"เดี๋ยวผมเอาอาหารใส่จานให้ คุณขึ้นไปล้างหน้าล้างตาก่อนเถอะ"ลัลนาพยักหน้าตอบรับอย่าเหนื่อยล้า หลังจากที่พวกเธอตกลงกันว่าจะแวะกินอาหารร้านป้าภา แต่เมื่อมาถึง ร้านกลับแน่นไปด้วยผู้คน แถมยังมีรอคิวอีกหลายคิว
เมื่อเห็นดังนั้นรพีภัทรจึงอาสาไปซื้ออาหารมาให้ส่วนเธอนั่งรออยู่ในรถ ระหว่างรอด้วยความที่เหนื่อยมาทั้งวันบวกกับยาแก้ปวดที่ได้กินไปเมื่อช่วงเย็น ทำให้เธออ่อนเพลียจนเผลอหลับไป
รู้ตัวอีกทีเมื่อเขาสะกิดเรียก ก็พบว่าตัวเองอยู่ที่ลานจอดรถของคอนโดแล้ว เมื่อเข้าห้องมาเขาถึงบอกให้เธอไปล้างหน้าล้างตาก่อน
ลัลนาวางกองกระเป๋าเสื้อผ้าไว้บนเตียง ก่อนจะเดินไปล้างหน้าล้างตาตามที่เขาบอก หลังจากนั้นก็รู้สึกสดชื่นขึ้นมาทันตา คนตัวเล็กควานหาโทรศัพท์ที่นอนตายอยู่ในกระเป๋า หยิบออกมาดูพบว่าแบตหมดจึงจัดการชาร์จแบตและเปิดเครื่อง
เมื่อเปิดเครื่องมาพบข้อความอยู่สองสามคน ที่ทักมาถามเรื่องอาการเธอ และความปลอดภัยว่าถึงบ้านรึยัง มะนาวเลื่อนผ่านตั้งใจจะค่อยกลับมาตอบก่อนนอน แต่เมื่อเห็นข้อความจากคนที่เธอรอมาหลายวันก็รีบเปิดเข้าไปอ่านทันที
ได้เรื่องแล้วคุณสะดวกนัดเจอวันไหน
ลัลนาเดินเข้ามาในครัว มีสุกี้แห้งและสุกี้น้ำอย่างละจาน วางเคียงคู่กันบนเค้าน์เตอร์ไอซ์แลนด์ในครัว เห็นร่างสูงกำลังหันหลังวุ่นวายอยู่หน้าตู้เย็น
"กินเลยไหม" ลัลนาพยักหน้าตอบรับในขณะที่คุณหมอหนุ่มเลื่อนแก้วน้ำส้มมาวางตรงหน้า
"ซื้อมาตอนไหนคะ" ลัลนามองน้ำส้มหน้าตาน่ากินที่อยู่ในแก้ว ไม่แน่ใจว่าแถวร้านป้าภามีน้ำส้มแบบนี้ขายด้วยรึไง
"ผมทำเอง"
"คุณทำเองเหรอ? ฉันเอากระเป๋าไปเก็บแป๊บเดียวเองนะ"
"ก็ไม่แป๊บนะ" ลัลนาเบ้ปากกับประโยคที่เคยได้ยินมาก่อน ดูเหมือนเขาจะชอบมีปัญหากับเวลาการแต่งตัวของเธอ
"ก็ไม่นานขนาดนั้นหรอกค่ะ"
"ก็ไม่ได้ยากขนาดนั้นเหมือนกัน" เขายกน้ำส้มขึ้นดื่ม เธอจึงทำตามบ้าง ความเปรี้ยวอมหวานบวกกับความเย็นชื่นใจ ส่งผลให้ร่างบางที่เหนื่อยล้ามาทั้งวันสดชื่นขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
"อร่อยมากเลยค่ะ" เธอยกยิ้มกว้างเอ่ยชมด้วยใจจริง
"ผมไม่ได้บ้ายอนะ"
"ฉันก็พูดจริงๆ แค่น้ำส้มคุณยังทำไม่เหมือนคนอื่นเลย"
"ไม่เหมือนยังไง" เขาเลิกคิ้วถาม ส่วนมือก็เลื่อนน้ำจิ้มสุกี้ไปใกล้เธอ จัดการคลุกสุกี้แห้งในจานก่อนจะเลื่อนถ้วยอาหารคืนให้เธออีกครั้ง
ลัลนามองความเอาใจใส่ของเขาด้วยหัวใจที่เต้นแรงอย่างไม่มีเหตุผล
"ไม่รู้สิคะเหมือนมันมีอะไรบางอย่าง อาหารก็เหมือนกัน"
"ผมก็ไม่ได้ใส่ยาเสน่ห์ให้คุณนะ หลงผมแล้วรึไง" มะนาวเบ้ปากอย่างหมั่นไส้ให้กับคนที่หลงตัวเอง ถึงแม้จะไม่แปลกก็เถอะที่คนหน้าตาดีอย่างเขาจะหลงตัวเองแบบนั้น
"อืมมม พูดถึงคุณก็ทำอาหารเก่ง ดูแลสุขภาพตัวเองเป็นอย่างดี หน้าตาก็ดี...แต่"
"อะไร?" รพีภัทรหรี่ตามองคนข้างๆ นิ่ง เริ่มรู้สึกแปลกๆ ที่อยู่ๆ โดนชม อีกทั้งยังมีแต่ตามหลัง
"แต่ทำไมถึงไม่มีแฟน"
"แล้วมันแปลกตรงไหน?"
"แปลกสิ คนเพอร์เฟกต์อย่างคุณทำไมไม่มีแฟน" เธอยังย้ำคำถามเดิม สงสัยว่าทำไมเขาถึงไม่มีแฟนสักที
"แปลกๆ นะสรุปชมผมใช่ไหม"
"ก็ชมสิคะ แต่ก็แค่คนสมบูรณ์แบบอย่างคุณ หลุดรอดมาเป็นโสดจนต้องแต่งงานกับฉันได้ยังไง"
"..." รพีภัทรส่ายหน้าเอือมระอาเมื่อดาราสาวพูดไปเรื่อย เริ่มตักสุกี้น้ำที่อุ่นร้อนไว้แล้วเข้าปาก
"หรือคุณเป็นเกย์"
"แค่ก แค่ก" ลัลนาเบิกตากว้างเมื่อเห็นท่าทางที่เขาแสดงออก
ตกใจถึงกับสำลัก!
"คุณเป็นจริงๆเหรอ"
"จะบ้ารึไง!" โมโหกลบเกลื่อนด้วย
"..."
ป๊อก
"โอ๊ย! วันนี้คุณเขกหน้าผากฉันสองรอบแล้วนะ" ลัลนาลูบหน้าผากตนเองจุดเดิมที่เพิ่งโดนไป
"เลิกมโน"
"ก็คุณตกใจโอเว่อร์ขนาดนั้นเป็นใครก็คิดรึเปล่า"
"มีแต่คุณนั่นแหละ คิดไปเรื่อย อยู่ๆ โดนกล่าวหาว่าเป็นเกย์จะไม่ให้ตกใจได้ไง"
ลัลนาหรี่สายตามองคนตรงหน้าด้วยสายตาจับผิด ก่อนจะผงะหนี เมื่อคนตัวโตกว่าตั้งท่าจะเขกหน้าผากอีกหน
"คุณหยุดเลย! ชอบทำร้ายร่างกายคนอื่น" เธอบ่นกระปอดกระแปด ก่อนจะเริ่มก้มหน้ากินสุกี้ในจานต่อ แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังไม่หายเคลือบแคลงใจในสิ่งที่สงสัย
"กินได้แล้ว ยังไม่เลิกมโนอีก" รพีภัทรที่เห็นแววตาครุ่นคิดของคนตัวเล็กก็เอ่ยเสียงดุบังคับให้เธอรีบกินอาหารที่ซื้อมา
"ค่าาาาา รู้แล้ว" คนสมบูรณ์แบบขนาดนี้แต่ยังโสด และดูเหมือนจะไม่เปิดรับใครด้วย ถ้าไม่เป็นเกย์แล้วจะมีเหตุผลอะไรอีกนะ?
ลัลนาที่กำลังอ่านบทอยู่สะดุ้งเล็กน้อยเมื่อคุณหมอหนุ่มที่ก่อนหน้าเธอเห็นเขาวุ่นวายอยู่ในครัว ย้ายตัวมาโอบกอดเธอด้านหลัง ก่อนที่เจ้าตัวจะแทรกกายลงมานั่งซ้อนหลังเธอ ใบหน้าคลอเคลียอยู่ตรงซอกคอเธอ"อะไรคะคุณพีร์""ข้าวเสร็จแล้ว""นาวขออีกแป๊บได้ไหมคะ เหลืออีกตอนเดียว" ลัลนาก้มหน้าอ่านบทต่อในมือถือปากกาขีดเขียนลงในหน้าจอไอแพดเมื่อวิเคราะห์อารมณ์ตัวละครในบทนั้น"หืม...แล้วทำไมต้องไปง้อมัน""คะ?" ลัลนาที่กำลังใช้สมาธิอยู่เอียงคอมองคนตัวสูงที่กำลังเพ่งมองหน้าจอไอแพดเธออยู่"ไอ้นี่อะ" เขาชี้ไปยังที่เธอวงกลมไว้ "ทำไมต้องไปง้อมัน" ก่อนจะถามย้ำประโยคเดิมอีกครั้ง"ก็...คนนี้ฤดีรักพระเอกนี่คะ พอรู้ว่าพระเอกจะไปรักคนอื่นก็เลยง้อ" เธอกล่าวถึงบทฤดี นางร้ายละครเรื่องต่อไปที่เธอต้องรับบทเล่น"ก็ปล่อยมันไปสิ! ทำไมต้องไปรักมัน" ลัลนาปรายตามองคนตัวสูงที่ขมวดคิ้วจริงจัง"คุณพีร์ นาวจะอ่านบท อย่ากวนค่ะ" เธอดุคนรักเสียงเข้ม รพีภัทรจึงก้มใบหน้าหอมแก้มเธอ ไม่พูดอะไร แต่ก็ไม่ลุกออกไปไหน เธอจึงอ่านตอนที่เหลือต่อ ลัลนาขีดเส้นใต้ เขียนอารมณ์ความรู้สึกของบทตัวเองไปเรื่อย ก่อนจะสะดุ้งตกใจอีกหน เมื่อคนที่นั่งซ้อนหลังโว
"เราจะกินข้าวก่อนหรือเดินซื้อของก่อนดีคะ" ลัลนาเอ่ยถามคนรักหลังจากที่เดินเข้ามาในห้าง วันนี้พวกเธอมีแพลนซื้อของขวัญให้คุณแม่ซึ่งอาทิตย์นี้จะจัดงานเลี้ยงวันเกิด "ผมว่าซื้อก่อนก็ได้" คนตัวสูงจับมือคนตัวเล็ก เดินไปยังโซนช็อปแบรนด์เนม"อ้าว ไหนว่าคุณแม่ไม่เอาของแบรนด์ไงคะ" ลัลนาท้วงอย่างประหลาดใจ จำได้ว่าเขาบอกว่าหลายปีมานี้ คุณแม่สั่งห้ามเด็ดขาด ว่างดรับของแบรนด์เนมทุกชนิด เธอคิดว่าคุณแม่สามีคงจะมีเยอะ ซื้อเองจนครบหมดแล้ว เลยไม่อยากให้ใครมาซื้อให้อีก"ก็...ลองเดินดูก่อน" เขาตอบเธอเสียงเบา ลัลนามองท่าทางเลิ่กลั่กแปลกๆ ของสามีหนุ่ม ถึงอย่างนั้นก็ไม่ท้วงอะไร เดินตามแรงจูงไป เมื่อเดินเข้าไปในช็อปดัง BA คนเดิมที่เคยมารับรองเธอกับคุณหญิงรจณีก็เดินออกมาต้อนรับ คล้ายเตรียมตัวไว้อยู่แล้ว ลัลนาเดินตามแรงจูงอย่างงงๆ เมื่อเขาลากเธอไปยังห้องด้านใน"อะไรกันคะคุณพีร์?""พอดีผมอยากให้นาวช่วยเลือกกระเป๋าให้ก่อน" ลัลนามองพนักงานคนเดิมที่ถือกระเป๋ามา ก่อนจะหันมองเขาอย่างมึนงง"เลือกกระเป๋าเหรอคะ""ใช่ช่วยเลือกให้หน่อย ผมเลือกไม่ค่อยเก่ง" ลัลนาคิดว่าเขาอาจจะต้องซื้อให้เพื่อน หรือคนสำคัญระดับหนึ่งถึงต้องมา
"หมอที่นี่มันยังไงวะ หยุดงานทีไร อารมณ์ดีทุกที" รพีภัทรเงยหน้ามองเพื่อนสนิทตนเองทั้งสองคนที่เดินตามกันเข้ามาสีหน้าเบื่อหน่าย ก่อนจะก้มหน้าไถหน้าจอสมาร์ทโฟนต่อไม่สนใจ"กูว่าน่าจะมีคนดีใจที่ได้เสียเงินห้าแสน" อวัศย์เอ่ยเสริมทัพอย่างอารมณ์ดีที่ชนะพนันไอ้เพื่อนตัวดีได้ ตั้งใจมาเยาะเย้ยโดยเฉพาะ"ไงมึงไอ้พีร์ หน้าบานอะไรขนาดนั้น" ธารณ์เดินอ้อมไปด้านหลังเพื่อนที่นั่งอยู่ ก้มหน้าดูหน้าจอโทรศัพท์ที่เพื่อนดูค้างไว้ "โหไอ้พีร์ มึงน่าจะหนักกว่าไอ้หมอก นั่งดูรูปไปยิ้มไปเนี่ยนะ!""เห้ย! อะไรของพวกมึงเนี่ย" รพีภัทรเบี่ยงหน้าจอหนีเพื่อนสนิททั้งสองคนที่พร้อมใจกันกรูเข้ามาดูโทรศัพท์ตนเอง"ไหนๆ ดูอะไร" อวัศย์พยายามชะโงกหน้าดูด้วยความอยากรู้อยากเห็น"พอๆ ไปไกลๆ ตีนกูเลยพวกมึง""หึ! ไม่ต้องปิดหรอก กูเห็นหมดแล้ว มึงนั่งดูรูปคุณนาวในไอจีอย่างกับโรคจิต" ธารณ์พูดขึ้นอย่างหมั่นไส้ เมื่อรู้ว่าที่เพื่อนตัวเองยิ้มหน้าบานอย่างกับคนบ้าเพราะนั่งหลงรูปเมียตัวเองอยู่"โรคจิตอะไร นี่เมียกู""เต็มปากเต็มคำเชียวนะมึง" ไทม์ยังไม่วายเหน็บแนมเพื่อน"อ๋ออ...กูว่าแล้ว ที่สมัครไอจีเนี่ยเพราะเมียเลย" อวัศย์พูดขึ้นบ้าง ความจริงเ
รพีภัทรนั่งมองคนตัวเล็กที่นอนขุดคู้อยู่บนเตียง ลมหายใจผ่อนเป็นจังหวะสม่ำเสมอ คนตัวสูงเอื้อมมือสัมผัสแก้มนิ่มของคนที่นอนนิ่งอยู่ ก่อนจะก้มใบหน้าจูบซับน้ำตาที่ซึมออกมา คาดว่าเธอน่าจะฝันร้ายอยู่ใบหน้าหวานเริ่มคลายปมที่คิ้วเมื่อรู้สึกถึงสัมผัสอ่อนโยนที่ได้รับ ก่อนริมฝีปากจะแย้มยิ้มนิดๆ เมื่อฝันร้ายจางหายไปร่างสูงเอนตัวพิงหัวเตียงกึ่งนั่งกึ่งนอน มือหนาเอื้อมมือลูบศีรษะคนตัวเล็ก ย้อนคิดถึงสิ่งที่เธอเล่าให้ฟัง หลังจากที่เขารู้เรื่องจากอชิระก็พอจะรู้อยู่แล้วว่าเธอมีปัญหาในครอบครัว แต่ไม่คิดว่ามันจะขนาดนี้ ฟังจากที่เธอเล่า หลังจากนั้นเธอและแม่พากันออกมาอยู่ข้างนอก เท่ากับแม่คงจะเป็นทั้งชีวิตของเธอ แต่...ก็ยังมาโดนทิ้งไปไหนจะเรื่องวันนั้นที่ไอ้เพื่อนทั้งสองคนเล่าให้ฟัง ว่าเห็นอาการแปลกๆ ของเธอวันที่น้ำตาลจมน้ำ ตอนนั้นเขาห่วงพี่สะใภ้เพราะรู้ว่าว่ายน้ำไม่เป็น ส่วนภรรยาตนเองว่ายน้ำเก่งอยู่แล้ว ไม่คิดว่าร่างกายเธอจะไหวแต่จิตใจอ่อนแอ ยิ่งคิดยิ่งรู้สึกผิดในใจ วันที่เธอต้องการใครสักคนที่สุด แต่ตัวเขากลับไม่อยู่ข้างๆ "คุณพีร์.." รพีภัทรก้มใบหน้ามองคนตัวเล็กที่งัวเงียสะดุ้งตื่น "ขอโทษ ผมทำนาวตื่นเล
"หมอพีร์คุณไม่ต้องไปทำงานเหรอ?" ลัลนาเอ่ยถามร่างสูงที่วางจานผลไม้ลงข้างเธอ ก่อนที่เจ้าตัวจะนั่งลงบ้าง ระยะห่างเริ่มขยับมาใกล้ขึ้นจากวันแรกที่เขามาอยู่ที่บ้านหลังนี้ตอนนี้เป็นเวลาหนึ่งอาทิตย์แล้วที่เขาเกาะติดเธอแจ ถึงแม้จะไม่ถึงขั้นมานั่งเฝ้าตลอด แต่หากเธออยู่ที่บ้าน เขาก็จะเรียกช่างมาคุย ส่วนตัวเองปรับปรุงนู่นนี่นั่นไปเรื่อย ซ่อมก๊อกน้ำ ยันรั้วบ้าน แต่ถ้าหากเห็นเธอตั้งท่าออกจากบ้านเมื่อไหร่คนตัวสูงก็จะละทิ้งทุกอย่างในมือ มาสแตนด์บายรอหน้าบ้านอย่างหน้ามึน เธอไม่ให้ไปก็จะตามไป บอกว่าขอเดินตามห่างๆ ก็ยังดีก็เป็นซะอย่างนี้!"ผมพักร้อนไง""พักได้ขนาดนี้เลยเหรอคะ" ลัลนาหรี่ตามองคล้ายไม่เชื่อ ใช่อยู่ตามกฎหมายเขาก็มีสิทธิ์นั่นแหละ แต่เนื่องด้วยบุคลากรทางการแพทย์เป็นที่ขาดแคลนอยู่ตอนนี้ เขาไม่น่าจะมีเวลาว่าง หรือโรงพยาบาลจะยอมให้เขาลาได้ขนาดนี้ยกเว้นแต่ว่า..."ไปใช้อำนาจมืดมาอีกแล้วสิท่า" ลัลนาหรี่ตามองจับผิด ในขณะที่คนตัวสูงหน้ามึนตอบอย่างไม่สนใจ"ไม่ใช่อำนาจผมซะหน่อย อำนาจไอ้หมอกมัน"ต่างกันตรงไหน ใช่อยู่หมอหมอกเป็นถึงลูกชายเจ้าของโรงพยาบาล แต่การที่ตัวเขาได้อภิสิทธิ์ขนาดนี้ น่าจะบังคับข
ลัลนาที่เพิ่งก้าวลงบันไดมาเห็นคนตัวสูงยืนยิ้มแฉ่งรออยู่ด้านล่าง โดยมีอาหารเช้าวางอยู่บนโต๊ะอาหาร คุณหมอหนุ่มรีบวางจานในมือลงบนโต๊ะ ถอดผ้ากันเปื้อน ก่อนจะสาวเท้าเดินมาหาคนตัวเล็กที่ยืนมองอยู่"กินข้าวเลยไหมนาว""ป้าใจกับจ้อยละคะ" ลัลนาไม่สนใจที่เขาเอ่ยชวน ถามหาคนดูแลบ้านและหลานชายที่ปกติจะมาหาเธอทุกเช้า"วันนี้วันพระป้าใจเลยไปวัดเช้าหน่อย กินข้าวเช้าก่อนสิเดี๋ยวผมพาตามไปที่วัดก็ได้""ไม่เป็นไรค่ะ" ลัลนาไม่สนใจของที่ถูกตระเตรียมไว้ เขาน่าจะลงมาตั้งแต่เช้ามืด เพราะเวลานี้ยังเช้ามากอยู่เลย แต่อาหารบนโต๊ะเรียบร้อยแล้ว"คุณกินข้าวก่อนเถอะ ถ้าไม่กินข้าวเช้าเดี๋ยวปวดหัวนะ" ลัลนาแสร้งไม่สนใจคนที่เอ่ยเรียก ถึงแม้จะใจเต้นไม่น้อยที่เขาจำเรื่องของเธอได้ว่าต้องกินข้าวเช้า ไม่อย่างนั้นจะเวียนหัว"...""นาว" คุณหมอหนุ่มทำได้เพียงเรียกคนตัวเล็กที่เดินผ่านเลยไปอย่างไม่สนใจ ทั้งอาหารและคนทำ "จะไปไหนครับ" ลัลนาปรายตามองมือร้อนที่จับแขนรั้งเธอไว้ เมื่อเห็นแบบนั้นคนตัวสูงจึงรีบปล่อยมือ ยกมือสองข้างคล้ายยอมแพ้ "ผมแค่อยากรู้ว่าคุณไปไหน" เขาบอกเธอเสียงอ่อย"ไม่เกี่ยวกับคุณค่ะ ถ้ายังอยากอยู่ที่นี่ก็อย่าล้ำเส้