Chapter 6
[6/2] @ภูเก็ต, ประเทศไทย สองแม่ลูกยังคงอยู่ที่ห้องพักของทางโรงพยาบาลจนถึงช่วงดึก คุณหมอเจ้าของไข้ของเด็กหญิงใยไหมมาบอกผู้เป็นแม่แล้วว่า การผ่าตัดสำหรับคืนนี้อาจจะต้องขอเลื่อนออกไปก่อน เนื่องจากทีมแพทย์ยังไม่ได้ข้อสรุปของแผนที่จะทำการผ่าตัดสอดท่อ สำหรับเด็กเล็กขนาดนี้ความเสี่ยงนั้นมีมากมาย ถ้าทุกสิ่งอย่างไม่เอื้ออำนวยหรือติดขัดอย่างใดอย่างหนึ่ง อาจจะส่งผลอันตรายต่อเด็กมาเลยทีเดียว อีกทั้งยังต้องรอศัลยแพทย์จากโรงพยาบาลร่วม ที่เก่งในเรื่องผ่าตัดเข้ามาช่วยอีกแรง ซึ่งคุณหมอวิเชษฎ์ยืนยันว่าหมอผ่าตัดคนนี้จะช่วยให้การรักษาของใยไหมดีขึ้น แต่ก็ต้องรอไปอีกจนถึงพรุ่งนี้ตอนค่ำเหมือนเดิม “แอ่กๆ แอร๋~” เด็กน้อยตัวเล็กยังนอนร้องไห้ในอกแม่ไม่หยุดเป็นระยะหนึ่งแล้ว ตั้งแต่ตื่นขึ้นมาก็ยิ่งร้องมากเท่าไหร่ น้ำมูกก็ยิ่งมากขึ้นเท่านั้น จนมันไปส่งผลกระทบทำให้หายใจลำบากขึ้นไปอีก “โอ๋ๆๆ ... คนดีของแม่ อย่าร้องไห้นะคะ เดี๋ยวพรุ่งนี้คุณหมอคนเก่งก็มาหาหนูแล้วนะคะ ไม่ร้องๆ ลูก” ผู้เป็นแม่ปลอบลูกสาวตัวน้อยให้ไม่ร้องในอ้อมอกอุ่น ทว่ากลับเป็นเธอเสียเองที่ไม่สามารถกลั้นน้ำตาไม่ให้มันไหลออกมาได้ ด้วยความที่นึกสงสารอาการป่วยของลูกจับใจ ไม่รู้ว่าทำไมโชคชะตาถึงได้เล่นตลกกับเราแบบนี้ ทำไมต้องเป็นเด็กคนนี้ด้วย ลูกของเธอทำผิดอะไรพระเจ้าถึงได้กลั่นแกล้งกันแบบนี้ แกร่ก!! ทันทีที่ได้ยินเสียงประตูเปิดออก ใยบัวก็ละสายตาจากลูกไปมองบุคคลมาใหม่ทั้งสองคน จริงๆ ก่อนนี้หลังจากที่โทรหาปิ่นหยกเสร็จ ใยบัวก็โทรเล่าเรื่องอาการของเด็กหญิงตัวน้อยให้ทั้งสองได้รับรู้ และที่ต้องโทรเรียกให้มาในตอนนี้ก็เพราะว่าเธอจะต้องกลับบ้านไปเคลียร์ยอดขายที่ร้านและอาบน้ำแต่งตัว เตรียมของทุกอย่างเพื่อจะกลับมาเฝ้าใยไหมในคืนนี้ “หนูใยบัว” ป้ายัชฟินเดินเข้ามาในห้องอย่างหน้าตาตื่น คงจะเป็นห่วงหลานสาวตัวน้อยของเธอมากทีเดียว “บัวเป็นยังไงบ้าง? ตัวเล็กของพี่เป็นยังไง” ส่วนปรเมทเองก็ไม่น้อยหน้าป้าของเขาเหมือนกัน ใยบัวรับรู้ได้ถึงความเป็นห่วงจากทั้งสอง และก็ซาบซึ้งดีด้วยซ้ำไป ว่าถ้าหากไม่มีพวกเขา เธอกับลูกอาจจะลำบากกันมากกว่านี้ “ป้า... พี่ปลื้ม ขอบคุณนะคะที่อุตส่าห์มา” ป้ายัชฟินตอบ พลางเอื้อมมือไปลูบหลังใยบัวเป็นการปลอบ “ไม่เป็นไรเลยหนูบัว พวกเราเต็มใจช่วยเสมอ” “แล้วหมอเค้าว่าไงบ้างหรอบัว?” “หมอวิเชษฎ์บอกว่าจะเลื่อนไปพรุ่งนี้ค่ะ ทีมแพทย์ไม่พอ คงต้องรอหมอจากโรงบาลอื่นมาช่วยอีกแรงค่ะ” ถึงโรงบาลรัฐฯ ค่าใช้จ่ายไม่แพงก็จริง แต่เครื่องมืออุปกรณ์ รวมทั้งบุคลากรก็ยังมีปัญหาติดขัดอยู่ ใยบัวเองก็ไม่ได้มีเงินมากมายขนาดนั้น ตั้งแต่เธอฝากครรภ์จนตอนคลอด หรือแม้กระทั่งตอนนี้ ก็ได้แต่เลือกโรงพยาบาลที่คำนึงถึงเรื่องค่าใช้จ่ายเอาไว้ก่อน และถ้าหากว่ามันจำเป็นจริงๆ ที่จะต้องย้ายโรงพยาบาลเพื่อรักษาลูก เธอก็คงจะต้องคิดใหม่อีกที แต่ตอนนี้ใยบัวเองยังมั่นใจในฝีมือของหมอวิเชษฎ์อยู่ และหมอที่กำลังจะมาอีกคนในวันพรุ่งนี้ที่หมอวิเชษฎ์รับรองเรื่องความเก่งของเขาเองด้วย “งั้นบัวฝากใยไหมไว้ก่อนนะคะ แกหยุดร้องพอดีเลยค่ะ เดี๋ยวบัวจะรีบไปรีบกลับนะคะ” ใยบัวอุ้มเจ้าตัวน้อยลงไปบนเตียงผู้ป่วยเด็กอีกรอบ พร้อมกับใส่ออกซิเจนให้ใยไหมไว้เหมือนเดิม “ไม่ต้องรีบขนาดนั้นก็ได้จ้ะหนูบัว ค่อยๆ ไป ค่อยๆ มา ก็ได้จ้ะ ระวังตัวเองเอาไว้ก่อน” ป้ายัชฟินบอกกับคุณแม่มือใหม่ของเจ้าตัวน้อย “ใช่บัว อ่อ! พี่ปิดร้าน เคลียร์ยอดและปิดระบบให้ทุกอย่างแล้วนะ บัวจะได้ไม่เสียเวลา” ถ้าปรเมทบอกแบบนี้แล้วเธอเองก็สบายใจ อย่างน้อยก็จะได้ไม่ต้องกลับไปเคลียร์งานให้เสียเวลาทางนี้ แค่กลับไปเอาของมานอนที่นี่คงจะใช้เวลาไม่มากมายอะไร “ขอบคุณมากๆ ค่ะ พี่ปลื้ม” “ไปเถอะจ้ะหนูบัว ไม่ต้องห่วงทางนี้ ...ยัยหนูของเราเค้าหลับแล้วไม่ต้องห่วงหรอก” “ค่ะป้า” @โรม, ประเทศอิตาลี ทางด้านของหมอชลกันต์ตอนนี้ก็ยกกระเป๋าใส่หลังรถของภัทรกาฬ เพื่อเดินกลับไทยสำหรับเช้าวันนี้ ส่วนสองแม่ลูกก็คงจะอยู่เที่ยวที่นี่ต่อกับภัทรกาฬ ชลกันต์ต้องขอกลับไทยไปทำใจก่อนสักระยะหนึ่ง อย่างน้อยอยู่กับตัวเองบ้างก็อาจจะช่วยให้คิดอะไรได้บ้าง สนามบินนานาชาติขนาดใหญ่ของเมืองหลวง ภายด้านในมีผู้คนเนืองแน่นเดินถือสัมภาระเดินสวนกันไปมา หนึ่งในนั้นก็มีชลกันต์ที่ถือกระเป๋าลากใบใหญ่ของตัวเองไว้ก่อนจะไปโหลดขึ้นเครื่อง โดยมีผู้มาส่งถึงสนามบินด้วยกันถึง 3 คน “พี่หมอแน่ใจนะคะว่าจะกลับก่อนพวกเรา?” ปิ่นหยกที่กำลังยืนอุ้มเด็กชายตัวน้อยอยู่ถามหมอกันต์เพื่อให้แน่ใจ หากจะอยู่ต่อที่นี่และรอกลับพร้อมกันเธอก็ไม่ขัดอะไร ภัทรกาฬเองก็คงคิดแบบนี้เช่นกัน “ครับ พี่แน่ใจดีแล้ว เชิญหยกอยู่เที่ยวที่นี่ต่อเถอะ ใช่ไหมครับ? ปกป้อง หึหึ” ชลกันต์เดินเข้าไปหาปกป้องที่อยู่กับแม่ของเขา “ปกป้องคงจะคิดถึงพ่อกันต์แน่ๆ เลยค่ะ เนาะปกป้อง” “แอร๊ะ!! อั่ก เอิ้กๆ ~” เด็กชายปกป้องพยายามจะพูดออกเสียง เหมือนเด็กที่ฟังผู้ใหญ่พูดรู้เรื่อง “หื้ม ฟังกับเขารู้เรื่องแล้วหรอเรา ฮ่าๆๆ” “โชคดีนะครับหมอกันต์” ภัทรกาฬไม่ได้รู้สึกหึงหรือหวงอะไรเลยถ้าหากหมอกันต์อยากจะเล่นกับลูกของเขา ตรงกันข้ามเขาอยากจะขอบคุณหมอกันต์ด้วยซ้ำที่ดูแลปิ่นหยกและปกป้องอย่างดีเสมอมา แม้อดีตจะไม่ค่อยชอบหน้าเขาเท่าไหร่นักก็ตาม “ขอบคุณครับ ไว้เจอกันที่ไทยเลยนะครับ” “เดินทางปลอดภัยนะคะพี่หมอ ปกป้องจุ๊บพ่อกันต์ก่อนเร็ว” “โอ๋ มาๆๆ มาครับพ่อกันต์ขอจุ๊บหน่อยนะครับ” ชลกันต์เดินเข้าไปอุ้มปกป้องเข้ามาหอมแก้มก่อนจะเดินทางกลับ “แอร่ งื้ออออ ~~~” ทว่าพอจะปล่อยกลับไปให้แม่อุ้ม เด็กชายตัวน้อยจึงร้องไห้ขึ้นมา เหมือนรับรู้ถึงการจากลาของชายผู้ที่เคยเลี้ยงดูเขามา “อ้าวร้องไห้เฉย โอ๋ๆ ไม่ร้องนะครับ พ่อกันต์ไปแล้วนะ เดี๋ยวขึ้นเครื่องไม่ทัน” “เดินทางปลอดภัยนะคะ” “ครับผม พี่ไปก่อนนะ ไว้เจอกันที่ไทยเลย” “โชคดีค่ะ” หมอกันต์คืนปกป้องให้ปิ่นหยกอุ้มต่อแล้วจึงเดินเข้าไปเตรียมตัวขึ้นเครื่องเลย เขาเพียงแค่หวังว่าเด็กชายตัวน้อยจะเติบโตขึ้นมามีความสุขกับสิ่งที่ปิ่นหยกได้เลือก อย่างน้อยการได้อยู่กับพ่อที่แท้จริงนั้นมันจะช่วยทำให้ครอบครัวดูอบอุ่นขึ้นมา และตัวของปิ่นหยกเองก็คงจะมีความสุขกับรักที่เฝ้ารอมานาน ส่วนเขาเองหลังจากกลับถึงไทยก็คงจะต้องมีเรื่องให้ทำมากมาย กริ๊ง~~ เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นขณะที่กำลังเข้าไปเช็คอินเครื่อง “ฮัลโหล สวัสดีครับอาเชษฎ์” “ตากันต์ ตอนนี้อยู่กรุงเทพฯ ไหม?” “มีอะไรหรือเปล่าครับ?” “จำเคสที่อาเคยบอกหลานได้ไหม? คือตอนนี้ทางโรงบาลเราขาดทีมแพทย์ผ่าตัดด่วนเลย เกิดแอ็กซิเดนกับบุคลากรเรานิดหน่อยน่ะ ตากันต์พอจะลงมาช่วยอาได้ไหมพรุ่งนี้” “ผมมาอิตาลี่น่ะครับอา แต่กำลังจะกลับแล้วตอนนี้ คิดว่าน่าจะทันนะครับ” “อ้าวหรอ อาก็นึกว่าอยู่ไทย ....จะกลับตอนนี้ใช่ไหม? งั้นอารบกวนหลานด้วยนะ” “ครับผม ไม่เป็นไรเลยครับ” วิเชษฎ์เป็นคุณอาหมอของชลกันต์เอง และเป็นต้นแบบให้เรื่องการเรียนและการสอบเข้าหมอของเขา ตั้งแต่สมัยเด็กๆ พ่อของหมอกันต์จะย้ายถิ่นฐานไปตามหน้าที่การงานบ่อยครั้ง มีการโยกย้ายตำแหน่งไปเป็นผู้ว่าฯ มาแล้วหลายจังหวัด แม่และเขาก็ต้องตามไปด้วย จนกระทั่งมีช่วงเวลาหนึ่งที่เขาโตพอจะคิดได้ และรู้สึกเหนื่อยหน่ายกับการที่ต้องย้ายโรงเรียนเพราะหน้าที่การงานของท่านผู้ว่าฯ อยู่บ่อยครั้ง ชลกันต์จึงเอ่ยปากขอท่านผู้ว่าฯ ไพบูลย์และคุณหญิงวิมลรัตน์ ให้เขาไปอาศัยอยู่กับวิเชษฎ์ จนกระทั่งสอบติดหมอและได้ทุนไปเรียนต่างประเทศ ก็เพราะว่ามีทายาทของเขาโดยตรงที่ติวเข้มวิชาหลายๆ อย่างให้ หากไม่มีวิเชษฎ์ เขาก็คงไม่มีความคิดอยากเป็นหมอ ดังนั้นถ้าอาของเขาจะให้ช่วยเรื่องอะไรเขาก็พร้อมจะช่วยเสมอถ้าทำได้Special X[ปกป้อง x ใยไหม]บอสตัน เป็นเมืองที่มีวิทยาลัยและมหาวิทยาลัยมากกว่าร้อยแห่ง มีนักเรียนต่างชาติมากกว่าหลักแสนคน เมืองนี้ถูกจัดอันดับให้เป็นเมืองที่มีการศึกษาดีที่สุดของโลก และยังเป็นเมืองที่สร้างโอกาสในการทำงานให้แก่เหล่านักเรียนอีกมากมายแน่นอนว่าในบรรดานักธุรกิจในเมืองไทยหลายต่อหลายคน ล้วนอยากส่งเสริมให้ลูกของตนเองนั้นได้รับการศึกษาที่ดีที่สุด และหนึ่งในตัวเลือกหลักของคนกลุ่มนี้ก็มักจะส่งลูกตนเองมาเรียนกันที่นี่" ปก ดูสิ ตอนนี้ชุดของเพชรเปื้อนไปหมดแล้วเนี่ย เพราะยัยบ้านนอกนั่นคนเดียวเลย เจอกันในคลาสก็ทำให้ฉันหงุดหงิดแล้วนะ นี่ยังจะมาเจอกันข้างนอกอีก หึ่ยย!"สาวสวยร่างระหงรีบกอดแขนออเซาะเพื่อนสนิทที่ยืนอยู่ข้างๆ หลังจากที่ตัวเองโดนผู้หญิงอีกคนซุ่มซ่ามทำน้ำกาแฟหกเลอะใส่ตัวน้ำเพชรเป็นหญิงสาวชาวไทยที่เติบโตในต่างแดน หล่อนย้ายมาอยู่กับครอบครัวตั้งแต่สมัยยังเด็กแล้ว ทั้งชีวิตของหล่อนได้รับการศึกษาที่ดีจากเมืองนี้มาโดยตลอดจนกระทั่งหล่อนโต ก็ยังคงใช้ชีวิตอยู่ที่บอสตันอีกเช่นเคย เมื่อสอบเข้ามหาวิทยาลัยได้ หล่อนก็แยกย้ายจากเพื่อนเก่าที่เคยเรียนมาด้วยกันสมัยไฮสคูล จะเหลือก็แต่ ‘ปกป
Special IXpart 2“เข้ามาก่อนก็ได้ครับ” ชลกันต์บอกคนที่เอาแต่ยืนนิ่งเข้าทรงอยู่หน้าประตู ก่อนที่เธอจะได้ยินเสียงและเริ่มขยับตัวตาม“ขอโทษค่ะ รักไม่รู้ว่าอาจารย์หมอมีแขก”ใยบัวมองคนที่ยืนอยู่ตรงหน้าพร้อมกันกับผ้าเช็ดหน้าที่เธอคนนี้ถืออยู่ ผ้าผืนนั้นมันคือผืนที่เธอเป็นคนซื้อให้สามีเอง แล้วที่เธอบอกว่าหมอกันต์ลืมเอาไว้ในกระเป๋าของเด็กผู้หญิงตรงหน้า มันจะเป็นไปได้อย่างไรกัน นี่สามีเธอกลายเป็นคนขี้ลืมของไว้ในกระเป๋าคนอื่นได้ด้วยงั้นเหรอ “ไม่เป็นไรหรอกค่ะ คุณ...?”“รักค่ะ คุณคงจะเป็นภรรยาของอาจารย์หมอใช่ไหมคะ? ตัวจริงสวยกว่าในรูปในกระเป๋าตังค์ของอาจารย์อีกนะคะเนี่ย”“กระเป๋าตังค์?” ใยบัวยกคิ้วขึ้นสูงเป็นเชิงถาม ขณะที่เด็กผู้หญิงคนนี้ยังยืนพูดอยู่ กลิ่นน้ำหอมของเธอถูกพัดโชยเข้ามาเตะปลายจมูก กลิ่นนี้ที่ใยบัวเคยได้สัมผัสมันมาก่อน มันคือกลิ่นเดียวกันกับที่เคยติดอยู่บนเสื้อเชิ้ตที่เคยซักให้สามี และเมื่อครู่นี้ผู้หญิงคนนี้ยังบอกอีกว่าเคยเห็นรูปของเธอในกระเป๋าเงินของสามีเธออย่างนั้นเหรอเด็กผู้หญิงคนนี้เป็นใครกันแน่?ใยบัวเปลี่ยนอิริยาบถการนั่ง ก่อนจะเดินเข้าหาสามี เธอแตะไหล่หนาเอาไว้มั่นมือ จากนั
Special IXpart 1“สวัสดีค่ะคุณบัว …แต่งตัวสวยจังเลยนะคะ ดึกแล้วแท้ๆ” นางพยาบาลสาวสวยที่รับหน้ามี่ประจำหน้าห้อทักทายขึ้น เมื่อเห็นว่ามีแขกคนสำคัญของเจ้าของห้องนี้มา“ขอบคุณค่ะ คุณฝน พอดีบัวคิดว่าคุณหมออยู่เวรดึกน่าจะหิว บัวก็เลยทำกับข้าวมื้อดึกแล้วก็รีบเอามาให้ค่ะ”เธอถือปิ่นโตใบเล็กยกขึ้นเล็กน้อยขณะที่คุยอยู่กับพยาบาลหน้าห้องของสามี อันที่จริงเธอก็รู้อยู่แล้วว่าต่อให้ตนเองไม่ทำมา อย่างไรซะสามีของเธอก็ออกไปหาอาหารทานข้างนอกได้อย่างสบายอยู่แล้ว แต่ที่อุตส่าห์ทำมื้อดึกมาให้เขาตอนนี้ ก็เพราะว่าอยากมาให้เห็นกับตาตัวเองมากกว่า ว่าเรื่องที่เธอสงสัยอยู่มันเป็นมาอย่างไรกันแน่“แหม…. ช่างเป็นภรรยาที่เอาใจใส่มากเลยนะคะ แต่คุณบัวคงมาช้าไปแล้วมั้งคะ”“?” ใยบัวยกคิ้วขึ้นสูงเป็นเครื่องหมายคำถาม ขณะที่พยาบาลสาวพูดให้เธอได้เกิดความสงสัย“ก็คุณหมอน่ะ เพิ่งจะเอาไปกินก๋วยเตี๋ยวโต้รุ่งกับน้องรัก เมื่อตะกี้นี้เองค่ะ”“รัก?” เธอไม่คุ้นหูกับชื่อนี้มาก่อนเลย“อ๋อ ก็น้องต้องรัก ที่เป็นเด็กเอ็กเทิร์นของแผนกเราน่ะค่ะคุณบัว คนนี้เก่งใช้ได้เลยนะคะ…. ถ้าไม่เก่งจริงก็คงไม่ได้คำชื่นชมจากปากคุณหมอกันต์ง่ายๆ หรอกค่ะ ค
Special VIIIหลังจากที่ผ่านพ้นช่วงกลางวันไปแล้ว ก็ถึงเวลาส่งลูกเข้านอนที่ห้องพักของพี่เลี้ยงที่ได้จัดเตรียมเอาไว้ให้ เด็กๆ ดูตื่นเต้นไม่น้อยที่จะได้นอนกับนภา เพราะที่ผ่านมานภาจะมาทำงานที่บ้านของเจ้านายเฉพาะช่วงตอนกลางวันเท่านั้น เธอทำงานแบบไปเช้าเย็นกลับตลอดเวลาหลายปีที่ผ่านมา ดังนั้นโอกาสที่จะได้นอนกับพี่เลี้ยงในค่ำคืนนี้จึงเป็นคืนพิเศษสำหรับเด็กน้อยทั้งสอง“ป้าภาขา~ วันนี้น้องไหมจะนอนฝั่งนี้นะคะ” พอเข้ามาห้องของพี่เลี้ยงแล้ว เด็กหญิงก็รีบอุ้มตุ๊กตากระโดดขึ้นไปนอนบนเตียงทางฝั่งที่ตัวเองได้เลือกเอาไว้เลย“แอร๊~ อี่ๆ” ส่วนเจ้าหนูใยแก้วก็ไม่น้อยหน้าพี่สาวเลย แม้จะยังไม่ประสีประสาอะไร ทว่าก็ยังอยากจะสื่อสารออกมาเหมือนคนอื่นๆ และเมื่อเห็นพี่สาวขึ้นไปนอนบนเตียงบ้าง ใยแก้วก็อยากจะทำเหมือนอย่างพี่สาว โดยที่ชี้นิ้วเล็กๆ ไปทางอีกฟากมุมของเตียง เป็นการสื่อว่าเจ้าหนูตัวน้อยอยากจะได้พื้นที่ตรงนั้นคนมาส่งเด็กทั้งสองอย่างใยบัวถึงกับอดขำเจ้าตัวแสบไม่ได้ ใยแก้วกำลังมีพฤติกรรมเลียนแบบพี่สาวของตัวเอง ไม่ว่าใยไหมจะทำอะไรหรือพูดอะไรน้องสาวของเธอก็มักจะทำตามเสมอ“บัวฝากด้วยนะคะพี่ภา”“ได้เลยค่ะ คุณบัวไม่
Special VIIชลกันต์ทำตามที่ตนเองรับปากกับลูกเมียเอาไว้ได้อย่างที่พูดจริงๆ เพราะวันนี้เป็นวันที่พวกเขาจะได้เดินทางไปเที่ยวจริงๆ แล้ว เด็กหญิงใยไหมดูเหมือนจะดีใจมากเป็นพิเศษเพราะนานๆ ทีจะได้ไปเปิดหูเปิดตาไกลบ้านตัวเองคราวนี้ชลกันต์ถึงขั้นให้โบนัสพี่เลี้ยงเด็กอย่างนภาเป็นตั๋วเครื่องบินไปกลับ รวมทั้งที่พักแบบฟรีๆ ในครั้งนี้ด้วย เนื่องจากกลัวว่าภรรยาของเขาจะเหนื่อยหากทั้งเที่ยวและยังต้องดูแลลูกน้อยทั้งสองอีก ดังนั้นการพาพี่เลี้ยงเด็กไปด้วยอาจจะเป็นผลดีมากกว่าส่วนเด็กหญิงใยแก้วที่ยังไม่ประสีประสาอะไร ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าผู้ใหญ่จะพาตนเองไปไหน เพียงแต่เห็นพี่สาวมีท่าทางดีอกดีใจจนออกนอกหน้า เห็นดังนั้นแล้วก็อดตื่นเต้นตามพี่สาวไม่ได้“คิกกๆ คูมแม่ขา~ ทำไมเยาต้องขึ้นเครื่องบินไปคะ? ทำไมเยาไม่ยั่งยดไปอ่า” เด็กหญิงใยไหมหยุดสนใจไอศกรีมในมือของตัวเองก่อนจะตั้งคำถามที่ยังสงสัยมานานแล้ว“เรานั่งรถไปไม่ได้หรอกนะคะ มันไกลมากกก”“ใช่แล้วจ้ะใยไหม” พี่เลี้ยงเด็กพูดเสริมคุณแม่ของเด็กตัวน้อย“ใช่ครับลูก ที่ที่เราไปมีแต่ทะเลภูเขาล้อมรอบ พ่อขับรถไปเองไม่ไหวหรอกนะครับ”“อ๋อออ อย่างงั้นเองหยอ”“ครับ”ชลกันต์นึกขำก
Special VIหลายวันถัดมาหลังจากที่ชลกันต์กลับบ้านดึกวันนั้น ใยบัวก็เริ่มตงิดในใจมากขึ้นแล้ว วันนี้โชคดีที่ใยไหมไปโรงเรียนและเจ้าตัวเล็กก็ไปนอนกับคุณยายที่จันทบุรีแล้ว กว่าจะกลับกรุงเทพฯ ก็น่าจะตอนเย็นเลยคุณแม่ลูกสองจึงถือโอกาสเข้ามาตรวจสอบความเรียบร้อยภายในโรงพยาบาลของสามี อันที่จริงในวันแต่งงานนอกจากสินสอดทองมั่นที่เธอควรจะได้แล้ว คุณหญิงและท่านผู้ว่าฯยังมีเมตตากรุณายกหุ้นส่วนในเครือโรงพยาบาลในเธอได้มีสิทธิ์เป็นเจ้าของร่วมอีก ซึ่งเธอเองก็ซาบซึ้งน้ำใจของพ่อกับแม่สามีเป็นอย่างมากวันนี้ร่างบางแต่งตัวด้วยชุดออกแนวเป็นทางการสักหน่อย เพราะมีคุยธุระกับคุณหญิงวิมลรัตน์และคุณหมอตุลา เรื่องสาขาในเครือที่ต่างจังหวัดอีกด้วย เพราะเห็นว่าจะลงทุนซื้อเครื่องมือการแพทย์แบบใหม่เพิ่มอีกทุกสาขาดังนั้นในฐานะหุ้นส่วนสำคัญที่เจ้าของโรงพยาบาลให้เกียรติคนอย่างเธอก็ต้องทำหน้าที่ให้ดีที่สุด อีกทั้งถ้าหากเด็กน้อยที่บ้านโตขึ้นจนดูแลตัวเองกันได้แล้ว เธอก็อยากจะเข้ามาทำงานช่วยกิจการครอบครัวบ้าง“หนูบัวจ้ะ แม่คิดว่าเครื่องมือแพทย์ของบริษัทที่ตาตุลย์เสนอมาให้มันก็ราคาค่อนข้างสูงมากเลยนะ หรือหนูคิดว่าไง?” แม่สามีทั