ใบหน้าสวยของอินทุภาเจื่อนลง แต่หญิงสาวก็พยายามปรับมาให้มันเป็นปรกติ
“อะไรหรือคะ ที่จะไม่กิน ไม่ใช้”
ธีรุตม์มองอินทุภาตั้งแต่หัวจรดปลายเท้าอย่างรังเกียจ เธอจึงลอบกลืนน้ำลายลงคออย่างเหนียว ๆ
“เธอจะต้องให้ฉันพูดไทย แล้วแปลเป็นไทยให้ฟังอีกหรือ”
“อินเข้าใจค่ะว่าคุณรุตทั้งเกลียด และรังเกียจเดียดฉันท์ เอาที่คุณรุตสบายใจเถอะค่ะ คุณรุตอยากดูถูกอะไรอินก็เชิญค่ะ เชิญคุณพูดออกมาเถอะ ถ้าหากมันจะทำให้คุณสบายใจ และหายบ้า อินอยู่ที่นี่ไม่ใช่ในฐานะสิ่งของหรือสัตว์ชั้นต่ำที่ไร้หัวใจ หากถ้าคุณรุตแน่จริง ก็เอาของกินของใช้ที่คุณรักชอบและคลั่งไคล้มาก หรือเธอคนนั้นที่คุณมีใจรักมั่นเพียงเธอ อย่าให้เธออยู่นอกบ้านเลยค่ะ คุณก็พาเธอเข้ามาอยู่ที่นี่สิคะ อินจะได้ไปเสียที” เธอท้าทาย
ใช่ว่า… ธีรุตม์จะทำให้เธอเจ็บได้เพียงคนเดียวเสียเมื่อไร เขาควรรู้ว่าเธอคือคนที่มารดาของเขาเลือก ที่ไม่ใช่ผู้หญิงที่ชื่อมายาวี สุดที่รักของเขา
“เธออย่ามาสาระแน เรื่องนั้นคือเรื่องส่วนตัว และก็อย่าลามปามไปถึงผู้หญิงของฉัน อ้อ... ฉันกินเฉพาะอาหาร แต่ผู้หญิงผัดผงกะหรี่อย่างเธอนั่น…” ธีรุตม์เว้นระยะ
“ฉันไม่ชอบ ทั้งถูก ทั้งแถม และหากจะมองก็ไม่ต่างจากผู้หญิงขายตัว”
‘ผู้หญิงขายตัว’ อินทุภาสะอึก
ใครจะไปคาดคิดว่า ผู้ชายหน้าตาดี ฐานะสูงส่ง อีกทั้งการศึกษาสูง ธีรุตม์จบปริญญาโทมาจากต่างประเทศ เขาจะสามารถงัดคำพูดร้ายกาจออกมาทำร้ายจิตใจผู้หญิงได้อย่างไม่ละอาย อินทุภากลืนความขมขื่นลงลำคอ เธอเจ็บปวดไปกับคำดูถูกของเขา
ใช่… เขาพูดไม่ผิด แต่ผิดที่ราคาค่าตัวของเธอมันแพงกว่าผู้หญิงหาเงินพวกนั้นต่างหาก
อินทุภาอารมณ์หวั่นไหว น้ำใสๆ คลอเต็มหน่วยตา แต่เธอจะทำสิ่งใดได้ นอกจากก้มหน้าทน เพราะทั้งบุญคุณและหนี้ก้อนใหญ่นั้นค้ำคอ หากตัดสินใจเอาแต่ใจตัวเอง เธอคงจะโบยบินหนีจากที่นี่ไปตั้งแต่วันที่เจอคำถากถางของเขาตั้งแต่ครั้งแรกแล้ว
ธีรุตม์สะดุดใจไปเหมือนกัน ที่เห็นน้ำในตาของอินทุภา เขาอึ้งและนิ่งไปชั่วขณะหนึ่ง
“ด่าว่าอินพอแล้วหรือคะ จะด่าจะว่าอินอีกก็ได้นะคะคุณรุต แต่ถ้าคุณพอใจแล้ว อินก็ขอเชิญคุณรุตกลับออกไปจากห้องของอินค่ะ วันนี้อินเหนื่อยมามากแล้ว คุณรุตเองก็คงจะเหนื่อยจากงานเช่นกัน เชิญคุณรุตกลับไปพักผ่อนเถอะค่ะ ไว้พรุ่งนี้ถ้าคุณรุตยังไม่หายโกรธอิน ค่อยมาหาอินอีกทีที่นี่ หรือจะเรียกไปด่าที่ไหนก็ได้ค่ะ เอาที่คุณสะดวกใจ หรือว่าคุณรุตจะจองเวลาเอาไว้เลยไหมคะ” อินทุภายอกย้อนกลับ เธอเคยนิ่งมาแสนนาน แต่วันนี้ เวลานี้ เธอไม่อยากจะทน
“สำคัญตัวเหลือเกินนะ คิดว่าจะหลอกล่อให้ฉันมาติดกับดักของเธอถึงห้องหรือ เพื่อที่อยากพาเธอขึ้นเตียง หรือมีอะไรกันกับเธอ เชอะ... ริอ่านเหมือนกันนะ ถึงกับออกปากบอกคุณแม่ว่าอยากท้องและมีลูกกับฉัน นี่อินทุภา... เธอน่ะไม่รู้ตัวหรืออย่างไร ผู้หญิงอย่างเธอมันมีค่าเหมือนกระดาษทิชชูก็เท่านั้น ครั้งเดียวก็เกินพอ”
คำพูดของเขาทำให้เธอนึกย้อนไปในคืนแรก ที่คุณหญิงทับทิมวางยาธีรุตม์และขังเขาเอาไว้กับเธอทั้งคืน เขาไม่แม้จะแสดงความหวาน แต่ที่เขากระทำกับเธอทั้งเจ็บและทารุณ เพราะการกระทำของเขาในคืนนั้น เขาเห็นเธอเป็นแค่ที่ระบาย
อินทุภาไม่อยากจดจำ แต่เธอก็ไม่สามารถลืมคืนนั้นได้ สำหรับอินทุภา คืนนั้นคือการตอกย้ำว่าเขาคือสามีและเจ้าของร่างกายของเธอ ทว่าตอนนี้… ธีรุตม์พูดถูกต้อง เขาไม่แคร์ ไม่ใส่ใจ มองเธอยิ่งกว่ากระดาษเช็ดก้นที่ใช้แล้วทิ้ง
‘คุณจะด่าฉันให้เจ็บทุกคำใช่ไหม กระดาษชำระที่ใช้แล้วทิ้งอย่างนั้นหรือ แล้ว… พรหมจรรย์ ที่เขาพรากไป ไม่มีค่าแม้ให้จดจำ’ อินทุภาถามเขาในใจ
ธีรุตม์ยังไม่ไหวติง อินทุภาจึงเอ่ยปากอีกครั้ง
“คุณรุตคะดึกมากแล้วค่ะ อินอยากพักผ่อน คุณช่วยกลับไปที่ห้องของคุณด้วยเถอะนะคะ” เธอเสียงอ่อนลง และบิดหน้าหนีซ่อนน้ำตา
“ทำไมรับไม่ได้สินะ ทั้งที่แต่งงานกันมาเกือบครึ่งปีแล้ว แต่ฉันไม่เคยคิดอยากแตะต้องเธออีกเลย”
“ดีแล้วค่ะ อินเองก็จะได้ไม่ต้องรู้สึกขยะแขยงตัวเองให้มากกว่าที่เป็นอยู่”
“เธอพูดแบบนี้หมายความว่ายังไงอินทุภา คิดจะแดกดันฉันใช่ไหม เธอมันร้ายใช่เล่น มีเพียงคุณแม่ที่ตาบอด หลงใหลได้ปลื้มไปกับลูกสะใภ้อย่างเธอ ยกยอเกินความจริง”
“เปล่านะคะ อินไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้นสักหน่อย คุณรุตอย่าหาเรื่องค่ะ เวลานี้ดึกแล้ว ทุกคนก็นอนกันแล้ว คุณออกไปเถอะค่ะ” หญิงสาวสะบัดมือโบกไล่
มายาวีคุ้ยตัก “อันนี้หรือคะเรียกโซน แล้วภาคกลางเรียกอะไรคะ วีจำไม่ได้”“ถ้าผมจำไม่ผิดน่าจะเรียกว่าคูน ส่วนภาคเหนือเรียกว่าตูน น่ะครับ”“คุณศีลรอบรู้จักนะคะ วีขอชมเลย ว่าแต่แกงส้มนี่ คุณศีลทำเป็นหรือเปล่า รสชาติและจัดจ้านแบบนี้ วันหน้าสอนวีบ้างนะคะ วีอยากจะทำเป็นบ้างน่ะ”“ได้สิครับ ผมยินดี”มีเพียงธีรุตม์ที่กินข้าวไปอย่างเงียบ ๆ“ไอ้รุต คืนนี้จะก๊งกันอีกไหม อากาศแบบนี้ด้วย ถ้าไม่ก๊ง ก็ไม่รู้จะทำอะไรกันดี”“เอาสิ ได้สิ เริ่มเลยไหม”“อุบ๊ะ ได้เลย ๆ” ศีลกระดิกนิ้วเรียกลูกตาลให้ไปเอาเหล้ามาให้ มายาวีไม่อาจฝืนนั่งกินกับหนุ่ม ๆ ได้ เธอมีเรื่องที่จะต้องให้ครุ่นคิดอีก เพราะในตอนที่เธอขอตัวไปเข้าห้องน้ำ มีข้อความจากคุณหญิงทับทิมส่งมาถึงมายาวี(ฉันมีข้อเสนอให้เธอมายาวี ถ้าเธอเลิกกับลูกชายของฉัน ฉันจะคืนงานให้เธอ และให้เงินเธออีกสามล้าน)‘คุณหญิงทับทิมคะ เงินของคุณจะซื้อได้ทุกสิ่งจริง ๆ หรือคะ’ มายาวีสมเพชเวทนาตัวเองยิ่งนัก ทำไมเธอถึงได้โชคร้าย เจอแต่คนที่เหยียบย่ำซ้ำเติม“เป็นอะไรวะไอ้รุต ดูมึงเงียบไป หรือว่าเป็นห่วงคุณอิน”“อินดีขึ้นแล้ว กินข้าวอิ่ม แล้วได้ยาดี ก็หลับสบาย” ยิ้มเยาะศีลอยู่ในที แ
อีกห้องหนึ่งอดรนทนไม่ไหว หลังจากที่จิ้มมือถือจนไม่มีอะไรจะดู แถมสัญญาณมือถือก็ยังขาด ๆ หาย ๆ เธอไม่มีกะจิตกะใจอะไรใด ๆ อีกทั้งนั้น‘รุตคุณทำกับวีเกินไปแล้วค่ะ วีไม่มีค่าในสายตาของคุณอีกแล้วใช่ไหม คุณหมดรักวีแล้ว’ จากที่รักมากกลายเป็นความขุ่นเคืองที่เริ่มก่อเกิดขึ้นมาในหัวใจเสียงฟ้าผ่าดังเปรี้ยงทำให้มายาวีสะดุ้งสุดตัว ตอนนี้เธอไม่มีธีรุตม์คอยอยู่ข้างกาย เขาคงจะกกกอดกับเมียตัวจริง“รุตคะรุต คุณทำกับวีเกินไปแล้วจริง ๆ” มายาวีอดกลั้นน้ำตาอีกต่อไปไม่ไหว ความชอกช้ำเริ่มบ่มเพาะในจิตใจ เธอปล่อยเสียงสะอื้นออกมาอย่างน่าเวทนา‘วี… เธอจะไปต่อหรือว่าพอแค่นี้’ มายาวีถามตัวเองเวลาล่วงเลยไปจนถึงเย็น มายาวีวางมือถือ เซ็งมาก ๆ ลมพายุที่โหมกระหน่ำทำให้สัญญาณเครือข่ายไม่เสถียรทันใดนั้นประตูห้องนอนของเธอถูกเปิดออก พร้อมร่างของธีรุตม์ที่เดินเข้ามาด้วยใบหน้าเคร่งเครียด“รุต คุณหายไปไหนมาคะ” แม้จะรู้อยู่เต็มหัวอก แต่เธอก็ถาม ธีรุตม์ไม่ตอบคำถาม แต่เอ่ยอย่างอื่น“ผมมาชวนคุณไปกินข้าว”“เมียของคุณดีขึ้นแล้วหรือคะ คงจะออดอ้อนทำสำออยมากล่ะสิ วีก็ไม่เคยคิดนะคะว่าเมียของคุณก็ขุดเอามารยาหญิงที่มีเอามาใช้จนหมด” มาย
“ก็ทำเหมือนที่เธอไปบอกกับคุณแม่ อยากให้ฉันทำให้เธอท้องอย่างไงล่ะ”“ไม่ค่ะ อินไม่เคยทำแบบนั้น ไม่เคยพูดแบบนั้น อินไม่ได้พิศวาสคุณ”“พูดได้เต็มปากเต็มคำว่าไม่เคยพิศวาสผัว แต่กับผู้ชายอื่นแทบจะถวายตัว”“จิ๋มไม่ได้อยู่ที่หน้าแข้งหรือหัวเข่านะคะ ผู้หญิงคนอื่นอาจจะง่าย แต่ไม่ใช่อิน อยากทำอะไรแบบผัว ๆ เมีย ๆ โน่นไปทำกับคุณวี”“บอกแล้วว่าอย่าดึงวีมาเกี่ยวข้อง นี่มันเรื่องของเรา”“เรื่องของคุณคนเดียวนะสิ อินจะหาทางหย่ากับคุณให้ได้”“คำก็หย่า สองคำก็หย่า อยากอย่าหรือ ไม่มีวันนั้นหรอก เชิญคิด เชิญฝันไปนะ แต่จะไม่มีวันเป็นจริง ในเมื่อคุณแม่เลือกเธอให้มาผลิตลูก ฉันจะจัดให้ตามคำขอ”“ไม่นะ อย่าคุณรุต ฉันไม่สบายอยู่นะ ไม่... อื้อ อุบ...” กลีบปากของอินทุภาถูกปิดลงแล้ว‘ปากที่เคยจูบกับคุณวี ยี้...’ ในใจของอินทุภาตอนนี้เธอทำได้แต่นอนน้ำตาไหล ปล่อยให้ธีรุตม์ทำตามอำเภอใจ ใบหน้าของธีรุตม์คลุกลงไป พร้อมกับจัดการกระชากเสื้อผ้าที่อินทุภาสวมใส่จนขาดวิ่น และเขาเองก็ปลดเปลื้องเสื้อผ้าของตัวเองไปด้วยให้ตกอยู่ในสภาพเดียวกันฟ้าฝนด้านนอกก็คำรามเลือนลั่นเหมือนพิโรธใครมา กลบเสียงของสองหนุ่มสาวที่กำลังสอดประสานเป็นหน
ในห้องของอินทุภา เมื่อเธอเปิดประตูห้องน้ำออกมาก็เจอ กับธีรุตม์ที่ยืนรออยู่“เข้าไปนานเกินไปแล้วนะ”“ทำไมล่ะคะ อินตัวร้อน ก็เลยคิดว่าอาบน้ำดีกว่าตัวจะได้เย็นลง”“เดี๋ยวไข้ก็กลับมาอีกหรอก” พูดอย่างเป็นห่วง แต่สีหน้ายังคงออกเฉยเมย“ท่าทางจะป่วยการเมือง” ทั้งที่รู้ว่าไม่จริง แต่ธีรุตม์ก็อยากพูดแบบนี้ เล่นเอาคนที่ได้ยินถึงกับอึ้ง ขอบตาเริ่มร้อนออกผ่าว ๆ อินทุภาจับมือของเขาที่ประคองตัวเองอยู่ให้ออกห่าง“นี่... ทีกับนายศีลที่ไม่ใช่ผัวนั้น แทบจะให้ประคองขึ้นลงเตียง เล่นหูเล่นตา พูดจาอ่อนหวานออเซาะ” พูดไปก็จับร่างของเธอให้หมุนตัวเข้ามาหา แววตาแห่งความชิงชังรังเกียจฉายออกมาจากอินทุภา“ทำไม ทำไมต้องจ้องผัวตัวเองแบบนี้”“คำก็ผัว สองคำก็ผัว อย่าลืมว่าอีกห้องมีคุณวีอยู่”“ฉันก็บอกแล้วว่าวีไม่เกี่ยว”“ไม่เกี่ยวยังไง ทริปนี้คุณเป็นคนโยงพวกเราให้มาเกี่ยวข้องกันเอง ถ้ากลับไปจากทริปนี้ ฉันจะไปคุยกับครอบครัว ฉันจะหย่ากับคุณ” อินทุภาหมดความอดทน ถึงแม้เธอจะเสียเปรียบเขาเต็มประตู แต่เธอจะไม่ยอมให้ธีรุตม์ มาข่มเหงจิตใจอีกแล้ว“อ้อ สงสัยจะมีที่พึ่งใหม่ นายหัวศีลให้ความสนใจเธอ และเขาก็รวยล้นฟ้า เงินไม่กี่ล้านบ
“คุณรุตคะป้อนอินเถอะค่ะ อินหิว และกินอิ่มจะได้กินยา” ธีรุตม์ถึงกับผ่อนลมหายใจออกมา เขาจับถ้วยข้าวต้มที่เย็นชืด และตักป้อนให้อินทุภาเธอก็กินมันอย่างว่าง่าย ไม่ได้เรื่องมากอะไร กินอย่างเอร็ดอร่อย เหมือนรู้ว่าต้องทำเป็นหน้าที่ ตอนนี้ตัวเองไม่สบายก็ต้องกินข้าว เพื่อจะได้กินยา แล้วจะได้รีบหายธีรุตม์ทำสายตาพอใจตอนที่เห็นเธอกินข้าวต้มจนหมดชาม อินทุภาชี้ให้ธีรุตม์ดูถุงยา เขาจึงหยิบมาอ่าน ก่อนจะจัดยาให้ตามที่คุณหมอเขียนกำกับเอาไว้ ชายหนุ่มป้อนยา และรินน้ำให้ดื่มตาม เธอก็ทำตามอย่างไม่อิดออด“นั่งสักพักก่อนนะ ให้อาหารย่อยก่อนค่อยนอน”ธีรุตม์สั่ง แล้วเก็บทุกอย่างให้ห่างออกไปจากเตียง จากนั้นเขาก็เดินไปที่ในห้องน้ำ และหาผ้าผืนเล็กชุบน้ำ ก่อนจะตรงมาที่อินทุภา ธีรุตม์จัดการเช็ดหน้า และเช็ดเนื้อเช็ดตัวให้กับหญิงสาว เพื่อช่วยทำให้ไข้ลดอีกแรง“คุณรุตไม่ต้องทำก็ได้ค่ะ อินจะทำเอง คุณรุตไม่ต้องมาแสร้งทำดีกับอิน”พอได้ยินคำหลัง ธีรุตม์ชะงักมือ“ใครว่าฉันแสร้งทำ นี่คือสิ่งที่ฉันต้องทำต่างหาก ฉันบอกใครต่อใครว่าเธอเป็นเด็กในบ้าน ฉะนั้นถ้าฉันไม่ดูแลเธอ ไม่ว่าจะเป็นใคร ๆ ก็ต้องตำหนิ โดยเฉพาะคุณแม่ท่านจะว่าเอาไ
กลุ่มเมฆร้ายตั้งเค้าอย่างชัดเจน“น่ากลัวจังค่ะ”“นั่นสิครับ คุณวีกลับขึ้นห้องไปเถอะ”สีหน้าของมายาวีสลดลงอย่างชัดเจน เธอหมุนตัวกลับมายังบ้านตามที่ศีลบอกเมื่อมาถึง มายาวีก็เดินขึ้นไปบนชั้นสอง พอเธอเปิดประตูห้องนอนเข้าไป ก็ไม่เห็นธีรุตม์ ‘เขายังอยู่ในห้องโน้น’ หัวใจเจ็บจี๊ด ความพ่ายแพ้ปรากฏตรงหน้าอีกครั้ง เธอหมุนตัวหมายจะกลับมาเคาะที่ห้องของอินทุภา แต่เสียงหนึ่งในหัวก็ดังขึ้น‘อย่าทำแบบนั้น อย่าทำ’น้ำตาของมายาวีรื้นขึ้นมา เธอรีบปิดประตูห้องจนเสียงดังหวังจะให้ทั้งสองคนที่กำลังป้อและพะเน้าพะนอกันอยู่ได้ยิน และกลับไปล้มตัวลงนอนบนเตียงอย่างเดียวดายโครม... อินทุภาสะดุ้งตื่น ธีรุตม์ที่ผล็อยหลับลงไปเพราะเมื่อคืนเขาก็เมาหนักเช่นกัน เนื่องจากดื่มแอลกอฮอล์เข้าไปเยอะ“เสียงอะไรคะ”“ไม่ต้องสนใจหรอกน่า”แต่พอตะแคงหูฟัง ก็ได้ยินเสียงลมที่ลู่ผ่านฝาผนังจนเกิดเสียง “ลมแรงนะ”“ทำไมลมแรงล่ะคะ”“พายุเข้ามั้ง แถวนี้ฝนแปด แดดสี่อยู่แล้ว เมฆฝนก่อตัว ก็ก่อเกิดเป็นพายุเล็ก ๆ ได้ ยิ่งใกล้ทะเล”อินทุภานึกภาพตาม เธอเคยเห็นแต่ในข่าว มันก็น่ากลัวมือหนาของธีรุตม์ที่แตะตัวของอินทุภาอยู่ เนื้อตัวของเธอร้อนดังกับท่อ