แชร์

5 เขาคนนั้นใช่ไหม

ผู้เขียน: sammi'P
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-06-19 14:26:07

หญิงสาวถึงกับบ่นอุบ นึกโมโหตัวเองที่อวดเก่งไม่ถามรายละเอียดห้องพักที่เพื่อนรักตรียมไว้ให้แม้แต่สำเนาการเข้าพักหล่อนก็ไม่ได้ขอเอาไว้     ผ่านไปกว่าครึ่งชั่วโมงก็ยังไม่มีทีท่าวินซ์จะกลับมา ท้องหล่อนเริ่มร้องประท้วงเพราะยังไม่มีอาหารตกถึงท้องตั้งแต่เช้า

ร่างสูงเพรียวทรุดนั่งบนโซฟาเนื้อนิ่มอย่างอ่อนแรง นึกจะไปหาอะไรรองท้องที่ร้านสะดวกซื้อก็กลัวจะคลาดกับเพื่อนรัก ได้แต่นั่งเพ่งสายตาหน้าประตูโรงแรมอย่างใจจดใจจ่อ หวังว่าวินซ์จะกลับมาโดยเร็วแต่ก็ไม่มีวี่แวว จนหล่อนเผลอสัปหงกเป็นพักๆ และสะดุ้งเมื่อได้ยินเสียงคุ้นหูดังขึ้นไม่ไกล

เหมือนเสียงที่คุ้นเคยในความฝัน!  

“สงสัยฉันต้องเมาเครื่องบินแน่ ได้ยินเสียงใครก็ไม่รู้เป็นเจ้าชายในฝันไปได้ ฉันบ้าไปแล้วเพราะเธอเลย... ยายวี”

หล่อนเผลอคิดดังกว่าจะรู้ตัวก็อับอายสายตาคนมอง หญิงสาวก้มหน้าก้มตางุดแต่ต้องสะดุดกับภาพชายหญิงคู่หนึ่งหน้าเคาน์เตอร์ ทั้งสองมองมาด้วยความสนใจแล้วสาวสวยก็ตรงเข้ามาทัก

“สวัสดีค่ะ ดิฉันชื่อมินนี่เป็นเลขาท่านประธาน  ได้ยินว่าคุณยังไม่ได้ห้องพัก กรุณารอสักครู่นะคะ ดิฉันจะติดต่อคุณวิลเลียมแล้วจะจัดการให้โดยเร็วที่สุดค่ะ”

เสียงหวานนุ่มพูดจาภาษาเดียวกันของสาวสวยทำให้เอรินเงยหน้ามองด้วยความดีใจ ผุดลุกขึ้นจับมืออีกฝ่าย

“โอย! ดีใจจังเลยค่ะ ฉันนึกว่าจะแย่ซะแล้ว คืองี้ค่ะ คือ ฉัน”

“มีอะไรรึเปล่ามิน เราต้องรีบเข้าประชุมนะ”

ชายหนุ่มอีกคนเข้ามาสมทบมองนาฬิกาข้อมือสีหน้าเคร่งเครียด เขาปรายหางตามองหล่อนครู่หนึ่งก่อนจะมองผ่านราวกับหล่อนเป็นอากาศธาตุ

“เธอมีปัญหาค่ะ เราคงต้องช่วยติดต่อเพื่อนให้เธอก่อน พี่นนท์ขึ้นไปก่อนก็ได้ เดี๋ยวมินตามไป”

“ก็คงต้องอย่างนั้น” ชายหนุ่มตอบเสียงนิ่ง

ทันทีที่เห็นหน้าชายหนุ่มเจ้าของเสียงชัดๆ เอรินถึงกับอ้าปากค้าง นิ่งงันจนเขานึกสงสัยจึงเอ่ยถาม

“เพื่อนที่คุณรอใช่มิสเตอร์วิลเลียม เจ้าของบ่อน้ำมัน กับมิสวินซ์  รึเปล่าครับ... คุณ?”

“เอรินค่ะ เอริน อสิราภักดิ์” หล่อนตอบตะกุกตะกัก หัวใจแทบวายเพราะมัวแต่ตะลึงมองดวงหน้าคมเข้มแต่แสนคุ้นตา น้ำเสียงนั้นช่างคุ้นหูอย่างประหลาด เสียงของเขากระตุกหัวใจหล่อนจนสะเทือนด้วยถ้อยคำและรอยยิ้มบาดใจ

“อสิราภักดิ์?”

“ใช่ค่ะ” หล่อนตอนเมื่อเห็นชายหนุ่มชะงักไปครู่หนึ่ง “คุณเคยได้ยินหรือคะ”

“แค่คุ้นๆ ว่าแต่คุณยังไม่ตอบคำถามผม”

เขาถามย้ำดูหงุดหงิดเล็กน้อย  เอรินถึงกับหน้าเจื่อนพยักหน้าแทนคำตอบ

“ก็แค่นั้น” เขาตอบแล้วหันไปสั่งพนักงาน “เปิดห้องที่วิลเลียมจองไว้ให้คุณเอรินได้เลย เขากลับมาค่อยติดต่อเธอที่ห้อง”

“เชิญคุณไปพักก่อนนะคะ ถ้าพวกเขากลับมา ฉันจะให้พนักงานโทรบอก คุณอยากให้ทางเราจัดการเรื่องซิมมือถือให้ระหว่างอยู่ที่นี่ไหมคะ เผื่อจะได้ติดต่อกันได้ง่าย”

สาวสวยถามอย่างมีน้ำใจ แต่เอรินไม่ทันฟังเพราะมัวแต่มองตามหลังชายหนุ่มร่างสูงเดินจากไปโดยไม่ทันได้ถามว่าเขาชื่ออะไร แต่ความสงสัยคงอยู่ได้ไม่นานเพราะอีกฝ่ายแนะนำตัวเองและชายหนุ่มที่เดินจากไปเมื่อครู่แทน

“ฉันชื่อสิมิลันเรียกว่ามินนี่ หรือเรียกมินก็ได้ค่ะ ส่วนคุณผู้ชายเมื่อครู่เป็นซีอีโอของโรงแรมเรา ชื่อคุณชานนท์ คิม หรือเรียกคุณอเล็กซ์ก็ได้ เขาเป็นตัวแทนของท่านประธานค่ะ”

“ชานนท์ คิม... อ๋อ... ” เอรินทวนคำสีหน้าครุ่นคิดแล้วหัวเราะเบาๆ “คงเพราะเป็นลูกครึ่งเกาหลีนี่เองถึงว่าสิคะ ดูโอปป้ามากเลย”

“ก็ดูคล้ายอยู่นะคะ” สิมิลันถึงกับหัวเราะขบขันมองเอรินด้วยสายตาเอ็นดู “คุณพ่อเขาเป็นคนเกาหลีส่วนคุณแม่เป็นคนไทย ฉันว่าฉันพาคุณไปส่งที่ห้องพักดีกว่านะคะ”

“ไม่เป็นไรค่ะ ฉันไปเองได้” หล่อนตอบพลางครุ่นคิดมองไปทางชายหนุ่มคนเมื่อครู่ ที่แท้ยังรีรอสาวสวยอยู่หน้าลิฟท์ พออีกฝ่ายมองตามสายตาหล่อนไปจึงขอตัว

“งั้นฉันขอตัวก่อนนะคะ”

“ขอบคุณคุณมินนี่มากๆ เลยค่ะ” หญิงสาวตอบพลางมองตามทั้งสองตาลอยครุ่นคิด “ชานนท์ อเล็กซ์ คิม คุณคือเจ้าชายในฝันของฉันรึเปล่า ทำไมฉันสังหรณ์ใจว่าเสียงในฝันคนนั้นคือคุณนะ”  

เกือบสามทุ่มเอรินจึงขอตัวออกจากร้านอาหารที่อยู่ฝั่งตรงข้ามโรงแรมที่วิลเลียมเลี้ยงอำลาความโสด เพราะว่าที่บ่าวสาวยังต้องรับรองเพื่อนฝูงอีกนานนับชั่วโมง หล่อนจึงเดินออกมาตามลำพัง

สะพานฮังเกอร์ฟอร์ดยามค่ำคืนสวยงามไปด้วยแสงไฟประดับสีนวลตาส่องสว่างตลอดแนวทางเดิน ผู้คนยังคงข้ามผ่านสะพานไปมาเป็นระยะ หญิงสาสวหยุดยืนช่วงกลางสะพาน แหงนมองลอนดอนอายที่อยู่ไม่ไกลจากโรงแรมอย่างเพลิดเพลิน สีสันสวยงามหลากสีสลับกันทำให้หล่อนดื่มด่ำกับบรรยากาศจนเวลาผ่านไปนานพอสมควร กว่าจะรู้ตัวก็แทบจะไร้ผู้คนบนสะพาน

ร่างบอบบางกระชับเสื้อกำมะหยี่ตัวหนาก้าวเท้าไวขึ้นหลังได้ยินเสียงฝีเท้าหนักๆ ไล่มาตามหลัง พอหล่อนหยุดเสียงฝีเท้านั้นก็หยุดตาม พอเร่งเสียงฝีเท้าก็เร็วตาม

ฉับพลันก็รู้สึกถึงแรงกระชากจนเซ หล่อนสะบัดแขนออกวิ่งหน้าตั้งเกือบพ้นราวสะพานลงสู่ถนนใหญ่ แต่อีกฝ่ายเร็วกว่าวิ่งตามมารวดเร็วแล้วหยุดยืนขวางตรงทางเลี้ยวเล็กด้านหน้า เอรินหลับตาปี๋ทั้งทุบทั้งถองใส่ร่างที่ยืนเอามือกันราวสะพานไว้

“ช่วยด้วย! พ่อจ๋า แม่จ๋า”

ชายแปลกหน้ารวบข้อมือบางของหล่อนแน่นก่อนจะตวาด “จะบ้ารึไง ผมไม่ใช่คนร้าย”

“คุณ! คุณอเล็กซ์!” หล่อนสะบัดข้อมือแต่ไม่หลุด “คุณจะทำอะไรฉัน อย่าบอกนะว่ากลางวันเป็นนักธุรกิจส่วนกลางคืนเป็นเสือผู้หญิง”

“บ้ารึเปล่า”

“ก็แล้วคุณทำแบบนี้ทำไม!” หล่อนตวาดข่มขวัญแต่มือแข็งแรงกลับกระชับข้อมือหล่อนแน่นดึงเข้าหาตัว

“หุบปากเดี๋ยวนี้ คุณจะตะโกนให้ได้ยินทั้งถนนหรือไง” ชานนท์ตวาดเสียงอ้อแอ้

“ก็ปล่อยซี้! ไม่งั้นฉันร้องจริงๆ ด้วย ช่วยด้วย!”

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • กระซิบรักฝากหัวใจที่ปลายฟ้า   35 พาตัวมาพัวพัน

    เอรินกระตือรือร้นประจบ “ไม่ได้การละหนูไปดูก่อนนะคะ” “ดูดู๊ ดูสิลูกเรานี่เร็วใช่เล่นเลยนะ เผลอเดี๋ยวเดียว วิ่งปรู๊ดปร๊าดไปโน่นแล้ว” อติมาหันมายิ้มขำ “แม่ก็อยากรู้เหมือนกันนะว่าแขกคนแรกของบ้านต้นไม้จะเป็นใคร”“พ่อยังไม่ได้บอกแม่เลย เรามีแขกคนแรกของวิลล่าต้นไม้แล้วนะ ขอพ่อดูก่อน ”“ทำไมเร็วจัง ยังไม่เสร็จเรียบร้อยเลย พ่อเอาลงเว็บแล้วหรือ”“ยัง” พัชระขมวดคิ้วครุ่นคิด “นี่แหละที่พ่ออยากรู้ แขกรู้ได้ยังไงว่าห้องใหม่ของเรากำลังจะเปิดจองแล้ว” พัชระก้มหน้าก้มตาเปิดดูใบจองของแขกที่โทรเข้ามาเช็คอิน แล้วก็ชี้นิ้วไปยังรายชื่อล่าสุดที่เพิ่งโทรมาจองเมื่อคืนโดยไม่ผ่านออนไลน์ “แปลกมาก” อติมาครุ่นคิด จากโฮมสเตย์เล็กๆ ไม่มีชื่อริมหาด ก็เริ่มขยับขยายโดยใช้ชื่อบ้านสวนโฮมสเตย์เพื่อรองรับนักท่องเที่ยว พัชระต่อเติมมาจากบ้านหลังเก่าที่เป็นมรดกตกทอดของรุ่นพ่อโฮมสเตย์เล็กๆ แห่งนี้จึงมีลักษณะแปลกแยกจากรีสอร์ตทั่วไป เพราะเป็นบ้านยกโบราณอยุธยาตามพื้นดั้งเดิมของปู่ที่เป็นคนภาคกลาง และมาเสริมต่อเติมชั้นล่างเป็นครึ่งตึกครึ่งปูน เอาไว้รองรับนักท่องเที่ยวแบบลองสเตย์

  • กระซิบรักฝากหัวใจที่ปลายฟ้า   34 ผูกพันจนใจเจ็บ

    “ไม่ต้องกลัวไม่มีอะไรแล้ว กลับเถอะคนดี” กรณ์ลูบหลังปลอบโยนกระซิบแผ่ว “ไม่มีอะไรแล้ว”กรณ์พยุงร่างบอบบางกว่าจะพาตัวกลับมาถึงบ้านสวนก็เล่นเอาแตกตื่นกันไปหมด“ลูกคนนี้นี่ไม่ค่อยแข็งแรงมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว ขอบใจนะจ๊ะ ถ้ากรณ์ไม่ไปเจอมีหวังแย่ แล้วไปเจอกันที่ไหน”“หาดฝั่งโน้นครับ หน้าบ้านร้าง”อติมาเงียบไป สีหน้าซีดเผือดครุ่นคิด“ไปทำอะไรที่นั่นคนเดียวไม่บอกกล่าวนะ”“ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน นึกสังหรณ์ใจเลยตามไปดู ผมยังแปลกใจอยู่ ดูเอรินจะรักบ้านหลังนั้นมากเป็นพิเศษ ทั้งที่ก็ไม่ได้รู้จักมักจี่กับเจ้าของบ้านสักหน่อย พอได้ข่าวว่ามีนายทุนซื้อจะเอาไปทุบทำโรงแรมใหม่คงใจหายน่ะครับ”กรณ์ตั้งข้อสังเกต อติมาได้แต่รับฟังโดยไม่ออกความเห็นใดๆ สีหน้าหนักใจขึ้นมาทันที พัชระออกมาจากห้องหลังจากพาคนป่วยไปนอนพัก ถึงกับบ่นอุบ“ทุบๆ ไปซะได้ก็ดี อยู่รกหูรกตามานานแล้ว”“พ่อ! พูดอะไรแบบนั้น”อติมาปรามเพราะมีบุคคลที่สามอยู่ด้วย พัชระชะงักไปก่อนจะเดินหนีไปหน้าเคาน์เตอร์รับแขก กรณ์ได้แต่ยืนงงจับต้นชนปลายไม่ถูก...เที่ยวบิน TG 947 จากกรุงเอเธนส์ แล่นลงแตะรันเวย์สนามบินสุวรรณภูมิตั้งแต่เช้าตรู่ ชานนท์นั่งมองผู้โดยสารทยอยลงจาก

  • กระซิบรักฝากหัวใจที่ปลายฟ้า   33 บ้านสีขาวหลังนั้น

    เอรินเดินบ่นกระปอดกระแปดออกมาจากบ้านครึ่งปูนครึ่งตึกสีขาวพร้อมกรณ์ หลังจากมื้อกลางวันเสร็จสิ้น คนที่เอาตัวพ่วงมาร่วมโต๊ะด้วยถึงกับเซ็งหนักเมื่อมีสายโทรเข้ามาที่เบอร์กรณ์ เป็นเรื่องเกี่ยวกับตึกที่เช่าไว้สำหรับเปิดออฟฟิศทัวร์ร่วมกันที่กรุงเทพอาจมีการเลื่อนระยะเวลาออกไปอีก เพราะปัญหาตกแต่งภายในท่าทีห่อเหี่ยวของคนเดินนำหน้าไปลิ่ว ๆ ทำให้กรณ์ที่เดินตามหลังมาออกจะเหนี่อยหน่ายไม่น้อย เมื่อนึกรู้ว่าเด็กดื้อของเขาออกอาการงอนอีกแล้ว“เฮ๊! จะไปไล่วัวไล่ควายที่ไหน เดินลิ่วขนาดนั้นเดี๋ยวก็ได้สะดุดหรอก”เสียงตะโกนได้ผล เอรินชะงักหันกลับมาขว้างค้อนวงใหญ่ใส่ก่อนจะโพล่งออกมา“ที่ไหนมีวัวมีควาย เห็นมีแต่ผีทะเลใส่กางเกงเลตัวเดียวออกมาเดินท่อม ๆ แถวนี้”“อยู่ชายทะเลจะอะไรมากมาย ไม่บิกินี่ตัวเดียวก็บุญแล้ว”กรณ์ก้าวยาวมาทันเลยหยิกแก้มใสหมับเข้าให้เป็นผลให้คนโดนหยิกบ่นกระปอดกระแปดอีกคราว“เจ็บนะ หยิกอยู่ได้ตั้งแต่เล็กจนโตไม่เบื่อรึไง ”“ไม่เบื่อ หยิกแล้วแก้มยุ้ยดีน่ารัก” กรณ์แสร้งทำตาหลิ่วล้อเลียน“เราก็ขายไม่ออกกันพอดี” เอรินบ่นกระปอดกระแปด แต่กรณ์ดึงไว้“งั้นเราซื้อเอง”“บ้าน่ะสิ ชอบพูดเล่นอยู่ได้”ถึงป

  • กระซิบรักฝากหัวใจที่ปลายฟ้า   32 สัญญาของเขา

    หล่อนกระซิบแล้วหอมแก้มฟอดใหญ่“คุณไม่เหนื่อยหรือ... ราเชล”ราเชลเลิกคิ้วงงคำถาม แต่เบียดกายชิดมากขึ้น เกาะเกี่ยวโอบรอบคอเขาไว้และพรมจูบทั่วแก้มสาก “ถามอะไรแบบนี้ ก็เราเพิ่ง” ราเชลพูดค้างไว้เท่านั้นริมฝีปากสวยก็ประกบบนริมฝีปากชายหนุ่มอย่างหลงใหล ชานนท์รับสัมผัสเพียงครู่แล้วเบี่ยงหลบ “ผมถามว่าคุณไม่เหนื่อยรึไง ที่ตามผมอยู่อย่างนี้ มันนานเกินไปแล้วนะกับความสัมพันธ์ชั่วคราว ผมว่าเราควรหยุด”“มันไม่ใช่ความสัมพันธ์ชั่วคราวค่ะ ฉันรักคุณ แค่คุณยังให้โอกาสฉันได้ใกล้ชิดคุณเหมือนเดิมก็ดีใจมากแล้ว” หล่อนตอบเสียงอ่อนหวานมีจริตเย้ายวน ชานนท์ถอนหายใจเหนื่อยกับการบอกปัดความสัมพันธ์ที่อีกฝ่ายไม่เคยยอมให้ความร่วมมือ ริมฝีปากหนารับสัมผัสวาบหวาม เรียวลิ้นอุ่นชื้นหวานปนขมปะแล่มด้วยรสชาติของไวน์สัญชาติฝรั่งเศสราคาแพงระยับยังคงติดอยู่ในริมฝีปากเขา ราเชลยิ้มยวนยั่วมองสบตาหวานฉ่ำ “ยังไงฉันก็รักคุณ แต่งงานกับฉันนะ อเล็กซ์” ราเชลมองสบตาคมเข้ม แววตาขอร้องยั่วยวน มือลูบไล้ไหล่เปลือยหนั่นแน่นไปด้วยกล้ามเนื้อของชายหนุ่ม แต่ชานนท์จับมือหล่อนไว้ก่อนจะย้ำ

  • กระซิบรักฝากหัวใจที่ปลายฟ้า   31 ความทรงจำถึงใครคนหนึ่ง

    สายตาเศร้าสร้อยของหล่อนทอดไกลไปยังเนินเขาอีกลูกที่อยู่ไม่ไกล ร่างหนาบึกบึนย่องเงียบเข้าไปใกล้ด้วยความลืมตัว เกาะไหล่เพื่อนสาวพลางก้มร่างสูงใหญ่ค้อมลงไปมองหน้าต่างระดับเดียวกัน “มองบ้านนั้นอีกแล้ว สนใจมากเลยนะ” “ฉันชอบห้องนายเพราะมองเห็นบ้านสีขาวหลังนั้นชัดเจนที่สุดเลย” เอรินตอบโดยไม่หันมามอง “ไม่รู้ทำไมฉันถึงชอบบ้านหลังนั้นจัง” “ชอบแค่ไหนก็ได้แต่ดูนั่นละ อีกหน่อยก็จะถูกทุบทิ้งทำเป็นโรงแรมแล้ว” “อะไรนะ!” เอรินทวนคำหน้าซีดเผือด“เขาลือกันว่าที่ผืนนี้มีปัญหามานานแล้ว ทีนี้เจ้าของใหม่ที่ซื้อไว้จะทุบทำเป็นโรงแรมเกรดเอ รู้สึกนายทุนจะเป็นคนต่างชาติด้วย” “ได้ยังไง ทำไมต้องทุบฉันเห็นบ้านหลังนี้มาตั้งแต่เกิดนะกรณ์” หล่อนถึงกับน้ำตาคลอ หันกลับไปมองอย่างนึกเสียดาย กรณ์ถอนหายใจหนักหน่วง ลูบผมหญิงสาวแล้วเย้าให้คลายเครียด“พูดเรื่องบ้านหลังนี้ทีไรต้องดราม่าทุกที เลิกเป็นนางเอกเอ็มวีแล้วลงไปกินข้าวกันดีกว่า”กรณ์ขยี้หน้าม้าของเอรินต่อด้วยความหมั่นเขี้ยว ไม่ทันได้สนใจเสียงร้องเรียกของหญิงสาวที่แต่งตัวออกจากห้องน้ำมาหยุดยืนด้านหลัง จ

  • กระซิบรักฝากหัวใจที่ปลายฟ้า   30 เพื่อนสนิทคิดไม่ซื่อ

    “ฝากบอกแม่ด้วยนะว่าป้าขอบใจ”พิมพายิ้มรับแล้วหยิกแขนเรียวเล็กด้วยความหมั่นเขี้ยว เอรินถึงหดมือโอดครวญ “โอ๊ย! แขนหนูแดงหมดป้าพิมหยิกจริงเจ็บจริงนี่คะ”“ก็น่าหยิกนัก แก่นเซี้ยวเหมือนใครก็ไม่รู้ อายุเกินเบญจเพสแล้วนะ ไม่ใช่เด็กเล็ก ๆ”“หนูเป็นแบบนี้เฉพาะอยู่กับป้าพิมกับคนอื่นหนูก็ไม่กล้าอ้อนหรอกค่า” เอรินแสร้งทำเสียงยานคางเอาใจแล้วถามต่อ “แล้วกรณ์ตื่นรึยังคะคุณป้า”พิมพาพยักเพยิดไปทางชั้นสอง “ไปตามมันไป...”“ยังไม่ตื่นหรือคะ”“ต้องให้หนูช่วยปลุกแล้ว อ้อ! มีแขกไม่ได้รับเชิญอยู่ข้างบนด้วยนะ”เอรินฟังจบกระตุกยิ้มเจ้าเล่ห์เป็นอันรู้กัน “งั้นงานนี้ต้องเจอหนู จะทำให้กระเจิงรีบลงมาข้างล่างแทบไม่ทันเลยค่ะ”พิมพาอมยิ้มขำ ท่าทางกระตือรือร้นของเด็กสาวข้างบ้านที่ไม่ว่าจะผ่านไปกี่ปีก็ยังคงร่าเริงเหมือนเดิม แต่เอรินก็เป็นแค่ลูกสาวเพื่อนรักสมัยเรียนอย่างพิมพาไหนเลยจะเหมือนลูกชายของวาสิษฐีน้องสาวผู้ล่วงลับของหล่อนที่จนบัดนี้หายสาปสูญไปอย่างไร้ร่องรอย “ยักษ์... ยักษ์ ตื่นรึยัง ฉันเข้าไปนะ” ไม่รอฟังคำตอบ เอรินแง้มประตูเข้าไป กวาดตามองห้องมืดสลัวมีเพียงแสงลอดผ่านม่า

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status