Home / โรแมนติก / บ่วงรักผีเสื้อ / บทที่ 7 หมายหมั้นปั้น(ให้)รัก - 50%

Share

บทที่ 7 หมายหมั้นปั้น(ให้)รัก - 50%

last update Last Updated: 2024-12-27 16:30:51

ภีมพลยิ้มเมื่อเห็นสีหน้าท่าทางของสาวน้อย เขารู้ว่าเจ้าตัวกำลังเขินแต่พยายามเก็บอาการอย่างเต็มที่

ชายหนุ่มรู้ว่าเด็กสาววัยรุ่นเป็นวัยที่อ่อนไหวกับเพศตรงข้ามมากแค่ไหน เขาจึงค่อย ๆ ‘ตะล่อม’ ด้วยการเข้าใกล้หัวใจของเธอทีละนิด ถึงแม้จะรู้ว่าความคิดส่วนหนึ่งของรวิชากำลังต่อต้านการหมั้นหมายแบบเงียบ ๆ ตามประสาคนที่ไม่ชอบการถูกบังคับ อีกทั้งช่องว่างระหว่างวัย จึงทำให้สาวน้อยอย่างรวิชาอาจจะรู้สึกอายเพื่อนฝูงบ้าง หากต้องบอกกับเพื่อน ๆ ว่ามีคู่หมั้นอายุสามสิบกว่าปี แต่เขาก็เชื่อว่าถ้าตนสามารถทลายกรอบความคิดตรงนี้ของรวิชาลงได้ เมื่อนั้นเขาจะได้คู่หมั้นที่น่ารักน่ากอดเป็นรางวัลสำหรับความพยายามครั้งนี้แน่นอน

รวิชาเดินเคียงข้างภีมพลอยู่ในห้างสรรพสินค้าชื่อดังใจกลางเมือง เธอมองไปรอบตัวเพราะเกรงว่าจะเจอคนรู้จัก หรือเพื่อนที่เรียนอยู่โรงเรียนเดียวกัน เธอยังไม่อยากเจอใครทั้งนั้นในตอนนี้ ไม่อยากตอบคำถาม ไม่อยากตกเป็นเป้าการพูดถึงของใครต่อใคร และไม่อยากกลายเป็นหัวข้อสนทนาในชั่วข้ามคืนว่า มาเดินควงกับผู้ชายมีอายุ!

ถึงแม้ภีมพลจะหน้าตาดูดี ยังไม่แก่ถึงขนาดเรียกว่าเป็นเสี่ยหรือป๋า แต่บุคลิกของเขา แค่มองดูก็รู้แล้วว่าไม่ใช่ผู้ชายในวัยนักศึกษาอย่างแน่นอน ถ้ามีคนมาเจอว่าเธอเดินอยู่กับเขาละก็ ไม่แคล้วต้องโดนเอาไปพูดกันแบบปากต่อปากจนเรื่องราวบิดเบี้ยวไปในทางแย่เป็นแน่

วันนี้รวิชาเลือกหยิบเดรสแขนกุดความยาวเลยเข่าแบบพอดีตัวไม่เข้ารูปมาสวมใส่ ผมยาวสีน้ำตาลเข้มปล่อยสยายเคลียแผ่นหลัง รองเท้าคัตชูแบบมีส้นสูงประมาณหนึ่งนิ้ว สะพายกระเป๋ายี่ห้อดังของมารดา และแต่งหน้าอ่อน ๆ ด้วยการปัดแก้ม และเติมลิปกลอสสีชมพูอ่อนแค่นั้นเพราะต้องการให้ตัวเองดูเป็นผู้ใหญ่ขึ้นมาอีกนิด

“หิวไหมน้องอาย อยากกินอะไรหรือเปล่า ไอติม เค้ก?”

ภีมพลถามเสียงอ่อนจนคนฟังรู้สึกได้ว่าเขาใส่ใจตน และพยายามเอาอกเอาใจเธออยู่ รวิชาฉีกยิ้มกว้าง ตาเป็นประกายขณะที่มองไปยังร้านเค้กชื่อดัง หน้าร้านมีคนรอคิวอยู่ประมาณห้าหกคน

ภีมพลมองตามไปก็คลี่ยิ้มก่อนจะถือวิสาสะจูงมือเธอเดินเข้าไป จากนั้นก็แจ้งชื่อกับพนักงานเพื่อรอรับหมายเลขคิว

“จะดีหรือคะ อาภีมไม่ต้องตามใจน้องอายก็ได้ค่ะ น้องอายซื้อกลับไปกินที่บ้านก็ได้”

รวิชาบอกเขาอย่างเกรงใจ เขาเป็นผู้ชาย แถมอายุไม่ใช่น้อย ๆ แล้วจะให้มานั่งละเลียดเค้กกับเธอในร้านที่มีแต่วัยรุ่นนั่งกันเต็มไปหมดแบบนี้ เธอเกรงว่าเขาจะอึดอัดและรำคาญ

“ไม่เป็นไรหรอก อาก็อยากดื่มกาแฟสักแก้วเหมือนกัน อีกอย่างนะ ถ้าไม่ให้อาตามใจน้องอาย จะให้อาไปตามใจใครที่ไหน เราก็มีกันอยู่แค่สองคนนี่นา”

พูดจบเขาก็เดินยิ้มกริ่มไปยืนอยู่หน้าตู้เบเกอรี่ ทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้ทั้งที่เพิ่งทิ้งประโยคเด็ดเอาไว้ให้ใครบางคนได้คิดตาม ซึ่งแน่นอนว่าตอนนี้ใบหน้าคนฟังร้อนผ่าวจนแก้มขึ้นสีระเรื่อไปแล้วเรียบร้อย หลังจากที่ถูกเขาหยอดใส่ซึ่งหน้า

เราก็มีกันอยู่แค่สองคนนี่นา...เออแฮะ เขาก็ช่างกล้าพูด ไม่อยากจะเชื่อหูตนเองเหมือนกันว่าเขาพูดอะไรลิเกแบบนี้ก็เป็นด้วย ถ้าคนอื่นมาได้ยินสงสัยคงได้เอาไปล้อกันยันลูกยันหลาน

รวิชาเดินมายืนข้างเขา ชายหนุ่มยืนกอดอกแล้วหันไปถามหลังจากที่มองขนมเค้กหน้าตาสวยงามหลากหลายรสชาติในตู้

“เล็งชิ้นไหนไว้ล่ะเรา”

“ชิบูย่าฮันนี่โทสต์ค่ะ ร้านนี้ทำอร่อยมากเลยนะคะแต่ต้องสั่งต่างหาก ไม่มีโชว์ในตู้นี้หรอก อาภีมต้องลองชิมดูแล้วจะติดใจ”

รวิชาแนะนำจานโปรดให้ฟังอย่างกระตือรือร้น ดวงหน้าสดใสมีชีวิตชีวา ท่าทางที่เริ่มแสดงความเป็นกันเองอย่างเป็นธรรมชาตินั้นทำให้ภีมพลเผลอมองสาวน้อยตาปรอย

“ขนาดนั้นเชียวหรือ ท่าจะแย่แล้วนะถ้าเป็นอย่างนั้น เพราะแค่นี้อาก็ติดใจจนถอนตัวไม่ขึ้นแล้ว”

ประโยคสุดท้ายเขาโน้มหน้าลงมากระซิบที่ข้างหู พอให้ได้ยินกันแค่สองคน ก่อนจะผละออกมาแล้วมองจ้องเข้าไปในนัยน์ตากลมโตสุกใสที่กำลังไหวระริกอย่างเขินอายและประหม่า ก่อนที่เจ้าตัวจะเบือนสายตาออกไปมองทางอื่นเพราะไม่สามารถสู้สายตาคมปลาบของเขาได้

รวิชานึกค่อนขอดคนตัวโตอยู่ในใจที่ขยันหยอดเหลือเกิน อยากทำใจแข็งแกล้งทำเป็นไม่รับรู้ความนัยที่เขาสื่อ แต่ใบหน้าของเธอก็ดันแสดงอาการออกไปก่อนทุกที

“ไปยืนรอหน้าร้านกันเถอะ ตรงนี้เกะกะคนอื่นเขา”

ภีมพลเอื้อมมาแตะข้อศอกเธอเบา ๆ แล้วพาไปยืนรอเรียกคิวที่หน้าร้าน ระหว่างยืนรอ ภีมพลได้แต่แปลกใจตนเอง เพราะถ้าเป็นเมื่อก่อนเขาไม่มีทางทำอะไรไร้สาระอย่างนี้แน่ การยืนรอคิวเป็นนานสองนานเพื่อจะได้กินเค้กสักชิ้นไม่เคยอยู่ในความคิดของเขา เวลาไปร้านอาหารชื่อดังไม่ว่าจะเป็นที่ไหน เขาจะให้คนสนิทหรือเลขาฯ โทรศัพท์ไปจองเอาไว้ก่อนเสมอ เขาไม่เคยต้องมายืนรออะไรแบบนี้เลยสักครั้ง และที่น่าแปลกคือเขาไม่หงุดหงิดเลยสักนิด กลับมีแต่ความรื่นรมย์อย่างบอกไม่ถูก

ไม่นานนักทั้งคู่ก็ได้โต๊ะที่อยู่ด้านในร้าน ซึ่งภีมพลค่อนข้างพอใจเพราะตอนแรกเขากลัวว่าจะได้นั่งโต๊ะนอกร้านที่มีคนเดินไปมาขวักไขว่ อีกทั้งยังมีคนยืนรอคิวอยู่ใกล้ ๆ ราวกับกดดันคนที่นั่งกินอยู่

เมื่อเมนูของรวิชามาเสิร์ฟลงบนโต๊ะพร้อมกับช็อกโกแลตปั่น และกาแฟของภีมพล ทั้งคู่ก็นั่งกินไปเงียบ ๆ ไม่ได้คุยอะไรกันอีก

ภีมพลนั่งอมยิ้มมองสาวน้อยที่ละเลียดของโปรดอย่างอารมณ์ดี ปากอิ่มเต็มสีชมพูระเรื่อมีรอยยิ้มแต้มไว้เสมอยามเจ้าตัวตักขนมเข้าปาก เห็นท่าทางมีความสุขของเธอแล้วเขาก็รู้สึกอิ่มใจไปด้วย

“อาภีมกินไหมคะ...น่านะ อร่อยจริง ๆ นะคะ น้องอายเต็มใจนำเสนอเลยนะเนี่ย” รวิชาคะยั้นคะยอพลางยื่นช้อนมาตรงหน้าชายหนุ่มแล้วจ่อไว้ที่ปากของเขาราวกับบังคับให้ต้องชิม ชายหนุ่มจึงยื่นหน้าเข้าไปชิมตามที่เธอต้องการเพราะไม่อยากขัดใจให้เจ้าตัวต้องเสียอารมณ์

“เป็นไงคะ อร่อยใช่ไหมล่ะ น้องอายบอกแล้ว โทสต์ของร้านนี้อร่อยที่สุดแล้วค่ะ”

รวิชาฉีกยิ้มกว้างจนตาหยีก่อนจะตักเข้าปากของตนเองบ้าง ภีมพลได้แต่มองยิ้ม ๆ นัยน์ตาวับวาวจับจ้องใบหน้าเนียนใสนั้นตลอดเวลา จนแทบไม่ละสายตาไปไหน เธอจะรู้บ้างไหมว่ากำลังทำให้โคแก่อย่างเขานึกอยากอุ้มหญ้าอ่อนต้นนี้ไปเคี้ยวในที่ลับตาเหลือเกิน

“อร่อยสิ แต่อาว่ามันอร่อยเพราะคนป้อนมากกว่า ถ้าตักกินเองคงไม่อร่อยเท่านี้หรอก” เขายิ้มบางขณะยกกาแฟขึ้นดื่ม

ทั้งคู่ไม่มีโอกาสรู้เลยว่าขณะนั่งอยู่ในร้านนั้นได้ถูกใครบางคนจับตามองมาจากร้านอาหารญี่ปุ่นไม่ใกล้ไม่ไกลจากตรงนั้น เรียวปากสีเข้มอย่างคนที่ดูดบุหรี่จัดแสยะยิ้มอย่างดูแคลน แต่แววตากลับแสดงออกถึงความเกรี้ยวกราดเมื่อเห็นภาพไม่สบอารมณ์ในร้านเบเกอรี่

“โธ่เอ๊ย โดนมันฟันแล้วสิท่า ถึงได้มานั่งป้อนกันอย่างนี้ ป้อนเสร็จก็คง...”

กลวิชรพูดไว้แค่นั้น ชายหนุ่มได้แต่กำหมัดแน่นอย่างแค้นเคืองคนชุบมือเปิบอย่างภีมพล เขาอุตส่าห์วางแผนมาเสียดิบดี นึกว่าคืนนั้นจะได้กินแม่สาวน้อยจอมเย่อหยิ่งให้เต็มคราบสักหน่อย จะได้เลิกเชิดหน้าจองหองใส่เพราะเสียท่าให้เขาแล้ว ที่ไหนได้ กลับมาถูกเจ้าพ่อซุสโฉบไปกินหน้าตาเฉย คิดแล้วก็ให้เจ็บใจนัก

“วิชร อาหารมาแล้วนะคะมองอะไรอยู่น่ะ”

สาวสวยที่นั่งข้าง ๆ ใช้มือลูบไปมาที่ต้นขาของเขาอย่างเอาใจ หญิงสาวทำหน้าเง้างออย่างน่ารักเมื่อเห็นชายหนุ่มเอาแต่เหม่อมองไปทางอื่น กลวิชรจึงหันไปส่งยิ้มให้

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • บ่วงรักผีเสื้อ   บทส่งท้าย หยุดอยู่กับเธอคนเดียว - 100%

    “อ้าว! วันนี้คุณอายไม่เข้าบริษัทหรือ” เมื่อเช้าก็ออกมาด้วยกันแท้ ๆ แต่แม่เจ้าประคุณแอบหนีไปเที่ยวไหนกันล่ะนี่ ชายหนุ่มคิดอย่างเข่นเขี้ยวในใจเมื่อเจอ “เซอร์ไพรส์” สุดพิเศษจากศรีภรรยาภีมพลยิ้มกริ่มอย่างหมายมาด เห็นทีต้องรีบกลับไปรับขวัญก่อนเวลาเสียแล้ว ชายหนุ่มหยิบกระเป๋าสตางค์กับกุญแจรถออกมา เหลือบไปเห็นแฟ้มงานสองแฟ้มที่ยังคงแผ่หราอยู่เต็มโต๊ะ แล้วนึกขึ้นได้ว่ายังดูค้างเอาไว้ เขากวาดตามองอีกครั้งเพื่อความแน่ใจ ใจจริงเขามีตัวเลือกเอาไว้อยู่แล้ว เมื่อตัดสินใจได้เขาก็คว้าแฟ้มขวามือเดินออกจากห้องทันที จากนั้นจึงไปยื่นให้กับเลขาฯ ส่วนตัว“ผมเลือกของบริษัทนี้ ให้ฝ่ายจัดซื้อทำเรื่องได้เลย อ้อ วันนี้ผมไม่เข้าแล้วนะ” พูดจบชายหนุ่มก็ผละออกไป และต้องหยุดชะงักเมื่อเลขาฯ รีบวิ่งมาถามถึงงานบางอย่างที่เขาให้เตรียมไว้สำหรับช่วงบ่ายนี้“คุณภีมคะ แล้วเรื่องที่ให้เตรียมเอาไว้บ่ายนี้ล่ะคะ”“ยังคอนเฟิร์มอยู่ แต่ว่าคุณช่วยอะไรผมหน่อยสิ”ภีมพลหันมายิ้มพรายเต็มวงหน้าเมื่อคิดอะไรดี ๆ ขึ้นมาได้

  • บ่วงรักผีเสื้อ   บทส่งท้าย หยุดอยู่กับเธอคนเดียว - 70%

    อดคิดไปถึงบิดามารดาผู้ล่วงลับไปแล้วไม่ได้ ท่านทั้งสองช่างมีความอดทนและมุมานะอย่างล้นเหลือที่สู้ฝ่าฟันจนกระทั่งบริษัทเป็นรูปเป็นร่างได้ขนาดนี้ นึกมาถึงตอนนี้แล้วก็โกรธตัวเองที่ตอนนั้นเอาแต่น้อยใจ คิดว่าท่านทำแต่งานจนไม่สนใจใยดีกับเธอผู้เป็นลูกสาวเพียงคนเดียว‘รวิชา แปลว่าลูกพระอาทิตย์ เพราะฉะนั้นหนูต้องเข้มแข็ง อดทนให้สมกับที่เป็นลูกสาวของพ่อ ชีวิตของหนูจะต้องรุ่งโรจน์สดใสเหมือนกับดวงอาทิตย์ที่ส่องสว่างอยู่บนท้องฟ้า’ถ้อยคำจากบิดายังคงดังก้องอยู่ในหัวทุกครั้งที่นึกถึงเวลาเมื่อรู้สึกอ่อนล้าทั้งร่างกายและจิตใจ ถ้าไม่มีแม่นมชราและสามีที่คอยเป็นกำลังใจให้ ป่านนี้ชีวิตเธอจะหักเหไปทางไหนแล้วบ้างก็สุดรู้“อรุณสวัสดิ์จ้ะ”เสียงทุ้มคุ้นหูดังขึ้นพร้อมกับจุมพิตเบา ๆ ที่ข้างแก้ม จากนั้นคนตัวโตก็ทรุดตัวลงนั่งซ้อนหลังไว้พร้อมกับดึงบ่าของเธอให้เอนซบลงมาบนตัวเขา“อรุณสวัสดิ์ค่ะ ตื่นเช้าจังเลยนะคะ” หญิงสาวทักทายกลับไปก่อนจะคลี่ยิ้มกว้างเมื่อได้ยินประโยคถัดมาของสามี“จำเป็นต้องตื่นเช้าน่ะ จู่

  • บ่วงรักผีเสื้อ   บทส่งท้าย หยุดอยู่กับเธอคนเดียว - 35%

    หลังจากถวายสังฆทานจนกระทั่งกรวดน้ำเสร็จเรียบร้อย ภีมพล รวิชา และนมพิมก็พากันเดินออกมาเทน้ำที่ใต้ต้นไม้ใหญ่หน้ากุฏิ ชายหนุ่มสวดบทกรวดน้ำพึมพำโดยไม่ออกเสียง ในขณะที่หญิงสาวและนมพิมอธิษฐานเพื่อส่งผลบุญให้แก่ผู้ล่วงลับอยู่ในใจวันนี้เป็นวันครบรอบวันเสียชีวิตของบิดามารดาของรวิชา นมพิมเปรยเอาไว้หลายวันก่อนหน้าแล้วว่าอยากมาทำบุญให้ท่านทั้งสอง ซึ่งเธอเองก็เห็นด้วยเพราะคิดไว้เหมือนกันว่าจะมาทำบุญวันนี้ จึงชวนสามีหนุ่มให้มาด้วยกัน และเขาก็ไม่ขัดข้อง เพราะตั้งแต่ผ่านพ้นพิธีแต่งงานมาได้สองเดือน ภีมพลก็ไม่เคยยุ่งเกี่ยวกับพุทธศาสนาอีกเลยจากนั้นทั้งสามคนก็เดินทางกลับบ้าน พอมาถึง ชายหนุ่มปล่อยให้รวิชาได้อยู่กับแม่นมตามลำพังเพราะคิดว่าทั้งสองคนคงมีเรื่องอยากพูดคุยกัน เขาเองก็เห็นใจคนแก่อย่างนมพิม เพราะตั้งแต่รวิชาเรียนจบมาก็เอาแต่ทำงาน แถมหลังจากนั้นสองเดือนก็เข้าพิธีแต่งงานกับเขา ทำให้บางคืนรวิชาไม่ได้กลับไปนอนบ้านตัวเอง ถึงแม้เขากับรวิชาจะแก้ปัญหาด้วยการสลับบ้านนอนเป็นวันเว้นวันแล้วก็ตาม แต่หัวอกคนแก่ก็คงหงอยเหงาเป็นธรรมดา

  • บ่วงรักผีเสื้อ   บทที่ 24 ผีเสื้อสยายปีก - 100%

    “ตอบแบบนี้ค่อยชื่นใจหน่อย อย่างนี้ต้องให้รางวัล”ชายหนุ่มจับล็อกปลายคางมนของหญิงสาวไว้ แล้วก้มลงตบรางวัลให้คนปากหวานช่างจำนรรจาจนเขากระชุ่มกระชวยทุกทีที่ได้ฟังนาทีนี้ภีมพลเหมือนจะคลั่งเสียให้ได้ สาวน้อยช่างหวานจับจิตจับใจสมกับที่รอคอยมานานแสนนาน ถ้าไม่ติดว่าเธอยังใหม่กับความสัมพันธ์แบบนี้แล้วล่ะก็ รับรองได้เลยว่าทั้งเขาและเธอยังคงนัวเนียกันอยู่บนเตียงเป็นแน่“อื้ม...อาภีมขา นี่มันริมถนนนะคะ เดี๋ยวใครมาเห็นเข้า”แค่หญิงสาวพูดเบา ๆ แต่สำหรับชายหนุ่มแล้วน้ำเสียงสั่นพร่านิด ๆ นั้นช่างฟังดูเซ็กซี่ยั่วยวนดีเหลือเกิน เขานึกถึงตอนเธอครวญครางอยู่ใต้ร่างของเขา ทั้งภาพทั้งเสียงยังคงติดตาตรึงใจเสียจนอะไร ๆ มันพรักพร้อมขึ้นมาอีกแล้ว“เราเข้าหมู่บ้านมาแล้ว ไม่ค่อยมีคนเดินผ่านมาหรอก รถอาก็มืด ใครจะมองเข้ามาเห็นล่ะคะ”เอาอีกแล้ว ลงท้ายด้วยคะ ขาแบบนี้แปลว่าเริ่มไม่ปลอดภัยแล้วเป็นแน่ ยังไม่ทันจะได้อ้าปากพูดอะไร แต่ชายหนุ่มก็ชิงพูดขึ้นเสียก่อน“แวะบ้านอาก่อนนะคะ”แค่เห็นแววตาระยิบระยับแพรวพราวของเข

  • บ่วงรักผีเสื้อ   บทที่ 24 ผีเสื้อสยายปีก - 70%

    “ถ้าอย่างนั้น...คืนนี้อยู่กับอาทั้งคืนได้ไหม ตามใจอาหน่อยได้ไหมคะ”เขาถามพร้อมกับประพรมจุมพิตไปทั่วหน้าอย่างหลงใหล ก่อนจะเอ่ยประโยคสำคัญที่ทำให้คนฟังหัวใจพองฟูคับอก“อาก็รักน้องอาย ไม่ใช่แค่คืนนี้ที่อาอยากให้น้องอายอยู่ด้วยแต่เป็นทุก ๆ คืน และตื่นมาตอนเช้าก็เห็นหน้าน้องอายเป็นคนแรกในทุก ๆ เช้า”ชายหนุ่มหยุดพูด แล้วก้มลงจุมพิตที่หน้าผากอีกครั้งหนึ่งแล้วไต่ระเรื่อยมาจนถึงใบหู ใจอยากจะโจนจ้วงเข้าหาร่างเย้ายวนนี้ให้สมกับที่รอคอยมานานแสนนาน แต่ก็อยากให้หญิงสาวได้สัมผัสกับความสวยงามจากประสบการณ์ในรักครั้งแรกมากกว่า เขาจึงต้องอ่อนโยนให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ แม้ว่าความต้องการจะอัดแน่นจนแทบระเบิดแล้วก็ตาม“แต่งงานกับอานะคะ”ไหน ๆ เธอก็เรียนจบแล้ว มีงานมีการทำถือว่าเป็นผู้ใหญ่เต็มตัว หนำซ้ำยังจดทะเบียนสมรสเป็นคนคนเดียวกันในทางกฎหมายแล้วด้วย เขาจึงคิดว่าไม่มีเหตุผลอะไรที่จะต้องรออีกต่อไป เพราะเขากับเธอก็แทบจะเป็นของกันและกันอยู่แล้ว จะเหลือก็แต่การอยู่ร่วมบ้านเดียวกันในฐานะของสามีภรรยาเท่านั้นรวิชาคลี่ยิ้มกว้างพล

  • บ่วงรักผีเสื้อ   บทที่ 24 ผีเสื้อสยายปีก - 35%

    ภีมพลยืนยิ้ม มองภรรยาทางนิตินัยที่กำลังยักย้ายส่ายสะโพกอย่างสนุกสนานกับเพื่อนกลุ่มใหญ่อยู่ข้างล่างด้วยแววตาทอดอ่อน เมื่อวานสอบวันสุดท้าย วันนี้รวิชาจึงขออนุญาตเขาพาเพื่อน ๆ มาสนุกกันที่คลับอย่างเต็มที่เพื่อเป็นการฉลองจบการศึกษา อีกทั้งฉลองที่ยอดขายผลิตภัณฑ์ในกลุ่มสปานั้นทะลุเป้าเกินกว่าที่คาดหมายไว้พอสมควรสาวน้อยของเขาเรียนจบแล้ว...ปีกว่ากับการอยู่ในตำแหน่งคู่หมั้น สองปีกว่ากับการอยู่ในตำแหน่งสามีตามกฎหมาย รวมแล้วร่วมสี่ปีเต็มกับการเฝ้าดูแลเด็กสาวคนหนึ่งให้เติบโตเป็นหญิงสาวแสนสวย และมากความสามารถจนเป็นที่ยอมรับของคนทั่วไปเมื่อก่อนเขาเอาแต่นั่งนับวันเวลาว่าเมื่อไรเธอจะเรียนจบ เพราะอยากตีตราจองเธอเอาไว้ด้วยร่างกาย ไม่ใช่แค่กระดาษแผ่นเดียวตามประสาผู้ชายทั่วไปที่คิดอยากมีสัมพันธ์ลึกซึ้งกับคนรัก ทว่าพอวันเวลาผ่านไป ความคิดของเขาก็ค่อยปรับเปลี่ยนไปทีละนิดตามความผูกพันที่เพิ่มขึ้นระหว่างเขากับเธอเซ็กซ์ไม่ใช่สิ่งจำเป็นที่เขาต้องการจากเธอเพียงอย่างเดียวเหมือนเมื่อก่อน เพราะมันถูกแทนที่ด้วยความรู้สึกมั่นคงในรัก และการรับรู้ถึงการเป็นส่วนหนึ่งขอ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status