บทที่ 4 คนที่เธอกลัว
“มองอะไร อยากโดนควักลูกตาเหรอ” โรสที่กำลังอารมณ์เสียหันไปเอาเรื่องคนขับรถของไฟที่กำลังเปิดประตูรถให้เธอ
ไฟหันไปทางหญิงสาวก่อนจะมองชุดที่เธอใส่ เธอใส่ชุดเดรสเกาะอกสีดำอวดเนินอกขาวส่วนความยาวของกระโปรงก็สั้นจนน่าหวาดเสียว “แต่งแบบนี้ไม่ให้คนมองสิแปลก” เขาพูดเบาๆ กับตัวเอง
“นายไม่ต้องไปแล้ว ไปเอารถฉันมา” เขาสั่งคนขับรถก่อนจะลงจากรถแล้วเดินมาหยุดตรงหน้าเธอ “ไม่นึกว่าจะตรงเวลา” โรสหันไปมองคนพูดด้วยความไม่พอใจ
ความจริงเธอก็ไม่ได้อยากไปกับเขานักหรอก เมื่อตอนบ่ายหลังจากกลับมาจากบ้านของเขาเธอก็ไปฟ้องพ่อของเธอเรื่องที่เขาทำทันที แล้วก็ขอเปลี่ยนคนดูแลแต่พ่อเธอไม่ยอมแล้วก็บอกกับเธอว่าถ้าเธอจะไปไหนต้องให้เขาพาไปเท่านั้น และเธอต้องเชื่อฟังเขา
“เชอะ” เธอสะบัดหน้าหนีเพราะไม่อยากคุยด้วย ไม่นานคนขับรถของเขาก็ขับรถมาจอดก่อนจะเอากุญแจรถมาให้เขา
“ถ้าจะไปก็ขึ้นรถ” เขาพูดเสร็จก็เดินไปขึ้นรถฝั่งคนขับไม่แม้แต่จะแสดงความเป็นสุภาพบุรุษเปิดประตูรถให้เธอด้วยซ้ำ
“แอสตัน มาร์ติน แวนควิชซ่ะด้วย เป็นแค่ทนายแต่มีปัญญาขับรถแพงๆ แบบนี้ด้วย ดูท่านายเองก็คงไม่ใช่ทนายที่ดีสักเท่าไร” เธอหันไปพูดกับเขาหลังจากขึ้นมานั่งบนรถแล้ว เขาไม่ได้ตอบโต้อะไรเธอแต่กลับออกรถด้วยความแรงจนหลังเธอกระแทกกับเบาะที่นั่งจนเจ็บ “นี่นายขับรถให้มันดีๆ หน่อยได้มั้ย อุตส่าห์มีปัญญาขับรถแพงๆ ก็ช่วยขับให้มันเหมือนคนหน่อย”
“ถ้าไม่อยากลงจากรถก็รัดเข็มขัดแล้วนั่งไปเงียบๆ” เขาบอกเธอโดยไม่แม้แต่จะหันไปมอง
ใช้เวลาไม่นานทั้งสองคนก็มาถึงจุดหมาย โรสเดินตามชายหนุ่มขึ้นมาจนถึงชั้นสองของร้านแล้วเข้าไปในห้องวีไอพีที่เขาจองไว้คุยกับลูกความ
“นายนัดเจอลูกความของนายในที่แบบนี้เหรอ มันดูไม่ใช่สถานที่ที่คนดีๆ เขาจะมาคุยเรื่องงานกันเลย” เธอเดินมานั่งข้างๆ เขาก่อนยื่นหน้าไปคุยกับเขาใกล้ๆ “ให้เดานะลูกความของนายคงเป็นพวกพ่อค้ายา หรือไม่ก็พวกลูกคนรวยโดนคดีใช่มั้ย”
“เธอไม่ไปหาเพื่อนเธอเหรอ นัดกับเพื่อนไว้ไม่ใช่หรือไง” เขาหยิบเมนูขึ้นมาดูเพราะไม่อยากสนใจคนข้างๆ แต่เธอก็ยังไม่ยอมหยุดก่อกวนเขา
“นี่ ฉันถามนายจะไม่ตอบฉันหน่อยเหรอ อีกอย่างตอนนี้เพื่อนของฉันก็ยังไม่มีใครมาสักคน นายคุยกับฉันหน่อยสิ” เธอใช้นิ้วกดเมนูที่เขากำลังดูลง เพื่อให้เขาสนใจเธอวันนี้เธออุตส่าห์แต่งหน้าแต่งตัวจัดเต็มเพราะกะจะมายั่วเขาเต็มที่ แต่เขาก็ยังจะเอาแต่เมินเธออยู่ได้
“ข้อมูลของลูกความเป็นความลับฉันไม่สามารถบอกเธอได้ แล้วก็เชิญเธอออกไปได้แล้วอีกเดี๋ยวลูกความฉันก็จะมาถึงแล้ว”
“รีบไล่จัง ฉันขออยู่เจอหน้าลูกความของนายหน่อยไม่ได้หรือไง ฉันอยากเห็นตอนนายทำงานได้มั้ย” เธอขยับตัวเข้ามาใกล้เขามากขึ้นจนหน้าอกของเธอเกือบจะชนกับแขนของเขา แต่เขาก็ยังคงเฉยทำเพียงแค่มองเธอด้วยหางตา
“หึ อยากจะอยู่ก็เชิญ ฉันเตือนเธอแล้วนะ” เขาพูดเสร็จก็หันไปสนใจเมนูต่อก่อนจะเรียกพนักงานเข้ามาแล้วสั่งเครื่องดื่ม
เธออดแปลกใจไม่ได้ที่เขายอมเธอง่ายๆ แต่ยังไม่ทันได้ถามให้หายข้องใจประตูห้องวีไอพีที่ทั้งสองอยู่ก็เปิดออกพร้อมกับลูกความของเขาปรากฏตัวขึ้น แล้วเธอก็ได้รู้เหตุผลที่เขายอมให้เธออยู่ด้วยเขาคิดจะแกล้งเธอชัดๆ เพราะลูกความของเขาคือผู้ชายคนเดียวในโลกใบนี้ที่เธอกลัว
“พี่ธาม” โรสเรียกลูกความของเขาเสียงเบาจนเหมือนกระซิบ
“หึ” ชายหนุ่มหัวเราะในลำคอเบาๆ กับท่าทีของเธอที่พยายามหลบสายตาดุที่ลูกความของเขากำลังส่งมาให้เธอ คุณท่านเคยบอกกับเขาว่ามีคนคนหนึ่งที่ทำให้ลูกสาวของท่านกลัวได้ คนคนนั้นก็คือคุณธามหรือหมอธามลูกพี่ลูกน้องของเธอ
“สวัสดีครับหมอธาม สั่งอะไรดีครับ” เขาลุกขึ้นทักทายหมอธามที่เป็นลูกความของเขาก่อนจะยื่นเมนูให้
“ไม่เป็นไร ผมสั่งแล้ว” หมอธามนั่งลงฝั่งตรงข้ามเขา และยังมองคนที่พยายามใช้ตัวเขาเป็นที่หลบภัยด้วยสายตานิ่ง
“ไม่ต้องหลบหรอก หลบยังไงพี่ก็เห็น” พอหมอธามพูดจบหญิงสาวก็หันมายิ้มทักทายหมอธามด้วยท่าทีที่ต่างจากตอนที่อยู่กับเขาอย่างกับเป็นคนละคน “แต่งตัวได้ดีนี่ แต่งแบบนี้สินะถึงได้มีเรื่องตลอด แต่ช่างเถอะตอนนี้เธอเองก็โตแล้วอยากจะแต่งแบบไหนก็เรื่องของเธอ พี่ไม่ยุ่งหรอก แต่ระวังตัวเองหน่อยก็แล้วกัน” หมอธามทั้งดุแหละเตือนหญิงสาวด้วยความเป็นห่วง
“ค่ะ” โรสตอบรับคำสั้นๆ ก่อนจะพยามดึงกระโปรงแสนสั้นของเธอลงทั้งๆ ที่มันลงมามากกว่านั้นไม่ได้แล้ว
“แล้วคิดไวหรือยังว่ากลับมาแล้วจะทำอะไร หรือจะอยู่เฉยๆ ไปก่อน” ธามยังคงถามน้องสาวของเขาต่อ
“คิดไว้แล้วค่ะ โรสว่าจะเขาไปช่วยคุณพ่อทำงานที่บริษัท แต่คุณพ่ออยากให้โรสพักก่อนอีกสักเดือนค่อยไปเริ่มงานค่ะ” ทันทีที่ได้ยินคำตอบธามก็ขมวดคิ้วก่อนจะถอนหายใจออกมา
โรสรู้สึกอึดอัดจึงพยามหาข้ออ้างเพื่อจะเลี่ยงออกมา “โรสนัดเพื่อนไว้พี่ธามคุยธุระต่อเถอะนะคะ โรสไม่กวนแล้ว” แต่ดูเหมือนความต้องการของเธอจะไม่เป็นผล เพราะคำพูดของทนายหนุ่มที่นั่งข้างๆ เธอ
“จะรีบไปไหน คุณบอกว่านัดเพื่อนไว้สี่ทุ่มไม่ใช่เหรอ นี้พึ่งจะสองทุ่มกว่าเอง ไปนั่งรอคนเดียวจะไม่เหงาเหรอ นั่งรอในห้องนี้ดีกว่าไหนๆ ก็คนกันเองทั้งนั้น” ไฟพูดพร้อมกับส่งยิ้มใจดีให้ แต่โรสมองออกว่าเขาแค่เล่นละคร
ถ้าตอนนี้คนที่นั่งอยู่ในห้องไม่ใช่พี่ธามพี่ชายที่เธอกลัว เธอกล้าเอาหัวเป็นประกันได้เลยว่าเธอต้องเข้าไปทึ่งหัวเขาแน่ๆ แต่เธอทำแบบนั้นไม่ได้เพราะมีสายตาดุจ้องมองอยู่
“ฉันไม่อยากรบกวนนายนะ ไหนนายบอกว่าข้อมูลของลูกความเป็นความลับไม่ใช่เหรอ มันคงจะไม่ดีหรอกถ้าฉันนั่งฟังด้วย” โรสยังพยายามหาข้ออ้างต่อไป
“ไม่เป็นไรหรอก ไม่ได้มีข้อมูลสำคัญอะไร” ไฟบอกก่อนจะหันไปถามธามที่นั่งอยู่ตรงข้าม “ให้คุณโรสนั่งรอกับพวกเราได้หรือเปล่าครับ”
“อืม” ธามตอบรับหน้านิ่ง
โรสกลับไปนั่งที่เดิมอย่างขัดใจแต่ก็ทำอะไรไม่ได้ เธอเลยได้แต่กระซิบคำขู่ให้กับคนที่นั่งข้างๆ เธอ “ฝากไว้ก่อนเถอะ”
ไฟกับธามเริ่มพูดคุยเกี่ยวกับคดีที่เขาทำ โดยคดีที่ธามให้ชายหนุ่มทำคือคดีฟ้องหมิ่นประมาทที่พวกเกรียนคีย์บอกพิมพ์โจมตีแฟนสาวของเขา ถึงคดีจะไม่มีอะไรยากเพราะความผิดก็แทบจะชัดเจนแล้วก็สามารถเจรจาได้ แต่ที่ยากก็คงเป็นตรงที่ธามต้องการให้ฟ้องทุกคนที่ต่อว่าแฟนสาวของเขาในเรื่องที่ไม่เป็นความจริง ซึ่งมีจำนวนเยอะมากเพราะแฟนของธามเป็นถึงนักร้องดัง
โรสนั่งฟังทั้งสองคนคุยกันด้วยความรู้เบื่อเพราะเธอไม่เข้าใจเรื่องที่พวกเขาคุยกันเลย เธอเลยได้แต่นั่งเร่งในใจขอให้เวลาผ่านไปเร็วๆ แต่ดูเหมือนจะไม่มีใครเห็นใจเธอเลยเพราะเวลาผ่านไปช้ามาก กว่าที่เธอจะหลุดพ้นจากห้องนั้นได้
“รู้แบบนี้ไม่น่าตามขึ้นไปเลย” เธอบ่นก่อนจะเดินไปร่วมโต๊ะกับเพื่อนๆ ของเธอที่มาถึงแล้ว
“หวัดดีโรเซ่ที่รัก” เพื่อนเธอลุกขึ้นมากอดทักทายเธอทันทีที่เดินมาถึง
“พวกเราคิดถึงมากเลยรู้มั้ย คิดถึงมากถึงขนาดต้องตามมาหาเธอที่เมืองไทยเลย” เพื่อนอีกคนของเธอที่นั่งอยู่พูด
“เหอะ ที่มานี่เพราะคิดถึงฉันจริงเหรอ หรือคิดถึงอะไรกันแน่” เธอถามอย่างรู้ทัน
“ก็คิดถึงเธอด้วย ส่วนเรื่องอย่างอื่นเป็นของแถม”
“เหรอ ไม่ใช่เรื่องอย่างว่าเป็นเรื่องหลักแล้วฉันเป็นของแถมหรอกเหรอ” เธอพูดแขวะเพื่อนๆอย่างตรงๆ
“เรื่องนั้นก็สำคัญแต่ไม่เท่าเธอหรอก เธอเคยเล่าให้พวกเราฟังเรื่องคนดูแลของเธอที่น่ากินคนนั้นจำได้มั้ย เรียกมาหน่อยได้มั้ยพวกเราอยากเห็น” โรสเบ้ปากให้เพื่อนๆ ของเธอทันที เธอคิดไว้แล้วว่าที่เธอถูกชวนมาต้องเป็นเรื่องผู้ชาย
“ข้างบนนั่นไง ที่ยืนข้างๆ พี่ชายฉัน” โรสชี้เป้าจุดที่ชายหนุ่มอยู่ เพื่อนเธอเลยรีบหันไปมองตรงจุดนั้นทันที แล้วก็ต่างกรี๊ดเพราะความหล่อของชายหนุ่ม
“หล่อ หุ่นน่ากินมากถ้าเธอไม่สนยกให้พวกเรานะ” หนึ่งในเพื่อนเธอรีบเอ่ยปากขอทันที
โรสยิ้มให้เพื่อนคนนั้นก่อนจะตอบ “เชิญ ถ้าเธอมีปัญญาทำให้หมอนั่นไปกับเธอได้ก็ตามสบาย”
“ไม่หวงจริงอ่ะ ว่าแต่ฉันสนพี่ชายเธอมากกว่านะหล่อดุดีสเปกเลยแนะนำให้ฉันหน่อยสิ”
“ไม่”
“ทำไมหวงพี่เหรอ“
“เปล่า ฉันแค่ไม่อยากมีพี่สะใภ้แบบเธอ”
ส่วนทางด้านสองหนุ่มที่คุยธุระเสร็จก็เดินออกมายืนที่ระเบียงเพื่อดูการแสดง วันนี้คนที่ทำการแสดงก็คือลาน่านักร้องสาวที่เป็นแฟนสาวของธาม คนที่ธามให้ไฟช่วยทำคดีให้
“คุณลุงให้นายเป็นคนดูแลยัยเด็กแสบนั้นเหรอ” ธามพูดพร้อมกับมองไปที่โต๊ะที่โรสนั่งอยู่กับเพื่อนๆ
ไฟเองก็มองไปที่จุดนั้นเช่นเดียวกัน ”ครับ”
“ดูเหมือนคุณลุงจะโยนงานที่ยากให้นายเลยนะ”
“ก็พอตัวเหมือนกันครับ”
“ยังไงฉันก็ฝากนายด้วยก็แล้วกัน เด็กนั่นถึงจะแสบแต่ก็ไม่ใช่คนเลวร้ายอะไร ก็แค่ชอบเรียกร้องความสนใจมากไปหน่อยแค่นั้น” หมอธามตบไหล่เขาเบาๆ ก่อนจะเดินลงบันไดไปเพื่อไปรับแฟนสาวที่ทำการแสดงจบลง
“ชอบเรียกร้องความสนใจงั้นเหรอท่าจะจริง” ไฟพูดกับตัวเองเบาๆ ก่อนจะยืนล้วงกระเป๋าแล้วจ้องหญิงสาวที่อยู่ข้างล่างอย่างไม่ละสายตา
ตอนที่ 72 รอบแรก ลูกไม่น่าจะมา NC -จบ-หลังจากที่เขาปลดปล่อยทุกหยดเข้าในกายเธอ เสียงหอบหายใจยังสะท้อนในความเงียบของห้องนอน ร่างเปลือยเปล่าของโรสนอนพาดอยู่บนอกเขา ผิวเนียนนุ่มแนบแน่นไปกับแผ่นอกแกร่งที่ยังร้อนระอุจากไฟรักเธอกำลังจะเคลิ้มหลับ แต่เสียงทุ้มต่ำของคนใต้ร่างก็ดังขึ้นใกล้ใบหู พร้อมกับลมหายใจอุ่น ๆ ที่เป่ารด“รอบแรก… ลูกไม่น่าจะมานะโรส”“หืม” เธอขมวดคิ้วงัวเงีย ถามเสียงแหบไฟยกยิ้มมุมปาก รอยยิ้มที่โรสรู้ดีว่ามันหมายถึงอะไร เธอมองไฟที่ยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์และหื่นมาก“คงต้องต่อรอบสอง…” มือหนาเริ่มเลื่อนลูบไปตามต้นขาเธออย่างมีจังหวะ ก่อนจะล้วงเข้าไปในจุดที่ยังฉ่ำชื้นจากบทรักที่ผ่านมา“ไฟ…” โรสสะดุ้ง มือเล็กผลักอกเขาเบา ๆ “ไม่เอาแล้ว… ฉันเหนื่อย”“เหนื่อยก็แค่นอนเฉย ๆ เดี๋ยวฉันทำเอง” เสียงของเขาแหบพร่า แต่แฝงด้วยความอ่อนโยนอย่างเหลือเชื่อ “นะ… อดใจไม่ไหวแล้วจริง ๆ&rdqu
ตอนที่ 71 พิธีแห่งรักของเธอและเขา NCเสียงเพลงคลอเบา ๆ ท่ามกลางบรรยากาศสวนสวยยามเย็นที่ถูกประดับด้วยผ้าโปร่งสีขาว ดอกกุหลาบสดเรียงรายทั้งสองฝั่งทางเดิน โคมไฟแขวนลอยระยิบระยับเมื่อแสงแดดอ่อนท้ายวันตกกระทบ สร้างภาพที่เหมือนความฝันแขกเหรื่อเริ่มทยอยเข้ามาจับจองที่นั่ง อนุวัตรในชุดสูทหรูยืนอยู่หน้าเวทีด้วยรอยยิ้มเปี่ยมด้วยความภาคภูมิใจข้างพัชชา ที่แม้จะยังไม่เรียกกันว่าภรรยา แต่วันนี้โรสก็ไม่ได้กันเธอออกไป พัชชาเพียงยิ้มเงียบ ๆ ขณะมองบรรยากาศแห่งความสุข“เจ้าสาวมาแล้วค่ะ”เสียงพิธีกรกล่าวขึ้น ท่ามกลางเสียงฮือฮาเบา ๆ จากแขกในงานโรสในชุดเจ้าสาวสีขาวสะอาดที่ปักลูกไม้ละเอียดทุกตารางนิ้ว เดินเยื้องอย่างสง่างามในอ้อมแขนของพ่อ เธอดูสวยที่สุดเท่าที่ทุกคนเคยเห็น ผมถูกรวบขึ้นหลวม ๆ ติดดอกไม้สีขาวที่ขับให้เธอดูอ่อนโยนในแบบที่เธอไม่เคยรู้ตัวมาก่อนไฟยืนรออยู่หน้าแท่นพิธี ดวงตาเขามีแต่ภาพของโรส เขากลั้นรอยยิ้มไว้ไม่ได้เลยตั้งแต่เธอก้าวขาแรกออกมาจากมุมโค้งต้นไม้เมื่อโรสเดินมาถึง ไฟยื่นมือออกไปรับจากพ่อของเธอ อนุวัตรสบตากับเขาเล็กน้อ
ตอนที่ 70 ว่าที่เจ้าสาวเสียงเรียกเข้า วีดีโอคอล ดังขึ้นบนหน้าจอมือถือของ “สิ” ที่ตอนนี้นั่งอยู่ในร้านกาแฟเล็ก ๆ พร้อมกับเอกสารการหย่าฉบับจริงที่เพิ่งรับมาเมื่อเช้า“ตายแล้ว เธอโทรมาเวลานี้ ต้องมีเรื่องเด็ด” สิพูดกับตัวเองก่อนจะกดรับสายภาพใบหน้าสวยจัดของโรสโผล่มาเต็มจอ พร้อมกับรอยยิ้มที่ผิดปกติชัดเจนนั่นมัน…ยิ้มคนมีความรักหนักมาก“อะไรของเธอ ยิ้มแบบนี้ อย่าบอกนะว่าคุณทนายทำอะไรเธอมาอีกแล้ว ว่ามารอบนี้จะอวดอะไรล่ะ”โรสหัวเราะเบา ๆ แล้วเอนตัวพิงพนักเก้าอี้ในห้องนอนของไฟ เธอกำลังอยู่บ้านเขา ที่ตอนนี้เธอเริ่มรู้สึกเหมือนเป็น บ้านของเธอด้วย“ฉันมีเรื่องจะบอกแต่ห้ามกรี๊ด ห้ามร้องไห้ ห้ามอิจฉา เพราะฉันก็ยังงงอยู่เหมือนกัน”สิหรี่ตามอง “พูดมาขนาดนี้…อย่าบอกนะว่าท้อง”“ไม่ใช่ ยัยบ้า” โรสหัวเราะเสียงดัง “เขาขอฉันแต่งงานเมื่อคืนนี้เอง”สิเงียบไป 0.2 วินาที แล้ว“กรี๊ดดดดด ขอแต่งงานเหรอ พูดจริงใช่มั้ย โรสเล่าเดี๋ยวนี้”โรสหลุดหัวเราะกับรีแอคชั่นของเพื่อนที่ไม่มีฟิลเตอร์แม้แต่นิดเดียว ก่อนจะเอา
ตอนที่ 69 แค่เธออยู่ฉันก็ไม่กลัวโถงหน้าห้องฉุกเฉินเงียบสงัด มีเพียงเสียงนาฬิกาเดิน กับลมหายใจหนัก ๆ ของคนสองคนที่นั่งอยู่เคียงกันไฟนั่งกอดไหล่โรสไว้แน่น ขณะที่โรสก็จับมืออีกข้างของเขาแน่นไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน เธอไม่พูดอะไรแต่เขารู้ว่าเธอกำลังพยายามกลั้นน้ำตา“ไม่เป็นไรนะโรส แม่ฉันเข้มแข็ง”“ฉันรู้ แต่ฉันก็กลัวอยู่ดี”เสียงของโรสเบาราวกระซิบ น้ำเสียงเครือสะท้อนถึงความตกใจที่เธอพยายามกลืนมันลงไปไฟลูบแขนเธอเบา ๆ จูบหน้าผากเธอเพื่อให้เธอมั่นใจ… ทั้งที่หัวใจของเขาก็ไม่ต่างกันรออยู่เกือบชั่วโมง ประตูห้องฉุกเฉินก็เปิดออก และชายในชุดกาวน์สีขาวก็ปรากฏตัวขึ้น“พี่ธาม”โรสลุกขึ้นทันทีเมื่อเห็นพี่ชายของเธอ หมอธามถอดถุงมือออกขณะเดินมาหา ดวงตาสบตาน้องสาวและชายหนุ่มที่อยู่เคียงข้างอย่างจริงจังแต่ไม่ตึงเครียด“แม่นายปลอดภัยแล้ว ฟื้นแล้วด้วย ตอนนี้ยังอยู่ในห้องสังเกตอาการ แต่ไม่ต้องห่วงนะ ไม่มีภาวะอันตรายเฉียบพลัน”โรสถอนหายใจเฮือกแรงจนตัวโยนก่อนจะร
ตอนที่ 68 ถึงเวลาเก็บกวาดห้องประชุมใหญ่ของบริษัทเต็มไปด้วยบรรยากาศกดดันเล็ก ๆ แม้จะเป็นเพียงการประชุมแผนกบริหารตามปกติ แต่วันนี้มีบางอย่างต่างออกไปโรส นั่งอยู่ที่หัวโต๊ะ ด้านซ้ายคือพัชชา ด้านขวาคือผู้จัดการฝ่ายบัญชีการเงิน ชื่อว่า “คุณเอกชัย” ชายวัยสี่สิบที่อยู่กับบริษัทมานาน มีผลงานดี แต่ช่วงปีหลังกลับมีรายงานการเงินที่คลาดเคลื่อนหลายครั้งระหว่างประชุม ทุกอย่างดูปกติ จนกระทั่งโรสเปิดโปรเจคเตอร์แสดงข้อมูลบางอย่างขึ้นมา“ก่อนจะจบประชุม ฉันขอเพิ่มเรื่องหนึ่งค่ะ เรื่องความปลอดภัยของข้อมูลในบริษัทเรา”เสียงของโรสนิ่งเฉียบ แววตาเธอเย็นเฉียบขึ้นเรื่อย ๆ จนหลายคนเริ่มกลืนน้ำลาย“มีพนักงานระดับสูงคนหนึ่ง ส่งข้อความไปเตือนบุคคลภายนอก ให้หนีการตรวจสอบของฝ่ายกฎหมายที่เราส่งไป ทั้งที่บุคคลนั้นคือผู้ต้องสงสัยในคดีอาญา”เธอหันไปทางเอกชัยทันทีโดยไม่มีการอ้อมค้อม“และข้อความนั้น ก็ส่งออกจากเครื่องที่ล็อกอินชื่อของคุณค่ะ คุณเอกชัย”เสียงในห้องเงียบกริบ ทันใดนั้นหน้าของเอกชัยซีดเผือด เขาพยายามตั้งสติ“ผม...ผมไม่ได้ตั้งใจจะทำร้ายบริษัทนะครับ ผมแค่ เขาแบล็กเมล์ผม ผมเคย ยักยอกเงินบริษัทไปใช้หนี้พนันนิด
ตอนที่ 67 ให้อภัยแสงไฟหัวเตียงสลัวอาบผิวของหญิงสาวที่นอนเอกเขนกอยู่บนเตียงหลังอาบน้ำเสร็จ กลิ่นหอมอ่อน ๆ จากแชมพูผสมกลิ่นกายของโรสลอยฟุ้งในอากาศ เธอกำลังใช้ผ้าขนหนูเช็ดผมพลางบ่นเบา ๆ“พรุ่งนี้ฉันจะเข้าบริษัทแล้วนะ ทิ้งงานไว้นานขนาดนี้ ถ้าไม่รีบกลับไปทำ พัชชาคงจะปีนขึ้นเหยีบหัวฉันแน่ ๆ ”ไฟที่นั่งอยู่ข้างเตียง เงยหน้าขึ้นมองเธอ เขายิ้มนิด ๆ แล้วถามเสียงเบา“เธอยังโกรธพัชชาอยู่เหรออีก”โรสเงียบไปครู่หนึ่งก่อนจะวางผ้าขนหนูลง หันมานั่งพิงหมอนแล้วตอบอย่างหนักแน่น“ไม่หรอก เรื่องนั้นฉันไม่คิดอะไรแล้ว ไม่ได้แค้น ไม่ได้อยากทำลายเธอ แต่จะให้กลับไปยิ้มแย้มญาติดีด้วยน่ะ มันก็ยาก แล้วที่สำคัญ”เธอหันขวับไปมองเขา ตาคมมีแววเจ็บปนดื้อรั้น“ฉันไม่มีวันยอมรับเธอเป็นเมียใหม่ของพ่อ”ไฟพยักหน้าเบา ๆ เขาไม่พูดปลอบ ไม่พยายามโน้มน้าวอะไร เพราะเขารู้ว่าโรสไม่ต้องการคนชี้นำ เธอแค่อยากมีใครสักคนฟังและเข้าใจ ซึ่งเขาเลือกที่จะเป็น “คนนั้น”เขาขยับเข้าไปใกล้ก่อนจะเอื้อมมือมาเกลี่ยผมเปียกของเธออย่างเบามือ แล้วพูดช้า ๆ ด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยน“ไม่ต้องยอมรับใครก็ได้ แค่ยอมรับว่าฉันจะอยู่ข้างเธอ ไม่ว่ากับใคร ไม่ว่าเม