Home / โรแมนติก / บ่วงรักผีเสื้อ / บทที่ 8 เรียกพี่ได้ไหม - 35%

Share

บทที่ 8 เรียกพี่ได้ไหม - 35%

last update Last Updated: 2024-12-28 12:30:11

ร่างสูงใหญ่ของภีมพลก้าวเดินอย่างเชื่องช้าอยู่ตรงลานจอดรถสำหรับพนักงาน ในมือถือโทรศัพท์ไว้โดยที่สายตาก็จดจ่ออยู่แต่หน้าจอ ใบหน้าระบายยิ้มอ่อนโยน บางคราวก็หัวเราะขลุกขลักในลำคอ เวลาที่ชายหนุ่มก้มลงพิมพ์ข้อความเขาจะหยุดเดิน ราวกับกลัวว่าจะพิมพ์ผิดแล้วต้องเสียเวลาพิมพ์ใหม่

ด้วยความที่มัวแต่สนใจกับแชตในโทรศัพท์ จึงทำให้ไม่รู้ตัวว่าเจ้าของรถยุโรปคันหรูที่เข้ามาจอดเทียบกับเขาเมื่อครู่นั้น กำลังเดินตามหลังมาด้วยแววตาระยิบระยับพลางหันไปพยักพเยิดกับหญิงสาวที่ตนกำลังโอบเอวอยู่

“ม็อทครับ ผมว่าพักหลังมานี้ไอ้ภีมเพื่อนผมดูมันกำลังอินเลิฟยังไงก็ไม่รู้” พชรพูดกับสาวสวยข้างกาย ทำทีเป็นไม่เห็น และไม่สนใจภีมพลที่เดินนำอยู่

“ยังไงหรือคะ” ช่อมาลีแสร้งรับมุกทำเป็นไม่เห็นภีมพลบ้าง ขณะเดินผ่านคนที่กำลังพูดถึง

“ก็ยิ้มคนเดียว หัวเราะคนเดียว แชตไปยิ้มไป ผมสงสัยว่ามันกำลังจีบสาวสักคนแน่ ๆ”

พชรแกล้งเอาหัวไหล่กระทบกับไหล่ของภีมพลตอนเดินแซงไปข้างหน้า คนถูกชนได้แต่ยิ้มไม่พูดอะไร แต่สาวเท้าก้าวตามคู่รักเข้าอาคารไปเงียบ ๆ เขามองพชรกับช่อมาลีที่เดินคุยกันกะหนุงกะหนิงอย่างอารมณ์ดี

คนมีความรักมันดีอย่างนี้นี่เอง...

เมื่อมาถึงด้านใน ช่อมาลีขอตัวออกไปทักทายเพื่อนในวงดนตรี ถึงแม้ตอนนี้เธอจะไม่ได้เป็นนักร้องนำให้วงบัตเตอร์ฟลายแล้ว แต่ก็มักแวะเข้าไปนั่งเล่นพูดคุย รวมถึงให้คำแนะนำเกี่ยวกับการร้องเพลงให้นักร้องสาวคนใหม่ของวงอยู่เสมอ

ตอนนี้คลับซุสรับวงดนตรีใหม่เข้ามาเพิ่มอีกหนึ่งวง เป็นแนวอะคูสติก และเป็นคู่ดูโอชายหญิง ซึ่งจะเล่นในช่วงหัวค่ำประมาณหนึ่งชั่วโมงทุกวันศุกร์เสาร์อาทิตย์เช่นเดียวกับวงบัตเตอร์ฟลาย

วันแรกที่ช่อมาลีเห็น และได้ทักทายตอนที่นักร้องใหม่ขึ้นไปแนะนำตัวกับภีมพลและพชรบนออฟฟิศเมื่อสัปดาห์ก่อนนั้น วิคกี้ นักร้องนำสาวก็ดูเป็นมิตรและยิ้มแย้มกับเธอดี ทว่าพอคล้อยหลังสองหนุ่มเจ้าของคลับแล้ว ช่อมาลีกลับได้รับสายตาเหยียดหยามอย่างดูแคลนจากหญิงสาวคนนั้น ทั้งที่เธอพยายามยิ้มให้ แต่สิ่งที่ได้รับกลับมาคือรอยเหยียดยิ้มที่มุมปากจนกลายเป็นเบะออกอย่างรังเกียจ และครั้งนี้ก็เช่นกัน

“เดี๋ยววิคกี้ ฉันถามจริง ๆ เถอะ เธอมีปัญหาอะไรกับฉันหรือเปล่า ฉันว่าเราไม่เคยรู้จักกันมาก่อนนะ”

ช่อมาลีโพล่งถามทันทีเพราะไม่ชอบให้เรื่องคาราคาซัง เธอมั่นใจว่าไม่เคยรู้จักผู้หญิงตรงหน้ามาก่อนแน่นอน แต่ทำไมกิริยาท่าทางที่นักร้องสาวคนนี้แสดงต่อเธอถึงได้ทำเหมือนกับว่าโกรธเกลียดกันมาเป็นร้อยชาติ

“แหม...ฉันจะกล้ามีอะไรกับมาดามแห่งคลับซุสได้เล่า ว่าแต่เธอนี่ก็เก่งนะ จากนักร้องเล่นตามผับตามบาร์ธรรมดาได้เลื่อนฐานะเป็นถึงคู่หมั้นเจ้าของคลับจนได้ ไปทำอีท่าไหนเข้าล่ะคุณโอมเขาถึงได้ติดใจยกย่องผู้หญิงกลางคืนอย่างเธอขึ้นมาเป็นแฟน มีเคล็ดลับดี ๆ ก็บอกฉันมั่งสิ เผื่อฉันจะได้เอาไปใช้กับคุณภีมบ้าง”

วิคกี้ลอยหน้าลอยตาพูดอย่างไม่รู้สึกรู้สา ลืมแม้กระทั่งว่าตนเองก็เป็นผู้หญิงทำงานกลางคืนเช่นเดียวกับคนที่กำลังคุยด้วย เจ้าตัวรู้แค่ว่าผู้หญิงตรงหน้าก็คืออดีตนักร้องสาวสุดเซ็กซี่แห่งวงบัตเตอร์ฟลายผู้โด่งดัง

วิคกี้จำได้ว่าเวลาตนไปเล่นดนตรีที่ไหน มักได้ยินแต่นักเที่ยวกลางคืนพูดถึงวงบัตเตอร์ฟลายไม่ขาดปาก พอได้มาเล่นให้ที่นี่ ได้รู้ว่าอดีตนักร้องสาวคนนี้เป็นถึงคู่หมั้นของพชรจึงทำให้เธออดริษยาไม่ได้ แต่ในขณะเดียวกันวิคกี้ก็เริ่มคาดหวังบางสิ่งบางอย่าง

ในเมื่อผู้หญิงตรงหน้าเธอยังใช้มารยาล่อหลอกเจ้าของคลับให้มาตกหลุมรักได้ แล้วทำไมเธอจะทำอย่างเดียวกับเจ้าหล่อนให้ภีมพลมาตกหลุมรักบ้างไม่ได้เล่า

ช่อมาลีแค่นยิ้มมุมปาก ร่างระหงยืนกอดอกจ้องมองคนตรงหน้าด้วยสายตาสมเพชกึ่งเยาะ

“อ้อ...อยากจับคุณภีมว่างั้น เอางี้ละกันนะ ถ้าเธออยากรู้ว่าฉันใช้ท่าไหน หรือทำยังไงคุณโอมถึงหลงกลฉันได้ ฉันแนะนำว่าให้เธอลองไปถามเขาด้วยตัวเองจะดีที่สุด อย่างว่าแหละนะ ฉันใช้หลายท่า เลยไม่รู้ว่าเขาติดใจท่าไหนที่สุด อ๊ะ! จริงสิ ฉันจะบอกอะไรให้อย่างหนึ่งนะ คุณภีมน่ะเขาเจ้าชู้ก็จริง แต่ว่า...”

ช่อมาลีหยุดพูดไปชั่วครู่ พลางใช้สายตากวาดมองคนตรงหน้าตั้งแต่ศีรษะจดปลายเท้าอย่างดูแคลน ก่อนจะเอ่ยออกมาเบา ๆ

“เขาก็เลือกเหมือนกันนะ”

พูดจบร่างสูงโปร่งของช่อมาลีก็เดินหายไปทางห้องหลังเวที ทิ้งให้คนถูกหลอกด่าถึงกับยืนกำมือแน่น เม้มปากจนเป็นเส้นตรงอย่างสะกดกลั้นอารมณ์เต็มที่

“คอยดูฝีมือของฉันบ้างก็แล้วกัน”

วิคกี้พูดอย่างหมายมาด คนอย่างเธอถ้าตั้งใจทำอะไรสักอย่างแล้วต้องทำให้ได้ ซึ่งหมายรวมถึงชายหนุ่มผู้เป็นเจ้าของคลับด้วยเช่นกัน เธอหมายมั่นปั้นความหวังเอาไว้ว่าต้องได้เป็นมาดามคลับซุสอีกคนหนึ่ง และเท่าที่รู้มานั้น ภีมพล เจ้านายอีกคนของเธอก็มีกิตติศัพท์ในเรื่องผู้หญิงใช่ย่อย นับว่าเป็นเรื่องดีไม่น้อยเพราะมันง่ายสำหรับเธอในการพาตัวเองเข้าไปสนิทสนมกับเขา

ทางด้านสองหนุ่มที่กำลังนั่งคุยกันอยู่ด้านบนนั้น พชรกำลังตกใจกับคำบอกกล่าวของเพื่อนสนิทไม่น้อยเมื่ออยู่ดี ๆ คนที่เคยพูดว่าการหมั้นหรือการแต่งงาน ไม่ต่างอะไรกับการที่เอาโซ่หนัก ๆ มาล่ามข้อเท้าเวลาเดิน แต่บัดนี้คนพูดกลับทำหน้าระรื่นบอกว่ากำลังจะเข้าพิธีหมั้นในอีกสองสัปดาห์ข้างหน้า

“เฮ้ย! ถามจริง หมั้นกับใครวะ แกล้อฉันเล่นหรือเปล่าไอ้ภีม”

พชรกระเด้งตัวนั่งหลังตรงทันที ยิ่งเห็นสีหน้าเพื่อนไม่ได้มีแววล้อเล่นแต่อย่างใด แต่กลับดูรื่นรมย์เสียเหลือเกินก็ยิ่งสงสัย

“พูดจริงน่ะสิ เรื่องแบบนี้ใครเขาเอามาล้อเล่นกัน”

ภีมพลพูดยิ้ม ๆ พลางเดินไปยังตู้เก็บสุรา หยิบวิสกี้ที่เหลืออยู่ประมาณครึ่งขวดออกมารินใส่แก้วให้ตนเองกับพชร

“แกเล่ามาเดี๋ยวนี้เลย อะไรวะ มีอะไรดี ๆ ก็ปิดเงียบกันเฉยเลยไม่บอกไม่กล่าว ทีงานหมั้นของฉันกับม็อท ฉันยังบอกแกคนแรกเลย” พชรต่อว่าเพื่อนไม่จริงจังนัก ส่วนภีมพลก็ไม่ได้คิดมาก หรือถือสาอะไรเพราะรู้นิสัยกันดีอยู่แล้ว

“แกจำผู้หญิงที่ฉันเคยเล่าให้ฟังว่าเชิดเงินฉันไปหมดกระเป๋าเลยได้หรือเปล่า”

ภีมพลเดินถือแก้วสองใบพร้อมกับขวดวิสกี้วางลงบนโต๊ะแล้วนั่งอีกฝั่งหนึ่งของโซฟา ชายหนุ่มยกแก้วขึ้นดื่มรวดเดียวหมด ก่อนเปิดปากเล่าเรื่องราวทั้งหมดตลอดหลายวันที่ผ่านมาให้เพื่อนรักฟังอย่างหมดเปลือก แน่นอนว่าหลังจากที่พชรฟังจบ เขาก็หัวเราะลั่นห้องทันที

“ฮ่า ๆ น้องเขาเรียกแกว่าคุณอาเลยหรือวะ คุณอาภีมขา...โห...ฟังยังไงก็น้องพ่อชัด ๆ ทำไมแกไม่บอกให้เรียกแกว่าพี่เล่า ปล่อยให้เรียกอาอยู่ได้ ขืนเขาไปเรียกที่ไหนแกไม่อายคนอื่นเขาหรือไง คู่หมั้นตัวเองมาเรียกว่าคุณอา”

พชรพูดไปหัวเราะไป นึกอยากเห็นหน้าสาวน้อยวัยใสคนนั้นเสียแล้ว

“ว่าแต่แกกับน้องเขาอายุห่างกันกี่ปี”

พชรอดถามขึ้นไม่ได้ ในเมื่อภีมพลบอกแค่ว่าเป็นเด็กสาวข้างบ้าน แถมยังเรียกว่าคุณอาอีกต่างหาก

“ไม่รู้ว่ะ ไม่ได้นับ น้องอายเพิ่งเรียนจบม.ปลาย ตอนนี้รอผลสอบเข้ามหาวิทยาลัยอยู่”

คำตอบของภีมพลทำเอาพชรเกือบสำลักวิสกี้ ชายหนุ่มไอโขลก ๆ จนหน้าแดงก่ำ ก่อนจะรีบลุกพรวดไปเปิดตู้เย็นหยิบน้ำเปล่าขึ้นดื่ม

“พระเจ้า! เพิ่งจบม.ปลาย ไอ้ภีม! นี่แกพรากผู้เยาว์หรือวะ”

“พรากบ้าอะไร ยังไม่เคยทำอะไรเขา...ก็แค่เกือบไป”

ภีมพลส่ายหน้าให้กับความคิดของเพื่อน ยอมรับว่าเขาคิดทะลึ่งกับรวิชาบ้างเป็นบางครั้งตามประสาผู้ชาย แต่ไม่เคยคิดจะทำอย่างที่ใจต้องการเลยสักครั้ง เพราะติดที่ว่าอีกฝ่ายยังเด็กเกินไป เขาอยากให้เธอค่อย ๆ เรียนรู้การแสดงความรักในแบบ “ผู้ใหญ่” แบบค่อยเป็นค่อยไปมากกว่า และครูผู้สอนก็ต้องเป็นเขาคนเดียวเท่านั้น

“ก็ไม่เห็นจำเป็นต้องหมั้นเลยนี่ แกนึกยังไงถึงได้ตกปากรับคำว่าจะหมั้นกับเขาวะ” พชรยังคงสงสัยไม่หาย ถ้าเป็นแค่เรื่องที่ภีมพลเล่ามา ไม่ว่าจะเป็นเรื่องธุรกิจทางครอบครัวของรวิชา หรือเรื่องหุ้นส่วนที่หวังจะเคลมบริษัทโดยการเข้าทางบุตรสาวนั้น ก็มีวิธีแก้ไขในรูปแบบอื่นอีกตั้งหลายทาง ไม่น่าจะเลยเถิดมาถึงการหมั้นหมายนี่ได้

“ก็ไม่มีอะไร ฉันเอ็นดูน้องอายมาตั้งแต่เด็ก รักเหมือนน้องสาวคนหนึ่ง เรื่องแค่นี้ทำไมฉันจะช่วยไม่ได้ ก็แค่หมั้น”

ภีมพลตอบเสียงสูงพลางกรอกน้ำสีอำพันเข้าปากราวกับต้องการกลบเกลื่อนพิรุธ

“ปากก็บอกเอ็นดู แต่ใจน่ะอยากให้น้องเขาดูเอ็นมากกว่าล่ะมั้งไอ้ภีม แกอ้าปากก็เห็นลิ้นไก่แล้ว อย่านึกว่าฉันไม่รู้ โธ่ ทำมาเป็นพูดว่ารักเหมือนน้องเหมือนนุ่ง แต่ใจจริงก็ไม่อยากให้น้องนุ่งผ้ามากกว่า” พชรหรี่ตามองอย่างจับผิด ในขณะที่คนถูกจับผิดคลี่ยิ้มกว้าง ไม่ได้เอ่ยอะไรออกมาให้ตนเองต้องถูกล้ออีก

“นี่แสดงว่าที่แกแชตไปยิ้มไปเมื่อกี้นี้ก็คือแชตคุยกับน้องเขาล่ะสิ” พชรถามพลางกลั้นหัวเราะเต็มที่

“เออ!” สิ้นคำตอบของภีมพล พชรก็หัวเราะลั่นออกมาอีกอย่างอดไม่อยู่

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • บ่วงรักผีเสื้อ   บทส่งท้าย หยุดอยู่กับเธอคนเดียว - 100%

    “อ้าว! วันนี้คุณอายไม่เข้าบริษัทหรือ” เมื่อเช้าก็ออกมาด้วยกันแท้ ๆ แต่แม่เจ้าประคุณแอบหนีไปเที่ยวไหนกันล่ะนี่ ชายหนุ่มคิดอย่างเข่นเขี้ยวในใจเมื่อเจอ “เซอร์ไพรส์” สุดพิเศษจากศรีภรรยาภีมพลยิ้มกริ่มอย่างหมายมาด เห็นทีต้องรีบกลับไปรับขวัญก่อนเวลาเสียแล้ว ชายหนุ่มหยิบกระเป๋าสตางค์กับกุญแจรถออกมา เหลือบไปเห็นแฟ้มงานสองแฟ้มที่ยังคงแผ่หราอยู่เต็มโต๊ะ แล้วนึกขึ้นได้ว่ายังดูค้างเอาไว้ เขากวาดตามองอีกครั้งเพื่อความแน่ใจ ใจจริงเขามีตัวเลือกเอาไว้อยู่แล้ว เมื่อตัดสินใจได้เขาก็คว้าแฟ้มขวามือเดินออกจากห้องทันที จากนั้นจึงไปยื่นให้กับเลขาฯ ส่วนตัว“ผมเลือกของบริษัทนี้ ให้ฝ่ายจัดซื้อทำเรื่องได้เลย อ้อ วันนี้ผมไม่เข้าแล้วนะ” พูดจบชายหนุ่มก็ผละออกไป และต้องหยุดชะงักเมื่อเลขาฯ รีบวิ่งมาถามถึงงานบางอย่างที่เขาให้เตรียมไว้สำหรับช่วงบ่ายนี้“คุณภีมคะ แล้วเรื่องที่ให้เตรียมเอาไว้บ่ายนี้ล่ะคะ”“ยังคอนเฟิร์มอยู่ แต่ว่าคุณช่วยอะไรผมหน่อยสิ”ภีมพลหันมายิ้มพรายเต็มวงหน้าเมื่อคิดอะไรดี ๆ ขึ้นมาได้

  • บ่วงรักผีเสื้อ   บทส่งท้าย หยุดอยู่กับเธอคนเดียว - 70%

    อดคิดไปถึงบิดามารดาผู้ล่วงลับไปแล้วไม่ได้ ท่านทั้งสองช่างมีความอดทนและมุมานะอย่างล้นเหลือที่สู้ฝ่าฟันจนกระทั่งบริษัทเป็นรูปเป็นร่างได้ขนาดนี้ นึกมาถึงตอนนี้แล้วก็โกรธตัวเองที่ตอนนั้นเอาแต่น้อยใจ คิดว่าท่านทำแต่งานจนไม่สนใจใยดีกับเธอผู้เป็นลูกสาวเพียงคนเดียว‘รวิชา แปลว่าลูกพระอาทิตย์ เพราะฉะนั้นหนูต้องเข้มแข็ง อดทนให้สมกับที่เป็นลูกสาวของพ่อ ชีวิตของหนูจะต้องรุ่งโรจน์สดใสเหมือนกับดวงอาทิตย์ที่ส่องสว่างอยู่บนท้องฟ้า’ถ้อยคำจากบิดายังคงดังก้องอยู่ในหัวทุกครั้งที่นึกถึงเวลาเมื่อรู้สึกอ่อนล้าทั้งร่างกายและจิตใจ ถ้าไม่มีแม่นมชราและสามีที่คอยเป็นกำลังใจให้ ป่านนี้ชีวิตเธอจะหักเหไปทางไหนแล้วบ้างก็สุดรู้“อรุณสวัสดิ์จ้ะ”เสียงทุ้มคุ้นหูดังขึ้นพร้อมกับจุมพิตเบา ๆ ที่ข้างแก้ม จากนั้นคนตัวโตก็ทรุดตัวลงนั่งซ้อนหลังไว้พร้อมกับดึงบ่าของเธอให้เอนซบลงมาบนตัวเขา“อรุณสวัสดิ์ค่ะ ตื่นเช้าจังเลยนะคะ” หญิงสาวทักทายกลับไปก่อนจะคลี่ยิ้มกว้างเมื่อได้ยินประโยคถัดมาของสามี“จำเป็นต้องตื่นเช้าน่ะ จู่

  • บ่วงรักผีเสื้อ   บทส่งท้าย หยุดอยู่กับเธอคนเดียว - 35%

    หลังจากถวายสังฆทานจนกระทั่งกรวดน้ำเสร็จเรียบร้อย ภีมพล รวิชา และนมพิมก็พากันเดินออกมาเทน้ำที่ใต้ต้นไม้ใหญ่หน้ากุฏิ ชายหนุ่มสวดบทกรวดน้ำพึมพำโดยไม่ออกเสียง ในขณะที่หญิงสาวและนมพิมอธิษฐานเพื่อส่งผลบุญให้แก่ผู้ล่วงลับอยู่ในใจวันนี้เป็นวันครบรอบวันเสียชีวิตของบิดามารดาของรวิชา นมพิมเปรยเอาไว้หลายวันก่อนหน้าแล้วว่าอยากมาทำบุญให้ท่านทั้งสอง ซึ่งเธอเองก็เห็นด้วยเพราะคิดไว้เหมือนกันว่าจะมาทำบุญวันนี้ จึงชวนสามีหนุ่มให้มาด้วยกัน และเขาก็ไม่ขัดข้อง เพราะตั้งแต่ผ่านพ้นพิธีแต่งงานมาได้สองเดือน ภีมพลก็ไม่เคยยุ่งเกี่ยวกับพุทธศาสนาอีกเลยจากนั้นทั้งสามคนก็เดินทางกลับบ้าน พอมาถึง ชายหนุ่มปล่อยให้รวิชาได้อยู่กับแม่นมตามลำพังเพราะคิดว่าทั้งสองคนคงมีเรื่องอยากพูดคุยกัน เขาเองก็เห็นใจคนแก่อย่างนมพิม เพราะตั้งแต่รวิชาเรียนจบมาก็เอาแต่ทำงาน แถมหลังจากนั้นสองเดือนก็เข้าพิธีแต่งงานกับเขา ทำให้บางคืนรวิชาไม่ได้กลับไปนอนบ้านตัวเอง ถึงแม้เขากับรวิชาจะแก้ปัญหาด้วยการสลับบ้านนอนเป็นวันเว้นวันแล้วก็ตาม แต่หัวอกคนแก่ก็คงหงอยเหงาเป็นธรรมดา

  • บ่วงรักผีเสื้อ   บทที่ 24 ผีเสื้อสยายปีก - 100%

    “ตอบแบบนี้ค่อยชื่นใจหน่อย อย่างนี้ต้องให้รางวัล”ชายหนุ่มจับล็อกปลายคางมนของหญิงสาวไว้ แล้วก้มลงตบรางวัลให้คนปากหวานช่างจำนรรจาจนเขากระชุ่มกระชวยทุกทีที่ได้ฟังนาทีนี้ภีมพลเหมือนจะคลั่งเสียให้ได้ สาวน้อยช่างหวานจับจิตจับใจสมกับที่รอคอยมานานแสนนาน ถ้าไม่ติดว่าเธอยังใหม่กับความสัมพันธ์แบบนี้แล้วล่ะก็ รับรองได้เลยว่าทั้งเขาและเธอยังคงนัวเนียกันอยู่บนเตียงเป็นแน่“อื้ม...อาภีมขา นี่มันริมถนนนะคะ เดี๋ยวใครมาเห็นเข้า”แค่หญิงสาวพูดเบา ๆ แต่สำหรับชายหนุ่มแล้วน้ำเสียงสั่นพร่านิด ๆ นั้นช่างฟังดูเซ็กซี่ยั่วยวนดีเหลือเกิน เขานึกถึงตอนเธอครวญครางอยู่ใต้ร่างของเขา ทั้งภาพทั้งเสียงยังคงติดตาตรึงใจเสียจนอะไร ๆ มันพรักพร้อมขึ้นมาอีกแล้ว“เราเข้าหมู่บ้านมาแล้ว ไม่ค่อยมีคนเดินผ่านมาหรอก รถอาก็มืด ใครจะมองเข้ามาเห็นล่ะคะ”เอาอีกแล้ว ลงท้ายด้วยคะ ขาแบบนี้แปลว่าเริ่มไม่ปลอดภัยแล้วเป็นแน่ ยังไม่ทันจะได้อ้าปากพูดอะไร แต่ชายหนุ่มก็ชิงพูดขึ้นเสียก่อน“แวะบ้านอาก่อนนะคะ”แค่เห็นแววตาระยิบระยับแพรวพราวของเข

  • บ่วงรักผีเสื้อ   บทที่ 24 ผีเสื้อสยายปีก - 70%

    “ถ้าอย่างนั้น...คืนนี้อยู่กับอาทั้งคืนได้ไหม ตามใจอาหน่อยได้ไหมคะ”เขาถามพร้อมกับประพรมจุมพิตไปทั่วหน้าอย่างหลงใหล ก่อนจะเอ่ยประโยคสำคัญที่ทำให้คนฟังหัวใจพองฟูคับอก“อาก็รักน้องอาย ไม่ใช่แค่คืนนี้ที่อาอยากให้น้องอายอยู่ด้วยแต่เป็นทุก ๆ คืน และตื่นมาตอนเช้าก็เห็นหน้าน้องอายเป็นคนแรกในทุก ๆ เช้า”ชายหนุ่มหยุดพูด แล้วก้มลงจุมพิตที่หน้าผากอีกครั้งหนึ่งแล้วไต่ระเรื่อยมาจนถึงใบหู ใจอยากจะโจนจ้วงเข้าหาร่างเย้ายวนนี้ให้สมกับที่รอคอยมานานแสนนาน แต่ก็อยากให้หญิงสาวได้สัมผัสกับความสวยงามจากประสบการณ์ในรักครั้งแรกมากกว่า เขาจึงต้องอ่อนโยนให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ แม้ว่าความต้องการจะอัดแน่นจนแทบระเบิดแล้วก็ตาม“แต่งงานกับอานะคะ”ไหน ๆ เธอก็เรียนจบแล้ว มีงานมีการทำถือว่าเป็นผู้ใหญ่เต็มตัว หนำซ้ำยังจดทะเบียนสมรสเป็นคนคนเดียวกันในทางกฎหมายแล้วด้วย เขาจึงคิดว่าไม่มีเหตุผลอะไรที่จะต้องรออีกต่อไป เพราะเขากับเธอก็แทบจะเป็นของกันและกันอยู่แล้ว จะเหลือก็แต่การอยู่ร่วมบ้านเดียวกันในฐานะของสามีภรรยาเท่านั้นรวิชาคลี่ยิ้มกว้างพล

  • บ่วงรักผีเสื้อ   บทที่ 24 ผีเสื้อสยายปีก - 35%

    ภีมพลยืนยิ้ม มองภรรยาทางนิตินัยที่กำลังยักย้ายส่ายสะโพกอย่างสนุกสนานกับเพื่อนกลุ่มใหญ่อยู่ข้างล่างด้วยแววตาทอดอ่อน เมื่อวานสอบวันสุดท้าย วันนี้รวิชาจึงขออนุญาตเขาพาเพื่อน ๆ มาสนุกกันที่คลับอย่างเต็มที่เพื่อเป็นการฉลองจบการศึกษา อีกทั้งฉลองที่ยอดขายผลิตภัณฑ์ในกลุ่มสปานั้นทะลุเป้าเกินกว่าที่คาดหมายไว้พอสมควรสาวน้อยของเขาเรียนจบแล้ว...ปีกว่ากับการอยู่ในตำแหน่งคู่หมั้น สองปีกว่ากับการอยู่ในตำแหน่งสามีตามกฎหมาย รวมแล้วร่วมสี่ปีเต็มกับการเฝ้าดูแลเด็กสาวคนหนึ่งให้เติบโตเป็นหญิงสาวแสนสวย และมากความสามารถจนเป็นที่ยอมรับของคนทั่วไปเมื่อก่อนเขาเอาแต่นั่งนับวันเวลาว่าเมื่อไรเธอจะเรียนจบ เพราะอยากตีตราจองเธอเอาไว้ด้วยร่างกาย ไม่ใช่แค่กระดาษแผ่นเดียวตามประสาผู้ชายทั่วไปที่คิดอยากมีสัมพันธ์ลึกซึ้งกับคนรัก ทว่าพอวันเวลาผ่านไป ความคิดของเขาก็ค่อยปรับเปลี่ยนไปทีละนิดตามความผูกพันที่เพิ่มขึ้นระหว่างเขากับเธอเซ็กซ์ไม่ใช่สิ่งจำเป็นที่เขาต้องการจากเธอเพียงอย่างเดียวเหมือนเมื่อก่อน เพราะมันถูกแทนที่ด้วยความรู้สึกมั่นคงในรัก และการรับรู้ถึงการเป็นส่วนหนึ่งขอ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status