ตอนที่ 3. ลูกสาวของยากูซ่าส์
แฟ้มดำที่ถูกส่งถึงมือเซียวเล่ห์ในช่วงเย็นของวันเดียวกันนั้น มีเพียงชื่อเดียวที่แปะอยู่บนปกอย่างเรียบง่าย
ฮานะ อรุณวดี มิยูกิ
“มันใช่เธอจริง ๆ…”
เซียวเล่ห์เปิดแฟ้มอย่างระมัดระวัง แต่ดวงตาคมกลับวาววับขึ้นในวินาทีที่เห็นใบหน้าในภาพถ่ายติดบัตรนักศึกษา
ข้างใต้คือข้อมูลพื้นฐานทั่วไปอายุ 19 ปี
นักศึกษาชั้นปีที่ 1 คณะอักษรศาสตร์
ภาษาญี่ปุ่นระดับ JLPT N1
ภาษาจีนกลางระดับ HSK5
บุตรสาวของ มิยูกิ โคจิโร่ และ อรุณี มิยูกิ
พี่ชายเสียชีวิตเมื่อสามปีก่อนจาก “อุบัติเหตุรถชน”
เซียวเล่ห์หัวเราะในลำคอเบา ๆ ขณะพลิกหน้าเอกสารไปเรื่อย ๆ
“อุบัติเหตุเหรอ… คนของมังกรดำเขาเรียกแบบนั้นกันสินะ” เสียงเคาะประตูห้องพักอาจารย์ดังขึ้น
ไม่ต้องมีคำพูด เขาก็รู้ว่าเป็นใครอาตงเดินเข้ามาเงียบ ๆ โค้งให้เบา ๆ
“รายงานฉบับเต็มอยู่ในโทรศัพท์นายแล้วครับ แต่ข้อมูลทั้งหมดตรงกับที่เราสงสัย ไม่มีข้อผิดพลาด”
เซียวเล่ห์พยักหน้า ช้า ๆ
“ลูกสาวของมิยูกิ โคจิโร่… แถมเป็นหลานสาวของไอ้แก่นั่น”
อาตงเม้มปาก “เธอไม่ได้อยู่ในลิสต์เฝ้าระวังมาก่อน เราไม่รู้ว่าเธอเข้ามาเรียนที่ไทย และ...” อาตงเว้นระยะเอาไว้ ก่อนที่จะเป็นเซียวเล่ห์ที่เป็นคนเอ่ยขึ้นมาเอง
“และฉันก็เจอเธอด้วยตัวเอง”
เซียวเล่ห์พูดแทรกเบา ๆ พร้อมกับสายตาที่เริ่มลุกวาว “แต่ฉันจะไม่บอกเธอตอนนี้ ไม่ใช่เวลาที่เหมาะจะเปิดเกม”เขาเอนหลังพิงเก้าอี้ หยิบปากกาขึ้นหมุนเล่น
“ปล่อยให้เธอคิดว่าฉันเป็นแค่อาจารย์ขี้เก๊ก แล้วค่อย ๆ ลากเธอเข้ากับดัก”“ครับ...แต่นายมั่นใจนะครับว่าจะควบคุมสถานการณ์ได้? ผู้หญิงคนนี้...ไม่ธรรมดา”
เซียวเล่ห์ยิ้มมุมปาก ดวงตาเยือกเย็นแต่แฝงอะไรบางอย่างไว้ลึก ๆ
“ไม่มีอะไรที่ฉันควบคุมไม่ได้”วันต่อมาฮานะนั่งทานข้าวเงียบ ๆ กับเพื่อนในมุมหนึ่งของโรงอาหาร แต่วันนี้มีสายตาหลายคู่จับจ้องมาที่เธอแบบไม่มีเหตุผล
“เอ๊ะ ทำไมคนมองเยอะจังวะฮานะ” แพรวเพื่อนสาวคนหนึ่งกระซิบ
“ไม่รู้สิ...อาจจะเพราะฉันหน้าตาดี” ฮานะพูดติดตลกและก้มหน้าก้มตากินอย่างไม่ได้สนใจใครสักเท่าไหร่นัก
“ไม่ใช่ละ นั่นดูเหมือนจะเป็นนักข่าวสายเผือก...แล้วนั่นนักศึกษาชั้นปีสองคณะบริหารฯ นี่ เขามองเธอเหมือนเธอฆ่าหมาพันธุ์โกลเด้นเลยนะ”
ฮานะวางช้อนลง ถอนหายใจแรง
“ฉันก็แค่ทะเลาะกับอาจารย์คนนั้นแค่สองคลาสเอง คนในมหาลัยนี้ว่างจัดหรือไง?”“ว่างค่ะ และชอบเรื่องแซ่บด้วย” เสียงของใครบางคนแทรกขึ้นจากด้านหลัง
เซียวเล่ห์ยืนอยู่ตรงนั้นอีกแล้ว มือถือกาแฟเย็นแบบเดิม แต่สายตาไม่เหมือนเดิม สายตาเขามีทั้งความรู้ ทั้งความลับ และ...ความร้ายกาจบางอย่างที่ฮานะยังอ่านไม่ออก“คุยกันเสียงดังแบบนี้ ทำให้ผมอารมณ์เสียตอนกินข้าวมากเลยนะครับคุณฮานะ”
“แต่ฉันก็ยังไม่ได้ถูกเชิญให้ออกจากโรงอาหารนี่คะ...อาจารย์จะหาว่าฉันรบกวนสมาธิในการดื่มกาแฟเหรอ? อีกอย่างโรงอาหารก็ต้องเสียงดังเป็นธรรมดาค่ะ ถ้าไม่อยากได้ยินเสียง หรือต้องการที่สงบโน่นค่ะ ป่าช้า !!”
“เปล่า...” เขายิ้มบาง
“แค่คิดว่าแมวดื้อบางตัว กำลังเดินเข้าเขตเสือโดยไม่รู้ตัว”ฮานะนิ่ง แวบหนึ่ง...เธอรู้สึกเหมือนกำลังจะถูกกลืน แต่ก็เพียงแค่แวบเดียวเท่านั้น
“แมวก็มีกรงเล็บค่ะ และบางครั้งมันก็ข่วนหน้าคนได้เจ็บกว่าเสือที่แค่นั่งหรี่ตาเฉย ๆ ด้วยซ้ำ” เซียวเล่ห์ยิ้ม...ไม่ตอบอะไร แล้วเดินจากไป แต่หัวใจฮานะกลับเต้นไม่เป็นจังหวะโดยไร้สาเหตุ
หลังจากเหตุการณ์ในโรงอาหาร เซียวเล่ห์ก็ไม่ได้เข้าคลาสสอนอีกหลายวัน เสียงซุบซิบว่าท่านอาจารย์สุดหล่อบินไปประชุมวิชาการต่างประเทศ แต่สำหรับฮานะ… มันไม่ได้รู้สึกแค่ “อาจารย์หายไป”
มันเหมือน “คนที่จ้องจะกลืนเธอ” หายไปอย่างมีนัยยะ
“ช่วงนี้มีคนแปลก ๆ เดินวนแถวคณะเราบ่อยนะ”
โซระ เพื่อนญี่ปุ่นที่โตมาด้วยกันพูดขึ้นขณะพากันเดินกลับไปที่ลานจอดรถของมหาลัย“คนของใครไม่รู้ แต่มองเราสองคนแปลก ๆ มากเลยอะ” โซระบอกกับฮานะทำเอาฮานะหยุดเดิน
ริมฝีปากเธอเม้มแน่นขึ้น “แกก็รู้ว่าฉันไม่ได้อยากกลับมาเรียนที่ไทย...แต่คุณพ่อบอกว่าเขามี ‘ภารกิจ’ บางอย่างที่ต้องให้ฉันทำที่นี่”โซระถอนหายใจแรง
“ภารกิจของตระกูลมิยูกิไม่เคยเป็นเรื่องธรรมดาเลยจริง ๆ…”“แต่แกก็น่าจะรู้ว่าฉันก็ไม่ได้อยากจะทำอะไรแบบนั้น ฉันแค่อยากจะใช้ชีวิตให้มันปกติเหมือนคนอื่นๆ ”
“ฉันเข้าใจ แต่ว่าต่อไปเราคงต้องระวังตัวกันให้มากกว่านี้”
โซระบอกกับฮานะก่อนที่ทั้งสองจะตรงไปที่ลานจอดรถ และต่างคนต่างขับกลับออกไปในที่สุด เพราะทั้งสองคนไม่ต้องการเป็นจุดเด่น เพราะพ่อของฮานะต้องการให้บอดีการ์ดมาคุ้มครอง แต่ฮานะเลือกที่จะไม่ทำตามและบอกกับพ่อของเธอว่ามีแค่โซระคนเดียวก็พอ เพราะว่าโซระเองก็ถูกฝึกให้เป็นนักฆ่าตั้งแต่เด็ก เพื่อมาทำหน้าที่ปกป้องฮานะนั่นเอง
ห้องทำงานลับของเซียวเล่ห์
บนหน้าจอมอนิเตอร์ ภาพจากกล้องวงจรปิดแสดงให้เห็นฮานะกำลังยืนซื้อเครื่องดื่มในคาเฟ่เล็ก ๆ ใต้ตึกคณะ
“เด็กผู้หญิงธรรมดา...ที่โตมาในรังยากูซ่า”
เซียวเล่ห์พูดกับตัวเอง ขณะวางแก้วชาดำลงบนโต๊ะ อาตงยืนเงียบข้าง ๆ ก่อนพูดขึ้นเบา ๆ “มีรายงานว่า คนของฝั่งมิยูกิเข้ามาในไทยช่วงนี้หลายคนแล้วครับ พวกเขาน่าจะรู้ว่าเราเริ่มเคลื่อนไหว”“ดี...” เซียวเล่ห์หลับตา พลางเหยียดยิ้มเล็กน้อย
“จะได้เปิดเกมไวขึ้น” เขาพูดขึ้นมาพร้อมกับยกกาแฟมาจิบอย่างคนที่อารมณ์ดีเป็นที่สุดคอนโดของฮานะ
เสียงรองเท้ากระทบพื้นเปียกดังแผ่ว ในทุกย่างก้าวที่ฮานะเดินอย่างเชื่องช้า ฮานะยืนกางร่มอยู่หน้าคอนโด ขณะกำลังจะเดินเข้าอาคาร ก่อนที่ใครบางคนจะโผล่ออกมาจากเงามืด
“ฮานะ...หนูต้องระวังตัวให้มากกว่านี้”
“อุ๊ยแม่ร่วง”เธอสะดุ้ง
ก่อนจะเบิกตากว้างเมื่อเห็นชายวัยกลางคนในชุดสูทสีดำ ท่าทางเหมือนบอดี้การ์ดมือเก๋า“ทาเคดะ…? ลุงยังอยู่ที่ไทย?” เขาพยักหน้าเบา ๆ
สายตาไม่ใช่แค่ห่วง แต่เหมือนกำลังแบกโลกทั้งใบไว้บนไหล่“มีคนของมังกรดำเริ่มสะกดรอยตามหนูแล้ว...เซียวเล่ห์...เขาไม่ใช่แค่ ‘อาจารย์’ อย่างที่หนูคิด”
ฮานะเม้มริมฝีปาก “หมายความว่ายังไงคะ ?”
ในหัวเริ่มกลับไปนึกถึงแววตาคู่นั้น…คำพูดนั้น…ท่าทางที่เหมือนรู้จักเธอทั้งที่ไม่เคยบอกชื่อจริง…“เขาคือศัตรูของตระกูลเราใช่มั้ยคะ?”
ทาเคดะไม่ตอบตรง ๆ แต่สายตาบอกทุกอย่าง
ก่อนจะยื่นซองเอกสารให้บางอย่าง“นี่คือแฟ้มประวัติเขา...ถ้าหนูอยากรู้ความจริงทั้งหมด” ฮานะรีบรับเอาไว้
บนเตียงภายในคอนโดหรู
มือหนึ่งถือแฟ้มเอกสาร อีกมือหนึ่งลูบจี้ห้อยคอเล็ก ๆ รูปมังกรที่เคยเป็นของพี่ชาย…น้ำเสียงของเขาในความทรงจำดังขึ้นแผ่วเบา“ถ้ามีวันหนึ่งที่น้องเห็นมังกรดำ...หนีไปให้ไกลที่สุด อย่าให้มันรู้ว่าแกคือใคร”
เสียงฟ้าร้องดังขึ้น พร้อมกับมือของฮานะที่เปิดแฟ้มเอกสาร ภาพของผู้ชายคนหนึ่ง...หน้าตาคมคาย แววตาเฉียบขาด แต่ไม่ใช่ภาพถ่ายแบบอาจารย์มหาลัย...
“เซียวเล่ห์ !! ” หัวหน้าแก็งมังกรดำ คนที่พร้อมจะเก็บทุกคนที่ขวางทางเดินของเขา
มันคือรูปถ่ายของเซียวเล่ห์ในคราบมาเฟียเต็มขั้น...พร้อมกับเครื่องหมาย ‘มังกรดำ’ ที่อกเสื้อ
ฮานะเลื่อนดูรูปถ่ายแต่ละรูปอย่างช้า ๆ พร้อมกับจ้องมองรอยสักตามส่วนต่าง ๆ ของร่างกายชายหนุ่มในคราบอาจารย์
“นี่มันเรื่องบ้าอะไรกันแน่เนี่ย ฉันควรจะทำยังไงดี เขาจะรู้ตัวตนของฉันไหมนะ หรือว่ารู้แล้วเขาถึงจิกกัดฉันขนาดนี้”
ฮานะปิดปิดแฟ้มในมือ พร้อมกับเอาเก็บไว้ในซอง ก่อนจะเอาไปเข้าเครื่องทำลายเอกสารที่อยู่ในห้องของเธอ
ตอนที่15. ความสงสัยคอนโดของฮานะ ยามค่ำคืนเสียงประตูห้องเปิดออก ฮานะเดินเข้ามาพร้อมกับร่างกายที่ยังไม่ฟื้นดีจากความเหนื่อยล้า แต่เพียงไม่กี่ก้าว เธอก็ต้องชะงัก ไฟห้องนั่งเล่นเปิดอยู่ และชายที่เธอไม่คิดว่าจะมารอ…ก็นั่งอยู่บนโซฟาพร้อมบุหรี่ในมือมิยูกิ โคจิโร่ พ่อของเธอ ข้าง ๆ เขาคือ โซระ เพื่อนสนิทที่ดูอึดอัดอย่างเห็นได้ชัด“หายหัวไปไหนมา?” เสียงทุ้มต่ำดังขึ้นทันทีที่เธอก้าวข้ามประตูเข้ามา ฮานะกลืนน้ำลาย แม้จะเตรียมใจไว้แล้ว แต่แววตาของพ่อที่จ้องเธอราวกับนักโทษก็ทำให้เธอสะอึก“หนู...แค่หนีออกมา ไม่ได้ตั้งใจจะทำให้ใครเป็นห่วง”“ใครเป็นห่วง?” โคจิโร่แค่นหัวเราะเบา ๆ “ฉันถามว่าหนีไปไหน ไปกับใคร และใครช่วยเธอหนีออกมาจากการลอบสังหาร?”ฮานะเบือนสายตาไปทางโซระที่มองเธออย่างร้อนรน“หนูหนีคนเดียว ไม่มีใครช่วย”เสียง "เพี๊ยะ!" ดังขึ้นทันทีที
ตอนที่14. สงบศึกเซียวเล่ห์กอดฮานะไว้แนบออก มือหนาเลื่อนมาเกี่ยวไรผมของเธอด้วยความอ่อนโยนเป็นอย่างมาก และกดริมฝีปากไปที่ไหล่มนของฮานะอย่างอ่อนโยน “อือ ปล่อยนะจะทำบ้าอะไร” หญิงสาวร้องครางเสียงหลงทำเอา คนตัวโตอย่างเซียวเล่ห์ยิ้มด้วยความพอใจเป็นอย่างมาก “น่ารักจัง”“อย่ากวนได้ไหม มีอะไรก็ว่ามาและปล่อยฉันได้ไหม” ฮานะยังคงพูดทั้งที่พยายามจะสะบัดเซียวเล่ห์ให้ออกห่างจากร่างกายของเธอ แต่มันใช้ไม่ได้กับเซียวเล่ห์เมื่อเขาอุ้มเธอในท่าเจ้าสาวและตรงไปที่เตียงนอน“อย่างนี้เขาไม่เรียกว่ากวน ถ้ากวนต้องแบบนี้” ไม่พูดเปล่าเพราะคราวนี้เซียวเล่ห์ขยับพลิกตัวมาคร่อมร่างของฮานะไว้ ก่อนจะกระซิบเบาๆ“พี่รู้ว่าเธออาย ไม่ต้องอาย เพราะถ้าอายจะทำอีก และจะทำให้มากกว่าเมื่อคืนด้วย” เขากระซิบก่อนจะขโมยจูบจากเธอไปอีกหนึ่งที“คนเลว !! ” ฮานะพูด ทำเอาเซียวเล่ห์หัวเรา
ตอนที่13. คนรอแต่ในอีกฟากเมือง เคียวกำลังจับตามองแผนลอบสังหารล่ม และสายสืบของเขารายงานว่า“ทั้งสองคน...หายตัวไปจากเรดาร์แล้วครับ”ชายหนุ่มในเงามืดยิ้มมุมปาก “ให้พวกมันรักกันตายไปก็เถอะ...สุดท้าย ความจริงจะฆ่าความรู้สึกได้อยู่ดี” “ครับนาย ว่าแต่เราจะตามหาคุณหนูฮานะอยู่อีกหรือไม่ครับ” ลูกน้องคนสนิทเอ่ยถามขึ้นมา “ไม่ต้อง เพราะถึงเวลาเธอจะกลับมาเอง”เช้าวันต่อมาแสงแดดอ่อนยามเช้าสาดลอดผ่านบานม่านเข้ามาในห้องเซฟเฮาส์ เงียบ...จนน่าประหลาดใจ หากไม่นับเสียงลมหายใจของคนสองคนที่นอนเคียงกันอยู่บนเตียงเดียวฮานะลืมตาขึ้นก่อน ใบหน้าเธอซีดเผือดเมื่อพบว่าร่างกายของตัวเองอยู่ภายใต้ผ้าห่มเพียงผืนเดียว… ไม่มีเสื้อคลุม ไม่มีอาวุธติดตัว และ… ไม่มีเส้นแบ่งระหว่างเธอกับผู้ชายข้างกาย"…บ้าเอ๊ย!"เธอเด้งตัวขึ้
ตอนที่12. จังหวะตกหลุมรัก “เพราะถ้านายยังไม่แน่ใจว่ารักฉัน...ฉันจะเป็นฝันร้ายของนายไปจนวันตาย” พูดจบ เธอเดินหนี แต่เซียวเล่ห์กลับคว้าแขนเธอไว้ แล้วเหวี่ยงเข้ากำแพงเบาๆ ไม่ใช่ด้วยแรงทำร้าย แต่ด้วยแรง “ต้องการ” ที่กดดันมาทั้งคืน “ปล่อยก่อนฉันหิวน้ำ” ฮานะพูดพร้อมกับสะบัดมือเซียวเล่ห์ออก และเดินไปอีกทางหยิบขวดน้ำมาดื่มในทันที“เดี๋ยวก่อน...นั่นไม่ใช่ขวดน้ำนะนะ” เซียวเล่ห์รีบคว้าขวดยามาจากมือเธอด้วยสีหน้าตกใจ แต่ไม่ทันเพราะฮานะดื่มมันไปจนหมดแล้ว “มันคือยา ‘ทดลอง’ ตัวใหม่ของลูกค้าคนหนึ่ง เป็นยาปลุกอารมณ์ทางเพศ...ยังไม่ได้รับการรับรองทางการแพทย์ด้วยซ้ำ”ฮานะที่เริ่มรู้สึกความเปลี่ยนแปลงในร่างกาย เริ่มมีความร้อนรุ่มไหลไปทั่วตัว หัวใจเต้นแรงจนแทบทะลุอก ใบหน้าร้อนผ่าว แววตาเริ่มเปลี่ยนไปเหมือนมีไฟบางอย่างถูกจุดขึ้น“แล้วจะทำยังไงดีเนี่ย...” ฮานะบ่นอย่างร้อนใจเซียวเล่ห์มองเธออย่างลำบากใจ ก่อนจะถอนหายใจหนักๆ “ทางเดียวที่จะช่วยเธอได้คือ…ต้องหาทาง ‘ตัดฤทธิ์ยา’ ออก ก่อนที่มันจะทำให้เธอเสียการควบคุม” “เราต้องรีบหายาแก้” เซียวเล่ห์พู
ตอนที่ 11. อันตรายรอบตัวเสียงไวโอลินยังไม่ทันจางหายดี กระสุนนัดแรกก็ ฉีกรอยยิ้มของค่ำคืนเป็นเสี่ยง ๆปัง! ปัง! ปัง!เสียงปืนสาดกระหน่ำจากชั้นบนราวกับห่าฝน กระจกไวน์แตกกระจาย แขกกรีดร้องลั่นงาน เซียวเล่ห์ขยับตัวไวราวเสือ เขาผลักฮานะให้ล้มลงต่ำหลังกำแพงเสาหินอ่อน ปืนพกถูกชักขึ้นมาจากด้านหลังสูทในชั่วพริบตาเดียวแต่ที่ทำให้เขาชะงัก... คือการเคลื่อนไหวของฮานะ หญิงสาวไม่ลังเลแม้แต่น้อย เธอถลกชายกิโมโนผ่าข้างขึ้นจนสูง มือขวาล้วงเข้าข้างต้นขาแล้วดึงเอา ปืนสั้นกระบอกดำเงา ออกมาจากสายรัดแน่นหนา ก่อนใช้เท้าเตะชายผ้าที่ยาวรุ่มร่ามออกเสียงผ้าฉีกเล็กน้อยเพราะตีนผีของกิโมโนถูกกระชากออก เผยให้เห็นชุดด้านในที่ไม่ใช่ชุดชั้นในธรรมดาแต่คือ เสื้อกล้ามรัดรูปสีดำกับกางเกงขาสั้นแนบลำตัว สายรัดอุปกรณ์รอบต้นขาและเอว เธอเตรียมตัวมารบ... มางานเลี้ยงแบบพร้อมตาย“เธอ...” เซียวเล่ห์กระพริบตา แต่ไม่ทันพูดจบ ฮานะก็ขึ้นลำกระบอกปืนทันที“คุยทีหลัง! นายคุ้มซ้าย ฉันเอาขวา!”เซียวเล่ห์ยิ้มเหี้ยม มุมปากเปื้อนรอยเลือดจากเศษกระจก แต่ก็ทำตามคำสั่งเธออย่างไม่ลังเลทั้งสองพุ่งขึ้นพร้อมกันในจังหวะเดียว – ปืนลั่นสะท้อนก้อง!ป
ตอนที่10. วางแผนเสียงของอาตงแทรกขึ้น ในตอนที่เซียวเล่ห์กำลังคิดอะไรเพลิน ๆ “บอสจะจัดงานที่ไหนครับ?”“คฤหาสน์ริมทะเลของตระกูลเราเอง” เขาตอบทันที “และทุกคนในงาน...จะต้องถอดหน้ากากออกมาให้หมด”บรรยากาศงานเลี้ยงหรูภายในโรงแรมระดับห้าดาวถูกตกแต่งอย่างหรูหรา แสงไฟคริสตัลระยิบระยับทั่วห้องบอลรูม ผสมเสียงไวโอลินคลอเบา ๆ ที่ชวนให้รู้สึกไม่ไว้วางใจยิ่งกว่าอบอุ่นต้อนรับเซียวเล่ห์ยืนสงบนิ่งอยู่มุมหนึ่งของงาน สูทดำเรียบหรูขับใบหน้าเย็นชาไร้ความรู้สึก ลูกสมุนยืนเรียงรายอยู่ด้านหลังอย่างมีระเบียบ ท่ามกลางกลุ่มแขกผู้ทรงอิทธิพลในวงการใต้ดินที่ทยอยเข้ามาเรื่อย ๆฮานะก้าวเข้าสู่งานอย่างสง่าภายใต้ชุดกิโมโนประยุกต์สีเลือดนก ประดับลวดลายมังกรญี่ปุ่นปักด้วยไหมทอง โซระเดินตามหลังเธอห่าง ๆ สีหน้าพร้อมบวกเต็มพิกัดดวงตาคู่สวยของฮานะมองกวาดรอบงาน เธอจับสังเกตผู้คนไปเรื่อย ๆ ก่อนสายตาจะปะทะเข้ากับเซียวเล่ห์ที่มองมาอยู่ก่อนแล้วรอยยิ้มเย็นเฉียบผุดขึ้นบนใบหน้าของเซียวเล่ห์ เหมือนนักล่าที่กำลังรอเหยื่อเดินเข้ากับดักอย่างเต็มใจ“ยินดีต้อนรับครับ..คุณหนูมังกรสายเลือดยากูซ่า” เขาเอ่ยเบา ๆ กับตัวเอง ก่อนจะยกแก้วไวน์