Home / แฟนตาซี / ฤาจันทราเร้นรัก / 1.วิบากกรรมพันครั้ง (2)

Share

1.วิบากกรรมพันครั้ง (2)

Author: rasita_suin
last update Last Updated: 2025-02-23 14:08:40

ร่างอรชรที่อ่อนระโหยถูกประคองให้นั่งลงบนแท่นน้ำแข็ง มาถึงขุนเขามังกรสวรรค์หญิงสาวก็ทรมานน้อยลงแล้ว ทั้งเมื่อได้อยู่บนแท่นน้ำแข็งร่างกายที่ปั่นป่วนด้วยเพลิงร้อนวูบวาบก็ผ่อนคลายขึ้น

“จือเยว่ คนเก่งของพ่อ อดทนอีกไม่นาน เจ้าจะผ่านมันไปได้”

ไท่จื่อจิ่นลี่วางมือหนาลงบนศีรษะของบุตรสาว แววตาคู่คมเข้มฉายแววอ่อนโยน

“เพคะ”

จือเยว่ตอบรับอย่างมุ่งมั่น ดวงตาคู่งามเปล่งประกายของความมั่นใจในตนเอง

“พ่อไม่อาจอยู่ที่นี่กับเจ้า หรือส่งผู้ใดมาอยู่กับเจ้าได้ แต่ไม่ต้องกังวลไป จะไม่มีใครหรือสิ่งใดเข้ามายังขุนเขามังกรนี้ได้”

“ท่านพ่อมีราชกิจมากมายและยังต้องดูแลท่านแม่ ลูกอยากบำเพ็ญเพียรให้สำเร็จโดยเร็ว เพื่อแบ่งเบาราชกิจของท่านพ่อเพคะ”

จิ่นลี่ลูบผมนุ่มสลวยด้วยความรักเอ็นดูทั้งห่วงใยไม่น้อย

“หากเจ้าบรรลุเทพเซียนขั้นเก้าแล้วพ่อจะมารับ”

จือเยว่ยิ้มบาง ไม่หวั่นเกรงต่อสิ่งใด แม้จะปวดร้าวในอกซ้ำเล่าซ้ำเล่า ทั้งยังร้อนราวเพลิงโหมไหม้ภายในกายยามต้องเผชิญทุกข์เข็ญ เมื่อไอเย็นจัดภายนอกปะทะและแทรกซึมเข้ามาเนื้อตัวจึงสะบัดร้อนสะบัดหนาวเหมือนพิษไข้รุมเร้าอย่างหนักจนต้องกระอักเลือด แต่ผ่านไปครู่ใหญ่นางก็จะมีแรงกำลังกลับมานั่งบำเพ็ญเพียรพลังปราณอีกครั้ง ทว่าที่ไม่อาจรรู้ได้คือ ดวงจิตของตนจะลงไปเผชิญวิบากกรรมยังดินแดนมนุษย์เมื่อใด

เมื่อบิดาจากไปแล้วหญิงสาวก็นั่งสมาธิเดินพลังปราณอีกครั้งเพื่อสยบเพลิงวิบากในกายตน

ดินแดนมนุษย์ในเวลาต่อมา

“เซียงเอ๋อร์มากับพี่เร็ว”

หญิงสาวเจ้าของดวงหน้าเรียวสวยงดงาม รูปร่างอรชรอ้อนแอ้นเข้ามาฉุดสาวน้อยที่ร่างเล็กบอบบางกว่าขณะเจ้าตัวกำลังนั่งฝึกเขียนอักษรภาพให้ลุกขึ้น

“ไปที่ใดหรือพี่หญิง”

“วันนี้เสด็จพ่อโปรดให้องค์ชาย รวมทั้งบุตรชายขุนนางผู้ใหญ่เข้าเฝ้าที่อุทยาน”

“แล้วทำไมหรือ”

สาวน้อยรับรู้มาก่อนแล้วเช่นกัน ทั้งยังเห็นว่าไม่เกี่ยวกับตน แล้วก็ได้เห็นว่าสีหน้าของผู้เป็นพี่สาวดูเก้อเขิน ก่อนจะเอ่ยอึกอัก

“เอ่อ คือว่า...พี่ได้ยินมาว่า บุตรชายท่านราชครู...”

องค์หญิงเจียวมิ่งเหลือบไปยังนางกำนัลทั้งสองที่ยืนก้มหน้าอยู่ด้านหลังแล้วก็ถอนหายใจไม่กล้าพูดต่อ ทว่าผู้เป็นน้องกลับโพล่งขึ้นโดยไม่ทันได้คิดใคร่ครวญด้วยอายุยังน้อย

“พี่หญิงอยากเห็นบุตรชายท่านราชครูหรือ”

“หนิงเซียง”

พี่สาวเอ็ดพร้อมตีเบาๆ ทำเอาสาวน้อยเกาศีรษะ ไม่เข้าใจว่าตนพูดสิ่งใดผิดไป ในเมื่อบุตรชายราชครูคือคู่หมายของผู้เป็นพี่ตามพระประสงค์ของพระบิดา หากก็นึกขึ้นมาได้ว่าวันนี้มีรับสั่งห้ามบรรดาองค์หญิงไปยังอุทยาน

“พี่หญิงกลัวคนมาได้ยินหรือ”

องค์หญิงเจียวมิ่งมีสีหน้าขัดใจ ขณะที่ผู้เป็นน้องถามต่อ

“แล้วท่านจะไปที่นั่นได้อย่างไร”

“เอาเถิดน่า เจ้ามาเป็นเพื่อนพี่ก็พอ”

ในคราแรกหนิงเซียงแปลกใจที่พี่สาวต้องการให้ตนมาด้วย ทว่าพอต้องแต่งชุดของนางกำนัลแล้วให้นางกำนัลคนสนิททั้งสองใส่ชุดของทั้งคู่อยู่ในตำหนักแทนนางจึงเข้าใจ ระหว่างทางที่เดินก็พยายามเลี่ยงผู้คนและก้มหน้าจึงไม่เป็นที่สะดุดตานัก

ทั้งสองแอบมุดเข้ามาทางด้านข้างอุทยานที่มักใช้เล่นซ่อนหากันในวัยเยาว์ ลัดเลาะหลบซ่อนต้นไม้ใหญ่และพุ่มไม้เพื่อไปให้ใกล้ศาลากลางน้ำยังอุทยาน แต่แล้วเสียงหนึ่งก็ทำให้หนิงเซียงหยุดแล้วเปลี่ยนเส้นทาง

“เซียงเอ๋อร์ จะไปไหน”

องค์หญิงเจียวมิ่งมองตามพร้อมเรียกผู้เป็นน้องเสียงเบา หากอีกฝ่ายกลับไม่หยุดกระทั่งนางจำต้องตามไป

ร่างบอบบางทรุดกายลงเมื่อเห็นต้นเหตุของเสียงอยู่บนพุ่มไม้หนาที่มีดอกไม้เล็กๆ แซมสวยงาม

“รังนก”

ผู้เอ่ยเป็นองค์หญิงเจียวมิ่ง

“ตายจริง มีนกตัวเล็กด้วย หล่นมาอยู่ตรงนี้ได้อย่างไรนะ”

องค์หญิงหนิงเซียงพยักหน้าตาม

“แบบนี้แม่ของมันคงตามหาแย่เลย”

พลางพึมพำก็เงยหน้าขึ้นมองด้านบนต้นไม้ แล้วก็เห็นส่วนที่ยังพอมีเศษหญ้ากับใบไม้แห้งอยู่ที่ดูออกว่าน่าจะเป็นรังนก องค์หญิงหนิงเซียงเม้มริมฝีปากปากก่อนตัดสินใจยื่นมือไปประคองรังนกให้เบามืออย่างที่สุด เพราะนกตัวเล็กราวเพิ่งแรกเกิดจึงไม่อาจบินได้ ทำได้เพียงส่งเสียงร้องดังเมื่อรู้สึกได้ว่าที่คุ้มภัยของตนขยับเขยื้อน

“เจ้าจะทำอะไร”

องค์หญิงเจียวมิ่งถามเมื่อน้องของตนประคองรังนกก้าวไปยังโคนต้นไม้

“พี่หญิงช่วยถือให้ข้าก่อนได้หรือไม่”

“อะไรนะ”

“นะพี่หญิง ข้าขึ้นไปข้างบนแล้วท่านค่อยส่งขึ้นมา”

องค์หญิงหนิงเซียงขอร้องพลางจับมือพี่สาวมารับรังนก อีกฝ่ายรับขณะมือสั่นอย่างไม่มั่นใจ

“เจ้าจะขึ้นไปจริงหรือ มันอันตรายนะ แล้วเผื่อมีผู้ใดมาเห็นเข้าจะทำอย่างไร”

“ส่วนนี้ใกล้ด้านหลังอุทยาน ผู้คนผ่านไปมาน้อย ข้าอยากช่วยให้มันได้เจอแม่”

ผู้เป็นพี่สาวหน้าเศร้าเมื่อได้ยินเช่นนี้ เพราะพระสนมเอกมารดาของทั้งสองจากไปตั้งแต่อายุยังน้อย สุดท้ายจึงยอมพยักหน้าเห็นด้วยกับน้องสาว

องค์หญิงหนิงเซียงค่อยๆ ปีนต้นไม้จนไปถึงส่วนที่มั่นคง และสามารถยื่นมือลงมารับรังนกจากพี่สาวที่พยายามส่งให้อย่างสุดเอื้อม จากนั้นก็ขยับตัวช้าๆ เพราะมือเหลือเกาะเพียงข้างเดียว ไต่ไปตามกิ่งไม้ใหญ่ ทว่าจุดที่รังนกเคยอยู่ก็ยังไกล นางกัดฟันไปต่ออย่างระมัดระวังและรู้สึกขาสั่นตามกิ่งไม้ที่ขยับไหว เมื่อไม่อาจเคลื่อนเท้าได้อีกก็จำต้องยื้อมือให้สูงที่สุดพลางเขย่งปลายเท้าขึ้นด้วยเพื่อวางรังนกให้ถึงจุดเดิม

ขณะเดียวกันกับที่องค์หญิงหนิงเซียงพยายามจัดวางรังนกก็มีเสียงคนคุยกันใกล้เข้ามา แต่เพราะต้องระวังจึงไม่มีเวลาหันมองกระทั่งทำได้สำเร็จและถอนหายใจโล่งอก หากกลับต้องสะดุ้งเพราะเสียงทักดังขึ้น

“เจ้าขึ้นไปบนนั้นได้อย่างไร”

“อ๊ะ!”

เพราะความตกใจทำให้ปลายเท้าที่เขย่งอยู่ลื่น ทั้งน้ำหนักตัวยังทำให้กิ่งไม้ด้านบนที่จับอยู่หัก ร่างบอบบางพลาดหล่นวูบลงมาด้านล่างกะทันหัน

=====

วิบากกรรมครั้งสุดท้ายของจือเยว่จะเป็นอย่างไร มาติดตามเอาใจช่วยกันค่า^^

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ฤาจันทราเร้นรัก   27.ลิขิตจันทรา (2)

    “ท่านมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร”ร่างสูงใหญ่เคลื่อนมาหานางพร้อมกับหลี่เหอจือเยว่ยืนนิ่งเพราะรู้สึกถึงแรงบีบถี่ในท้องของตน มือบางกุมท้องและทรุดกายลง เฟยอวี่ก็รีบช่วยประคอง“ปวดท้องหรือ”นางพยักหน้าให้สามี ก่อนจะพูดเสียงสั่น“ข้าทนไม่ไหวแล้ว”เฟยอวี่ตกใจ ไม่รู้จะทำอย่างไร สุดท้ายก็อุ้มภรรยาของตนไปยังดินแดนมนุษย์ หลี่เหอช่วยเนรมิตกระท่อมขึ้นมา“ทำอย่างไรดี หากหลี่เอินอยู่ที่นี่ด้วยก็คงดี”เขาอดคิดถึงน้องสาวไม่ได้เทพสงครามวางร่างอรชรที่งอตัวแล้วร้องดังขึ้นเรื่อยๆ พายุที่หยุดไปเมื่อครู่เริ่มกระหน่ำลงมาอีกครั้ง ฟ้าแลบฟ้าร้องดังสนั่น จือเยว่ยิ่งดิ้นทุรนทุราย ขณะที่เขาทำได้เพียงจับมือบางและโอบกอดอีกฝ่าย“เฟยอวี่...ช่วยด้วย กรี๊ดดดด!!”จือเยว่กรีดร้องออกมาลั่นทั่วทั้งป่า ก่อนแสงสว่างเรืองรองจะวาบขึ้นแล้วปรากฏร่างเด็กทารกใกล้ร่างบอบบางที่หมดสติเฟยอวี่มองสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างทำตัวไม่ถูก ขณะที่หลี่เหอถึงกับตกตะลึง หากก็รีบเข้ามาอุ้มร่างเล็กที่กำลังแผดเสียงร้องจ้าขึ้นเวลาเดียวกันนั้น ท้องฟ้ามืดมิดสว่างไสวในชั่วพริบตา พายุฝนฟ้าคะนองเลือนหายราวไม่เคยเกิดสภาพอากาศแปรปรวนโหดร้ายก่อนหน้านี้สองหนุ่มสบตา

  • ฤาจันทราเร้นรัก   27.ลิขิตจันทรา (1)

    สองร้อยปีต่อมา...“ให้ลูกไปเถิดนะท่านแม่”“เวลาเช่นนี้สุ่มเสี่ยงเกินกว่าที่ลูกจะไปเสี่ยงอันตราย ท่านย่ารู้ว่าแม่ให้ลูกไปต้องโกรธมากแน่”“ท่านพ่อ”จือเยว่หันไปหาบิดาให้ช่วยเหลือเมื่อมารดาส่ายหน้า ทว่าไท่จื่อจิ่นลี่กลับเหลือบสายตาไปยังภรรยา“ยังไงลูกก็จะไป”ใบหน้างดงามงอง้ำด้วยความขัดอกขัดใจ“เยว่เอ๋อร์ หากในเวลาปกติ พ่อก็คิดว่าเจ้าสมควรไป แต่เวลานี้...”ไท่จื่อสวรรค์ถอนหายยาว“พ่อไม่อนุญาต”จือเยว่มองบิดามารดาอย่างน้อยใจแล้วหันไปยังสามีซึ่งยืนเงียบทั้งยังมีสีหน้าลำบากใจ ริมฝีปากอิ่มสวยก็เม้มขุ่นเคือง“ลูกแข็งแรงดี ไม่ได้เป็นอะไร ไม่ได้มีสิ่งใดผิดปกติ ก่อนหน้านี้ก็ยังลงไปช่วยเผ่าปีศาจพร้อมกับเฟยอวี่ ครั้งนี้ไยจึงไปไม่ได้”“เวลานั้นลูกไปโดยที่ไม่บอกผู้ใดว่าตั้งครรภ์ แต่ตอนนี้คนรู้ทั่วทั้งสวรรค์ ยิ่งท่านปู่ท่านย่าของลูก ยิ่งไม่ต้องการให้ลูกทำงานราชกิจใด อีกอย่างก็น่าจะจวนเจียนคลอดแล้ว”“ลูกยังไม่รู้สึกว่าจะถึงเวลา”ผู้ที่ตั้งครรภ์ทว่าท้องไม่ได้โตขึ้นแม้แต่น้อยแย้งมารดา“แม่ก็คลอดลูกหลังตั้งครรภ์ไม่นานนัก”ด้วยบุญญาธิการของชนชั้นสูงเผ่าสวรรค์นั้นไม่อาจล่วงรู้ได้ ฤกษ์งามยามดีเหมาะสมเกิดจากญ

  • ฤาจันทราเร้นรัก   26.เติมเต็มความคิดถึง (2)

    “จะไม่ให้ข้าได้พักเลยหรือ”“ท่านอยากพักก็พัก ข้าไม่ได้ห้าม”ใบหน้างดงามยังงอง้ำ ดวงตาคู่หวานซึ้งฉายแววขุ่นเคือง ทว่าเฟยอวี่ไม่รู้สึกเกรงกลัวทั้งยังเอ่ยหน้าตาย“ถึงท่านพัก ข้าก็ทำได้ โอ๊ย!”ชายหนุ่มสะดุ้งเพราะนิ้วเล็กจิกแล้วบิดอกหนาของตน“ตรงนี้มันเจ็บนะ”หญิงสาวสะบัดหน้าหนี เขาจึงจับมือที่ประทุษร้ายตนมาจูบ แล้วพาร่างอรชรลงไปนอนสบายๆ ส่วนตนตะแคงข้างกวาดมองเรือนกายเย้ายวน มีเสื้อรั้งอยู่ส่วนแขนและด้านหลัง หากก็แทบจะเปลือยเปล่า“เพิ่งบอกว่าคิดถึงข้า ตอนนี้มางอนเสียแล้ว”“ถึงข้าจะต้องการท่านมาก แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะยอมให้ท่านเอาแต่ใจกับข้า”“อืม ส่วนท่านเอาแต่ใจกับข้าได้”“เฟยอวี่”จือเยว่เสียงเข้มขึ้น ทั้งยังมองสามีตนด้วยแววตาดุ“โธ่ เมื่อครู่เป็นท่านเองที่ปลุกเร้าข้า ทั้งที่ข้าอุตส่าห์ห้ามใจ เพราะเห็นว่าท่านเพิ่งบาดเจ็บและยังเศร้าเสียใจ”“ท่านโทษข้า”เฟยอวี่ยิ้มเจื่อน รู้แล้วว่าหากไม่ยอมก็คงไม่จบ จึงเปลี่ยนไปเป็นง้อภรรยาแทน“ไม่ได้โทษท่าน ข้าดีใจยิ่งนักที่ท่านต้องการข้าถึงเพียงนี้ ข้าผิดที่เย้าท่านให้ได้อาย อย่าโกรธเคืองข้าเลยนะจือเยว่”ชายหนุ่มส่งสายตาอ้อนวอนปริบๆ จือเยว่จึงพยักหน้า

  • ฤาจันทราเร้นรัก   26.เติมเต็มความคิดถึง (1)

    เฟยอวี่ไม่ยอมเป็นผู้รับเพียงฝ่ายเดียว ขยับริมฝีปากได้รูปจูบร้อนแรงกลับไป ขณะยกร่างอรชรให้ขยับขึ้นมาคร่อมตักตน อีกฝ่ายยอมทำตามโดยง่าย มือบางเลื่อนสอดเข้าไปในกลุ่มผมนวดคลึงพลางพัวพันลิ้นเล็กกับลิ้นตนเร่าร้อนจนหายใจลำบาก ทว่าปากนุ่มยังขยับมาเม้มใบหูของเขาต่อทำเอาชายหนุ่มครางครึ้ม“อืม จือเยว่ เวลาร้อยปีทำให้ท่านใจร้อนขึ้นมากนัก”“เพราะข้าคิดถึงอ้อมกอดของท่าน ช่วงเวลาแห่งความสุขแสนสั้นเกินไป”ชายหนุ่มต้องกัดริมฝีปากตนเพราะเจ้าตัวตอบเบาชิดหูทั้งยังกัดติ่งหูเขาหยอกเย้า“ท่านยั่วเย้าเก่งเกินไปแล้ว ข้าคิดว่าท่านคงลืมเลือนสัมผัสจากข้าไปเสียแล้ว”“ข้าเพียงทำตามเสียงเรียกร้องแห่งปรารถนา”บอกแล้วนางก็ไล่เม้มลำคอแกร่ง มือกระชากเสื้อคลุมอีกฝ่ายออกด้วยเวทของตน ก่อนจะไต่สองมือบางไปตามบ่าหนากับแขนกำยำ ทั้งยังจิกปลายนิ้วครูดไปตามแผ่นหลังกว้างเร้าอารมณ์หนุ่มพร้อมแนบหน้าอกตนชิดอกแกร่งเปลือยเปล่า ขยับบดเบียดเชิญชวนมือหนาเลื่อนมาวางแนบเอวบางค่อยๆ ปลดชุดสวยอย่างไม่เร่งร้อนผิดกับอีกฝ่าย ตั้งใจปลดเปลื้องเรือนกายอ้อนแอ้นให้เผยอย่างช้าๆ เพียงด้านหน้า ดูเย้ายวนกระตุ้นเลือดหนุ่มฉกรรจ์ให้ทะยานอยากมากยิ่งขึ้นชายห

  • ฤาจันทราเร้นรัก   25.จือเยว่แม่ทัพสวรรค์ (2)

    “หากไม่คิดบัญชีกับเจ้า ข้าก็ไม่อาจตายตาหลับ ฆ่ามัน!”นางสั่งเสียงเข้ม ฝูงจิ้งจอกก็กระโดดจู่โจม จือเยว่เหินลอยตัวสูงพร้อมหลี่เหอหลี่เอิน และฟาดพันพลังใส่จิ้งจอกที่ถูกวิชามารควบคุม แต่ละตัวตาแดงก่ำน่ากลัวจิ้งจอกกระเด็นไปไกลแต่ก็ผุดยืนขึ้นรวดเร็วราวไม่บาดเจ็บ คงกลายเป็นปีศาจจิ้งจอกแล้ว ทั้งยังกระโดดได้สูงผิดจิ้งจอกทั่วไปและมีไอดำรอบกายซูเจินเองก็ไม่ได้นิ่งเฉย นางพุ่งเข้ามาพร้อมสะบัดแขนส่งพลังทำลายล้างสีดำทะมึนเข้ามาใส่ จือเยว่หันไปตั้งรับขณะหลี่เหอหลี่เอินพะวงกับฝูงจิ้งจอก แม้นางจะสกัดพลังทมิฬนั้นได้และผลักดันกลับไปจนอีกฝ่ายผงะ ทว่ากลับมีจิ้งจอกตัวหนึ่งพุ่งมาใส่ หญิงสาวถอยหนีอย่างกะทันไปจนถึงหน้าผา เป็นเวลาเดียวกับที่ซูเจินตั้งตัวได้ซัดพลังตามมา ร่างอรชรถูกกระแทกจากไอดำหงายหลังลงหน้าผาโดยมีจิ้งจอกตัวนั้นตามมาเพื่อขย้ำจือเยว่ลอยลิ่ว กำหนดจิตได้ยากเพราะบาดเจ็บ แล้วอยู่ๆ กลับมีลูกไฟพุ่งลงมายังตัวจิ้งจอกจนถูกเผาไปต่อหน้า รวมทั้งซูเจินกับจิ้งจอกตัวอื่นก็ถูกลูกไฟตามๆ กันขณะได้ยินเสียงซูเจินกรีดร้องหญิงสาวรู้สึกได้ว่าร่างสูงใหญ่โผวูบเข้ามารองรับร่างตนและพาลอยสูงขึ้น ผู้ที่บาดเจ็บเหลือบมอง แ

  • ฤาจันทราเร้นรัก   25.จือเยว่แม่ทัพสวรรค์ (1)

    เวลาล่วงเลยมาร้อยปี จากขุนพลสวรรค์จือเยว่สามารถขึ้นเป็นแม่ทัพสวรรค์ได้แล้ว นางเป็นผู้ดูแลราชกิจทั่วทั้งหกพิภพแทนไท่จื่อจิ่นลี่เต็มตัว แม้ผู้นำทัพสวรรค์ยังเป็นไท่จื่อ รวมถึงหน้าที่รับผิดชอบของเทพสงครามจือเยว่ก็เป็นผู้จัดการโดยปราศจากการแต่งตั้งเทพสงครามคนใหม่ หญิงสาวคิดว่าองค์จักรพรรดิสวรรค์ยังไม่เห็นว่าผู้ใดมีความสามารถเพียงพอ และตัวนางเองยังต้องได้รับความไว้วางใจจากขุนนางสวรรค์กับหกพิภพถึงอย่างนั้นหญิงสาวก็ไม่ได้ใส่ใจนัก ตำแน่งใดไม่สำคัญ นางอยากทำหน้าที่ของตนกับเฟยอวี่ให้ดีที่สุด ให้เหมือนกับเทพสงครามยังคงอยู่“ชายแดนเผ่าจิ้งจอกติดกับดินแดนมนุษย์มีอสูรร้ายอาละวาดกินผู้คนเป็นอาหาร ท่านแม่ทัพจะไปจัดการด้วยตนเองหรือให้ข้าไปแทนขอรับ”หลี่เหอถามขณะหารือในเรื่องฎีกาที่ส่งมา บางส่วนสามารถจัดการได้โดยไม่ต้องทูลฮ่องเต้สวรรค์ก่อน แม่ทัพจือเยว่จะเป็นผู้ตัดสินใจหรือไม่ก็ปรึกษาไท่จื่อ ด้วยเวลานี้องค์จักรพรรดิวางมือในหลายส่วนแล้วจือเยว่นิ่งงันไป ชายแดนเผ่าจิ้งจอกกับดินแดนมนุษย์ก็หมายถึงเขตรอยเชื่อมต่อที่เคยไปครั้งก่อน ครั้งที่ทำให้นางสูญเสียที่สุดในชีวิต นางไม่ควรไปหากไม่ต้องการเจ็บปวด ทว่าก็คิ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status