้องกังวลมากนัก“เรากลับจวนก่อน เจ้าเตรียมข้อมูลและเรื่องเดินทางไปยังพื้นที่พรุ่งนี้ก่อนก็แล้วกัน”“พะย่ะค่ะไท่จื่อ กระหม่อมจะส่งคนไปแจ้งผู้ใหญ่บ้านเอาไว้ก่อน พรุ่งนี้กระหม่อมจะไปพบพระองค์ที่จวนพะย่ะค่ะ”ไท่จื่อกับไท่จื่อเฟยเดินทางกลับไปยังจวนใหม่ของพวกพระองค์ โดยมีซุนเหยานำทางไป องครักษ์บางส่วนได้รับเงินให้ไปซื้ออาหารสดมาให้ไท่จื่อเฟยทำอาหารเช่นเคย ส่วนสิ่งของในจวนนั้นไม่มีสิ่งใดจะต้องซื้อเพิ่ม เพราะเจ้าเมืองบอกก่อนหน้านี้แล้วว่าเครื่องเรือ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status