Chapter 7
[7/2] ตอนนี้ทุกคนก็กลับบ้านไปพักผ่อนกันหมดแล้ว จะเหลือเพียงแค่ใยบัวที่ยังต้องเฝ้านางฟ้าตัวน้อยของเธออยู่ ตั้งแต่ออกมาจากห้องผ่าตัดจนถึงตอนนี้เจ้าตัวเล็กก็ยังไม่ทันได้รู้สึกตัวเลย คนเป็นแม่อย่างเธอได้แต่ภาวนาขอให้ลูกสาวหายไวๆ เธอวาดฝันอนาคตของตัวเองและใยไหมไว้ต่างๆ นานา ถ้าลูกโตขึ้นกว่านี้เธอจะพาลูกไปเที่ยว ไปทานของอร่อยๆ กัน จะพาลูกไปเดินช้อปปิ้งแต่งตัวสวยๆ ให้ลูก เลือกโรงเรียนดีๆ ให้ลูกได้มีโอกาสเหมือนเด็กคนอื่น ทุกอย่างที่ลูกอยากได้เธอจะพยายามสนับสนุนเขาเต็มที่ ถึงแม้ครอบครัวของเด็กคนอื่นอาจจะมีพ่อแม่อยู่พร้อมหน้าพร้อมตากัน แต่เธอเองก็เชื่อว่าสิ่งที่ตัวเองทำให้ลูกหรือแม้กระทั่งความรักที่มอบให้ใยไหม มันจะช่วยเติมเต็มสิ่งที่เขาขาดหายไปได้ แกร่ก! “พี่ปลื้ม!?” เสียงประตูหน้าห้องเปิดออก พร้อมกับปรเมทที่รีบเดินเข้ามาในห้อง คุณแม่ลูกหนึ่งจึงต้องหันไปมองผู้มาใหม่ “บัวพี่ลืมมือถือน่ะ จำได้ว่าวางไว้โต๊ะแถวนี้” “อ่อ... นี่ค่ะ บัวเก็บเอาไว้ให้” ร่างบางเดินไปหยิบโทรศัพท์ของอีกคนที่เธอเป็นคนเก็บเอาไว้ให้ เมื่อไม่กี่ชั่วโมงที่ผ่านมา “ขอบคุณครับ งั้นพี่กลับก่อนนะ” “ขับรถดีๆ นะคะ” เมื่อได้สิ่งที่ตนเองต้องการแล้วปรเมทจึงรีบกลับไปในทันที เพราะอีกคนที่ติดรถมาด้วยยังรออยู่ในรถของเขาตอนนี้ หากชักช้าคงได้กลับถึงบ้านกันดึกกว่านี้ ส่วนคุณแม่ลูกอ่อนก็ยังทำหน้าที่นั่งเฝ้าเจ้าตัวเล็กต่อไป ก่อนจะเดินไปหยิบโทรศัพท์ของตัวเองมานั่งเขี่ยเล่นไปพลางๆ ระหว่างเฝ้าลูกสาว การแจ้งเตือนหลายอย่างในโทรศัพท์ที่ไม่ได้เช็ค หนึ่งในการแจ้งเตือนนั้นก็คือรายการโอนเงินเข้าผ่านแอปฯ ธนาคาร ก่อนหน้านี้ที่โทรไปขอความช่วยเหลือกับเพื่อนสนิทอย่างปิ่นหยก ใยบัวจะไม่ตกใจเลยถ้าชื่อผู้โอนเป็นชื่อของเพื่อนสาวคนสนิท ทว่าชื่อที่โอนเงินเข้ามาในบัญชี กลับเป็นชื่อของชลกันต์ผู้เป็นสามีของเพื่อน สาบานได้ว่าเธอไม่ได้ตั้งใจให้คนคนนั้นรู้เลย ไม่อยากจะเกี่ยวข้องใดๆ กับเขาแม้แต่น้อย แกร่ก! “พี่ปลื้มลืมอะไรอีกหรอคะ?” เสียงประตูห้องเปิดขึ้นอีกครั้ง ทว่าใยบัวไม่ได้หันไปมอง เพราะมัวแต่สนใจตัวเลขยอดเงินที่โอนเข้ามา มันมากกว่าที่เธอขอยืมจากเพื่อนด้วยซ้ำไป “พี่ปลื้..... คุณ!!?” พอถามตอนแรกอีกฝ่ายไม่ตอบ ร่างบางจึงเงยหน้าขึ้นไปมองผู้มาใหม่อีกคน ทว่าคราวนี้กลับไม่ใช่คนเดิมเอาเสียแล้ว “ผมขอคุยด้วยหน่อย” “คุณมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง!?” ใยบัวเกิดอาการตกใจกลัวกับการปรากฏตัวของใครอีกคน ที่เข้ามาหาเธอในตอนนี้ “ผมมาช่วยคุณอาวิเชษฎ์” “คุณคือหมอคนนั้น?” “…..” ร่างสูงไม่ตอบแต่กลับพยักหน้ารับแทน “แต่บัวไม่มีอะไรจะคุยค่ะ เชิญคุณกลับไปเถอะ” ไม่รู้ว่าเขาจะมาหาเธอทำไม ตอนนี้เขาควรจะอยู่กับปิ่นหยกและลูกของเขาไม่ใช่หรือ ระหว่างเธอกับเขามันจบกันแค่คืนนั้นคืนเดียว และจะไม่มีการพูดถึงมันอีกใยบัวคิดแบบนี้ ก่อนที่จะได้พูดคุยกันต่อ ร่างสูงของหมอชลกันต์ก็เดินตรงไปยังเตียงผู้ป่ายเด็กที่ตอนนี้มีเจ้าตัวเล็กนอนหลับตาพริ้มอยู่ตรงนั้น อุปกรณ์เครื่องช่วยหายใจต่างๆ ที่โยงกันเต็มไปหมดในตอนนี้ มันทำให้ชลกันต์ถึงกับคิ้วขมวดออกมา “คุณจะทำอะไร!?” ใยบัวรีบวิ่งเข้ามาใช้ตัวเองปิดกั้นลูกสาวเอาไว้ เพื่อไม่ให้อีกคนเข้าใกล้ “ใยไหม?” ชลกันต์เรียกชื่อเจ้าตัวน้อยอย่างแผ่วเบา ส่วนใยบัวเมื่อได้ยินอีกคนพูดออกมาแบบนั้นก็ไม่อยู่นิ่งเฉยแล้ว ความกลัวใจในเธอมีเต็มไปหมด “บัวขอบคุณมาก ที่คุณช่วยชีวิตเขาเอาไว้ แต่ตอนนี้คุณไม่ควรมาที่นี่อีก เรื่องเงิน... บัวจะโอนคืนให้คุณทันทีค่ะ” “ทำไม? กลัวผมรู้อะไรเหรอ ถึงได้ไม่อยากให้ผมอยู่ที่นี่ หื้ม?” “คุณควรกลับไปหาหยก ...กับลูกของคุณ” เขาไม่ได้อยากได้เงินคืนจากเธอเลยสักนิด ตอนแรกที่ช่วยเพราะคิดว่าอย่างน้อยก็ได้ชดใช้ค่าเสียหายในคืนนั้นไป ทว่าตอนนี้พออะไรบางอย่างเข้าแล้วเขาก็ยิ่งไม่อยากได้เงินคืนเลย สิ่งที่เขาเห็นอยู่ตรงหน้าในเวลานี้กับสภาพของลูกสาวตัวน้อย มันทำให้หัวใจของเขากลับรู้สึกหดหู่ขึ้นมา ที่ผ่านทำไมเธอไม่บอกเขาเลยสักนิด แล้วเขาเองก็ไม่เคยคิดถึงเรื่องนี้เลยด้วยซ้ำไป “ก็นี่ไง ตอนนี้ผมก็กำลังอยู่กับลูกผม” “คุณ!!!” ผลั่ก!! “ออกไปค่ะ!” มือเรียวบางรีบยกขึ้นมาผลักอกแกร่งของอีกคนให้ถอยออกห่างจากใยไหม เธอไม่รู้ว่าเขารู้เรื่องมาได้อย่างไรหรืออาจจะเป็นเพราะรู้จากหมอวิเชษฎ์อย่างนั้นหรือ แต่อย่างไรเธอก็จะไม่ยอมให้เขาได้เข้าใกล้ลูกเด็ดขาด ถึงแม้ว่าไม่กี่ชั่วโมงที่แล้ว เขาจะเป็นคนช่วยรักษาใยไหมอย่างนั้นก็ตาม “ทำไมคุณไม่บอกผม?” “แล้วทำไมบัวต้องบอกคุณ? อย่าลืมนะคะว่าหมอแต่งงานกับเพื่อนบัวแล้ว” ทำไมเธอจะต้องบอกเขาก็ในเมื่อเขาแต่งงานกับเพื่อนเธอ จะให้บากหน้าไปบอกว่าท้องกับเขาแบบนั้นคนอย่างใยบัวไม่ได้ใจกล้าขนาดนั้น ที่ผ่านมาเธอก็เลี้ยงเจ้าตัวเล็กได้คนเดียวอยู่แล้ว อาจจะเหนื่อยหน่อยแต่ก็ไม่เคยอยากหอบลูกไปเรียกร้องสิทธิ์อะไรจากเขา “ผมขอโทษ.... ผมไม่รู้ว่าคุณท้องนี่” ร่างสูงจ้องใบหน้าหม่นของผู้เป็นแม่ของลูก เรื่องที่เกิดขึ้นอยู่ตอนนี้ เขาเองก็ไม่เคยคาดคิดว่ามันจะเกิด “ถ้าคุณไม่รู้ งั้นก็ทำเป็นไม่รู้ต่อไปค่ะ เพราะบัวเองก็ไม่ได้อยากเรียกร้องอะไรจากคุณเลย” “มันไม่ใช่เรื่องเล่นๆ นะ ลูกต้องอยู่กับผม.... เขาไม่สบาย และยังมีโอกาสกลับมาเป็นอีก เพราะฉะนั้นผมจะรับผิดชอบแก ในฐานะที่ผมเป็นพ่อของเขา” “คุณอย่าพูดอะไรตลกไปหน่อยเลยค่ะ แล้วลูกกับเมียของคุณล่ะเขาจะรู้สึกยังไง ...คุณทำแบบนั้นไม่ได้หรอก กลับไปเถอะค่ะ” เขามันบ้าไปแล้ว ทั้งๆ ที่ก็บอกว่าไม่ต้องมารับผิดชอบอะไรกันเลย เพียงแค่นี้ที่เขามามันก็อาจจะเกิดเรื่องวุ่นๆ ขึ้นก็ได้ หากภรรยาหรือครอบครัวของเขารับรู้ว่ายังมีอีกหนึ่งชีวิตที่เกิดมาจากเลือดเนื้อเชื้อไขของเขา ความรู้สึกของคนเหล่านั้นพวกเขาจะคิดอย่างไร และปิ่นหยกที่เป็นถึงเพื่อนสนิทของเธอจะเสียใจแค่ไหนกับความจริงที่เกิดขึ้น “ไม่ ผมก็ไม่ใช่คนใจร้ายใจดำอะไร ถึงขนาดจะไม่รับผิดชอบลูกในไส้ของตัวเอง" “ถ้ามันลำบากคุณก็อย่าฝืนเลยค่ะ เราอยู่กันสองคนแม่ลูกได้” เธอบ่ายเบี่ยง จะมารับผิดชอบเพราะหน้าที่บอกเลยว่าเธอไม่ต้องการ คำว่าครอบครัวมันต้องเกิดจากความรัก ไม่ใช่การบังคับหรือฝืนใจอยากรับผิดชอบ สิ่งที่เขากำลังทำในตอนนี้มันจะไม่เห็นแก่ตัวไปหน่อยหรือ ทางฝั่งนั้นเขาก็มีใบทะเบียนสมรส ส่วนเธอไม่มีอะไรเลย เป็นแค่เพียงลูกแม่ค้าตลาดสดก็เท่านั้น มันไม่ได้มีเกียรติให้เสริมบารมีของลูกท่านผู้ว่าฯ เลยสักนิด “บัวขอร้องค่ะ คุณอย่าทำให้มันกลายเป็นเรื่องเลยนะคะ กลับไปหาภรรยาคุณเถอะ” “ผมกับหยกกำลังจะหย่ากัน” “คุณว่าไงนะ?” ใยบัวมึนงงกับคำพูดของเขาแล้วตอนนี้ ไม่อยากจะเชื่อว่ามันคือเรื่องจริงเลย ก็ในเมื่อเขารักเพื่อนสนิทของเธอขนาดนั้น จะหย่ากันได้อย่างไร “หยกกลับไปหาพ่อของปกป้องแล้ว” หมอหนุ่มอธิบาย “ล... แล้วยังไงคะ?” “คุณเตรียมตัวกลับกรุงเทพฯ ซะ ....ลูกของผมจะต้องได้รับรักษาที่ดีกว่านี้” ว่าพลางเดินเข้ามาใกล้ร่างบางมากขึ้น ผลั่ก!! คราวนี้คนตัวเล็กออกแรงผลักมากกว่าเดิม ทว่าคนที่รู้ตัวกลับตั้งตัวได้ก่อน แรงของเธอเพียงแค่นั้นจึงไม่ได้มีผลต่อเขา “ไม่ค่ะ! บัวไม่ไปกับคุณ และคุณก็ไม่มีสิทธิ์ในตัวเด็กคนนี้” “งั้นคุณก็เลือกเอา ระหว่างทิฐิที่มันกินไม่ได้ หรือชีวิตลูกที่คุณกำลังทำให้ลูกลำบากอยู่” ร่างสูงโน้มตัวเล็กน้อยจ้องมองหน้าแม่ของลูกอย่างจริงจัง “หมอกำลังจะทำให้บัวไม่มีทางเลือกอย่างงั้นเหรอคะ?” “ก็ช่วยไม่ได้ ตอนนี้คุณควรให้ความสำคัญกับการรักษาลูกก่อนไม่ใช่เหรอ?”Special X[ปกป้อง x ใยไหม]บอสตัน เป็นเมืองที่มีวิทยาลัยและมหาวิทยาลัยมากกว่าร้อยแห่ง มีนักเรียนต่างชาติมากกว่าหลักแสนคน เมืองนี้ถูกจัดอันดับให้เป็นเมืองที่มีการศึกษาดีที่สุดของโลก และยังเป็นเมืองที่สร้างโอกาสในการทำงานให้แก่เหล่านักเรียนอีกมากมายแน่นอนว่าในบรรดานักธุรกิจในเมืองไทยหลายต่อหลายคน ล้วนอยากส่งเสริมให้ลูกของตนเองนั้นได้รับการศึกษาที่ดีที่สุด และหนึ่งในตัวเลือกหลักของคนกลุ่มนี้ก็มักจะส่งลูกตนเองมาเรียนกันที่นี่" ปก ดูสิ ตอนนี้ชุดของเพชรเปื้อนไปหมดแล้วเนี่ย เพราะยัยบ้านนอกนั่นคนเดียวเลย เจอกันในคลาสก็ทำให้ฉันหงุดหงิดแล้วนะ นี่ยังจะมาเจอกันข้างนอกอีก หึ่ยย!"สาวสวยร่างระหงรีบกอดแขนออเซาะเพื่อนสนิทที่ยืนอยู่ข้างๆ หลังจากที่ตัวเองโดนผู้หญิงอีกคนซุ่มซ่ามทำน้ำกาแฟหกเลอะใส่ตัวน้ำเพชรเป็นหญิงสาวชาวไทยที่เติบโตในต่างแดน หล่อนย้ายมาอยู่กับครอบครัวตั้งแต่สมัยยังเด็กแล้ว ทั้งชีวิตของหล่อนได้รับการศึกษาที่ดีจากเมืองนี้มาโดยตลอดจนกระทั่งหล่อนโต ก็ยังคงใช้ชีวิตอยู่ที่บอสตันอีกเช่นเคย เมื่อสอบเข้ามหาวิทยาลัยได้ หล่อนก็แยกย้ายจากเพื่อนเก่าที่เคยเรียนมาด้วยกันสมัยไฮสคูล จะเหลือก็แต่ ‘ปกป
Special IXpart 2“เข้ามาก่อนก็ได้ครับ” ชลกันต์บอกคนที่เอาแต่ยืนนิ่งเข้าทรงอยู่หน้าประตู ก่อนที่เธอจะได้ยินเสียงและเริ่มขยับตัวตาม“ขอโทษค่ะ รักไม่รู้ว่าอาจารย์หมอมีแขก”ใยบัวมองคนที่ยืนอยู่ตรงหน้าพร้อมกันกับผ้าเช็ดหน้าที่เธอคนนี้ถืออยู่ ผ้าผืนนั้นมันคือผืนที่เธอเป็นคนซื้อให้สามีเอง แล้วที่เธอบอกว่าหมอกันต์ลืมเอาไว้ในกระเป๋าของเด็กผู้หญิงตรงหน้า มันจะเป็นไปได้อย่างไรกัน นี่สามีเธอกลายเป็นคนขี้ลืมของไว้ในกระเป๋าคนอื่นได้ด้วยงั้นเหรอ “ไม่เป็นไรหรอกค่ะ คุณ...?”“รักค่ะ คุณคงจะเป็นภรรยาของอาจารย์หมอใช่ไหมคะ? ตัวจริงสวยกว่าในรูปในกระเป๋าตังค์ของอาจารย์อีกนะคะเนี่ย”“กระเป๋าตังค์?” ใยบัวยกคิ้วขึ้นสูงเป็นเชิงถาม ขณะที่เด็กผู้หญิงคนนี้ยังยืนพูดอยู่ กลิ่นน้ำหอมของเธอถูกพัดโชยเข้ามาเตะปลายจมูก กลิ่นนี้ที่ใยบัวเคยได้สัมผัสมันมาก่อน มันคือกลิ่นเดียวกันกับที่เคยติดอยู่บนเสื้อเชิ้ตที่เคยซักให้สามี และเมื่อครู่นี้ผู้หญิงคนนี้ยังบอกอีกว่าเคยเห็นรูปของเธอในกระเป๋าเงินของสามีเธออย่างนั้นเหรอเด็กผู้หญิงคนนี้เป็นใครกันแน่?ใยบัวเปลี่ยนอิริยาบถการนั่ง ก่อนจะเดินเข้าหาสามี เธอแตะไหล่หนาเอาไว้มั่นมือ จากนั
Special IXpart 1“สวัสดีค่ะคุณบัว …แต่งตัวสวยจังเลยนะคะ ดึกแล้วแท้ๆ” นางพยาบาลสาวสวยที่รับหน้ามี่ประจำหน้าห้อทักทายขึ้น เมื่อเห็นว่ามีแขกคนสำคัญของเจ้าของห้องนี้มา“ขอบคุณค่ะ คุณฝน พอดีบัวคิดว่าคุณหมออยู่เวรดึกน่าจะหิว บัวก็เลยทำกับข้าวมื้อดึกแล้วก็รีบเอามาให้ค่ะ”เธอถือปิ่นโตใบเล็กยกขึ้นเล็กน้อยขณะที่คุยอยู่กับพยาบาลหน้าห้องของสามี อันที่จริงเธอก็รู้อยู่แล้วว่าต่อให้ตนเองไม่ทำมา อย่างไรซะสามีของเธอก็ออกไปหาอาหารทานข้างนอกได้อย่างสบายอยู่แล้ว แต่ที่อุตส่าห์ทำมื้อดึกมาให้เขาตอนนี้ ก็เพราะว่าอยากมาให้เห็นกับตาตัวเองมากกว่า ว่าเรื่องที่เธอสงสัยอยู่มันเป็นมาอย่างไรกันแน่“แหม…. ช่างเป็นภรรยาที่เอาใจใส่มากเลยนะคะ แต่คุณบัวคงมาช้าไปแล้วมั้งคะ”“?” ใยบัวยกคิ้วขึ้นสูงเป็นเครื่องหมายคำถาม ขณะที่พยาบาลสาวพูดให้เธอได้เกิดความสงสัย“ก็คุณหมอน่ะ เพิ่งจะเอาไปกินก๋วยเตี๋ยวโต้รุ่งกับน้องรัก เมื่อตะกี้นี้เองค่ะ”“รัก?” เธอไม่คุ้นหูกับชื่อนี้มาก่อนเลย“อ๋อ ก็น้องต้องรัก ที่เป็นเด็กเอ็กเทิร์นของแผนกเราน่ะค่ะคุณบัว คนนี้เก่งใช้ได้เลยนะคะ…. ถ้าไม่เก่งจริงก็คงไม่ได้คำชื่นชมจากปากคุณหมอกันต์ง่ายๆ หรอกค่ะ ค
Special VIIIหลังจากที่ผ่านพ้นช่วงกลางวันไปแล้ว ก็ถึงเวลาส่งลูกเข้านอนที่ห้องพักของพี่เลี้ยงที่ได้จัดเตรียมเอาไว้ให้ เด็กๆ ดูตื่นเต้นไม่น้อยที่จะได้นอนกับนภา เพราะที่ผ่านมานภาจะมาทำงานที่บ้านของเจ้านายเฉพาะช่วงตอนกลางวันเท่านั้น เธอทำงานแบบไปเช้าเย็นกลับตลอดเวลาหลายปีที่ผ่านมา ดังนั้นโอกาสที่จะได้นอนกับพี่เลี้ยงในค่ำคืนนี้จึงเป็นคืนพิเศษสำหรับเด็กน้อยทั้งสอง“ป้าภาขา~ วันนี้น้องไหมจะนอนฝั่งนี้นะคะ” พอเข้ามาห้องของพี่เลี้ยงแล้ว เด็กหญิงก็รีบอุ้มตุ๊กตากระโดดขึ้นไปนอนบนเตียงทางฝั่งที่ตัวเองได้เลือกเอาไว้เลย“แอร๊~ อี่ๆ” ส่วนเจ้าหนูใยแก้วก็ไม่น้อยหน้าพี่สาวเลย แม้จะยังไม่ประสีประสาอะไร ทว่าก็ยังอยากจะสื่อสารออกมาเหมือนคนอื่นๆ และเมื่อเห็นพี่สาวขึ้นไปนอนบนเตียงบ้าง ใยแก้วก็อยากจะทำเหมือนอย่างพี่สาว โดยที่ชี้นิ้วเล็กๆ ไปทางอีกฟากมุมของเตียง เป็นการสื่อว่าเจ้าหนูตัวน้อยอยากจะได้พื้นที่ตรงนั้นคนมาส่งเด็กทั้งสองอย่างใยบัวถึงกับอดขำเจ้าตัวแสบไม่ได้ ใยแก้วกำลังมีพฤติกรรมเลียนแบบพี่สาวของตัวเอง ไม่ว่าใยไหมจะทำอะไรหรือพูดอะไรน้องสาวของเธอก็มักจะทำตามเสมอ“บัวฝากด้วยนะคะพี่ภา”“ได้เลยค่ะ คุณบัวไม่
Special VIIชลกันต์ทำตามที่ตนเองรับปากกับลูกเมียเอาไว้ได้อย่างที่พูดจริงๆ เพราะวันนี้เป็นวันที่พวกเขาจะได้เดินทางไปเที่ยวจริงๆ แล้ว เด็กหญิงใยไหมดูเหมือนจะดีใจมากเป็นพิเศษเพราะนานๆ ทีจะได้ไปเปิดหูเปิดตาไกลบ้านตัวเองคราวนี้ชลกันต์ถึงขั้นให้โบนัสพี่เลี้ยงเด็กอย่างนภาเป็นตั๋วเครื่องบินไปกลับ รวมทั้งที่พักแบบฟรีๆ ในครั้งนี้ด้วย เนื่องจากกลัวว่าภรรยาของเขาจะเหนื่อยหากทั้งเที่ยวและยังต้องดูแลลูกน้อยทั้งสองอีก ดังนั้นการพาพี่เลี้ยงเด็กไปด้วยอาจจะเป็นผลดีมากกว่าส่วนเด็กหญิงใยแก้วที่ยังไม่ประสีประสาอะไร ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าผู้ใหญ่จะพาตนเองไปไหน เพียงแต่เห็นพี่สาวมีท่าทางดีอกดีใจจนออกนอกหน้า เห็นดังนั้นแล้วก็อดตื่นเต้นตามพี่สาวไม่ได้“คิกกๆ คูมแม่ขา~ ทำไมเยาต้องขึ้นเครื่องบินไปคะ? ทำไมเยาไม่ยั่งยดไปอ่า” เด็กหญิงใยไหมหยุดสนใจไอศกรีมในมือของตัวเองก่อนจะตั้งคำถามที่ยังสงสัยมานานแล้ว“เรานั่งรถไปไม่ได้หรอกนะคะ มันไกลมากกก”“ใช่แล้วจ้ะใยไหม” พี่เลี้ยงเด็กพูดเสริมคุณแม่ของเด็กตัวน้อย“ใช่ครับลูก ที่ที่เราไปมีแต่ทะเลภูเขาล้อมรอบ พ่อขับรถไปเองไม่ไหวหรอกนะครับ”“อ๋อออ อย่างงั้นเองหยอ”“ครับ”ชลกันต์นึกขำก
Special VIหลายวันถัดมาหลังจากที่ชลกันต์กลับบ้านดึกวันนั้น ใยบัวก็เริ่มตงิดในใจมากขึ้นแล้ว วันนี้โชคดีที่ใยไหมไปโรงเรียนและเจ้าตัวเล็กก็ไปนอนกับคุณยายที่จันทบุรีแล้ว กว่าจะกลับกรุงเทพฯ ก็น่าจะตอนเย็นเลยคุณแม่ลูกสองจึงถือโอกาสเข้ามาตรวจสอบความเรียบร้อยภายในโรงพยาบาลของสามี อันที่จริงในวันแต่งงานนอกจากสินสอดทองมั่นที่เธอควรจะได้แล้ว คุณหญิงและท่านผู้ว่าฯยังมีเมตตากรุณายกหุ้นส่วนในเครือโรงพยาบาลในเธอได้มีสิทธิ์เป็นเจ้าของร่วมอีก ซึ่งเธอเองก็ซาบซึ้งน้ำใจของพ่อกับแม่สามีเป็นอย่างมากวันนี้ร่างบางแต่งตัวด้วยชุดออกแนวเป็นทางการสักหน่อย เพราะมีคุยธุระกับคุณหญิงวิมลรัตน์และคุณหมอตุลา เรื่องสาขาในเครือที่ต่างจังหวัดอีกด้วย เพราะเห็นว่าจะลงทุนซื้อเครื่องมือการแพทย์แบบใหม่เพิ่มอีกทุกสาขาดังนั้นในฐานะหุ้นส่วนสำคัญที่เจ้าของโรงพยาบาลให้เกียรติคนอย่างเธอก็ต้องทำหน้าที่ให้ดีที่สุด อีกทั้งถ้าหากเด็กน้อยที่บ้านโตขึ้นจนดูแลตัวเองกันได้แล้ว เธอก็อยากจะเข้ามาทำงานช่วยกิจการครอบครัวบ้าง“หนูบัวจ้ะ แม่คิดว่าเครื่องมือแพทย์ของบริษัทที่ตาตุลย์เสนอมาให้มันก็ราคาค่อนข้างสูงมากเลยนะ หรือหนูคิดว่าไง?” แม่สามีทั