หน้าหลัก / โรแมนติก / โปรดพันธกานต์รัก / บทที่ 3 ผู้หญิงในคืนนั้น

แชร์

บทที่ 3 ผู้หญิงในคืนนั้น

ผู้เขียน: ลภัสลัล
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-02-11 21:41:46

วันต่อมาหลังจากทริปการพาพนักงานในบริษัทไปพักผ่อนที่พัทยาจบลงประธานหนุ่มอย่างประภากรณ์ และพนักงานทุกคนในบริษัทก็กลับเข้าสู่โหมดทำงานตามปกติ ทันทีที่มาถึงบริษัทเขาก็สั่งให้พายัพไปเอาแฟ้มประวัติของพนักงานหญิงทุกแผนกที่มีสถานะโสดมาให้ ยังไงเขาก็จะต้องรู้ให้ได้ว่าเธอเป็นใคร 

หลังจากอ่านแฟ้มประวัติครบทุกคนก็สั่งให้พายัพทยอยเรียกพนักงานที่คิดว่าน่าจะเป็นผู้หญิงในคืนนั้นมาพบทีละคน แต่เรียกมาพบจนเกือบครบทุกแผนกแล้วก็ยังไม่ใช่จนเขาเริ่มหงุดหงิดขึ้นมาพานนึกโกรธตัวต้นเหตุที่ทำให้เขาต้องมานั่งทำอะไรแบบนี้ ยังเหลือแผนกบัญชีอีกแผนกเดียวหวังว่าจะพบสักที

“อย่าให้รู้นะว่าเป็นใครจะลงโทษให้หนักเลย” เสียงทุ้มเอ่ยอย่างคาดโทษ ก่อนจะออกคำสั่งกับลูกน้องคนสนิทอีกครั้ง “ไปตามกัญญารัตน์ เติมรัก และคามิลลาพนักงานแผนกบัญชีมาพบฉันหน่อยให้เข้ามาหาทีละคน”

“ครับ” พายัพพยักหน้ารับคำสั่งแล้วหมุนตัวเดินออกไปจากห้อง ทันทีที่ประตูปิดลงประภากรณ์ก็ค่อย ๆ หลับตาลงเอนหลังพิงพนักเก้าอี้เพื่อพักผ่อนสายตา และสงบอารมณ์หงุดหงิดงุนง่านของตัวเองระหว่างรอพนักงานแผนกบัญชีมาพบ

ก็อก! ก็อก!

เสียงเคาะประตูดังขึ้นทำให้คนที่หลับตาลงได้เพียงห้านาทีค่อย ๆ ปรือตาขึ้นมาพร้อมกับเปล่งเสียงตะโกนออกไป “เข้ามา”

สิ้นเสียงทุ้มประตูก็ถูกเปิดเข้ามาก่อนจะเผยให้เห็นร่างอรชรของพนักงานสาวแผนกบัญชีเดินเข้ามา วินาทีแรกที่เห็นหน้าเขาก็รู้แล้วว่าเธอคือเติมรักเพราะไม่ได้ต่างจากรูปที่ติดในแฟ้มประวัติสักเท่าไร 

ดวงตาคมกริบไล่มองร่างบางที่เดินตรงมายังโต๊ะทำงานอย่างพินิศพิจารณาพลางใช้นิ้วเคาะบนโต๊ะเป็นจังหวะ ประเมินจากรูปร่างก็มีส่วนคล้ายกับเรือนร่างผู้หญิงในคืนนั้นแต่จะให้ชัวร์คงต้องพิสูจน์อะไรอีกเยอะ

“สวัสดีค่ะท่านประธาน” นิ้วเรียวที่เคาะบนโต๊ะชะงักกึก ปลายคิ้วเข้มกระตุกขึ้นเล็กน้อยเมื่อกลิ่นน้ำหอมของร่างบางที่เดินมาหยุดตรงหน้าลอยแตะจมูกมันเป็นกลิ่นแบบเดียวกันกับคืนนั้นไม่ผิดเพี้ยนในที่สุดเขาก็ได้เห็นหน้าคนที่ปีนขึ้นเตียงสักที 

รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ผุดขึ้นประดับมุมปากหนาเสี้ยวนาทีแล้วหายไป เขาจะแสร้งทำเป็นไม่รู้ต่อไปค่อย ๆ ต้อนเธอให้จนมุมทีละนิดเพราะเกรงว่าพูดไปตรง ๆ กระต่ายตัวน้อยตัวนี้จะตื่นตูมจนวิ่งหนีเตลิดเปิดเปิงเหมือนคืนนั้นอีก

“การทำงานเป็นยังไงบ้าง” เขาพยักหน้ารับคำทักทายของพนักงานสาว ก่อนแสร้งทำเป็นถามไถ่เรื่องทั่วไปแบบเจ้านายกับลูกน้องไม่อยากทำให้ผิดสังเกต

“การทำงานราบรื่นดีค่ะท่านประธาน” เติมรัก หญิงสาวเจ้าของใบหน้าหวานตอบด้วยน้ำเสียงประหม่า มือทั้งสองข้างประสานเข้าหากันแน่นข่มความรู้สึกมากมายที่เกิดขึ้นในใจเมื่อต้องอยู่ต่อหน้าผู้บริหารหนุ่มไฟแรงหน้าตาหล่อเหลา หนำซ้ำยังเคยได้ยินพนักงานเก่า ๆ ที่นี่บอกว่าเขาเป็นคนเข้มงวดมากทุกอย่างต้องแป๊ะและเนี้ยบ

“แล้วทริปที่พาพนักงานไปพักผ่อนประจำปีคุณคิดว่าดีไหม” ประภากรณ์เพียงพยักหน้ารับกับคำตอบ แล้วเริ่มพูดตะล่อมเธอทีละน้อย สายตาก็จับพิรุธเธออยู่ตลอดเวลา

“ดีมากค่ะ”

“คุณคิดว่าปาร์ตี้คืนสุดท้ายที่ทางบริษัทจัดให้พนักงานจะชอบไหม”

“คิดว่าทุกคนน่าจะชอบค่ะ”

“แล้วคุณชอบไหม”

“ชอบค่ะ” 

เขาตะล่อมถามร่างบางตรงหน้าเรื่อย ๆ จนจับสังเกตได้ถึงความผิดปกติบางอย่างที่เธอเผลอแสดงออกมาทางสีหน้า และดวงตาที่เลิ่กลั่กไปมาราวคนมีความผิดเพราะพนักงานคนอื่นไม่ได้มีอาการแบบเธออาจมีบ้างก็แค่เกร็ง ๆ 

ดวงตาคมกริบจ้องมองคนที่ยืนหน้าถอดสีมีท่าทีรน ๆ ประสานมือเข้าหากันแน่นนิ่ง ๆ นานนับนาที ก่อนเปล่งเสียงพูดต่อด้วยน้ำเสียงและสีหน้าปกติ แต่ประโยคที่ถามไม่เกี่ยวกับเรื่องบริษัทสักนิด “น้ำหอมคุณหอมดีนะ ผมไม่เคยได้กลิ่นแบบนี้มาก่อนเลย"

“กลิ่นนี้ไม่มีขายตามท้องตลาดค่ะท่านประธานเพราะน้ำหอมกลิ่นนี้เป็นกลิ่นที่เพื่อนดิฉันผสมขึ้นมาเองค่ะ มีแค่ดิฉันกับเพื่อนสองคนที่ใช้”

“เพื่อน?” คำตอบจากพนักงานสาวทำเอาประภากรณ์ถึงกับขมวดคิ้วชนกัน เขาคิดว่าเธอจะเป็นคนเดียวที่ใช้น้ำหอมกลิ่นนี้เสียอีก ความสงสัยเริ่มก่อขึ้นในสมองเล็กน้อยจนต้องรีบถามไถ่ไปให้กระจ่าง “ แล้วเพื่อนคุณทำงานที่นี่ด้วยไหม”

“ทำที่นี่ค่ะอยู่แผนกเดียวกันด้วยค่ะ” 

คนฟังถึงกับถอนหายใจหนัก ๆ ออกมาด้วยความหงุดหงิดนึกว่าหาตัวผู้หญิงในคืนนั้นเจอแล้วเสียอีก แต่ที่ไหนได้กลับเพิ่มมาอีกคนมา งั้นก็เท่ากับว่าเขาต้องหาทางพิสูจน์ให้ได้ว่าระหว่างคนที่ยินตรงหน้ากับเพื่อนสาวของเธอใครกันแน่ที่เป็นคนในคืนนั้น 

เขาหลับตาลงพร้อมพรูลมหายใจเข้าออกเบา ๆ ระงับอารมณ์หงุดหงิดในใจ ก่อนพูดต่อ “เรียกเพื่อนคุณเข้ามาพบผมหน่อย ส่วนคุณกลับไปทำงานต่อได้” 

“ค่ะ” เติมรักน้อมรับคำสั่งประธานหนุ่มแล้วรีบหมุนตัวเดินออกไปทันที 

ประภากรณ์มองตามแผ่นหลังบางจนประตูปิดลงจึงหยิบแฟ้มของทั้งสองสาวมาเปิดเทียบกัน 

เติมรักกับคามิลลามีอะไรหลายอย่างที่เหมือนกันไม่ว่าจะเป็นน้ำหนัก หรือส่วนสูงอีกทั้งยังจบจากมหาวิทยาลัยเดียวกันมีความชอบคล้ายกัน ให้ตายเถอะเขาชักเริ่มโมโหแล้วสิมันน่าจับทั้งสองมาเค้นเอาคำตอบตรง ๆ นักจะได้ไม่ต้องเสียเวลาและปวดหัว

แกร็ก!

มือหนาปิดแฟ้มประวัตทั้งสองสาวลงแล้วเลื่อนไปไว้ริมโต๊ะเมื่อเสียงเปิดประตูดังขึ้น ก่อนตวัดสายมองร่างบางที่เปิดประตูเข้ามาอย่างสำรวจ รูปร่างของเธอดูผอมเพียวกว่าเติมรักเล็กน้อย หน้าตาสวยคมตามแบบฉบับลูกครึ่ง ส่วนเติมรักหน้าตาออกไปแนวหวาน ๆ น่ารัก ๆ 

ยิ่งเธอเดินเข้ามาใกล้เท่าไรกลิ่นน้ำหอมก็ยิ่งชัดเจนขึ้นเหมือนกลิ่นบนตัวเติมรักไม่มีผิด แล้วสรุปสองคนนี้คือใครกันที่อยู่กับเขาในคืนนั้น

“สวัสดีค่ะท่านประธาน” ใบหน้าหล่อเหลาเพียงพยักรับคำทักทายจากพนักงานสาวที่เดินเข้ามายืนหน้าโต๊ะทำงาน ปลายคิ้วเข้มกระตุกเล็กน้อยกับน้ำเสียงของเธอที่ฟังดูแหบ ๆ คล้ายกับคนไม่สบาย

ไม่รู้ว่าไม่สบายจริง ๆ หรือน้ำเสียงเป็นแบบนี้อยู่แล้วกันแน่ ซึ่งนั่นทำให้ใจของเขาเริ่มเอนเอียงไปทางเติมรักแล้วเพราะน้ำเสียงเธอนุ่มคล้ายกับคนในคืนนั้น แต่เพื่อไม่ให้ผิดพลาดเขาก็คงต้องพิสูจน์ให้มากกว่านี้

“คุณไม่สบายเหรอ” เสียงทุ้มเปล่งถามด้วยความสงสัยหลังจากนิ่งเงียบนานนับนาที ขณะที่สายตาก็จับพิรุธอยู่ตลอดเวลา

“ค่ะ” คามิลลาหญิงสาวเจ้าของใบหน้าคมคายตอบด้วยน้ำเสียงราบเรียบไม่มีทีท่าประหม่า หรืออาการใด ๆ ออกมาให้เห็นเหมือนกับเติมรัก

“การทำงานเป็นไงบ้าง มีปัญหาตรงไหนไหม” เขาเพียงพยักหน้ารับแล้วถามไถ่ต่อด้วยคำถามธรรมดาเหมือนเจ้านายกับลูกน้องทั่วไป

“ไม่มีปัญหาอะไรค่ะท่านประธาน”

“แล้วทริปที่บริษัทพาพนักงานพักผ่อนคุณมีความคิดเห็นว่ายังไงบ้าง” หลังจากได้รับคำตอบเขาก็เริ่มถามไถ่ต่อด้วยคำถามที่คล้าย ๆ กับถามเติมรักพลางจับพิรุธไปด้วย

“เป็นทริปที่ดีมากเลยค่ะ ดิฉันคิดว่าเป็นการเติมพลังกาย และเติมไฟให้พนักงานได้ดีมากค่ะ” ใบหน้าหล่อเหลาพยักรับน้อย ๆ กับคำตอบฉะฉานของพนักงานสาว ก่อนยิงคำถามต่อ “แล้วปาร์ตี้คืนสุดท้ายเป็นยังไงบ้าง คิดว่าทางบริษัทจัดได้สนุกไหม”

“สนุกมากค่ะ” คามิลลาขมวดคิ้วเล็กน้อยกับคำถามของประธานหนุ่ม แต่ก็ตอบไปตามความรู้สึกแม้จะเกิดความสงสัยเกี่ยวกับคำถามเล็กน้อย

ตอนนี้ประภากรณ์เริ่มมั่นใจเกินห้าสิบเปอร์เซ็นต์แล้วว่าเติมรักคือผู้หญิงในคืนนั้นเพราะคามิลลาไม่ได้แสดงพิรุธอะไรออกมาเลย ตอบทุกคำถามได้อย่างฉะฉาน สีหน้าก็ราบเรียบตั้งแต่เข้ามาจนถึงตอนนี้ต่างจากเติมรักสิ้นเชิงกว่าจะตอบได้แต่ละประโยคเหมือนต้องกลั่นกรองแล้วกลั่นกรองอีก สีหน้าท่าทางรน ๆ เหมือนคนกลัวอะไรสักอย่างตลอดเวลา 

เมื่อไร้ความสงสัยใด ๆ กับพนักงานสาวเขาจึงอนุญาตให้เธอกลับไปทำงานต่อ “ผมเรียกคุณมาสอบถามแค่นี้แหละ คุณกลับไปทำงานต่อเถอะ”

“ค่ะ” คามิลลาน้อมรับคำพูดเจ้านายหนุ่มแล้วหมุนตัวเดินออกไปจากห้องทันที

“เติมรัก” หลังจากคามิลลาปิดประตูลงประภากรณ์ก็เอื้อมไปหยิบแฟ้มประวัติเติมรักมาเปิดดู ไล่สายตาอ่านทุกตัวอักษรบนกระดาษอย่างละเอียด ก่อนจับจ้องรูปถ่ายของเธอด้วยสายตาคาดโทษ 

รอยยิ้มบาง ๆ ผุดขึ้นประดับมุมปากหนาอย่างมีเลศนัยเมื่อความคิดบางอย่างแวบเข้ามาในสมอง เขาคิดออกแล้วล่ะว่าจะทำยังไงให้เธอยอมรับว่าเป็นผู้หญิงในคืนนั้น

มือหนาปิดแฟ้มประวัติลงแล้วเลื่อนกลับไปไว้ที่เดิม ก่อนจะหยิบโทรศัพท์บนโต๊ะขึ้นมาต่อสายเรียกพายัพให้เข้ามาหาเพื่อสั่งงาน

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • โปรดพันธกานต์รัก   บทส่งท้าย

    หลายปีต่อมา.."อ๊ะ!" แรงสวมกอดจากด้านหลังทำให้คุณแม่ลูกหนึ่งที่กำลังก้มหน้าก้มตาล้างขวดนมบุตรสาวอยู่ภายในห้องครัวสะดุ้งด้วยความตกใจกับการมาไม่ให้สุ่มให้เสียงของคนเป็นสามี เอี้ยวหน้าไปส่งสายตาดุเล็กน้อย "รักตกใจหมดพี่โปรด""โอ้ ๆ! ขวัญเอ๋ยขวัญมา" คนโดนดุกลั้วหัวเราะออกมาเบา ๆ ยกมือขึ้นลูบศีรษะทุยเรียกขวัญพร้อมกับกดจูบข้างขมับด้วยความรักใคร่เรียกรอยยิ้มของอีกคนได้เป็นอย่างดี เธอโคตรชอบเวลาที่คนเป็นสามีแสดงความรักแบบนี้มองสบแววตาอ่อนโยนนานนับนาทีก่อนเอ่ยขึ้นอีกครั้ง "แล้วลูกละคะ""หลับอยู่ครับ" เขาเอ่ยพร้อมกับเกยหน้าบนไหล่มน สองแขนโอบกอดร่างบางไว้แนบแน่น เขาแต่งงานกับเธอมาห้าปีกว่าแล้วมีลูกสาวที่แสนน่ารักด้วยกันหนึ่งคน และยิ่งนานวันเขาก็ยิ่งรู้สึกรักเธอมากขึ้นเรื่อย ๆ เพราะทุกช่วงเวลาที่ยากลำบากเธอคอยอยู่เคียงข้างและค่อยให้กำลังเขาเสมอมา เป็นทั้งภรรยาและแม่ที่ดีที่สุด ดูแลเขากับลูกไม่เคยขาดตกบกพร่องอะไรเลยคามิลลาเพียงพยักหน้ารับแล้วก้มหน้าล้างขวดนมต่อโดยมีคนเป็นสามีโอบกอดอยู่ ทว่าเธอก็ต้องหน้านิ่วคิ้วขมวดหันควับมองคนด้านหลังอีกครั้งเพราะมือของเขาเริ่มอยู่ไม่นิ่งล้วงเข้ามาในเสื้อยืดแล้วบ

  • โปรดพันธกานต์รัก   บทที่ 32 คู่กันแล้วไม่แคล้วคลาด (จบ)

    "อารักข๋า" เสียงใส ๆ ของเด็กน้อยดังขึ้นทำให้คามิลลาที่นั่งก้มหน้าทำงานอยู่ที่โต๊ะละสายตาจากแฟ้มเอกสารเงยหน้าขึ้นมอง รอยยิ้มบาง ๆ พลันผุดขึ้นประดับมุมปากหยักเมื่อเห็นว่าเจ้าของเสียงอันสดใสคือน้องปริมเด็กน้อยวัยสามขวบเศษ ๆ ลูกสาวประภาวินท์พี่ชายของแฟนหนุ่ม รีบลุกเดินไปหาเด็กน้อยที่เดินจูงมือคนเป็นอาเข้ามา "น้องปริมมาได้ยังไงคะเนี่ย""น้องปริมขอตามอาโปรดมาค่ะ น้องปริมคิดถึงอารักค่ะ" เด็กน้อยยิ้มตอบจนตาหยีทำให้เธอทั้งมันเขี้ยวทั้งเอ็นดูจนต้องโน้มลงไปใช้มือบีบพวงแก้มอวบเบา ๆ "หื้ม นอกจากสวยแล้วยังปากหวานอีกด้วยนะเนี่ย""แน่นอนอยู่แล้วใช่ไหมครับน้องปริมนี่หลานอาโปรดนะ" ประภากรณ์เอ่ยด้วยใบหน้าเคลือบรอยยิ้มพลางมองหน้าแฟนสาว ตั้งแต่เขาพาเธอไปพบน้องปริมเมื่อหลายเดือนก่อนเด็กน้อยก็ดูจะชอบเธอเอามาก ๆ และเธอก็ดูเหมือนจะเข้ากับน้องปริมได้ดีหากวันไหนมีเวลาว่างเธอมักจะแวะเวียนไปเล่นด้วยน้องปริมตลอดบอกตามตรงว่าเวลาที่เห็นเธอเล่นกับหลานก็นึกอยากจะมีลูกเป็นของตัวเองขึ้นมาบ้างเขาก็อายุไม่ใช่น้อย ๆ แล้ว ซึ่งตอนนี้รอให้คนที่จะมาเป็นเจ้าสาวของเขาพร้อมอย่างเดียวเลย ส่วนเรื่องอื่นไม่มีปัญหาอะไรเขาได้บอกให้ผู

  • โปรดพันธกานต์รัก   บทที่ 31 เมียใจร้าย2

    "พี่โปรดยังงอนรักอีกเหรอคะ" คามิลลาเริ่มเปิดบทสนทนาทันทีที่ในห้องเหลือเพียงเธอกับเขาพร้อมกับเดินอ้อมไปนั่งบนตักยกมือขึ้นโอบลำคอแกร่งหลวม ๆ อีกคนกดยิ้มมุมปากอย่างเจ้าเล่ห๋ แต่เพียงเสี้ยวนาทีก็หายไปเปล่งเสียงตอบคนบนตักด้วยน้ำเสียงราบเรียบ "พี่ไม่ได้งอนอะไรนิครับ" "ไม่งอนแล้วทำไมทำตัวเย็นชาแบบนี้ละคะ" แววตาคมมองหน้าถามอย่างคาดคั้นปากบอกว่าไม่ได้งอนแต่การกระทำตรงข้ามกันสิ้นเชิงตั้งแต่ออกจากคอนโดจนถึงตอนนี้เขาก็เอาแต่ทำเย็นชาใส่ ขนาดเธอนั่งบนตักแบบนี้แล้วยังไม่คิดจะโอบกอดสักนิด"แค่น้อยใจที่เมียไม่ให้เอา" "มันใช่เรื่องจะมาน้อยใจไหมคะท่านประธาน" คำตอบของคนตัวโตทำเอาเธอถึงกับกลอกตามองบนถอนหายใจออกมาพรืดใหญ่อะไรมันจะขนาดนั้นกันเชียว แต่กระนั้นเธอก็ยอมง้อนั่นแหละ มือเรียวคลายออกจากลำคอแกร่งเคลื่อนมาประคองใบหน้าหล่อเหลาแทน "แล้วทำยังไงถึงจะหายน้อยใจคะ"ประภากรณ์ไม่ได้ตอบแต่ทำปากจู๋ขอจูบจากเธอแทน อีกคนส่ายหน้าระบายยิ้มออกมาบาง ๆ แต่ก็ยอมประทับจูบบนเรียวปากหยักตามคำเรียกร้อง เมื่อจะผละจูบออกกลับถูกมือหนากดท้ายทอยไว้พร้อมทั้งส่งเรียวเข้ามาในโพรงปาก และเธอก็ไม่คิดจะขัดขืนหลับตาจูบตอบ เกี่ยวกระหวั

  • โปรดพันธกานต์รัก   บทที่ 30 เมียใจร้าย1

    แสงแดดยามเช้าสาดส่องผ่านม่านสีขาวเข้ามากระทบร่างสองหนุ่มสาวที่นอนกอดกันอยู่บนเตียงปลุกให้คามิลลารู้สึกตัวตื่นขึ้นมาก่อน ขณะที่อีกคนยังนอนหลับสนิทรอยยิ้มบาง ๆ ผุดขึ้นประดับริมฝีปากอวบอิ่มเมื่อลืมตาขึ้นมาเห็นใบหน้าหล่อเหลาที่อยู่ห่างเพียงคืบเป็นอันดับแรก ดวงตาคมไล่มองสัดส่วนบนใบหน้าหล่อเหลาอย่างพินิศพร้อมใช้นิ้วกรีดกรายไปตามคิ้วดกดำ ลงมาหยุดที่แพรขนตายาวหนาที่ดูเหมือนจะยาวและสวยกว่าของเธอเสียอีกน่าอิจฉานักอดไม่ได้ที่จะเล่นกับมันโดยการลูบไปมาซ้ำ ๆ ก่อนจะลากนิ้วผ่านจมูกโด่งลงไปยังริมฝีปากสีแดงระเรื่อราวกับของผู้หญิง “จะดูดีเกินหน้าเกินตากันไปแล้วนะ” เธอพึมพำออกมาอย่างนึกอิจฉาเอาจริงเครื่องหน้าของเขาแป๊ะจนผู้หญิงอย่างเธออิจฉาหนักมาก เสียงพึมพำจากริมฝีปากอวบอิ่มทำเอาคนที่ตื่นตั้งแต่เธอลากนิ้วบนคิ้วแต่แสร้งหลับต่อหลุดยิ้มออกมา พร้อมกับเปลือกตาบางที่ปรือขึ้นมองใบหน้าเรียว “บ่นอะไรหื้ม”“บ่นว่าพี่หล่อเกินไปแล้ว” เสียงหวานบอกไปตามจริงพร้อมกับทำหน้าคว่ำใส่ด้วยความหมั่นไส้“ไม่ภูมิใจเหรอครับมีแฟนหล่อ” ประภากรณ์ถึงกับกลั้วหัวเราะออกมากับท่าทางแสนน่ามันเขี้ยวของเธอใช้มือบีบจมูกโด่งรั้นเบา ๆ ก่อน

  • โปรดพันธกานต์รัก   บทที่ 29 ความรู้สึกยังคงเหมือนเดิม3

    “หลังจากนี้ไม่อนุญาตให้หายไปไหนแล้วนะครับ” ประภากรณ์ยิ้มจนแก้มแทบแตกกับคำตอบตอนแรกก็แอบกลัว แต่ตอนนี้หัวใจพองโตคับอกแล้ว รู้สึกดีใจและมีความสุขจนอธิบายออกมาเป็นคำพูดไม่ได้ ริมฝีปากหนากดจูบบนหน้าผากมนอีกครั้งพร้อมกับสวมกอดร่างบางอย่างแนบแน่นให้สมกับที่เขารอเธอมานานแสนนาน ร่างบางกอดตอบแนบแน่นไม่ต่างกัน ใบหน้าเรียวที่เคลือบด้วยรอยยิ้มบาง ๆ ซบลงบนแผงอกแกร่งพร้อมหลับตาลง เธอชอบอ้อมกอดนี้ ไออุ่นนี้เหลือเกินให้ความรู้สึกอบอุ่นหัวใจและปลอดภัยเหมือนในตอนเด็ก ๆ ที่เขาค่อยปกป้องเธอไม่มีผิดทั้งสองยืนกอดกันอยู่อย่างนั้นโดยไม่มีใครเอ่ยอะไรออกมาปล่อยให้ภาษากายบอกความรู้สึกที่มีต่อกันแทน ผ่านไปเนินนานหลายนาทีเสียงทุ้มจึงเอื้อนเอ่ยอีกครั้ง “คืนนี้นอนที่นี่นะครับ”“ไม่ค่ะรักต้องกลับไปเลี้ยงฉลองงานวันเกิดเพื่อนต่อ แล้วกลับไปนอนที่คอนโดเติม” ใบหน้าเรียวผงกขึ้นปฏิเสธทันควัน ก่อนจะอธิบายเหตุผลให้ฟัง “รักบอกเพื่อนไว้ว่าคุยธุระกับพี่เสร็จจะกลับไปฉลองด้วย รักไม่อยากผิดคำพูดกับเพื่อนค่ะ”“ครับ” ประภากรณ์เข้าใจเหตุผลของเธอ แต่ที่ไม่ชอบคือผู้ชายคนนั้นที่มาใกล้ชิดสนิทสนมกับเธอเกินไป ดวงตาคมกริบมองหน้าถามคนในอ้อ

  • โปรดพันธกานต์รัก   บทที่ 28 ความรู้สึกยังคงเหมือนเดิม2

    ครืด! ครืด!โทรศัพท์เครื่องหรูแผดเสียงดังขึ้นทำให้เธอหลุดออกจากห้วงความคิด ก่อนจะรีบหยิบโทรศัพท์ในกระเป๋าสะพายออกมาดูเมื่อเห็นว่าเป็นเติมรักจึงกดรับสาย ส่วนร่างสูงที่ยืนอยู่ด้านหน้ารีบหมุนตัวกลับมามองด้วยแววตาดุพร้อมเปล่งเสียงถามเพราะอยากรู้ว่าคนที่โทรมาเป็นผู้ชายคนนั้นหรือเปล่า “ใครโทรมา”คามิลลาถึงกับงุนงงกับท่าทางของประธานหนุ่มความจริงใครจะโทรมามันก็เป็นเรื่องส่วนตัวของเธอหรือเปล่า ทำไมเขาถึงแสดงอาการเหมือนพ่อหวงลูกเพราะกลัวลูกจะมีแฟนไม่มีผิด“เติมรักค่ะ” ดวงตาคมมองใบหน้าหล่อเหลาอย่างไม่เข้าแต่กระนั้นก็ยอมตอบไปเพราะขี้เกียจมีปัญหาอีก จากนั้นก็กรอกเสียงพูดกับคนปลายสายต่อ อีกคนเมื่อได้รับคำตอบที่พึงพอใจจึงหมุนตัวเดินต่อโดยคามิลลาเดินตามหลังไปห่าง ๆ พลางคุยโทรศัพท์ไปด้วยจนถึงห้องของเขา“เข้ามาสิ” เธอขอวางสายจากเพื่อนสาวแล้วเดินเข้าไปในห้องของเขาตามคำเชื้อเชิญโดยง่ายอาจเป็นเพราะรู้ว่าเขาคือพี่โปรดเธอจึงไว้ใจและกล้าเข้าแบบไม่กลัวอะไร ดวงตาคมมองสำรวจรอบ ๆ ห้องอย่างพินิศพิจารณาที่นี้หรูหรา กว้างขว้างและสะดวกสบายสมราคาจริง ๆ “อ๊ะ!” ทว่าเธอก็ต้องสะดุ้งเฮือกเมื่อจู่ ๆ ก็ถูกอีกคนสวมกอดจากด้

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status