บ่ายวันนี้ ในออฟฟิศมีคนนั่งอยู่ไม่กี่คน เพราะทีมออกแบบ เขายกทีมปิดห้องประชุมคุยกันเคร่งเครียดมากเลย จะไม่ให้เครียดได้อย่างไรก็โปรเจคที่กำลังดำเนินการอยู่ถูกคุณลูกค้าตัวดีมาขอเปลี่ยนคอนเซปใหม่หมด แบบว่ารื้อทำใหม่ทั้งเครื่องเลย แต่ต้องส่งงานตามเดิมนะ นี่แหละคุณพระเจ้าอย่างแท้จริง ยังดีที่ให้เพิ่มราคาในส่วนที่เปลี่ยนแปลงและให้ชาร์จค่าเสียเวลาค่าเร่งด่วนได้ แต่ก็นั่นอีกนั่นแหละ มันแทบจะไม่คุ้มเหนื่อยค่าปวดหัวเลยให้ตายสิ
ในตอนแรกผมก็เข้าไปร่วมประชุมกับพวกเขาด้วยเพราะจะได้เก็บข้อมูลไปช่วยเคลียร์กับลูกค้าให้ แต่พอเริ่มเข้าเนื้อหาทางเอ็นจิเนียริ่ง ผมก็รู้ตัวแล้วว่า ผมคงไม่เหมาะที่จะอยู่ด้วยในเวลานี้ เพราะคงช่วยอะไรใครไม่ได้ เว้นเสียแต่ว่า คอยให้เป็นกำลังใจใครบางคน แต่เขาก็ไม่ได้เอ่ยปากขอจากผมนี่นา ผมมองนาฬิกาซึ่งตอนนี้ก็ปาเข้าไปจะบ่ายสามแล้ว ยังไม่มีใครออกจากห้องประชุม ผมก็เลยตัดสินใจโทรไปสั่งน้ำและขนมเอามาเติมพลังให้หนุ่มหนุ่ม พอน้ำขนมมาส่งผมค่อยๆ เปิดประตูห้องประชุมเข้าไป แล้วทุกสายตาก็หันมาจ้องมองที่ผมแบบนิ่งนิ่ง สงสัยว่าผมคงจะเข้ามาผิดเวลาหรือเปล่านะ ผมรีบส่งรอยยิ้มที่คิดว่าหวานที่สุดเข้าไปแจกให้ทุกคน“พักกินน้ำกินขนมก่อนมั้ยครับทุกคน มีหลายอย่างให้เลือกเลยนะครับ เติมพลังเพิ่มความสดชื่นกันนิดนึง”
“...”เอ่อ...เงียบ ทุกคน ยังคงนิ่งและเงียบ“ฮือ.. พี่ณัฏฐ์มาได้จังหวะพอดีเลยครับ ผมมึนไปหมดแล้ว เราพักกันสักแป๊บนึงนะครับพี่วิน”พอกอล์ฟพูดจบ นาวินก็พยักหน้า“งั้น เราเบรคกันสัก 15 นาทีแล้ว”นาวินพูดจบก็เดินมาทางผม
“เอ่อ.. คือ ผมเห็นว่าทุกคนกำลังเครียด ถ้าได้เบรคกินน้ำกินขนม น่าจะทำให้สมองแล่น คิดงานออกไงครับ”ผมรีบอธิบายให้คนที่ทำหน้านิ่งจ้องหน้าผมฟัง
“ป้อนผมหน่อยสิ”“ห๊ะ.. อะไรนะ”“นะ .. นะ”นี่นาวินเขามาอารมณ์ไหนอีกเนี่ย เมื่อกี้ยังทำหน้านิ่ง หน้ายักษ์อยู่เลย ตอนนี้มาอ้อนให้ผมป้อนขนมเนี่ยนะ คนก็เต็มห้อง ผมหยิบขนมปังส่งให้ แล้วผมก็ต้องตกใจเมื่อเขายื่นมือมาจับที่ข้อมือผม แล้วก้มมากินขนมปังจากมือผม ผมทั้งเขิน ทั้งตกใจ หน้าร้อนวูบวาบไปหมดเลย“ทำอะไรเนี่ย .. คนอยู่กันเต็มห้องเลย”ผมดุไปเบาเบา
“พี่สองคนทำอะไรกันหน่ะ ผมเห็นนะ”“ก็กินขนมปัง”นาวินตอบกอล์ฟไปด้วยน้ำเสียงราบเรียบ
“แล้วทำไมพี่วินต้องจับมือพี่ณัฏฐ์มาป้อนด้วยอ่ะ”“ก็มือมันเปื้อน จะให้หยิบกินได้ยังไง นายมีปัญหาหรือเปล่ากอล์ฟ”กอล์ฟเมินหน้าแล้วมองมาทางผม
“พี่ณัฏฐ์... ป้อนผมบ้างสิ”นั่นงัยเจ้ากอล์ฟหันมาอ้อนผมบ้างแล้ว และผมก็ยังไม่ทันได้พูดอะไร นาวินก็คว้ามือผมที่ยังมีขนมปังอีกครึ่งชิ้นป้อนเข้าปากตัวเองหน้าตาเฉย แล้วหันไปยิ้มยั่วใส่กอล์ฟ อีก“พี่วินอ่ะ”กอล์ฟเตรียมจะโวยวาย แต่ยังไม่ได้ส่งเสียงต่อ ก็มีขนมปังลอยมาอุดปากไว้“เอ้านี่ กูป้อนเอง กินให้หมดนะ”แม๊กซ์จับขนมปังยัดเข้าปากกอล์ฟ“มึงทำอะไรของมึงเนี่ย กูไม่ได้อยากกินจากมึงปะวะ กูจะให้พี่ณัฏฐ์ป้อน”“แล้วมึงถามพี่ณัฏฐ์เขาหรือยัง ว่าพี่เขาอยากป้อนมึงหรือเปล่า กินกินไปเหอะน่า”แม๊กซ์ตีกับกอล์ฟจบก็หันมาคุยกับผม“พี่ณัฏฐ์เนี่ย นางฟ้าชัดชัด เข้ามาได้จังหวะพอดีเลย พวกผมหัวกำลังตื้อคิดอะไรไม่ออกเลยครับ”“พี่ก็อยากมีส่วนช่วยทีมเราบ้างอ่ะ เห็นพวกเราเหนื่อยกัน แต่พี่ก็ไม่ได้เป็นเอ็นจิเนีย งั้นพี่ขอคอยซัพพอร์ตอยู่ใกล้ๆ ละกันนะ อยากให้พี่ช่วยอะไรบอกได้เลย”ผมพูดจบแล้วหันไปชูสองนิ้วและยิ้มให้ทุกคน“สู้สู้นะทุกคน อยากได้อะไรเรียกได้เลย”พูดจบผมก็หันหลังกำลังจะก้าวออกจากห้อง แล้วก็มีเสียงนึงพูดตามหลังมา“อยากได้กำลังใจอ่ะ ..”ถ้าเป็นเสียงเจ้ากอล์ฟ ผมจะไม่ว่าไรเลย แต่นี่เป็นเสียงนาวิน บ้าไปแล้ว เดี๋ยวนี้กล้าพูดแบบนี้ต่อหน้าทุกคนได้อย่างไร“ฮิ้ววววว.... พี่วิน พี่แม่งได้อ่ะ”แม๊กซ์ตะโกนออกมาอย่างชอบใจ“อ้าว... เขาว่าอยากได้อะไร ก็บอก ก็ตอนนี้ผมอยากได้กำลังใจ ผมก็พูดออกมาแล้วมันผิดตรงไหน”เสียงเรียบแต่หน้าตาเจ้าเล่ห์มาก“โห .. พี่วินเล่นแบบนี้เลยเหรอ แซงหน้าผมอีกล่ะ”กอล์ฟโอดครวญ“มานี่เลย เดี๋ยวกูกอดให้กำลังใจมึงเอง กอล์ฟเพื่อนรัก”
แม็กซ์เข้ามาโอบไหล่กอล์ฟ พร้อมกับหันหน้ามาทางนาวิน แล้วทำหน้าบุ้ยใบ้ส่งสัญญาณอะไรกันสองคน ไม่ทันไร นาวินก็คว้าข้อมือผมแล้วกระตุกเข้าหาตัวเองเบาเบา แต่ด้วยที่ผมยังไม่ทันได้ตั้งตัว ทำให้ผมเซถลาเข้ามาซบที่หน้าอกของนาวินเต็มเต็ม นาวินกระชับกอดผม“อุ้ย..”ผมร้องด้วยความตกใจ“พี่หน้าแดง พี่เขินผมเหรอ”นาวินกระซิบเบาเบาพอให้ได้ยินกันสองคน แล้วยื่นหน้ามาซะใกล้จนผมตกใจรีบดันตัวเองออกมา ก่อนที่เขาจะทำอะไรรุ่มร่ามอีก“นี่จะบ้าเหรอ ทำอะไรเนี่ย”ผมรีบวิ่งออกจากห้องไปอย่างรวดเร็วด้วยความอายนาวินได้แต่อมยิ้ม แค่นี้เขาก็มีกำลังใจในทำงานต่อแล้ว นาวินหันกลับไปก็เจอแม็กซ์กับกอล์ฟ ยืนยกนิ้วโป้งให้“พี่วิน .. เห็นนิ่งนิ่งแบบนี้นะ บทจะรุกก็รุกใช้ได้เลยนะครับ ผมยอมแพ้แล้ว”กอล์ฟพูดเสียงอ่อย แล้วทำหน้างอ“พี่ก็เลียนแบบเรานั่นแหล่ะ จะถอดใจแล้วเหรอ”“ไม่ถอดก็ต้องถอดแล้วพี่วิน เจอคู่แข่งแบบพี่วิน กอล์ฟมันก็แพ้ตั้งแต่ยังไม่ออกจากบ้านแล้วอ่ะพี่ เป็นกอล์ฟก็ลำบากหน่อยนะ ฮ่าฮ่าฮ่า”“มึงไม่ต้องมาเยาะเย้ยกูเลย แม็กซ์”“เอ่อ.. ตกลงแล้วพี่วินจีบพี่ณัฏฐ์เหรอครับ แล้วพี่ณัฏฐ์เข้ารับพี่เป็นแฟนหรือยัง”แม็กซ์ถามนาวินออกไป แต่นาวินก็ไม่ตอบ
“พอ พอ มาคุยงานกันต่อ แล้วจะได้รีบไปเคลียร์ส่วนของตัวเอง กอล์ฟเดี๋ยวนายไปแก้ไขส่วนเมนยูนิตมานะ ส่วนแม็กซ์นายก็ไปเขียนระบบเคลื่อนที่และดูเรื่องอินเตอร์ล็อคต่างๆ ให้ใหม่ด้วย เสร็จแล้วมาคุยกันอีกที”นาวินพอได้ยินแม็กซ์ถามเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างผมกับคนพี่ซึ่งอันที่จริงแล้วผมไม่เคยบอกเขาเลยว่า ผมจะจีบ หรือ ขอเขาเป็นแฟน แต่ผมแสดงออกซะขนาดนี้เจ้าตัวคงเข้าใจความหมายของผมแล้วหล่ะนะ คิดมาคิดไปผมว่าผมข้ามขั้นไปเยอะแล้ว ยังไม่ทันขอจีบขอเป็นแฟน แต่ผมก็เผลอตัวจูบและกอดเขาไปแล้วสิ อย่างนี้จะเรียกว่า “แฟน” กันได้หรือยังนะ
เวลาก็ล่วงเลยไปจนถึงห้าโมงเย็นได้เวลาเลิกงานแล้ว หนุ่มๆ ทีมงานวิศวกรออกแบบก็ยังไม่มีวี่แววจะออกจากห้องประชุม ในห้องทำงานคนเริ่มบางตา เพราะส่วนหนึ่งได้ทะยอยกลับบ้านกันแล้ว จะเหลือก็แต่อีกส่วนที่ทำโอทีล่วงเวลาต่อ สำหรับณัฏฐ์ก็ยังคงนั่งทำงานเคลียร์เมลล์เคลียร์เอกสารต่างๆ รอหนุ่มๆ ในห้องประชุม
ณัฏฐ์มองไปยังห้องประชุมที่ประตูยังคงปิดสนิท ไม่มีวี่แววว่าจะมีใครออกมาสักคน ‘ดีนะที่จัดขนมเบรคส่งไปให้ไม่งั้นคงหิวกันแย่เลย’ ณัฏฐ์คิดในใจแล้วก็อมยิ้มกับตัวเอง เขายังคงนั่งหาอะไรทำรอคนในห้องประชุมจนเพลิน
“พี่ณัฏฐ์ยังไม่กลับหรือคะ สองทุ่มแล้วนะ”
“สองทุ่มแล้วหรือ เดี๋ยวพี่รอทีมงานก่อนครับ กลับบ้านดีดีนะ”
น้องแอดมินประจำแผนกทักทายผมก่อนที่จะกลับบ้านหลังจากเลิกโอที ผมหันไปมองนาฬิกามันก็สองทุ่มแล้วจริงด้วย ทีมงานผมยังไม่ออกมากันเลย ผมควรจะกลับก่อนดีมั้ย หรือว่าจะอยู่รอ ใช่สิ ผมพึ่งบอกว่าจะคอยซับพอร์ตพวกเค้าไง งั้นผมเข้าไปดูพวกเขาหน่อยดีกว่า ในขณะที่ผมกำลังจะไปเปิดประตูเข้าไปก็เป็นจังหวะเดียวกันกับที่ประตูถูกเปิดมาพอดี ปับ ผมผวาหน้าคะมำเข้า ดีนะที่มีคนมือไวรับผมไว้ทัน“อุ๊บบ”“เจ็บตรงไหนมั้ย ผมไม่ได้ตั้งใจ”
“ไม่ ไม่ ไม่เจ็บ แค่ตกใจ ปล่อยก่อน”
ยิ่งบอกให้ปล่อย นาวินก็ยิ่งกระชับกอดให้แน่นไปอีก โดยไม่เกรงใจสายตาลูกทีมของตัวเองอย่างกอล์ฟและแม๊กซ์เลย
“พี่ยังไม่กลับ นี่คือพี่รอผมใช่มั้ย เพราะเป็นห่วงผมใช่เปล่า”“ไม่ใช่สักหน่อย ก็แค่ทำอะไรเพลินๆ อ่ะ และตอนนี้ก็จะกลับแล้ว”“ไป งั้นกลับด้วยกัน ไปส่งผมด้วยนะ”“อืม”“มันดึกแล้ว พี่ไม่ต้องกลับห้องหรอก ค้างกับผมนะ”“ดึกตรงไหนกัน นี่แค่สองทุ่มกว่าเอง ส่งนายเสร็จก็ยังไม่สามทุ่มเลย”“ไปกินข้าวก่อนนะ ผมหิว”เปลี่ยนเรื่องเก่งจริงนะพ่อคุณ สุดท้ายหลังจากกินข้าวเสร็จ ผมก็ทนลูกอ้อนของคนน้องไม่ไหว จึงต้องยอมเดินตามเขาขึ้นห้องไป พอผมเอากระเป๋าวางไว้บนโต๊ะ นาวินก็เข้ามาสวมกอดผมจากข้างหลังแล้วเอาคางมาวางบนไหล่ผม“ขอกอดหน่อย”“ตอนที่อยู่ที่บริษัทก็กอดไปแล้วไง จะกอดอะไรอีก”“ผมเหนื่อยจัง ขอกำลังใจอีกหน่อยนะ”นาวินยังคงกอดผมอยู่ ผมเผลอเอามือเอื้อมไปลูบหัวเขาเบาเบา“ขออยู่แบบนี้ก่อนนะครับ ขอชาร์จพลังหน่อย”นาวินกอดผมค้างไว้แบบนั้น เอาจริงผมก็รู้สึกดีกับอ้อมกอดของเขานะ มันอบอุ่น อ่อนโยน และรู้สึกปลอดภัย ไม่ใช่เพียงแค่เขาได้ชาร์จพลังนะ แต่ผมก็รู้สึกได้ว่าผมได้รับพลังชาร์จกลับเข้ามาเช่นกัน“พี่รู้มั้ย ว่าพี่เนี่ยเป็นเหมือนแบตเตอรี่ประจำตัวผมเลย พอเหนื่อยๆ แล้วได้กอดพี่มันก็หายเหนื่อยเลย”
เสียงเบาเบาที่พูดออกมา กับลมหายใจอุ่นอุ่นที่ผมสัมผัสได้แถวต้นคอและกกหูผม มันทำให้ใจผมเต้นแรงอีกแล้ว และนาวินก็ทำให้หัวใจผมแทบหยุดเต้นอีกครั้ง เมื่อเค้าเริ่มกดจมูกและริมฝีปากของเค้าลงบนท้ายทอยแล้วเลื้อยมาซอกคอของผม“อย่าซนสิ ขอกอดก็กอดเฉยๆ สิ”“งือออ.. งั้นขอจูบด้วยได้เปล่า”“ไปอาบน้ำได้แล้ว จะได้สบายตัว”“แปลว่าถ้าผมไปอาบน้ำแล้ว พี่จะให้ผมจูบใช่มั้ย”นาวินจับผมให้หันหน้าเข้าหากัน ตอนนี้หน้าของเราอยู่ห่างนิดเดียว เขาค่อยโน้มใบหน้าลงมาจนริมฝีปากเกือบสัมผัสกันแล้ว“หยุดเลย เด็กดื้อ”ผมยกมือมากั้นไว้ได้ทันก่อนที่ริมฝีปากเราจะสัมผัสกัน แล้วนาวินก็กดจูบลงที่ฝ่ามือผมเบาเบา ผมเขินอีกแล้ว นี่คุณเขาจะไม่แผ่วเลยจริงจริงใช่มั้ยครับคุณนาวิน“งั้นคืนนี้ผมขอนอนกอดพี่ทั้งคืนเลยนะ”ผมก้มหน้า และค่อยค่อยพยักหน้า“น่ารักจัง”นั่นแหละ เขาถึงยอมไปอาบน้ำ พอเขาอาบน้ำเสร็จก็ถึงคิวผมต้องไปอาบน้ำล่ะ
“ให้ผมอาบให้มั้ย มีบริการถูหลังให้ฟรีด้วยนะ”ยิ้มเจ้าเล่ห์ของคนน้องส่งมาให้ผมอีกแล้ว
“ไม่ต้องเลย”ผมรีบหยิบผ้าเช็ดตัวและชุดนอนของนาวินแล้วเบี่ยงตัวเข้าห้องน้ำไป พออาบน้ำเสร็จ ผมเปิดประตูห้องน้ำออกมา แล้วภาพแรกที่ผมเห็นก็คือคนน้องที่อยู่ในชุดเสื้อกล้ามกางเกงขาสั้นอยู่ในท่ากึ่งนั่งกึ่งนอนเล่นโทรศัพท์อยู่บนเตียง ทันทีที่เขาเห็นผม เขาก็เอามือตบลงบนเตียง เรียกให้ผมมานอนด้วย ดู ดูเขาทำเข้าสิ ฮึพอผมนอนลงเท่านั้น คนที่นอนอยู่ก่อนแล้วก็ขยับตัวมากอดจากด้านข้าง แล้วเอาหน้าซบไว้ที่ไหล่ผม“กอดผมด้วยสิ”แน่ะ มีอ้อนให้ผมกอดตอบอีกแล้ว ผมขยับตัวหันหน้าเข้าหาเขาแล้วก็เจอกับสายตาอ้อนที่กำลังจ้องมองอยู่“เหนื่อยก็รีบหลับสิ จะได้พักเหนื่อย อย่างอแง”
นาวินยิ้มแล้วก็ขยับเข้ามาใกล้ผมอีก
“อย่า อย่าทำ และก็อย่าแม้จะคิด ไม่งั้นจะกลับ”“ผมไม่ได้จะทำอะไร ซักหน่อย แค่นี้ก็ต้องดุด้วย”แล้วผมก็ได้เห็นหน้าหมาหงอยของคนตรงหน้า“ฝันดีนะ”
“ครับฝันดีเช่นกันคนดีของผม”ผมได้แต่อมยิ้มแล้วก็รีบหลับตา เพราะไม่อยากเห็นแววตากรุ้มกริ่มนี้อีก เขิน ผมเขิน วันนี้นาวินทำผมเขินหลายรอบแล้ว ใจผมบาง บางจนไม่เหลืออะไรแล้ว ตั้งแต่ที่ผมมาค้างกับนาวินครั้งก่อน จนเสียจูบแรกกับผู้ชายให้เขาไป ผมยอมรับเลยว่า ใจผมมันสั่น มันเต้นรัวไม่เป็นจังหวะ จูบของเขามันไม่เหมือนที่ผมเคยจูบกับแฟนเก่าผมที่เป็นผู้หญิง มันทำให้ผมรู้สึกหวาบหวาม ปั่นป่วนมวนหน้าท้องไปหมด‘เอ๊ะ .. ว่าแต่ว่า ทำไมผมต้องมาคิดถึงรอยจูบของเขาในเวลานี้ ตอนนี้ด้วยนะ ทั้งที่ผมเป็นคนห้ามเขา แต่ผมกลับมานอนคิดถึงรอยจูบเขาเนี่ยนะ ไม่ ไม่ ไม่ ผมจะคิดอะไรมากไปกว่านี้ไม่ได้’
“พี่ยังไม่หลับใช่มั้ย หัวใจพี่เต้นแรงจัง”นั่นไง ผมโดนจับได้แล้ว
“หลับแล้ว”“คนหลับแล้ว แต่หัวใจเต้นแรงจัง แบบนี้เพราะถูกผมกอดหรือเปล่านะ”“ไม่ต้องพูด คนจะนอนอย่ากวน”
ผมรีบบ่นเขาไว้ก่อน กลัวเขาจะจับความรู้สึกผมได้ และแล้ว นาวินก็ส่งคำพูดที่ทำร้ายจิตใจผมให้หวั่นไหวอีกแล้ว
“ผมอยากนอนกอดพี่แบบนี้ทุกคืนเลย พี่มาค้างกับผมทุกคืนเลยได้ไหม”
นาวินพูดแล้วก็กดจมูกลงที่หน้าผากผมอย่างอ่อนโยน แล้วเราก็หลับไปในอ้อมกอดของกันและกันณัฏฐ์ที่ตอนนี้ประคองสติแทบไม่อยู่ ทั้งเสียวซ่านที่ยอดอกกำลังถูกนาวินทั้งเลีย ดูด และขบกัด แถมยังเสียวแทบขาดใจจากการถูกนาวินเด้งเอวรัวใส่แบบไม่ยั้ง เรียกว่าเสียวทั้งบน เสียวทั้งล้าง สะท้านไปทั้งตัวขนทั่วร่างลุกกราวตั้งชัน พร้อมกันนั้นเจ้าณัฏฐ์น้อยของเขาที่แกว่งถูลอนหน้าท้องแข็งของนาวิน ก็เริ่มปวดหนึบเตรียมพร้อมที่จะปลดปล่อย“นาวิน เราใกล้แล้ว อ๊ะ อื้อ..”“จะเสร็จแล้วหรือคะที่รัก ปล่อยออกมาบนตัวผมเลย อืมมมมม”นาวินพูดบอกคนรักและครางเสียงต่ำในลำคอ มองหน้าหวานตรงหน้าที่ตอนนี้ ดูจะเซ็กซี่ เร่าร้อน ยั่วยวนใจ และชักชวนอารมณ์ดิบเถื่อนของเขาให้ออกมา ซึ่งมันก็ทำให้เขาแทบจะทนไม่ไหวเช่นกันนาวินยังคงพาคนรักสำรวจไปทั่วห้อง ในท่าที่เกาะเกี่ยวกันท่าเดิม และเอวของเขาก็ทำหน้าที่ไม่หยุด จน ยิ่งณัฏฐ์ครางกระเส่าเสียงดังเท่าไหร่ นาวินก็เร่งความเร็วขึ้นเท่านั้น จนทั้งคู่สุขสมปลดปล่อยออกมาพร้อมกัน หน้าท้องแข็งแกร่งแน่นเป็นลอนของนาวินเปื้อนไปด้วยคราบรักของณัฏฐ์ และช่องทางรักด้านหลังของณัฏฐ์ก็ถูกอัดแน่นไปด้วยความรักอุ่นๆ ของนาวิน เสียงครางลั่นด้วยควา
นาวินปล่อยให้ความเป็นตัวเขาอยู่นิ่งๆ ในตัวคนพี่ แล้วก้มลงจูบที่ท้ายทอยไล่มาตามแผ่นหลัง มืออีกข้างลูบไล้เขี่ยที่ยอดอก เพื่อช่วยให้คนพี่ได้ผ่อนคลาย“ไปต่อเลยมั้ย"“อืม”"งั้นผมขยับนะครับ”ณัฏฐ์เม้มปากพยักหน้ารับนาวินเริ่มขยับช้าสลับเร็ว เน้นย้ำตรงจุดที่ทำให้คนตัวเล็กร้องเสียงดัง“ผมอยากได้ยินเสียงพี่เรียกชื่อผมดังๆ”เขาเร่งจังหวะเร็วขึ้น“อ่าาาาาา นาวินนนนน”“ผมรักพี่นะ”ณัฏฐ์ได้ยินคำบอกรักเท่านั้นแล้วแหละ เสียงที่เจ้าตัวออมไว้ตั้งแต่ต้น คราวนี้ไม่ต้องออมกันแล้ว เขาครางชื่อคนรักออกมาเสียงดังลั่น ดังจนกลัวว่าจะเล็ดลอดออกไปสู่ภายนอก“นาวิน นาวิน เราจะเสร็จแล้ว แรงอีก แรงอีกนิดนะอ่าาา”นาวินเองก็ใกล้จะถึงฝั่งฝัน และเมื่อได้ยินเสียงคนรักสั่งให้เขาเร่ง เขาก็เร่งจังหวะทันทีอย่างไม่รีรอจนเสียงของเขาทั้งสองที่กระทบกันนั้นดังแข่งกับเสียงครางหวานเสียงชื่อเขาไม่ยอมหยุด“พร้อมกันนะคะ ที่รัก”นาวินบอกคนรักแล้วกดเข้าไป
ณัฏฐ์เผลอปล่อยเสียงครางแผ่วเบาออกมา ยิ่งทำให้นาวินได้ใจ เขาพรมจูบขบกัดทำรอยไปที่หน้าอกของณัฏฐ์ เรียวลิ้นเขาสัมผัสกับตุ่มไตสีชมพู เขาดูดดึงและระรัวลิ้นจนตุ่มไตนั้นเริ่มแข็งชูชัน ส่งผลให้ร่างบางตรงหน้าบิดเร้าไปมา เขาไม่ปล่อยคนพี่ให้อยู่เป็นสุขได้แน่แน่ มืออีกข้างที่กดสะโพกเริ่มเคลื่อนไหวถูไถไปมาตามรอยแยกของเจ้าลูกพีช พร้อมกับขยับสะโพกเขาเข้าหา ทำให้ณัฏฐ์รู้สึกได้ถึงบางสิ่งที่กำลังแข็งขันดันอยู่ใต้สะโพกเขาทุกสัมผัสของนาวินนั้นทำให้ณัฏฐ์นั้นถึงกับมีอารมณ์เสียวซ่านปั่นป่วนไปทั่วทั้งตัว จะเรียกว่าตอนนี้มีผีเสื้อนับฝูงมาโบยบินตรงช่วงกลางลำตัวเขาก็ไม่เชิง ไหนจะโดนลิ้นชื้นแฉะระรัวที่ยอดอก ไหนจะถูกนิ้วมือกดถูไปตามร่องรอยแยกทางด้านหลัง ไหนจะถูกส่วนนั้นของนาวินดันเสียดสีอย่างจงใจใต้ร่างเขา จนเริ่มทนไม่ไหวร้องครางเสียงหวานออกมา“อ่าาาาาาาา”นาวินเหลือบเห็นจังหวะที่คนพี่อารมณ์พุ่งสูงสุด เชิดหน้าขึ้นและมือน้อยๆ ก็มาหยุมที่หัวเขา พร้อมกับครางเสียงหวานออกมา“เรียกชื่อผมสิครับพี่ณัฏฐ์”“อือออ นาาาวิน”ภาพสวยงามตรงหน้าทำเอานาวินอดใจไม่ไหวที่จะก้มลงดูดดื่มซ้ำร
“ดีครับพี่ เร็วอีกนิดนะครับ”ลูกชายเขาเริ่มขยายตัวขึ้น แล้วมือน้อยก็หยุด นาวินลืมตามองคนตรงหน้าที่เงยหน้ามาสบตาหวานให้เขาพอดี“เอาคืนผมเหรอ”“ยังไงต่อดีนะ พอแค่นี้ดีมั้ยนะ”คนหน้าหวานเอียงคอมองแล้วหัวเราะคิก เอาคืนคนตรงหน้าที่ชอบแกล้งเขาตอนทำให้เขา“ที่รักครับ ผมยอมทุกอย่างแล้ว ทำต่อทีนะ”“ฮึ ถ้าแค่นี้ก็ไปทำต่อเองละกัน”ณัฏฐ์ได้ทีแกล้งกลับพร้อมเอานิ้วมือถูและกดตรงปลายย้ำย้ำอีกครั้ง คราวนี้ทำเอานาวินสะดุ้งร้องครางดังลั่น“อ๊ะ…ซี้ดดดดดด เสียวมากค่ะ เมียจ๋า ผัวยอมทุกอย่างแล้ว อยากแตกจะแย่แล้ว อย่าแกล้งกันเลยนะคะ”นาวินทนไม่ไหวอ้อนกลับไปบ้าง ซึ่งถ้าเอาจริงๆ แล้วเขาสามารถจับคนตรงหน้ากดกระแทกหนักๆ ก็ได้เลย แต่เขาก็ไม่ทำเพราะเขาอยากตามใจ อยากอยู่ในเกมส์ อยากรู้ว่าคนตรงหน้าจะจัดการอย่างไรกับเขา จึงปล่อยตัวปล่อยใจให้ถูกแกล้งไปณัฏฐ์ที่ได้ยินนาวินครางมาแบบนั้นก็ถึงกับเขินหน้าแดง เป็นครั้งแรกที่ถูกเรียกว่า “เมีย” แล้วส่งตาหวานให้“ต่อแบบไหนดีนะ นาวินอยากได้แบบไหน แบบนี้ดีมั้ย”และสิ่งที่ไม่เคยอยู่ในหัวนาวินว่าค
นาวินถึงกับถอนหายใจแรง ตอนนี้สติสัมปชัญญะของเขาอาจจะเหลือไม่เต็มร้อย สาเหตุไม่ใช่เพราะเขาเมาเหล้าแต่เป็นเพราะเขากำลังเมามือน้อยๆ ของคนพี่ที่ซุกซนเมื่อกี้อยู่ต่างหากล่ะ สิ่งที่เขาต้องทำในตอนนี้คือ เร่งเหยียบคันเร่งให้ถึงคอนโดให้เร็วที่สุด ก่อนที่เจ้าลูกชายของเขาจะถูกปลุกให้ตื่น“ยังไม่ถึงอีกเหรอนาวิน เราไม่อยากรอแล้วนะ”ณัฏฐ์สงบนิ่งได้ไม่นาน เขาก็เอี้ยวตัวเข้าไปกอดคนน้องที่กำลังเร่งทำความเร็วอยู่หลังพวงมาลัย เขากดจูบไปที่ต้นคอขาวของนาวินแล้วเอื้อมมือไปลูบไล้ที่แผ่นอกหนาๆ แน่นๆ ของคนน้องอย่างเอาใจ“พี่ณัฏฐ์..อย่าซนสิครับ”“ก็เราไม่อยากรอแล้วนี่นา”“อีกสิบนาทีก็ถึงแล้วนะครับคนดี ไม่ซนนะ พอถึงห้องผมจะตามใจพี่ทั้งคืนเลย”นาวินใช้ความพยายามเต็มที่ที่จะหลอกล่อไม่ให้หวานใจมาก่อกวนเขา เพราะเขาเองก็เริ่มไม่มั่นใจแล้วว่าจะมีความอดทนอดกลั้นไม่ให้อารมณ์พุ่งพล่านไปกว่านี้ได้อีกนานแค่ไหน นี่ถ้าไม่ติดว่ากำลังขับรถอยู่นะ จะจัดหนักจัดเต็มให้เลย‘เดี๋ยวเถอะนะ รอให้ถึงห้องก่อนละกัน ผมจะไม่เบาให้พี่เลย อยากยั่วดีนัก’นาวินคิดในใจแล้วยิ้มกรุ้มกริ่มท
เกรียงไกรพูดจบลุกออกจากโต๊ะเดินตรงไปยังเป้าหมายในทันที เขาหยุดอยู่ข้างๆ คนหน้าสวยและพยายามที่จะตีเนียนเข้าไปโยก ไปขยับตัวเบียดร่างบางที่แลดูยั่วยวนตรงหน้า พอสบโอกาสก็เอามือแตะสะโพกกลมมนนั้นหวังจะดึงเข้ามาแนบชิดกับช่วงกลางกายของเขา แต่ณัฏฐ์ก็รู้ทัน หาจังหวะเบี่ยงตัวหลบออกมาได้ทันท่วงที และก็เป็นโชคดีของณัฏฐ์ที่บทเพลงที่กำลังบรรเลงเปลี่ยนจังหวะพอดี เขาจึงถือโอกาสนี้เดินกลับมานั่งที่โต๊ะแล้วก็เจอกับสายตาของนาวินที่กำลังจ้องมองเขากับเกรียงไกรด้วยตาเขม็ง จนณัฏฐ์ต้องส่งสายตาอ้อนวอนว่า ‘ใจเย็นก่อน’เมื่อทุกคนถึงโต๊ะ มอสหนึ่งในสามหนุ่มรุ่นน้องก็พูดขึ้นว่า“พี่ณัฏฐ์สุดยอดเลยอ่ะ เต้นก็เก่ง ดื่มก็เก่งมากเลยครับ ผมขอคารวะฝากตัวเป็นศิษย์น้องเลยครับ”แล้วมอสก็ทำท่าทางคารวะอย่างจริงจังเกรียงไกรได้ยินก็พูดขึ้นมาว่า“ไปสนิทกันตอนไหนนี่ พึ่งจะเจอกัน ไม่ทันไรนายก็ไปเรียกคุณณัฏฐ์เขาว่าพี่แล้วซะงั้น”“ก็พี่ณัฏฐ์บอกพวกผมเองอ่ะ ว่าเรียกพี่ก็ได้ จะได้ดูไม่ห่างเหินจะได้สนิทกันเร็ว จริงมั้ยครับพี่ณัฏฐ์”เด็กหนุ่