แชร์

เขาเป็นบุรุษตัดแขนเสื้อ

ผู้เขียน: Ai Chi Tudou
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-05-22 09:14:51

ปัก ปัก ปัก

เสียงที่น่าอายดังเป็นจังหวะต่อเนื่องสักพัก จากนั้นก็เร็วขึ้นเป็น ‘ปักปักปักปัก’ รัวๆ จนบุรุษสตรีบนเตียงต่างส่งเสียงครางอย่างไม่อาย

ไม่นานนักร่างบางก็เกร็งกระตุกพร้อมกับร่างหนาที่ขยับสะโพกเข้าร่องรักจนสุด ปลายแท่งหยกฉีดพ่นน้ำสีขาวขุ่นจนเต็มร่องหวาน

ใบหน้างามของจ้าวหลินอ้ายมองใบหน้าสุขสมของชายหนุ่ม รวมถึงอาวุธคู่กายที่ออกจากกลางกายตนก็ใจสั่นจนควบคุมไม่อยู่

‘เสร็จพร้อมกันคือแบบนี้สินะ’

นางแกล้งล้มตัวนอนรอดูท่าทีของเฉินซีหมิง

“เหนื่อยแล้วหรือพะย่ะค่ะ”

เฉินซีหมิงล้มลงนอนข้างกายสตรี มือหนาลูบผมของนางอย่างแผ่วเบา

“เหนื่อยแล้วอย่างไร ไม่เหนื่อยแล้วอย่างไร”

สตรีพูดพลางอมยิ้มไม่ให้บุรุษสังเกตเห็น

“ฝ่าบาทนี่นะ”

เฉินซีหมิงทำหน้าหมั่นเขี้ยว เขาขยับกายแกร่งให้อยู่บนร่างอวบอัด ริมฝีปากก้มลงหยอกเย้าหน้าอกทั้งสองข้างอีกครั้ง

“พรุ่งนี้พระองค์อาจจะเสด็จออกท้องพระโรงไม่ไหว”

เขาหยุดพูดสักพักก่อนจะเริ่มปรนเปรอนางอีกครั้ง

“หากพรุ่งนี้ข้าออกท้องพระโรงเป็นปกติแสดงว่าคืนนี้ไม่มีสิ่งใดเกิดขึ้น พวกขุนนางคงหาว่าเจ้าไม่ได้เรื่อง”

“ได้ กระหม่อมจะทำให้เต็มที่พะย่ะค่ะ”

เฉินซีหมิงจับขาขาวพาดไหล่ของตน แล้วขยับให้แท่งหยกที่ผงาดมุดเข้าไปในโพรงหวานของสตรีจนมิดด้าม

“แน่นดีเสียจริง”

เขาพูดเบาๆ ก่อนเริ่มสาวเอวสอบเข้าออกเนิบนาบ

นัยน์ตาดอกท้อมองสตรีทั่วทั้งร่าง ใบหน้าหวานยั่วยวน เรือนร่างอวบอัด เต้านมทั้งสองกระเพื่อมตามแรงกระแทก กลีบดอกไม้งามที่ผลุบเข้าออกจากการมุดโพรงหวานของแก่นกายตน

ทั้งหมดทั้งมวลล้วนน่ามองยิ่งนัก

ทั้งยังมีเสียงหวานที่เพราะกว่าเสียงดนตรีของนักสังคีตในวังหลวงดังคลออยู่แทบตลอดเวลา

เฉินซีหมิงตัดสินใจละลาบละล้วง ก้มหน้าให้ริมฝีปากบางประกบริมฝีปากอวบอิ่มของจ้าวหลินอ้าย เมื่อสตรีเผยอปากรับด้วยความเต็มใจ เขาจึงบรรจงจุมพิตด้วยความละเมียดละไม

เริ่มต้นนุ่มนวล แต่เมื่อส่วนล่างกระแทกหนักและเร็วขึ้น เขาก็จุมพิตร้อนแรงมากขึ้น

จ้าวหลินอ้ายถึงจะเพิ่งเคยจูบครั้งแรก แต่เมื่อจับทางได้ นางก็ขยับลิ้นพันเกี่ยวกับลิ้นร้อนของชายหนุ่ม แล้วสลับดูดเม้มจนลืมหายใจ

สตรีขยับสะโพกให้เป็นจังหวะกระแทกพร้อมกับเอวสอบของบุรุษ ความเสียวซ่านและคับแน่นทำให้คนทั้งสองลืมทุกสิ่งทุกอย่าง แล้วเสพสมจนอิ่มหนำสำราญ

เมื่อถึงฝั่งฝันอีกสองรอบ หนุ่มสาวก็หลับภายในอ้อมกอดของกันและกันจนกระทั่งเช้า

.........

หน้าตำหนักเยว่กวง

จ้าวม่านอวิ๋นเดินวนไปมาหน้าตำหนัก สายตาพลางมองเข้าไปในตำหนักเป็นระยะ

“เสด็จพี่ยังไม่ตื่นบรรทมอีกหรือ”

“คารวะองค์หญิงสาม”

เสียงเข้มของบุรุษคนหนึ่งดังขึ้นจนสตรีชะงักฝีเท้า

“รองผู้บังคับบัญชาการองครักษ์เสื้อแพร ใต้เท้าหลิวกวน ทำไมท่านมาแต่เช้า”

สตรีปรายสายตามองบุรุษตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า

“แต่องค์หญิงมาเช้ากว่ากระหม่อมอีก”

หลิวกวนตอบดวงตาเจ้าเล่ห์

“ข้าเป็นห่วงฝ่าบาท กลัวว่าใครบางคนจะมาแย่งตัวบุรุษถึงตำหนักเยว่กวง”

จ้าวม่านอวิ๋นพูดพลางขยับร่างบางยืนขวางหน้าเขา

“ฝ่าบาทเรียกองค์หญิงสามและใต้เท้าหลิวเข้าเฝ้า”

หยางกงกงออกมาเรียกคนทั้งสอง

........

“พวกเจ้าสองคนมาเข้าเฝ้าแต่เช้ามีเรื่องอะไรกัน”

จ้าวหลินอ้ายพูดด้วยน้ำเสียงของคนที่พักผ่อนไม่เพียงพอ

เฉินซีหมิงนั่งอยู่ด้านข้างนาง เขาเม้มปากเงียบไม่กล่าวสิ่งใด

“หม่อมฉันกลัวว่าจะมีคนบุกเข้าตำหนักมาชิงตัวคนรักน่ะสิเพคะ”

จ้าวม่านอวิ๋นเอ่ยทันทีที่พี่สาวตนเองพูดจบ สายตาพลางเหลือบมองบุรุษที่ยืนน้อมตัวอยู่ด้านข้าง

“ชิงตัวคนรัก” จ้าวหลินอ้ายทวนคำ

“ใต้เท้าหลิวจะมาชิงตัวคนรักจากข้าหรือ”

เฉินซีหมิงที่กำลังยกจอกชามาดื่มสำลักน้ำทันใด เขากระแอมเบาๆ

“ไม่ใช่พะย่ะค่ะ”

จ้าวหลินอ้ายแสร้งทำไม่สนใจบุรุษที่นั่งด้านข้าง นางมองหน้าหลิวกวน

“ใช่หรือไม่”

หลิวกวนหน้าเสียทันทีแต่ก็ปรับสีหน้าเป็นปกติอย่างรวดเร็ว

“ไม่ใช่พะย่ะค่ะ องค์หญิงสามคงชอบฟังข่าวโคมลอย ไร้ความจริงโดยสิ้นเชิง”

“เช่นนั้นเจ้ามาทำไม”

จ้าวม่านอวิ๋นหันไปขึ้นเสียงใส่เขา

“มารายงานข่าวพะย่ะค่ะ”

หลิวกวนประสานมือทั้งสองข้างพร้อมกับน้อมกายกราบทูล

“ทางองครักษ์เสื้อแพรจับโจรภูเขาสำเร็จแล้ว ตำหนักฮัวซานสามารถเสด็จไปพำนักได้แล้วพะย่ะค่ะ”

“แล้วตำหนักชิงเฉิงล่ะ”

จ้าวม่านอวิ๋นถามโดยไม่รอให้จ้าวหลินอ้ายเอ่ยสิ่งใด

“ตำหนักชิงเฉิงก็เรียบร้อยดีแล้วพะย่ะค่ะ สามารถเสด็จไปได้”

จ้าวหลินอ้ายมองน้องสาวของตนเองสลับกับใต้เท้าหนุ่ม นางเริ่มมีความคิดอะไรบางอย่าง

“องครักษ์เสื้อแพรทำงานได้รวดเร็วอย่างมาก ประทานรางวัลให้ทุกคน”

นางยกมือให้สัญลักษณ์แก่หยางกงกงเพื่อไปเตรียมรางวัล จากนั้นก็พูดต่อ

“ส่วนองค์หญิงสามข้าอนุญาตให้ไปเที่ยวพักผ่อนที่ตำหนักชิงเฉิงสักหนึ่งเดือน ใต้เท้าหลิวก็ตามไปเป็นองครักษ์ดูแลความปลอดภัยของนางด้วยละกัน”

“หา ไม่นะเพคะ”

จ้าวม่านอวิ๋นรีบปฏิเสธ นางส่งสายตาไม่พอใจให้บุรุษร่างสูง

“เจ้าอย่าปฏิเสธเพียงเพราะเชื่อในข่าวลือเลย ไปพักผ่อนหย่อนใจสักพัก มีใต้เท้าหลิวอยู่ใกล้ อารมณ์และความคิดของเจ้าคงเปลี่ยนเอง”

“ตำหนักชิงเฉิงอยู่บนเขา ฮวงจุ้ยดีมาก ได้รับพลังจากฟ้าดินเต็มที่ กระหม่อมรับรองว่าองค์หญิงจะมีพระพลานามัยแข็งแรงขึ้นและใบหน้าอ่อนเยาว์อย่างเห็นได้ชัด”

เฉินซีหมิงพยักหน้ากล่าวสนับสนุนคำพูดของจ้าวหลินอ้าย

“ท่านราชครูเฉิน หากที่นั่นดีดั่งคำท่านกล่าว ทำไมท่านไม่พาเสด็จพี่ไปล่ะ”

จ้าวม่านอวิ๋นยังคงแสดงความไม่เห็นด้วย

“เพราะว่ากระหม่อมจะพาฝ่าบาทไปที่ตำหนักฮัวซานพะย่ะค่ะ ที่นั่นเหมาะกับการปั้นโอรสมังกรมากกว่า”

ราชครูหนุ่มตอบ สายตาพลางมองไปยังจักรพรรดินีที่งามล่มเมือง

“ดีสิ ข้าไป นอกสถานที่บ้างน่าจะสนุก”

จ้าวหลินอ้ายรับคำทันที

........

“เจ้าทำไมถึงตกลงจักรพรรดินีล่ะ ไหนว่าจะตั้งตนเป็นโสด”

หลิวกวนขมวดคิ้วถามสหายของตนเอง

เฉินซีหมิงหันหลังให้ผู้ถาม ใบหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส แต่แกล้งทำเป็นเสียงเข้ม

“ก่อนหน้านี้ข้าคิดว่าฝ่าบาทจะคัดเลือกบุตรขุนนาง พวกบุรุษหนุ่มวัยดรุณทั้งหลาย จึงพูดกับเจ้าเช่นนั้น แต่เมื่อพระองค์ทรงโปรดข้า ข้าก็ไม่จำเป็นต้องอยู่เป็นโสดตัวคนเดียวนี่”

“นี่เจ้า แสดงว่าเจ้าหมายปองฝ่าบาทมาตั้งแต่แรกสินะ” หลิวกวนชี้นิ้วใส่เฉินซีหมิง

“แล้วมาทำเป็นชวนให้ข้าโสดไปกับเจ้า ข้าจะตีเจ้าให้ตาย”

บุรุษรูปร่างกำยำหยิบกระบี่ที่ห้อยติดกับตัวออกมาโดยไม่ชักออกจากฝัก จากนั้นก็ไล่ตีเฉินซีหมิงอย่างหมั่นไส้

จ้าวหลินอ้ายและจ้าวม่านอวิ๋นที่มองอยู่ไกลๆ ต่างมีปฏิกิริยาต่อภาพที่เห็นแตกต่างกัน

จ้าวหลินอ้ายเห็นว่าถ้ามีบุรุษรูปงามหลายคนอยู่ในรอบกาย คงทำให้วังหลวงมีชีวิตชีวาไม่น้อย แม้ว่าตอนนี้ทั้งองครักษ์ ขันที กงกงและขุนนางที่ประจำอยู่ในวังล้วนหน้าตาดีแทบทุกคน แต่พอเพิ่มบุรุษของตนเองขึ้นมายิ่งทำให้ในวังน่าอยู่มากขึ้น

            ส่วนจ้าวม่านอวิ๋นจ้องหลิวกวนตาเขม็ง นางคิดอยู่แล้วว่าบุรุษทั้งสองเป็นชายตัดแขนเสื้อ ดูท่าทางหยอกล้อของพวกเขาสิ ผิดจากที่นางคิดเสียที่ไหน หากอยู่นอกวังพวกเขาคงโอบกอดกันอย่างแนบแน่นไปแล้ว

            “เสด็จพี่”

สตรีเอ่ยปากหมายจะฟ้องอีกครั้ง

            “พอเถอะ ข้าไม่ถือ”

จ้าวหลินอ้ายพูดตัดบททันที เป็นประโยคที่ทำให้ผู้ฟังอึ้งและก็เงียบในพริบตา

            ไม่ถือ แปลว่า แม้พวกเขาทั้งสองจะเป็นบุรุษตัดแขนเสื้อ แต่จ้าวหลินอ้ายก็รับได้

            “เพคะ เช่นนั้นหม่อมฉันกลับตำหนักดีกว่า”

จ้าวม่านอวิ๋นตกใจกับความคิดของพี่สาว นางยอบกายคารวะแล้วกึ่งเดินกึ่งวิ่งจากไปทันที

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • ข้ามมิติมาเป็นจักรพรรดินีมากรัก   พระโอรสพระธิดา

    ห้าปีผ่านไปเสียงของเด็กชายสามคนดังขึ้นที่สวนหินในเขตพระราชฐาน“พวกเจ้าอย่ารบกวนข้า ข้ากำลังอ่านตำราอยู่ไม่เห็นหรือ”จ้าวซีหนานตัวน้อยดุเด็กชายอีกสองคน“ได้ ข้าก็จะดูยาสมุนไพร อย่ามาชวนข้าไปเล่นละกัน”จ้าวโหย่วเต๋อขยับริมฝีปากที่มีลักยิ้มตอบ“พวกเจ้าสองคนช่างน่ารำคาญ ข้าไปซ้อมวรยุทธดีกว่า ไม่สนใจพวกเจ้าแล้ว”จ้าวสืออิ้งสะบัดหน้าใส่เด็กชายทั้งสองที่พูดก่อนหน้า เขาถือกระบี่เล่มเล็กแล้วหันหลังเดินไปยังลานกว้างเพื่อฝึกเพลงยุทธที่ตนชื่นชอบ“เหอะ พวกเจ้าต่างก็มีบุตรชายเป็นของตนเองแล้ว ไหนล่ะบุตรของข้า”จ้าวหลินอ้ายนั่งเก้าอี้โยกมองดูเด็กน้อยทั้งสามพลางหลุบตามองสามีทุกคน“ฝ่าบาทรู้ได้อย่างไรว่าเป็นบุตรของพวกกระหม่อม”โม่เถี่ยอมยิ้มปั้นหน้าทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้เพียะมือเรียวตีแขนผู้พูดทันใด“ยังมีหน้ามาพูดอีก ดูหน้าตาพวกเขาแต่ละคนสิ นิสัยก็ด้วย ถอดแบบพวกเจ้ามาไม่มีผิดเพี้ยน”เฉินซีหมิงกลั้นขำแล้วเอ่ยขึ้น&

  • ข้ามมิติมาเป็นจักรพรรดินีมากรัก   คืนเข้าหอ

    “ข้าจะแต่งตั้งพวกเจ้าสามคนเป็นสนมก่อน แล้วค่อยแต่งตั้งฮองเฮาทีหลัง อ่อ ไม่ต้องคิดแย่งตำแหน่งกัน ข้าแต่งตั้งตามลำดับก่อนหลัง ราชครูเฉินรอขึ้นเป็นฮองเฮา ส่วนพวกเจ้าอีกสองคนก็เป็นหวงกุ้ยเฟย”จ้าวหลินอ้ายพูดกับบุรุษทั้งสามของตนในคืนก่อนแต่งงานบุรุษทั้งสามคนพยักหน้าและตอบตกลงอย่างง่ายดาย พวกเขาไม่คิดต้องการตำแหน่งเพื่อสร้างอำนาจในวังหลัง แค่ปฏิบัติหน้าที่ของตนก็เหนื่อยมากพอแล้วและตอนนี้เมื่อต้องเป็นสวามีขององค์จักรพรรดินี พวกเขาจึงมีหน้าที่เพิ่ม คือรีบทำให้พระจักรพรรดินีทรงพระครรภ์ให้เร็วที่สุดสามคนร่วมมือกัน ราชวงศ์ย่อมต้องมีสมาชิกเพิ่มขึ้นแน่นอน ........วันพิธีอภิเษกสมรสงานอภิเษกสมรสของจักรพรรดินีที่รับสนมชายเข้าวังพร้อมกันสามคน และองค์หญิงสามกับรองผู้บัญชาการองครักษ์เสื้อแพรนั้นยิ่งใหญ่เป็นประวัติการณ์ของแคว้น ราษฎรต่างพากันมาร่วมเฉลิมฉลองตามท้องถนน มีการโปรยดอกไม้บนถนนแทบทุกสายนอกจากผู้คนจะพูดถึงความยิ่งใหญ่ของง

  • ข้ามมิติมาเป็นจักรพรรดินีมากรัก   สามีนอกสมรส

    จ้าวหลินอ้ายสมองขาวโพลน ส่วนล่างเสียวและคับแน่นมาก นางไม่เคยถูกอุ้มตัวลอยแล้วกระแทกใส่มาก่อน เมื่อเจอท่านี้กับกระบองใหญ่ยักษ์ทำให้สติเตลิด ร้องครางด้วยความเสียวจนลืมทุกสิ่งทุกอย่างถ้าบอกว่าเฉินซีหมิงนุ่มนวลอ่อนโยน ส่วนหลี่เสินดุดันแล้ว โม่เถี่ยต้องกล่าวได้ว่าดุยิ่งกว่ามากสะโพกของนางถูกจับกระแทกเข้าออก หน้าอกสองเต้ากระเพื่อมขึ้นลงแรงๆ จนยอดถันแข็งชูชัน แม่โม่เถี่ยไม่ได้เล้าโลมแต่ก็ทำให้ทั้งร่างรู้สึกเสียวซ่านแน่นจุกไปในเวลาเดียวกันปัก ปัก ปัก ปักเสียงเนื้อกระทบกันดังไปถึงเรืออีกลำ ทำให้เรืออีกลำไม่ยอมน้อยหน้า ส่งเสียงดังแข่งในเวลาไล่เลี่ยกันเมื่อจ้าวหลินอ้ายร้องเสียงดังเพราะถึงฝั่งฝัน โม่เถี่ยก็อุ้มนางเช่นเดิม แต่จับนางหันหน้าออก ให้แผ่นหลังของนางชนกับหน้าอกของเขาแทนเขาเดินไปจับนางตอกกระแทกไปจนถึงหน้ากระจกสำริดบานใหญ่ ให้เขาและหญิงสาวเห็นภาพเสียวนี้ไปพร้อมกันจ้าวหลินอ้ายมองเห็นเงาสะท้อนของตัวเอง เต้านมใหญ่สองลูกเด้งขึ้นลงตามแรง ด้านล่างเห็นกระบองของบุรุษมุดเข้าออกร่องรักตนเป็นจังหวะถี่ๆ ทำให้หญิงสาวหายใจไม่ทั่วท้อง โพรงหวา

  • ข้ามมิติมาเป็นจักรพรรดินีมากรัก   แม่ทัพเสนอตัว

    วังหลวงจ้าวหลินอ้ายออกว่าราชการที่ท้องพระโรงอีกครั้งหลังจากไปแปรพระราชฐานอยู่หลายวัน“ฝ่าบาท แม่ทัพโม่เถี่ยรบชนะแคว้นเย่ทำให้เราได้รับชัยกลับมาพะย่ะค่ะ”เสนาบดีหลัวทูลบอกนาง“ดีมาก ยอดเยี่ยม”สตรีกล่าว นางมองดูแม่ทัพหนุ่มรูปร่างสูงใหญ่ ประเมินด้วยสายตาคร่าวๆ แม่ทัพโม่ผู้นี้สูงกว่าเฉินซีหมิงประมาณสองคืบ แต่ความล่ำกลับมากกว่าเป็นสามเท่า‘หุ่นแม่ทัพต้องใหญ่อย่างนี้สินะ’นางคิดในใจก่อนพูดออกมา“ท่านแม่ทัพโม่นำชัยมาสู่แคว้น ท่านต้องการสิ่งใดเป็นรางวัลสามารถบอกกับข้าได้โดยไม่จำเป็นต้องลังเลใจ”โม่เถี่ยเงยหน้ามองจักรพรรดินีผู้เลอโฉมแล้วปรายสายตามองเฉินซีหมิงก่อนยกมือทั้งสองขึ้นมาประสานกัน“กระหม่อมได้ยินมาว่าฝ่าบาทรับราชครูเฉินกับท่านหมอ หลี่เป็นนายสนมในวัง กระหม่อมอยากขอเป็นสนมของพระองค์อีกคนพะย่ะค่ะ”จ้าวหลินอ้ายได้ยินก็นิ่งเงียบไปชั่วครู่‘นี่ข้างามขนาดนี้เลยหรือเนี่ย ชาติก่อนก็หน้าตาแบบนี้แต่โสด ชาตินี้กลับมีแต่คนยินยอมมาเป็นสามี’

  • ข้ามมิติมาเป็นจักรพรรดินีมากรัก   ติดใจ

    หลิวกวนแช่มังกรยักษ์ของตนให้โพรงรักของจ้าวม่านอวิ๋นตอดรัดอยู่สักพัก เมื่อแรงตอดเบาลงเขาก็เริ่มขยับเอวเข้าออกให้มังกรตัวใหญ่ครูดกับผนังนุ่มไปมา“อ้า”เขาร้องครางอย่างลืมตัว ความรู้สึกดีแบบนี้เขาก็เพิ่งเคยลองครั้งแรกมิน่าที่เหล่าบุรุษหลงใหลสตรีก็เพราะรู้สึกเช่นนี้เองเขาจับขาขาวของจ้าวม่านอวิ๋นให้แยกออกจากกันมากขึ้น ส่วนตัวเขาคุกเข่าแทงมังกรให้ผลุบเข้าออกตามจังหวะที่ตนพอใจดวงตาคมมองก้อนเนื้อสองก้อนที่กระเด้งยั่วยวนแล้วจึงมองมังกรของตัวเองเคลื่อนเข้าออกโพรงหวาน ในใจเต็มไปด้วยความฮึกเหิมเมื่อได้ยินเสียงครางและเห็นใบหน้าเหยเกของจ้าวม่านอวิ๋น เขาก็ยิ่งเพิ่มแรงกระแทกเพื่อให้นางเสียวมากขึ้นและร้องดังขึ้นยิ่งนางเสียวและเสร็จมากครั้งเท่าไหร่เขาก็รู้สึกดีมากเท่านั้นเวลาผ่านไปหลายชั่วยาม บุรุษสตรียังคงกระแทกท่อนล่างใส่กันไม่มีท่าทีว่าจะหยุดพัก“ถึงพร้อมกันนะ”หลิวกวนพูดข้างหูของจ้าวม่านอวิ๋น หญิงสาวพยักหน้าดวงตาเคลิบเคลิ้มบุรุษขยับเอวสอบตอกมังกรของตนเข้าโพรงนุ่มอีกครั้ง เสียงร้องสุขส

  • ข้ามมิติมาเป็นจักรพรรดินีมากรัก   ข้าไม่ได้ไร้น้ำยา

    “ที่นี่ก็สวยดีอยู่หรอก แต่ว่าทำไมเสด็จพี่ต้องให้ข้ามาพักที่นี่ตั้งหนึ่งเดือนด้วยล่ะ”จ้าวม่านอวิ๋นบ่นกับนางกำนัลของตัวเอง“มีแต่ภูเขา ต้นไม้ ดอกไม้ น้ำตก ข้าเห็นทุกวันย่อมเบื่อเป็นธรรมดา”“หม่อมฉันได้ยินมาว่าภูเขาด้านบนมีถ้ำด้วยนะเพคะ”นางกำนัลรีบพูดสิ่งที่ตนเองรู้มา“ถ้ำหรือ” จ้าวม่านอวิ๋นทวนคำ “ถ้ำธรรมดาหรือไม่”“เห็นว่าภายในมีสิ่งก่อสร้างด้วยเพคะ น่าจะฮ่องเต้องค์ก่อนๆ สร้างไว้”“งั้นหรือ เช่นนั้นข้าก็ควรไปดูสินะ”สตรีลุกขึ้นยืนบิดขี้เกียจ แล้วเรียกนางกำนัลให้ตามไปด้วยไม่กี่คน........ถ้ำชิงฮู่ถ้ำขนาดใหญ่ที่บริเวณปากถ้ำเหมือนกับถ้ำตามธรรมชาติโดยทั่วไป แต่เมื่อเดินเข้าไปตามเส้นทางเดินประมาณครึ่งชั่วยามก็จะเจอตำหนักภายในนั้น บริเวณโดยรอบตำหนักปูด้วยหินอ่อนอย่างดี มีสระน้ำขนาดเล็กอยู่ด้านข้างจ้าวม่านอวิ๋นมาถึงปากถ้ำ เมื่อสอบถามทหารที่เฝ้าด้านหน้าจึงเดินเข้าไปภายในถ้ำเพียงสองคนกับนางกำนัลที่สนิท ส่วนคนอื่

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status