แม้จะรู้ว่าไม่ควรปล่อยใจตัวเองให้ถลำลึกมากไปกว่านี้และไม่ควรที่จะปล่อยให้เขาที่เป็นเพียงตัวละครในนิยายเข้าใกล้และสนิทสนมจนความรู้สึกพากันถลาไปไกล แต่เขมกรก็ทำไม่ได้ เพราะทุกครั้งที่ธีโอมาหาหรือตัวเขาไปหาธีโอยามที่ธีโอต้องการเจอ ความสัมพันธ์ของพวกเขาทั้งสองก็มักจะใกล้ชิดสนิทสนมกันมากขึ้น ๆ จนในตอนนี้วันเวลาก็ผ่านไปเป็นเดือนอีกแล้ว
"อึก ธีพอก่อน อ่าส์ หยุดดูดนมพี่สักที"เขมกรเชิดหน้าร้องครางต่ำพลางสองขาก็เกี่ยวตวัดรอบเอวสอบดันเข้าหาตัว มือขาวข้างซ้ายค้ำยันพื้นโต๊ะอาหารส่วนข้างถนัดก็ยกขึ้นมาขยำกลุ่มผมสีน้ำตาลทองของคนที่ใช้ปากดูดดึงหยอกเย้ายอดอกของเขา
ธีโอช้อนนัยน์ตาสีน้ำตาลคล้ายสีผมมองใบหน้าของเขมกรที่ในตอนนี้แดงระเรื่อลามไปถึงใบหูทั้งสองข้าง ริมฝีปากได้รูปเผยอเล็กน้อยเปลือกตาสีมุกก็หลับพริ้ม แม้ปากจะเอ่ยห้ามบอกให้เขาหยุด แต่ทว่าสีหน้าและท่าทางกลับตรงกันข้าม
"อยากให้ผมหยุดจริง ๆ เหรอครับพี่เขม"ละริมฝีปากออกจากยอดถันสีแดงช้ำด้วยฝีมือตัวเองพร้อมกับเ
ท้ายที่สุดวันที่เขมกรไม่อยากให้มาถึงมากที่สุดก็ได้มาถึงแล้ว เขมกรในวันนี้สวมชุดสูทสีเลือดหมูเต็มยศยืนมองพระเอกและนายเอกของเรื่อง อาทิตย์ครองจันทร์ ใส่ชุดสูทสีขาวสะอาดตากำลังยืนให้คำสัตย์ปฏิญาณและแลกแหวนกันด้วยใบหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้มแห่งความสุข โดยมีทุกคนในงานยืนเป็นสักขีพยานหลังจากเจออุปสรรคมาอย่างมากมายทั้งเรื่อง สุดท้ายนักเขียนก็มักจะบรรยายให้พระเอกนายเอกของนิยายจบแบบสมหวังในความรักและเต็มไปด้วยความสุขแบบนี้เสมอซินะแต่ทว่าทำไมล่ะในเมื่อพระเอกนายเอกของเรื่องพวกเขาทั้งสองต่างก็มีความสุขและสมหวังกันในตอนจบของนิยาย แล้วชีวิตตัวของละครพระรองอย่างธีโอที่สำคัญอีกตัวละครล่ะ ทำไมนักเขียนถึงได้ลืมที่จะบรรยายให้เขามีความสุขและสมหวังในตอนจบบ้างนัยน์ตากลมทอดมองเจ้าของความสูงร้อยเก้าสิบเซนติเมตรที่ในวันนี้ก็แต่งตัวด้วยชุดสูทเต็มยศเฉกเช่นเดียวกันกับเขาแตกต่างกันเพียงสีของชุดสูทและเนกไท เพราะสีสูทของฝั่งเพื่อ
ทีปกร"เปล่าหรอก...อาทิตย์มันมาชวนให้พี่ไปเป็นเพื่อนเจ้าบ่าวในงานแต่งของมันกับวันจันทร์น่ะ อีกหน่อยน้องวันจันทร์ก็คงโทรหาธี....ให้ธีไปเป็นเพื่อนเจ้าบ่าวฝั่งของน้อง"จบประโยคคำพูดของข้าวตังผมก็ชะงักนิ่งค้างไปพลางมือไม้ก็อ่อนแรง จนประคองช้อนในมือเอาไว้ไม่อยู่ปล่อยให้มันร่วงลงบนโต๊ะอย่างหมดแรง ในหัวของผมในตอนนี้มันขาวโพลนไปหมดความคิดก็ตื้อตันหัวใจก็พลันรู้สึกสั่นแรงจนน่ากลัว"...เพื่อนเจ้าบ่าวอย่างนั้นเหรอ"ผมหลุบสายตาต่ำสบถพูดเสียงแผ่วเบา ตอนนี้ในหัวของผมมันตีรวนไปหมดแล้วไม่รู้จะเอ่ยพูดอะไรต่อดี เพราะผมรู้ดีว่าอีกไม่นานข้าวตังก็จะจากผมไปในที่ไกลแสนไกล ในที่ที่ผมไม่อาจตามหาเขาได้ถ้าอย่างนั้นก็คงใกล้ถึงเวลามากขึ้นกว่าเดิมแล้วซินะ......ที่พี่จะจากผมไปความคิดนี้ดังเข้ามาในหัวของผม ผมก้มหน้าเผยรอยยิ้มบางที่เต็มไปด้วยความเศร้าหมอง ผมรู้มาสักพั
แม้จะรู้ว่าไม่ควรปล่อยใจตัวเองให้ถลำลึกมากไปกว่านี้และไม่ควรที่จะปล่อยให้เขาที่เป็นเพียงตัวละครในนิยายเข้าใกล้และสนิทสนมจนความรู้สึกพากันถลาไปไกล แต่เขมกรก็ทำไม่ได้ เพราะทุกครั้งที่ธีโอมาหาหรือตัวเขาไปหาธีโอยามที่ธีโอต้องการเจอ ความสัมพันธ์ของพวกเขาทั้งสองก็มักจะใกล้ชิดสนิทสนมกันมากขึ้น ๆ จนในตอนนี้วันเวลาก็ผ่านไปเป็นเดือนอีกแล้ว"อึก ธีพอก่อน อ่าส์ หยุดดูดนมพี่สักที"เขมกรเชิดหน้าร้องครางต่ำพลางสองขาก็เกี่ยวตวัดรอบเอวสอบดันเข้าหาตัว มือขาวข้างซ้ายค้ำยันพื้นโต๊ะอาหารส่วนข้างถนัดก็ยกขึ้นมาขยำกลุ่มผมสีน้ำตาลทองของคนที่ใช้ปากดูดดึงหยอกเย้ายอดอกของเขาธีโอช้อนนัยน์ตาสีน้ำตาลคล้ายสีผมมองใบหน้าของเขมกรที่ในตอนนี้แดงระเรื่อลามไปถึงใบหูทั้งสองข้าง ริมฝีปากได้รูปเผยอเล็กน้อยเปลือกตาสีมุกก็หลับพริ้ม แม้ปากจะเอ่ยห้ามบอกให้เขาหยุด แต่ทว่าสีหน้าและท่าทางกลับตรงกันข้าม"อยากให้ผมหยุดจริง ๆ เหรอครับพี่เขม"ละริมฝีปากออกจากยอดถันสีแดงช้ำด้วยฝีมือตัวเองพร้อมกับเ
"ผมรู้ครับ.... แต่ว่าข้าวตังผมว่าผมชอบคุณเข้าให้แล้วล่ะ"สิ้นประโยคคำสารภาพความในใจของพระรองอย่างธีโอที่มีต่อตัวละครข้าวตังหรือก็คือเขมกรในตอนนี้ ภายในห้องพักพิเศษของโรงพยาบาลเอกชนชื่อดังก็เกิดความเงียบสงัดปกคลุมเขมกรนั่งนิ่งเงียบไม่ไหวติงที่เขานั่งนิ่งอยู่อย่างนี้ไม่ใช่ว่าเขาไม่ได้ยินหรือฟังประโยคคำพูดของธีโอไม่ชัด เขมได้ยินเต็มสองรูหูว่าธีโอบอกว่าชอบเขา เพียงแต่ว่าเขาไม่รู้ว่าจะเริ่มพูดอย่างไรกับธีโอดี ถ้าจะถามว่าเขารู้สึกอย่างไรกับคนตรงหน้า เขาตอบได้เต็มคำเลยว่าเขามีความรู้สึกที่ดีต่อธีโอ ดีถึงขั้นความคิดแรกที่เข้ามาในหัวของเขาในตอนได้ยินธีโอบอกว่าชอบเขา เขาเกือบจะตอบรับความรู้สึกของธีโอในทันทีแต่ทว่าเขมกรต้องหักห้ามความรู้สึกของตัวเองเอาไว้ในใจ เพราะต่อให้เขาอยากจะตอบรับความรู้สึกธีโอมากขนาดไหนความสัมพันธ์ของพวกเขามันก็เป็นไปไม่ได้อยู่ดี ด้วยเพราะธีโอนั้นเป็นเพียงตัวละครในนิยาย แล้วอีกอย่างสักวันหนึ่งตัวของเขมกรก็ต้องกลับไปในโลก
2วันต่อมาหลังจากเขมกรพักรักษาตัวอยู่โรงพยาบาลเข้าวันที่3 ในที่สุดวันนี้คุณหมอเจ้าของไข้ก็อนุญาตให้เขมกรกลับบ้านได้ ด้านเขมกรเมื่อรับรู้ว่าตัวเองจะได้ออกจากโรงพยาบาลวันนี้แล้วก็รู้สึกดีใจเป็นอย่างมาก เพราะเขานั้นเบื่อที่จะนอนเปื่อยอยู่ในโรงพยาบาลแล้ว เขาอยากจะออกไปโบยบินใช้ชีวิตอยู่ข้างนอกและสิ่งสำคัญสิ่งที่ทำให้เขมกรอยากจะออกจากโรงพยาบาลให้เร็วที่สุดนั้นไม่ใช่อะไรอื่น คือไอ้คู่รักหวานแหววที่มันพึ่งจะกลับมาคืนดีกันด้วยฝีมือของตัวเขาที่ช่วยพูดนั้นเองนัยน์ตาสีน้ำตาลทอดมองพระเอกและนายเอกของเรื่องที่ในตอนนี้นั่งตักป้อนผลไม้ (ที่เอามาเยี่ยมเขา?) ให้กันกินอย่างหวานชื่น บอกเลยในตอนนี้เขมกรจ้องมอง2คนนี้ด้วยแววตาเอือมระอาเป็นอย่างมาก เขาล่ะอยากจะไล่ไอ้2คนนี้ออกจากห้องไปซะจริงตั้งแต่เคลียร์ใจกันในวันนั้นและกลับมาคืนดีกัน เช้าวันต่อมาไอ้พระเอกนายเอกคู่นี้ก็รีบมาขอบคุณเขาที่ช่วยพูดเตือนสติให้พวกเขากลับมาเข
เขมกร"พี่ข้าวตังเป็นอย่างไรบ้างครับ จันทร์ได้ยินจากธีโอว่าพี่ข้าวตังได้รับบาดเจ็บจันทร์ก็เลยซื้อผลไม้และทำขนมมาเยี่ยม"เสียงใสของวันจันทร์ชายหนุ่มร่างบอบบางพ่วงสถานะคือนายเอกของเรื่องเอ่ยถามขึ้นด้วยความห่วงใย สองเท้าย่างก้าวท่วงท่าสง่าตรงมายังเตียงคนไข้ภายในมือก็ถือผลไม้และขนมที่ทำเองกับมือมาเป็นของเยี่ยมไข้"ขอบคุณที่มาเยี่ยมพี่นะ ตอนนี้พี่ดีขึ้นเยอะแล้วครับ"ผมเอ่ยตอบอย่างสุภาพ นัยน์ตาก็ทอดมองสังเกตนายเอกหนุ่มร่างบางผู้น่าทะนุถนอมที่มาเยี่ยมผมคนเดียวโดยข้างกายไร้เงาของอาทิตย์เพื่อนสนิทข้าวตัง ทั้งที่แต่ก่อนเวลาไปไหนมาไหนอาทิตย์จะไม่ยอมห่างและไม่มีว่าจะปล่อยให้วันจันทร์ไปไหนไกลคนเดียวอีกทั้งแววตาของวันจันทร์ในวันนี้ยังเศร้าหมองจนผมมองออกเลยว่าเจ้าตัวต้องมีเรื่องทุกข์ใจอยู่แน่ ๆ รอบนี้คงจะทะเลาะกันแรงน่าดู จะถามถึงอาทิตย์กับน้องเลยดีไหมนะอีกอย่างภา