Share

กรรมนั้นคืนสนอง 1/1

last update Last Updated: 2025-08-08 09:36:58

ขณะที่แขกเหรื่อกำลังสนทนากันอย่างออกรส ภายหลังจากองค์หญิงใหญ่ได้เสด็จกลับจวนไปได้ไม่ถึงหนึ่งเค่อ ซึ่งยามนี้ในวงสนทนามีเหล่าฮูหยินหลายตระกูล ต่างกล่าวชื่นชมบุตรสาวของตนไปมาตั้งแต่เริ่มงานเลี้ยง เพื่อเป็นการมองหาบุรุษให้กับบุตรสาวของตน

หนึ่งในนั้นยังมีซูอันที่นั่งอยู่ข้างกายพี่สาวโดยไม่พูดสิ่งใด พวกนางมิได้ตอบรับหรือถามอันใดเพิ่มเติม ทำเพียงแค่ยิ้มบางให้กับบางคำถามเท่านั้น เนื่องจากสองพี่น้องตระกูลจิน ไม่เคยคิดบังคับบุตรของตนในเรื่องของการเลือกคู่ครอง

ส่วนเสี่ยวฮัวที่ตั้งหน้าตั้งหน้าวิ่งมาจากเรือนรับรอง นางย่อมรู้ว่าควรวิ่งไปหาผู้ใดเพื่อรายงานเรื่องที่เกิดขึ้น แฮ่ก ๆ ๆ “ฮูหยินเจ้าคะเกิดเรื่องใหญ่แล้วเจ้าค่ะ ทะ ทะ ที่เรือนรับรองมีคนทำเรื่องบัดสีอยู่ในนั้นเจ้าค่ะ”

พรึบ! “เจ้าว่ามีเรื่องอันใดเกิดขึ้นในจวนของข้านะ พูดมาให้ชัดว่ามันเป็นเรื่องอะไรกันแน่!” เหอฮูหยินมารดาของฟงเฉิงฮ่าวแทบนั่งไม่ติด เมื่อได้ยินสาวใช้ของจวนวิ่งหน้าตาตื่น เข้ามารายงานเรื่องที่ไม่ควรเกิดขึ้น

“เมื่อครู่บ่าวพาคุณหนูหยางไปเปลี่ยนเสื้อผ้าที่เรือนรับรอง แต่บ่าวกับคุณหนูหยางกลับได้ยินเสียงบุรุษกับสตรี กำลังทำเรื่องบัดสีอยู่ในเรือนรับรองอีกหลังหนึ่ง จึงรีบวิ่งมารายงานให้ฮูหยินทราบเจ้าค่ะ”

เยี่ยนหลิงที่ไม่ได้รับรู้ถึงแผนการของบุตรชายกับหลานสาว หลังจากได้ยินสาวใช้ของจวนรายงานสิ่งที่เกิดขึ้น จึงมีอาการตกใจตามสถานการณ์ไปโดยปริยาย

“ตายจริง! เป็นผู้ใดกันถึงได้ใจกล้าทำเรื่องหน้าละอายเช่นนี้ได้ ท่านแม่เรารีบไปที่เรือนรับรองกันเถิดเจ้าค่ะ เพราะควรรีบหยุดเรื่องนี้โดยเร็วที่สุด”

ซูอันก็เข้าผสมโรงไปกับพี่สาวเช่นกัน “ใช่เจ้าค่ะท่านป้า แต่ข้าว่าควรกันพวกแขกบุรุษที่มาร่วมงานไว้ด้วยนะเจ้าคะ หากสตรีที่อยู่ในเรือนรับรองเกิดเป็นคุณหนูคนใดคนหนึ่งขึ้นมา จะได้ไม่ต้องรู้สึกอับอายจนเกินไปเจ้าค่ะ”

ไฉฮูหยินที่เป็นมิตรสหายกับตระกูลฟงมานาน สนับสนุนความคิดของซูอันเพราะไม่อยากให้บุรุษทั้งหลายมีส่วนร่วม “เหอฮูหยินข้าเองก็เห็นด้วยกับจินฮูหยินนะ หากมีบุรุษตามไปเป็นพรวนแล้วเห็นเรือนร่างของหญิงสาว เกรงว่าจะทำให้พวกนางอับอายจนรับความอัปยศนี้ไม่ไหว”

เยี่ยนหลิงยิ่งกว่าเห็นด้วยกับน้องสาว นางจึงเอ่ยกับแม่สามีว่าตนจะบอกให้สามีจัดการเรื่องนี้ให้ “ท่านแม่ข้าจะให้ซูอันไปเป็นเพื่อนท่านนะเจ้าคะ ประเดี๋ยวข้าจะไปบอกท่านพี่กับท่านพ่อ พวกเราจะช่วยกันรับหน้าแขกอยู่ทางนี้ ไม่ให้เข้าไปยุ่งที่เรือนรับรองเองเจ้าค่ะ”

“พวกเราจะไปเป็นเพื่อนเหอฮูหยินด้วยก็แล้วกัน เพื่อจะได้เป็นพยานว่าตระกูลฟงเป็นผู้บริสุทธิ์” โหรวฮูหยินเสนอความคิดของตน แต่อันที่จริงนางแค่อยากรู้ว่า คนที่ก่อเรื่องเป็นบุตรหลานตระกูลเสียมากกว่า

เมื่อเห็นว่าทุกคนล้วนมีความเห็นคล้ายกัน จึงหันไปทางลูกสะใภ้เพื่อฝากดูแลเรือนใหญ่ และเชิญเหล่าฮูหยินตามตนไปยังเรือนรับรอง “เช่นนั้นแม่ฝากทางนี้ให้เจ้าช่วยดูแลด้วยนะ รบกวนฮูหยินทุกท่านช่วยตามไปเป็นพยานให้ข้าแล้ว”

ซูอันช่วยพยุงเหอฮูหยินเดินตามเสี่ยวฮัวออกจากเรือนใหญ่ พร้อมกับฮูหยินอีกนับสิบคนที่เดินตามมาติด ๆ เยี่ยนหลิงที่ยืนส่งแม่สามีจนพ้นเรือนใหญ่ จึงสั่งให้เมิ่งฉีคนของตนไปตามสามีและน้องเขย มาพบนางที่มายืนรออยู่หน้าเรือนโดยเร็ว

“เมิ่งฉีเจ้าไปบอกสามีของข้ากับน้องเขยที ว่าข้ารอพบพวกเขาอยู่ด้านหน้าเรือน มีเรื่องสำคัญเร่งด่วนให้รีบมา”

“รับทราบขอรับฮูหยิน”

ด้วยท่าทางอันเร่งรีบของเมิ่งฉี ย่อมเป็นที่สังเกตของอู๋ซวนกับไห่หยุน เพราะพวกเขาคอยติดตามเจ้านายอยู่เสมอ เมื่อเห็นเช่นนั้นไห่หยุนจึงปลีกตัวออกมาพูดคุยทันที โดยอู๋ซวนคอยมองว่าไห่หยุนจะส่งสัญญาณอันใดกลับมาหรือไม่

“มีอันใดหรือเมิ่งฉี ข้าเห็นเจ้าเดินเข้ามาท่าทางแปลก ๆ”

“ไห่หยุนเจ้าช่วยเรียนคุณชายรองและคุณชายหยางให้ข้าที ยามนี้ฮูหยินมีเรื่องสำคัญต้องการพบทั้งสองโดยเร็ว”

ได้ยินเมิ่งฉีพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง ดวงตานิ่งสนิทไม่ใช่การกล่าวเล่น ๆ ไห่หยุนจึงหันไปทางอู๋ซวน เพื่อส่งสัญญาณผ่านสายตาที่มองเลยไปถึงเจ้านายของตน ด้านอู๋ซวนพยักหน้ารับเป็นอันรู้กัน

ฟงเฉิงฮ่าวกับหยางไท่หมิงที่กำลังฟังการสนทนา เมื่ออู๋ซวนเดินเข้ามาเรียกตนเองสั้น ๆ ก็พอเดาได้ไม่ยาก จึงเอ่ยขอตัวกับผู้อาวุโสออกมาพบเมิ่งฉี

ฟงเฉิงฮ่าวเอ่ยถามคนของภรรยาที่ยืนรออย่างสงบ “เจ้าพูดมาเถิดเมิ่งฉีหลิงเอ๋อร์ให้เจ้ามาตามข้าใช่ไหม”

“เรียนคุณชายรองฮูหยินต้องการพบท่านกับคุณชายหยาง เนื่องจากมีเรื่องบางอย่างเกิดขึ้นในจวนขอรับ”

“นางอยู่ที่ใด...”

“ฮูหยินรอคุณชายรองอยู่หน้าเรือนใหญ่ขอรับ”

“อืม ขอบใจมาก อาหมิงพวกเรารีบไปพบหลิงเอ๋อร์กันเถิด ข้าอยากรู้ว่าเกิดเรื่องอันใดในงานเลี้ยงฉลองของอาเหวินกันแน่”

หยางไท่หมิงแม้จะพอคาดเดาเรื่องบางอย่างได้ แต่เขายังไม่มั่นใจนักว่าจะเกี่ยวข้องกับบุตรสาวหรือไม่ มีเพียงตามสหายไปพบพี่สาวภรรยาเท่านั้น ถึงจะยืนยันเรื่องที่อยู่ในหัวของเขาได้

ฟงเฉิงฮ่าวเดินมาเห็นว่าภรรยาของตน เดินไปเดินมาบนใบหน้ามีความกังวล ไม่รอช้าเขารีบเดินเข้าไปไถ่ถามเยี่ยนหลิงทันที “หลิงเอ๋อร์เจ้าให้เมิ่งฉีไปตามพี่กับอาหมิงมาพบ มีเรื่องอันใดเกิดขึ้นในจวนเช่นนั้นหรือ”

“ท่านพี่ น้องเขย มีเรื่องไม่งามที่เรือนรับรองของจวน ยามนี้ข้าให้ซูอันไปกับท่านแม่และฮูหยินอีกหลายคน ส่วนข้าที่มาพบท่านเพราะอยากให้กันเหล่าบุรุษไว้ที่นี่ หากพวกเขาอยากรู้อยากเห็นพากันไปที่นั่น เกรงว่าจะยิ่งทำให้สตรีด้านในรับความอัปยศไม่ไหวเอาได้เจ้าค่ะ”

“ฮึ่ย! บังอาจทำเรื่องเลวทรามในวันดี ๆ ของอาเหวินเชียวรึ ข้าอยากรู้นักว่าเป็นบุตรหลานจากตระกูลใด ช่างอบรมสั่งสอนบุตรหลานได้ดีจริง ๆ”

หยางไท่หมิงมั่นใจเต็มสิบส่วนแล้วในยามนี้ ว่าเรื่องดังกล่าวต้นตอย่อมมาจากบุตรสาวของตน “อาฮ่าวทำตามที่ฮูหยินเจ้าบอกเถิด ให้คนมาเฝ้ารอบ ๆ เรือนใหญ่โดยเร็ว ป้องกันมิให้ใครเดินไปมาจนห้ามไม่ทัน ส่วนเรื่องที่ว่าเป็นบุตรหลานตระกูลใด หลังจากจบงานเลี้ยงพวกเราย่อมได้รู้อย่างแน่นอน”

“เฮ้อ ข้าเข้าใจแล้ว ไห่หยุนเจ้ากับไห่หยวนช่วยจัดการเรื่องนี้โดยเร็ว กำชับพวกบ่าวไพร่อย่าปล่อยให้ใครออกไปจากเรือนใหญ่ได้”

“บ่าวทราบแล้วขอรับคุณชายรอง”

“พวกเราทำใจให้สบายเถิด ข้าว่าไปนั่งที่ศาลารอฟังข่าวอย่างเงียบ ๆ ดีกว่า คนด้านในเรือนใหญ่จะได้ไม่สงสัย”

ฟงเฉิงฮ่าวพยักหน้าให้กับสหายอย่างเห็นด้วย ก่อนจะจับจูงภรรยาเดินไปยังศาลาพร้อมกัน แม้อยากตามไปดูเรื่องราวมากเพียงใด แต่พวกเขาก็เข้าใจอย่างที่เยี่ยนหลิงบอกเช่นกัน

ทางด้านคนกลุ่มใหญ่ที่มีเหอฮูหยินเดินนำอยู่ด้านหน้า โดยซูอันทำหน้าที่คอยประคองไม่ให้นางสะดุดล้ม ในที่สุดก็มาถึงหน้าเรือนรับรองที่เกิดเรื่องจนได้ แต่นอกจากพวกนางยังมีหยางหยางเฟิ่งเซียน ผู้แสร้งเปลี่ยนเสื้อผ้าชุดใหม่เสร็จแล้ว และบังเอิญเดินออกมาจากอีกด้านพอดี

“เซียนเอ๋อร์เหตุใดลูกถึงมาอยู่ที่นี่ได้เล่า แล้วเจ้ายังเปลี่ยนเสื้อผ้าชุดใหม่เกิดอะไรขึ้นกับเจ้ารึ!” ซูอันแสร้งทำทีตกใจเมื่อเห็นบุตรสาวก็อยู่ที่นี่

เหอฮูหยินที่รักและเอ็นดูหยางเฟิ่งเซียนไม่ต่างจากหลานแท้ ๆ ก็เอ่ยถามนางด้วยความเป็นห่วงอีกคน “นั่นน่ะสิเซียนเอ๋อร์ มีใครทำอะไรเจ้าเช่นนั้นหรือถึงต้องมาเปลี่ยนเสื้อผ้าที่นี่”

“เรียนท่านย่าเหอ ท่านแม่ เผอิญว่าสาวใช้นางนี้ไม่ทันระวัง จึงทำน้ำชาหกโดนเสื้อผ้าของลูก นางจึงอาสาพาลูกมาเปลี่ยนเสื้อผ้าที่นี่ แต่พอมาถึงแค่ครึ่งจิบชาก็มีเสียงแปลก ๆ อยู่ในเรือนหลังข้าง ๆ ลูกจึงให้นางไปรายงานพวกท่านเจ้าค่ะ” หยางเฟิ่งเซียนตอบคำถามเหอฮูหยิน ด้วยกริยาท่าทางเรียบร้อยงดงามน่ามอง อีกทั้งยังแสร้งเขินอายเมื่อพูดถึงเรือนรับรองหลังข้าง ๆ

“เซียนเอ๋อร์ปลอดภัยก็ดีแล้วนะ เจ้าอยู่กับมารดาไปก่อนย่าจะรีบจัดการเรื่องน่าอายนี้เสียก่อน ฟางซื่อไปเปิดประตูข้าไม่อยากได้ยินเสียงพวกนั้นอีก ส่วนเจ้าไปตามบ่าวไพร่มาหลาย ๆ คน อ้อ ให้พวกเขาเอาน้ำเย็นใส่ถังมาด้วยล่ะ”

“เจ้าค่ะฮูหยิน /เจ้าค่ะฮูหยิน”

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ข้าคือทายาทของโรงปักผ้าอันดับหนึ่งแห่งเป่ยชาง   บทส่งท้าย

    ผ่านมาแล้วหลายเดือนในที่สุดขบวนสินสอดของตระกูลซ่างกวน ก็ได้ฤกษ์ออกเดินทางไปเยือนแคว้นเป่ยชาง เพื่อจะสู่ขอบุตรสาวตระกูลหยางมาเป็นลูกสะใภ้ ขบวนเดินทางของซ่างกวนเซียวจิ้งใช้เวลาเกือบยี่สิบวัน สุดท้ายก็มาถึงเมืองหลวงแคว้นเป่ยชาง ด้วยหีบไม้ผูกผ้าสีแดงมากมายนับร้อยหีบ ยามทั้งหมดเดินผ่านประตูเมืองจึงกลายเป็นจุดสนใจทันทียิ่งไปกว่านั้นยังมีบุรุษรูปงามนั่งบนหลังม้า เป็นผู้นำขบวนดังกล่าวไปเยือนจวนตระกูลหยาง ซึ่งได้สอบถามเส้นทางไว้ล่วงหน้าแล้ว และขบวนสินสอดนี้ยังเป็นที่สนใจ ท่ามกลางความอยากรู้อยากเห็นของคนในเมืองหลวงยามนี้ในห้องโถงรับแขกของจวนตระกูลหยาง มีเจ้าของจวนและครอบครัวของซ่างกวนเซียวจิ้งนั่งอยู่อย่างพร้อมหน้า เนื่องจากเป็นการเดินทางมาเพื่อเจรจาสู่ขอหยางเฟิ่งเซียนอย่างเป็นทางการซ่างกวนเจิ้งไห่เอ่ยขึ้นอย่างสุภาพกับหยางไท่หมิงและซูอัน “วันนี้ข้ามารบกวนถึงจวนเพราะต้องการสู่ขอบุตรสาวของน้องหยางกับฮูหยิน ไปเป็นลูกสะใภ้ของตระกูลซ่างกวน เนื่องจากบุตรของพวกเราผูกสมัครรักใคร่กันทั้งสองฝ่าย พวกท่านมีความเห็นกับเรื่องนี้อย่างไรหรือ”หยางไท่หมิงและซูอันยิ้มรับอย่างเป็นกันเอง เนื่องจากเรื่องนี้พวกเข

  • ข้าคือทายาทของโรงปักผ้าอันดับหนึ่งแห่งเป่ยชาง   ต่างคนต่างทำหน้าที่

    นับตั้งแต่หยางเฟิ่งเซียนและหยางซิวหรงเดินทางกลับแคว้น ซ่างกวนเซียวจิ้งจึงเข้ามามีบทบาทในฐานะผู้สืบทอดการค้าของมารดา ซึ่งมีน้องสาวที่มีประสบการณ์คอยช่วยเหลือ เนื่องจากการค้าที่มารดาของเขาทำนั้น มีความแตกต่างกับการค้าของตระกูลซือหม่าอยู่มากก่อนนั้นแม้เขาจะรับราชการคล้ายไม่ค่อยมีเวลา แต่ความเป็นจริงเรื่องการค้าเขาจะคอยช่วยดูแลอยู่ห่าง ๆ เมื่อได้ลงมือทำเต็มตัวจึงใช้เวลาไม่นานก็ทำได้อย่างคล่องแคล่ว โดยให้น้องสาวคอยดูแลจัดการอยู่ที่ร้านค้า ส่วนการติดต่อกับคู่ค้าในต่างเมืองตนจะรับผิดชอบทั้งหมดระหว่างที่ซ่างกวนเซียวจิ้งกำลังทำหน้าที่ของตนให้สมบูรณ์ ก็มักจะปลีกตัวมาพูดคุยกับหยางเฟิ่งเซียนผ่านป้ายหยกอยู่เสมอ นางไม่เคยเอ่ยเร่งรัดเรื่องการแต่งงานกับซ่างกวนเซียวจิ้ง เพราะเข้าใจดีกับการเริ่มต้นใหม่ของครอบครัวนี้‘ท่านอย่าได้เร่งรีบจนเกินไปนักรู้หรือไม่ หากทำให้เกิดช่องโหว่คู่ค้าอาจเอาเปรียบท่านได้นะเจ้าคะ’“พี่เข้าใจแล้ว ขอบใจเซียนเอ๋อร์ที่คอยเตือนและให้คำแนะนำดี ๆ แก่พี่เสมอนะ”‘ขอบใจอันใดมากมายเจ้าคะ ข้าย่อมเข้าใจว่าเรื่องนี้ไม่ง่ายกับท่านเท่าใดนัก หากข้าสามารถช่วยได้จะไม่ช่วยท่านได้อย่างไรกัน

  • ข้าคือทายาทของโรงปักผ้าอันดับหนึ่งแห่งเป่ยชาง   พี่สัญญาจะเอาเกี้ยวเจ้าสาวไปรับเจ้าโดยเร็ว

    เรื่องราวที่เย่จินลู่คิดกระทำกับซ่างกวนเซียวจิ้ง ไม่มีเสียงอึกทึกครึกโครมไปยังเรือนรับรองอีกสองหลัง แม้แต่บ่าวไพร่ที่นำร่างของนางกลับไป ยามได้ยินคำพูดจากโจวหลี่ก็แทบจะกลายเป็นใบ้ เพราะคำเตือนที่มาจากหยางเฟิ่งเซียน สร้างความหวาดกลัวให้พวกเขาอยู่ไม่น้อยเมื่อร่วมรับมื้อเช้าพร้อมกันเสร็จเรียบร้อย ซ่างกวนเซียวจิ้งจึงเอ่ยขอตัวออกไปหาดูจวนหลังใหม่ เพราะครอบครัวของเขาไม่อยากรบกวนท่านตานานเกินไป ซึ่งการออกไปนออกจวนข้างกายของซ่างกวนเซียวจิ้ง ย่อมมีหยางเฟิ่งเซียนที่มีพี่ชายฝาแฝดติดตามไปด้วยเช่นกันทั้งสามคนมายังที่ว่าการของเมืองหลวง เพื่อสอบถามเรื่องจวนที่เจ้าของต้องการขายกับเจ้าหน้าที่ จากนั้นถึงจะไปดูจวนแต่ละหลังก่อนตัดสินใจซื้อ“ไม่ทราบว่าพวกท่านมาที่นี่ต้องการดูร้านค้า หรือหาซื้อจวนเพื่ออยู่อาศัยหรือขอรับ ข้าน้อยฟางเหวินหมิงเป็นผู้รับผิดชอบดูแลเรื่องนี้ พวกท่านสามารถบอกรายละเอียดกับข้าน้อยได้เลยขอรับ”“ข้าต้องการซื้อจวนขนาดใหญ่เล็กน้อย ท่านเจ้าหน้าที่พอจะแนะนำได้หรือไม่ว่า จวนหลังใดน่าสนใจและน่าอยู่อาศัยบ้าง สิ่งที่สำคัญคือจวนหลังนี้ต้องไม่มีผู้คนพลุกพล่านจนเกินไป”“โอ้ว คุณชายท่านมาได้พอดี

  • ข้าคือทายาทของโรงปักผ้าอันดับหนึ่งแห่งเป่ยชาง   เจ้าสมควรถูกคู่หมั้นของข้าสั่งสอน

    เมื่อครอบครัวซ่างกวนตอบรับคำเชิญที่จะพักอยู่ในจวน เรือนรับรองจึงถูกบ่าวไพร่ทำความสะอาดอย่างรวดเร็ว เพื่อให้แขกคนสำคัญของตระกูลซือหม่าได้พักผ่อนจากการเดินทางไกล สิ่งของที่นำมาจากแคว้นหนานหยางด้านหน้าจวน ถูกยกเข้ามาเก็บไว้ที่เรือนรับรองเสียก่อน ด้วยความเหนื่อยล้าที่เดินทางมาสิบกว่าวัน สองสามีภรรยารวมถึงบุตรสาวจึงงีบหลับทันทีหลังจากชำระล้างร่างกายส่วนซ่างกวนเซียวจิ้งถูกหยางเฟิ่งเซียนรั้งไว้ด้านนอกเรือน เพราะนางต้องการพูดถึงเรื่องที่สังเกตเห็นยามที่มาถึงจวนแห่งนี้ โดยมีหยางซิวหรงนั่งฟังน้องสาวเล่าเรื่องด้วยเช่นกัน“เซียนเอ๋อร์มีเรื่องอันใดจะบอกพี่เช่นนั้นหรือ ดูสีหน้าของเจ้าคล้ายกำลังมีคนทำให้โกรธอยู่ใช่ไหม?”“นั่นน่ะสิน้องเล็ก พี่ใหญ่ก็ไม่เห็นว่าจะมีใครไม่ยินดีที่จะต้อนรับพวกเรา ยกเว้นป้าสะใภ้รองของพี่เซียวจิ้งคนนั้น”“หึ เพราะพวกท่านสองคนมิได้สนใจเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ เช่นสตรี ถึงไม่เห็นว่ามีสาวใช้คนหนึ่งกำลังอยากปีนเตียงคู่หมั้นของข้าน่ะสิ”“หา!! /อะไรนะ!!”บุรุษทั้งสองอุทานอย่างตกใจออกมาพร้อมกัน เนื่องจากพวกเขาไม่ทันสังเกตอย่างที่หยางเฟิ่งเซียนพูดจริง ๆ เพราะคิดว่าที่นี่ย่อมรู้ว่าครอบค

  • ข้าคือทายาทของโรงปักผ้าอันดับหนึ่งแห่งเป่ยชาง   มีดอกบัวขาวอยู่ในตระกูลซือหม่า

    ในการออกเดินทางของตระกูลซ่างกวน หย่างไท่หมิงอยากให้ซ่างกวนเซียวจิ้งกับครอบครัว ขึ้นไปนั่งอยู่ด้านในรถม้าเสียก่อน เมื่อพ้นเขตเมืองหลวงค่อยออกมาขี่ม้าเช่นที่เคยทำ เนื่องจากมีบ่าวไพร่ติดตามไม่มาก ขบวนเดินทางครั้งนี้จึงใช้ม้าทั้งหมด เพื่อการเดินทางที่สะดวกและรวดเร็ว ซึ่งระยะทางจากเมืองหลวงแคว้นหนานหยาง ไปถึงแคว้นชางเหอใช้เวลาเพียงครึ่งเดือนเท่านั้นเพียงแต่หยางไท่หมิงกับซูอันและสองพี่น้องตระกูลฟง ต้องแยกตัวกลับแคว้นเป่ยชางเมื่อมาถึงเขตชายแดน มีเพียงสองพี่น้องตระกูลหยางและผู้ติดตามอีกสิบคน ยังคงต้องไปกับซ่างกวนเซียวจิ้งตามความตั้งใจเดิมจากชายแดนแคว้นเป่ยชางมาถึงเมืองหลวงแคว้นชางเหอ ขบวนเดินทางของซ่างกวนเซียวจิ้งใช้เวลาอีกเจ็ดวัน ในที่สุดก็ผ่านประตูเมืองหลวงมาหยุดอยู่หน้าจวนขนาดใหญ่ ซึ่งที่นี่เป็นจวนของตระกูลซือหม่าคหบดีอันดับหนึ่งของแคว้นชางเหอเฉินเจ๋อลงจากหลังม้าทำหน้าที่ของตน โดยการบอกบ่าวด้านหน้าประตูให้ไปรายงานเจ้าของจวน “น้องชายรบกวนเจ้าไปรายงานนายท่านผู้เฒ่าว่า บุตรสาวเพียงคนเดียวมาขอพบ”“รอสักประเดี๋ยวข้าจะรีบไปรายงานท่านพ่อบ้านให้ขอรับ”“ขอบใจมาก”บ่าวคนที่พูดคุยกับเฉินเจ๋อเร่งกล

  • ข้าคือทายาทของโรงปักผ้าอันดับหนึ่งแห่งเป่ยชาง   ช่วยตระกูลซ่างกวนย้ายถิ่นฐาน

    ภายหลังกลับมาถึงจวนตระกูลซ่างกวน ผู้เป็นเจ้าของจวนรีบสั่งพ่อบ้านไปเรียกบ่าวไพร่ มาช่วยทำความสะอาดเรือนรับรอง เพื่อให้ครอบครัวของหยางเฟิ่งเซียนได้พักผ่อน ระหว่างที่นั่งรอบ่าวไพร่จัดการเรื่องเรือนรับรอง ภายในห้องโถงรับแขกจึงมีการสนทนาถึงสิ่งที่ซ่างกวนเจิ้งไห่คิดจะทำหลังจากนี้ เพราะหยางไท่หมิงกับซูอันต่างคิดคล้ายกันว่า ตระกูลซ่างกวนไม่อาจอยู่ที่แคว้นหนานหยางได้อีกแล้ว“นายท่านซ่างกวนกับฮูหยินคิดจะทำอย่างไรต่อหรือขอรับ ข้าว่าพวกท่านคงอยู่ใช้ชีวิตในแคว้นหนานหยางยากแล้วล่ะ แม้ฮ่องเต้จะรู้สึกผิดและเสียดายขุนนางดี ๆ แต่ขุนนางที่ฝักใฝ่ในอำนาจมักมีวิธีการชักจูงฮ่องเต้ได้เสมอนะ”“อืม ข้าเข้าใจสิ่งที่น้องหยางพูดมา ก่อนหน้าจะถึงงานเลี้ยงฉลอง ครอบครัวของเราได้หารือกันไว้ว่า เมื่อเกิดเหตุการณ์อย่างที่คาดก็ไม่คิดจะอยู่ที่แคว้นหนานหยางอีก” ซ่างกวนเจิ้งไห่ตอบหยางไท่หมิงไปตามตรงซือหม่าฮูหยินกล่าวเสริมคำพูดของสามีอีกเล็กน้อย “พวกเราคุยกันไว้ว่าจะย้ายกลับไปตระกูลซือหม่าที่แคว้นชางเหอ เพื่อทำการค้าเนื่องจากบิดาของข้าเป็นวาณิชหลวงให้กับราชสำนักน่ะ”ซูอันได้ยินคำว่าวาณิชหลวงจากซือหม่าฮูหยินก็หูผึ่งทันที เพร

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status