Share

ตอนที่ 5 สิ้นฮีโร่

last update Last Updated: 2025-02-05 11:00:01

ค่ายมวยอรุณรุ่ง

นักมวยของค่ายมารวมตัวกันในวันนี้ไม่ใช่เพราะมีการแข่งขันหรือการฝึกซ้อมชกมวยแต่อย่างใด แต่มาเพื่อช่วยกันจัดสถานที่ ในการจัดงานวันคล้ายวันเกิดครบรอบยี่สิบปีให้กับทายาทของเจ้าของค่าย หรืออีกในสถานะหนึ่งคือ นักมวยสาวดาวรุ่งที่กำลังเป็นที่จับตามองในขณะนี้ ฉายา ‘ต้า นางฟ้ามวยไทย’ ไม่ได้มาเล่นๆ เพราะนอกจากความสวยแล้วการออกอาวุธบนเวทีของเธอนั้นยังทำให้คู่แข่งจดจำเธอไปอีกนาน

“พี่ต้า ทำอะไรอยู่คะ” เสียงหวานของไข่หวานนักมวยสาวรุ่นน้องวัยสิบเจ็ดปีเอ่ยถามขึ้น

“กำลังดูซีรีส์จีน เนี่ยเรื่องนี้กำลังสนุกเลย พระนางฉลาดทันกัน ชิงไหวชิงพริบกันสุดๆ” ต้า หรืออมิตาบอกนักมวยสาวรุ่นน้องที่วันนี้มาช่วยจัดสถานที่ในงานวันคล้ายวันเกิดของเธอในวันรุ่งขึ้น

“หือ…. พี่ต้าชอบดูซีรีส์จีนเหรอคะ” ไข่หวานเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น

“อืม… ชอบมาก ดูตลอดเวลาที่ว่าง คิกๆๆ” นางฟ้ามวยไทยตอบพร้อมทั้งหัวเราะออกมา

“อือ…. เรื่องนี้ไข่หวานก็ชอบ เรื่องก่อนนั้นดูไม่ไหว นางเอกอ่อนแอ เป็นลูกอนุด้วย” เด็กสาวชะโงกหน้าไปมองก่อนที่จะแสดงความเห็นออกมา

“อืม…. พี่ก็ไม่ชอบเรื่องนั้น พี่บ่นกับพ่ออยู่ว่านางเอกอ่อนแอ ถ้าพี่เป็นนางเอกของเรื่องนั้นนะ จะอัดคนพวกนั้นให้เละเลย” อมิตาเอ่ยออกมาอย่างออกรสออกชาติ

“แต่นางเอกเรื่องนั้นนางเก่งทีหลังนะคะ สงสัยพี่ต้าเทเสียก่อนคิกๆๆ”

คอซีรีส์จีนนั่งคุยกันอยู่อย่างสนุกสนาน ส่วนผู้ชายก็จัดสถานที่ไปมองสองสาวไป บอสที่เห็นภาพที่ไม่ควรเห็นเมื่อหลายวันก่อนก็อดที่จะรู้สึกเป็นห่วงรุ่นพี่นักมวยสาวไม่ได้ เขาเป็นเด็กรุ่นใหม่ แต่ทว่ามีความเชื่อเรื่องลี้ลับหรือความเชื่อตามแบบโบราณ การเห็นนักมวยสาวรุ่นพี่ไม่มีศีรษะทำให้เขารู้สึกใจหายอยู่ไม่น้อย

“มึงเป็นอะไรไอ้บอส กูเห็นมึงมองไอ้ต้ามันมาหลายวันละนะ” รุ่นพี่นักมวยหนุ่มเอ่ยถามนักมวยรุ่นน้องในค่าย

“เห้อ…. ไม่รู้สิ ผมรู้สึกเป็นห่วงพี่ต้าแปลกๆ รู้สึกใจคอไม่ดียังไงก็ไม่รู้” บอสตอบพร้อมถอนหายใจออกมา

“อย่าห่วงเลย ไอ้ต้ามันเก่งกว่ามึงอีกฮ่าๆๆๆ” รุ่นพี่นักมวยอีกคนพูดกลั้วหัวเราะออกมา สามหนุ่มจึงเลิกสนใจสองสาวที่เอาแต่นั่งดูซีรีส์จีนในแอปพลิเคชันดัง

ช่วงเย็นอมิตาและเด็กในค่ายอีกสองคนได้พากันออกไปซื้อของแห้งและของสดเพื่อจะมาเตรียมอาหารในวันรุ่งขึ้น ตลาดสดแห่งนี้นั้นมีผู้คนพลุกพล่าน สินค้าทั้งอาหารสดและอาหารแห้งมีให้เลือกหลากหลาย ร่างบางในชุดเสื้อยืดสีขาวกางเกงกีฬาขายาวสีดำสวมรองเท้าแตะเดินไปกับรุ่นน้องนักมวยภายในค่ายยืนเลือกผักสำหรับทำอาหารในงานเลี้ยงวันคล้ายวันเกิดของเธอในวันพรุ่งนี้

“เอาไปเยอะไหมอะ” อมิตาเอ่ยถามรุ่นน้องในค่ายมวยที่มาช่วยกันเลือกซื้อของ

“นักมวยในค่ายเรากินเก่งนะพี่ต้า เอาไปเยอะๆ หน่อย” ไข่หวานที่มาด้วยกันแสดงความเห็นออกมา

“คิกๆๆ นั่นน่ะสินะ พวกผู้ชายนี่กินเก่งกันจริงๆ” อมิตาหัวเราะออกมาก่อนที่จะเอ่ยถึงนักมวยชายในค่ายมวยของบิดาที่กินเก่งกินเร็วราวกับพายุพัดพาในพริบตาเดียว

ในระหว่างที่สองสาวกับอีกหนึ่งหนุ่มเลือกซื้อผักกันอยู่ที่แผงผัก จู่ๆ ก็มีเสียงกรีดร้องดังขึ้นมา เสียงโหวกเหวกโวยวายทำให้นักมวยสาวหันกลับไปมอง

“ช่วยด้วย!!! ช่วยด้วยจ้า!!! ขโมย!!! ขโมยกระเป๋าฉันไปแล้ว…. ใครก็ได้ช่วยจับขโมยหน่อย!!!” เสียงของหญิงวัยกลางคนแต่งตัวดีร้องโหวกเหวกโวยวายดังขึ้นมา อมิตาเห็นขโมยวิ่งผ่านไปเธอจึงรีบวิ่งตามไปทันที

“เห้ย!!! พี่ต้า อย่าไป!!! พี่ต้า!!!”

รุ่นน้องในค่ายที่เป็นผู้ชายร้องเรียกรุ่นพี่นักมวยสาวที่กำลังวิ่งตามขโมยไปติดๆ เธอไม่หันกลับมามอง ร่างบางแต่ทว่าแข็งแรงวิ่งตามขโมยไปด้วยใจมุ่งมั่น เธอจะต้องนำกระเป๋ากลับไปคืนป้าคนนั้นให้ได้

“เห้ย!!!หยุดนะเว้ย คืนกระเป๋ามาเดี๋ยวนี้ ช่วยด้วย!!! ช่วยกันจับขโมยหน่อย”

เธอตะโกนดังขึ้นตลอดทาง แต่ไม่มีใครสนใจที่จะช่วยเธอจับขโมยเลยสักคน ขโมยวิ่งเข้าไปในซอยที่คนไม่พลุกพล่าน ร่างบางของนักมวยสาววิ่งตามไปแบบไม่ลดละ มือที่ถือถุงผักที่ซื้อมาก่อนหน้าถูกปาไปโดนศีรษะของขโมยจนอีกฝ่ายล้มลง ก่อนที่เธอจะวิ่งตามไปถึงตัวแล้วใช้เท้าหนักๆ ถีบเข้าไปที่หน้าท้องของขโมย จนมันลุกไม่ขึ้น อมิตาจึงเดินไปหยิบกระเป๋าหิ้วที่ถูกขโมยขึ้นมาแล้วทำท่าจะหันหลังกลับไป

“คิดจะมาเอาไปง่ายๆ แบบนี้เลยเหรอวะ!!!”

ขโมยตะโกนเสียงดังออกมาขณะที่เข้าประชิดตัวของฮีโร่สาว อมิตาหันหลังกลับมาแต่ยังไม่ทันได้ตั้งตัว มีดพกขนาดเล็กก็ถูกมือหนาของอีกฝ่ายจับจ้วงแทงเข้าที่หน้าท้องของเธอ

“โอ๊ย!!!” อมิตาตาเบิกโพลงร้องอุทานออกมาได้เพียงเท่านั้น

คนที่วิ่งตามมาเห็นเหตุการณ์เข้าพอดีจึงรีบวิ่งมาช่วย พลเมืองดีที่เข้ามาช่วยถีบไปยังร่างหนาของขโมย มันล้มลงกับพื้นก่อนที่จะถูกรุมกระทืบจนสะบักสะบอม ร่างบางของนักมวยสาวล้มลงไปกองกับพื้น ตรงหน้าท้องถูกแทงด้วยมีดพกที่ยังคาอยู่ เลือดสีแดงฉานไหลแปดเปื้อนกับเสื้อสีขาว เธอหมดสติไปในทันที คนที่พบเห็นต่างตกใจกันอยู่ไม่น้อย

“พี่ต้า!!!”

เสียงสองนักมวยรุ่นน้องที่วิ่งตามมาตะโกนร้องเรียกชื่อนักมวยสาวพร้อมกับวิ่งเข้ามาดู

“ไม่นะ!!! พี่ต้า… พี่อย่าเป็นอะไรนะ พี่จะวิ่งตามมันมาทำไม ฮือๆๆๆ” ไข่หวานร้องไห้ฟูมฟาย

คนที่เห็นเหตุการณ์รีบโทรแจ้งตำรวจและเรียกกู้ภัยอย่างเร่งด่วน เจ้าของกระเป๋ารีบวิ่งตามมาเช่นกันพอเห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก็อดที่จะรู้สึกเสียใจไม่ได้ เป็นเพราะเธอเด็กสาวพลเมืองดีถึงต้องบาดเจ็บ

“นั่นมันน้องต้า นางฟ้ามวยไทยนี่หว่า เป็นไปได้ยังไงวะเนี่ย ขออย่าให้เธอเป็นอะไรเลย” ไทยมุงคนหนึ่งเอ่ยขึ้นเมื่อเห็นร่างโชกเลือดของนักมวยสาวบนเตียงที่กู้ภัยลากผ่านหน้าไปขึ้นรถ

“ขอให้พระคุ้มครองเธอ อนาคตกำลังสดใส ไม่น่ามาเจอเรื่องแบบนี้เลย” ไทยมุงอีกคนยกมือพนมไหว้ขอสิ่งศักดิ์สิทธิ์

เสียงสัญญาณไซเรนของรถกู้ภัยดังขึ้นร่างบางที่ชุ่มเลือดนอนหายใจโรยริน เลือดที่ไหลออกมาจากบาดแผลนั้นแดงฉาน เสื้อสีขาวที่นักมวยสาวใส่มานั้นกลายเป็นสีแดงจนมองไม่ได้ ขโมยถูกตำรวจจับเพราะถูกพลเมืองดีรุมซ้อม อรุณที่ได้รับข่าวร้ายจากเด็กในค่ายที่ไปซื้อของด้วยกันกับบุตรสาวรีบตรงไปยังโรงพยาบาลทันที

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • สตรีแกร่ง หลินซูเหมย   ตอนที่ 44 - 1 ความสงบสุขหวนคืน (จบ)

    “ลูกชายของผู้ใดกัน ช่างเหมือนท่านแม่ของเขายิ่งนัก” ฟางเซี่ยหมินแสร้งหยอกเย้าภรรยา “ข้าทั้งอุ้มท้อง ทั้งเบ่งเขาออกมา เขาย่อมเหมือนข้าแน่อยู่แล้วเจ้าค่ะ” หลินซูเหมยยอมรับออกมาอย่างภูมิใจ “แล้วลูกล่ะเจ้าคะ ลูกเหมือนท่านพ่อหรือท่านแม่” ฟางซูลี่ สาวน้อยตากลมเอ่ยถามมารดาออกมาด้วยความสงสัย ถ้าพี่ชายใหญ่เหมือนท่านแม่แล้วนางเหมือนผู้ใดกัน นางเป็นสตรีเช่นเดียวกับท่านแม่ หรือนางจะต้องเหมือนกับท่านพ่อ “เจ้าก็เหมือนท่านแม่ของเจ้าเช่นกัน ลี่เอ๋อร์… ไม่ว่าจะพี่ใหญ่ของเจ้า หรือตัวเจ้า ต่างก็เป็นลูกที่เกิดมาจากความรักของพ่อแม่ พ่อมีความสุขที่ได้มีแม่ของเจ้าและพวกเจ้ามาเป็นครอบครัวของพ่อ” ฟางเซี่ยหมินโอบกอดร่างเล็กพลางใช้มือหนาโยกศีรษะเล็กของบุตรีไปมาอย่างเอ็นดู ฟางซูลี่ฉีกยิ้มกว้างเห็นฟันซี่เล็กเรียงรายให้กับบิดาและมารดา หลินซูเหมยมองสามีและบุตรีด้วยแววตารักใคร่ หลังจากงานตีคลีผ่านพ้นไป คุณชายใหญ่และคุณหนูรองของจวนท่านโหวฟางเซี่ยหมิน ก็เป็นที่กล่าวถึงไปทั่วทั้งเมืองหนานถิง หลายตระกูลย่อมอยากที่จะเกี่ยวดองกับพวกเขา โดยเฉพาะคุณชายใหญ่ที่ในภายภาคหน้าจะต้องได้รับยศถาบรรดาศักดิ์โหวต่อจากบิดา “ลูกทั้ง

  • สตรีแกร่ง หลินซูเหมย   ตอนที่ 44 ความสงบสุขหวนคืน

    เกือบสองเดือนที่แม่ทัพฟางเซี่ยหมิน และกองทัพทหารของเขารั้งอยู่ที่เมืองซาย่า หนึ่งก็เพื่อรอสังเกตความเคลื่อนไหวของทหารฝ่ายตรงข้าม สองเพื่อช่วยชาวเมืองฟื้นฟูและซ่อมแซมเมืองที่ได้รับผลกระทบจากสงคราม แม้ภายในใจจะแสนคะนึงหาภรรยาอันเป็นที่รัก และสองลูกน้อยที่ห่างมานาน แต่เพราะภาระหน้าที่แล้วเขาจึงต้องทน“ท่านแม่ทัพ งานซ่อมแซมที่นี่ก็ไม่มีอันใดให้ต้องเป็นห่วงแล้ว สถานการณ์ทางฝั่งเมืองเมืองฉงหนานก็ดูสงบเรียบร้อยดี ข้าว่าพวกเรายกทัพกลับเมืองหนานถิงกันดีหรือไม่ขอรับ เหล่าทหารที่จากครอบครัวมานาน คงจะคะนึงหาคนที่รออยู่ไม่น้อยแล้ว”ฉงจี้ กุนซือคนสนิทกล่าวออกมาในขณะที่เห็นท่านแม่ทัพยืนอยู่บนกำแพงเมือง แล้วกำลังทอดสายตามองไปยังทิศทางที่เมืองหนานถิงตั้งอยู่ ใบหน้าคมมีหนวดเคราครึ้มหันหน้ากลับมามองกุนซือ“อืม… ข้าก็เห็นด้วยกับท่านกุนซือ เพราะแม้แต่ตัวข้าเอง ก็คิดถึงฮูหยินและลูกๆ ของข้าเหลือเกิน”แม่ทัพผู้องอาจยอมรับออกมาอย่างไม่อาย สงครามไม่เคยทำให้ผู้ใดมีความสุข มีแต่จะพรากความสุขและชีวิตของผู้คนอันเป็นที่รักไป มีทหารหลายนายที่ไม่ได้กลับไปพร้อมกับพวกตน ครอบครัวที่รออยู่ที่เรือนจะพากันเศร้าโศกเพียงใด แ

  • สตรีแกร่ง หลินซูเหมย   ตอนที่ 43 - 1 มีสุขร่วมเสพ...มีทุกข์ร่วมต้าน

    และแล้วแผนการของแม่ทัพฟางเซี่ยหมินก็ได้เริ่มต้นขึ้นในยามโฉ่ว ในขณะที่ทหารของเหล่าข้าศึกกำลังพักผ่อน เหล่าทหารกล้าฝีมือดีของเมืองซาย่านับร้อยก็พากันลักลอบออกจากกำแพงเมือง โดยใช้เส้นทางลับที่คราก่อนท่านแม่ทัพฟางได้สั่งให้สร้างเอาไว้ เส้นทางลับนี้มีแต่เหล่าทหารกล้าเท่านั้นที่รู้ เพราะคนยิ่งรู้น้อยเมืองก็ยิ่งปลอดภัยมากเท่านั้นทหารกลุ่มหนึ่งค่อยๆ ย่องทะลุผ่านป่าออกไปอย่างเงียบเชียบ และอีกส่วนหนึ่งเตรียมลูกธนูเอาไว้เพื่อจุดไฟแล้วยิงตีวงล้อม เพราะพวกข้าศึกข้ามแม่น้ำที่แห้งขอดมาได้แล้ว จึงตั้งกระโจมอยู่ไม่ห่างจากกำแพงเมืองมากนัก แม้จะมีโอกาสเข้าโจมตีเมืองซาย่าหลายต่อหลายครั้ง แต่ทว่ากลับถูกทหารของเมืองซาย่าโดยมีเทพสงครามอย่างแม่ทัพฟางเซี่ยหมินคอยคุมทัพอยู่ จัดการจนพวกข้าพากันศึกถอยร่นเกือบไม่ทัน ต้องกลับมาตั้งหลักกันใหม่อยู่ถึงสามหนรองแม่ทัพหนุ่มพร้อมกลุ่มทหารกลุ่มที่รับหน้าที่เผาเสบียง เริ่มลงมือหลังจากที่พวกเขาค่อยๆ จัดการฆ่าปิดปากพวกทหารที่เฝ้ายามแล้วนำเสื้อผ้าของพวกมันมาใส่สวมไว้แทน พวกข้าศึกไม่คิดว่าพวกทหารในเมืองซาย่าจะกล้าออกจากเมืองมาจึงไม่มีผู้ใดนึกหวาดระแวง"รอพวกมันเผลอ แล้วอ้อมไ

  • สตรีแกร่ง หลินซูเหมย   ตอนที่ 43 มีสุขร่วมเสพ...มีทุกร่วมต้าน

    ศึกภายนอกสงบสุขได้เพียงสองปี ข้าศึกก็กลับมารุกรานชายแดนเมืองซาย่าอีกครา ที่ผ่านมาแม่ทัพหนุ่มมิได้ชะล่าใจเลยแม้แต่น้อย เขาได้สั่งกำลังพลให้เตรียมพร้อมรับมืออยู่เสมอ แม้กำแพงเมืองจะแข็งแกร่งแต่ข้าศึกก็ยังคงสามารถส่งไส้ศึกให้เข้ามาในเมืองได้อยู่ร่ำไป แม่ทัพหนุ่มจึงจำต้องออกไปสู้รบเพื่อทวงคืนสงบสุขให้กลับคืนมาดังเดิมยามนี้บุตรชายคนโตนั้นก็อายุได้สี่ขวบแล้ว และบุตรีคนรองของเขาก็เข้าสู่วัยสองขวบ เขาสั่งให้ภรรยาพาลูกๆ กลับไปยังเมืองหนานอันเพื่อความปลอดภัย แต่มีหรือว่าหลินซูเหมยจะยอมเชื่อฟัง นางจัดตั้งศูนย์พักพิงเพื่อชาวเมืองที่อพยพมาอีกครา และคอยช่วยคัดกรองผู้อพยพด้วยตนเอง ส่วนเด็กๆ นางก็ให้ป้ามู่ และมู่หลันพาเดินทางกลับไปอยู่กับท่านผู้เฒ่าฟางและฮูหยินผู้เฒ่าฟางยังจวนแม่ทัพฟางที่เมืองหนานอันแล้ว เสี่ยวเอ๋อนั้นดื้อรั้นที่จะติดตามนางมาโดยฝากบุตรชายไว้กับมู่หลัน ซึ่งอีกฝ่ายก็ยินยอมจากไปเพื่อความปลอดภัยของเด็กๆ แต่โดยดี“ฮูหยินขอรับ… มีข้าวกับยาส่งมาจากเมืองหนานอันขอรับ บอกว่ามาจากตระกูลหลินกับตระกูลฟาง” ได้ยินเช่นนั้นหลินซูเหมยจึงยิ้มออกมาทันที เพราะนางรู้ดีว่าผู้ใดที่ส่งข้าวและยามาสนับสนุนนาง

  • สตรีแกร่ง หลินซูเหมย   ตอนที่ 42 - 1 ทายาทคนที่สองของท่านแม่ทัพ

    หกเดือนต่อมาภายในจวนแม่ทัพทิศเหนือยามนี้กำลังวุ่นวายเพราะนายหญิงใหญ่กำลังจะคลอดทายาทคนที่สองของท่านแม่ทัพ ครานี้ฟางเซี่ยหมินไม่ยอมละสายตาจากภรรยาแม้เขาจะเตรียมการก่อนที่ภรรยาจะคลอดแล้วก็ตาม ไม่ว่าจะเป็นสาวใช้ที่ช่ำชองเรื่องการช่วยหมอตำแยคลอดลูก หมอตำแย และหมอหลวง ทุกคนต่างทำหน้าที่กันอย่างขะมักเขม้น เจ้าของร่างอวบอิ่มที่มีหน้าท้องยื่นออกมาราวกับลูกแตงโมกำลังนอนหน้าซีดอยู่บนเตียง“เป็นเช่นไรบ้างขอรับท่านหมอหลวง” ฟางเซี่ยหมินเอ่ยถามหมอหลวงออกมาด้วยน้ำเสียงเป็นกังวล“เด็กกลับหัวแล้วขอรับ ต่อไปเชิญหมอตำแยมาทำหน้าที่ต่อได้เลยขอรับ”ท่านหมอหลวงยิ้มก่อนที่จะรายงานผลการตรวจออกมา หลังจากตรวจเสร็จท่านหมอหลวงก็ออกไปรออยู่ด้านนอกห้องปล่อยให้หมอตำแยทำหน้าที่คลอดทารกต่อ แต่เขายังมิได้กลับทันทีเพราะยังคงต้องรอตรวจอาการหลังคลอดให้ฮูหยินแม่ทัพอีกครั้งหนึ่งเมื่อได้ยินเช่นนั้นหมอตำแยจึงเข้าไปประจำที่แทนหมอหลวงที่ทำการตรวจชีพจรให้แก่ฮูหยินก่อนหน้า ท่านแม่ทัพหนุ่มเข้าไปปลอบใจภรรยา มือหนาคว้ามือบางขึ้นมากุมเอาไว้“มิต้องกังวลนะน้องหญิง พี่จะอยู่เคียงข้างเจ้ากับลูก จะไม่ทิ้งพวกเจ้าไปไหน”น้ำเสียงอบอุ่นกับ

  • สตรีแกร่ง หลินซูเหมย   ตอนที่ 42 ทายาทคนที่สองของท่านแม่ทัพ

    ผ่านไปไม่ถึงสามเดือนหลังจากที่เสี่ยวเอ๋อคลอดบุตรชายคนแรกของนางกับตงหลง จวนแม่ทัพก็มีข่าวน่ายินดีอีกครั้ง เพราะฮูหยินกำลังตั้งครรภ์ทายาทคนที่สองของนางกับท่านแม่ทัพ จากกำหนดการที่จะกลับไปเยี่ยมบ้านก็เป็นอันต้องเลื่อนออกไปเพราะกำลังต้งครรภ์อ่อนๆ ทำให้มิสามารถเดินทางไกลได้ ฟางเซี่ยเหวินตื่นเต้นอยู่กับน้องตัวเล็ก ลูกชายของเสี่ยวเอ๋อกับตงหลงจนมิยอมกลับเรือน เหล่าพี่เลี้ยงจึงต้องไปคอยดูแลคุณชายใหญ่ที่นั่นเพราะนายหญิงใหญ่มิสามารถดูแลคุณชายใหญ่ได้เต็มที่ด้วยอาการแพ้ท้อง“แอว๊ะ……อ๊วก…….” เสียงอาเจียนดังมาตั้งแต่ยามเหม่า การตั้งครรภ์ครานี้นั้นหลินซูเหมยลำบากอยู่ไม่น้อยเพราะอาการแพ้ท้องออกเร็ว“ฮูหยินเจ้าเป็นเช่นไรบ้าง ให้พี่ตามหมอหลวงมาตรวจอาการดีหรือไม่”ฟางเซี่ยหมินเอ่ยถามภรรยาออกมาด้วยน้ำเสียงร้อนรน เหตุใดเกิดมาเป็นสตรีต้องทรมานเช่นนี้ในยามตั้งครรภ์ก็ไม่รู้ เขาไม่เข้าใจเอาเสียเลย เพราะเป็นเช่นนี้เขาจึงต้องทะนุถนอมภรรยาให้มากๆ เพราะนางเสียสละร่างกายของนางเพื่อให้กำเนิดทายาทสืบสกุล“ดมยาหอมค่อยรู้สึกดีขึ้นหน่อยเจ้าค่ะท่านพี่ นี่ท่านมิออกไปชายแดนหรือเจ้าคะ” มู่หลันนำยาหอมมาให้นายหญิงสูดดมเพื่อลด

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status