Share

บทที่ 6 ไม่ใช่ความฝัน

Auteur: sanvittayam
last update Dernière mise à jour: 2024-12-19 10:09:25

บทที่ 6 ไม่ใช่ความฝัน

“ซิ่วอิง ลูกกินอาหารให้หมดก่อน ดื่มยา แล้วนอน พ่อสัญญาว่าตื่นขึ้นมาลูกจะมีของกินเยอะกว่านี้”

จิงจิงเงยหน้าขึ้นมองผู้เป็นพ่อด้วยสายตาสับสน ทำไมพ่อในความฝันช่างใจดีเหลือเกิน เธอเองก็อยากมีครอบครัวที่อบอุ่นแบบนี้

น่าเสียดายที่ครอบครัวแสนอบอุ่นนี้กลับมีมารผจญเป็นย่าแท้ ๆ ของเจ้าของร่าง

ถ้าหากนี่เป็นความฝันและทุกอย่างถูกสร้างขึ้นมา จิงจิงคงรู้สึกดีจนไม่อยากจะตื่นเลย ยิ่งหากกำจัดครอบครัวชั่วร้ายของเจ้าของร่างเดิมได้ ก็จะยิ่งดี

“ไม่ต้องห่วงนะอิงอิงลูกรัก พ่อกับแม่จะไปหาข้าวมาให้ลูกกินเพิ่ม”

“แค่นี้…ก็กินได้ค่ะ” จิงจิงก้มหน้าลงขณะพูด

ความฝันนี้เหมือนจริงเหลือเกินกระทั่งน้ำข้าวในช้อนยังจืดเย็นชืดจนแทบกลืนไม่ลง เธอยอมกินสิ่งที่พวกเขาเรียกว่าข้าวด้วยความกล้ำกลืน

หากตนมาอยู่ในร่างของเด็กสาวคนนี้ ซึ่งอยู่ในยุค 70 ยุคแห่งการเปลี่ยนแปลงจริง ๆ เช่นนั้นก็แสดงว่าต้องใช้ชีวิตไปก่อนจนกว่าจะตื่นจากฝันอย่างนั้นเหรอ

ทั้ง ๆ ที่กำลังจะซื้อบ้านได้แล้วแท้ ๆ

ไม่รู้ว่าเจ้าโจรที่ขโมยไปจะถูกตามตัวพบหรือไม่

จิงจิงรู้ดีว่าเคสที่โจรขโมยเงินสดแบบนี้เอากลับคืนมายากมาก ดูเหมือนเมื่อฟื้นขึ้นสิ่งแรกที่หญิงสาวต้องทำคือการทำงานหนักอีกครั้งเช่นนั้นเหรอ

แล้วถ้าต้องพักรักษาตัวนานจนตำแหน่งผู้จัดการที่เพิ่งได้มาหลุดมือไปจะทำอย่างไร ความฝันที่จะมีอนาคตมั่นคงก็คงจะหลุดลอยไปก่อน

นอกจากนี้ไม่รู้ว่าบาดแผลในครั้งนี้จะส่งผลกระทบอย่างไรบ้าง หากกลายเป็นคนอ่อนแอ ทำงานหามรุ่งหามค่ำไม่ได้อีกต่อไปจะทำอย่างไร

แค่คิดจิงจิงก็หวาดกลัวจนแทบกลืนน้ำข้าวไม่ลงมากกว่าเดิม

พวกนี้คืออาหารเหรอ อาหารสุนัขบ้านเธอยังดีกว่านี้มาก แค่คิดก็รู้สึกเศร้าจนอยากจะร้องไห้ออกมาแล้ว

“อิงอิง ไม่ต้องร้องนะลูก แม่อยู่นี่” ความอบอุ่นที่หลังมือทำให้จิงจิงเงยหน้าขึ้นมอง เห็นบิดามารดาในความฝันยืนอยู่ข้างเตียงมองมาด้วยความเป็นห่วง

เธอก้มหน้าลงแล้วรีบกินข้าวพร้อมกลั้นใจยกยาขึ้นดื่มเพื่อจะได้รีบ ๆ นอน แล้วรีบออกจากความฝันนี้เสียที

จิงจิงแค่อยากรู้ว่าตอนนี้โลกความจริงของเธอเป็นอย่างไรบ้าง ไหนจะร่างจริงของเธอที่บาดเจ็บอีกเล่า

“อิงอิง อิ่มไหมลูก”

จิงจิงได้ยินแม่ถามอย่างนั้นก็ส่ายหน้า อยากจะบอกตามตรงว่าถ้าน้ำข้าวที่มีข้าวเพียงไม่กี่เม็ดทำให้คนอิ่มได้ก็มหัศจรรย์แล้ว แม้จะเป็นยุค 70 ก็เถอะ คนก็ไม่ได้ยากจนอดอยากขนาดนั้นนี่นา

นี่ต้องเป็นผลมาจากการกลั่นแกล้งของย่าเจ้าของร่างอีกแน่นอน

“โถ ลูกแม่” คนเป็นแม่เริ่มร้องไห้ ทำให้จิงจิงรู้สึกทำตัวไม่ถูก

“ไม่ต้องร้องหรอกค่ะ ไม่เป็นไร แค่นี้ก็พอกินได้” จิงจิงรับมือกับลูกค้าได้ดี แค่ผู้หญิงร้องไห้คนหนึ่งย่อมไม่พลาด

“ถ้าอย่างนั้นพ่อจะออกไปหาของกินมาให้ลูกเพิ่ม” ว่าแล้วเว่ยตงก็หันหลังกลับเดินออกจากห้องไป

“เอ่อ อิงอิงขอนอนพักต่อหน่อยนะคะ”

“ได้ ๆ นอนเลยลูก นอนเยอะ ๆ จะได้หายไว ๆ”

แม้นางเหม่ยฟางจะรู้สึกแปลก ๆ กับท่าทางของบุตรสาว แต่ยังคะยั้นคะยอให้ลูกนอนลง ช่วยห่มผ้าให้แล้วจึงออกไปข้างนอกเพื่อตั้งใจหาอะไรมาให้บุตรสาวกินเพิ่มเหมือนกัน

ทางด้านจิงจิงนั้นได้แต่ลืมตาโพลงมองเพดานด้วยความสับสน

นี่ไม่ใช่ในหนังในละคร เธอจะทะลุมิติหรือมาสวมร่างกายของคนอื่นได้อย่างไร นี่ต้องเป็นความฝันจากอาการโคม่าแน่ ๆ

ขอเพียงแค่เธอหลับสักตื่น เมื่อลืมตาขึ้นมาอีกครั้งย่อมฟื้นกลับสู่โลกความจริงของตัวเองได้อย่างแน่นอน

เพียงแต่ความทรงจำของร่างนี้ก็น่าสงสารเหลือเกิน ราวกับได้ดูหนังอันแสนอาภัพเรื่องหนึ่ง จนคนที่อวยยศตัวเองว่าเป็นผู้ชมอย่างจิงจิง รู้สึกเหมือนครอบครัวนี้ต้องมีเบื้องลึกเบื้องหลังอะไรสักอย่าง

ก็มีเหตุผลอะไรที่แม่แท้ ๆ ต้องรังแกลูกชายตัวเองขนาดนี้ล่ะ

ครอบครัวนี้มีปู่กับย่าเป็นหัวหน้าครอบครัว คุณย่ามีลูกชายสองคนลูกสาวสามคน หากบอกว่าเป็นเพราะเหตุนี้เลยทำให้คุณย่ามีปมเรื่องการมีหลานสาวเป็นผู้หญิงก็ไม่น่าจะใช่

เพราะสุดท้ายแล้ว เว่ยหนานที่เป็นหลานสาวเหมือนกันกลับได้รับความชมชอบจากผู้เป็นย่าอยู่ แม้เป็นรองจากเว่ยหยางหลานชายคนโตและเว่ยจุนที่เรียนเก่งก็เถอะ

บางทีถ้านี่เป็นความฝัน เธออาจสร้างมันมาจากนิยายหรือละครเลือดสุนัขที่เคยดู ไม่แน่ว่าพ่อของเธออาจเป็นลูกชายคนสำคัญของตระกูลเก่าแก่ที่ถูกลักพาตัวมาขายโดยผู้ค้ามนุษย์ จนสุดท้ายก็มาตกอยู่ในมือของนางหวังซื่อ

หากเป็นอย่างนี้ก็พอจะเข้าเค้าไปหมด ไม่ว่าจะเป็นความรังเกียจที่มีต่อลูกชาย แล้วพาลมารังเกียจลูกสาวของเขา

บางทีไม่แน่แม้ว่าบ้านของเด็กคนนี้จะบังเอิญให้กำเนิดบุตรชายมา ก็คงจะไม่เป็นที่รักเหมือนเดิม หากทุกอย่างเป็นเรื่องจริง และพ่อเว่ยตงไม่ใช่ลูกแท้ ๆ ของนางหวัง

น่าเสียดายที่จิงจิงเป็นเพียงผู้ชม และไม่สามารถเปลี่ยนแปลงอะไรได้

ก็ได้แต่หวังว่าเมื่อเจ้าของร่างเดิมกลับมา หรือความฝันจบลงแล้ว ครอบครัวเล็ก ๆ สามคนพ่อแม่ลูกนี้จะหลุดพ้นจากครอบครัวเฮงซวยนี่เสียที

“ช่างเถอะ ยังไงก็ไม่ใช่เรื่องของฉัน” จิงจิงคิดเช่นนั้นขณะพยายามข่มตาลงให้นอนหลับ

แต่นอนคิดอะไรเพลิน ๆ อยู่นาน กว่าจะหลับสนิทในที่สุด

จนกระทั่งมีเสียงเคาะประตูดังรบกวน พร้อมเสียงโวยวายที่คุ้นหูในความทรงจำ

ปัง ปัง ปัง! “ตื่นได้แล้วนังเด็กเสียเงิน นอนกินบ้านกินเมืองไปถึงไหนฮะ! สำออยขนาดนี้ก็หาสามีรวย ๆ แล้วไปเกาะเขากินเถอะ บ้านนี้ไม่เลี้ยงคนขี้เกียจสันหลังยาวโว้ย!”

จิงจิงลืมตาตื่นขึ้นด้วยความสะลึมสะลือ เธอรู้สึกเหมือนใบหน้าร้อนฉ่า ลมหายใจที่ถูกพ่นออกจากจมูกเองก็มีไอร้อนจาง ๆ

“ที่นี่…” มองไปรอบ ๆ หญิงสาวพบว่าตนเองยังอยู่ในฝันเหมือนเดิมก็สูดหายใจเข้าลึก ไม่อยากจะเชื่อว่าจนถึงตอนนี้ก็ยังไม่ตื่น

ดูเหมือนบางทีอาจต้องให้เกิดเหตุการณ์อะไรที่น่าตกใจ หรือจุดเปลี่ยนบางอย่างถึงจะทำให้ตื่นขึ้นได้ บางทีนี่อาจเป็นนรกที่ทุกคนพูดถึง

เมื่อคิดถึงเสียงตะโกนที่ดังขึ้นหน้าห้อง ก็พลันคิดว่านี่อาจเป็นนรกจริง ๆ ก็ได้ นรกที่ใช้ทรมานผู้คนจนเกือบตาย ด้วยความร้ายกาจของผู้เป็นย่านั่นไง

ปัง ปัง ปัง! “ตื่นโว้ย ถ้าแกยังไม่ตื่น วันนี้ฉันจะตีแกให้ตาย นังผีขี้เกียจที่ชั่วร้าย ทำตัวให้มีประโยชน์อะไรไม่ได้สักอย่าง”

“หึ นังแก่ชั่วช้าสมองเลอะเลือนเอ๊ย” จิงจิงด่าอีกฝ่ายเบา ๆ ก่อนสะลึมสะลือมองไปรอบ ๆ เพื่อตามหาร่างของพ่อแม่ในฝัน

เมื่อเห็นว่าพวกท่านไม่อยู่ก็รู้แล้วว่าทำไมยัยย่าชั่วร้ายคนนั้นถึงมาอาละวาด เผลอ ๆ อาจใช้เวลาที่พ่อแม่เผลอและร่างกายนี้ยังอ่อนแอ จับคนส่งขายให้พ่อม่ายชราเลยก็ได้

ถึงจะคิดแบบนั้นแต่เมื่อนึกว่านี่เป็นเพียงความฝัน จิงจิงก็ลุกขึ้นเดินโซเซด้วยความอ่อนแรงไปเปิดประตู

ผ่าง! จู่ ๆ ประตูก็เปิดออก ทำให้นางหวังซื่อที่กำลังจะฟาดไม้ลงยั้งมือแทบไม่ทัน โชคดีที่ไม้โดนขอบประตูด้านข้าง

ปัง! เสียงดังของไม้กระทบกันทำให้จิงจิงสะดุ้ง แต่ดวงตาที่มองตรงไปยังร่างท้วมตรงหน้ากลับเฉยเมยเฉื่อยชา

“ไม่เห็นหรือยังไงว่าคนป่วยจะตายอยู่แล้ว” นี่อาจเป็นความรู้สึกอึดอัดที่อยากจะระบายหลังจากเห็นความทรงจำมานาน

นางหวังซื่อไม่คิดว่าเด็กสาวที่เอาแต่กลัวหัวหดจะมองตรงมาที่ตนอย่างนั้น ซ้ำยังพูดออกมาด้วยน้ำเสียงแหบแห้งน่ากลัว จึงอดลดไม้ลงมาที่ข้างตัวไม่ได้

แต่เมื่อนึกขึ้นได้ว่าเด็กนี่ก็แค่คนขลาดเขลา นังจิ้งจอกเหมือนแม่มันที่ชอบล่อลวงผู้ชายไปวัน ๆ ก็เริ่มยกนิ้วขึ้นชี้ ด่าว่าอีกครั้งทันทีราวกับถูกตั้งโปรแกรมไว้ว่า พบหน้าคนนี้แล้วต้องด่าเท่านั้น

Continuez à lire ce livre gratuitement
Scanner le code pour télécharger l'application

Latest chapter

  • ข้ามเวลามาเป็นแม่ค้าหลงยุค ยุค70   ตอนพิเศษ 4 ตลอดไป

    ตอนพิเศษ 4 ตลอดไปชีวิตของซิ่วอิงตอนนี้มีความสุขมาก ความจริงเธอก็มีความสุขตลอดมาอยู่แล้ว แต่เมื่อคิดว่ามีเด็กตัวเล็ก ๆ กำลังอาศัยอยู่ภายในร่างกายตัวเองและเจริญเติบโตขึ้นทุกวัน มันเป็นความสุขที่แตกต่างออกไปจริง ๆ“อีกสิบวันก็จะได้เจอหน้ากันแล้วนะลูก” หญิงสาวใช้มือลูบหน้าท้องที่ใหญ่ไม่ต่างจากลูกแตงโมของตนเอง นี่ก็ใกล้คลอดเต็มทีแล้ว ทำให้เมื่อสามีออกไปทำงาน หลันถังกับเหม่ยฟางผู้เป็นแม่ก็จะแบ่งเวลามาอยู่เป็นเพื่อนเสมอถึงตอนนี้หลันเซียงฮั่นจะย้ายมาประจำการอยู่ใกล้ ๆ แต่เขายังคงต้องเดินทางไปทำงานต่างเมืองเมื่อได้รับมอบหมายภารกิจ และคราวนี้ก็เช่นกันในตอนแรกเซียงฮั่นไม่คิดจากภรรยาไปจนกว่าเธอจะคลอดลูกและปลอดภัย เขากลัวว่าซิ่วอิงจะหวาดกลัวหากตนเองไม่ได้อยู่เคียงข้างตอนคลอดลูก จึงคิดปฏิเสธภารกิจในครั้งนี้และขอลาหยุดสักเดือนแต่เป็นซิ่วอิงที่คะยั้นคะยอให้ชายหนุ่มไปทำงานเพราะเหลือเวลาอีกสองอาทิตย์ก่อนถึงกำหนดคลอด อย่างไรเขาก็กลับมาทันอยู่แล้วเธอจึงนั่งอยู่ในสวนสวยเฝ้ามองหน้าประตูเป็นระยะด้วยใจคิดถึงสามีบ้างเป็นบางครั้ง แต่ส่วนใหญ่ก็มักจะนึกคิดทำผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ออกมาเล่นเสียมากกว่า ไม่ได้อยู่บ้า

  • ข้ามเวลามาเป็นแม่ค้าหลงยุค ยุค70   ตอนพิเศษ 3 ภรรยาท้องแล้ว

    ตอนพิเศษ 3 ภรรยาท้องแล้ว“อิงอิง ลุกมากินของอร่อยเถอะลูก วันนี้แม่ของอิงอิงเอาอาหารอร่อยมาฝากแม่ไว้ตั้งเยอะ”“อิงอิงยังเพลีย ๆ อยู่เลยค่ะ สงสัยเพราะช่วงนี้ทำงานหนักเกินไป ขอนอนอีกหน่อยนะคะแม่” ซิ่วอิงบอกกับแม่สามีเนื่องจากสองบ้านปรองดองกันดีมาก ซิ่วอิงใช้เงินเพื่อซื้อบ้านที่อยู่ตรงข้ามให้กับพ่อแม่ ขณะที่ตนเองเลือกจะมาอยู่บ้านแม่สามีเวลาที่คุณพ่อสามีและหลันเซียงฮั่นที่เป็นสามีไปทำงานต่างจังหวัดพร้อมกันโดยมีบ้านของตัวเองที่ใช้อยู่กับสามีต่างหากอีกหลังหนึ่ง และใช้อยู่เมื่อสามีกลับมาหาเท่านั้น แต่ปกติแล้วซิ่วอิงจะสลับไปมาระหว่างบ้านพ่อแม่ตัวเองและพ่อแม่สามีเสียมากกว่าตอนนี้เธอก็มาอยู่บ้านหลัน เพราะทั้งคุณพ่อและสามีล้วนออกไปทำงาน ส่วนเซียงฮั่นนั้นจะกลับมาในวันพรุ่งนี้“อิงอิงไม่ต้องทนนะ ไปหาหมอเลยดีกว่า บ้านเราขาดเงินทองซะที่ไหนกัน หรือแม่ซื้อโรงพยาบาลไว้ให้ก็ได้” หลันถังยังคงใจป้ำเหมือนเดิม เมื่อได้ลูกสะใภ้คนนี้มาชีวิตเธอก็มีความสุขขึ้น จนรู้สึกรักเอ็นดูซิ่วอิงเหมือนเป็นลูกของตัวเองไปอีกคน เผลอ ๆ รักมากกว่าลูกตัวเองเสียอีก“เอ่อ ไม่เป็นไรค่ะ อิงอิงไปหาหมอเฉย ๆ ดีกว่า” ซิ่วอิงยิ้มแหยให้

  • ข้ามเวลามาเป็นแม่ค้าหลงยุค ยุค70   ตอนพิเศษ 2 สามีที่ดี

    ตอนพิเศษ 2 สามีที่ดีแม้ว่าทุกอย่างจะดำเนินไปด้วยดี แต่อย่างไรในชีวิตก็ต้องมีบางสิ่งมากระทบกระทั่ง สุดท้ายแล้วซิ่วอิงและครอบครัวก็ยังเป็นมนุษย์ธรรมดาที่ใช้ชีวิตอยู่ในสังคมมนุษย์ช่วงนี้ซิ่วอิงรู้สึกไม่สบายใจเล็กน้อย หลังสามีกลับมาจากทำงานครั้งล่าสุด เธอได้กลิ่นน้ำหอมของผู้หญิงติดมาเพิ่งแต่งงานได้ไม่นาน เขาจะเบื่อเธอและหาเรื่องเข้าบ้านแล้วจริง ๆ อย่างนั้นเหรอ?มีหรือหลันเซียงฮั่นจะไม่รู้ว่าภรรยามีความกังวลอะไรบางอย่างในใจ เขาหันมองไปรอบตัวก่อนจะจับลูกน้องที่มีภรรยาแล้วมาสอบถาม“ภรรยาฉันเป็นอะไรไป” เซียงฮั่นเป็นผู้บัญชาการที่เก่งกาจ เขายังดูแลเอาใจใส่ภรรยาจนลูกน้องแอบเรียกลับหลังว่าสามีแห่งชาติ แต่เมื่อเกิดปัญหาขึ้นมาชายหนุ่มก็ยังเป็นเพียงคนที่เพิ่งเคยมีความรัก“คุณผู้หญิงมีท่าทางยังไงครับ”“ช่วงนี้ไม่ค่อยให้ฉันเข้าใกล้ เวลานอนก็หันหลังให้” เซียงฮั่นนึกถึงท่าทางของภรรยาแล้วก็ปวดใจ เขาไปทำอะไรให้เธอไม่พอใจหรือเปล่า แต่พอถามแล้วเธอก็บอกว่าเปล่าและฝืนยิ้ม เก็บเรื่องราวไว้ในใจคนเดียว คิดว่าเขามองไม่เห็นอย่างนั้นเหรอ“ถ้าอย่างนั้นนายท่านไปทำอะไรมาหรือเปล่าครับ” ทหารคนสนิทมองหน้าเจ้านายอายุน

  • ข้ามเวลามาเป็นแม่ค้าหลงยุค ยุค70   ตอนพิเศษ 1  ชีวิตที่ใฝ่หามานาน

    ตอนพิเศษ 1 ชีวิตที่ใฝ่หามานานตอนนี้ชีวิตใหม่ของเว่ยซิ่วอิงลงตัวอย่างมาก ได้ก่อตั้งธุรกิจในยุคแรกเริ่ม อนาคตมีแต่จะรุ่งเรืองขึ้นเรื่อย ๆ แม้ไม่ต้องพึ่งพามิติร้านเครื่องสำอางก็ตามนอกจากนี้ยังมีสามีคอยเอาอกเอาใจ แม่สามีแสนดีที่ไม่มีการกดขี่ลูกสะใภ้เลยสักนิด ครอบครัวของเธอก็คอยสนับสนุนอยู่เบื้องหลังเสมอซิ่วอิงคิดว่าแค่นี้เธอก็ประสบความสำเร็จมากแล้วในฐานะผู้หญิงคนหนึ่ง ลำพังเกิดมามีแม่สามีดีอย่างหลันถัง ก็คงมีคนสงสัยว่าเธอทำบุญกู้ชาติมาในชาติก่อนแน่ ๆ ถึงได้มีชีวิตที่ดีขนาดนี้แค่ถึงอย่างไรคนเก่งก็มีปัญหาของคนเก่ง เพราะสามีต้องไปทำงานต่างเมืองบ่อย ๆ เธอเลยใช้เวลาว่างส่วนใหญ่ไปกับงานในร้านกระทั่งสามีกลับมาอยู่ด้วยกันแล้ว เธอก็ยังวุ่นวายอยู่กับร้านค้าโชคดีที่เซียงฮั่นเข้าใจแล้วยังสนับสนุนภรรยาให้ทำตามใจปรารถนาได้เต็มที่ เมื่อเขาได้พักเพิ่มสักหนึ่งหรือสองวัน ก็มักจะพาซิ่วอิงไปที่ร้านเสมอเพื่อเอาอกเอาใจหากพาไปร้านอาหารแบบคนหนุ่มสาวก็แล้วไป เขากลับพาเธอเข้าร้านตัวเองเพื่อให้หญิงสาวหาเงินที่เธอชอบนักหนา และแน่นอนว่าซิ่วอิงชอบการแสดงความรักของสามีแบบนี้มากกว่า“มีอะไรหรือเปล่า” ขณะที่นั่งก

  • ข้ามเวลามาเป็นแม่ค้าหลงยุค ยุค70   บทส่งท้าย  คุณคือคนที่อยากอยู่ด้วยไปตลอดชีวิต

    บทส่งท้าย คุณคือคนที่อยากอยู่ด้วยไปตลอดชีวิตรถยนต์สีดำขับไปตามทางที่คุ้นเคยไม่นานก็มาถึงกำแพงบ้านหลัน ทหารเฝ้ายามเปิดประตูต้อนรับด้วยความยินดี เมื่อรถจอดเทียบขาเรียวก็ก้าวออกมา“อิงอิง มาแล้วเหรอจ๊ะ” ที่ยืนอยู่ตรงหน้าตอนนี้คือป้าหลัน พร้อมทั้งเหม่ยฟางผู้เป็นมารดาของตนเอง ซิ่วอิงไม่ได้รู้สึกผิดสังเกตอะไรเพียงยื่นมือไปหาพวกท่านอย่างเป็นธรรมชาติ“ป้าหลันสบายดีไหมคะ วันนี้แอบเข้าครัวกับแม่อีกแล้วหรือเปล่า” ซิ่วอิงสนอกสนใจดูมือของผู้ใหญ่ตรงหน้า ขณะที่ท่านจับจูงเธอเดินทะลุตัวบ้านไปยังสวนด้านหลัง“ป้าเข้าครัวไปก็รกครัวเปล่า ๆ ไม่เข้าไปรบกวนเหม่ยฟางหรอกนะ”“อิงอิงลูกเงยหน้าขึ้นก่อน” เสียงอ่อนโยนของผู้เป็นแม่ดังขึ้น เมื่อรู้ตัวซิ่วอิงก็มาอยู่ในสวนหลังบ้านของสกุลหลันแล้วหญิงสาวเงยหน้าขึ้นด้วยความสงสัย สิ่งแรกที่เห็นคือร่างสูงของชายหนุ่มที่เธอคิดถึงมาตลอดหลายเดือนที่ผ่านมาและติดต่อกันทางโทรศัพท์ไม่กี่นาทีต่อเดือนเท่านั้นตอนนี้เขายังสวมชุดทหารเต็มยศ ในมือมีช่อดอกไม้สีขาวบริสุทธิ์ ล้อมรอบไปด้วยแสงเทียนและซุ้มดอกไม้ที่ถูกตั้งใจตกแต่งเอาไว้อย่างดีจนทั่วทั้งสวน“พี่เซียงฮั่น” ซิ่วอิงยิ้มออกมาด้วย

  • ข้ามเวลามาเป็นแม่ค้าหลงยุค ยุค70   บทที่ 44 หาเรื่องใส่ตัว

    บทที่ 44 หาเรื่องใส่ตัว“แม่คะ เราไป…” ก่อนที่คุณหนูลู่จะพูดจบ มารดาของหล่อนก็เดินลิ่ว ๆ เข้าไปในวงสนทนาที่เว่ยซิ่วอิงอยู่ก่อนแล้ว เห็นอย่างนั้นก็ยิ่งทำให้คุณหนูลู่พึงพอใจที่ไม่ต้องทำอะไรเอง“นี่มันแม่ค้าขายเครื่องสำอางนี่นา มาตรฐานงานเลี้ยงของกองทัพตกต่ำลงถึงขนาดเชิญพ่อค้าแม่ค้าข้างถนนมาร่วมงานแล้วอย่างนั้นเหรอเนี่ย” คุณนายลู่ไม่พอใจเว่ยซิ่วอิงอยู่แล้วจากงานเลี้ยงน้ำชาที่บ้านของคุณนายหลัน ดังนั้นเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายกำลังไปได้ดีก็รู้สึกว่าต้องเข้ามาทำลายและลากคนคนนี้ลงมาให้ได้“สวัสดีค่ะ คุณนายลู่” เว่ยซิ่วอิงไม่ดิ้นเต้นไปตามอารมณ์ของคน เธอทักทายอีกฝ่ายด้วยความเคารพและมีมารยาทเพียงเท่านี้สายตาที่ทุกคนมองมาก็เปลี่ยนไปเล็กน้อย อย่างน้อย ๆ พวกเขาก็มองซิ่วอิงอย่างชื่นชม ขณะที่มองคุณนายลู่เหมือนนางร้ายเกรดต่ำคนหนึ่ง“โอ้ นี่ใครกัน ไม่ใช่คุณชายหลันเซียงฮั่นลูกรักของคุณนายหลันถังหรอกเหรอคะ”“สวัสดี คุณนายลู่” เซียงฮั่นจำต้องทักทายด้วยสีหน้าไม่ดีนัก เขารู้ว่าใครไม่ถูกกับมารดา และต้องหลีกหนีเสมอเมื่อเข้าสังคม แต่คราวนี้ดูเหมือนคนข้างกายจะไม่ยอมหลีกหนีง่าย ๆ ชายหนุ่มทำได้เพียงยืนปักหลักและเป็น

Plus de chapitres
Découvrez et lisez de bons romans gratuitement
Accédez gratuitement à un grand nombre de bons romans sur GoodNovel. Téléchargez les livres que vous aimez et lisez où et quand vous voulez.
Lisez des livres gratuitement sur l'APP
Scanner le code pour lire sur l'application
DMCA.com Protection Status