เช้าวันต่อมาในขณะที่อลินากำลังจะออกไปทำงาน ประตูห้องฝั่งตรงข้ามก็ถูกเปิดออกพร้อมกับร่างสูงโปร่งของฝรั่งหนุ่มผมบรอนด์ที่เธอเพิ่งเจอเขาเมื่อวาน หญิงสาวมองไปที่เขาอีกครั้งด้วยความแปลกใจ ก่อนจะนึกไปถึงตอนที่มาดูคอนโด พี่พุดซ้อนเคยบอกว่าชั้นนี้ทั้งชั้นเป็นของบอสใหญ่อเดลโมเดลลิ่ง ฝรั่งคนนี้อาจจะเป็นเพื่อนของบอสใหญ่ที่มาพักผ่อนที่ประเทศไทยแล้วไม่อยากพักที่โรงแรมก็เป็นไปได้
หญิงสาวปิดประตูแล้วเดินไปยังลิฟต์ที่มีเพียงตัวเดียวแล้วกดเลขชั้นล่างสุด มาเฟียหนุ่มทำทีเดินมาหยุดยืนรอลิฟต์ข้างๆ เธอเช่นกัน เขาลอบมองใบหน้าสวยแล้วอมยิ้มน้อยๆ ตอนนี้เธอยังไม่รู้ตัวว่าสามีตีทะเบียนของเธอกำลังจะมาทวงสิทธิ์ที่เป็นของเขาแล้ว “ไม่เข้าเหรอคะ” อลินาที่เดินเข้าไปข้างในลิฟต์ก่อนเอ่ยถามฝรั่งหนุ่มที่มัวแต่ยืนอมยิ้มออกมาเป็นภาษาอังกฤษ สองบอดี้การ์ดรู้งานไม่ลงไปพร้อมเจ้านาย เอเดนจึงเดินเข้าไปในลิฟต์แค่คนเดียว “แล้วคุณสองคนไม่ลงไปพร้อมกันเหรอคะ” อลินาเอ่ยถามคนที่เหลืออยู่ด้านนอกลิฟต์เป็นภาษาอังกฤษอีกครั้ง “อ๋อ...พอดีพวกผมลืมของ เชิญลงไปกันก่อนได้เลยครับ” บุ๊ซเป็นผู้ที่ตอบหญิงสาวออกมา เธอพยักหน้าแล้วหันไปกดเลขชั้น ความเงียบเกิดขึ้นในทันทีที่ประตูลิฟต์ปิดลง อลินาไม่กล้าแม้แต่จะเอ่ยปากถามฝรั่งหนุ่มข้างๆ ว่าเขาเป็นอะไรกับบอสใหญ่ของอเดลโมเดลลิ่ง เป็นแค่ลูกค้าหรือเพื่อนสนิทถึงสามารถมาพักอาศัยอยู่ที่คอนโดของบอสใหญ่ “คุณเป็นนางแบบเหรอครับ” เสียงทุ้มเอ่ยถามออกมา หัวใจสาวเต้นแรงอย่างอธิบายไม่ถูก “ชะ...ใช่ค่ะ คุณรู้ได้ยังไงคะ” เธอหันไปมองเขาพลางเอ่ยถามออกมาด้วยความประหลาดใจ “ผมดูจากลักษณะท่าทางการเดินของคุณน่ะครับ” “อ๋อ...ค่ะ เอ่อ..แล้วคุณเป็นอะไรกับเจ้าของห้องฝั่งตรงข้ามของฉันเหรอคะ” อลินาถือวิสาสะถามเขาออกมา “เจ้าของห้องที่ผมมาพักเป็นเพื่อนสนิทของผมเองครับ เมื่อก่อนห้องที่คุณอยู่ผมก็เคยพักบ่อยๆ” อลินาพยักหน้า สิ่งที่เธอคาดเดาเอาไว้ก่อนหน้านั้นถูกต้อง คือฝรั่งหล่อคนนี้เป็นเพื่อนสนิทของบอสใหญ่ “มาเที่ยวไทยเหรอคะ” เธอเอ่ยถามเขาออกมาอย่างที่ไม่เคยเป็นกับใครมาก่อน อาจจะเป็นเพราะว่าไม่ได้คุยภาษาอังกฤษนานพอได้คุยก็อยากจะคุยต่อไป “มาทำธุระครับ คุณเป็นนางแบบอยู่ที่บริษัทของนายฮิวโก้สินะครับ” คนที่รู้จักอีกฝ่ายอยู่แล้วแกล้งเอ่ยถามเธอออกมา อลินาเลิกคิ้วสูงก่อนที่จะถามเขากลับ เพราะเธอนั้นไม่รู้จักชื่อเล่นของบอสใหญ่ “ฮิวโก้ไหนคะ” “ก็เพื่อนของผมยังไงล่ะครับ ชื่อเล่นของเขาคือฮิวโก้” “เอ่อ... ฉันเป็นนางแบบใหม่ของบริษัทน่ะค่ะ เพิ่งทำงานเป็นนางแบบได้ไม่ถึงเดือนด้วยซ้ำ” อลินารู้สึกสบายใจแปลกๆ กับการที่ได้พูดคุยกับคนแปลกหน้าข้างๆ จนลืมดูเลขชั้นของลิฟต์ วันนี้เธอรู้สึกว่าเธอโดยสารลิฟต์ใช้เวลานานผิดปกติ และในที่สุดประตูลิฟต์ก็เปิดออกที่ชั้นล่างสุด หญิงสาวหันไปบอกลาผู้ชายห้องฝั่งตรงข้ามที่โดยสารลิฟต์ลงมาพร้อมกัน “ฉันขอตัวไปทำงานก่อนนะคะ ขอให้มีความสุขในช่วงเวลาที่อยู่ประเทศไทยค่ะ” สำเนียงภาษาอังกฤษของเธอเรียกสายตาพนักงานต้อนรับให้มองไปที่เธอได้ไม่ยาก แต่พอเห็นว่าเธอคุยกับใครจึงไม่แปลกใจเลยที่จะได้ยินเธอพูดคุยเป็นภาษาอังกฤษ เพราะคนที่เธอเพิ่งจะเดินจากเขาไปนั้นเป็นชาวต่างชาติผมสีบรอนด์ทอง รูปร่างสูงโปร่ง ผิวขาวอมชมพูที่กำลังยืนมองตามเธอไปจนสุดสายตา เสียงเตือนดังขึ้นพร้อมกับประตูลิฟต์ที่เปิดออก ร่างหนาของสองบอดี้การ์ดก็รีบสาวเท้าก้าวเดินออกมาจากลิฟต์ แล้วมาหยุดยืนอยู่ด้านหลังของมาเฟียหนุ่ม สาวๆ ที่พักอยู่คอนโดนี้เช่นกันมองเขาตาแทบจะไม่กะพริบ แต่มาเฟียหนุ่มกลับไม่มองสาวๆ คนไหนเลย เพราะตอนนี้สายตาของเขามีไว้มองแค่ภรรยาในนามเพียงผู้เดียวเท่านั้น ภรรยาในนามที่กำลังจะกลายมาเป็นภรรยาอย่างสมบูรณ์ของเขาในไม่ช้า วันนี้เขามีเรื่องที่ต้องไปจัดการ นั่นก็คือการจัดการคนที่กล้ามายุ่งกับภรรยาของเขา ไม่ว่าจะเล็กน้อยแต่มันก็เป็นสิ่งที่ทำให้เขารู้สึกไม่พอใจ ร่างสูงโปร่งเดินนำหน้าสองบอดี้การ์ดหนุ่มไป มือหนาล้วงสมาร์ทโฟนขึ้นมากดต่อสายถึงใครบางคน รถตู้คันหรูมาจอดรออยู่ก่อนแล้วคนขับรีบกดปุ่มเปิดประตูอัตโนมัติทันทีที่เห็นมาเฟียหนุ่มเดินออกจากคอนโดมา “แดนตามภรรยาของฉันไปแล้วใช่ไหม” เสียงเย็นชาของคนที่เพิ่งจะขึ้นมานั่งบนรถแล้วคาดเข็มขัดนิรภัยดังขึ้นมา เพราะคนที่ขับรถตู้ในวันนี้คือหนึ่งในบอดี้การ์ดลับที่เขาส่งไปดูแลอลินา “ครับนาย” กายตอบกลับผู้เป็นนาย เมื่อเจ้านายไม่ถามอะไรอีก เขาจึงหันไปทักทายรุ่นพี่อย่างบุ๊ซและเกริก แดนและกายเป็นคนของมาเฟียหนุ่มมาได้สามปีแล้ว ทั้งสองคนคอยทำหน้าที่ดูแลเขาอยู่ที่ประเทศไทยในตอนที่เขาเดินทางมาเยือน และหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายครั้งนี้คือการดูแลนายหญิงอย่างลับๆ ซึ่งพวกเขาก็ทำได้ดี เพราะจนถึงตอนนี้อลินายังไม่รู้ตัวเลยว่ามีคนแอบตามดูแลเธออยู่“เดลก็กินบ้างสิคะ มัวแต่แกะให้ฮาน่า คุณไม่กลัวฮาน่าอ้วนเหรอคะ” หญิงสาวเอ่ยถามสามียิ้มๆ“ลูกสามแล้วหุ่นยังดีอยู่เลย เอาตรงไหนมาอ้วน อีกอย่าง...เราก็ออกกำลังกายกันทุกวัน” เขาตอบเธอพร้อมรอยยิ้มเจ้าเล่ห์อลินารู้ดีว่าออกกำลังกายที่เขาเอ่ยถึงในที่นี้คือการออกกำลังกายแบบไหน หญิงสาวหลบตามองกุ้งในจานแล้วตักขึ้นมากินเลิกสนใจสามีจอมหื่นที่แม้จะลูกสามแล้วแต่ทว่าเรื่องบนเตียงกลับไม่เคยแผ่ว เอเดนหัวเราะออกมาเบาๆ ก่อนที่จะยกแก้วไวน์ขึ้นมาจิบ สายตากรุ้มกริ่มก็มองไปยังภรรยาภายในห้องพักสุดหรูของโรงแรมใจกลางกรุงฯ เสียงของเครื่องปรับอากาศกำลังทำงานดังปะปนกับเสียงครางทุ้มหวานของชายหญิงบนเตียงกว้าง“อื้อ....อ๊า....” เสียงหวานครางออกมาในขณะที่ร่างสูงใหญ่กำลังเคลื่อนไหวอยู่บนกายเธอ“ดีไหม...หืม...” เสียงทุ้มเอ่ยถามคนใต้ร่างที่กำลังแสดงสีหน้าเย้ายวนออกมา“ดะ...ดี....อ๊า.....”บั้นท้ายหนากดกระแทกเข้าออกช่องทางรักสีหวานของหญิงสาวในจังหวะที่เร็วและแรงขึ้นทำให้เธอแทบจะหายใจไม่ทันกับบทรักที่ร้อนแรงของฝรั่งหนุ่ม“อิงค์....อา......”เสียงทุ้มครางชื่อของหญิงสาวที่กำลังร่วมรักออกมาพร้อมกับพาหญิงสาวไปถึงปลายทางที่เรี
สองปีต่อมางานแต่งงานที่ผู้หญิงทั้งหลายใฝ่ฝันอยากจะมีสักครั้งกำลังปรากฏอยู่เบื้องหน้า สถานที่จัดงานเป็นชายหาดที่มีเม็ดทรายสีขาวสะอาดตา ซึ่งเป็นชายหาดทะเลทางภาคใต้ของประเทศไทยนั่นเอง แขกที่ได้รับเชิญให้มาร่วมงานนั้นมีเพียงแค่ญาติและเพื่อนสนิทของทั้งสองฝ่ายเท่านั้น เจ้าบ่าวเจ้าสาวต่างสัญชาติยืนยิ้มแย้มถ่ายภาพกับเพื่อนๆ เพื่อเก็บเอาไว้เป็นความทรงจำที่ดี“ร้อนหน่อยนะคะบุ๊ซ”เสียงหวานบอกเจ้าบ่าวสุดหล่อของเธออย่างห่วงใยพลางใช้ผ้าเช็ดหน้าซับเหงื่อให้เขา สำหรับเธอนั้นเคยชินกับอากาศร้อนของประเทศไทยอยู่แล้วจึงไม่มีปัญหาอะไร แต่คงจะไม่ใช่กับเขาที่มาจากเมืองหนาว“ไม่ร้อนเท่าไหร่เลยที่รัก” เขาตอบกลับพลางมองใบหน้าสวยที่แต่งแต้มเครื่องสำอางบางเบา แต่ก็ยังคงมองดูสวยงามในสายตาของเขา“ขอแสดงความยินดีด้วยอีกครั้งนะคะพี่พุดซ้อน วันนี้พี่พุดซ้อนสวยกว่าทุกวันเลยค่ะ”อลินาเอ่ยแสดงความยินดีพลางพูดแซวอดีตผู้จัดการส่วนตัวออกมายิ้มๆ อีกหน่อยพุดซ้อนก็จะได้ย้ายตามบุ๊ซไปอยู่ที่อเมริกา และงานที่เธอจะทำที่นั่นก็คือพี่เลี้ยงเด็ก ส่วนเด็กที่ว่าก็คือลูกคนที่สามของเธอกับเอเดนนั่นเอง เธอตั้งครรภ์หลังกลับจากฮันนีมูนที่ประ
“อืม....เห็นว่าผลงานของน้องฮาร่าสามารถขายได้ถึงหนึ่งล้านเลยไม่ใช่เหรอ” เมริสาก็ได้ยินข่าวเรื่องนี้มาบ้างเช่นกัน สองสาวนั่งสนทนากันเพราะไม่ได้เจอกันมานานหลายปี ส่วนมาเฟียหนุ่มกับเพื่อนสนิทอย่างฮิวโกก็นั่งจิบบรั่นดีอยู่ไม่ไกล“ขยันจังนะนายเนี่ย เผลอแป๊บเดียวเป็นคุณพ่อลูกสองละฮ่าๆๆ” ฮิวโก้เอ่ยแซวเพื่อนสนิทออกมา“หึๆ ทำมาเป็นพูด นายก็ลูกหนึ่งแล้วไหม พอฉันมีเจ้าฮาล นายก็มีน้องเค้กพร้อมกับฉันเลยนี่นา”เอเดนสวนกลับเพื่อนสนิททันที สองหนุ่มยกแก้วบรั่นดีขึ้นมาชนกันอย่างรู้ใจ บอดี้การ์ดทั้งสองของเอเดนทำหน้าที่ปิ้งบาร์บีคิวให้กับพวกเจ้านายอย่างเชี่ยวชาญ นั่นก็เป็นเพราะตอนอยู่เมืองชิคาโก้ เจ้านายจะพาครอบครัวออกไปปิกนิกตามสวนสาธารณะอยู่บ่อยๆ หน้าที่เหล่านี้จึงกลายเป็นของพวกเขาไปโดยปริยาย“เห้ย!!! มัวแต่มองอะไรน่ะบุ๊ซ เนื้อจะไหม้แล้วเนี่ยเดี๋ยวก็โดนเจ้านายด่าหรอก” เกริกโวยวายใส่เพื่อนสนิททันทีที่เห็นว่าอีกฝ่ายกำลังเหม่อมองไปยังคุณหนูทั้งสาม“เห็นเด็กๆ แล้วอยากมีลูกกับเขาบ้าง” บุ๊ซเอ่ยออกมายิ้มๆ ไม่สมกับใบหน้าสุดโหดของตนจนเกริกต้องหัวเราะออกมา"ฮ่าๆๆๆ เมียยังไม่มีเลย อยากจะมีลูกซะแล้ว นายไม่คิดข้ามขั
แสงแดดที่เริ่มลดความร้อนแรงลงไปตกกระทบกับผิวน้ำทะเลที่กำลังซัดคลื่นเข้าฝั่งเสียงดังซ่า...ซ่า มองดูแล้วช่างเป็นบรรยากาศที่เหมาะกับการมาพักผ่อน นัยน์ตากลมจ้องมองไปยังร่างเล็กทั้งสองที่กำลังวิ่งเล่นกับคนตัวโตอยู่ที่ริมชายหาด ริมฝีปากอิ่มเผยรอยยิ้มออกมา ก่อนที่ใบหน้างามจะสัมผัสกับความเย็นของเครื่องดื่มที่ผู้เป็นสามีส่งมาให้“ขอบคุณค่ะที่รัก”เสียงหวานเอื้อนเอ่ยออกมาก่อนที่จะยกแก้วพั้นซ์ขึ้นมาจิบ อลินาใช้เวลานานกว่าที่คิดกว่าจะได้กลับมาเยือนประเทศไทยก็เป็นวันครบรอบแต่งงานสามปีของเธอกับสามีแล้ว และการมาในครั้งนี้ยังมีลูกน้อยมาด้วยถึงสองคน“วันนี้ฮิวโก้จะพาคุณเมย์มาที่นี่ด้วย”“น้องเค้กมาด้วยกันไหมคะ”อลินาเอ่ยถามถึงลูกสาวของเพื่อนสนิท เมริสาแต่งงานกับฮิวโก้เมื่อสองปีก่อน และทั้งคู่ก็มีทายาทกันเลยซึ่งตอนนั้นอลินาตั้งท้องลูกคนที่สองพอดี เท่ากับตอนนี้ลูกสาวของเพื่อนสนิทอายุเท่ากับลูกชายคนเล็กของเธอ“มาครับ คุณก็รู้ว่าน้องเค้กติดพ่อของเธอมากขนาดไหน”“ดีจังเลยค่ะ เด็กๆ จะได้มีเพื่อนเล่นเพิ่ม สงสารพวกบุ๊ซกับเกริก ทำงานให้คุณก็เหนื่อยพอแล้วยังต้องมาเป็นเพื่อนเล่นกับลูกของเราอีก” อลินามองไปยังสองบอ
“คุณเป็นอะไรที่รัก ไม่สบายตรงไหนหรือเปล่าหืม...”น้ำเสียงที่อ่อนโยนของสามีทำให้อลินายิ้มออกมา เขาไม่เคยแสดงความเห็นแก่ตัวกับเธอ ความจริงแล้วเขาจะทำต่อก็ได้ แต่ว่าเขายอมหยุดเพียงเพราะได้ยินว่าเธอรู้สึกไม่ดี“ฮาน่าก็ไม่รู้เหมือนกันค่ะ สองสามวันมานี้ฮาน่ารู้สึกเพลียๆ”“คุณทำงานจนไม่นอนพักกลางวันใช่ไหม” เขาถามออกมาด้วยความสงสัย เพราะแน่นอนว่าตอนกลางคืนเขาและเธอมักจะใช้เวลาบนเตียงร่วมกัน“ฮาน่าก็นอนนะคะเดล อืม... มีอีกอย่าง ฮาน่ารู้สึกว่าช่วงนี้หิวบ่อย เหมือนจะอ้วนขึ้นด้วยนะคะ” เธอลูบลงไปบนหน้าท้องที่ดูมีไขมันขึ้นเล็กน้อย แต่ในสายตาของเอเดนมันก็ยังคงแบนราบอยู่ดี“ไม่อ้วนเลยที่รัก แต่ผมรู้สึกว่าคุณดูสวยมากขึ้นนะ”เขาดึงเธอเข้ามาในอ้อมกอดพลางกระซิบบอกเพื่อให้ภรรยามั่นใจ อลินานึกสงสัยกับการเปลี่ยนแปลงของร่างกาย แต่ก็ยังไม่อยากคิดไปไกล ทางที่ดีเธอคงต้องตรวจดูให้แน่ใจ“อืม...อาทิตย์หน้าผมว่างแล้วล่ะ เราไปฮันนีมูนที่ประเทศไทยกันดีไหม เราแต่งงานกันมาสามเดือนแล้วยังไม่ได้ไปฮันนีมูนกันเลย” เสียงทุ้มที่ดังออกมาเรียกสติของอลินาที่กำลังหลุดลอยไป“ดะ...ดีค่ะ ฮาน่าคิดถึงเมย์กับพวกพี่ๆ ที่บริษัท วิดิโอคอ
หลังจากอลินาแต่งงานกับเอเดนอย่างเป็นทางการ เธอก็ได้ทำหน้าที่ภรรยาของเอเดนอย่างเต็มตัว แต่เธอก็ไม่ลืมที่จะค้นหาในสิ่งที่เธอชอบ จนในที่สุดเธอก็ตัดสินใจเขียนบทความลงในบล็อกส่วนตัว เธอใช้ประโยชน์จากการที่เธอรู้และพูดได้หลายภาษา แปลบทความของเธอเป็นภาษาไทย ภาษาอังกฤษ ภาษาจีน ภาษาเยอรมันและภาษาญี่ปุ่น ทำให้เธอมีนักอ่านหลากหลายสัญชาติทั่วโลกที่กลายมาเป็นแฟนตัวยงของเธอ เรื่องฮันนีมูนที่เคยวางแพลนเอาไว้ก็ต้องเลื่อนออกไปก่อน เพราะงานของสามีที่ต้องจัดการให้อยู่ตัว ก่อนที่จะทิ้งงานแล้วพาเธอกลับไปเยือนประเทศไทย“กำลังทำอะไรอยู่หืม....ที่รัก” เสียงทุ้มดังมาจากด้านหลังของคนที่กำลังนั่งทำงานอยู่ที่โต๊ะบริเวณสวนของเพ้นส์เฮ้าท์สุดหรูแห่งนี้“กำลังเขียนบทความอยู่ค่ะ วันนี้ที่กาสิโนมีเรื่องยุ่งยากไหมคะ”เธอละมือจากงานที่ทำแล้วหันไปสนใจสามีที่เพิ่งกลับมาจากคาสิโน หลังจากแต่งงานกัน เอเดนก็ได้พาเธอไปดูธุรกิจทุกอย่างที่เขากำลังทำอยู่ แม้ลึกๆ ในใจอลินาจะรู้สึกกังวลกับงานของสามี แต่เธอก็คงจะให้เขาเปลี่ยนไปทำอย่างอื่นไม่ได้ เพราะนี่คือสิ่งที่ตระกูลของเขาทำมาเนิ่นนาน ในเมื่อเธอรักเขาเธอก็ต้องยอมรับในตัวตนของเขาเช