จ้าวถิงถิงนั่งอยู่ริมหน้าต่าง มองเห็นโคมไฟลอยอยู่บนท้องฟ้าไกลๆ วิบวับราวหิ่งห้อยหันไปมองนัวนั่วที่นั่งเล่นอยู่ไม่ไกลก็ถอนหายใจ
" ไป"
" ไปไหนเจ้าคะ"
" เจ้าอยากไปเที่ยวงานไม่ใช่รึ"
" คุณหนูจะพาข้าไปหรือเจ้าคะ"
นัวนั่วพูดด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น
" อืม ไปดูซิรถม้ายังมีอยู่หรือเปล่า"
" เจ้าค่ะคุณหนู"
ใช้เวลาสักพักก็มาถึงงาน
" ที่จริงข้าก็ไม่อยากจะมาสักเท่าไหร่หรอกเจ้าค่ะ ข้าอยากให้คุณหนูมาเที่ยวพักผ่อนมากกว่า"
พูดไปก็มองนู่นมองนี่ สายตาเป็นประกายบ่งบอกว่าตื่นตาตื่นใจ
" คุณหนูตรงนั้นมีอะไรไม่รู้คนมุงกันเพียบเลย ไปดูกันเจ้าค่ะ"
นัวนั่วจูงมือจ้าวถิงถิง เบียดเสียดผู้คนไปดู
" ว้าวคุณหนู แสดงเชิดสิงโตลอดห่วงไฟเจ้าค่ะ"
จ้าวถิงถิงเหลือบมองนัวนั่วที่จ้องมองการแสดงอย่างตื่นเต้น ปรบมือส่งเสียงเชียร์ไม่หยุด นางส่ายหน้ายิ้มบางๆด้วยความเอ็นดูพอการแสดงจบลงผู้คนก็แยกย้าย ไม่คิดว่าคนเยอะขนาดนี้ยังได้เจอจ้าวฉู่หรัน นางจะเดินเลี่ยงไปทางอื่นแต่จ้าวฉู่หรันก็วิ่งเข้ามาหานางเสียก่อน
" พี่ถิงถิงไหนว่าไม่มาไง ดีใจจังที่ได้เจอท่าน"
นางมองเลยไปข้างหลัง เห็นหยางหานกับหวังจื่อเย่เดินตามมา
" ก่อนหน้านี้ท่านบอกว่าไม่มา ข้าก็เลย"
"ดียิ่งนัก เป็นทั้งองครักษ์และคู่หมั้นของข้าแต่กลับไปเดินตามคนอื่น นัวนั่วเราไปทางนั้นกันเถอะ"
" เจ้าค่ะคุณหนู"
นัวนั่วมองหวังจื่อเย่ด้วยสายตาไม่พอใจก่อนจะสะบัดหน้าเดินตามจ้าวถิงถิงไป
" พี่ถิงถิงเดี๋ยวก่อนเจ้าค่ะ"
จ้าวฉู่หรันรีบเข้าไปขวางหน้า
"ข้ารู้ว่าท่านโกรธข้าเรื่องจี้หยกที่จื่อเย่ให้เลยพูดแบบนี้ ท่านอย่าน้อยใจไปเลย ท่านรักจื่อเย่มานานข้ารู้ดี ข้าไม่มีความคิดจะแย่งเขาไปจากท่านเลย ขอให้ท่านเชื่อข้าเถอะ ถ้าเป็นเพราะเรื่องจี้หยกทำให้ท่านต้องขุ่นข้องหมองใจ ข้าสามารถให้ท่านได้"
จ้าวฉู่หรันถอดจี้หยกยื่นให้จ้าวถิงถิง แม้หวังจื่อเย่จะไม่พอใจแต่ก็ข่มอารมณ์เอาไว้เขาอยากจะบอกว่าจี้หยกชิ้นนี้เขาให้จ้าวฉู่หรันไม่ใช่จ้าวถิงถิง จ้าวถิงถิงมองหน้าหวังจื่อเย่แล้วกระตุกยิ้มมุมปาก
" ไม่ต้องทำหน้าผิดหวังขนาดนั้น ข้าไม่เอาของของเจ้าหรอก ข้ารู้จี้หยกนี้เป็นของมารดาเจ้า และเจ้าก็สวมติดตัวไว้ตลอดไม่เคยถอด เพราะสำคัญมากถึงได้มอบให้กับคนสำคัญ แล้วข้าจะเอาไปได้ยังไง"
" ขอบคุณคุณหนูใหญ่ที่เข้าใจ จี้หยกนี้ข้าให้คุณหนูรองไปแล้วย่อมไม่ต้องการเอาคืน หากท่านต้องการจี้หยกแบบนี้ ข้าจะหามาใหม่อาจไม่เหมือนกันเสียทีเดียว แต่จะหามาให้เหมือนกันให้มากที่สุด"
" ไม่จำเป็น ข้าก็เคยพูดไปแล้วว่าไม่ต้องการอะไรจากเจ้าทั้งนั้น"
นางจูงมือนัวนั่วเดินชนไหล่จ้าวฉู่หรันออกไป
" จื่อเย่รีบตามนางไปสิ"
หวังจื่อเย่ถอนหายใจเฮือกใหญ่ ก่อนจะเร่งตามจ้าวถิงถิงไป แม้จะตามนางแต่ก็คอยหันไปมองจ้าวฉู่หรันที่เดินอยู่ข้างหลังบ่อยๆ
" คุณหนูขนมตรงนั้นน่ากินนะเจ้าคะ ท่าจะอร่อย คนต่อแถวซื้อกันเพียบเลย ท่านอยากกินไหมเจ้าคะข้าจะไปซื้อมาให้"
" อืมก็ดี เดินไปเดินมาชักหิวขึ้นมาละ"
" งั้นคุณหนูรอข้าแถวนี้นะเจ้าคะ"
" รู้แล้ว รีบไปเร็วเดี๋ยวแถวยาวกว่าเก่า"
" เจ้าค่ะเจ้าค่ะ"
พอนัวนั่วเดินออกไป ชายกลุ่มหนึ่งก็เข้ามาพูดจาลวนลาม มองจ้าวถิงถิงด้วยสายตาแทะโลม นางถอยหลังหนีมองหาคนช่วยสายตาเห็นหวังจื่อเย่กำลังยืนยิ้ม มองจ้าวฉู่หรันที่เลือกซื้อเครื่องประดับอยู่
" จื่อเย่ จื่อเย่ ถอยออกไปนะ ข้าบอกให้ถอยไปไง จื่อเย่ช่วยข้าด้วย"
นางร้องเรียกเขา แต่เพราะระยะห่างไกลกันอีกทั้งคนเยอะเสียงดัง เขาถึงไม่ได้ยินเสียงร้องเรียกขอความช่วยเหลือจากนาง เขาไม่คิดจะหันมามองนางเลยสักนิด สายตาจ้องมองแต่จ้าวฉู่หรัน หากเขาหันมามองนางบ้าง ก็จะเห็นว่าตอนนี้นางกำลังถูกผ้าปิดปากและพาเดินหายไปอีกทาง
นัวนั่วซื้อขนมเสร็จก็ไม่เห็นจ้าวถิงถิง นางหันไปมองรอบๆตัวก็ไม่มี เห็นหวังจื่อเย่ยืนอยู่ไม่ไกลก็รีบเข้าไปหา
" จื่อเย่แล้วคุณหนูของข้าหล่ะ คุณหนูอยู่ไหน"
" นางก็ยืน"
หวังจื่อเย่ชี้ไปตรงที่จ้าวถิงถิงยืนอยู่ แต่ตอนนี้กลับไม่มีนาง
" ก็เมื่อกี้นางยังยืนอยู่ตรงนั้น "
" เมื่อกี้ของเจ้าหน่ะมันตอนไหน แล้วตอนนี้นางอยู่หรือไม่เล่า"
" ไม่ใช่ว่าเจ้าอยู่กับนางตลอดหรอกรึ"
" ข้าไปต่อแถวซื้อขนมให้นางอยู่ จื่อเย่เจ้าไม่รู้ไม่เห็นเลยใช่ไหม อ้อคงเพราะคุณหนูรองสินะ "
" ไม่เกี่ยวกับคุณหนูรอง เจ้าอย่าโทษนาง"
" ได้ งั้นข้าโทษเจ้า เจ้าเป็นองครักษ์ของคุณหนูใหญ่แล้วยังเป็นคู่หมั้นของนางอีก แต่กลับไม่อารักขานาง ปล่อยให้นางยืนอยู่คนเดียวท่ามกลางผู้คนมากมาย เป็นเพราะเจ้าทำให้คุณหนูต้องหายไป"
" เกิดอะไรขึ้น"
หยางหานเข้ามาถาม
" คุณหนูใหญ่หายตัวไป ช่วยข้าตามหานางที"
" ใจเย็นๆนะนัวนั่ว เจ้าหานางดีหรือยังนางอยู่แถวนี้แหละ คนเยอะเจ้าอาจจะตาลายก็ได้ "
นัวนั่วไม่สนใจคำพูดของจ้าวฉู่หรัน วิ่งตามหาจ้าวถิงถิงไปทั่ว ผ่านไปพักใหญ่ก็ไม่มีวี่แวว ในใจเกิดลางสังหรณ์ไม่ดี หยางหานกับจ้าวฉู่หรันก็ช่วยกันตามหา
" หยานหานเจ้ารีบไปบอกนายท่าน ข้าจะไปแจ้งกองปราบ"
เงียบไม่มีเสียงตอบรับ นัวนั่วหันไปดูก็โกรธจนกัดฟันกรอด เห็นจ้าวฉู่หรันนั่งจิบน้ำชาอยู่ในร้าน มีหยางหานนั่งรินน้ำชาให้ ส่วนหวังจื่อเย่ไปต่อแถวซื้อลูกชิ้นย่างอยู่ร้านตรงข้าม นี่มันใช่เวลาไหม นางเดินเข้าไปต่อว่า
" คุณหนูใหญ่หายตัวไปไม่ช่วยกันตามหายังจะมีแก่ใจมานั่งจิบชา ดี ดีจริงๆ"
" ไม่ใช่ข้าไม่ตามหา แต่ข้าไม่ไหวจริงๆ คนเยอะอากาศร้อนข้ารู้สึกเวียนหัว เลยแวะดื่มชาพอได้มีแรง ขอข้าพักสักครู่เถอะ แล้วข้าจะไปช่วยตามหานางต่อ"
" ไม่ต้องหรอก ท่านสุขภาพอ่อนแออย่าฝืนเลย เรื่องตามหาคุณหนูใหญ่ให้ข้าจัดการเอง ท่านกินนี่ก่อนกำลังร้อนๆ"
หวังจื่อเย่ยื่นลูกชิ้นย่างให้จ้าวฉู่หรัน นัวนั่วแค่นหัวเราะทั้งน้ำตา ก่อนจะรีบวิ่งออกไปแจ้งกองปราบ จริงสิงานใหญ่แบบนี้ต้องมีคนของทางการมารักษาความปลอดภัยอยู่แล้ว สายตามองไปเห็นทหารเดินอยู่จึงรีบไปขอความช่วยเหลือ
" หยางหานเจ้าพาคุณหนูรองกลับไปก่อนข้าจะไปตามหาคุณหนูใหญ่เอง"
" นี่เจ้าพวกเจ้าพาใครที่ไหนมา"
" ไม่รู้เหมือนกัน แต่นางงามมากใช่ไหมหล่ะ"
" นี่พวกเจ้าฉุดนางมารึ"
จงเป่าร้องถามอย่างตกใจ
" ก็ไม่เชิง มีคนฉุดนางอยู่ก่อนแล้ว พวกข้าก็เลยฉุดต่ออีกที เฮ้ย แล้วเจ้าจะมาทำเป็นคนดีอะไรห๊ะ ลืมไปแล้วรึว่าพวกเราเป็นโจร"
" ข้าไม่ลืมหรอกว่าเป็นโจรหน่ะ แต่ถึงเป็นโจรก็แค่ปล้นเอาทรัพย์สินเงินทอง ปล้นแต่พวกขุนนางกังฉินกับพวกคนรวยที่นิสัยไม่ดี ไม่เคยฉุดผู้หญิง นี่มันผิดจรรยาบรรณโจรของพวกเรา"
" ก็วันนี้วันเกิดพี่ใหญ่ มันก็ต้องมีของขวัญพิเศษให้เขาหน่อยสิ"
" ใช่ๆ รับรองว่าพี่ใหญ่ต้องชอบของขวัญจากพวกข้าแน่นอน"
" ฉุดผู้หญิงมาให้พี่ใหญ่เนี่ยนะ"
" ก็ใช่หน่ะสิ พี่ใหญ่ปีนี้ก็25แล้วยังไม่มีเมียนางนี่แหละเหมาะ ฮ่าฮ่า"
" เฮ้ย อย่ามัวเสียเวลาเลย รีบพานางเข้าไปป่านนี้ยาออกฤทธิ์แล้ว"
จงเป่ามองดูเพื่อนๆแบกหญิงสาวเข้าห้องฮ่าวหยูไป นึกถึงก่อนหน้าที่พวกเขากำลังกินดื่มฉลองวันเกิดให้ฮ่าวหยู เจ้าพวกนี้ก็เอาเหล้าไหหนึ่งมาขะยั้นขะยอบอกให้ฮ่าวหยูดื่มให้หมด ยังบอกว่าเป็นเหล้าสูตรพิเศษหรือว่าในเหล้านั้นจะมี จงเป่าอ้าปากตกใจ
เหอเจี้ยน ถังหมิง หวงซื่อ พากันเดินออกมา
" ไปเถอะพวกเรา ไปดื่มเหล้ากันต่อ ปล่อยให้พี่ใหญ่ขึ้นสวรรค์ไป "
เสียงเหยียบใบไม้ดังกรอบแกรบใกล้เข้ามา" กลับมาทำไม ข้าบอกให้ไปไง"จ้าวฟานคิดว่าเป็นจ้าวซินหรู แต่พอหันไปมองกลับไม่ใช่" จื่อเย่"" เกิดอะไรขึ้น เหตุใดท่านถึงได้อยู่คนเดียว"จ้าวฟานเห็นหวังจื่อเย่มีไหเหล้ามาด้วย ก็คว้ามากระดกลงคอ ก่อนจะเล่าเรื่องบัดซบที่เกิดขึ้นให้ฟังหวังจื่อเย่ฟังไปก็ขมวดคิ้วไป หลายวันที่ผ่านมาเขาไม่ได้ไปไหนไกล แต่สืบหาร่องรอยอยู่แถวป่าบริเวณที่ขบวนต้าลี่เดินผ่านไม่รู้อะไรดลใจให้เขากลับมาที่นี่อีก เขาลุกขึ้นยื่นมือออกมา" ท่านไปกับข้าเถอะ เราจะไปตามหาถิงเอ๋อด้วยกัน ข้าเชื่อว่าสักวันต้องได้พบนาง"จ้าวฟานน้ำตาคลอยิ้มกว้าง ความหวังเดียวของเขาที่จะมีชีวิตอยู่คือบุตรสาวของเขาจ้าวถิงถิง ใช่ สักวันเขาต้องได้พบนางอีก ต่อไปเขาจะหนักแน่นไม่ฟังใครอีก เขาจะปกป้องนางตามใจนางทุกอย่าง ไม่มีจ้าวซินหรูมาทำให้ลำบากใจอีก ถึงต่อให้นางจะพูดอะไรเขาก็จะไม่สนใจ ตอนนี้นางคงโกนหัวบวชชีอยู่ที่วัดแล้ว เขาวางมือลงบนมือของหวังจื่อเย่ให้ฉุดเขาลุกขึ้น" ขอบใจนะ ขอบใจที่เจ้าไม่ทิ้งข้าเหมือนคนอื่น"" ไม่ต้องขอบคุณข้าหรอก หากวันนั้นท่านไม่ซื้อข้ากลับมาที่จวน ข้าก็ไม่รู้ว่าจะเป็นเช่นไร บางทีข้าอาจจะตาย
" หรันเอ๋อ จวนของเราถูกโจรปล้น แล้วพวกมันยังจุดไฟเผาจวนอีก ตอนนี้พวกเราไม่เหลืออะไรแล้ว"จ้าวซูฉีบอกจ้าวฉู่หรัน" อะไรนะเจ้าคะ เหตุใดถึงเป็นแบบนี้ งั้นตอนนี้เราก็ไม่มีอะไรเหลือเลยหน่ะสิ"หวังจื่อเย่เองก็ไม่คิดว่าตระกูลจ้าวจะโชคร้ายถึงเพียงนี้ เขามองดูจ้าวฟานที่หน้าตามอมแมมนั่งทุกข์ท้ออยู่กับพื้น ก่อนจะเดินไปนั่งลงใกล้ๆ" นายท่าน แล้วบ่าวรับใช้คนอื่นๆหล่ะขอรับ"" ข้าให้พวกเขาแยกย้ายกันไปหมดแล้วตอนนี้ไม่มีตระกูลจ้าวแล้ว ข้าเองก็ไม่ใช่นายท่านอีกต่อไป"" ท่านพี่ แต่ท่านยังเป็นขุนนางในราชสำนักนะเจ้าคะ"" ขุนนาง หึ เรื่องชิงตัวเจ้าสาวเจ้าคิดว่าฝ่าบาทยังไม่รู้รึ ป่านนี้คงรู้ไปทั่วทั่ววังหลวงแล้ว เจ้ายังคิดว่าตำแหน่งของข้าจะยังมีอยู่รึไง ตอนนี้คงมีคำสั่งให้กวาดล้างตระกูลจ้าวแล้ว จวนก็ถูกไฟไหม้ไปทั้งหลังทรัพย์สินของมีค่าก็ถูกปล้นไปจนหมด รอดชีวิตมาได้ก็บุญแล้ว แต่ถิงเอ๋อของข้าสิ ไม่รู้จะเป็นตายร้ายดียังไง ตอนนี้ข้าไม่มีอะไรเหลือแล้ว"" นายท่านยังไงก็ยังมีลมหายใจอยู่ ก่อนที่ทหารจะตามตัวพวกท่านเจอ ข้าว่าเราควรหาที่ซ่อนกันก่อนดีกว่า"" จื่อเย่ หยางหาน ข้าไม่ใช่นายท่านของพวกเจ้าแล้ว พวกเจ้าไปเถอะ อ
" ท่านแม่ ท่านย่า ขบวนเจ้าสาวไปแล้ว ในที่สุดข้าก็ไม่ต้องแต่งงานกับองค์ชายพิการนั่นแล้ว ข้าดีใจที่สุดเลยเจ้าค่ะ"จ้าวฉู่หรันพูดไปยิ้มไป มีจ้าวซินหรูกับจ้าวซูฉียืนขนาบข้างซ้ายขวา จ้าวฟานจ้องมองทั้งสามคนด้วยสายตาไม่พอใจ" พอใจพวกเจ้าแล้วสินะ"" ท่านพี่ จะโทษพวกข้าไม่ได้นะ ก็นางยอมไปเอง"" หากไม่เพราะพวกเจ้า นางจะยอมได้ยังไง โดยเฉพาะท่าน เพราะท่านจะฆ่าตัวตายนางถึงได้เห็นแก่ข้า ยอมขึ้นเกี้ยวเจ้าสาว"จ้าวฟานชี้หน้าต่อว่าจ้าวซินหรู" ข้าทำเพื่อฉู่หรัน เพื่อหลานของข้า จะให้ข้ามองดูนางแต่งงานกับคนพิการได้อย่างไร นั่นมันชีวิตทั้งชีวิตของนางเลยนะ"" แล้วถิงเอ๋อนางไม่ใช่หลานของท่านรึ นางก็เป็นลูกของข้ามีสายเลือดตระกูลจ้าวเหมือนกัน"" หรันเอ๋อไม่เหมือนกับนาง หรันเอ๋อของข้าร่างกายอ่อนแอบอบบาง อากาศที่ต้าลี่หนาวเย็นตลอดทั้งปี ร่างกายของนางรับไม่ไหวหรอก ไม่เหมือนกับถิงถิง นางออกจะแข็งแรงบึกบึนออกอย่างนั้น ไม่เป็นอะไรง่ายๆหรอก"จ้าวฟานไม่อยากจะตอบโต้ด้วย เขาเดินเข้าห้องแล้วยกไหเหล้าขึ้นดื่มจนเมามาย" ผิงกั่วเจ้าเห็นจื่อเย่หรือไม่"" ไม่เห็นเลยเจ้าค่ะคุณหนู"" เจ้าไปตามเขามาพบข้าที ข้าจะไปรอในสวน"" เจ
" ข้าไม่ได้คิดแบบนั้น ข้าไม่อยากให้ท่านแต่งงานไปกับคนอื่น"" แล้วจะให้ข้าแต่งกับใครหล่ะ กับเจ้ารึ"" ชะ ใช่ ข้าอยากให้ท่านแต่งกับข้า ข้ารู้ว่าท่านชอบข้ามาตั้งหลายปี ท่านเคยบอกต่อหน้าทุกคนว่าจะแต่งงานกับข้า"หวังจื่อเย่คุกเข่าลงจับมือนางไว้"ถิงเอ๋อ ข้าอยากแต่งงานกับท่าน เราแต่งงานกันดีไหม ไม่สิ ข้าว่าเราเข้าหอกันก่อนดีกว่าไว้ค่อยแต่งทีหลัง แบบนี้ท่านก็จะได้ไม่ต้องแต่งกับองค์ชายพิการอัปลักษณ์นั่นแล้ว"นางดึงมือออกจากเขา" เมื่อก่อนข้าเคยชอบเจ้า อยากแต่งงานกับเจ้าคือเรื่องจริง แต่ตอนนี้ไม่ใช่ ข้าไม่ได้ชอบเจ้าแล้ว และข้าก็ไม่อยากแต่งงานกับเจ้าด้วย"" ไม่ ไม่จริง ข้าไม่เชื่อ ท่านรักข้ามาตั้งหลายปี จะเลิกรักง่ายๆได้ยังไง"" แล้วเจ้าหล่ะ หลงรักฉู่หรันมาหลายปี เหตุใดตอนนี้ถึงมาบอกว่าอยากจะแต่งงานกับข้า"" ข้าไม่ได้รักนางแล้ว ที่ผ่านมาข้าแค่หลงผิด ข้าคิดว่านางเป็นคนอ่อนหวานจิตใจดีแต่ข้าเข้าใจผิด นางไม่ได้แสนดีอย่างที่ข้าคิด นางเห็นข้าเป็นเพียงสุนัขรับใช้ตัวหนึ่งเท่านั้น"" อ้อ อย่างนี้นี่เอง ที่จริงนางก็ชอบดูถูกผู้อื่นมาตลอด เพียงแต่ความรักที่เจ้ามีให้นางมันปิดหูปิดตาเจ้า แต่ก็ยินดีด้วยนะที่เ
จ้าวถิงถิงมาถึงห้องโถง ก็เห็นทุกคนนั่งกันอยู่พร้อมหน้า" คาระวะฮูหยินผู้เฒ่า"จ้าวซินหรูจ้องมองจ้าวถิงถิงอย่างไม่พอใจ" คุกเข่าลง"จ้าวถิงถิงที่กำลังจะนั่งเก้าอี้ก็หยุดชะงัก จ้องมองจ้าวซินหรู" เหตุใดข้าต้องทำ"" เจ้าจงใจไม่ไปร่วมงานเลี้ยงทำให้หรันเอ๋อต้องถูกเลือกเป็นพระชายาแทนเจ้า เจ้ายังไม่รู้ความผิดอีก ข้าบอกให้คุกเข่า"จ้าวถิงถิงไม่สนใจ นางนั่งลงที่เก้าอี้พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา" ท่านพ่อไม่ได้บอกท่านรึ ว่าคืนนั้นข้าถูกโจรปล้นรถม้า ข้าหนีพวกโจรเข้าไปในป่าจนหลงทางเกือบเอาชีวิตไม่รอด ท่านพ่อกับบ่าวรับใช้ในจวนต่างก็พากันออกตามหาข้าทั้งคืน"" ข้าบอกแล้วแต่"" ข้าไม่เชื่อ เจ้าโกหก เจ้าแต่งเรื่องขึ้น อะไรมันจะบังเอิญขนาดนั้น"" ไม่เชื่อก็แล้วแต่ท่าน"" เรื่องงานแต่งเจ้าต้องรับผิดชอบ"" ท่านแม่"" เจ้าไม่ต้องพูดข้าจะจัดการเอง"" ไหนลองพูดมาซิ ว่าจะให้ข้ารับผิดชอบยังไง"" เจ้าต้องแต่งงานแทนหรันเอ๋อ"" องค์ชายเลือกนางไม่ได้เลือกข้า"" แต่ถ้าเจ้าไปงานคืนนั้น ตำแหน่งที่หรันเอ๋อยืนก็ควรเป็นเจ้า ฉะนั้นผู้ที่ได้รับลูกบอลก็คือเจ้า เพราะเจ้าไม่ไปนางเลยต้องมารับเคราะห์แทนเจ้า"" ท่านรู้ได้ยังไงว่าถ้
หวังจื่อเย่มาที่เรือนของจ้าวถิงถิง เห็นในห้องนางมืดมิด เหตุใดถึงไม่จุดเทียนหรือว่านางไม่อยู่ในห้อง" นี่เจ้าเห็นคุณหนูใหญ่หรือไม่ นางอยู่ที่ใดแล้วเหตุใดถึงไม่มีใครเข้าไปจุดเทียนในห้องนาง"" คุณหนูใหญ่นางหลับแล้ว"" หลับแล้ว แต่นี่พึ่งยามซวีเองนะ ปกตินางจะนอนยามห้ายนี่""เห็นนัวนั่วบอกว่าคุณหนูใหญ่ไม่ค่อยสบายเลยนอนเร็ว ยังสั่งห้ามใครรบกวน"" แบบนี้นี่เอง"หวังจื่อเย่มองดูกล่องใส่ปิ่นปักผมในมือ งั้นพรุ่งนี้ค่อยให้นางละกันก่อนฟ้าสาง ฮ่าวหยูมาส่งจ้าวถิงถิงที่จวน " ปล่อยข้าได้แล้ว"เขาส่ายหน้ากอดนางไว้แน่นไม่ยอมปล่อยเขาอยากกอดนางไว้แบบนี้ จะต้องทำยังไงนะเขาถึงจะได้อยู่กับนาง จ้าวถิงถิงตีมือเขาให้ปล่อย เขาจำใจปล่อยนางลงจากหลังม้าแล้วรอรับนาง นางเดินเข้าทางประตูหลังจวน ก่อนไปก็หันมามองโบกมือไล่เขาให้ไปได้แล้ว เดินไม่ทันจะถึงเรือนก็เจอกับหวังจื่อเย่" คุณหนูใหญ่ ท่านจะไปไหนแต่เช้ามืดรึ"นางถอนหายใจเหนื่อยหน่าย" ข้าจะไปไหนมาไหนต้องรายงานเจ้าด้วยรึ"" ข้าไม่ได้หมายความแบบนั้น ข้าก็แค่เป็นห่วงท่าน เมื่อคืนเห็นบ่าวรับใช้บอกว่าท่านไม่สบายเลยนอนเร็ว ตอนนี้เป็นอย่างไรบ้างหายหรือยัง แล้วได้ให้หมอม