“อุ๊ย!” ฉันอุทานตกใจเพราะอยู่ๆ ก็รู้สึกว่ามีแมลงสาบไต่แก้มก้นเข้ามาในกระโปรงของฉัน “กรี๊ดดด อร๊ายย..อร๊ายย อย่านะ เอ๊ย..” “มีอะไรหนูจ๋า” พ่อเมฆตะโกนถามผ่านบานประตูห้องน้ำพร้อมกับเขย่าลูกบิด “กรี๊ดดด ตัวอะไรก็ไม่รู้ค่ะ มันเข้ามาในกระโปรงหนูแล้ว อร๊ายยย” ฉันลุกขึ้นเต้น พยายามปัดตามตัวด้วยความกลัว “อื้ออ ช่วยด้วยค่ะพ่อ ช่วยด้วย อร๊ายย..” ขาดคำ พ่อเมฆเปิดประตูเข้ามาอย่างร้อนใจ แต่พอเห็นท่อนล่างของฉันเปลือยเปล่าก็ชะงัก ทั้งกลีบอูมก้นขาวโชว์หรา เตะตา เตะใจ เตะอารมณ์ให้ซวนเซ
ดูเพิ่มเติมนิยายเรื่องนี้ประกอบด้วยเรื่องสั้น 3 เรื่อง
ได้แก่
1.พ่อแฟนดุดัน
2.เติมเชื้อไฟให้เพื่อนพ่อ
3.พ่อเพื่อนขอเลื่อนสถานะ
บทนำ
พ่อแฟนดุดัน
“บวมแดงหมดเลย”
ฉันยืนถ่างขา ก้มมองตรวจเช็คโหนกอูมกลางหว่างขาด้วยความกังวลปนหวาดหวั่น ภายในห้องน้ำของป้อมยามอพาร์ตเม้นต์ โหนกอูมอวบอิ่มนวลเนียนแดงแจ๋ที่ผ่านการกระแทกกระทั้นจัดหนักจากหัวหน้า รปภ.ผู้ดุดันดั่งช้างสาร
ชายวัยห้าสิบเศษ เจ้าของลำร้อนดุ้นโตที่ทำให้ฉันร่ำร้องครวญครางเหมือนจะขาดใจตายเมื่อสิบนาทีที่ผ่านมา..เวลาประมาณครึ่งชั่วโมงภายในห้องน้ำแห่งนี้ ที่ฉันยืนกระดกก้นปรนเปรอแท่งยักษ์ด้วยความหวาดหวั่นครั่นคร้าม
“โอวว..บวมแดงเหมือนตูดลิงเลย ..ซี๊ดส์ อูย เจ็บชะมัด อ่าห์ ไม่เคยเจออย่างงี้เลย” ฉันลูบคลำเนินอวบอูมปลอบประโลม หลังจากที่ฉันทำร้ายมันด้วยการยอมให้ท่อนฉกาจของหัวหน้ายามทะลวงเข้ามาจนน้ำทะลัก
“อืมม..ไม่ไหวแล้ว” ฉันหย่อนก้นกลมนั่งลงบนโถชักโครก ปล่อยฉี่ลงโถ ให้น้ำฉี่ช่วยชำระล้างน้ำกามในช่องสวาท เสร็จแล้วก็ใช้สายชำระฉีดล้างคราบใคร่น้ำอสุจิตามร่องกลีบและรูเนื้อจนสะอาด แล้วลุกขึ้นยืน ลากปลายกระโปรงนักศึกษาทรงเอที่คาอยู่ตรงสะเอวลงมาปิดป้องช่วงล่าง
“อ๊ะ กางเกงในล่ะ”
ก๊อก ก๊อก..เสียงเคาะประตูห้องน้ำดังแทรกขึ้น ก่อนจะเป็นเสียงกระซิบกระซาบ “หนูจ๋า ..เสร็จยัง”
เขาคือคนที่ทำเครื่องรักฉันระบมนั่นแหละ คงเห็นว่าฉันอยู่ในห้องน้ำเงียบๆ มาเกินสิบนาทีแล้ว
“อื้อ” ฉันตอบสั้นๆ หันไปหยิบกระเป๋าสะพายบนเคาน์เตอร์อ่างล้างหน้ามาสะพายไหล่แล้วเปิดประตูห้องน้ำ เผชิญหน้ากับชายวัยห้าสิบสวมชุด รปภ.สีฟ้ายืนอยู่ตรงหน้า ใบหน้าคร้ามเข้มกับเครางามทำให้เขาดูโหดและดุดันสมกับเป็นลุงยามจอมโหดแห่งเลิฟเวอร์อพาร์ตเม้นต์
อพาร์ตเม้นต์ที่มีทั้งคนวัยทำงานและนักศึกษาเช่าอยู่อาศัย ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือฉันกับแฟนหนุ่ม เราสองคนเป็นนักศึกษาชั้นปี1ของมหาลัยใกล้ๆ นี่แหละ แฟนฉันเรียนวิศวะ ส่วนฉันเรียนนิเทศน์ เราสองคนคบหากันมาประมาณหนึ่งปีแล้ว ก็นับตั้งแต่เข้ามหา’ ลัยได้เดือนกว่าๆ นั่นล่ะ
เราสองคนเช่าห้องพักอยู่ด้วยกันที่ชั้นเจ็ดของเลิฟเวอร์อพาร์ตเม้นต์ ห้องของเราคือห้องริมสุดของชั้น ห้อง730 ซึ่งอยู่ใกล้กับทางหนีไฟที่สุด
“เป็นไง เจ็บเหรอ” เขาถามฉันทันทีที่เห็นหน้าฉัน ถามเหมือนห่วงใย แต่จริงๆ ลำพองผยองในฝีมือตัวเอง ที่สามารถทำให้ฉันเจ็บได้
ฉันเม้มริมฝีปาก พยักหน้า “ก็ใหญ่อ่ะ ใหญ่เกิ๊ล”
“แล้วดีมั้ย ชอบมั้ย” เขาถามต่อด้วยสีหน้าตื่นเต้น หลุบตามองช่วงล่างของฉันด้วยสายตาเร่าร้อนซ่อนไม่มิด ไม่ได้รู้สึกผิดกับลูกชายแม้แต่นิดเดียว
“อืม” ฉันตอบเหมือนไม่ได้ชอบมาก ทั้งที่โคตรชอบ “แต่เราไม่น่าทำกันเลยค่ะพ่อ ถ้าไอ้นนท์รู้เข้า...”
ฉันทั้งโกรธทั้งแค้นที่โดนแฟนสวมเขา แอบพาสาวมากินที่ห้องที่ฉันเป็นคนจ่ายค่าเช่า พามาหยามกันถึงบนเตียงที่ฉันหวงแหน ผ้าปูที่นอนลายดอกเดซี่ตะมุตะมิน่ารักแต่ฉันก็ไม่ใช่คนที่จะไปโวยวายอาละวาดเรื่องผู้ชายให้อายผู้อายคนหรอกนะ ฉันไม่ชอบทำอะไรแบบนั้น ฉันโทษแฟนตัวเองมากกว่าผู้หญิง เพราะตบมือข้างเดียวมันไม่ดังหรอกฉันปล่อยให้พวกมันสนุกกันเต็มที่ ส่วนฉันออกจากอพาร์ตเม้นต์ไปซื้อเบียร์กระป๋องกินที่ร้านสะดวกซื้อหน้าปากซอย ตอนนั่งกินเบียร์อยู่ที่โต๊ะหน้าร้านสะดวกซื้ออย่างช้ำใจนั่นเอง อยู่ๆ พ่อเมฆก็วางเบียร์สามกระป๋องลงบนโต๊ะ นั่งลงตรงข้ามกับฉัน แล้วเราก็ดื่มเบียร์ด้วยกันครั้งแรกดื่มไปคุยไปจนเวลาล่วงเลยถึงสี่ทุ่ม..“หนูยังไม่อยากกลับห้อง” ฉันมึนนิดหน่อย แต่ไม่ถึงกับเมา เบียร์สามกระป๋องทำไรฉันไม่ได้“ไปพักที่ป้อมยามก่อนมั้ย” เขานำเสนอ“อืมม ที่ป้อมยามเหรอคะ ..ดีเหมือนกัน แต่ขอซื้อเบียร์เพิ่มอีกสอง-สามกระป๋องนะคะ”คืนนั้นเราซื้อเบียร์กระป๋องมาดื่มกันต่อที่ป้อมยามอีกครึ่งโหล นั่งดื่มคุยกันไปสักพัก ฉันก็เอ่ยขึ้นมา...“บางที ..หนูอาจจะเลิกกับนนท์ค่ะ”“อ้าว ทำไมล่ะ”“เพราะมันเล็กค่ะ” เพราะเมานิดหน่อยเลยควบ
อานนท์ไม่ปลื้มพ่อเอาเสียเลย ทั้งบ่นทั้งด่าให้ฉันฟังจนถึงหน้าอพาร์ตเม้นต์นั่นล่ะ เรื่องที่พ่อเป็นคนเจ้าชู้ไก่แจ้ ทำแม่เสียใจจนป่วยตรอมใจตาย เขาล่ะเกลียดพ่อสุดๆ หากเป็นไปได้ก็ไม่อยากเจอหน้าให้รำคาญใจแต่ข่าวร้ายก็คือ “พ่อได้งานที่นี่แหละ เป็นหัวหน้า รปภ. จะมาเริ่มงานสัปดาห์หน้า”อานนท์ถึงกับอารมณ์เสีย ฟึดฟัดขัดใจ “ทำไมต้องที่นี่ หรือว่ามาติดสาวแถวนี้”“นนท์” ฉันปรามแฟนพ่อเมฆยิ้มขำ ไม่ใช่ว่าแกไม่รู้ว่าลูกชายคนเดียวของแกโกรธแกขนาดไหน “พ่อแค่อยากมาอยู่ใกล้ๆ กับลูกชาย ไม่ได้รึไงวะ เราไม่ค่อยได้เจอกันเลยนะ”อานนท์ส่ายหน้าระอาใจกับความกะล่อนลื่นไหลของพ่อ เขาเดาว่าพ่อน่าจะมาติดนักศึกษาแถวนี้แหละ แต่ไม่อยากรับรู้ ไม่อยากยุ่งด้วย “เออๆๆๆ เรื่องของพ่อแล้วกัน ยังไงเราก็ต่างคนต่างอยู่อยู่แล้ว”พูดจบอานนท์เดินฟึดฟัดเข้าห้องน้ำไป ส่วนฉันแกะถุงอาหารใส่ถ้วยชาม เตรียมกินมื้อเย็นด้วยกัน“พ่อไปก่อนดีกว่า เดี๋ยวเจ้านนท์มันอารมณ์เสียไปมากกว่านี้” พ่อเมฆพูดขึ้น ด้วยสีหน้าขบขัน ไม่ถือสาหาความลูกชาย ชินชากับการโดนเมินใส่ไปแล้ว“อยู่กินข้าวด้วยกันก่อนสิคะ หนูซื้อมาเยอะเลยค่ะ”“อย่าดีกว่า เดี๋ยวแฟนหนูมันกินข้าว
“ใช่ค่ะ หนูชื่อจ๋านะคะ สวัสดีค่ะพ่อ” ฉันยกมือไหว้พ่อแฟนตามมารยาท ..แอบหน้าชาที่ก่อนหน้านี้ดันไปคิดทะลึ่งกับท่อนเอ็นของเขา “นนท์ติดเรียนช่วงเย็นน่ะค่ะ เลยไม่ได้กลับมาพร้อมกัน”“งั้นพ่อกลับไปก่อนก็ได้”“ไม่เป็นไรค่ะ พ่อเข้าไปนั่งพักในห้องก่อนนะคะ เดี๋ยวนนท์ก็กลับแล้วค่ะ” ฉันเปิดประตูให้พ่อแฟนเข้าห้อง ไม่ได้คิดอะไรมาก ที่ต้องอยู่กันสองต่อสองในห้องขนาด35ตารางเมตร กระทั่งเกิดอุบัติเหตุขึ้น ฉันทำกาแฟหกใส่ตักของเขา“อุ๊ย ขอโทษค่ะพ่อ”“ไม่เป็นไรๆ” พ่อเมฆลุกจากโซฟา หยิบกระดาษทิชชูมาซับน้ำกาแฟที่เลอะเต็มเป้ากางเกง ..โชคดีที่กาแฟไม่ร้อนมาก ไม่งั้นได้กินไข่ลวกแน่“พ่อเปลี่ยนกางเกงก่อนดีกว่าค่ะ เดี๋ยวหนูหากางเกงของนนท์ให้ใส่ค่ะ”ฉันส่งพ่อแฟนเข้าห้องน้ำ ส่วนตัวเองไปค้นกางเกงในตู้ ได้กางเกงบอลมาหนึ่งตัว แล้วเอามายื่นที่ประตูห้องน้ำ“พ่อคะ กางเกงค่ะ” พ่อเมฆแง้มประตูออก ยื่นมือออกมารับกางเกงบอลจากมือเธอ จังหวะนั้นเองที่ฉันดันมองรอดช่องประตูเข้าไปเห็นท่อนฉกาจขนาดใหญ่แข็งโด่ชูชันของพ่อแฟนเข้าเต็มตา เสี้ยววินาทีเดียวที่ได้เห็น แต่ติดตาติดใจมาจนถึงทุกวันนี้ ..อะไรมันจะใหญ่ขนาดนั้น“อนาคอนด้าชัดๆ” เรียกว่า
พ่อเมฆเป็นชายวัยห้าสิบผู้แข็งแกร่งและน่าเกรงขาม ใบหน้าคร้ามคมเข้ม รูปร่างสูงใหญ่กำยำสมเป็นทหารนักรบ ขณะลูกชายน่าจะได้เชื้อแม่มาเยอะ อานนท์แฟนฉันเป็นหนุ่มหล่อตี๋ รูปร่างกระทัดรัดค่อนไปทางผอม มีกล้ามเนื้อพองาม แต่ไม่ได้บึกบืนเหมือนพ่อ“เปียกหมดเลย หนาวมั้ย” พ่อเมฆยื่นผ้าขนหนูผืนเล็กให้ฉัน เผลอมองหน้าอกฉันซะงั้น ทำฉันแอบหนาวกว่าเดิม “เอาแจ๊กเก็ตพ่อไปใส่ก่อนมั้ย”“ไม่เป็นไรค่ะ หนูขอเข้าห้องน้ำหน่อยนะคะ” เพราะปวดฉี่จะทนไม่ไหวอยู่แล้ว“ตามสบายเลยจ้ะ”ฉันแสร้งทำเป็นมองไม่เห็นสายตากระลิ้มกระเหลี่ยของพ่อเมฆ สายตาร้อนแรงแฝงความเจ้าชู้ เหมือนตอนเจอกันครั้งแรกเมื่อสามเดือนก่อน เจอกันตอนที่เขายังไม่รู้ว่าฉันเป็นแฟนของลูกชายเขา และฉันเองก็ไม่รู้ว่าเขาเป็นพ่อของแฟนฉันครั้งแรกเราเจอกันในลิฟต์ เขามองฉันตาเชื่อม ขณะที่ฉันรู้สึกสนใจรูปร่างกำยำกล้ามแน่นของเขา แอบคิดว่าชายวัยกลางคนคนนี้ดูแลตัวเองดีจัง แล้วก็เผลอมองดุ้นอ้วนๆ ที่ซ่อนอยู่ในเป้ากางเกงยีนอย่างตื่นตาตื่นใจ แอบคิดขำๆ คนเดียวว่าลุงแกพกห่อหมกมากินด้วยเหรอเนี่ยตอนนั้นเองที่ฉันเผลอทำถุงใส่ของที่ถืออยู่ตกพื้น ทำให้ขนมปังกับช็อคโกแล็ตกระจายบนพื้น รว
ฉันถอดชุดนักศึกษาใส่ในตะกร้ารอซักตรงมุมห้องใกล้ตู้เสื้อผ้า จะถอดกางเกงในก็ปรากฏว่ามันไม่อยู่แล้ว..ฉันตกใจนิดหน่อย เมื่อรู้ว่าลืมกางเกงในไว้ในห้องน้ำป้อมยาม ป่านนี้พ่อแฟนตัวดีคงเจอมันแล้วล่ะฉันในสภาพเปลือยกายล่อนจ้อน หยิบผ้าขนหนูที่แขวนอยู่ใกล้ตู้เสื้อผ้า เดินเข้าห้องน้ำ ปิดประตูแต่ไม่ล๊อคลูกบิด เผื่อรูมเมทอยากใช้ห้องน้ำด้วย“อ่า..” น้ำอุ่นทำให้ฉันสบายตัวขึ้น ทำให้เลือดลมหมุนเวียนตั้งแต่หัวจรดปลายเท้า แต่ก็ไม่ได้ทำให้ฉันสบายใจนัก ฉันรู้สึกเหมือนมีชนักติดหลัง“อืมม..” พอเลื่อนมือลูบคลำโหนกอูมก็ทำให้อดคิดถึงเรื่องเร่าร้อนที่เกิดขึ้นในห้องน้ำป้อมยามไม่ได้การกระแทกสุดดุดันในท่าดอกกี้แบบหันหน้ามองกระจก ลำท่อนฉกาจที่กระแทกเต็มแรงจนแก้มก้นฉันแทบพัง รูสวาทแทบจะปลิแตกแหลกเหลว น้ำสวาทที่ฉีดพล่านเต็มอัตตราจนล้นเอ่อ ฝ่ามือใหญ่ที่เลื่อนขึ้นบีบคลำสองเต้าในเสื้อนักศึกษา อย่างเมามัน กระหืดกระหาย“โอวว ..ทำไม...” ทำไมฉันถึงยอมให้พ่อแฟนทำแบบนั้นกับฉันนะ ทำไมฉันไม่ห้ามเขาไว้ ทำไมฉันยอมให้เขาถกกระโปรงนักศึกษาขึ้น ยอมให้เขาถอดกางเกงในตัวจิ๋วลงคาหัวเข่า ยอมให้เขาใช้นิ้วเขี่ยไล้และใช้ปากลิ้นดูดเลียร่องสวาท
ใช่แล้ว...หัวหน้ายามที่ฉันเพิ่งมีเซ็กซ์ด้วยคือพ่อแฟนของฉันเองใช่...ใช่จริงๆนะ ฟังไม่ผิดหรอก เขาเป็นพ่อแฟนของฉัน!!เขาเพิ่งจะมาทำงานเป็นหัวหน้า รปภ.ได้ประมาณสามเดือนเศษๆ หลังตัดสินใจเด็ดขาด ลาออกจากงานราชการทหารชายแดน เพราะเบื่อป่าเบื่อเขาเบื่อความทุรกันดาน เพื่อชีวิตจำเจตามป่าชายแดน เลยบอกลาชีวิตทหารที่ทำมานานหลายสิบปี ย้ายมาหาประสบการณ์แปลกใหม่และความตื่นเต้นในเมืองกรุง..เมืองศิวิไลซ์ที่ใครๆก็ต่างมาหาโอกาสให้ชีวิตผู้พันเมฆา หรือลุงเมฆ พ่อแฟนของฉัน แกเป็นพ่อหม้ายมาห้าปีแล้ว หลังแม่แฟนหรือเมียของแกนั่นแหละได้เสียชีวิตไป แกก็ไม่เคยคบใครจริงจังถึงขั้นอยู่กิน แต่ก็คุยหวานคุยแหววกับผู้หญิงหลายคน ตามประสาคนเจ้าชู้ประตูดินที่กินไม่เคยอิ่ม“อ่า...หนูกลับห้องก่อนนะคะ” ฉันรีบตัดบทไม่ให้ยืดเยื้อ เพราะอยากจะออกไปจากป้อมยามแล้ว ไม่อยากมองหน้าแก ไม่อยากสบตากับแก ..ไม่ใช่เพราะรังเกียจเดียดฉันท์อะไรหรอกนะ แต่มันอึดอัดทำตัวไม่ถูก ท้องไส้มันปั่นป่วนแปลกๆ“เดี๋ยวสิ” เขาคว้าข้อมือฉันไว้อย่างเว้าวอน ฉันตกใจนิดหน่อยก่อนรีบแกะมือเขาออกเหมือนรำคาญ ชักสีหน้าเล็กน้อยพอเป็นพิธี ทำเหมือนไม่พอใจ“แล้วเราจะ..” แ
ความคิดเห็น