"คุณเจ้าสมุทร.. คุณไม่ควรมายุ่งเรื่องของผมกับคนของผม" เจนตพลพูดขึ้นอย่างหัวเสียเมื่อหันหน้ามาเจอใบหน้านิ่งสายตาคมดุเหมือนหมาป่าที่พร้อมจะล่าเหยื่อตลอดเวลา
"จากท่าทางของผู้หญิง เธอไม่ได้เต็มใจ" เจ้าสมุทรหันหน้ามองใบหน้าหวานนิ่ง เพราะตอนนี้เหมือนเธอจะเริ่มยืนไม่นิ่ง ธนัชชา รู้สึกร้อนมีอาการร้อนวูบวาบไปทั้งตัว เธอต้องกลับคอนโดให้เร็วที่สุด วันก่อน อาริตาเล่าเรื่องเพื่อนของในวงการ ถูกวางยา แล้วเไปช่วยได้ทัน จึงเอามาเตือนเธอเวลาจะรับน้ำหรือเครื่องดื่มจากใคร ควรที่จะระมัดระวังให้ดีแต่วันนี้เธอพลาดพลั้ง ความประมาทเลินเล่อกำลังก่อให้เกิดความเสียหายอย่างใหญ่หลวง " คุณจะรู้ได้ยังไง น้องแทน กำลังงอนผมอยู่ " " ไม่... ช่วยด้วย... ฉันไม่รู้จักเขา " ธนัชชาไม่รู้ว่าอะไรดลใจ แต่ความรู้สึกเธอบอกว่า เขาจะสามารถช่วยเธอออกจากเงื้อมมือ ของขุมนรกนี้ได้ ตั้งแต่ครั้งแรกที่เธอได้จ้องตาสีน้ำตาลนุ่มลึกคู่นี้ ตอนอยู่ภายในร้าน "น้องแทน จะโกรธพี่อีกนานเท่าไหร่ พี่บอกแล้วไงว่าพี่ขอโทษ " การเล่นละครของผู้ชายที่จับแขนเธออยู่ ทำให้เธอรู้สึกขยะแขยง ถ้าหลุดพ้นจากเหตุการณ์นี้ไปได้ สัญญากับตัวเองว่า จะไม่ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อีกเลย " แทน.. พริมกับคุณพี เดินตามหาแทนจนทั่วร้าน" พริมาเดินนำหน้าพีระมา ท่าทางของเพื่อนร่วมอาชีพคือเธอดูเป็นห่วงเธอจริงๆ แต่ตอนนี้ธนัชชาอยากออกไปจากสถานที่แห่งนี้ เธอรู้สึกไม่ปลอดภัย " คุณ.." พีระหันไปมองหน้าเจนตพล ที่ตอนนี้ทำหน้าเลิกลั่ก เหมือนกลัวความผิดเขารู้จักผู้ชายตรงหน้าดี พีระเป็นลูกชายของเจ้าสัวสื่อสิ่งพิมพ์ที่ออกสื่อบ่อยๆ ความร่ำรวยอู้ฟู่ของคนตรงหน้าแพร่ขยายมาถึงเขา แต่เจ้าตัวดันไม่รู้จักเจ้าสมุทร เพราะเขาไม่ชอบออกสื่อ " พอดีน้องแทนเดินหลงทาง ผมกำลังจะเดินไปส่ง " เจ้าสมุทรยืนมองเหตุการณ์ตรงหน้า โดยที่ไม่ได้พูดเอ่ยอะไรออกมา สถานการณ์ตรงหน้ามันทำให้วันที่น่าเบื่อของเขา ดูสนุกขึ้นอีกวัน ธนัชชามองหน้าพีระที่ตอนนี้สายตาของเขานั้นเหมือนจะกลืนกินเธอไปทั้งตัว " แทน.. จะกลับแล้ว" " ให้พี่ไปส่งไหม ยืนรอคุณปลายเป็นเพื่อนก็ได้ พี่จะได้อุ่นใจ ว่าแทนกลับถึงบ้านจริงๆ" " ให้คุณพีเขาไปส่งเถอะแทน มันอันตรายนะตอนนี้มันดึกมากแล้ว " อาการร้อนวูบวาบในตัวทำให้มือเล็กต้องยกขึ้นลูบแขนตัวเอง ใบหน้าหวานแดงเถือก เจ้าสมุทรสังเกตอาการเธอตลอดเวลา เขาสัมผัสได้ถึงความผิดปกติ เสือสองตัวอยู่ถ้ำเดียวกัน นอกจากการแสดงอำนาจความเป็นเจ้าถิ่นแล้ว ยังสงบนิ่งเพื่อสังเกตท่าทางของอีกฝ่าย การสังเกตดูคู่ต่อสู้ย่อมเป็นผลดี พีระรู้จักตระกูลภาริพงษ์เป็นอย่างดี ยิ่งพอรวมระหว่างภาริพงษ์กับบารอนยิ่งแสดงถึงอำนาจมากขึ้นกว่าเดิม บุตรชายคนโตของคุณแพรพิชชา กับสามีชาวต่างชาติ คริสโตเฟอร์ บารอน รักสันโดษ ไม่ชอบออกสื่อ ออกงานสังคมบ้างปะปราย คนตรงหน้าได้รับฉายา ราชสีห์ในแวดวงนักธุรกิจหนุ่มไฟแรง ที่แสนร้ายกาจ มีเลห์เหลี่ยมทางธุรกิจอย่างเฉียบคม ความสุขุม เยือกเย็น หลังจากที่เข้ามาดูแลบริษัทในเคลือกลุ่มธุรกิจของครอบครัว คลุมบังเหียนของภาริพงษ์โดยมี เจ้าคุณน้องชายคนรองดูแลงานฝั่งของบิดา ยิ่งกระจายอำนาจและความเจริญรุ่งเรืองมากขึ้นกว่าเดิม ผลกำไรที่เพิ่มมากขึ้นธุรกิจแขนงต่าง ๆครอบคลุมมากขึ้นกว่าเดิม เจ้าสมุทรเทคโอเวอร์รีเซ็ตระบบ กิจการระดับกลางถึงสูงที่กำลังล้มละลาย ปรับเปลี่ยนกลยุทธ์เชิงรุก จนประสบความสำเร็จ คนตรงหน้าคือคู่ต่อสู้ทางธุรกิจที่น่ากลัว พีระได้รู้ประวัติของเขาจากเลขาของพ่อของเขา เพราะครอบครัวของพีระ ก็ทำธุรกิจร่วมกับภาริพงษ์ "เป็นเกียรติอย่างยิ่ง ที่ได้เจอคุณเจ้าตัวเป็นๆ ปกติเห็นแต่ในหัวข้อข่าว ตามบทความหรือสื่อเกี่ยวกับธุรกิจ" พีระยื่นมือออกมาทำความรู้จัก ใครจะไม่อยากรู้จักคนตรงหน้า "ผมก็ได้ยินเรื่องของคุณพีระ จากคุณพ่อเหมือนกันว่าแต่.. " ชายหนุ่มหันหน้ามองไปทางธนัชชา เขาก็รู้ลึกถึงความไม่ปกติของคนตรงหน้าด้วย ภายใต้ใบหน้าหล่อสุขุมแบบผู้ดี ซ่อนสัตว์ร้ายในคราบเทพบุตรไว้จนมิด ปกติเขาก็ไม่ได้อย่างยุ่งเกี่ยวเรื่องส่วนตัวของใคร เพียงแค่ตอนนั้น เขาเผลอสบตาเธอ แล้วอะไรดลใจ ให้เขาเดินตามมา สายตาอ้อนวอนขอความช่วยเหลือ ตัดเพ้อเมื่อเขาไม่ไหวติง และมันเกี่ยวอะไรกับเขากัน แต่จะคิดได้ตอนนี้มันก็สายไปแล้วเมื่อเจาได้ก้าวขาเข้ามายุ่งเกี่ยวแล้ว " วันนี้ผมมาปาร์ตี้ ของซีรีส์ที่น้องแทนรับบทนำ พึ่งออนแอร์แล้วกระแสตอบรับดีครับ วันก่อนจีนพึ่งได้ซื้อลิขสิทธิ์ไปฉายที่นั้น" " ดีใจด้วยนะครับ " เจ้าสมุทรพูดกับพีระก่อนที่หันมาพูดกับธนัชชา " เดินตามหาตั้งนาน มาอยู่ที่นี่เอง " แล้วปราบดาก็เดินมาสมทบ "คนกันเองทั้งนั้น " " แทน.. ขอเข้าห้องน้ำก่อนนะคะ " ธนัชชาหาทางหลบหลีก เพื่อที่จะได้โทรขอกปลายฟ้า ให้ส่งคนมารับ ตอนนี้เธออยากกลับคอนโดให้เร็วที่สุด " งั้นพี่เดินไปส่งพริมที่โต๊ะก่อนนะ เดี๋ยวผมออกไปส่งแทนที่คอนโดเอง " ธนัชชาพยักหน้าก่อนที่จะเดินเข้าห้องน้ำ ดวงตากลมโตสวย เผลอมองสบตาของคนร่างสูง ที่ยืนอยู่ใกล้ทางเข้าห้องน้ำ เธอจะรีบไปล้างหน้า แล้วรีบซิ่งหลบหนีพีระ ร่างเล็กพยุงตัวเอง เข้ามานั่งในชักโครก ห้องข้างในสุด ก่อนจะเข้ามานั่งข้างใน ธนัชชาล้างหน้า แล้วเอาน้ำลูบตามแขนเรียวของตัวเอง แต่อาการร้อนวูบวาบจากข้างใน ที่มันเกิดขึ้นเป็นระลอก ใบหน้าเล็กแดง เธอกัดริมฝีปากล่างของตัวเองเพื่อสงบสติอารมณ์ สติที่ยังมีหลงเหลืออยู่ทำให้เธอตัดสินใจโทรหาผู้จัดการส่วนตัว มือเรียวเล็กกดโทรออกตั้งหลายครั้งแต่ปลายทางไม่มีคนรับสาย ธนัชชาจึงเลือกโทร เพราะตอนนี้คงเป็นเวลาใกล้จะเที่ยงคืนเข้าให้แล้ว เธอจะถามว่าผู้จัดการสาวออกมารับเธอหรือยัง ทั้งที่ก่อนหน้าปลายฟ้าพึ่งส่งข้อความมาบอกว่ากำลังออกจากโรงพยาบาลเพื่อที่มารับเธอ ความจริงตอนแรกปลายฟ้าจะมางานนี้ด้วย แต่แม่ของเธอดันเข้าโรงพยาบาลก่อน เธอจึงมาพร้อมอาริตา ใบหน้าหล่อเหลาสายตาคมดุ แต่แฝงไว้ด้วยความนุ่มลึก นั้นดันโผล่เข้ามาในหัวเธอ " ริต้า.. ช่วยแทนด้วย " " แทนเป็นอะไร ทำไมน้ำเสียงเป็นอย่างนั่น " อาริตาที่ตอนนี้อยู่คอนโดของแฟนหนุ่ม เธอกำลังโกรธเขามาก ที่หึงหวงเธอเกินใช่เหตุ จนต้องรีบกลับมาก่อน และตอนนี้พี่ไวท์์คงกำลังยืนคอตกอยู่หน้าห้อง " แทน.. กวนริต้าไหม " " พี่ปลายไม่รับสายแทนอีกแล้วใช่ไหม ไม่สิน้ำเสียงของแทนต้องมีเรื่องมากกว่านั้น" อาริตาเปิดประตูออกมาแล้วเจอแฟนหนุ่มยืนอยู่หน้าห้องจริงๆ " งั้นริต้า จะให้คนของพี่ไวท์ ไปรับแทนที่คลับเพาร์ท์ รับรองความปลอดภัย" " แทนไม่รู้จะขอบคุณริต้ายังไง " ธนัชขาจิกเล็บ เข้ากับมือตัวเอง เพื่อดึงสติตัวเอง เธอไม่เคยคิดว่า เธอจะมาเจออะไรแบบนี้ ทั้งที่พี่ปลาย พยายามเตือนเธอตลอด ว่าอย่ารับเครื่องดื่มจากคนแปลกหน้ามั่วซั่ว แต่ทุกคนก็ดื่มแต่ไม่เป็นอะไร ธนัชชาโล่งอก เมื่ออาริตาส่งข้อความมาบอกว่า คนของพี่วินท์ กำลังมาถึงภายในสามสิบนาที พร้อมทั้งบอกยี่ห้อของรถ สีและทะเบียน " รอพี่นานไหมครับ" พีระเดินมายืนขวางหน้าธนัชาไว้ " คุณพี พอดีพี่ปลายจะมารับ ขอบคุณคุณพีมากนะคะ" มือหนาของพีระยื่นมาจับแขนเธอแล้วจะดึงเธอเดินไปอีกทาง "แทนกลับเองได้ค่ะ" ร่างเล็กก้าวถอยหลังออกมาอย่างตกใจ น้ำเสียงแผ่วเบาราวกระซิบ เธอพยามรั้งตัวเองไว้ อาการร้อนวูบวาบตรงที่พีระจับทำให้ขนในกายเธอลุกชัน เธอชอบสัมผัสเขาหรอ มันไม่ใช่เธอไม่ได้ชอบเขาธนัชชามองมือตัวเองอาการตกใจเมื่อสักครู่เริ่มจะดีขึ้น นี่เธอเป็นลมไปเพราะแพ้ท้องหรอกหรือ นี่ลูกของเธอมาอยู่ในท้องเธอแล้วใช่ไหม ธนัชชาก้มมองหน้าท้องแบนราบของตัวเอง ก่อนจะมองหน้าท้องของอาริตา “ใคร... ท้อง แทนงง” ธนินท์เห็นใบหน้าลูกสาวซีดเซียวตกใจ เขายิ่งเจ็บปวดหัวใจ คิดว่าลูกสาวไม่อยากเก็บเด็กไว้ ธนัชชายังเรียนไม่จบคงยังไม่พร้อม “ไม่เป็นไรนะ ถ้าแทนตัดสินใจยังไง พ่อก็ตามใจหนูทุกอย่าง เอาออกก่อน..” ธนินท์กำลังจะพูดแต่กลับได้ยิน “ตัดสินใจอะไรครับ นั้นลูกของผม” เรื่องแรกยังไม่หายตกใจ แค่คราวนี้ร่างเล็กคือตกใจมากกว่าเดิม เจ้าสมุทรมรอยู่ที่นี่ได้ยังไง ไหนว่าเขาไปคุยงานที่ญี่ปุ่น แต่ประโยคสุดท้ายลูกเขากับใคร เขาพูดกับเธอหรอ “ขอเวลาส่วนตัว ผมขอคุยกับแม่ของลูกสองคน เรามีเรื่องต้องคุยกัน “ เจ้าสมุทรรีบตรงดิ่งมาที่โรงพยายาบาลภายใน 30 นาที เขาตื่นเต้นจนดีแลนด์ก็นั่งไม่ติดไปด้วยเช่นกัน ธนินท์จำเป็นต้องถอยออกมาด้วยความไม่เต็มใจ รวมทั้งธาวินท์ด้วย เจ้าสมุทรนั่งลงบนเตียง ก่อนที่แขนหนาจะยกร่างเล็กมานั่งบนตัก พร้อมด้วย
เจ้าสมุทรจรดปลายปากกาเซ็นชื่อทำสัญญาให้มันจบภายในไม่กี่วินาที ยิ่งเจ้าสมุทรจ้องใบหน้าเขาไม่วางตา เหงื่อไคลจึงหลั่งไหลออกมาเต็มหลัง ทั้งที่แอร์เย็นเฉียบมือหนายื่นสัญญาให้คู่ค้า ที่แทบจะร้องไห้กว่าจะนัดเจ้าสมุทรได้นั้นยากเย็นแสนเข็ญ แถมได้สัญญาระยะยาว 5 ปียิ่งดีใจขอบคุณไม่หยุด “มึงควรบอกกูว่า แทนแพ้ท้อง ก่อนที่มึง จะร่ายยาวเรื่องเธอเป็นลม” เจ้าสมุทรหยุดเดิน แล้วยกขาเตะหน้าแข้งของดีแลนด์อย่างแรงด้วยความโมโห “โอ้ย! เจ้านายครับผมเจ็บนะ” ดีแลนด์ร้องใคร่ควรไม่หยุด แต่ต้องรีบเดินก่อนที่เจ้าสมุทรจะย้อนกลับมา เตะหน้าแข้งเขาอีกครั้ง ธนัชชาหลับไปเกือบชั่วโมง ก่อนที่ปลายฟ้าจะมาปลุกร่างเล็กขึ้นมาแต่งหน้าทำผม เพื่อจะได้เตรียมตัวเข้าฉาก นักแสดงร่วมถ่ายเร็จแล้วเรียบร้อย เหลือตัวหลักนั้นคือธนัชชา ธนัชชาเริ่มรู้สึกว่าตัวเองมึนศรีษะ จนต้องใช้แขนเรียวพยุงตัวเองไว้ พอได้กลิ่นน้ำหอมในฉาก ร่างเล็กเริ่มหายใจไม่ออกหน้ามืดตาลาย จนแขนขาอ่อนแรงก้าวขาไม่ออก แขนขาหมดแรงก้าวเดิน ร่างบางทรุดฮวบเป็นลมลงไปที่พื้น แต่บังเอิญช่างกล้องที่เดินตามหลังร่างเล
“ว่าไงไงไอ้เสือ” สายตาคมดุมองนิ่งสำรวจตรวจตรา มองดูเด็กสาวที่เดินมากับหลานชายคนโตของเขา การแต่งตัวเหมือนเด็กกะโปโลนั้น เรียกสายตาเรียบนิ่ง ที่เย็นเฉียบให้จ้องมอง เอริคมองดูแฟนของหลายชายของเขา ที่ถ้าไม่รู้มาก่อนแฟนของหลานชายอายุ 23 ปี เอริคคงคิดว่ายังไม่พ้นวัยเด็กด้วยซ้ำ เด็กคนนี้หรอจะเอาหลานชายที่แสนดื้อรั้นและเอาแต่ใจอย่างเจ้าสมุทรอยู่หมัด คริสโตเฟอร์ก็ยืนอยู่กับคนเป็นพ่อตัวเอง เขาทำตัวเหมือนผู้ชมคนที่หนึ่ง “คุณเอริค ให้เกียรติมารอรับแขกขนาดนี้เลย” เจ้าสมุทรเดินไปกอดเอริค ด้วยความคิดถึง ปู่ของเขาอายุ 65 ปี แต่เพราะดูแลตัวเองอย่างดี จึงทำให้ดูไม่แก่มาก เอริคจ้องมองใบหน้าเล็กของธนัชชา จนร่างเล็กยืนเก้ๆกังๆไม่รู้จะยืนตรงไหน “ปู่เลิกแกล้งเมียผมได้แล้ว เห็นไหมเธอจะร้องไห้แล้ว” เจ้าสมุทรดึงแขนเล็กมาใกล้เอริค ก่อนที่ปู่ของเขาจะยืนจ้องหน้านิ่งขรึม จนธนัชชารู้สึกประหม่าไม่กล้าสบตามอง “อายุเท่าไหร่แล้ว หวังว่าแอสตันมัน ไม่ได้บังคับขืนใจหนูใช่ไหม” ความอ่อนโยนของผู้หญิงตรงหน้า คงเรียกอาการอยากปกป้องของหลานชายเขาพุ่งขึ้
เจ้าสมุทรพาธนัชชามาเยี่ยมนิชาดาที่โรงพยาบาล ตอนนี้ร่างเล็กนั่งคุยกับมารดาไม่หยุด ทั้งที่ก่อนหน้ากว่าเขาจะปลุกเธอให้ลุกขึ้นมาล้างหน้า ออกมาหามารดาของเธอ นั้นยากเย็นแสนเข็ญ ตอนนี้ที่แคลิฟอร์เนียกำลังจะเข้าฤดูหนาว เจ้าสมุทรกลัวที่สุดว่าร่างเล็กจะไม่สบาย การผ่าตัดเล็กเอาแท่งยาคุมกำเนิดที่ใต้แขนออกให้เธอนั้น มีร่าได้จัดการนัดอาจารย์หมอไว้แล้วเรียบร้อย “หนูผอมไปหรือเปล่าลูกน้องแทน ก่อนที่แม่จะมาอเมริกา ทำไมเราอ้วนกว่านี้” นิชาดาลูบตามตัวของลูกสาว ที่ตอนนี้ร่างเล็กกำลังนั่งปลอกผลไม้ให้เธออยู่ “ก็หนูอยากทำงาน แต่คุณเจ้าห้ามเยอะไปหมด” เจ้าสมุทรเงยหน้าขึ้นเมื่อได้ยินคนตัวเล็กพูดถึงเขา ดวงตากลมโตคู่นั้นแอบชำเลืองมองดูเขา แต่ดันสบตาเข้ากับสายตาคมดุของเขาเข้าพอดี นิชาดาเผลอหลุดหัวเราะออกมาจนเผลอไอตามมา “คุณแม่อย่าออกแรงเยอะ เดี๋ยวก็โดนลุงหมอดุอีกนะคะ” มือเล็กวางองุ่นไว้บนจานให้มารดาอย่างรักและเป็นห่วง ถึงเธอจะเคยโกรธ และไม่เข้าใจนิชาดาว่าทำไมถึงไม่กลับมาหาเธอเลยตอนเด็กๆ แต่พอเอาเข้าจริงแล้วนะ
ก่อนที่ร่างเล็กจะผุดลุกขึ้นแล้วดิ้นออกจากอ้อมกอดเขา ก็ว่าอยู่ทำไมทุกครั้งที่มองหน้าเจ้าสมุทร เธอถึงรู้สึกคุ้นเคยเหมือนเคยเจอที่ไหนมาก่อน ตั้งแต่เจอดวงตาคู่นี้ครั้งแรกแล้ว ถ้างั้นเธอจะกล้าขอความช่วยเหลือจากเขาหรือไง “จำได้ แล้วใช่ไหม” เจ้าสมุทรเผลอยิ้มออกมา ก่อนที่จะจ้องดวงตาคู่สวยคู่นี้นิ่ง ร่างเล็กโผล่เข้ากอดเขาเต็มแรง แขนเรียวเล็กกอดคอเขาแน่น “ทำไมคุณไม่บอกหนู.. หนูคิดว่า... คิดว่าคุณตายไปแล้ว คุณรู้ไหมหนูกลับไปพร้อมกลับยายแล้วเอาขนมกลับมาให้คุณ แล้วเจอเลือดเต็มไปหมด…คิดว่าคุณตายแล้ว.. อื้ออ” คืออะไรนี่เธอร้องไห้เลยหรอ เจ้าสมุทรจึงดึงร่างเล็กมากอดแล้วเพิ่มแรงรัดร่างเล็กแน่นกว่าเดิม พร้อมทั้งโยกตัวไปมาเหมือนเด็กน้อย เพื่อให้เธอหายเศร้าใจ “แต่ฉันกลับมาหาเราอีกครั้ง คนแถวนั้นบอกว่าเราย้ายบ้านไปแล้ว ตอนนั้นมาดามแพรพิชชาถึงขนาด จะรับเรามาเป็นลูกสาวบุญธรรมด้วยซ้ำ เกือบแล้ว... เกือบได้เป็นน้องสาวก่อนเป็นเมีย” ธนัชชาเผลอยกมือตีแขนเขาแรงด้วยความมันเขี้ยว อารมณ์อย่างนี้ยังมาเล่นอีก ตอนนั้นยายเธอเสียพอดี น้านิอรจึงรับเธอไปดูแลต่
“ถ้า.. งั้นหนู..” ธนัชชาไม่กล้าพูดออกมาว่า เธอไม่คุมกำเนิดแล้วก็ได้ ถ้าเขามาช่วงนี้และหลังเรียนจบ 1 ปี ที่เธอเคยวางแผนว่าจะพักก่อนที่จะต่อปริญญาโท ถ้าเขามาก็ดี “ไม่ต้องเครียด เรามานอนพักกันไม่ต้องพับแล้วผ้า อีกห้องมีแต่เสื้อผ้าเราฉันเตรียมไว้จนหมดแล้ว” เจ้าสมุทรได้แจ้งมีร่าโทรไปนัดอาจารย์หมอ เรื่องการผ่าตัดเอายาคุมที่ฝังอยู่ต้นแขนเล็กออก เขาเคยจะพาเธอไปเอาออกตั้งแต่รู้ความจริง แต่แพลนที่วางไว้คงต้องพับเก็บ เมื่อร่างเล็กยังไม่พร้อมเจ้าสมุทรก็ไม่อยากบีบบังคับเธอ “ถ้าอย่างนั้นเราไปโรงพยาบาลกัน” เจ้าสมุทรก็ยังคงนิ่งเขาเข้าใจ ในสิ่งที่เธอบอก ผ่านไปเกือบสามนาที ที่เจ้าสมุทรพยายามรักษาสีหน้าให้นิ่ง เพราะความตื่นเต้นมากเกินไป จึงดีดตัวลุกขึ้นนั่ง แล้วมองใบหน้าเล็ก ก่อนที่จะก้มลงจูบที่เปลือกตาเธออย่างแผ่วเบา แล้วลามมาที่ปลายจมูกเล็กอย่างรักใคร่ “ไม่เจ็บหรอกฉันสัญญา มีร่านัดอาจารย์หมอให้แล้ว” ธนัชชาจ้องหน้าคนตัวโตนิ่ง ก่อนที่จะทำปากยื่นออกมา ทุกอย่างดูเตรียมพร้อม นี่เขารู้อยู่แล้วใช่ไหมว่