เมื่อประตูห้องถูกเปิดออก ภาพที่เห็นคือจิรัสยากำลังถูกปัทมะจับล็อกข้อมือเอาไว้บนเตียง สันกรามแกร่งถูกขบเข้าหากันจนเป็นสันนูนด้วยความโกรธ ดวงตาคมมองจ้องมาอย่างเอาเรื่องพร้อมกับก้าวเดินเข้าไปหยุดอยู่ตรงหน้าคนทั้งสอง
"เฮ้ย!มึงอีกแล้วหรอ นี่มึงมาที่นี่ได้ยังไงวะ" ปัทมะถามเสียงแข็งกร้าวด้วยความโมโหที่ถูกขัดจังหวะ
"ขอโทษที่ต้องมาขัดจังหวะ แต่คงต้องขอตัวพนักงานของผมกลับไปทำงานต่อ ผมจ้างเธอมาด้วยเงินเดือนที่สูงกว่าพนักงานปกติถึงสองเท่า ดังนั้นเธอก็ควรที่จะทำงานให้กับผมอย่างคุ้มค่า และนี่ก็หมดเวลาพักแล้ว"
"นี่มึงหมายความว่ายังไงที่บอกว่าจีเป็นพนักงานของมึง จะบอกว่ามึงเป็นเจ้าของที่นี่งั้นสิ"
"ใช่ ผมเป็นเจ้าของที่นี่ และตอนนี้ผมต้องการตัวพนักงานของผมคืน ส่วนคุณถ้าอยากจะพักที่นี่ต่อหรือว่าต้องการค่าห้องคืนสามารถแจ้งได้ที่หน้าล็อบบี้เลย"
"มึงอย่ามาตลกกูไม่เชื่อ"
พอปัทมะทำท่าว่าจะตรงเข้ามาหา ที่ด้านหน้าประตูก็มีการ์ดของทางโรงแรมสองคนที่ยืนรออยู่เดินตรงสวนเข้ามาเช่นกันจนปัทมะต้องหยุดอยู่กับที่
จิรัสยาจ้องมองหน้าเขาราวกับแทบไม่อยากจะเชื่อสายตา เขามาอยู่ที่นี่ได้ยังไงกัน ทิมอยู่ที่นี่ ตอนนี้ และเวลานี้ แถมเมื่อกี้เขายังมาช่วยเธอไว้ได้ทันอีก และก็ยังมีอะไรอีกนะ เขาบอกว่าเขาคือเจ้าของๆที่นี่ เป็นไปไม่ได้ ก็ในเมื่อชนัญญาบอกเองว่าโรงแรมแห่งนี้เป็นของภาคิน
ขายาวๆก้าวตรงไปหาจิรัสยาก่อนจะปัทมะให้ถอยหลบไป ข้อมือแกร่งตรงเข้าไปฉุดข้อมือน้อยๆแล้วออกแรงดึงให้เธอเดินตามเขาออกมา พอพ้นออกมาจากประตูห้องเสื้อผ้าหน้าผมก็ถูกจัดให้เข้าที่เข้าทางอย่างไวโดยฝีมือของเขาก่อนจะจูงมือเธอให้ก้าวตามเขาไปแบบติดๆ
ด้วยความสับสนและยังมึนงงไม่หาย จิรัสยาจึงได้แต่เดินตามเขาไปอย่างว่าง่ายและไม่ได้ซักถามอะไรออกมา ภายในอกยังคงมีเสียงเต้นโครมครามทั้งกับเรื่องที่ปัทมะพึ่งทำและอีกเรื่องที่พึ่งจะได้รับรู้ว่าทิมนั้นคือเจ้าของที่นี่ ขายาวๆก้าวนำเธอไปอย่างเงียบๆ และตัวเธอเองก็เดินตามไปอย่างเงียบๆโดยที่เธอเองก็ยังไม่รู้ว่าเขาจะนำพาเธอไปที่ใด จนกระทั่งเริ่มหายตกใจและพอจะได้สติ
"คุณทิมคะ นี่คุณพูดจริงหรือเปล่าว่าคุณเป็นเจ้าของที่นี่ ฉันคิดว่ามันเป็นของพี่คินเสียอีก" จิรัสยาหยุดเดินตามจนทิมนั้นต้องหันกลับมา
"จะว่าอย่างนั้นก็ได้ แต่ของผมหกสิบ ภาคินสี่สิบ"พอได้รับฟังข้อมูลจากปากเขาเธอก็พอจะเดาอะไรๆได้ออก หมายความว่าทั้งเขาและภาคินแฟนหนุ่มของจิรัสยาเป็นหุ้นส่วนของโรงแรมนี้ด้วยกัน และนี่มันก็คงเป็นอีกครั้งที่เธอถูกหลอก แม้ว่าจะเจ็บปวดภายในใจแต่จิรัสยาก็เก็บอาการนั้นไว้ ผ่อนลมหายใจออกอย่างช้าๆแล้วเชิดหน้าถามออกไป
"แล้วนี่คุณกำลังจะพาฉันไปไหน"
"ก็พาออกไปจากที่นี่ไง หรือว่าคุณอยากจะอยู่ต่อกับแฟนเก่าคุณ" ว่าแล้วทิมก็เดินนำจิรัสยาออกไปจากบริเวณนี้เฉย ด้วยความตกใจว่าพอไม่มีทิมอยู่ตรงนี้ด้วยแล้ว เกิดปัทมะยังตามเธอมาแล้วเธอจะทำยังไง ไม่ต้องคิดมากจู่ๆแข้งขาก็อยากจะก้าวตามเขาไปอย่างฉับไว
ทิมพาเธอเดินไปตามทางเรื่อยๆสักพัก จนกระทั่งมาหยุดลงตรงหน้าพลูวิลล่าสุดหรูแห่งหนึ่ง เขาเดินนำเธอเดินเข้าไปด้านในโดยไม่ได้หันมาถามเธอสักนิดว่าอยากจะตามเขาเข้าไปด้วยหรือไม่
เมื่อมองไปรอบๆ วิลล่าแห่งนี้ถูกตกแต่งด้วยสไตล์บาหลีแบบอาร์ตๆ ที่บริเวณทางเดินเข้าไปด้านหน้าคือสระว่ายน้ำส่วนตัวซึ่งมองตรงเข้าไปจะมีบันไดให้เดินขึ้นไปถึงบนระเบียงชั้นสอง จากจุดที่เธอยืนสามารถมองเห็นได้ทั้งชั้นบนและชั้นล่าง และตรงบานประตูทำด้วยกระจกที่สามารถเปิดรับลมได้รอบทิศทาง
ทิมเดินเข้าไปแล้วหากแต่จิรัสยายังคงหยุดยืนอยู่กับที่ เธอพึ่งจะผ่านเหตุการณ์ที่เกือบถูกผู้ชายอุ้มพามาทำมิดีมิร้ายมาสดๆร้อนๆ นี่ทิมยังจะพาเธอมาในที่แบบนี้อีกหรอ คิดแล้วเธอจึงคิดว่าควรจะหยุดยืนรออยู่ตรงนั้นแทนดีกว่า พอทิมหันกลับมาเห็นว่าเธอไม่ยอมเดินตามเข้าไป เขาจึงได้เดินย้อนกลับออกมาอีกรอบก่อนจะคว้าข้อมือเล็กนั่นทั้งจูงและกึ่งลากเข้าไปแทน
"คุณทิม ปล่อยฉันเถอะค่ะ"
"กลัวผมหรอ ไม่ต้องกลัวหรอกระดับผมไม่เคยปล้ำใครถ้าเขาคนนั้นไม่เต็มใจ คุณเองก็เคยอยู่กับผมสองต่อสองมาแล้วนี่ น่าจะรู้ได้แล้วนะว่าผมน่ะไว้ใจได้ขนาดไหน"
'เขาน่ะหรอไว้ใจได้ ตัวร้ายเลยล่ะไม่ว่า'
"ว่าไม่ได้หรอกค่ะ ผู้ชายยังไงก็คือผู้ชาย ขนาด.." จิรัสยาหยุดคำพูดไว้แค่นี้ก่อนจะนึกย้อนกลับไปถึงปัทมะที่เธออุตส่าห์ไว้เนื้อเชื่อใจมาโดยตลอดแต่ก็ไม่นึกเลยจริงๆว่าเขาจะทำเธอได้ลงคอ
"ขนาดแฟนเก่าคุณน่ะหรอ" ทิมต่อให้ "อย่าลืมสิว่าผมกับเขาน่ะคนละคนกัน"
"ว่าไม่ได้หรอกค่ะ"
"แต่ผมเป็นคนไปช่วยคุณออกมานะ ลืมไปหรือเปล่า"
"ฉันก็ไม่ได้ขอร้องนี่คะ" ด้วยความหมั่นไส้ จิรัสยาจึงต่อปากต่อคำไปแบบทันควัน เธอยังไม่ลืมหรอกนะว่าเพราะใครเธอจึงถูกไล่ออกจากงาน มิหนำซ้ำเขายังไม่เอ่ยถึงมันสักคำ รู้บ้างหรือเปล่าก็ไม่รู้ว่าเป็นเพราะตัวเอง
"ยืนจ้องหน้าผมขนาดนี้ กำลังด่าอะไรผมในใจอยู่หรือเปล่า"
"ค่ะ" จิรัสยายอมรับออกไปตรงๆ
"เรื่อง?" ทิมเลิกคิ้วถาม
"เรื่องของฉันค่ะ"
'เรื่องของฉัน' นี่เธอกำลังด่าว่าเขาเข้าไปยุ่งเรื่องของเธอสินะ ทิมส่ายหัวหัวเราะออกมาเบาๆในขณะที่จิรัสยาพูดจบก็เดินตัวปลิวเข้าไปข้างในทันที และเมื่อเดินเข้าไปด้านในคนที่บอกว่าไม่กล้าเข้ามาในตอนแรกก็กลับมองสำรวจไปรอบๆด้วยความเพลิดเพลินจนลืมไปเลยว่ายังๅๅมีใครบางคนยืนจ้องมองอยู่
"ชอบมั้ยครับ"
"ถามทำไมคะ"
"ก็ถ้าเผื่อคุณชอบแล้วอยากจะมาพักอยู่ที่นี่"
"ตำแหน่งพนักงานต้อนรับอย่างฉันเนี่ยนะคะ"
"คุณก็ยอมเป็นให้มากกว่านั้นสิ"พอเขาพูดออกมาแบบนี้จิรัสยาก็ได้แต่กัดริมฝีปากและรู้ได้ทันทีว่าทิมคิดอะไร
"เสียใจด้วยนะคะ แต่ฉันไม่ใช่ผู้หญิงประเภทนั้น"
"คุณรู้หรอว่าผมหมายถึงผู้หญิงประเภทไหน"
"ก็ประเภทที่ยอมนอนกับคุณง่ายๆเพื่อแลกกับความสะดวกสบายอะไรแบบนั้นล่ะมั้งคะ"
"ดูถูกความรู้สึกของผมจังเลยนะครับ"
"หรือว่าฉันพูดอะไรผิดไป"
"แล้ววันหนึ่งคุณจะได้รู้เอง ว่าการที่ผมบอกว่าให้คุณยอมเป็นมากกว่านั้น หมายถึงอะไร"
"อ๊ะ ๆ อ๊า ไม่ไหวแล้วค่ะคุณทิม จีไม่ไหว"เสียงเนื้อกระทบเนื้อที่ดังกระทบกันจนสั่นผืนน้ำนั้นไม่ใช่ใครที่ไหน พอกลับมาจากกรุงเทพได้ ทิมก็เอาเรือออกแล้วนำมาจอดลอยไว้อยู่กลางทะเล วันๆไม่ทำอะไร ตั้งหน้าตั้งตาทำแต่เรื่องอย่างว่า นี่สามวันมาแล้ว ทิมยังเอาแต่หมกมุ่นอยู่กับเธอโดยไม่คิดจะทำอย่างอื่น มิหนำซ้ำพ่อคนบ้ากามยังมาบังคับให้เธอทำมันไปกับเขาด้วย"ขย่มอีกสิครับยาหยี ขย่มผมแรงๆ""แต่จีเหนื่อยจนหมดแรงแล้วนะคะ วันนี้คุณเล่นให้จีขย่มมาตั้งแต่เช้า จนตรงนั้น..ของจี บานนน ไปหมดแล้วค่ะ""จี! พูดจาน่าเกลียดแบบนั้นได้ยังไง ของจีออกจะทั้งนุ่มแล้วก็ยังฟิต บานเบินอะไรกันครับ""พูดจริงๆค่ะ คุณทิมหัดทำอย่างอื่นบ้างเถอะค่ะ ไม่ใช่คิดว่าตัวเองรวยแล้วไม่ยอมทำอะไร คนบ้าอะไรมานอนจอดเรือข้ามคืนข้ามวันเพื่อมีเซ็กซ์""ก็ผมชอบบรรยากาศนี่ โรแมนติกดีออก ยิ่งได้'เอา'จีวันละสี่ห้ารอบแบบนี้ทำให้ผมรู้สึกกระชุ่มกระชวยดีชะมัด""คุณกระชุ่มกระชวยอยู่คนเดียวน่ะสิคะ ส่วนจีจะ บานแล้วบานอีก""จี! หยุดพูดจาห่ามๆแบบนี้เดี๋ยวนี้เลยนะ ถ้าจีบอกว่าไหนๆจีก็บานแล้ว งั้นมานอนอ้าขาตรงนี้เร็ว ขอเสียบอีกรอบ เพราะว่าเมื่อกี้ผมยังไม่แตกเลย"
สรุปก็คือพราวฟ้าไม่ขอยุ่งเกี่ยวกับเธออีกเพราะว่าไม่สามารถทนเป็นเพื่อนกับใครก็ตามที่ได้หัวใจของทิมไปครองได้ เธอบอกว่าสำหรับเธอแล้วทิมคือเจ้าของหัวใจของเธอมานานและเป็นเพียงเขาคนเดียวมาตลอด ถึงแม้ว่าเขาจะไม่รู้และไม่เคยรู้ แม้จะรู้ตัวเองดีว่าไม่มีทางที่ทิมจะหันมามองแต่เธอก็ไม่สามารถทำใจได้จริงๆกับความจริงที่ว่าทิมรักคนอื่น เธอขอให้จิรัสยาใช้ชีวิตกับทิมให้มีความสุขแต่ขอแค่อย่ามายุ่งเกี่ยวกับเธออีกเพราะเธอคงไม่สามารถทนเห็นภาพความเจ็บปวดนั้นได้ "เป็นอะไรครับหน้าเครียดเชียว"ทิมหันมาจับมือเธอเอาไว้หลังจากที่เครื่องบินลงจอดและตอนนี้เธอกับเขาก็นั่งอยู่บนรถตู้คันใหญ่มุ่งหน้าตรงไปยังบ้านของเธอ "บ้านดารารัตน์" ซึ่งเวลานี้มีมารดาของเธออาศัยอยู่กับแม่บ้านคนสนิทอีกสองคนรถตู้สีดำคันใหญ่ค่อยจอดเรียบไปกับบริเวณริมรั้ว จิรัสยามองบ้านหลังนี้แล้วก็น้ำตาไหลออกมาอย่างไม่สามารถห้ามได้ ในที่สุดเธอก็ได้กลับมายังบ้านหลังนี้อีกครั้ง บ้านที่เธอเติบโตมาและได้วิ่งเล่นมาตั้งแต่ยังเด็ก"เข้าไปหาคุณแม่ของจีกันเถอะ ผมอยากเข้าไปฝากเนื้อฝากตัวเป็นลูกเขยจะแย่แล้ว""แน่ใจหรอคะว่าแม่จีจะอนุญาต""เชื่อมือผมสิ"จิรัสยาพาทิม
เช้านี้จิรัสยาลืมตาตื่นมาท่ามกลางเตียงสีขาวสะอาดตาขนาดหกฟุต เมื่อคืนหลังจากตกลงกับทิมในเรื่องของบทพิสูจน์รักแท้จนเป็นที่น่าพอใจแล้ว เขาก็จัดการให้เธอมาพักที่ในส่วนนี้โดยมีข้อแม้ว่าระหว่างนี้เขาจะต้องไม่ฉวยโอกาสกับเธอโดยเด็ดขาดและเป็นอันว่าทิมเองก็ตกลงแค่มีข้อแม้ว่าเธอจะต้องอยู่ให้เขาพิสูจน์รักเเท้ที่นี่ขาเรียวยาวค่อยๆก้าวลงจากเตียงค่อยๆ เสื้อผ้าข้าวของๆเธอถูกเก็บออกมาจากที่พักพนักงานตั้งแต่เมื่อวานด้วยฝีมือของเขา และยังกับชับกับเธออีกว่าให้อยู่เฉยๆที่นี่โดยที่ไม่ต้องทำอะไร ระหว่างนี้เขายังคงจ่ายเงินเดือนให้เธอตามปกติ จิรัสยายืนมองตัวเองในกระจกก่อนจะเกาศรีษะแกรกๆ มันจะเป็นไปได้อย่างไรกันที่อยู่ๆจะมาบอกให้เธออยู่เฉยๆ คนเคยทำงานมาตลอด ถ้าขืนเป็นแบบนี้เธอคงได้เป็นบ้า"ตื่นแล้วหรอครับ ผมเตรียมอาหารเช้าให้จีเสร็จแล้ว ออกไปทานเลยมั้ย" ทิมเดินเข้ามาหาคนตัวเล็กก่อนจะหอมจุ๊บลงไปที่บนหน้าผากหนึ่งทีจากนั้นจึงจูงมือเธออกไป ขณะที่กำลังถูกทิมประเคนป้อนนั่นป้อนนี่ให้ เสียงข้อความจากมือถือก็ดังขึ้น จิรัสยาจึงหยิบมันขึ้นมาดู ปรากฎว่าคือข้อความจากชนัญญาที่แนบไฟล์ภาพมาด้วย'ไหนบอกว่าเกลียด อ๊ะๆยังไงน้า
ข้อมือน้อยๆยังคงถูกทิมดึงให้เดินตามหลังเขาไปติดๆจนมาถึงด้านข้างของโรงแรมทิมก็พาเธอขึ้นมานั่งบนรถของทางโรงแรมที่จอดรออยู่ ก่อนจะบอกให้คนขับมุ่งหน้าตรงไปยังวิลล่าส่วนตัวของเขา"ต่อไปนี้จีไม่ต้องไปทำงานที่นั่นอีกแล้วนะ""นี่คุณไล่จีออกหรอคะ" จิรัสยาหน้าเครียด"ใช่ ผมไล่จีออกจากการเป็นพนักงานของทางโรงแรม""ใจร้าย ไม่มีเหตุผล ทั้งๆที่ผู้หญิงของคุณเป็นคนมาหาเรื่องจีก่อนแท้ๆ แต่คุณกลับคิดว่าจีเป็นคนผิด นี่มันครั้งที่สองแล้วนะคะที่ผู้หญิงของคุณทำจีเดือดร้อนจนถึงกับต้องออกจากงาน" จิรัสยายังคงต่อว่าออกมาปาวๆยาวเหยียดอย่างอดไม่ได้ เธอทั้งโกรธ เสียใจและน้อยใจที่ชีวิตตั้งแต่เจอเขามามีแต่เรื่องวุ่นวายไม่จบไม่สิ้นพอจังหวะที่รถจอดจิรัสยาก็เปิดประตูก้าวลงไปทันที ขาเรียวเดินตรงเข้ามาในวิลล่าหรูอย่างลืมตัวก่อนจะเปิดประตูเข้าไปราวกับว่าตัวเองนั้นคุ้นเคยกับสถานที่แห่งนี้ดี"จี" ทิมเดินตามเข้ามาแล้วหยุดเรียก พอได้สติและเห็นว่าตอนนี้ตัวเองอยู่ที่ไหนจิรัสยาก็ได้แต่อึกอัก"ขอโทษค่ะจีลืมตัวจนถือวิสาสะเดินเข้ามาในที่ส่วนตัวของคุณ" ใบหน้างามก้มลงน้อยๆและไม่ยอมเงยหน้าขึ้นมาสบตา"ผมไม่ได้ว่าอะไร จีสามารถไปที่ไหนก
ช่วงนี้จิรัสยาทำงานแบบไม่ค่อยจะมีสมาธิเท่าไหร่หนึ่งอาทิตย์ผ่านไปหลังจากพาเธอกลับมาจากเกาะส่วนตัวแล้วจิรัสยาก็ไม่ได้เจอหน้าทิมอีกเลย มีแค่เพียงข้อความที่เขามักจะส่งมาหาเธออยู่เสมอๆ แต่นั่นก็ทำเอาจิรัสยาอดนอยด์ขึ้นมาไม่ได้ว่าเธอก็เป็นเพียงแค่ผู้หญิงหน้าโง่คนหนึ่งที่ถูกทิมหลอกให้รักนึกแล้วก็ได้แต่สมน้ำหน้าตัวเอง เกลียดดีนักพวกผู้ชายเจ้าชู้ แล้วในที่สุดเธอก็พลาดท่าเสียทีให้กับผู้ชายเจ้าชู้จนได้ ดั่งคำโบราณที่ว่า 'เกลียดอะไร ก็มักจะได้อย่างนั้น' ยิ่งคิดก็ยิ่งสับสนกับสถานการณ์ที่เป็นอยู่ แต่ก็ยังพยายามปลอบใจตัวเองเอาไว้ ว่าถึงแม้ว่าหัวใจเธอกำลังรู้สึกไม่โอเค แต่อย่างน้อยในตอนนี้เธอก็ได้สิ่งที่ต้องการกลับคืนมา บ้านดารารัตน์ถูกโอนให้เป็นชื่อของเธอเรียบร้อยแล้ว นั่นทำให้มารดาของเธอดีใจอย่างมากที่ได้มันกลับคืนมา "ในที่สุดแม่ก็ได้บ้านคืนมา จีหนูทำได้ยังไงกันลูก""จีทำได้ทุกอย่างเพื่อแม่ค่ะ ทุกอย่าง"ทิมหายหน้าหายตาไปหนึ่งอาทิตย์เต็มๆ และเมื่อวันสองวันมานี้ก็เริ่มมีข่าวลืออักษรย่อออกมาให้เห็นตามแหล่งหน้าสื่อออนไลน์ติดๆกัน'ท่าทางจะไม่ได้เห็นงานหมั้นระดับช้างเนื่องจาก ไฮโซ ท ปฏิเสธแอบสะบั้นรักว่
แม้ว่าเเวลาจะผ่านไปแล้วแต่จิรัสยายังคงนิ่งเงียบและหนักใจกับคำถามที่ทิมยังคงรอฟังคำตอบ หลังจากที่พาเธอเดินทัวร์จนเกือบจะทั่วฟาร์มแล้ว ตอนใกล้จะกลับจู่ๆทิมก็ถามคำถามที่เธอไม่คิดว่าจะได้ยินจากปากเขาออกมา เเละเธอยังไม่ได้ตอบจนกระทั่งเขาพาเดินกลับมาจนถึงที่พักทิมต้องการขอคบกับเธอ เขาบอกแบบนั้น แต่เขากำลังลืมอะไรหรือเปล่าว่าเขาว่าสถานะของเขาตอนนี้นั้นคือคนที่กำลังจะหมั้น "อ้าวนาย มาตั้งแต่เมื่อไหร่กันคะเนี่ย ป้าไม่เห็นรู้เลย" หญิงสูงวัยอีกคนหนึ่งที่กำลังเดินขึ้นมาจากชานระเบียงร้องทักขึ้น"มาถึงเมื่อตอนสายๆนี่เองครับป้าจวน""จีครับ นี่ป้าจวนเป็นแม่บ้านที่คอยดูแลที่นี่ แล้วก็เป็นภรรยาของลุงรงค์ที่จีไปเจอมาเมื่อสักครู่" จิรัสยายกมือขึ้นไหว้หญิงสูงวัยตรงหน้า ทำเอาหญิงสูงวัยยกมือขึ้นรับไหว้แทบไม่ทัน"อ้าวแล้วนี่คุณทิม พาใครมาด้วยล่ะคะเนี่ย""ผมพา 'ว่าที่' นายหญิงของที่นี่มาดูกิจการน่ะครับ" ทิมพูดยิ้มๆก่อนจะหันมามองเธออีกแล้ว"ว๊าย ตายแล้ว นี่นายกำลังจะมีนายหญิงแล้วจริงๆหรอคะเนี่ย โอ๊ยป้าจะเป็นลม" พอเห็นว่าหญิงสูงวัยตกใจจนต้องยกมือขึ้นมาทาบจับที่หน้าอกคล้ายจะเป็นลม จิรัสยาก็รีบวิ่งเข้าไปช่วยพยุ