ตอนที่ 1
สง่างามดั่งหงส์
ใครบางคนได้กล่าวไว้ว่า ‘ดอกไม้แต่ละชนิด ผลิบานในฤดูกาลของมันเอง’ เช่นเดียวกับการผลิบานของดอกซากุระในช่วงปลายเดือนมีนาคมของฤดูใบไม้ผลิ
‘ปราบ’ ชายหนุ่มวัย 35 ปียืนบนสะพานอิฐโค้งข้ามทะเลสาบที่สวนสาธารณะแห่งหนึ่ง เขาจิบชาอุ่นๆ ในยามเช้าชื่นชมทัศนียภาพวัดเก่าแก่และปราสาทสวยงามจับใจ
แต่ทว่า…เสียงไม้เท้าสแตนเลสกระทบพื้นจากด้านหลังดังรบกวน มือเหี่ยวจับปลายหัวหยักของไม้เท้าตามมาด้วยเสียงฝีเท้าย่างก้าว เขาหันกลับไปมองใบหน้ายิ้มแย้มเปลี่ยนเป็นเคร่งขรึม
คนอายุราว 70 ปี สวมเสื้อโค้ทตัวยาวคู่กับหมวกเบเร่ต์สีดำ เขารู้จักและคุ้นเคยเป็นอย่างดี ชายแก่ฉีกยิ้มกว้างพร้อมสูดลมหายใจเข้าลึกเต็มปอด ในที่สุดก็หาจนเจอ ความจริงไม่ใช่เรื่องยากการค้นหาคนสูญหายในฐานะเจ้าพ่อผู้มีอำนาจบันดาลได้ทุกสิ่ง
“คงสำคัญมากใช่ไหม” ปราบไม่ได้กล่าวคำทักทายแต่อย่างใดเขารู้ว่าการที่เจ้าพ่อดั้นด้นมาถึงที่นี่ด้วยตัวเองนั้นมันต้องไม่ใช่เรื่องธรรมดาแน่
“ไม่มีใครรู้ใจอั๊วเท่าลื้ออีกแล้ว” เสียงหัวเราะดังในลำคอ คนฟังฝืนยิ้ม นับสิบกว่าปีที่พวกเขาไม่ได้เจอกัน เหตุการณ์ครั้งนั้นมันสร้างอำนาจให้คนเป็นเจ้าพ่อแต่กลับสร้างปมในใจฝังลึกให้กับอีกคน
“เข้าประเด็นเถอะ อย่ายืดเยื้อเลย” เขาถอนหายใจเพราะรู้ว่าการมาครั้งนี้ของเจ้าพ่อต้องมีเรื่องเดือดเนื้อร้อนใจแน่แววตาชายชราดูวิตกกังวล
“ลื้อช่วยอั๊วอีกสักครั้งได้ไหม มันเป็นครั้งสุดท้ายแล้วจริงๆ” ปราบรู้สึกหวั่นใจอย่างบอกไม่ถูก
“ถ้าตอบว่าไม่...”
“ลื้อคงไม่อยากถูกตราหน้าว่าเป็นลูกเนรคุณหรอกใช่ไหม” ปราบกัดฟัน แก้วชาในมือถูกบีบจนสั่นคนแก่กล้าใช้คำว่าลูกเนรคุณทั้งที่ก่อนหน้านี้เขาถวายให้ทุกอย่างทั้งชีวิตและอิสรภาพ
“พูดมาเถอะต้องการอะไร” น้ำเสียงเยือกเย็นดุดันและท่าทางสุขุมคือสิ่งที่ชายชราปรารถนาอยากให้เกิดกับลูกสาวเพียงคนเดียวแต่เป็นไปได้ยาก
“เปลี่ยนห่านให้เป็นหงส์ ภารกิจสุดท้ายของลื้อ”
“ทำไมต้องเป็นผม”
“อั๊วนึกไม่ออกเลย ถ้าไม่ใช่ลื้อจะเป็นใคร” ชายชรามีแววตาเป็นประกายมันเปี่ยมไปด้วยความหวังต่างจากชายหนุ่มที่หดหู่ดูสิ้นหวัง
ในฐานะที่เป็นลูกบุญธรรมได้รับการเลี้ยงดูมาเป็นอย่างดีจึงยากที่จะปฏิเสธคำขอร้องจากเจ้าพ่อได้แต่ปราบจะเชื่อได้ยังไงว่านี่คือภารกิจสุดท้ายแล้วจริงๆ
“ภารกิจสุดท้ายจริงหรอ” ชายชรายิ้มใจเย็น ก่อนจะมองไปยังวิวทิวทัศน์ข้างหน้าทะเลสาบกว้างใหญ่รายล้อมไปด้วยต้นซากุระที่กำลังผลิบาน
สถาปัตยกรรมอันเก่าแก่ดูขลังและเปี่ยมไปด้วยมนต์เสน่ห์คนแก่เริ่มเข้าใจชีวิตแล้วว่าทุกสิ่งไม่ยั่งยืนเพราะในไม่ช้าดอกซากุระที่เบ่งบานต้องร่วงโรยตามกาลเวลา เช่นเดียวกับเขา
“คนแก่ที่เป็นมะเร็งอย่าอั๊ว คงอยู่ได้ไม่นาน” เมื่อชายหนุ่มได้ยินเช่นนั้น เขามีใบหน้าเรียบเฉยไม่มีความรู้สึกตื่นตระหนกหรือตกใจ
“ต้องทำยังไงบ้าง” ถึงเขาจะออกจากวงการและปลีกวิเวกมาอยู่คนเดียวนานนับสิบกว่าปีแต่ยังคงได้ยินข่าวความขัดแย้งระหว่างสองเจ้าพ่ออยู่เสมอ
เมื่อได้ยินจากปากเจ้าพ่อผู้มีอิทธิพลฝั่งตะวันออกว่ามีชีวิตอยู่ได้ไม่นานเขารู้ได้ทันทีว่าภาระอันหนักอึ้งจะตกไปอยู่ที่ใคร ‘หงส์’ลูกสาวเพียงคนเดียว เธอมีนิสัยก้าวร้าวเอาแต่ใจ เพราะถูกตามใจตั้งแต่เด็กจน
“อั๊วอยากให้ลื้อช่วยปกป้องดูแลเธอ สอนให้เธอเข้มแข็ง มีวุฒิภาวะเป็นผู้นำที่ดีเป็นพญาหงส์ที่สง่างามอั๊วจะได้ตายตาหลับ” คำขอครั้งสุดท้าย ไม่ใช่ในฐานะเจ้าพ่อแต่ในฐานะพ่อคนหนึ่ง เขาอยากให้พี่ชายกลับไปดูแลน้องสาว
"คุณหนูแข็งแกร่งอยู่แล้ว การเอาชนะศัตรูคงไม่ยาก ดังนั้น ไม่จำเป็นต้องพึ่งใคร"
"แข็งแต่ยังไม่แกร่งพอนิสัยเอาแต่ใจความดื้อรั้น จะทำลายทุกอย่าง คงเป็นความผิดอั๊วเอง ที่ตามใจมาตั้งแต่เด็ก" แววตาของผู้เป็นพ่อวิตกกังวลอย่างมากเพราะรู้จักนิสัยลูกสาวตัวเองดีกว่าใคร
“ตกลง สัญญาได้ไหมว่ามันจะเป็นครั้งสุดท้าย” ความจริงเขาควรปฏิเสธงานนี้ แต่ไม่ทำ เพราะไม่ต้องการให้ใครมาตราหน้าว่าเป็นลูกบุญธรรมที่เนรคุณเลี้ยงเสียข้าวสุก
“อั๊วสัญญา ลื้อจะได้มีอิสรภาพตามที่ต้องการ” เด็กกำพร้าที่ได้รับการอุปการะจากเจ้าพ่อกลายมาเป็นผู้ที่แกร่งกล้ามากความสามารถ จนได้รับการแต่งตั้งให้เป็นมือขวาแต่เขาไม่มีความสุขเลยในชีวิตที่ผ่านมา
ปราบเชื่อว่านี่จะเป็นงานสุดท้ายของเขาเพราะอีกไม่นานชายชราหมดอายุขัย แต่นั่นเป็นสิ่งที่เขาควรได้รับมันยังน้อยไปด้วยซ้ำกับความเลวทรามของเขา
อีกอย่าง หากวันหนึ่งหงส์ต้องขึ้นไปนั่งบนบัลลังก์ ปราบอยากเห็นเธอมีคุณธรรมมากกว่าผู้เป็นพ่อที่มีเพียงความทะเยอทะยานความโลภและอำนาจที่ไร้ความเมตตา
#โรงอาหารมหาวิทยาลัย
“กรี๊ดดดดดดดด........!!!” เสียงกรีดร้องดังจนแสบแก้วหู น้ำแกงราดลงบนหัวไหลอาบ โชคดีที่มันไม่ได้ร้อนจัดแต่ก็ทำให้ปวดแสบปวดร้อนเอาเรื่อง
“เอามันให้ตาย!!!” สิ้นคำสั่งเพื่อนสนิททั้งสองที่เป็นเบี้ยล่างให้คนสั่งการมาตลอด จู่โจมด้วยการจิกหัวขึ้นมาจากนั้นจับโขกลงไปบนโต๊ะ ยังไม่สาแก่ใจคนหนึ่งล็อคด้านหลังส่วนอีกคนตบไม่ยั้ง
“เพี๊ยะ เพี๊ยะ! เพี๊ยะ!”
”ฮืออออ....ฮือออๆๆๆ” คนโดนยำร้องไห้ปล่อยโฮ ใบหน้าฟกช้ำสักพักเลือดไหลตรงมุมปาก ความโกลาหลที่เกิดขึ้นทำให้คนอื่นๆ มุมดูจำนวนมาก แต่ทว่า ไม่มีใครกล้าเข้าไปยุ่งเพราะทุกคนรู้ดีว่าเธอเป็นใคร
“หยุดนะ!” ท่ามกลางความวุ่นวาย มีเสียงปริศนาเข้ามาแรกทุกคนหันไปมอง เจียลี่ อาจารย์ประจำคณะบริหารธุรกิจรับตำแหน่งวันแรกต้องห้ามปรามเพราะเด็กกลุ่มนี้คือนิสิตในสังกัดของเธอ
“อย่ามายุ่งดีกว่า ปัญหาของฉัน ฉันจัดการเองได้” หงส์ ลูกสาวเจ้าพ่อคนดังที่ไม่มีกล้าแตะ หันไปพูดกับอาจารย์อย่างไม่ให้เกียรติ ที่ผ่านมาไม่มีใครกล้ายุ่งกับเธอ จนกระทั่งอาจารย์คนนี้เข้ามา
“เขาไปทำอะไรให้เธอ” หงส์ไม่ตอบนางตัวดี เสือกไม่เข้าเรื่องไปฟ้องอาจารย์ประจำวิชาว่าเธอโกงข้อสอบ ทำให้เธอโดนตัดคะแนน เรื่องนี้รู้ถึงหูเจ้าพ่อโกรธมากเขาต้องยัดเงินเพื่อให้ลูกสอบผ่าน
“ก็บอกแล้วไงว่าอย่ามายุ่ง ปัญหาของฉัน ฉันจัดการเองหูหนวกหรอ หรือคิดว่าเป็นอาจารย์จะทำอะไรก็ได้ อย่าเสือกค่ะ! มีหน้าที่สอนก็สอนไป” เธอหยิ่งผยองไม่เกรงกลัวใครหน้าไหนทั้งนั้น
“ไม่ได้ ปัญหาของเธอกำลังทำให้คนอื่นเดือดร้อน” เจียลี่ รู้ดีว่าหงส์คือใครแต่ด้วยความเป็นครูมีจรรยาบรรณ รักความถูกต้องเป็นธรรมจึงยอมนิ่งเฉยไม่ได้
ยิ่งมองเห็นคนไร้ทางสู้ยิ่งน่าสงสาร เด็กคนนั้นโดนทำร้ายเธอร้องไห้ฟูมฟายเหมือนคนเสียสติ เนื้อตัวมอมแมม ใบหน้าฟกช้ำมีเลือดไหลมุมออกปากและจมูก ครูสาวไม่รอช้ารีบเข้าไปช่วยพยุงขึ้นมา หวังจะพาไปทำแผลที่ห้องพยาบาล
“หยุด ใครอนุญาตให้ไป” ทั้งคู่หยุดชะงักหงส์เอาตัวเองมาบัง พร้อมกับเพื่อนอีกสองคนที่เดินมาประกบด้านหลัง
“หลีกทาง ไม่งั้นเจอดีแน่” เจียลี่ยกมือชี้หน้าถ้าไม่หลบเธอคงต้องใช้อำนาจหน้าที่จัดการเด็กนิสัยเสียคนนี้ แต่คนตรงหน้าไม่ได้มีท่าที่เกรงกลัวเลย เธอยืนกอดอกไล่ตามองอาจารย์ที่ปรึกษาตั้งแต่หัวจรดเท้า
“นี่ใช่ไหม เจียลี่ ที่ปรึกษาคนใหม่ของพวกเรา มีปัญญาแค่นี้หรอ รองเท้ามือสอง เสื้อมือสอง กระโปรงราคาหลักร้อย แหวะ! อุจาดลูกตา” คนโดนดูถูกโกรธจนตัวสั่นแต่ยังมีวุฒิภาวะทางอารมณ์สูง
“เราสองคนก็ต่างกันแค่เสื้อผ้าเท่านั้นแหละ เธอคงไม่ได้รับการเสี้ยมสอนเรื่องมารยาทสินะ หรือไม่ก็มีความบกพร่องทางสมอง ป่วยทางจิตหรอถึงได้เที่ยวดูถูกคนอื่นไปวันๆ” หงส์ได้ยินแบบนั้นโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ เธอมองไปรอบๆ สังเกตเห็นคนอื่นแอบหัวเราะเยาะยิ่งทำให้อับอาย
“กล้าดียังไงมาด่าฉัน รู้จักฉันน้อยไปสินะ” เจียลี่หลุดขำความจริงเธอไม่อยากรู้จักเลยด้วยซ้ำ
“คิดว่าตัวเองเกิดมามีพร้อมทุกอย่างแล้วจะดูถูกเหยียดหยามใครก็ได้หรอ อย่าคิดว่าทุกคนเขาจะยอมเธอหมดสิ เธอก็แค่ลูกคนรวย ไร้สมอง อ้อ ต้องเรียกว่าสมองหมาปัญญาควายถึงจะถูก”
“อี....!!!” เธอจะสวนคืนแต่มองไปรอบๆ มีคนมุงดูมากมาย
หงส์กรีดร้องในใจเธออยากตบสั่งสอนให้หายแค้นแต่ยังไม่ใช่ตอนนี้เพราะการทะเลาะวิวาทกับอาจารย์แถมยังเป็นอาจารย์ที่ปรึกษาไม่ใช่เรื่องดีเจ้าพ่อคงไม่ปลื้มแน่
แต่ถึงยังไงก็จะเอาคืน เจียลี่ คนแรกที่กล้าด่าเธอแถมยังด่าต่อหน้าผู้คนมากมาย สร้างความอับอาย ลูกสาวเจ้าพ่อคนดังโดนด่ากลางโรงอาหารอีกไม่นานข่าวคงแพร่สะพัดไปทั่ว
“มากไปแล้วนะ ตบมันเลยไหม” เพื่อนข้างหลังโกรธแทน นิสาจะเดินมาเอาเรื่องแต่ต้องหยุดเพราะโดนมือกันไว้
“รอก่อน มันเจอกูแน่” เธอหันไปพูดเบาๆ
Comments