ปัก! ปึก! ปัก!
ผัวะ! เสียงแรงชกตีกันดังสงั่นอยู่หลังโรงเรียน พรางกับเด็กสาวคนหนึ่งในชุดนักศึกษาคณะปีหนึ่งยืนสะอึกสะอื้นร้องไห้มองดูอยู่ไม่ห่างจากเหตุการณ์ยิ่งนัก “มึงจำเอาไว้ ต่อไปนี้อย่ามายุ่งกับพิณอีก!” “เหอะ อีนี่อ่ะ มันหลอกเงินกูไปเท่าไหร่แล้วแค่นี้มันยังน้อยไป” ปัก! มือหนาต่อยเข้าไปยันใบหน้าของอีกคนเต็มแรงด้วยความโกรธที่เดือดดาน เกิดการชกตีกันขึ้นอีกครั้ง โดยสวนกันไปมาไม่มีใครยอมใคร “ไอ้วิล หยุดนะ!!” นํ้าเสียงหวานตะคอกขึ้นดังจากเฟญ่าที่รีบวิ่งเข้ามาด้วยความรีบรน แต่คำพูดเธอไม่สามารถหยุดการกระทำอันรุนแรงตรงหน้าได้ คนตัวเล็กรีบวิ่งเข้าไปดึงแขนใหญ่หักห้ามเพื่อนสนิทเพื่อให้หยุดการกระทำ “มึงไม่ต้องมายุ่ง!” เนวิลเปร่งเสียงตะคอกใส่เธอดังสนั่น มือไหญ่สลัดแขนแรงจนคนตัวบางกระเด็นออกมาล้มลงบนพื้น “โอ้ย!” “เฟ!” รีน่าที่วิ่งเข้ามาพอดีเกิดความตกใจ รีบเข้าไปดูเพื่อนรักที่ตอนนี้ล้มลงกับพื้น ด้วยความเป็นห่วง “ไอ้วิล มึงบ้าป่าววะ พอได้แล้ว!!” ริกเตอร์รีบเข้าไปกระชากตัวเนวิลออกมา ตะคอกเสียงดังเรียกสติให้หยุด เสียสติจนพรั่งทำร้ายเพื่อนตัวเองเพียงเพราะแฟนเก่า “อย่าให้กูเจอมึงมายุ่งกับพิณอีก กูไม่เอามึงไว้แน่!” แม้ร่างกายจะถูกล็อคเอาไว้ ทว่าไม่อาจหักห้ามโทษะได้ อารมณ์พลุ่งพล่านชี้หน้าด่าชายตรงหน้าที่ใบหน้าชํ้าเละเทะเต็มไปหมด เมื่อกล่าวเตือนจนพึงพอใจ สลัดตัวออกจากเพื่อนสนิทที่คุมตัวเขาเอาไว้ สองเท้าก้าวเข้าไปสำรวจดูรอบตัวเด็กสาวในชุดนักศึกษาคณะปีหนึ่งที่ยืนสอื้นอยู่ด้านหลัง “พิณเจ็บตรงไหนรึเปล่า มันทำอะไรพิณไปบ้าง” “พ..พิณไม่เป็นอะไรค่ะ แค่ได้แผลนิดหน่อย” “พี่พาไปทำแผล” สิ้นสุดบทสนทนา มือหนาจูงมืออีกคนพาเดินออกไปยันห้องพยาบาล “……” แววตาอันแสนเจ็บปวดมองตามสองคนที่เดินออกไป เขาไม่แม้แต่จะเหลียวมองดูเธอแม้แต่น้อย ในอกมันจุกดั่งกับถูกหินก้อนโตเข้ามาทับ “มึง..โอเครึเปล่าวะ” “อืม กูไม่เป็นไรหรอก” “เท้ามึงเลือดออกนิ ไปห้องพยาบาลดีกว่า” “ไม่เป็นไร แค่นี้เองสบายมาก” รีน่ามองดูเพื่อนตัวเองก็อดสงสารไม่ได้ แม้ว่าใบหน้าสง่านั่นจะฝืนยิ้มบางออกมาเท่าไหร่ แต่สายตามันไม่สามารถกลบเกลื่อนได้ “มึงช่วยลาครูให้กูหน่อยนะ กูอยากกลับบ้านไปพักผ่อน” “ให้กูไปส่งมั้ย” “ไม่ต้องหรอก กูกลับเองได้ไม่ต้องเป็นห่วง” “อือ มีอะไรโทรมาหากูนะ” “อื้อ” ใบหน้าหมองเศร้าพยักหน้าเข้าใจ หันหลังก้าวออกไปจากตรงนั้นทันที “แม่ง ไอ้วิลมันทำงี้ได้ไงวะ เห็นแฟนเก่าดีกว่าเพื่อนหรอวะ ดูยังไงก็รู้ว่าอีพิณอะไรนั่นมันนังงูพิษชัดๆ” “ใจเย็นสิ มันเพิ่งเลิกกับน้องพิณได้ไม่กี่เดือนเอง คงยังมีเยื่อใยอยู่นั่นแหละ” “หึย น่าหงุดหงิดชะมัด สงสารยัยเฟมันจริงๆ” “เอาน่า ปล่อยให้เป็นเรื่องของพวกมันเถอะ เข้าเรียนสายแล้วเนี่ยเดี๋ยวก็โดยอาจารย์นั่นดุอีก” “หึย!” อยากจะเข้าไปต่อยเข้าเบ้าหน้าคมมันสักหมัดเสียจริง หากไม่เห็นว่ามันเป็นเพื่อนสนิท ด้วยอารมณ์หงุดหงิด มือบางกอดอกกระทืบเท้าเดินกลับเข้าไปยันห้องเรียนโดยริกเตอร์ที่เดินตามเข้ามาด้านหลัง “เฟหายไปไหน” นํ้าเสียงคุ้นเคยเอ่ยขึ้นจากชายร่างสูงที่ใบหน้าอันหล่อเหลามีความบอบช้ำอยู่นิดๆ ขายาวเดินก้าวเข้ามานั่งในห้องเรียน สายตากวาดมองไปยันที่นั่งตรงข้างอันมีเพียงความว่างเปล่า คิ้วเข้มขมวดเอ่ยถามเพื่อนสองคนที่นั่งอยู่ด้านหน้าด้วยความสงสัย “เฟมันกลับบ้านไปละ เห็นบอกว่าอยากพักผ่อน” ริกเตอร์หันมาตอบเพื่อนตัวเองในขณะที่รีน่านั้นไม่แม้แต่จะให้ความสนใจกับคำพูดเขา “แล้วน้องพิณเป็นไงบ้างล่ะ” “ได้รับแผลนิดหน่อย กูทำแผลให้ไปแล้ว” “มึงดูเป็นห่วงน้องมันเนาะ” “……” เมื่อเจอคำตอบริกเตอร์เข้าใจ โครงหน้าหล่อไม่ได้แสดงทีท่าอะไรนอกจากนิ่งเงียบ ไม่มีคำตอบไดๆให้กับเพื่อนตรงหน้า หันไปมองที่นั่งตรงข้างที่ไร้เจ้าของอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนที่จะฟุบหน้าลงกับโต๊ะพรางหลับตาลง เป็นเรื่องประจำวันในห้องเรียนที่เขาทำ“พี่เฟครับ!“ ในขณะที่ทุกคนกำลังสนทนากันระหว่างมองรูปถ่ายของคู่ฮอตในมหาลัย เสียงคุ้นๆของชายคนหนึ่งได้ดังขึ้น ดึงเอาความสนใจจากทั้งสี่ที่รีบหันไปมอง เมื่อเห็นภาพตรงหน้าคือชายหล่อเหลาอันคุ้นเคยนั้นยืนอยู่ตรงหน้าจากพื้นที่ไม่ไกลจากพวกเขาพร้อมช่อดอกไม้ใหญ่ในมือ เฟญ่ารีบฉีกยิ้มดีใจขึ้นมาพรางเอ่ยเรียกชื่อคนตรงหน้าดวยความเซอร์ไพรส์ “ธันวา!” “ยินดีด้วยนะครับ” ธันวาเองก็ยิ้มตามรอยยิ้มแสนหวานของอีกคนที่เขาตั้งใจมาหา ชายหนุ่มรุ่นน้องรีบก้าวเข้ามายืนตรงหน้ารุ่นพี่สาวเฟญ่าพร้อมยื่นช่อดอกไม้ให้กับเธอ “ขอบคุณนะ ว่าแต่เรากลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่” “เพิ่งถึงก็มาที่นี่เลยครับ” “เหอะ งั้นก็กลับไปซะเถอะ!” นํ้าเสียงดุดันไม่พึงพอใจเอ่ยกล่าวขึ้นแทรกคำสนทนา ทั้งคู่รีบหันมองเนวิลที่ใบหน้าบึ้งตึงยืนอยู่ข้างเฟญ่า เพี๊ยะ “โอ้ย..” ฝ่ามือเล็กตีลงไปบนแขนใหญ่พรางจ้องหน้าเขาตาเขียว “พูดจาดีๆสิ!” เฟญ่ามองดุแฟนหนุ่ม นิสัยก้าวร้าวไม่เคยจะเปลี่ยน “นั่นน่ะสิครับ ไม่เจอกันตั้งนานการวาจายังเหมือนเดิมเลยนะครับ” ธันวารีบพูดแซะเสียงอ่อน ไม่เจอกันตั้งนานรุ่นพี่คนนี้ยังคงไม่มีเปลี่ยน “มึง—-” “เน
“ฮึก..ฮือ..” เสียงสะอึกสะอื้นดังอยู่ในท่ามกลางความเงียบ หลังกิจกรรมจบสิ้น บรรยากาศในห้องเต็มไปด้วยความอึดอัด แทนที่จะทั้งคู่จะปรับตัวเข้ากันได้ ชายร่างโปร่งเดินออกมาจากห้องนํ้า ก่อนฝีเท้าจะหยุดอยู่ตรงหน้าหญิงสาวที่นั่งก้มหน้าร้องไห้ นํ้าเสียงอ่อนโยนกล่าวขึ้นพร้อมปลอบประโลมแฟนสาว “เฟ..ทีนี้จะฟังกูได้รึยัง” เขาถามเสียงอ่อน พรางมองคนตรงหน้าที่นั่งสะอึกสะอื้นไม่เงยมองเขา “ฮึก..กูไม่ฟังอะไรทั้งนั้น กูเชื่อในสิ่งที่กูเห็น” เนวิลกัดกรามแน่นกับความดื้อด้านของหญิงสาว ความเชื่อใจมันไม่มีให้กันเลยรึไง แค่ฟังเหตุผลเธอถึงทำไม่ได้ “งั้นก็แล้วแต่มึงเถอะ ถ้ามึงไม่ฟังก็ไม่ต้องฟัง” นํ้าเสียงหงุดหงิดกล่าวออกมา ก่อนฝีเท้าจะก้าวออกไปนอกห้องด้วยความหัวเสีย เฟญ่ารีบเงยหน้าขึ้นมองตามแผ่นหลังใหญ่ “เดี๋ย—“ หญิงสาวรีบงับปากไม่ให้ส่งเสียงออกไป ในขณะนั้นนํ้าสีใสก็ไหลรินลงมาเรื่อยๆพร้อมหัวใจที่แตกสลาย “มึงทิ้งกูไว้อีกแล้วหรอ ฮึก..ไอคนหลอกลวงฮือ..ไหนบอกจะไม่ทำอีก ฮึก..สุดท้ายก็ทิ้งกูไว้เหมือนเดิม จะไปหาเ
ในเวลาเดียวกันที่เฟญ่าวิ่งแจ้นออกมาด้วยความเร็วจนไม่ทันได้มองคนที่เดินมาเบื้องหน้าจนชนเข้ากับอกแกร่ง.. ปึก! เฟญ่าตกใจรีบเงยมองก็พบกับชายแปลกหน้าหล่อดูดี กับสายตาแพรวพราวที่มองหน้าเธอด้วยความตกใจเล็กน้อย “เอ่อ..ขอโทษค่ะ..” “ไม่เป็นไรครับ” ทั้งคู่มองตากันในขณะที่ชายผู้นั้นโอบเฟญ่าเอาไว้ “อกแน่นจัง เข้าฟิตเนสแน่เลย..” ฝ่ามือเล็กลูบไล้ไปทั่วอกแกร่งของชายตรงหน้า เมื่อได้ยินเสียงฝีเท้าที่เดินไกล้เข้ามา “สนใจเข้าด้วยกันมั้ยครับ..” อีกคนก็ไม่แผ่ว เมื่อเธอชวนเขาก็แค่เล่นตาม.. “น่าสนนะคะ..” เฟญ่ายิ้มร้าย ทั้งคู่มองหน้ากันในขณะที่ร่างกายแนบชิดไม่มีใครผละออกก่อน ก่อนที่จะมีมือหนาของใครบางคนมาดึงเรียวแขนเล็กออกมา ก่อนเสียงดุดันจะดังตามหลัง “เฟ ทำบ้าอะไรของมึง!!” เฟญ่าหันมองคนด้านข้างที่จับเรียวแขนเธอเอาไว้แน่นกับสายตาที่จ้องไปยันใบหน้าชายอีกคนด้วยความโกรธ “ก็แค่ทำความรู้จักเฉยๆ..” นํ้าเสียงประชดประชันดังขึ้น ทำเอาเนวิลไม่พอใจเป็นอย่
“ยัยเฟไปเข้าห้องนํ้าตั้งนานแล้วนะ ทำไมยังไม่มาอีก” รีน่าหันมองรอบๆพรางเอ่ยพึมพำ เมื่อเป็นเวลานานที่เฟญ่าไปเข้าห้องนํ้าแต่ทว่ายังไม่กลับมาจนจะหมดเวลาพักเที่ยง “นั่นสิ เกิดเรื่องอะไรขึ้นรึเปล่าก็ไม่รู้ ไม่ยอมให้กูไปด้วย” เนวิลกล่าวตามหลังด้วยความเป็นห่วงแฟนสาว “เดินมานุ่นละ” “ไหนวะ” เนวิลรีบหันมองตามสายตาริกเตอร์ที่มองออกไปไม่ไกล แต่ทว่าตนกลับไม่เห็นเฟญ่าดั่งเพื่อนกล่าว “กูหมายถึงชะนี” พูดยังไม่ทันขาดคำ ฝีเท้านั่นก็มาหยุดอยู่ตรงหน้าเนวิล ทั้งสามหันมองด้วยใบหน้าสะอิดสะเอียน ก่อนหญิงสาวผมยาวที่มองเนวิลด้วยรอยยิ้มจะกล่าวขึ้น “วิล” “เอลลี่..?” เนวิลขมวดคิ้วเข้มมองรุ่นพี่สาวดาวมหาลัยเก่าที่จบไปก่อนเขาหนึ่งปี อยู่ๆกลับมายืนอยู่ในโรงอาหารมหาลัย “ไม่เจอกันนานเลยนะ ยังคงหล่อเหมือนเดิมเลย ไม่รู้ว่าอย่างอื่น….” เอลลี่มองยั่วด้วยสายตาบ่งบอกชัดถึงความต้องการ เธอค่อยๆมองลงตํ่า… “แฮ่ม! อย่ามาทำตัวตํ่าแถมนี้ดีกว่าค่ะ คนตั้งเยอะแยะ” รีน่
เนวิลโอบไหล่เฟญ่าเดินออกไป ปล่อยให้สองคนยืนกัดกัน รีน่ามองตามแผ่นหลังคู่ที่เดินออกไปก็นึกหมั่นไส้ “ชิ…” “ไม่เป็นไรนะที่รัก เราไปกันสองคนก็ได้” ริกเตอร์ไม่รอช้า มือหนารีบยกขึ้นมาโอบไหล่รีน่า เผยยิ้มกวนเชิญชวนเธอด้วยนํ้าเสียงทะเล้น “ใครอยากไปกับมึง” รีน่าหันมองคนด้านข้างตาขวาง กล่าวถามเสียงแข็งไม่มีความเป็นผู้หญิง “ที่รักไง” อีกคนก็ยังคงไม่หยุด หวังจะหยอดเธอเข้าให้ได้ทุกนํ้าเมื่อมีโอกาส “อย่ามามั่ว!” หญิงสาวจ้องตาเขียวก่อนจะดีดตัวออกจากคนตัวใหญ่พรางเดินออกไปด้วยสีหน้าหงุดหงิด —————— “อ่ะ สำหรับที่รัก” ภายในห้องเรียน ชั้นหลังสุดของห้อง มือหนายื่นลูกชอคโกแลตในมือให้กับแฟนสาวที่นั่งฟังอาจารย์ตรงหน้า เฟญ่าหันหน้ามามองตามเสียงก่อนจะไล่มองลงมาหาบนฝ่ามือหนาที่มีชอคโกแลต “อะไร” หญิงสาวคิ้วขมวดเอ่ยถามด้วยความงุนงง เมื่อเธอตั้งใจเรียนอยู่ดีๆกลับมายื่นชอคโกแลตให้ “ชอคโกแลตไง” “ให้ทำไม” “กินสิ” “เรีย
“ทำไมจะไม่กล้า” เฟญ่าต่อลอง สายตาจ้องใบหน้าหล่ออย่างเคร่งคัด แต่ทว่าเมื่อถูกอีกคนขู่กลับจำต้องหลบสายตา “ก็เอาสิ..กูจะเอามึงจนผลิตลูกให้กูเป็นสิบเลย..” ปากหยักได้รูปยกยิ้มเจ้าเล่ห์ สายตาเต็มไปด้วยเลศนัยมองคนสวยบ่งบอกว่าเขาไม่เคยพูดเล่นกับเรื่องนี้ หากเธอทำจริงมีหวังไม่ได้เดินไปหลายเดือน “ไม่หนีก็ได้..ชิ..” เฟญ่าหันหน้าหนี พึมพำเสียงอ่อนพอให้เขาได้ยิน เนวิลเผยยิ้มพึงพอใจ “ดี หึ..” “ปากมากจังพวกมึง ชนแก้วเว้ยชนแก้ว” รีน่าที่กำลังเครียดเมื่ออดทนฟังต่อไม่ไหวก็รีบชูแก้วขึ้นอีกครั้ง เกร้ง! ทั้งสี่ชูแก้วขึ้นชนกันจนไวน์แดงในแก้วหกเข้ากัน เสียงเกร้งแกร้งดังขึ้นลั่น ก่อนปากจะแตะขอบแก้วกระดกดื่มพร้อมกัน “อื้อ….” “แค่กๆ..ครอก~” เวลาผ่านไปจนถึงกลางดึก เสียงกรนดังลั่นอยู่กลางชายหาด ในขณะที่ริกเตอร์นอนกองบนตัวรีน่า ทั้งคู่หลับไหลด้วยความเมาอย่างไม่รู้สึกตัว แต่ทว่าเนวิลกลับนั่งมองเฟญ่าที่นั่งสลึมสลือด้วยฤทธิ์แอลกอฮอล์ “ปล่อยพวกมันไว้นี่แหละ”