เขมกรยังไม่ทันได้ตั้งตัวหรือเอ่ยตกลงอะไรกับระบบเลยแม้แต่น้อย หลังจากสิ้นเสียงระบบร่างของเขมกรก็โดนกระชากอย่างแรงอีกครั้งและสติก็ค่อย ๆ ดับไป แต่ทว่าก่อนที่เขมจะหมดสติไปเขาก็ได้ยินเสียงของระบบพูดทิ้งท้ายกับเขาว่า
'ทุกอย่างที่พบเจอล้วนเป็นโชคชะตากำหนด'
โอ้โห...ทันทีที่เขมกรได้ยินในสิ่งที่ไอ้ระบบเฮงซวยนี้พูด เขาละอยากจะตอกหน้ามันกลับไปจริง ๆ โชคชะตากำหนดบ้านบิดามารดามึงสิครับ กำหมดได้หัวควายสัตว์ ๆ เลยไอ้แม่เย็x..
แต่ก็นั่นแหละบ่นไปก็ไม่มีประโยชน์อะไรแล้ว เพราะทันทีที่เขมลืมตาตื่นขึ้นมาอีกทีตัวของเขาก็ได้ฟื้นมาอยู่ในร่างของข้าวตังซะแล้ว มิหนำซ้ำยังตื่นขึ้นมาอยู่บนเตียงในโรงพยาบาลพร้อมกับความรู้สึกเจ็บจี๊ดที่หัวอีกด้วย
"โอ๊ยยยปวดหัวเหี้ย ๆ เลย ก่อนที่กูจะมาเข้าร่างไอ้เจ้าของร่างนี้มันไปทำอะไรมาวะถึงได้มานอนหัวแตกอยู่ในโรงพยาบาลแบบนี้"
เขมกรดันตัวลุกขึ้นนั่งอย่างทุลักทุเลมือข้างถนัดก็ยกขึ้นมาแตะหัวบริเวรที่เจ็บซึ่งปรากฏว่ามีผ้าก๊อซปิดอยู่พลางปากก็ไม่วายบ่นให้เจ้าของร่างไปด้วย แต่ทว่านั่งบ่นให้เจ้าของร่างเดิมได้ไม่นานเขมกรก็ต้องหันไปมองยังประตูห้อง เมื่อได้ยินเสียงว่ามีใครบางคนกำลังเปิดเข้ามา
"อ่าวคุณฟื้นแล้วเหรอ"เสียงทุ้มของชายแปลกหน้าที่โคตรจะหน้าตาดูดีเอ่ยทักเขมกรที่นั่งแสดงสีหน้ามึนงงส่งมาให้เขาอยู่บนเตียงคนไข้
ด้านเขมที่อยู่ในร่างของข้าวตังนั่งขมวดคิ้วมุ่นเข้าหากันแทบจะเป็นปม นัยน์ตาก็จ้องมองไปยังชายตัวสูงคนมาใหม่ด้วยแววตาสงสัยภายในหัวก็พยายามนึกคิดว่าคนคนนี้นั้นเป็นใคร เผื่อว่าความทรงจำของเจ้าของร่างจะยังคงหลงเหลืออยู่บ้างและก็เป็นอย่างที่เขมคิดไว้จริง ๆ
เพราะในความทรงจำของข้าวตัง ชายตัวสูงคนนี้คือ ธีโอ นายแบบชื่อดังที่ก่อนหน้านี้ตัวของข้าวตังกำลังถ่ายแบบให้อยู่และก่อนภาพจะตัดในความทรงจำครั้งสุดท้าย ข้าวตังได้บอกให้ไอ้นายแบบหน้าหล่อคนนี้ไปเปลี่ยนชุดเพื่อจะถ่ายเซตถัดไปและด้วยเหตุฉะนี้ ไอ้หมอนี้ที่เดินไม่ดูตาม้าตาเรือดันเดินสะดุดสายไฟทำให้ขาตั้งไฟในสตูดิโอล้มมาใส่เขาจนหัวแตกหมดสติอย่างที่เห็น
แต่จะว่าไปทำไมเขารู้สึกคุ้นหน้าหมอนี้จังนะ คงเพราะข้าวตังรู้จักหมอนี้ละมั้ง
"แล้วเห็นไหมล่ะ"เขมตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงห้วนและแสดงสีหน้าไม่ค่อยจะสบอารมณ์นัก ด้วยเพราะทันทีที่ฟื้นขึ้นมาเขาก็ต้องมารับรู้ว่านายแบบหนุ่มหน้าตาดีคนนี้ทำให้เขาต้องมานอนในโรงพยาบาลแบบนี้
อีกอย่างที่โลกเดิมของเขมเขาก็ไม่ค่อยจะถูกกับโรงพยาบาลเท่าไหร่นัก เพราะสมัยก่อนตอนที่เขมยังเป็นวัยรุ่นช่วง20ต้น ๆ ตัวของเขมนั้นเข้าออกโรงพยาบาลเป็นว่าเล่นเพื่อไปเฝ้าคุณแม่ที่เป็นมะเร็งระยะสุดท้าย เขมก็เลยไม่ค่อยจะชอบโรงพยาบาลสักเท่าไหร่
เพราะมาทีไรตัวของเขมก็มักจะคิดถึงแม่ที่จากไปเสมอ
"ปากเก่งแบบนี้คงจะหายดีแล้วมั้ง"ธีโอสบถพูดกับตัวเองเสียงเบา แต่เพราะด้วยภายในห้องนั้นเงียบมากทำให้เขมที่อยู่ในร่างของข้าวตังนั้นได้ยินคำสบถของนายแบบหนุ่มเต็มสองหู
โอ้โหทำคนอื่นเขาเจ็บตัวแล้วยังไม่มีทีท่าจะสำนึกผิดเลยเหรอพ่อหนุ่ม เขมได้แต่คิดในใจพลางหันไปจ้องหน้าของคนที่ทำให้ตัวเองเจ็บตัวตาเขม็ง เขมนั้นยังไม่กล้าที่จะพูดอะไรมาเพราะเขานั้นยังไม่ได้ศึกษาท่าทีและอุปนิสัยของตัวละครข้าวตังให้ดีเลย แถมเขาก็ยังไม่รู้จักเกี่ยวที่นี่มากนัก เกิดอยู่ ๆ เขาทำตัวแปลกไปคนที่อยู่ใกล้ชิดหรือรู้จักข้าวตังก็คงจะสงสัยที่ตัวของข้าวตังทำตัวแปลกไป
"เฮ่อ...ที่ผมตื่นมาอยู่ที่โรงพยาบาลแบบนี้คงเป็นเพราะขาตั้งไฟล้มใส่จนหมดสติไปใช่ไหม?"เขมกรกักเก็บอารมณ์คุกรุ่นของตัวเอาเองไว้ในใจและจงใจเอ่ยถึงสาเหตุที่ตัวเองต้องมานอนเจ็บอยู่บนเตียงคนไข้แบบนี้นั้นเป็นเพราะใคร
ส่วนนายแบบหนุ่มเจ้าของความสูงร้อยเก้าสิบเซนติเมตรเมื่อได้ยินช่างภาพร่างโปร่งเอ่ยพูดขึ้นมาแบบนั้นก็สะอึกและรู้สึกผิดภายในใจ เพราะที่ข้าวตังต้องมาอยู่ในสภาพนี้สาเหตุก็มาจากตัวเอง
เมื่อคิดได้ดังนั้นธีโอก็สูดลมหายใจเข้าลึกผ่านไปไม่กี่วิก็ถอนหายใจยาว ก่อนที่จะสาวเท้าตรงไปยังเตียงคนไข้แล้วก้มหัวเอ่ยขอโทษคนป่วยบนเตียงด้วยน้ำเสียงจริงจัง ถึงแม้ธีโอจะไม่ค่อยชอบคนตรงหน้าที่เป็นเพื่อนของนายคนนั้นก็เถอะ แต่เรื่องที่ทำให้เขาเจ็บตัวแบบนี้มันก็ไม่ถูก
"ผมต้องขอโทษด้วยนะครับที่ทำให้คุณต้องมาเจ็บตัวเพราะการเดินไม่ระวังของผมและเพื่อเป็นการแสดงการรับผิดชอบ ผมจะเป็นคนจ่ายค่ารักษาของโรงพยาบาลทั้งหมดให้คุณเอง อีกอย่างถ้าคุณต้องการจะเรียกค่าทำขวัญเท่าไหร่คุณบอกผมมาได้เลย"
"พูดจบหรือยัง"
เขมกรถามกลับไปเพียงสั้น ๆ หลังจากนั่งฟังนายแบบหนุ่มวัย28ปีสาธยายออกมายาวเหยียด คิ้วเรียงสวยทั้งสองข้างก็ขมวดเข้าหากันอย่างไม่ค่อยจะเข้าใจกับสายตาของนายคนนี้ที่มองมายังตัวของเขาด้วยแววตาที่ดูเหมือนจะไม่ค่อยชอบกันเท่าไหร่
ถึงแม้ว่าน้ำเสียงที่หมอนี้เอ่ยจะจริงจังแต่สายตาที่แข็งกร้าวนี้มันอะไรกัน หรือว่าก่อนที่เขาจะมาอยู่ในร่างนี้เจ้าของร่างมันไปทำอะไรให้อีตานายแบบคนนี้ไม่ชอบหน้าหรือเปล่าวะ แต่เท่าที่เค้นความทรงจำดูข้าวตังกับอีตานายแบบธีโอนี้ก็ไม่มีการเจอกันเป็นการส่วนตัวนี่
ส่วนในนิยายถ้าเขาจำไม่ผิดบทของข้าวตังที่เป็นเพื่อนของอาทิตย์ก็มีโผล่มาให้เห็นเพียงไม่กี่ครั้งเอง ยิ่งเป็นบทที่เจอกับนายธีโอเพื่อนนายแบบข้างบ้านของน้องวันจันทร์ (นายเอกในนิยาย) ก็ยิ่งแทบจะไม่มี แล้วแบบนี้มีเหตุผลอะไรที่ทำให้ไอ้หมอนี้มันมองข้าวตังป่านจะกินหัวกันแบบนี้
"จบแล้ว ที่ผมมาหาคุณก็เพื่อที่จะบอกคุณว่าผมไม่ได้ตั้งใจและก็ขอโทษที่ทำให้คุณเจ็บตัว อีกอย่างผมอยากจะแสดงความรับผิ...."
"เข้าใจแล้วครับ เชิญคุณกลับไปได้เลยผมปวดหัวต้องการพักผ่อน"
ยังไม่ทันที่ธีโอจะเอ่ยจบประโยคดี เขมก็เอ่ยพูดแทรกพร้อมกับล้มตัวนอนหลับตาเป็นการบอกนายแบบหนุ่มเป็นนัยว่าตัวของเขาไม่อยากจะพูดความยาวสาวความยืดกับเจ้าตัวแล้ว
ส่วนทีปกร หรือ ธีโอ เมื่อโดนช่างภาพอิสระอย่างข้าวตังปฏิบัติตัวใส่ตัวเองแบบนี้ก็ยืนนิ่งจ้องมองคนบนเตียงตาปริบ ๆ อยู่แบบนั้น ริมฝีปากหนาก็อ้าหุบ ๆ ไม่รู้จะเอ่ยพูดกับคนที่นอนหลับตาอยู่บนเตียงต่อดีหรือไม่
ความรู้สึกภายในใจที่ไม่ชอบคนคนนี้เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว และพยายามบอกตัวเองว่าครั้งนี้ตนเองนั้นเป็นคนผิดมันไม่อาจนับรวมกับสิ่งที่คนคนนี้กับนายอาทิตย์ทำกับเพื่อนตัวเล็กของตัวเอง แต่เมื่อมาเจอข้าวตังทำตัวแบบนี้กับตัวเองความรู้สึกที่ไม่ชอบก็ยิ่งเพิ่มพูนขึ้นมากกว่าเดิม
"สมแล้วที่เป็นเพื่อนกัน"พูดทิ้งท้ายเพียงแค่นั้น ก่อนจะหมุนตัวเดินออกจากห้องพักคนไข้VIPไปด้วยใบหน้าเต็มไปด้วยความไม่สบอารมณ์
ปัง!
เสียงปิดประตูดังขึ้นไม่เบานัก เขมกรที่นอนหลับตาหนีตัวปัญหาอย่างนายธีโอก็ค่อย ๆ เปิดเปลือกตาขึ้นและกวาดสายตามองรอบ ๆ ห้องว่ามีใครอยู่ในห้องไหม และเมื่อเห็นว่าไม่มีใครแล้วเขมที่อยู่ในร่างข้าวตังก็พ่นลมหายใจออกมาอย่างโล่งอก
"ฟูว ไปได้สักที แล้วเอายังไงต่อทีนี้"เขมหยัดตัวลุกขึ้นมานั่งอีกครั้งพลางในหัวก็คิดว่าตัวเองจะทำอย่างไรต่อดี แต่ทว่ายังไม่ทันได้คิดอะไรก็มีหน้าจอระบบแสดงขึ้นมาตรงหน้าพร้อมกับภารกิจที่มอบหมายให้เขาทำ
'ในวันพรุ่งนี้ธีโอที่พาวันจันทร์ไปเปิดหูเปิดตาและบังเอิญเจอเข้ากับอาทิตย์ที่มาเที่ยวสังสรรค์ ทำให้อาทิตย์และวันจันทร์เข้าใจผิดและมีปากเสียงกัน ซึ่งในการทะเลาะกันครั้งนี้ อาทิตย์ที่หึงหวงวันจันทร์จะลงไม้ลงมือกับธีโอที่เป็นพระรอง ภารกิจของคุณ:รับหมัดแทนพระรองและพูดเตือนสติเพื่อนสนิทของคุณอย่างอาทิตย์'
เหี้ยอะไรเนี่ย! ทำไมกูต้องเป็นคนรับหมัดด้วยครับไอ้เหี้ยคุณระบบ!!!
ท้ายที่สุดวันที่เขมกรไม่อยากให้มาถึงมากที่สุดก็ได้มาถึงแล้ว เขมกรในวันนี้สวมชุดสูทสีเลือดหมูเต็มยศยืนมองพระเอกและนายเอกของเรื่อง อาทิตย์ครองจันทร์ ใส่ชุดสูทสีขาวสะอาดตากำลังยืนให้คำสัตย์ปฏิญาณและแลกแหวนกันด้วยใบหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้มแห่งความสุข โดยมีทุกคนในงานยืนเป็นสักขีพยานหลังจากเจออุปสรรคมาอย่างมากมายทั้งเรื่อง สุดท้ายนักเขียนก็มักจะบรรยายให้พระเอกนายเอกของนิยายจบแบบสมหวังในความรักและเต็มไปด้วยความสุขแบบนี้เสมอซินะแต่ทว่าทำไมล่ะในเมื่อพระเอกนายเอกของเรื่องพวกเขาทั้งสองต่างก็มีความสุขและสมหวังกันในตอนจบของนิยาย แล้วชีวิตตัวของละครพระรองอย่างธีโอที่สำคัญอีกตัวละครล่ะ ทำไมนักเขียนถึงได้ลืมที่จะบรรยายให้เขามีความสุขและสมหวังในตอนจบบ้างนัยน์ตากลมทอดมองเจ้าของความสูงร้อยเก้าสิบเซนติเมตรที่ในวันนี้ก็แต่งตัวด้วยชุดสูทเต็มยศเฉกเช่นเดียวกันกับเขาแตกต่างกันเพียงสีของชุดสูทและเนกไท เพราะสีสูทของฝั่งเพื่อ
ทีปกร"เปล่าหรอก...อาทิตย์มันมาชวนให้พี่ไปเป็นเพื่อนเจ้าบ่าวในงานแต่งของมันกับวันจันทร์น่ะ อีกหน่อยน้องวันจันทร์ก็คงโทรหาธี....ให้ธีไปเป็นเพื่อนเจ้าบ่าวฝั่งของน้อง"จบประโยคคำพูดของข้าวตังผมก็ชะงักนิ่งค้างไปพลางมือไม้ก็อ่อนแรง จนประคองช้อนในมือเอาไว้ไม่อยู่ปล่อยให้มันร่วงลงบนโต๊ะอย่างหมดแรง ในหัวของผมในตอนนี้มันขาวโพลนไปหมดความคิดก็ตื้อตันหัวใจก็พลันรู้สึกสั่นแรงจนน่ากลัว"...เพื่อนเจ้าบ่าวอย่างนั้นเหรอ"ผมหลุบสายตาต่ำสบถพูดเสียงแผ่วเบา ตอนนี้ในหัวของผมมันตีรวนไปหมดแล้วไม่รู้จะเอ่ยพูดอะไรต่อดี เพราะผมรู้ดีว่าอีกไม่นานข้าวตังก็จะจากผมไปในที่ไกลแสนไกล ในที่ที่ผมไม่อาจตามหาเขาได้ถ้าอย่างนั้นก็คงใกล้ถึงเวลามากขึ้นกว่าเดิมแล้วซินะ......ที่พี่จะจากผมไปความคิดนี้ดังเข้ามาในหัวของผม ผมก้มหน้าเผยรอยยิ้มบางที่เต็มไปด้วยความเศร้าหมอง ผมรู้มาสักพั
แม้จะรู้ว่าไม่ควรปล่อยใจตัวเองให้ถลำลึกมากไปกว่านี้และไม่ควรที่จะปล่อยให้เขาที่เป็นเพียงตัวละครในนิยายเข้าใกล้และสนิทสนมจนความรู้สึกพากันถลาไปไกล แต่เขมกรก็ทำไม่ได้ เพราะทุกครั้งที่ธีโอมาหาหรือตัวเขาไปหาธีโอยามที่ธีโอต้องการเจอ ความสัมพันธ์ของพวกเขาทั้งสองก็มักจะใกล้ชิดสนิทสนมกันมากขึ้น ๆ จนในตอนนี้วันเวลาก็ผ่านไปเป็นเดือนอีกแล้ว"อึก ธีพอก่อน อ่าส์ หยุดดูดนมพี่สักที"เขมกรเชิดหน้าร้องครางต่ำพลางสองขาก็เกี่ยวตวัดรอบเอวสอบดันเข้าหาตัว มือขาวข้างซ้ายค้ำยันพื้นโต๊ะอาหารส่วนข้างถนัดก็ยกขึ้นมาขยำกลุ่มผมสีน้ำตาลทองของคนที่ใช้ปากดูดดึงหยอกเย้ายอดอกของเขาธีโอช้อนนัยน์ตาสีน้ำตาลคล้ายสีผมมองใบหน้าของเขมกรที่ในตอนนี้แดงระเรื่อลามไปถึงใบหูทั้งสองข้าง ริมฝีปากได้รูปเผยอเล็กน้อยเปลือกตาสีมุกก็หลับพริ้ม แม้ปากจะเอ่ยห้ามบอกให้เขาหยุด แต่ทว่าสีหน้าและท่าทางกลับตรงกันข้าม"อยากให้ผมหยุดจริง ๆ เหรอครับพี่เขม"ละริมฝีปากออกจากยอดถันสีแดงช้ำด้วยฝีมือตัวเองพร้อมกับเ
"ผมรู้ครับ.... แต่ว่าข้าวตังผมว่าผมชอบคุณเข้าให้แล้วล่ะ"สิ้นประโยคคำสารภาพความในใจของพระรองอย่างธีโอที่มีต่อตัวละครข้าวตังหรือก็คือเขมกรในตอนนี้ ภายในห้องพักพิเศษของโรงพยาบาลเอกชนชื่อดังก็เกิดความเงียบสงัดปกคลุมเขมกรนั่งนิ่งเงียบไม่ไหวติงที่เขานั่งนิ่งอยู่อย่างนี้ไม่ใช่ว่าเขาไม่ได้ยินหรือฟังประโยคคำพูดของธีโอไม่ชัด เขมได้ยินเต็มสองรูหูว่าธีโอบอกว่าชอบเขา เพียงแต่ว่าเขาไม่รู้ว่าจะเริ่มพูดอย่างไรกับธีโอดี ถ้าจะถามว่าเขารู้สึกอย่างไรกับคนตรงหน้า เขาตอบได้เต็มคำเลยว่าเขามีความรู้สึกที่ดีต่อธีโอ ดีถึงขั้นความคิดแรกที่เข้ามาในหัวของเขาในตอนได้ยินธีโอบอกว่าชอบเขา เขาเกือบจะตอบรับความรู้สึกของธีโอในทันทีแต่ทว่าเขมกรต้องหักห้ามความรู้สึกของตัวเองเอาไว้ในใจ เพราะต่อให้เขาอยากจะตอบรับความรู้สึกธีโอมากขนาดไหนความสัมพันธ์ของพวกเขามันก็เป็นไปไม่ได้อยู่ดี ด้วยเพราะธีโอนั้นเป็นเพียงตัวละครในนิยาย แล้วอีกอย่างสักวันหนึ่งตัวของเขมกรก็ต้องกลับไปในโลก
2วันต่อมาหลังจากเขมกรพักรักษาตัวอยู่โรงพยาบาลเข้าวันที่3 ในที่สุดวันนี้คุณหมอเจ้าของไข้ก็อนุญาตให้เขมกรกลับบ้านได้ ด้านเขมกรเมื่อรับรู้ว่าตัวเองจะได้ออกจากโรงพยาบาลวันนี้แล้วก็รู้สึกดีใจเป็นอย่างมาก เพราะเขานั้นเบื่อที่จะนอนเปื่อยอยู่ในโรงพยาบาลแล้ว เขาอยากจะออกไปโบยบินใช้ชีวิตอยู่ข้างนอกและสิ่งสำคัญสิ่งที่ทำให้เขมกรอยากจะออกจากโรงพยาบาลให้เร็วที่สุดนั้นไม่ใช่อะไรอื่น คือไอ้คู่รักหวานแหววที่มันพึ่งจะกลับมาคืนดีกันด้วยฝีมือของตัวเขาที่ช่วยพูดนั้นเองนัยน์ตาสีน้ำตาลทอดมองพระเอกและนายเอกของเรื่องที่ในตอนนี้นั่งตักป้อนผลไม้ (ที่เอามาเยี่ยมเขา?) ให้กันกินอย่างหวานชื่น บอกเลยในตอนนี้เขมกรจ้องมอง2คนนี้ด้วยแววตาเอือมระอาเป็นอย่างมาก เขาล่ะอยากจะไล่ไอ้2คนนี้ออกจากห้องไปซะจริงตั้งแต่เคลียร์ใจกันในวันนั้นและกลับมาคืนดีกัน เช้าวันต่อมาไอ้พระเอกนายเอกคู่นี้ก็รีบมาขอบคุณเขาที่ช่วยพูดเตือนสติให้พวกเขากลับมาเข
เขมกร"พี่ข้าวตังเป็นอย่างไรบ้างครับ จันทร์ได้ยินจากธีโอว่าพี่ข้าวตังได้รับบาดเจ็บจันทร์ก็เลยซื้อผลไม้และทำขนมมาเยี่ยม"เสียงใสของวันจันทร์ชายหนุ่มร่างบอบบางพ่วงสถานะคือนายเอกของเรื่องเอ่ยถามขึ้นด้วยความห่วงใย สองเท้าย่างก้าวท่วงท่าสง่าตรงมายังเตียงคนไข้ภายในมือก็ถือผลไม้และขนมที่ทำเองกับมือมาเป็นของเยี่ยมไข้"ขอบคุณที่มาเยี่ยมพี่นะ ตอนนี้พี่ดีขึ้นเยอะแล้วครับ"ผมเอ่ยตอบอย่างสุภาพ นัยน์ตาก็ทอดมองสังเกตนายเอกหนุ่มร่างบางผู้น่าทะนุถนอมที่มาเยี่ยมผมคนเดียวโดยข้างกายไร้เงาของอาทิตย์เพื่อนสนิทข้าวตัง ทั้งที่แต่ก่อนเวลาไปไหนมาไหนอาทิตย์จะไม่ยอมห่างและไม่มีว่าจะปล่อยให้วันจันทร์ไปไหนไกลคนเดียวอีกทั้งแววตาของวันจันทร์ในวันนี้ยังเศร้าหมองจนผมมองออกเลยว่าเจ้าตัวต้องมีเรื่องทุกข์ใจอยู่แน่ ๆ รอบนี้คงจะทะเลาะกันแรงน่าดู จะถามถึงอาทิตย์กับน้องเลยดีไหมนะอีกอย่างภา