แม้ว่าสลิงจะเป็นจะเป็นอาวุธที่ดูเรียบง่ายแต่อย่าได้ดูถูกมันเชียว เพราะกระสุนของมันเป็นหิน แถมเป้าหมายในการโจมตีคือหัว ซึ่งโดนเข้าทีเดียวก็ถึงตาย
“มันอยากลองดีสินะ พลหน้าไม้ !” ดิดิเย่ร์ลตะโกน พลหน้าไม้ตั้งแถวและยิงลูกศรใส่ทันที หน้าไม้นั้นมีแรงดึงมากกว่าธนูซะอีก ทำให้ลูกศรนั้นมันความรุนแรงและพุ่งได้เร็วกว่าธนูหลายเท่า พวกเอลฟ์ ฟอร์แคร์เริ่มมีล้มตายกันบ้างแล้ว แต่ก็ยังมีเอลฟ์รานุนถูกสังหารไปอีกหลายตัว โดยฝีมือของเอลฟ์ร่างสูงใหญ่ ทาหน้าทาตัว ด้วยสีดำ และสวมหมวกขนนกทั้งหัว นั่นคือเครื่องหมายของหัวหน้าเผ่า ในมือถึงขวานหินคู่ มันโจมตีอย่างบ้าคลั่งและรุนแรง
“เข้ามาเลย เอ็น ผู้นี้จะส่งพวกแกไปลงนรก” แม้ว่ามันจะไม่เกราะสวมเกราะ แต่ไม่รู้ว่าเพราะสีที่ทาตัวมันหรือเพราะอะไรกันแน่ทำให้มันหนังเหนียวอาวุธมีคมไม่อาจต้องกายมันได้ ดาเมียงกำลังไปต่อสู้กับมัน แต่ว่า ดิสมัสกลับมาขว้างหน้าเขาเอาไว้
“หลบไปดิสมัส ! ข้าจัดการเอง”
แต่เหมือนดิสมัสจะไม่ได้สนใจฟังเลย เขาเข้าไปต่อสู้กับเอ็นทันที ขวานหินของเอ็นมีทั้งความคมและความหนาเรียกได้ว่ามันเป็นอาวุธที่ผสมระหว่างการทุบและฟันได้อย่างเป็นอย่างดี ดิสมัสพลาดถูกฟาดกระเด็นเขารู้สึกว่าซี่โครงแทบจะหัก
“นี่หันหลบอาวุธซะบ้างสิยะคนรักษามันลำบากนะ” มีเสียงเล็ก ๆ ดังขึ้นมา สิ่งมีชีวิตมีความสูงเพียง 12 นิ้วเท่านั้น กำลังบ่นเขา นางมีหน้าตา รูปร่างเหมือนกับมนุษย์มี ผมสีฟ้าตาสีดำ มีปีกแบบผีเสื้อสีฟ้าและดำ นางสวมเสื้อผ้าสีขาว และร่างเปล่งแสงตลอดเวลา นางคือ แฟรี่[1]
“พูดมากน่า ! เบต้าข้าไม่เป็นอะไรหรอก” ดิสมัสพูด เบต้าส่ายหน้าไปมา และรักษาให้ดิสมัส เขาเข้าต่อสู้อีกครั้งหนึ่ง การต่อสู้ของเอ็นนั้นเป็นแบบคนเถื่อนทำให้อ่านทางได้ไม่ยาก เขาได้จังหวะใช้ดาบฟันอาวุธของมันขาดคามือของเอ็นมันรีบวิ่งหนีไปทันที ดิสมัสได้ใจวิ่งตามไป แต่ว่าเอ็นไม่ได้หนี ! มันเอาหินและสลิงออกมา และเหวี่ยงหินใส่ดิสมัส เขารีบหลบไม่งั้นเขาได้กลายเป็นศพแน่ และเอ็นยังเหวี่ยงมาไม่หยุด ดิสมัสต้องคอยหลบ เขาร่ายมนตร์ซากศพรอบตัวระเบิดออกมา กลายเป็นทหารโครงกระดูก พวกมันเข้าโจมตีทันที
สลิงนั้นเป็นอาวุธที่ร้ายกาจก็จริงแต่มันมีจุดอ่อนคือ ต้องโจมตีที่ส่วนหัวเท่านั้นถึงจะหวังผลได้ แล้วมาเจอพวกทหารโครงกระดูกที่ ต่อให้โจมตีที่หัวยังก็ไม่ตาย ทำให้เอ็นโดนรุนสังหารอย่างโหดเหี้ยม ดิสมัสเอาหัวของเอ็นชูขึ้นมา พวกเอลฟ์ฟอร์แคร์ที่เหลือเห็นหัวหน้าเผ่าตาย ก็รีบทิ้งอาวุธยอมแพ้ทันที เหล่าทหารร้องเฮลั่น และเรียกชื่อของดิสมัสดังลั่น
“ดิสมัส ดิสมัส”
แม้แต่ทหารของฝาแฝดก็ร่วมวงด้วย ทำให้ดาเมียงต้องตะโกนเสียงดังเหมือนช้างร้องว่า
“จะเอ่ยชื่อมันอะไรหนักหนาวะ !”
เบต้าได้ยินก็ร้องบอกว่า
“เขาเพิ่งชนะสงครามมานะ จะยินดีกับเขาหน่อยไม่ได้เหรอ”
“ไม่ใช่เรื่องของภูติรับใช้อย่างเจ้าโวย !” ดาเมียงพูดอย่างหัวเสีย เบต้าจะเถียงแต่ ดิสมัสห้ามเอาไว้ก่อน
“ขืนไปเซ้าซี้มากไป เขาจะตบเจ้าเหมือนแมลงวันเลยล่ะ”
กองทัพเคลื่อนพลกลับเข้าไปเมืองหลวงยออาน ซึ่งเป็นเมืองใหญ่ที่สุดและเจริญที่สุดแล้วในดินแดนของเอลฟ์รานุน ส่วนมากทุกคนจะเข้าใจว่าเอลฟ์รานุนนั้นจะเป็นทหารกับนักเวทย์เหมือนกันหมด แต่หาได้เป็นเช่นนั้นไม่ เอลฟ์รานุนมีอาชีพที่หลากหลาย พวกเขาเป็นเกษตรกรที่ชำนาญ โดยสิ่งที่นิยมปลูกกันมากที่สุด คือ องุ่น ชำนาญการหมักไวท์มากที่สุด ว่ากันว่าไวท์ของเอลฟ์รานุนเป็นที่ปรารถนาของพวกชนชั้นสูงของเอลฟ์รูมิแย่มาก ทั้ง ๆ พวกรูมิแย่เกลียดเอลฟ์รานุนมาก ก็ตามที สัตว์ที่นิยมเลี้ยงมากที่สุดก็คือ นกโดโด้ และแกะขนสีดำ ยังเป็นแหล่งโลหะชั้นดีเป็นรองแค่ของโดวาฟเท่านั้น จึงกลายเป็นแหล่งรวมนายช่างใหญ่ไปด้วย ว่ากันว่า แม้แต่ช้อนเพียงคันเดียวที่เอลฟ์รานุนสร้างก็สามารถฆ่าคนได้แล้ว
ราชาผู้ปกครองคนปัจจุบัน ทรงมีพระนามว่า เทียรี่ เป็นเอลฟ์ที่เริ่มชราแล้ว รูปร่างสูง ผิวซีด ไว้หนวดเครายาวสีขาว ผมยาวสีขาว ตาเหมือนแมวสีอำพัน พระองค์มีโอรสสามพระองค์คือ ฝาแฝด ดาเมียง และดิดิเย่ร์ และดิสมัส หากดิสมัสนั้นเป็นลูกของลิซ่า ภรรยาใหม่ของพระองค์ ซึ่งลิซ่ามีความเป็นมาดังนี้
วันหนึ่งขณะที่ ราชาเทียรี่ไปล่าสัตว์กับราชินีของพระองค์นั้น ก็ไปเจอกับลิซ่า เอลฟ์สาวร่างเล็ก ผมขาว ตาเหมือนแมวสีชมพู นางอยู่เอลฟ์อีกตน ร่างผอมจนเหมือนคนอมโรค ผมสีขาว ตาเหมือนแมวสีเขียว นางบอกว่าชื่อ เฮล เป็นน้องของลิซ่า ลิซ่าเล่าว่านางหนีภัยสงครามมา และไม่มีที่ไป ราชินีนึกสงสารเลยตัดสินใจรับนางมาอยู่ด้วย หลังจากนั้นสามปี ราชินีเกิดป่วยโดยไม่ทราบสาเหตุและเสียชีวิตไป ราชาเทียรี่ก็ประกาศแต่งตั้งลิซ่าเป็นราชินีองค์ใหม่ ทั้งที่ภรรยาเพิ่งเสียชีวิตได้เพียง 6 เดือน
หลังจากนั้นนางก็ให้กำเนิดบุตร ชายนามว่า ดิสมัส ซึ่งนั่นทำให้ ฝาแฝดดูจะไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่นัก เพราะเชื่อเหลือเกินว่า ลิซ่านี่ล่ะเป็นคนฆ่าแม่ของพวกเขา แต่ก็ไม่มีหลักฐานอะไร ลิซ่านั้นไม่มีพลังเวทย์หรือความรู้ด้านการปรุงยาพิษเลยแม้แต่น้อย ส่วนเฮลนั้นไม่มีใครสงสัยนางเพราะสภาพนางเหมือนคนใกล้ตาย ไม่มีปัญญาทำร้ายใครได้ ความเกลียดมันเลยส่งมาถึงดิสมัส แถมเดิสมัสเองยังสามารถเป็น แบล็กพาลาดิน ซึ่งถือว่าหายากที่สุดแล้ว ทำให้เป็นที่โปรดปรานเป็นพิเศษ นั่นยิ่งทำให้ฝาแฝดเกลียดเขามากขึ้นไปอีก
ดาเมียง ดิดิเยร์ ดิสมัสได้เข้าเฝ้า ราชาเทียรี่ เพื่อรายงานผลการรบ ซึ่งสำหรับฝาแฝดเป็นเรื่องชวนหงุดหงิดที่สุดแล้ว เพราะต้องรายงานความชอบของดิสมัส ราชาถึงกับตบเข่าฉาด แล้วพูดว่า
“เก่งมาก สมกับเป็นลูกข้า ไม่ทำให้ผิดหวังจริง ๆ”
คำชมของพ่อเป็นเหมือนน้ำทิพย์ชโลมใจดิสมัส แต่เป็นน้ำกรดที่กัดใจของฝาแฝด
“ข้าช่วยเจ้าได้แค่นี้แล้วนะ ต่อไปดูแลตัวเองดี ๆ ด้วยล่ะ”ดิสมัสถึงกับโกรธจัดสำหรับเขา เบต้านั้นเหมือนกับญาติคนหนึ่ง ที่โตมากับเขา เมื่อเสียเบต้า ดิสมัสก็เรียกพลังจากความแค้นและความตายให้มารวมในร่างของเขา โจมตีอย่างบ้าคลั่ง โอดินพยายามรับมือแต่ก็ยิ่งลนลาน และในที่สุด เขาก็ฟันโดนโอดินเข้าที่หน้า ทำให้ผ้าปิดตาของโอดินเป็นรอยโดนฟัน โอดินต้องถอยและขว้างหอกไป ดิสมัสหลบและฟันหอกให้มันตกพื้นและหยิบมันขว้างใส่โอดิน หอกลอยไปเสียบร่างของโอดิน แต่กลับไม่มีการระเบิดโอดินกระชากออกมาแล้วพูดว่า “หอกนี่ไม่ฆ่านายมันหรอกนะ เจ้าทำให้ต้องใช้พลังนี้ เตรียมตัวเถอะ”ร่างของโอดินเปล่งแสงออกมา และเข้าโจมตีอีกครั้งหนึ่ง คราวนี้มันรวดเร็วและรุนแรงมาก ดิสมัสรับมือไม่ได้ เขาพลาดโดนแทงทะลุกระอักเลือดล้มลงไป โอดินถีบร่างของเขากระเด็น ออกจากหอก ขณะที่อยู่ระหว่างความเป็นความตาย นั้นดิสมัสได้เห็น เทียรี่ยืนข้าง ๆ โลกิในร่างแม่ของเขา เฮล นายฮ้อยคำแหง แก่น จ้อย มิ่ง แม่เฒ่าคำ แม้แต่ห้าวอยู่ตรงหน้า เบต้า บากีร่า ชาล็อต นี่เขากำลังจะตายสินะ ถึงได้เห็นภาพคนเหล่านี้ “บักมัดเอ๋ย ! เจ้าบ่ถึ
“ข้าจะแก้แค้นให้เอง เจ้าอย่าออกไปจะได้มั้ย ให้ข้าตายก่อน ที่เจ้าค่อยไปสู้เถอะ เพราะข้าไม่อยากเห็นเจ้าเจ็บตัว” ดิสมัสพูดคำแพงพูดอะไรไม่ออกแล้ว นางตัดสินกอดเขาเอาไว้แน่นแล้วพูดว่า “อ้ายต้องกลับมานะ” “ข้ากลับมาแน่” ทั้งสามออกไปพร้อมกัน โอดินยืนอยู่ตรงหน้าเขาไม่ได้ท่าทางของคนหวาดกลัวหรือยอมแพ้เลยสักนิด กลับมีท่าทางที่เข้มแข็ง ราวกับว่าตัวเองไม่ได้เสียเปรียบอะไรเลย เอาหอกชี้หน้าของเอลฟ์ทั้งสาม “เลือกเอาจะตายหรือยอมจำนน” “ทำเป็นพูดดีเจ้าเหลือแค่คนเดียวแล้วนะ ยังคิดจะต่อสู้อีกเหรอ” ดาเมี่ยงพูดเย้ย “คนที่เสียไปข้าหามาคืนได้ เสมอนั่นล่ะ เพราะอะไรรู้มั้ย” โอดินพูดจนก็สร้างลูกพลังแสงสีดำออกและยิงออกไป ทั้งสามหลบแทบไม่ทัน “เพราะข้าคือ เทพ !”โอดินเข้าโจมตีโดยเป้าหมายของเขาคือดิสมัส แต่ว่า ดิสมัสกับดิดิเย่ร์เสกโกเล็มขึ้นมาพร้อมกัน “EMETH”แต่โกเล็มแตกละเอียดในพริบตา แต่ก็ช่วยให้ดิสมัสตั้งตัวและยิงกะโหลกเพลิงใส่โอดิน แต่โอดินใชหอกทำลายได้ทั้งหมด และเข้ากระหน่ำ ดิสมัสเอาดาบปัดป้องการโจมตีของโอดิน ดาเมี่
ธอร์เข้าต่อสู้ทันที การโจมตีของมังกรกระดูกนั้นรุนแรงมาก แต่ธอร์ก็รีบมือได้ และยิงสายฟ้าสวนไป เมื่อมังกรกระดูกโดนโจมตี ความเจ็บปวดจะส่งผ่านมายังร่างกายของดิดิเย่ร์ด้วย แต่เขากัดฟันใช้มังกรกระดูก ต่อสู้ ดิสมัสเห็นดังนั้นเขาเรียกเจ้านกแสกออกมา ให้มันพาบินขึ้นไปฟ้าไป และเขาก็กระโดดลงไปตรงหัวของมังกรกระดูก และส่งพลังเพิ่มให้ “คิดจะทำอะไร” ดิดิเย่ร์ถาม ดิสมัสตอบว่า “ขืนให้ท่าน ควบคุมมันคนเดียว ท่านได้เป็นศพแน่”ดิดิเย่ร์ไม่มีเวลาจะมาเถียงกับดิสมัสแล้ว เมื่อทั้งสองเสริมพลังให้เจ้ามังกรกะโหลก มันเขาโจมตีอีก ธอร์หลบได้ ธอร์ใช้ค้อนทุบเข้าที่ร่างของมังกรกระดูก แม้มันจะมีรอยร้าว แต่ด้วยพลังของเอลฟ์ทั้งสอง ช่วยซ่อมร่างของมังกรกระดูก ทำให้ไม่ได้เสียหายมากมายอะไร “ดิดิเย่ร์ ร่ายมนตร์กัดกินใส่มังกรนี่” ดิสมัสร้องบอก ดิดิเย่ร์ไม่ถามอะไรเขาทำตาม เวทย์กัดกิน ปกติจะใช้ทำลายคู่ต่อสู้แต่เมื่อร่างใส่โครงกระดูกมังกร มันกลับทำให้ มังกรมีเนื้อหนัง ขึ้นมัน และดูดพลังสายฟ้าที่ธอร์ยิงออกมาเข้ามาในร่างได้ ทำให้มันมังกรสามารถพ่นสายฟ้ากลับไปหาธอร์ได้ แต่ธอร์ใช้ค้อนรีบเอาไว้ จึงเกิ
เจ้านกแสกปล่อยนายของมันลงไป ดิสมัสฟาดดาบหมายจะเล่นงานหัวของธอร์แต่ว่า อีกฝ่ายยกค้อนขึ้นมารับคมดาบเอาไว้เต็ม ๆ และเหวี่ยงร่างของดิสมัสกระเด็น เจ้านกแสกอรอลโต้ รีบไปโฉบนายของมันไม่งั้นเขากระแทกพื้นแน่ ดิสมัสจำต้องลงพื้นเพื่อตั้งหลัก และเหล่ามนุษย์หนูก็วิ่งมาสมทบกับเขา “คิดจะทำบ้าอะไรวะเนี่ย” ดิดิเย่ร์พูดขึ้นมาและส่งสัญญาณให้พวกโดวาฟเอาอาวุธออกมา มันคือเครื่องเหวี่ยงหิน ! หินจำนวนมากถูกเหวี่ยงลอยไป แต่ถูกธอร์ทำลายได้เกือบทั้งหมด แถมหินเหล่านี้ก็ตกลงมากลายเป็นเหมือนฝนมรณะ ที่สังหารคนไปจำนวนมาก ทำให้การใช้เครื่องเหวี่ยงหินไม่ใช่ความคิดที่ดีแล้ว เหล่าพานรมฤค นำโดนพนารีบมาอาสาทันที “เหวี่ยงพวกเราขึ้นไป” “เฮ้ย ! พวกแกว่าไงนะ” ดิดิเย่ร์แทบไม่อยากเชื่อหูตัวเองเลย “ยิงพวกข้าขึ้นไป พวกข้าจะไปทำรถศึกนั้นร่วงลงมาแล้ว พวกเจ้าค่อยหาทางจัดการพวกมัน”พนาพูด ดิดิเย่ร์ทำหน้าไม่ถูกเขาเลยพูดว่า “ไอ้โรคเสียสติมันเป็นโรคติดต่อแน่ ๆ”พวกพานรนฤคถูกยิงขึ้นฟ้าไปจำนวนมาก พวกมันหลายตัวโดนสายฟ้าบาดเจ็บ ล้มตาย แต่ก็มีหลายตัวเหมือนกันที่มารุมเกาะรถศึกของธอร์
“เบต้ารักษาเขาเร็ว” ดิสมัสสั่ง แม้เบต้าจะไม่ชอบดาเมี่ยงแต่นางก็รักษาเขาเต็มที่ ดิดิเย่ร์หันมามองดิสมัสแล้วพูดว่า “สงสัยข้าต้องร่วมมือกับแกแล้ว ข้าไม่ใช่สายต่อสู้ตรง ๆ แบบนี้ ข้าเสียเปรียบแน่”โกเล็มสองตัวถูกทำลายอย่างง่ายดาย แต่ดิดิเย่ร์เสกขึ้นมาอีก ส่วนดิสมัสตัดสินใจเรียกเจ้าเสือดำออกมา “บากีร่าจงออกมา”เจ้าเสือดำเข้าไปโจมตีทันที แต่ไทร์หลบการโจมตีได้ แต่นั่นเป็นการเปิดช่องว่างให้ดิสมัสโจมตี แต่ไทร์เอาดาบรับดาบของดิสมัสเอาไว้ทัน แต่กลายเป็นจังหวะให้บากีร่า โจมตี แต่ไทร์เอาแขนข้างที่มือกุดไปรับคมเขี้ยวของบากีร่าเต็ม ๆ คมเขี้ยวกัดจมลงไปจนเลือดอาบ เป็นจังหวะให้ดิดิเย่ร์ ยิงกะโหลกเพลิงใส่ไม่หยุด แต่ไทร์รู้ทันเลยเหวี่ยงร่างของบากีร่ากระเด็น มารับกะโหลกไฟของดิดิเย่ร์ก่อน เจ้าบากีร่าถึงกับบาดเจ็บหนัก ดิสมัสเองก็ต้านกำลังของไทร์ไม่ได้แล้ว เขาต้องถอยออกมาไม่งั้นขาดสองท่อนแน่ “คิดว่าลูกไม้แบบนี้จะหยุดข้าได้งั้นเหรอ !”ทั้งดิดิเย่ร์และดิสมัสตัดสินใจยิงกะโหลกเพลิงใส่ไม่หยุด แต่มันกลับไม่สะดุ้งสะเทื้อนเลยแถมยังเข้ามาเหวี่ยงดาบใส่ดิดิเย่ร์ยังดีที่ดิสมัสเอาดาบมาร
“กระชากวิญญาณ” เจอคาถานี้ในระยะเผาขนแบบนี้ วิญญาณของยุรนันท์ถูกทำลาย เขาตายคาที่ทันที ดิสมัสหอบด้วยความเหนื่อย แต่ยังไม่ทันไร พลธนูบนป้อมก็เล็งธนูมาทางเขาแล้ว มาตาฮารี สั่งให้ธนูยิงธนูใส่เขา แต่ว่า “EMETH”ดิดิเย่ร์เสกโกเล็มมากันลูกธนะเอาไว้ก่อน ไม่งั้นดิสมัสกลายเป็นศพแน่ “ไม่ต้องไปกลัวฆ่าพวกมัน ตอนนี้จงฟังข้าแทนท่านยุรนันท์” มาตาฮารีสั่งอลิซซ่าได้ยินก็ตะโกนเสียงดังว่า “พวกเจ้าจะฟังนางจิ้งจอกยั่วสวาทนี่เหรอ พวกเจ้าเป็นนรสิงฆ์นะ” เหล่านรสิงฆ์เริ่มลังเล และยังไม่ทันไรเสียงกลองศึกก็ดังขึ้นมา ชูเท็นโดจิ กับอรุณนภานำทัพมาด้วยตัวเอง อรุณนภาประกาศเสียงดังลั่น “หากใครที่ทรยศยอมจำนน ข้าจะไม่เอาความเลย หากยังคิดจะต่อสู้อีก โทษเดียวที่จะได้รับคือประหาร” เมื่อได้ยินเช่นนั้นเหล่านรสิงฆ์ก็รีบยอมจำนนทันที ส่วนมาฮารีนั้นเห็นถ้าไม่ดีแล้ว นางจึงรีบหายตัวหนีไปทันที เหล่าเอลฟ์ยังคงเป็นเจ้าของเมืองตรงนี้ ส่วนทัพนรสิงฆ์นั้นถอนทัพกลับไปที่บ้านเมืองตัวเอง พวกพานรนฤค ได้รับการปล่อยตัว แต่น่าเสียดายมนุษย์หนูตายไปหลายตนจนเหลือน้อยแค่หลักสิบเท่านั้น