เจ็ดสาวงาม นิยายเรื่อง”เจ็ดสาวงาม” เป็นนิยายสั้นรวมเจ็ดเรื่อง "หญิงใหญ่สายรุก" จะหาชายหนุ่มคนใดยอมแต่งงานเข้าสกุลหญิงสาวให้เสื่อมเกียรติ ในเมื่อหายากเย็นนัก "หญิงรองแสนเร่าร้อน” พี่สาวคนรองผู้แสนเร่าร้อนอย่างนางจำต้องควานหาชายหนุ่มซึ่งมีสมองมาช่วยคิดหาหนทางไม่ให้กิจการค้าโดนตะครุบไปต่อหน้าต่อตา "หญิงสามจอมหยอกเย้า" นางไม่ชอบการค้าขาย นางชอบเพียงการต่อสู้เท่านั้น "หญิงสี่สุดร้อนแรง" นางเพียงมาเจรจาการค้าในหอคณิกา ไยเขาจึงจับนางมาโยกขย่มอย่างรุนแรงเช่นนี้ "หญิงห้าแสนเย้ายวน" นางเพียงชอบศึกษาเล่าเรียน แต่พวกเขากลับเอาแต่กลั่นแกล้งรังแกนาง "หญิงหกน่าลวงล่อ" ข้าเพียงอยากมีชีวิตสุขสงบ ไยเขาจึงมาล่อลวงข้าถึงเพียงนี้ "หญิงเล็กจอมยั่ว" สาวน้อยวัยแรกแย้มผู้หลงรักชายผู้เคยช่วยชีวิต นางต้องทำอย่างไรเขาจึงจะมองเห็นนาง เรื่องราวของเจ็ดสาวพี่น้องซึ่งโลดแล่นไปตามครรลองของชีวิต ภายใต้สถานการณ์ที่ต้องแต่งชายหนุ่มเข้าสกุลเพื่อช่วยเหลือและดูแลการค้าอันยิ่งใหญ่ เน้นความรักหนุ่มสาวและฉากฟินแซ่บของคู่พระนาง โดยจะลงทีละเรื่องต่อกัน ในแต่ละเรื่องไม่ได้เกี่ยวเนื่องกันมากนักสามารถอ่านอย่างต่อเนื่องหรือไม่ต่อเนื่องก็ได้ค่ะ
View Moreเจ็ดสาวงาม
นิยายเรื่อง”เจ็ดสาวงาม” เป็นนิยายสั้นรวมเจ็ดเรื่อง "หญิงใหญ่สายรุก" จะหาชายหนุ่มคนใดยอมแต่งงานเข้าสกุลหญิงสาวให้เสื่อมเกียรติ ในเมื่อหายากเย็นนัก "หญิงรองแสนเร่าร้อน” พี่สาวคนรองผู้แสนเร่าร้อนอย่างนางจำต้องควานหาชายหนุ่มซึ่งมีสมองมาช่วยคิดหาหนทางไม่ให้กิจการค้าโดนตะครุบไปต่อหน้าต่อตา "หญิงสามจอมหยอกเย้า" นางไม่ชอบการค้าขาย นางชอบเพียงการต่อสู้เท่านั้น "หญิงสี่สุดร้อนแรง" นางเพียงมาเจรจาการค้าในหอคณิกา ไยเขาจึงจับนางมาโยกขย่มอย่างรุนแรงเช่นนี้ "หญิงห้าแสนเย้ายวน" นางเพียงชอบศึกษาเล่าเรียน แต่พวกเขากลับเอาแต่กลั่นแกล้งรังแกนาง "หญิงหกน่าลวงล่อ" ข้าเพียงอยากมีชีวิตสุขสงบ ไยเขาจึงมาล่อลวงข้าถึงเพียงนี้ "หญิงเล็กจอมยั่ว" สาวน้อยวัยแรกแย้มผู้หลงรักชายผู้เคยช่วยชีวิต นางต้องทำอย่างไรเขาจึงจะมองเห็นนางเรื่องราวของเจ็ดสาวพี่น้องซึ่งโลดแล่นไปตามครรลองของชีวิต
ภายใต้สถานการณ์ที่ต้องแต่งชายหนุ่มเข้าสกุลเพื่อช่วยเหลือและดูแลการค้าอันยิ่งใหญ่ เน้นความรักหนุ่มสาวและฉากฟินแซ่บของคู่พระนาง โดยจะลงทีละเรื่องต่อกัน ในแต่ละเรื่องไม่ได้เกี่ยวเนื่องกันมากนักสามารถอ่านอย่างต่อเนื่องหรือไม่ต่อเนื่องก็ได้ค่ะหญิงใหญ่สายรุก
หญิงใหญ่สายรุก จะหาชายหนุ่มคนใดยอมแต่งงานเข้าสกุลหญิงสาวให้เสื่อมเกียรติ
ในเมื่อหายากเย็นนัก เช่นนั้นก็จับชายหนุ่มที่คุ้นเคยรวบหัวรวบหางแล้วกินกลางตลอดตัว เช่นนี้ก็ได้ดั่งใจแล้ว
แนะนำตัวละคร
นิยายเรื่องเจ็ดสาวงามเดอะซีรี่ย์เป็นเรื่องราวของหญิงสาวเจ็ดนางแห่งตระกูลเฉินซึ่งโลดแล่นไปตามวิถีของตน โดยในแต่ละเรื่องจะดำเนินไปโดยไม่เกี่ยวข้องกันเฉินเป่าลี่ พี่หญิงใหญ่สายรุก อายุ21ขวบปี เป็นกำลังหลักของกิจการค้าทั้งหมดของตระกูลเฉินด้วยช่วยเหลือบิดามารดาดูแลแต่เยาว์วัย แม้อายุจะเลยวัยออกเรือนไปนานแต่ยังคงไม่แต่งให้กับชายใดเฉินฟางหรง หญิงรองแสนเร่าร้อน อายุ20ขวบปี เป็นสาวงามเจ้าความคิดดุจเป็นมันสมองของตระกูล เป็นสาวงามซึ่งคิดมากต้องได้เปรียบและไม่ยอมเสียเปรียบผู้ใด
เฉินฟางหนิง หญิงสามจอมหยอกเย้า อายุ19ขวบปี ชอบการต่อสู้และฝึกวิชายุทธ์มาหลายปี เป็นสาวงามที่คิดว่าตนเองต้องดูแลและคุ้มครองพี่น้องทุกคน
เฉินฟางเฟิน หญิงสี่สุดร้อนแรง อายุ18ขวบปี เป็นสาวงามช่างเจรจา รับหน้าที่นักขายของกิจการ ย่ำเท้าเข้าออกหอคณิกาเพื่อติดต่อการค้าอย่างช่ำชอง
เฉินเฟยเจิน หญิงห้าแสนเย้ายวน อายุ17ขวบปี ไม่ชอบยุ่งเกี่ยวกับกิจการ เป็นสาวงามผู้รักการเรียน ชอบเรียนหนังสือที่สุด
เฉินฟางลู่ หญิงหกน่าลวงล่อ อายุ16ขวบปี สาวน้อยผู้เป็นดุจแม่บ้านของตระกูล ดูแลงานบ้านงานเรือนไม่มีบกพร่อง
เฉินซินหลิน หญิงเล็กจอมยั่ว อายุ15ขวบปี น้องเล็กสุดแสบ ซึ่งเพิ่งเข้าวัยสาว ได้ดูได้ฟังบรรดาพี่สาวทั้งหกจนคิดอยากจะยั่วยวนชายหนุ่มที่ตนเองหลงรักมาเป็นสามี
ตอนที่สาม หนอนยักษ์ ครั้นนางอ้าปากน้อยๆเพื่อครอบครองตัวหนอนทั้งหมด เขาก็ยิ่งเกร็งร่างดันสะโพกเพื่อช่วยส่งหนอนยักษ์เข้าสู่โพรงอุ่นอย่างรวดเร็ว แต่ไหนเลยโพรงปากอันคับแคบจะกลืนกินตัวหนอนเอาไว้ได้ทั้งหมด แม้เขาจะพยายามดึงดันเข้าไปเพียงใด สุดท้ายหญิงสาวก็พ่นหนอนยักษ์ออกมาทั้งตัวพร้อมกับไอถี่ไม่หยุด“เจ้าจะดันเข้ามาเพื่ออันใด” เฉินเป่าลี่โวยวาย“ปากข้ามีเพียงเท่านี้ จะกินเข้าไปหมดได้อย่างไร” หญิงสาวยังบ่นต่อขณะไอหน้าดำหน้าแดงชายหนุ่มหน้าสลดก่อนจะเอื้อมไปจับมือบางให้กอบกุมหนอนใหญ่เอาไว้อย่างพยายามเอาใจ“หนอนน้อยนี้เป็นของพี่หญิงใหญ่แล้ว พี่หญิงใหญ่จะกินจะขยำขยี้หรือทำอย่างไรก็ย่อมได้ ข้าเพียงอยากให้พี่ได้กินอย่างสาสมใจเท่านั้น”เฉินเป่าลี่ค้อนขวับใส่ชายผู้เพิ่งเข้าพิธีกันมาหมาดๆด้วยรู้ดีว่าเขาเพียงแก้ตัวเท่านั้นแต่นางเป็นพี่สาวจะโกรธน้องชายได้อย่างไร เอาเถอะ ทำให้เสร็จๆไป จะได้นอนเสียทีหญิงสาวขยับมือรูดหนอนยักษ์ขึ้นลงตามแรงชักจูงของชายหนุ่ม จนเมื่อเห็นว่าความแข็งแกร่งเริ่มมากขึ้นแล้ว จึงก้มลงใช้ปากดูดดุนเพื่อหวังให้ตัวหนอนอ่อนนุ่มลง ลิ้นอุ่นร้อนตวัดเลียอย่างเปะปะ ยิ่งเห็นสีหน้าราวเจ็บปวด
ตอนที่สามหนอนยักษ์เฉินเทียนอี้ตาเหลือกถลนเมื่อเห็นทรวงอกอิ่มชัดเต็มตา เขาลอบมองพี่สาวคนนี้มาเนิ่นนาน ทั้งยังเคยเก็บไปฝันถึงใบหน้างามล้ำและทรวงอกใต้ชุดเสื้อผ้า เมื่อได้มาเห็นของจริงจึงอดเอื้อมมือออกมาบีบเคล้นไม่ได้ “อย่าซุกซน” เฉินเป่าลี่ตวาดแหวพลางเอียงร่างหนี “อย่างไรเสียซาลาเปาคู่นี้ก็เป็นของข้า ให้ข้าได้จับสักหน่อยเถิด” เฉินเทียนอี้เว้าวอนด้วยแววตาละห้อยหา “ห้ามบีบแรง” หญิงสาวยอมเอียงร่างกลับมาแต่ไม่วายสำทับดุดัน มือหนารีบเอื้อมคว้าก้อนเนื้อแน่นพลางเคล้นคลึงอย่างใหลหลง ยิ่งวนบีบขยำก็ยิ่งปลุกอารมณ์ให้ลุกโชนจนเผลอบดขยี้อย่างรุนแรงไม่ได้ “เบาหน่อย” หญิงสาวจำต้องร้องปรามแม้จะรู้สึกล่องลอยไปบ้างนางปล่อยอารมณ์ให้เคลิบเคลิ้มไปกับสัมผัสนั้นพลางก้มมองดูหนอนยักษ์เพื่อตัดสินใจว่าจะทำอย่างไรดี นางเป็นพี่สาวย่อมต้องเป็นผู้จัดการด้วยตัวเอง ในเมื่อรับปากแล้วว่าจะร่วมหอก็ต้องทำให้ได้ แต่หนอนใหญ่แท่งนี้ช่างน่ากลัวนัก หรือนางจะลองกินมันก่อนเพื่อให้มันเชื่อฟัง เฉินเป่าลี่ใช้มือจับกำหนอนย
ตอนที่สองเล่นละคร“พี่หญิงใหญ่คงลืมไปแล้วว่าพวกเราเป็นสามีภรรยากัน” เฉินเทียนอี้เดินเข้าห้องนอนของหญิงผู้เคยนับถือเป็นพี่สาว “พี่ไม่ได้ลืม แต่นั่นเป็นเพียงข้ออ้างในการรับเจ้าเข้าสกุลเฉินเท่านั้น” “คงไม่ใช่แค่นั้น พวกเราเข้าพิธีแล้วย่อมต้องเป็นสามีภรรยากันอย่างแท้จริง หรือจะเพียงแค่เล่นละครอย่างที่อาสามกล่าวหา หากเป็นเช่นนั้นอีกไม่นานพวกเขาก็คงจับได้” “จับได้แล้วอย่างไร” “พี่หญิงใหญ่คงไม่พ้นความยุ่งยากใจอีกมาก” “เจ้าหมายความว่าพวกเราจะต้องร่วมหอกันจริงอย่างนั้นหรือ” “นี่เป็นเรื่องธรรมดาสามัญของสามีภรรยา พี่หญิงใหญ่คงไม่คิดจะแต่งข้าเพียงเอาไว้ใช้งานโดยไม่คิดจะอยู่ร่วมกันอย่างจริงจังกระมัง” เฉินเป่าลี่ถึงกับสะอึกเมื่อได้ยินคำกล่าวหานี้ เดิมทีนางคิดเพียงแค่นั้นจริงๆ นางไม่ได้คิดว่าจะต้องร่วมหอใช้ชีวิตคู่กับชายหนุ่มซึ่งคิดเป็นน้องชายอย่างจริงจังมาก่อน “ยามข้ารับปาก ข้าย่อมคิดถึงการใช้ชีวิตอย่างเช่นสามีภรรยาทั่วไป มีครอบครัว มีลูก ช่วยกันทำมาหากินสานต่อกิจการให้เจ
ตอนที่สองเล่นละคร สามวันต่อมา พิธีแต่งงานอย่างเรียบง่ายที่สุดก็ถูกจัดขึ้นโดยมีอาคนที่สี่มาเป็นผู้ใหญ่เพียงคนเดียว เฉินเป่าลี่คิดเพียงให้ซูเทียนอี้เปลี่ยนมาใช้แซ่เฉินเท่านั้น จึงเน้นย้ำที่การคำนับเข้าสกุลโดยละเว้นพิธีบ่าวสาวอันยุ่งยากไป หญิงสาวไม่กล้าเชิญอารองและอาสามมาร่วมพิธีด้วยไม่อยากให้การเปลี่ยนสกุลของซูเทียนอี้โดนขัดขวาง จนเมื่อเสร็จสิ้นขั้นตอน สตรีสกุลเฉินทั้งเจ็ดจึงถอนหายใจร่วมกันอย่างโล่งอก ทุกคนแยกย้ายกันไปทำงานอย่างเช่นทุกวัน โดยไม่มีการเข้าหอหรือจัดเลี้ยงแต่อย่างใด แต่มีหรือที่อารองและอาสามจะยอมรับการขายผ้าเอาหน้ารอดในครั้งนี้ของหลานสาว พวกเขาบุกเข้ามาโวยวายที่บ้านสกุลเฉินโดยกล่าวหาว่าเฉินเป่าลี่เสแสร้งและไม่เคารพผู้ใหญ่ “อารอง ท่านกล่าวเกินไปแล้ว พวกเราเพียงแต่งงานเรียบง่ายด้วยยามนี้ท่านพ่อท่านแม่ไม่อยู่ หากพวกท่านกลับมาย่อมต้องจัดงานใหญ่อีกครั้งแน่นอน” เฉินเป่าลี่แก้ตัว “เชอะ พวกเจ้าเพียงเล่นละครเพื่อกีดกันอาผู้หวังดีเท่านั้น ไยพวกเราจะมองไม่ออก” “พวกเจ้าโตมาด้วยกัน อาอี้เองก
ตอนที่หนึ่งต้องแต่งงานเมื่อนั่งคิดถึงสิบกว่าปีที่แล้วซึ่งวันหนึ่งบิดาของนางจูงเด็กชายตัวอวบอ้วนน่ารักเข้ามาพลางบอกให้พวกนางดีต่อเขาและช่วยกันดูแลอย่างพี่น้องด้วยเขาไม่มีบิดามารดาแล้วเด็กน้อยแสนเชื่อฟังในวันนั้นซึ่งนางช่วยดูแลดั่งน้องชายมาโดยตลอด เติบโตขึ้นมาเป็นชายหนุ่มหน้าตาดีและช่วยเหลือกิจการสกุลเฉินอย่างเต็มกำลัง แต่ถึงอย่างไรพวกเขาก็เห็นกันมาแต่เยาว์วัย อีกทั้งซูเทียนอี้ยังอ่อนวัยกว่านางถึง2ปีทำเช่นนี้ จะโดนกล่าวหาว่ากินเด็กหรือไม่นะหากมีทางเลือกมากกว่านี้ เฉินเป่าลี่คงไม่อยากฝืนใจตนเองแต่ในเมื่อจำต้องเร่งรีบ เช่นนั้นก็รีบคุยรีบแต่งจะได้จบเรื่องโดยเร็วไวเถอะหญิงสาวเรียกซูเทียนอี้เข้ามาเจรจาในเย็นวันต่อมา“อาอี้ เจ้าคงรับรู้เรื่องที่อารองและอาสามเข้ามากดดันพวกเราพี่น้องแล้ว” เฉินเป่าลี่เปิดฉากการพูดคุย“ข้ารู้แล้ว พี่หญิงใหญ่จะให้ข้าช่วยเหลือสิ่งใดหรือ” ซูเทียนอี้รีบเอ่ยขึ้นอย่างกระตือรือร้น“เจ้ายินดีช่วยทุกเรื่องหรือ” หญิงสาวหยั่งเชิง“แน่นอน เรื่องของสกุลเฉินก็เหมือนเรื่องของข้า” ซูเทียนอี้ยืดอกอย่างภาคภูมิ“อาทั้งสองอ้างว่าบ้านเราไม่มีผู้ชายสักคน จึงเสนอตัวเข้ามาช่วยดูแล
ตอนที่หนึ่งต้องแต่งงาน“พวกเราจะทำอย่างไรดีเจ้าคะพี่หญิงใหญ่ ท่านพ่อท่านแม่ก็ไม่มีข่าวคราว ท่านอาทั้งสองก็จ้องแต่จะฉกฉวยโอกาส” เฉินฟางเฟิน น้องสาวคนที่สี่ร้องโวยวายออกมาตามนิสัยช่างพูดช่างเจรจา“ไม่ต้องไปสนใจพวกเขา หากพูดมากนัก พี่จะจับหักแขนหักขาเสียเลย” เฉินฟางหนิงพี่สาวคนที่สามซึ่งฝึกวิชาการต่อสู้มาหลายปีจนพอมีฝีมือลุกขึ้นมาออกท่าออกทางฮึดฮัดหักนิ้วตัวเอง“ใจเย็นกันก่อน ค่อยๆคิดเถิด” เฉินฟางหรง พี่สาวคนรองซึ่งมักใช้ความคิดมากที่สุดเอ่ยขึ้น“หากพี่จะแต่งงานเพื่อให้มีผู้ชายในบ้านสักคน อารองและอาสามจะได้หมดข้ออ้างในเรื่องนี้ พวกเจ้าจะว่าอย่างไร” เฉินเป่าลี่ พี่สาวคนโตเอ่ยบอกน้องๆทั้งหกหลังจากใคร่ครวญดูดีแล้ว“จะมีชายหนุ่มยินยอมแต่งเข้ามาหรือเจ้าคะ” เฉินเฟยเจิน น้องสาวคนที่ห้าเงยหน้าขึ้นจากตำราเพื่อเอ่ยถาม“พี่เองอายุมากแล้ว คงหาชายหนุ่มได้ยากเต็มที ความจริงพี่ไม่มีความคิดเรื่องแต่งงานมาก่อน แต่ในเมื่อนี่เป็นหนทางที่จะช่วยไม่ให้อาทั้งสองเข้ามาก้าวก่ายวุ่นวายได้ พี่ก็เห็นว่าคงต้องยอมทำเช่นนี้” เฉินเป่าลี่มองหน้าน้องสาวอย่างจนใจ“เรื่องนี้ความจริงท่านพ่อเองก็ได้วางแผนไว้นานแล้ว เพียงแต่
Comments