Home / โรแมนติก / ปราถนารัก / เรื่องที่จำขึ้นมาได้ 1

Share

เรื่องที่จำขึ้นมาได้ 1

Author: Darann
last update Last Updated: 2025-05-16 15:25:17

เหตุการณ์เมื่อเจ็ดปีก่อน

เรื่องราวที่ผุดขึ้นมาในหัวฉันมันคือเหตุการณ์ตอนที่ฉันเกิดอุบัติเหตุเมื่อเจ็ดปีก่อน เพราะอุบัติเหตุครั้งนั้นมันน่าสะเทือนใจมาก จนฉันเกิดอาการช็อคและลืมมันไป แต่ตอนนี้…ฉันจำเหตุการณ์นั้นได้แล้ว แม้จะจำรายละเอียดทุกอย่างไม่ได้แม่นยำ แต่ฉันจำได้ดีว่าตอนนั้น…ฉันเกิดอุบัติเหตุได้ยังไง? และรู้ด้วยว่าตอนนั้น…แม่กำลังจะพาฉันไปไหน?

ภายในบ้านหลังเล็กของฉัน เดิมทีในบ้านหลังนี้มีกันอยู่สามคน มีพ่อ แม่ และฉัน ครอบครัวเราไม่ใช่ครอบครัวร่ำรวยอะไร แต่ฉันก็รู้สึกอบอุ่นและมีความสุขในบ้านหลังนี้มากๆเลยล่ะ

แต่เมื่อไม่นานมานี้…บ้านที่ควรจะมีกันสามคน กลับหลงเหลือไว้เพียงแค่ฉันกับแม่แค่สองคนเท่านั้น เพราะเมื่อหนึ่งอาทิตย์ก่อน ฉันสูญเสียพ่อไปเพราะอุบัติเหตุทางรถยนต์ การสูญเสียครั้งนี้มันสร้างความทรมานใจให้ฉันกับแม่มาก เราเสียใจมากที่ต้องสูญเสียคนที่รักไปอย่างไม่ทันตั้งตัว ตัวฉันเองก็เสียใจมาก แต่ดูเหมือนว่าคนที่จะเสียใจมากกว่าฉัน…ก็คงเป็นแม่เนี่ยแหละ

ตั้งแต่พ่อเสียไป แม่ก็เอาแต่เก็บตัวอยู่ในห้องไม่ไปไหน นี่ก็ผ่านมาตั้งอาทิตย์หนึ่งแล้ว แต่แม่ก็ยังไม่ออกมาให้เห็นหน้าเลยด้วยซ้ำ ถ้ายังเป็นแบบนี้ต่อไป ฉันกลัว…กลัวว่าแม่จะเป็นอะไรไปอีกคน

ก๊อกๆๆ!! ฉันยืนเคาะประตูหน้าห้องของแม่ พร้อมกับถาดอาหารในมือเอาไว้

“แม่คะ! เกวเอาข้าวมาให้ แม่ทานอะไรหน่อยนะ เดี๋ยวเกววางข้าวไว้หน้าห้อง แม่อย่าลืมออกมากินด้วยนะคะ!”

“…” ฉันไม่รู้เลยว่าแม่ได้ยินมั้ย? เพราะไม่มีเสียงอะไรตอบรับกลับมาจากคนในห้องเลย

ฟึ่บ!! ฉันตัดสินใจก้มลงไปวางถาดข้าวที่เตรียมมาให้หน้าประตูห้อง ก่อนจะถอนหายใจเฮือกใหญ่แล้วหันหลังเดินออกมาจากหน้าห้องของแม่

“เกว~” เดินไปได้สักพักฉันกลับต้องชะงักฝีเท้าด้วยความแปลกใจ เพราะจู่ๆเสียงตะโกนเรียกชื่อฉันของแม่ก็ดังลอดออกมาจากห้อง

“แม่~”

“เข้ามาหาแม่หน่อยสิลูก”

แอ๊ดดด!! ฉันไม่รอช้าที่จะเปิดประตูเข้าไปหาแม่ด้วยความดีใจ ฉันได้ยินเสียงแม่เป็นครั้งแรกในรอบหนึ่งอาทิตย์ที่ผ่านมาเลยนะ เพราะแม่เอาแต่เก็บตัวอยู่แต่ในห้อง ฉันเลยไม่ได้เจอแม่และไม่ได้ยินเสียงของแม่มาตั้งแต่นั้นมาเลยล่ะ

“แม่คะ!” ฉันร้องเรียกแม่พลางกวาดสายตาไปทั่วห้องเพื่อตามหาคนเป็นแม่ ก่อนจะเห็นว่าคนที่ตามหากำลังนั่งส่งยิ้มหวานมาให้ฉันอยู่บนเตียง

“มานั่งใกล้แม่สิลูก!”

ฟุ่บ!! ฉันเดินเข้าไปนั่งลงบนเตียงข้างๆแม่อย่างว่าง่าย

“แม่…ดีขึ้นแล้วใช่มั้ยคะ?” ฉันถามออกไปด้วยความเป็นห่วง

“แม่ไม่ได้เป็นอะไรสักหน่อยนะเกว” แม่พูดพลางยกมือขึ้นมาลูบผมฉันอย่างเบามือ

แม้คนเป็นแม่จะพูดแบบนั้น ทั้งยังยกยิ้มมุมปากมาให้ฉันอีกด้วย แต่แววตาของแม่กลับเศร้าหมองอย่างเห็นได้ชัด

“แม่~” ฉันพูดอะไรไม่ออกเลย แค่เห็นแม่เศร้าฉันก็อดเศร้าใจตามแม่ไม่ได้จริงๆ ฉันรู้ว่าแม่เสียใจมาก แต่ฉันก็ไม่อยากให้แม่จมปลักอยู่กับความเศร้านี้มากจนเกินไป มากเกิน…จนอาจจะทำร้ายตัวแม่ได้

“เกว แม่มีของจะให้ลูกด้วยนะ”

“ของ? ของอะไรเหรอคะ?”

ฟึ่บ!! แม่ไม่ตอบอะไร แต่กลับยิ้มมาให้ฉันอย่างเดิม แล้วลุกขึ้นเดินตรงไปหยิบเสื้อตัวหนึ่งที่ถูกแขวนเอาไว้หน้าตู้เสื้อผ้าใกล้ๆตัว

“แม่เตรียมชุดสวยๆไว้ให้เกวเปลี่ยนด้วยนะ” แม่พูดพลางยื่นชุดเดรสตัวยาวสีขาวลายลูกไม้น่ารักมาให้ฉัน

ทันทีที่เห็นเดรสสีขาวในมือแม่ ความรู้สึกแปลกใจและสงสัยก็ผุดขึ้นมาในหัวฉัน …ชุดเดรสที่แม่กำลังยื่นมาให้ฉัน มันเหมือนกับชุดเดรสที่ถูกสวมอยู่บนตัวแม่ไม่มีผิด

จะว่าไป…เหมือนว่าฉัน…จะสังเกตเห็นความผิดปกติบนตัวแม่ได้หลายอย่างเลยล่ะ ทั้งชุดเดรสสีขาวตัวยาวที่แม่สวมอยู่ มันไม่ใช่สไตล์เสื้อผ้าที่แม่ชอบเลย ไหนจะสไตล์การแต่งหน้าที่ผิดแปลกไปจากวันปกติ นี่ก็ไม่ใช่สไตล์การแต่งหน้าที่แม่เคยแต่งอยู่ประจำ ผมสีน้ำตาลเข้มที่ถูกดัดลอนยาวสลวย และแม่…ไม่ชอบดัดหรือลอนผมเลย แต่วันนี้แม่กลับทำในสิ่งที่ตัวเองไม่ชอบและไม่เคยทำมาก่อน ฉันไม่ได้จะบอกว่าไม่สวยหรอกนะ แต่เพราะมันสวยมากไงล่ะ มันถึงได้ดูผิดปกติ

หนึ่งอาทิตย์ก่อน แม้กระทั่งเมื่อไม่กี่ชั่วโมงก่อนฉันยังได้ยินเสียงร้องไห้ของแม่อยู่เลย แต่ตอนนี้แม่กลับแต่งตัวสวย และยิ้มแย้มออกมาได้ซะงั้น แม้ว่าแววตาของแม่จะไม่ได้ยิ้มตามเลย แต่รอยยิ้มที่ผุดออกมามันแปลกมาก ดูไม่ปกติเลยจริงๆ

“วันนี้ทำไมแม่ถึง…แต่งตัวสวยจังเลยล่ะคะ?”

ฟึ่บ!! แม่ยิ้มออกมาก่อนจะยกมือขึ้นมาลูบหัวฉันอีกครั้ง แต่ครั้งนี้รอยยิ้มและน้ำเสียงของแม่มัน…ดูแปลกไป แปลก…จนฉันแอบขนลุกขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก

“ก็วันนี้…เป็นวันสำคัญของเราไงเกว~”

“วัน…สำคัญ? หมายถึง…วันเกิดเหรอคะ?” วันสำคัญที่แม่ว่าคือวันอะไรกันนะ? ไม่ใช่วันเกิดฉันแน่ๆ เพราะวันเกิดฉันเพิ่งผ่านไปเมื่ออาทิตย์ที่แล้วนี่เอง วันเกิดของฉัน…คือวันเดียวกันกับที่พ่อเสียชีวิต เพราะงั้นไม่ใช่วันเกิดฉันแน่ๆ วันเกิดแม่ก็ไม่ใช่เหมือนกัน แล้ววันสำคัญที่ว่า…คือวันอะไรล่ะ?

“ฮ่าๆๆ! ไม่ใช่สักหน่อยลูก ไม่ใช่วันเกิดหรอก” จู่ๆแม่ก็หัวเราะออกมาด้วยสีหน้าแปลกๆ แววตาของแม่ดูแปลกไปจากปกติมาก เป็นแววตาที่ดูแข็งกร้าวปนเศร้าๆแปลกๆ แม่ของฉันมักจะมองมาที่ฉันด้วยแววตาที่อ่อนโยนอยู่เสมอ แต่นี่ไม่ใช่! ตอนนี้แม่…ดูไม่เหมือนแม่คนเดิมเลย

“ถ้าไม่ใช่วันเกิด แล้ว…มันคือวันอะไรเหรอคะ?”

ขวับ!! แม่ไม่ตอบฉันอีกแล้ว แต่แม่กลับวางชุดเดรสไว้ใกล้ตัวฉัน แล้วหันหลังเดินตรงไปยังลิ้นชักหน้าโต๊ะเครื่องแป้งที่อยู่อีกฝั่งของเตียง ฉัน…มองตามแผ่นหลังของแม่ไปอย่างไม่ละสายตาด้วยความสงสัยและประหลาดใจ ในท่าทีที่เปลี่ยนไปของแม่

ครืดดด!! ฉันเห็นแม่เดินไปหยุดอยู่หน้าโต๊ะเครื่องแป้ง ก่อนจะได้ยินเสียงเปิดลิ้นชักดังขึ้นตามมา

“วันนี้เรา…จะไปหาพ่อกันไง~”

ขวับ!! ฉันเบิกตาโพลงขึ้นมาด้วยความตกใจ เมื่อเห็นแม่หันกลับมาพร้อมกับเข็มฉีดยาขนาดเล็กในมือ และฉันยิ่งเตลิดเข้าไปใหญ่ เมื่อเริ่มเข้าใจในคำพูดที่แม่พยายามจะสื่อก่อนหน้านี้

ไปหาพ่องั้นเหรอ? เราจะไปหาพ่อกันได้ยังไง? ในเมื่อพ่อ…ในเมื่อพ่อ…จากพวกเราไปแล้ว

ฟุ่บ!! ร่างกายของฉันมันขยับตัวลุกขึ้นเดินถอยหลังหนีคนเป็นแม่โดยทันที

“แม่~ แม่…จะทำอะไร…อั้ก!”

ฉึก!! เหมือนว่าฉันจะช้ากว่าคนเป็นแม่ไปแค่นิดเดียว ทันทีที่แม่เห็นว่ามันลุกขึ้นออกมาจากเตียง แม่ก็รีบวิ่งตรู่เข้าหาฉัน แล้วแทงเข็มที่อยู่ในมือเข้ามาที่ต้นแขนของฉันอย่างจังจนฉันร้องออกมาด้วยความเจ็บปวดร้าวไปทั่วต้นแขน

“เกว ฮึก! เราไปหาพ่อกันเถอะลูก พ่อกำลังรอเราอยู่นะเกว!”

“แม่! ฮึกๆ แม่…ทำแบบนี้ทำไม? ฮึกฮือออ” น้ำตามันไหลพรั่งพรูออกมาอย่างห้ามไม่อยู่ ทั้งกลัว ทั้งเสียใจ และสับสนงงงวยกับการกระทำที่ขาดสติของคนเป็นแม่ไปหมด

ฉันรู้ว่าแม่เสียใจ ฉันเข้าใจว่าแม่กำลังเศร้าที่ต้องสูญเสียพ่อไป แต่ทำไม…ทำไมแม่ไม่นึกถึงใจฉันเลย

ตุบ!! ไม่รู้ว่าเป็นเพราะฤทธิ์ยาที่ถูกฉีดเข้ามาเมื่อกี้หรือเปล่า แต่จู่ๆร่างกายฉันเริ่มอ่อนแรงลงทันควัน จนฉันล้มลงไปนั่งกองอยู่กับพื้น ดวงตาทั้งสองข้างของฉันก็พร่ามัวขึ้นมา เหมือนว่าสติของฉัน…ก็จะเริ่มเลือนลางลงไปทุกที

“ฮึกๆ แม่ขอโทษนะเกว ฮึก แม่พยายามแล้ว แต่ทุกอย่างมันก็สูญเปล่าหมดเลย ฮึก แม่เสียใจจริงๆที่ช่วยพ่อไม่ได้ ฮึกๆ แม่เสียใจ แม่อยู่ไม่ได้ถ้าไม่มีพ่อ ฮึก แม่ขอโทษเกว เรา…ไปหาพ่อกันเถอะนะลูก” แม่พูดอะไรของแม่น่ะ ฉันไม่เข้าใจเลยสักนิด

“แม่~ อะฮึกๆ มะ…แม่~” ฉันที่นอนอ่อนแรงอยู่บนพื้นพยายามร้องเรียกหาแม่ด้วยน้ำเสียงที่แผ่วเบา และน้ำตาก็ค่อยๆไหลออกมาอาบแก้มอย่างหยุดไม่อยู่ อีกทั้งสติที่เหลืออันน้อยนิดของฉันก็พลันมลายหายไปจนสิ้น

ภาพสุดท้ายที่ฉันเห็นก่อนที่สติจะหายไป คือภาพของแม่ที่กำลังนั่งคุกเข่าร้องไห้อยู่ข้างกายฉันไม่ห่าง

ฉัน…รู้ว่าแม่กำลังเสียใจ ฉันรู้ว่าแม่รักพ่อมาก และรู้ว่าแม่คงอยู่ไม่ได้ถ้าไม่มีพ่อ แต่…แม่ยังมีฉันนะ แม่ไม่เคยรักฉันบ้างเลยเหรอ? ทำไมแม่ถึงไม่คิดถึงฉันบ้าง? ทำไม…ทำไมแม่ถึงทำกับฉันแบบนี้?!!

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ปราถนารัก   ตอนจบ

    [คิมหันต์]“คุณคิมหันต์!! มาดูนี่เร็ววว~” เสียงของคนตัวเล็กที่ยืนอยู่ริมทะเลหันมาร้องเรียกผมพร้อมกับรอยยิ้มที่สดใส“หึๆ” ผมที่ที่กำลังเดินอยู่ก็รีบเร่งฝีเท้าเดินเข้าไปหาเกวลินโดยทันที พร้อมกับหิ้วไก่ทอดที่ซื้อมาก่อนหน้านี้ติดมือมาด้วย ตามคำสั่งของคนตัวเล็ก“คุณคิมหันต์ พระอาทิตย์ตกสวยมากเลยว่ามั้ยคะ?” พอเดินเข้ามาถึงตัวเกวลินแล้ว เธอก็ยังคงยกยิ้มสดใสออกมาด้วยความสดใส แถมยังกระโดดไปมาดุกดิกด้วยความตื่นเต้นกับวิวพระอาทิตย์ตกริมทะเลตรงหน้าอีกด้วยผมที่ได้เห็นท่าทีของเธอที่น่ารักของเธอ ก็อดไม่ได้ที่จะยกยิ้มออกมาด้วยความเอ็นดู“ไหนว่าจะกลับห้องไง ทำไมถึงพามาที่นี่ล่ะ?” หลังจากออกมาจากห้างก่อนหน้านี้ ผมตั้งใจว่าจะพาเกวลินกลับไปพักที่ห้องของเธอทันที แต่เธอก็ดื้อดึงอ้อนให้ผมพามาดูพระอาทิตย์ตกที่นี่จนได้ แล้วท่าทีตอนที่เกวลินอ้อนผมมันก็ดันน่ารักซะจนผมปฏิเสธเธอไม่ลงเลยจริงๆ“จะกลับเลยได้ยังไงล่ะคะ วันนี้อุตส่าห์ได้พักทั้งที ต้องออกมาเที่ยวซะหน่อยสิ”หมับ!! เกวลินพูดพร้อมกับส่งยิ้มหวานมาให้ผม ขณะเดียวกันเธอก็ยื่นมือตัวเองมาจับมือที่ว่างอยู่ของผมเอาไว้ ก่อนจะพูดอะไรบางอย่างที่ทำให้ผมใจสั

  • ปราถนารัก   แผนเซอร์ไพรส์กลับ

    [เกวลิน]“แน่ใจนะว่าไม่ต้องไปโรงพยาบาล” คุณคิมหันต์ที่ขับรถอยูข้างๆเอ่ยถามคำถามนีเป็นรอบที่สิบได้แล้วมั้ง? หลังจากที่ฉันดีขึ้นแล้ว คุณริมหันต์ก็จัดการเรื่องลางานกับผู้จัดการให้ฉัน แถมยังอาสาพาฉันกลับห้องอีกด้วย และตั้งแต่ที่ออกมามาจากโรงแรม เขาก็เอาแต่ถามย้ำกับฉันอยู่ได้ว่าไม่เป็นไรแน่นะ? ไม่ต้องโรงพยาบาลแน่นะ? ให้ฉันพาไปโรงพยาบาลมั้ย? ถามย้ำรอบที่สิบได้แล้วมั้งน่ะ“เกวไม่เป็นไรแล้วจริงๆค่า แข็งแรงดี สบายใจหายห่วงได้ค่ะ”“ถ้างั้นกลับห้องไปก็พักผ่อนให้เต็มที่่นะ”“เอ่อ คือว่า…ก่อนกลับห้อง เกวมีที่ที่ต้องไปก่อนน่ะค่ะ” จริงๆวันนี้ฉันต้องไปทำธุระสำคัญอย่างหนึ่ง ตอนแรกฉันตั้งใจว่าจะไปคนเดียวด้วยซ้ำ แต่คุณคิมหันต์ก็ดื้อดึงจะไปส่งฉันให้ได้ ฉันปฏิเสธเขาไม่ได้เลยจริงๆ เลยต้องยอมให้เขามาส่งให้จนได้“ไว้รอหายดีก่อนแล้วค่อยไปวันหลัง วันนี้เธอต้องกลับไปพักก่อน”“ไม่ได้ค่ะ เกวต้องไปทำธุระสำคัญมากๆ ต้องไปวันนี้เท่านั้นค่ะ”“ฉันไม่ให้ไป” คนตัวสูงข้างๆเอ่ยออกมาอย่างเด็ดขาด“คุณคิมหันต์! นี่คุณจะเห็นแก่ตัวเกินไปแล้วนะ ฉันไปแค่แปบเดียว คุณแค่ไปส่งฉันแล้วนั่งรออยู่บนรถก็ได้”“ธุระอะไรจะสำคัญไป

  • ปราถนารัก   เป็นห่วง

    [คิมหันต์]พรึ่บ!! ผมค่อยๆลืมตาขึ้นมาอย่างช้าๆ ก่อนที่จะต้องหรี่ตาลงเมื่อแสงที่เล็ดลอดผ่านผ้าม่านสอดส่องเข้ามากระทบกับดวงตา และเมื่อปรับสายตาให้คงที่ได้แล้ว ผมถึงได้รู้ว่าตัวเองยังคงนอนอยู่ใขอบนเตียงในห้องพักของเกวลินเหมือนเดิมเพียงแต่ตอนนี้ที่ข้างๆที่เคยมีเกวลินนอนอยู่ด้วย กลับเหลือไว้เพียงแค่รอยยับที่ว่างเปล่าเท่านั้นเกวลิน…ยัยนั่นทิ้งผมไปอีกแล้วเหรอเนี่ย?ฟุ่บ!! ผมลุกขึ้นมาจากเตียงนอน ก่อนจะเดินตรงเข้าไปในห้องน้ำเพื่อล้างหน้าล้างตา แต่เมื่อก้าวเข้าไปในห้องน้ำแล้ว บางสิ่งบางอย่างอยู่ในนั้นกลับทำให้ผมแปลกใจขึ้นมาบนกระจกในห้องน้ำมีกระดาษอยู่สามแผ่นแปะเรียงกันไว้อย่างเป็นแถวเลยล่ะฟึ่บ! ผมเอื้อมมือไปหยิบกระดาษโน้ตแผ่นที่แปะอยู่บนกระจกห้องน้ำมาอ่าน‘เกวต้องออกไปทำงานแต่เช้าเมื่อคืนคุณดูเหนื่อยมากเกวเลยไม่อยากปลุก ขอโทษที่ปล่อยให้อยู่คนเดียวนะคะ’“หึ! ใครกันแน่ที่เหนื่อย” ผมยกยิ้มขึ้นมาอย่างพอใจทันทีที่ได้อ่านข้อความที่เกวลินทิ้งไว้ให้ฟึ่บ!! จากนี้ก็หยิบกระดาษโน้ตใบที่สองขึ้นมาอ่านต่อ‘คุณอาบน้้ำแปรงฟันก่อนได้นะคะ เกวแขวนเสื้อผ้าที่คุณพอจะใส่ได้ไว้ให้ที่ตู้แล้ว’ผมอดไม่ไ

  • ปราถนารัก   เป็นลม

    วันต่อมาณ โรงแรมพาวิลงเลียน“อ้าวเกว” เสียงของรินณ์เอ่ยทักขึ้นทันทีที่รินณ์เดินเข้ามาในห้องพักพนักงาน ซึ่งมีฉันที่นั่งอยู่ก่อนหน้าแล้ววันนี้ฉันตั้งใจออกจากห้องมาแต่เช้า เช้าถึงขนาดที่คุณคิมหันต์ยังไม่ตื่นเลยด้วยซ้ำ “ไงรินณ์”“ทำไมมาเช้าจังอ่ะ วันนี้เกวเข้างานกะบ่ายไม่ใช่เหรอ?”“อ่อ เราแลกเวรกับพี่แอนอ่ะ พอดี…ตอนเย็นเรามีธุระต้องไปทำธน่ะ” ใช่แล้วล่ะ! จริงๆ วันนี้ฉันเข้างานกะบ่าย แต่ช่วงเย็นวันนี้ฉันมีที่ที่ต้องไปน่ะ เลยแลกเวรกับพี่แอนไว้“ไปไหนอ่ะ? หรือว่า…ไปเดทเหรอ?” รินณ์ยิ้มกรุ้มกริ่มพลางเดินเข้ามากระซิบใกล้ฉัน อะไรกัน? ยิ้มแบบนี้หมายความว่าไงเนี่ย?“ดะ เดทอะไรกันเล่า? ไม่ใช่ซะหน่อย” “เอ้า! ไม่ใช่หรอกเหรอ แต่เมื่อคืนเราเห็นน้า ผู้หญิงชุดฟ้าที่เดินควงแขนกับคุณคิมหันต์” รินณ์เข้ามานั่งใกล้ๆ ก่อนจะเขยิบมากระซิบข้างๆหู“นี่รินณ์เห็นด้วยเหรอ?0_0!” ฉันถึงกับเบิกตาโพลงออกมาด้วยความตกใจ ไม่คิดว่าเมื่อคืนจะมีคนเห็นฉันกันคุณคิมหันต์ด้วย นี่ขนาดแอบย่องออกไปตอนไม่มีคนแล้วน่ะเนี่ย ยังมีคนเห็นอีกเหรอเนี่ย? “อื้ม เมื่อคืนเราอยู่ทำโอทีน่ะ”“นอกจากรินณ์แล้ว…”“ไม่ต้องห่วงหรอก เมื

  • ปราถนารัก   ทำให้หายโกรธ nc 20++

    “อื้มมม~” เสียงครวญครางของเราสองคนดังลั่นไปทั่วทั้งห้องพักของฉัน เพราะรสจูบที่ร้อนแรงเกินกว่าจะต้านทานของกันและกัน เรียวลิ้นที่สอดประสานกันไปมาของเราสองคน มันเต็มไปด้วยความรุ่มร้อน แต่ก็แฝงไปด้วยความปรารถนาที่เหลือล้น ยิ่งเวลาผ่านไปนานเท่าไร ฉันก็ยิ่งรู้สึกว่าริมฝีปากของคนตัวสูงยิ่งหอมหวานน่าช่วงชิมมากกว่าเดิมขึ้นไปเรื่อยๆหมับ!! ฉันเอื้อมมือออกไปค้วาท้ายทอยของคนตัวสูงเหนือร่างลงมากอดไว้แน่น เพื่อให้เราสองคนแลกเปลี่ยนรสจูบจากกันและกันได้แนบแน่นกันมากยิ่งขึ้น“อื้อออ~” ดูเหมือนว่าจะไม่ได้มีแค่ฉันคนเดียวที่ต้องการสัมผัสจากคุณคิมหันต์ เขาเองก็คงจะรู้สึกเช่นเดียวกันกับฉัน ฉันส่งเสียงครวญครางผ่านลำคอออกมาด้วยความเสียวซ่าน เมื่อคนตัวสูงเลื่อนไล้มือหนาของตัวเอง ลงไปสัมผัสกับกลีบกุหลาบที่ซ่อนตัวอยู่ใต้กางเกงนอนของฉัน ในขณะที่ปากของเขาก็ยังคงดูดเม้ม ช่วงชิมรสหวานจากปากของฉันอย่างไม่ลดละ“อื้อ!!~” ฉันเริ่มจะทนกับความเสียวซ่านที่ถูกกระตุ้นทั้งช่วงบน และช่วงล่างไม่ไหวแล้ว จนต้องส่งเสียงร้องประท้วงผ่านลำคอออกมาเพื่อให้เขาปล่อยส่วนใดส่วนหนึ่งซะที ก่อนที่ฉันจะทนไม่ไหวจนขาดใจตายไปซะก่อน“อึก!

  • ปราถนารัก   ทำให้หายโกรธ

    หลังจากที่คุณคิมหันต์บุกเข้ามาหาถึงห้อง แล้วขอนอนค้างด้วย ตอนนี้เขา…กำลังนอนอยู่บนเตียงข้างๆฉันถึงแม้ว่าคุณคิมหันต์จะนอนก่ายหน้าผากอยูข้างฉัน แต่เขากลับไม่เอ่ยปากคุยอะไรกับฉันต่อเลยแม้แต่คำเดียวนี่เขา…กำลังไม่พอใจฉันอยูแน่ๆเลย“คุณคิมหันต์ หลับรึยังคะ?” ฉันรู้ว่าเขายังไม่หลับแน่ๆ“หลับแล้ว” หลับแล้วเขาจะตอบฉันได้ยังไงล่ะ?“คุณ…โกรธเกวเหรอคะ?”“…” สิ้นสุดคำถามของฉัน ก็ไม่มีเสียงตอบรับใดๆจากคนข้างๆอีกเลย“เกวขอโทษนะคะ ที่ทิ้งคุณไว้ที่ร้านอาหารคนเดียว”“…” คราวนี้ก็ยังเงียบเหมือนเดิม“เกวแค่กลัวที่จะเผชิญหน้ากับความจริงน่ะค่ะ”“เกวลิน…”“คะ?”“รู้ใช่มั้ย…ว่าฉันรักเธอ?” คุณคิมหันต์ที่เอาแต่หลับตาในตอนแรก ตอนนี้เขากลับลืมตาหันมามองฉันที่อยู่ใกล้ๆ ด้วยแววตาที่อ่อนโยน“…รู้ค่ะ” ฉันจ้องมองเข้าไปในดวงตาของเขา พลางเอ่ยคำตอบที่รู้ดีอยู่แก่ใจออกไปอย่างลึกซึ้ง“แล้วเธอล่ะ?” คำถามที่คาดไม่ถึงจากคนตัวสูงตรงหน้า ทำฉันอึ้งจนอ้าปากค้าง ทำไมเขาถึงถามแบบนี้ออกมาได้“รักสิคะ เกวรักคุณมากๆค่ะ”“ถ้างั้น…อย่าทิ้งฉันไปอีกได้มั้ยเกว?” คำถามที่เอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือของคนตรงหน้า บวกกับ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status