Share

๕.๒ คิดถึงใคร

last update Last Updated: 2025-04-26 18:00:29

  นรินทร์สะดุ้งตื่นลุกพรวดขึ้นมาพร้อมกับหายใจหอบ ภาพฝันที่วูบเข้าหาตัวเธอนั้นยังคงจำได้ติดตา มันช่างน่ากลัวเสียเหลือเกิน นรินทร์เสยผมตรงสวยของตนก่อนจะหายใจเข้าลึกเพื่อเรียกสติ เธอเอื้อมมือไปหยิบโทรศัพท์ที่วางอยู่ข้างเตียงเพื่อดูเวลาพร้อมกับถอนหายใจ

            “ตีสาม...อีกแล้วเหรอ”

หญิงสาวถอนหายใจก่อนจะพาร่างของตนลุกขึ้นแล้วเดินไปยังโซนห้องครัวเพื่อหาน้ำเปล่ามาดื่มเรียกสติให้ตัวเองตื่นเสียหน่อย มันเป็นแบบนี้ทุกครั้งที่เธอฝันอะไรแบบนี้ การตื่นกลางดึกทั้งที่เป็นเวลาพักผ่อนมันทำให้ร่างกายเธอของอ่อนเพลียไม่น้อย แต่ครั้นจะให้นอนก็เห็นทีจะนอนไม่หลับไปเสียแล้ว 

ร่างโปร่งมองหญิงสาวอันเป็นที่รักอย่างห่วงใย ภายในใจสงสัยไม่น้อยว่าทำไมคีภัทราถึงได้แทรกแซงฝันของนรินทร์ได้ เขาจึงทำได้เพียงปลุกเธอให้ตื่นด้วยมนตร์เท่านั้น นั่นคือเหตุผลที่นรินทร์ต้องตื่นขึ้นมากลางดึกเสียทุกครั้ง 

“คีภัทรานี่ใครกัน...ฝันถึงหลายรอบแล้วนะ...นางเจ้าองค์ไหนอีก...”

นรินทร์พึมพำกับตนเองพร้อมกับนึกถึงฝันที่พึ่งเกิดขึ้น มันน่าแปลกที่เธอมักจะฝันถึงผู้หญิงคนนี้แทบจะตลอด ทั้งที่เธอเองก็ไม่เคยรู้จักและไม่รู้เรื่องราวว่าเป็นองค์เป็นเจ้าที่ไหน เพราะน้อยมากที่เธอจะเขียนเรื่องในประเทศของตนสักที นานทีปีหนเห็นจะได้ 

อีกด้านหนึ่ง

“อึก!” เลือดสีแดงสดไหลลงจากริมฝีปากของหญิงสาวที่กำลังนั่งสมาธิอยู่ เธอลืมตาขึ้นแววตาดูโกรธแค้นที่ไม่สามารถทำอันตรายอีกหญิงผู้เป็นศัตรูได้ ฝ่ามือเรียวเล็กยกขึ้นมาทาบอกเพราะความรู้สึกจุกเสียดแน่นไม่คลายคล้ายกับโดนท่อนไม้ใหญ่กระทุ้งเข้ากลางอกอย่างไรอย่างนั้น 

“เจ้าพี่เพชรแก้ว...เพียงแค่ช่วยมันถึงกับต้องทำร้ายน้องเทียวรือ” คีภัทราพูดด้วยสีหน้าเจ็บปวดน้ำเสียงเย็นยะเยือกอย่างเจ็บใจมือยังคงกุมที่อกไม่คลาย

“มีอะไรให้ข้าช่วยรือไม่เจ้าคะ?” นาคีรับใช้อีกคนเอ่ยขึ้นพร้อมกับประคองคีภัทราให้ลุกออกจากตั่งนั่งสลักลายพญานาค  

“มีแน่ มันตรา...อีกมินานดอก มันก็จักมาหาข้าเอง...นางนรินธรา” คีภัทราพูดพร้อมกับหันไปยกยิ้มร้ายให้นางนาคีรับใช้ที่อยู่เคียงข้าง…

รถตู้สีเทากระจกทึบแล่นออกจากเมืองหลวง มุ่งหน้าเข้าสู่หมู่บ้านติดชายทะเลแต่เพราะหมู่บ้านอยู่บนเขาจึงค่อนข้างทุลักทุเลทางขึ้นเขาค่อนข้างคดเคี้ยวในการขับรถขึ้นไป นรินทร์นั่งตัวโงนเงนไปมามองสองข้างทางที่มีแต่ต้นไม้ใบหญ้าหนาทึบ 

ด้านหน้ามีเพียงเส้นทางถนนดินโคลนเล็กๆที่ชาวบ้านสร้างไว้เพื่อสัญจรไปมากับรถคันเล็กๆเท่านั้น หรือทางแค่จักรยานผ่าน ลูกทีมในรถต่างนั่งมองหน้ากันไปมา ความรู้สึกหนักใจและกังวลเริ่มก่อตัวขึ้น

“นรินทร์มึงเป็นอะไรไหม? ไหวหรือเปล่า?” นิลนนท์หันถามอย่างเป็นห่วงเมื่อเห็นสีหน้าของนรินทร์เริ่มซีดเผือด นรินทร์หันไปส่ายหัวให้นิลนนท์เพื่อให้เขาคลายกังวลถึงแม้ว่าเธอจะเริ่มวิงเวียนเพราะรถโยกเยกไปมาก็ตาม

“ห่วงคนอื่นบ้างก็ดีนะ...มันจะได้ไม่ดูออกนอกหน้า” ภากรณ์ที่โดนเนรเทศให้ไปนั่งอยู่ด้านหลังพูดขึ้นมือก็กอดอกไปพลางปรายตามองนิลนนท์ไปพลางอย่างไม่สบอารมณ์นัก 

นรินทร์ได้ยินดังนั้นจึงหันไปมองภากรณ์อย่างเหนื่อยหน่ายกับการกระทำของเขา หย่าร้างกันไปได้ไม่นานก็จริงแต่มันก็คือหย่าและคนที่ร้องขอหย่าก็คือเขาเอง การที่เขามาทำตัวเหมือนหวงแบบนี้เธอเองก็ไม่ได้รู้สึกดีเท่าไหร่

“แล้วจะตามมาทำไม? ไม่ใช่ว่าต้องไปญี่ปุ่นหรอกเหรอ” นรินทร์อดไม่ได้ที่จะหันไปถามอดีตสามีพร้อมกับทำหน้าไม่พอใจนักที่เขาติดสอยห้อยตามมาด้วยอย่างไม่มีเหตุผล 

แต่ภากรณ์กลับไม่ได้ตอบ เขาแค่ยักไหล่อมยิ้มแค่นั้นทำเอาคนที่นั่งอยู่บนรถส่ายหน้าอย่างนึกเอือมระอา ใครๆก็มองออกว่าเขาตั้งใจตามนรินทร์มา ทิ้งให้แฟนสาวคนใหม่อย่างพนิตาไปญี่ปุ่นกับทีมเพียงลำพัง ป่านนี้พนิตาคงหวีดร้องอย่างไม่พอใจแน่นอนเชียว

รถตู้ค่อยๆไต่ตามถนนที่ทุรกันดารอย่างยากลำบากคนบนรถนั่งโงนเงนเวียนหัวไปตามๆกัน ใครจะไปคิดว่าหมู่บ้านที่ติดชายทะเลมันจะมีทางเข้าลำบากขนาดนี้ แถมอยู่ห่างจากตัวเมืองไกลมากตั้งอยู่กลางป่าบนภูเขาติดทะเลตะวันออกของประเทศ 

“เฮ้ย!!” เสียงร้องของลุงคนขับรถร้องขึ้นมาเสียงหลงอย่างตกใจ รถที่ขับขึ้นเขาอย่างช้าๆเบรคชะงักทันทีจนคนในรถสะดุ้งหัวเกือบกระแทกเบาะด้านหน้าของแต่ละคน 

“ลุง! ทำไมเบรกแบบนี้เนี่ย?” เทวินหันไปถามพลางขมวดคิ้วแน่นอย่างสงสัย ถ้าเบรคพลาดหรือหักหลบมากกว่านี้รถที่พวกเขาโดยสายอยู่อาจจะตกเหวลงทะเลไปแล้วก็ได้

“งะ...งูครับ งูตัวใหญ่หลายตัวเลยแผ่แม่เบี้ยขวางรถอยู่นี่ครับ!!” ลุงคนขับรถหันมาพูดกับพวกทีมงานที่โดยสารมาด้วยหน้าตาตื่น มือยังคงชี้ไปทางหน้ารถอย่างตื่นตระหนกทุกคนจึงมองทางมือนั้นอย่างนึกสงสัยก่อนจะพากันสะดุ้งตัวโยนเมื่อเห็นภาพตรงหน้าเป็นจริงดังที่ลุงคนขับรถกล่าวมา

งูใหญ่สองตัวสีขาวกับสีดำเหมือนเป็นพญางูแพร่แม่เบี้ยจ้องมองมายังรถตู้ที่พวกเขานั่งอยู่ เหล่างูเล็กงูน้อยก็แผ่แม่เบี้ยพร้อมกับขวางหน้ารถ นิลนนท์จ้องมองดุบรรดางูเหล่านั้นและนรินทร์เองก็เห็นท่าทีของนิลนนท์ก็ขมวดคิ้วอย่างนึกสงสัยไม่น้อย

ถ้าเธอเป็นคนงมงายคงคิดว่านิลบนนท์กำลังคุยอยู่กับงูแน่ๆ นรินทร์ละสายตาจากนิลนนท์เพื่อนในทีมของตนก่อนจะหันไปมองงูเหล่านั้นที่ไม่รู้ทำไมถึงได้เข้ามาขวางหน้ารถของพวกเธอ 

...ขออย่าให้เกิดเรื่องไม่ดีขึ้นเลยนะ อย่าทำอะไรพวกเราเลยนะ ลูกมาดี...เอ่อ...อย่างมากก็แค่ขอหวยนิดๆหน่อยๆค่ะ... นรินทร์คิดในใจคล้ายกับภาวนากับตัวเองขอให้รอดปลอดภัย บทจะว่ามาดีก็คิดลังเลไปเสียหน่อยเพราะเธอก็คิดหวังขอเลขเด็ดบ้างและคิดว่ามันคงไม่ผิดศีลเท่าไหร่นัก

งูที่ใหญ่เกือบเท่าคันรถมันน่าแปลกและน่ากลัวมากสำหรับมนุษย์ มันคืองูจริงๆไม่ใช่ในฝันที่จะพูดคุยกันได้รู้เรื่อง แต่ภาพตรงหน้ายิ่งทำให้นรินทร์ถึงกับเบิกตากว้าง งูทั้งหลายแม้จะแผ่แม่เบี้ยแต่กลับผงกหัวลงก่อนจะเงยหน้ามองยังรถอีกครั้ง แล้วค่อยเลื้อยกลับสู่ป่าข้างทางหายไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น นิลนนท์นั่งอยู่ข้างๆนรินทร์หันไปมองนรินทร์ก่อนจะยิ้มบางๆ แล้วพูดขึ้น

“เหมือนกับว่า...มันทำความเคารพมึงเลยนะ...นรินทร์”

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ลิขิตสัญญานาคา   ๖๖. รอคอยอย่างไม่มีที่สิ้นสุด

    หลังจากเหตุการณ์ในครั้งนั้นจิตใจของนรินทร์ก็ไม่เคยสงบยังคงนึกถึงเรื่องที่เกิดขึ้นบางครั้งก็เหม่อลอยอยู่นานไม่ได้สติ เธอแทบไม่มีสมาธิในการทำงาน แม้ว่าสภาพร่างกายของนรินทร์จะฟื้นตัวจนเกือบจะหายดี แต่สภาพจิตใจของนรินทร์ไม่ได้ดีขึ้นเลยแม้แต่น้อยยังคงเซื่องซึมหวาดผวาทุกครั้งที่ได้ยินเสียงดังตลอดหลายเดือนที่ผ่านมาเธอพยายามทุกวิถีทางที่จะหาเขาให้เจอแม้กระทั่งเดินทางไปยังหมู่บ้านบูรบุรีทุกๆสุดสัปดาห์แต่ทว่าทางที่เธอเคยไปกลับไม่มีอยู่ ไม่ว่ายังไงเธอก็ไม่สามารถไปถึงที่นั่นได้เธอพยายามติดต่อพชรและแสงศรทั้งข้อความทั้งโทรศัพท์แต่สิ่งที่ได้ยินคือไม่มีเลขหมายที่เธอต้องการติดต่อ นรินทร์พยายามหาข้อมูลทุกสิ่งทุกอย่างที่จะเชื่อมโยงกับพชรแต่ก็ไม่คืบหน้าเลยเหมือนเธอกำลังวนอยู่ในอ่าง ตั้งแต่วันนั้นนรินทร์ไม่เคยได้พบพชรหรือแสงศรอีกเลยราวกับว่าพวกเขาไม่เคยเดินเข้ามาในชีวิตเธอ แต่รอยแผลบนตัวเธอยังคงย้ำเตือนว่าเรื่องราววันนั้นมันเกิดขึ้นจริงๆเขามีตัวตนจริงๆ ‘ฮือ...ทำยังไงฉันถึงจะติดต่อคุณได้คะพชร ฉันคิดถึงคุ

  • ลิขิตสัญญานาคา   ๖๕. พญาทศยันต์ เทวิน

    “ข้ามิได้มาเพื่อเข่นฆ่าผู้ใด ท่านจงวางใจในข้า” พญานกเอ่ย ก่อนจะกระพือปีกสีน้ำเงินนั้นพัดเข้าหาพญานาคทั้งสองมีเพียงมันตราที่กระเด็นกลิ้งออกไปตามแรงพัดนั้น มิอาจต้านแรงพญาครุฑาได้ พญาเพชรแก้วเหลียวมองพญานกนั้นก่อน พญาทศยันต์จ้องมองพญาเพชรแก้วก่อนจะเอ่ยขึ้น“ข้าจักจัดการนางเอง” ว่าแล้วก็กระพือปีกบินขึ้นสง โฉบเฉี่ยวคว้าร่างของนาคีสีเขียวตองอ่อนนั้นขึ้นสู่น่านฟ้า มุ่งหน้าไปยังอีกฝากฝั่งของมหานทีพระครูบามันที่เห็นว่าเรื่องราวสงบลงแล้ว ท่านจึงเดินเข้ามาหาพญาเพชรแก้วที่กลับร่างกายหยาบเป็นพชรด้วยท่าทีสงบนิ่ง มองดูจ้าวจอมผู้เป็นใหญ่ช้อนกอดร่างของนางอันเป็นที่รักร่ำไห้ปานจะขาดใจอย่างเวทนาสงสาร“นางยังมิสิ้นใจหรอกท่าน…จิตของนางยังคงช่วยค้ำยันชีวิตและร่างกายนี้เอาไว้อยู่” พระครูบามันเอ่ยว่าแล้วร่างโปร่งใสของนรินธราก็ปรากฏอยู่ต่อหน้าเขา ร่ำไห้นั่งลงเคียงข้างพชร พลางเอื้อมมือไปจับมือหนาของเขาที่กำลังพยายามช่วยชีวิตของนรินทร์ พลังเหนือธรรมชาติของทั้งสองดวงจิตผสมผสานกันเพื่อช่วยหญิงสาวตรงหน้า&l

  • ลิขิตสัญญานาคา   ๖๔. พระครูบามัน

    “ข้าคอยตักเตือนเจ้าแล้ว…คีภัทรา!! แต่เจ้ากลับไม่มีทีท่าจักสำนึก!! จงกลับลงไปจมสู่ใต้ธาราชั่วนิรันดร์เสีย” ดวงตาสีน้ำผึ้งจ้องมองคีภัทราอย่างเกรี้ดกราด โกรธแค้นเคืองใจนางตรงหน้าที่เคยรักเหมือนดั่งพี่น้อง ค่อยวางร่างของนรินทร์ลงกับพื้นอย่างเบามือทั้งน้ำตา ลุกขึ้นมาหุนหันย่างก้าวเข้าหาพญานาคีห้าเศียรตรงด้วยโทสะ ดวงตาฉายแววอาฆาตต้องการจักปลิดชีพนางเสีย“หยุดก่อนท่าน…จงระงับโทสะแล้วไตร่ตรองดูเสียเถิดท่านพญานาคราชผู้ยิ่งใหญ่ หากท่านพลาดพลั้งไปสิ่งที่ท่านทำมามันก็สูญเปล่า…อย่าได้ต่อเวรต่อกรรมกันเลย ให้มันเป็นหน้าที่ของเวรกรรมที่นางจะต้องได้รับผลนั้นเองเสียเถิด”เสียงนุ่มเย็นดังขึ้นอยู่กึ่งกลางระหว่างทั้งสอง ก่อนจะปรากฏร่างของพระครูบามันเดินเข้ามาขวางทางทั้งคู่ด้วยท่าทีที่นิ่งสงบ พชรยังคงไม่คลายโทสะลงจ้องมองพระครูและคีภัทราสลับกันไปมา“มันมิใช่กิจของท่าน จงอย่าได้แส่!” คีภัทราเอ่ยขึ้นอย่างไม่เคารพ เวลานี้นางเองก็อยากจะทวงขอความรักจากชายตรงหน้าเช่นกัน หากมิได้ความรักก็ขอต่อเวรต่อกรรมจองจำพบเจอกันมันไปทุกภพทุกช

  • ลิขิตสัญญานาคา   ๖๓. เดิมพันด้วยชีวิต

    รถตู้หยุดอยู่ที่ขอบหน้าผาหมิ่นเหม่เหมือนจะตกลงไปอยู่รอมร่อ แต่เพราะลำกายของงูใหญ่นั้นพันเกี่ยวรถตู้เอาไว้ ชูคอหันหน้ามาทางรถที่พชรและนรินทร์นั่งอยู่ราวกับกำลังต่อรอง ท่ามกลางเสียงกรีดร้องด้วยความกลัวของคนในรถดังออกมาจนได้ยินชัดคนในรถต่างพากันหาที่ยึดเหนี่ยวไว้อีกฝั่งก็พญานาคอีกฝั่งก็หน้าผาทุกคนต่างเริ่มร้องไห้ด้วยความหวาดกลัวมีเพียงนิลนนท์ที่พอจะมีสติแต่เขาเองก็ปฎิเสธไม่ได้ว่ากลัวไม่ต่างกันสายตาของนิลนนท์มองไปรอบรถตู้อย่างน้อยน่าจะมีอะไรพอช่วยได้บ้างแต่ทว่ามีเพียงเข็มขัดนิรภัยเท่านั้นอย่างน้อยหากตกลงไปก็ยังพอมีโอกาสรอด“ทุกคนรัดเข็มขัด! ไม่ว่าเกิดอะไรขึ้นอย่าถอดออกเด็ดขาด” นิลนนท์พยายามทำเสียงแข็งทั้งที่ในใจหล่นวูบ“ฮืออ พี่นิลมินกลัวนี่มันฝันใช่ไหม” มินตราร้องไห้ด้วยความกลัว“กูอยู่นี่ไม่ต้องกลัว” เทวินปลอบมินตราก่อนจะรีบรัดเข็มขัดของตัวเองและหันไปสำรวจของมินตรา“นายท่านครับ…” แสงศรหันไปเรียกผู้เป็นเจ้านายด้วยสีหน้าจริงจัง พชรพยักหน้าก่อนที่แสงศรจะหักรถกลับไปยังที่เกิดเหตุ

  • ลิขิตสัญญานาคา   ๖๒. แรงแค้นที่ต้องแลก

    ในคราวแรกความสัมพันธ์ของเธอและเขานั้นพึ่งจะได้ตกลงปลงใจกันได้เพียงวันเดียวก็เกิดเรื่อง เธอรับรู้ความจริงในตัวตนของเขาและปฏิเสธเขาด้วยความกลัวและเกรงขามในบทบาทที่เขาเป็น แต่คราวนี้เธอรับรู้ถึงตัวของเขาทั้งหมดและยอมรับมัน ยอมรับใจตัวเองที่หลงรักเขาไปแล้วตั้งแต่แรกเจอทั้งที่เธอไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อนอีกทั้งเรื่องราวความสัมพันนธ์ของเธอและเขามันก็เลยเถิดมาถึงขนาดนี้แล้ว เธอก็อยากจะลองดูสักตั้งเหมือนกัน อยากมองเขาในฐานะผู้ชายคนหนึ่งที่ไม่ใช่สิ่งศักดิ์หรือสิ่งลี้ลับอะไรทำนองนั้นแม้ว่าเธอไม่รู้เลยว่า…อะไรจะเกิดขึ้นกับอนาคตความรักของเธอ…“เลิกหวานกันสักแป๊บได้ไหมคะ มินอิจฉาไปหมดแล้วเนี่ย” มินตราเอ่ย ขณะที่ทุกคนนั่งทานอาหารกันพร้อมหน้ารวมถึงภากรณ์และพนิตาที่ลอบมองพชรและนรินทร์เป็นระยะด้วยสีหน้าไม่พอใจเท่าไหร่นักที่เห็นทั้งสองคนตักอาหารให้กันไปมองตากันหวานเชื่อมโดยไม่สนใจคนรอบข้างราวกับว่าโลกทั้งใบมีแค่พวกเขา“ไม่กงไม่กินมันละ เลี่ยน!” พนิตาวางช้อนส้อมลงอย่างใส่อา

  • ลิขิตสัญญานาคา   ๖๑. ความรู้สึกแปลกใหม่

    ภากรณ์ลืมตาตื่นขึ้นมาด้วยความรู้สึกเมื่อยล้าเขามองไปรอบๆห้องก็พบว่านี่คือห้องของเขาไม่ใช่ห้องของนรินทร์และคนที่นอนอยู่ข้างๆคือพนิตา“นิตา นิตา!”“อื้ม อะไรคะกรณ์เสียงดังจังเลย”“ทำไมคุณมาอยู่นี่ แล้วไอ้พชรล่ะ”“ไม่รู้สิคะ เมื่อคืนนิตาจำได้ว่าอยู่กับคุณพชร”พนิตารวบรวมสติพยายามนึกถึงเมื่อคืนเธอจำได้ว่าพชรกำลังจะจูบเธอแล้วแท้ๆ พนิตานึกเสียดายและมองไปที่ภากรณ์อย่างหัวเสีย “แล้วคุณล่ะ กลับมาตอนไหนเรื่องนรินทร์ล่ะว่าไง?” ภากรณ์ได้ยินอย่างนั้นก็ฉุกคิดในหัวพอตั้งสติได้ก็ไม่รอช้ารีบลุกพรวดออกไปยังห้องของนรินทร์ทันทีด้วยความหงุดหงิด ต้องเป็นพชรทุกทีที่เข้ามาได้ทันเวลามันเสียทุกครั้ง คิดๆแล้วก็เจ็บใจทางด้านมันตราได้แอบออกมาพบคีภัทราด้วยเส้นทางด้านหลังของคฤหาสน์ เห็นผู้มีพระคุณยืนรออยู่ก็รีบเข้าไปหาด้วยความดีอกดีใจ แต่ทว่านางตรงหน้าก

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status