Share

บทที่ 390

Author: ลิ่วเยว่
เหล่าสมุหพระอาลักษณ์ต่างรู้อยู่ในใจดี ความลับของราชวงศ์ยังให้พวกเขาร่วมฟัง ยามนี้จะมีอะไรที่ฟังไม่ได้อีก?

แต่ใครก็ไม่อยากเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเรื่องวุ่นวาย เรื่องของราชวงศ์เป็นเรื่องที่ไม่สมควรถาม

พวกเขาจึงลุกขึ้นยืนขอตัว พร้อมทอดสายตาสงสารให้กับจ่านเหยียนเล็กน้อย

มาเอาเรื่องที่ตำหนักหรูหลานอย่างเอิกเกริกเช่นนี้ แล้วตอนนี้จะปล่อยไปง่าย ๆ ได้อย่างไร?

เฮ้อ คิดแล้วแม้มีใจแต่ก็หมดแรง หลงฉางเทียนเป็นบิดาของนางยังไม่เข้าข้างนางเลย พวกเขาที่ไร้ซึ่งอำนาจและอิทธิพลเหล่านี้จะทำอะไรได้?

หลังจากหมอหลวงออกไป จงเสี้ยนก็ส่งสายตากับราชครูถง ตามด้วยลุกขึ้นยืนอย่างขี้เกียจ “ประคองข้ากลับตำหนัก ชิงเอ๋อร์ เหยียนเอ๋อร์ พวกเจ้าก็กลับเถอะ”

ครั้นถงไทเฮาและฮองเฮาได้ยินดังนั้นจึงลุกขึ้นแล้วไปประคองจงเสี้ยนพร้อมกัน

จ่านเหยียนกลับส่งสายตากับอาเสอ อาเสอสาวเท้าเร็วเดินไปปิดประตูตำหนัก จากนั้นก็ยืนอยู่คนละฝั่งกับอาหู

จงเสี้ยนพลันเกิดโทสะหันมาจ้องจ่านเหยียน “นี่เจ้าหมายความว่าอย่างไร?”

จ่านเหยียนก็ลุกขึ้นเดินเหมือนกัน คลี่ยิ้มตอบ “แม่สามีจะรีบเสด็จกลับไปไยเพคะ? เชิญประทับก่อน หม่อมฉันยังมีเรื่องจะถามแม่สามี”

Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter
Comments (1)
goodnovel comment avatar
Chutima Jittreethiang
เรื่องนี้สนุกนะ แต่เสียดายมาวันละสองตอน
VIEW ALL COMMENTS

Latest chapter

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 396

    จ่านเหยียนหัวเสียเล็กน้อย “สบายใจได้ ข้าต้องคืนชุดให้ท่านแน่”“เช่นนั้นก็ดี!” มู่หรงฉิงเทียนกล่าวจบก็เดินอาด ๆ ไปจ่านเหยียนคับอกคับใจกับเงาหลังของเขานานระยะหนึ่งจึงหมุนตัวกลับตำหนักบรรทมอย่างกรุ่นโกรธอาเสอกลับมาเห็นจ่านเหยียนหงุดหงิดอยู่คนเดียวในห้องจึงถาม “เป็นอะไรไปหรือ? ใครทำให้ท่านโกรธ?”“เปล่า!” จ่านเหยียนถือเข็มกับด้ายอยู่ในมือ เย็บเป็นเส้นตะขาบ แล้วพูดด้วยความหงุดหงิด “เจ้าว่าเขาหมายความว่าอย่างไร?”“ใครหมายความว่ายังไง?” อาเสอถามด้วยความสับสนจ่านเหยียนสูดลมหายใจเข้าลึก “ไม่มีอะไรแล้ว”“เป็นบ้าอะไรขึ้นมา ใครทำให้ท่านโมโห? มู่หรงฉิงเทียนหรือ?” อาเสอถาม“เขาทำให้ข้าโกรธได้หรือ? เขาเป็นอะไรกับข้า?” จ่านเหยียนพูดอย่างไม่สบอารมณ์อาเสอมองนางด้วยความอยากรู้ จากนั้นก็ขมวดคิ้ว “ไม่ใช่นะ น้ำเสียงการพูดของท่านมันมีปัญหา เขาไม่เป็นอะไรกับท่านจริง ๆ นั่นแหละ เขาจะทำอะไรย่อมไม่เกี่ยวกับท่าน แล้วท่านมาผายลมอยู่นี่มันหมายความว่าอย่างไร?”“เอ๊ะ ทำไมเจ้าถึงเป็นคนหยาบคายอย่างนี้?” จ่านเหยียนอารมณ์ขึ้น คว้ารองเท้าปักลายบนโต๊ะแล้วไล่ฟาดนาง “เจ้ายังมีคำพูดอะไรที่ทุเรศกว่านี้อีกไหม? พูดก

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 395

    อาเสอจึงได้แต่ส่งเหมย หลาน จู่และจวี๋ออกจากวัง ที่ทำก็เพราะกลัวว่าพวกเขาจะถูกฆ่าปิดปาก นางจ้างรถม้าส่งออกนอกเมืองในคืนนั้น แล้วล้วงเงินให้พวกเขาจำนวนหนึ่งต้าเหมยรับเงินมาแล้วดึงแขนเสื้อของอาเสอ ถาม “โปรดบอกคุณหนูใหญ่ บุญคุณครั้งนี้ ชาตินี้ต้าเหมยไม่มีวันลืม หากมีโอกาสต้องตอบแทนแน่”อาเสอเอ่ย “ไม่หวังให้พวกเจ้าตอบแทน ถึงเวลาอย่าถูกคนหลอกใช้ก็พอ หนีเอาตัวรอดเถอะ ราชครูถงไม่ปล่อยพวกเจ้าไปหรอก”ทั้งสี่ขึ้นนั่งรถม้าหนีเอาตัวรอดหลังจากที่อาเสอไป ต้าเหมยก็ให้สารถีหยุดรถ “ข้าจะกลับเมืองหลวง”อาจู๋ดึงเขาไว้ “เจ้าบ้าไปแล้วหรือ? ราชครูถงไม่ปล่อยเราหรอก”ต้าเหมยกระโดดลงรถม้าแล้วมองทั้งสามคน “คุณหนูใหญ่ไม่เคยเอาเปรียบเรา กระทั่งเวลานี้ก็ยังเป็นห่วงชีวิตของเรา ข้าจะเห็นแก่ตัวเช่นนี้ไม่ได้ ข้าจะกลับไป”“เจ้ากลับไปแล้วจะทำอะไรได้?” อาจู๋ถามต้าเหมยนิ่งเงียบพักหนึ่ง “ไม่รู้ แต่กลับไปแล้วค่อยว่ากัน”เขานิ่งไปพักหนึ่งแล้วพูดอีก “ชาตินี้เราอยู่ใต้น้ำลายคนอื่น ไม่เคยได้รับความเคารพจากใคร แต่คุณหนูใหญ่เห็นพวกเราเป็นคนจริง ๆ ข้าอยากเป็นคนอย่างแท้จริง ข้าไม่อยากเร่ร่อนเหมือนสุนัขไร้บ้าน”กล่าวจบเข

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 394

    เขาพิจารณาครู่หนึ่งจึงเอ่ยกับหลงฉางเทียน “เจ้าไปนับทหารเดี๋ยวนี้ แล้วบุกเข้าวังมา”จงเสี้ยนโบกมือ “ยังไม่ต้อง ตอนนี้ที่ด่วนที่สุดไม่ใช่กำจัดนาง แต่ต้องยึดอำนาจทหาร ท่านพี่ ท่านมาตำหนักข้า ข้ามีบางเรื่องจะหารือกับท่าน”“ได้!” ราชครูถงหันกลับมามองทีหนึ่ง แค่แวบเดียวก็ตกใจขวัญกระเจิง เห็นเพียงเหล่าทหารที่เดิมยืนอยู่ที่ระเบียงทางเดินมาถึงหน้าประตูอย่างเป็นระเบียบ กำลังง้างธนูคันเล็กกับพวกเขาอยู่ใบหน้าของพวกเขาไร้ความรู้สึก ราวกับเป็นตุ๊กตาที่ปั้นขึ้นมา กำลังรอคำสั่งก็จะยิงเข็มพิษพร้อมกัน แต่ตอนที่พวกเขาออกมาเมื่อครู่ เสียงฝีเท้าดังสนั่น บัดนี้พวกเขาแห่แหนหันมากลับไม่ได้ยินเสียงสักนิด มิหนำซ้ำราชครูถงมีกำลังภายในล้ำลึก ในที่นี้มีคนอยู่มากมาย เขากลับไม่ได้ยินเสียงหายใจหรือเสียงหัวใจเต้นสักนิดเจ้าพวกนี้... ไม่ใช่คน!ไม่ว่าราชครูถงจะใจกล้าขนาดไหนก็อดขนหัวลุกไม่ได้“ถอย!” ราชครูกัดฟันออกคำสั่งมีองครักษ์เดินมาหามถงจื่อซั่งแล้วรีบร้อนเดินไปจ่านเหยียนยืนอยู่ในลานตำหนัก มองคนพวกนี้หนีเอาชีวิตไปด้วยสีหน้าครุ่นคิดอาเสอเดินเข้ามาถาม “ทำไมต้องให้พวกเขาเห็นด้วย?”จ่านเหยียนเอ่ย “มีสองสา

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 393

    ราชครูถงหันขวับไปทางหลงฉางเทียนและถามด้วยโทสะ “นางมิใช่ลูกสาวต้อยต่ำของเจ้านั่น นางเป็นใครกันแน่?”หลงฉางเทียนก็งงเหมือนกัน เขามองไปทางจงเสี้ยนปานขอความช่วยเหลือ จงเสี้ยนใบหน้าเหี้ยมเกรียมปกคลุมไปด้วยไอหนาว จ้องเขาด้วยเหมือนกันเขารีบอธิบาย “ข้าน้อยก็ไม่ทราบเหมือนกันนะขอรับ ก่อนหน้านี้นักพรตฟางจี้จื่อเคยมาที่จวน บอกว่าในจวนมีปีศาจจิ้งจอก ไม่รู้ว่านางจะจำแลงกายมาจากปีศาจจิ้งจอกนั่นหรือไม่“ปีศาจจิ้งจอก? เหลวไหลสิ้นดี!” ราชครูถงตวาดด้วยความโกรธ “หากเป็นปีศาจจิ้งจอก เช่นนั้นในเมื่อฟางจี้จื่อเข้าจวนไปกำจัดปีศาจแล้ว ทำไมนางยังไม่ตายอีก?”“เรื่องนี้ข้าน้อยก็ไม่ทราบว่าเกิดอะไรขึ้นเหมือนกันขอรับ” หลงฉางเทียนตอบอย่างอกสั่นขวัญแขวน“ท่านพ่อ ตอนนี้ควรทำอย่างไรดี?” ถงไทเฮาตกใจไม่เบา ใบหน้าดำ ๆ กลายเป็นสีเขียวแล้วราชครูถงหัวเราะเย็น “ข้าเตรียมการก่อนจะมา คืนนี้ต้องฆ่านางให้ได้ และดูสิว่าตำหนักหรูหลานของนางแน่นหนาปานเหล็กหรือไม่?”จงเสี้ยนยื่นมือออกไปกดแล้วเอ่ยเสียงหนัก “ท่านพี่ อย่าได้ใจร้อน” กล่าวจบนางก็ส่งสายตาว่ามู่หรงเจี้ยนก็อยู่ด้วยราชครูถงมองมู่หรงเจี้ยนทีหนึ่ง เห็นเขายืนหน้าตึงเงีย

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 392

    ชีวิตนี้เขาเจอกับอันตรายมาไม่มากก็น้อย แต่ไม่มีครั้งไหนที่น่ากลัวเหมือนอย่างเวลานี้นางผู้นี้คือปีศาจร้าย ไม่ใช่พวกคนดีแน่ขณะร่างกายของเขาอ่อนปวกเปียกล้มลงไป ในที่สุดนางก็คลายมือออกจากคอของเขาเขานอนกระหืดกระหอบสูดอากาศ ทรวงอกมีความเจ็บที่ราวกับจะระเบิดจ่านเหยียนเหยียบยอดอกของเขาแล้วทิ้งคำพูดหนึ่ง “ครั้งหน้าเจ้าไม่โชคดีอย่างนี้แล้ว”ถงจื่อซั่งหอบหายใจหนัก ๆ เมื่อครู่ขาดอากาศจึงทำให้สมองในเวลานี้ยังมึน ๆ งง ๆ แต่เขายังสามารถได้ยินคำพูดประโยคนี้ของจ่านเหยียนได้อย่างชัดเจน จังหวะที่จ่านเหยียนหมุนตัว เขาใช้กำลังเฮือกสุดท้ายซัดศรพิษออกไปจากแขนเสื้อศรพิษผ่าอากาศตรงไปยังแผ่นหลังของจ่านเหยียนจ่านเหยียนยืนนิ่ง ครั้งสะบัดแขนเสื้อ ศรพิษนั้นก็พุ่งกลับเข้าหว่างคิ้วของถงจื่อซั่งเลือดกระเซ็นออกมา ถงจื่อซั่งเบิกตาโพลง ในดวงตาเต็มไปด้วยความเหลือเชื่อ ใบหน้าคือความบิดเบี้ยวทรมาน ร่างกายชักกระตุกสองสามที มุมปากก็มีเลือดสีดำไหลออก...“จื่อซั่ง!” จงเสี้ยนร้องอุทานผลักองครักษ์แล้วถลาไปหาถงจื่อซั่ง“อารอง!” ฮองเฮาก็อุทานแล้วเข้าไปหาเช่นกันกลับเป็นถงไทเฮาที่มองทุกอย่างตรงหน้านิ่ง ๆ หดตัวเล็กน

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 391

    สายตาของมู่หรงฉิงเทียนมุ่งไปทางจงเสี้ยนทันใด ใบหน้าที่บำรุงมาอย่างดีของจงเสี้ยน ขาวราวกับหิมะ ปราศจากสีเลือดฉับพลัน กล้ามเนื้อใบหน้านางกระตุก นางมองจ่านเหยียนแบบดวงตาไม่กะพริบอยู่นาน เปลวเพลิงร้อนแรงในดวงตาแผดเผาไม่หยุด ก่อนจะมีคำพูดร้ายกาจออกมาจากปากนาง “เจ้าไม่อยากอยู่แล้วจริง ๆ”นางยกมือหมุนตัวเดินไปทางประตูตำหนัก มีองครักษ์เอาตัวอาเสอกับอาหูออกไปทันทีแต่กระบี่ขององครักษ์ทั้งสองยังไม่ออกจากฝักก็ตกอยู่ในมือของอาเสอแล้วได้ยินเพียงกระบี่ออกจากฝักเสียงดังชิ้ง ฝักกระบี่กระเด็นไปทางองครักษ์ทั้งสองทำให้พวกเขาถอยออกไปสองก้าวจึงพอจะยืนได้อย่างมั่นคง ทว่าลมหายใจกลับยุ่งเหยิง ราชครูถงยิ้มเย็น “ตำหนักหรูหลานแห่งนี้ช่างเก็บซ่อนยอดฝีมือไว้จริง ๆ ข้าประเมินหมู่โฮ่วฮองไทเฮาต่ำเกินไป”จ่านเหยียนเดินประชิดไปทีละก้าวและยืนอยู่ตรงหน้าจงเสี้ยน “แม่สามีมีชนักติดหลังหรือเพคะ? กลัวว่าหม่อมฉันจะพูดเรื่องที่ตอนนั้นพระองค์ชิงโอรสของฮุ่ยเฟย? พระองค์ไม่โปรดอดีตฮ่องเต้มาโดยตลอด กลับจำต้องอาศัยเขาทำให้ฐานะของพระองค์มั่นคง สงสารแต่อดีตฮ่องเต้ ยังทรงนึกว่าพระองค์คือพระมารดาของพระองค์จริง ๆ อุ้มชูสกุลถงเพ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status